Headless Red Hood │ ป่าสนสีเลือด

-

เขียนโดย APPLECORE

วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 12.24 น.

  2 ACT
  0 วิจารณ์
  3,881 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561 12.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 1 : ภาพลวงตา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Headless Red Hood
ป่าสนสีเลือด
 
 
 
 
 
บทที่ 1 : หนูน้อยหมวกแดง
 
 
 
            
                            ท้องฟ้าสีเทาครึ้มลอยต่ำประจวบกับดวงคาคู่หนึ่งของเด็กชายที่นั่งอยู่
                 บริเวณลานหญ้า เขามองขึ้นไป
           ในหัวพลางคิดถึงเรื่องเล่าของปู่ที่เล่าไว้ก่อนที่ท่านจะเสียไปเมื่อสองวันก่อน พูดถึง
            เรื่องของกรณีของเด็กสาวที่
           เพิ่งสูญเสียครอบครัวไปเพราะฝูงหมาป่าจำนวนหนึ่ง และเธอก็ได้รับบาดเจ็บก่อนจะมา
           เสียชีวิตลงในบ้านของเขา
           หลังจากที่พ่อของเขาช่วยเธอเอาไว้ได้
 
                       ครอบครัวของเขาเป็นตระกูลฮันเตอร์หรือนายพราน นับมาได้ร้อยกว่าปีแล้ว
            นั่นก็ถือว่านานพอสมควรหมู่บ้านบริเวณอาณาเขตขนาดปานกลางแบบนี้ มักจะอยู่ติด
            ชายป่าที่รกทึบ โชคร้ายที่หมาป่าอันบ้าคลั่งพวกนั้นมีมาก่อนที่ผู้คนจะมาตั้งรกรากที่นี่
            เริ่มจากสองตระกูลใหญ่ๆ คือตระกูลของเขา และ อีกตระกูลหนึ่งที่มีชื่อว่าเฟเลอร์
           เป็นตระกูลที่ส่วนใหญ่จะเป็นอัศวิน ร่วมกันมาตั้งเมืองที่นี่ ก่อนจะมีผู้คนจากทั่วทุก
           สารทิศย้ายเข้ามา
                       
                       ก่อนร้อยปีนั้นก็ได้เกิดเรื่องราวขึ้นมามากมาย...
 
                        ปู่ของเขาเล่าเรื่องของ "หนูน้อยหมวกแดง" ให้เขาฟังตอนเขาอายุ 9 ขวบ
            จนตอนนี้อายุย่างเข้า 14 เขา
           ก็ยังคงจำได้ดี เรื่องเล่าของปู่มันไม่เหมือนที่แม่ของเขาเล่าให้ฟัง และมันไม่ได้จบสวย
            อย่างที่แม่เล่าทิ้งท้ายไว้ตอนส่งเขาเข้านอนเลยแม้แต่น้อย 
 
                        เหมือนราวกับความจริง ที่มันสมควรจะเกิดขึ้น ไม่ใช่นิยายปรัมปราเมื่อนาน
            มาแล้วจนฝุ่นเกาะ
 
                        หนูน้อยหมวกแดง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่สองตระกูลได้มาตั้ง
           เมืองแล้วถึง 25 ปี เป็นธรรมดาที่จะมีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก นั่นก็รวมไป
           ถึงครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่ง
 
                        ประกอบด้วย คุณแม่ คุณยาย และลูกสาว...
                        นั่นเป็นเหมือนครอบครัวที่อบอุ่น แต่หาไม่ใช่ความอบอุ่นในสายตาคนอื่นๆ
            แต่อย่างใด เรื่องเล่าว่า
            เด็กสาว ที่ทุกคนมักเรียกติดปากว่า "หนูน้อยหมวกแดง" เธอเคยมีครอบครัว ที่เรียก
            ได้เต็มปากว่า "อบอุ่น" แต่เมื่อพ่อของเธอเริ่มไม่มีงานทำ และเริ่มปล่อยตัวจนเมาโง
           หัวไม่ขึ้น ก็เริ่มมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ทุบตีภรรยาและลูกจนคุณยายที่เป็นแม่ของภรรยา
           ทนไม่ไหว จึงตัดสินใจย้ายออกไปอยู่ในป่า ในบ้านเก่าที่เธอและลูกสาวเคยอยู่ตอนแรก
           คุณยายพูดโน้มน้าวให้ลูกสาวและหลานที่ยังเด็กให้ย้ายหนีออกไปจะดีกว่า แต่ด้วย
            ความที่ยังรักสามีไม่ห่าง
           "เซซิเลีย" จึงตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ถ้าเรื่องมันเกินเลยเธอจึงค่อยหนีออกมา ด้วย
            ความหวังที่ว่า อาจจะช่วยทำให้สามีกลับมาเป็นอย่างเดิมได้
 
                        จึงเหลือเพียงแค่สองแม่ลูกที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญโชคกับปีศาจร้าย...
 
                        เมื่อปู่ของเขาเล่ามาถึงตรงนี้ เขาก็เริ่มคิดสงสัยแล้วว่าทำไมผู้เป็นแม่ถึง
             ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และทั้งๆที่ถูกทุบตีรุนแรงขนาดนั้น คิดอย่างไรทำไมถึงยัง
             อยู่ต่อ ปู่ของเขาก็ขัดขึ้นมา ว่าจุดแปลผันที่แท้จริงของเรื่องนี้ มันเพิ่งเริ่มต้น
 
                        กลางดึกคืนหนึ่ง พ่อของเด็กสาว  เดินเข้าไปในห้องของเธออย่าง
             เงียบเชียบ ยืนมองลูกสาวที่ตอนนี้โตเป็นวัยรุ่น เรื่องราวต่อจากนี้คงไม่ดีนัก และ
             หลายคนน่าจะคิดได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น...
 
                         เด็กสาวถูกข่มขืนโดยพ่อแท้ๆของตนเอง เธอกรีดร้องในค่ำคืนที่เงียบสงัด
             แต่กลับไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอเลย แม่ของเธอได้แต่นอนนิ่ง พยายามกั้นใจ เธอ
             กลัว กลัวทุกอย่าง และไม่คิดจะสนใจอะไรอีกต่อไปเซซิเลียถูกทึ้งผม ทำร้าย ราวกับ
             สัตว์ในคอก แม้แต่เสียงกรีดร้องของลูกสาวของเธอ เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้เธอ
             โทษตัวเองที่ไม่คิดหนีออกไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ 
 
                         จนเช้าวันต่อมา สามีของเธอหนีหายออกไปตั้งแต่คืนนั้น ลูกสาวของเธอ
              อยู่ในสภาพน่าอนาถใจอย่างถึงที่สุด น้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้าง ใบหน้าไร้ความรู้สึก
              ใดๆ นอนไม่ไหวติงอยู่บนเตียงที่ยับยู่ยี้ ผู้เป็นแม่ที่อยู่ในสภาพถูกซ้อมก็ร้องไห้
              คลานเข้ามากอดเด็กสาวทั้งที่สภาพย่ำแย่ทั้งคู่
 
                         จนเดือนผ่านไป ข่าวออกมาว่าพ่อของเธอตายแล้ว จากการถูกหมาป่ารุม
               กัดจนตายในป่า ชาวบ้านมาเจออีกที ศพก็เน่าเละไปเสียแล้ว ทุกคนรู้ ว่าเกิดอะไร
               ขึ้นกับเด็กสาว โชคยังดีที่ผู้คนไม่ได้เมินเฉย ผู้คนต่างพากันแวะมาเยี่ยม เพื่อรักษา
               แผลในจิตใจของสองแม่ลูก 
 
                         มันก็แค่ตอนนั้น...
            
                         เด็กสาวกำลังท้อง และเธอทนดูไม่ได้ที่จะมีเด็กคลอดออกมา เธอจึง
               ทำการทุบท้องของตนเองจนแท้งในที่สุด...
 
                         แผลภายในจิตใจมันไม่ได้รักษากันได้ง่ายๆ ไม่มีใครรู้ นอกจากเธอเอง...
 
                         เมื่อช่วงเวลาอันเศร้าสลดใจผ่านไปเป็นแรมปี เด็กสาวได้เติบโตขึ้น
               เหมือนเด็กคนอื่นๆ แค่เธอนั้นได้ถูกพรากสิ่งสำคัญสามสิ่งไปจากตัวเธอเอง จิตใจ
               ความรู้สึก รวมไปถึงร่างกาย ที่ตอนนี้ไร้การกระตุ้นใดๆที่จะทำให้เธอกลับมารู้สึกได้
               เรื่องน่าเศร้าของเด็กสาวคนหนึ่ง
 
                         วันหนึ่ง เด็กสาวที่มีใบหน้าเรียบนิ่งคลุมตัวด้วยผ้าคลุมสีแดงสดเดินหาย
               เข้าไปในป่าพร้อมตะกร้าใส่ขนมปัง และไวน์องุ่นจำนวนหนึ่ง เธอได้รับมอบหมาย
               จากแม่ให้ไปเยี่ยมคุณยาย เนื่องจากขาของผู้เป็นแม่ ได้ถูกพ่อของเธอใช้ไม้ทุบจน
               ใช้การไม่ได้แล้ว จึงเป็นเธอที่ต้องออกไปหาคุณยายนับจากตอนนี้ หลังจากที่เกิด
               เรื่องขึ้นตอนนั้นเธอได้เพียงแต่ส่งจดหมายไปให้คุณยาย และตอบกลับไปมา แต่
               ตอนนี้เธอโตพอที่จะออกไปไหนมาไหนเองได้แล้ว 
 
                         และสิ่งที่อยู่ในตะกร้าคือขวานเล่มหนึ่งที่ซุกซ่อนไว้ ไม่มีใครรู้ว่าเธอเอามัน
               ไป และเอาไปทำอะไร แต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่
 
                         ในระหว่างที่เธอเดินอยู่ในป่านั้น เธอก็เจอฝูงหมาป่าวิ่งพุ่งตรงมาจากข้าง
               หลัง และผ่านตัวเธอไป ความแปลกประหลาดนี้ ทำให้เธอมองตามพวกมันไปจนลับ
               สายตา เด็กสาวไม่รู้สึกใดๆ ป่าเริ่มมืดลงด้วยกลิ่นอายของเลือดที่ปลายกระโปรง
               ของเธอ โดยรอบเงียบสงัด เธอค่อยๆหยิบขวานออกมา พลางเดินไปตามทางที่ถูก
               ปูไว้อยู่แล้ว
 
                          ไม่มีอุปสรรคใดๆตลอดการเดินทาง เธอมาถึงบ้านของคุณยาย ที่มีประตู
               เปิดอ้าค้างไว้ ความผิดปรกติทำให้เธอค่อยๆเดินเข้าไปดู ภายในห้องเล็กมืดทึบ ที่มี
               ห้องครัวและห้องนั่งเล่น ชั้นบน ที่มีเตียงของคุณยายอยู่เมื่อดูจากบันได เริ่มมีรอย
               เลือดลากยาวขึ้นไป เธอมองไปตามทาง ก่อนจะไปสิ้นสุดอยู่ที่เตียง
 
                          ร่างหนึ่งนอนนิ่งอยู่ข้างเตียง ร่างของหญิงชรานอนเป็นศพมานานแล้วราว
               สี่วัน ส่งกลิ่นโชยเตะจมูกเด็กสาวดวงตาเบิกโพลงค่อยๆนั่งลงข้างๆศพที่มีใบหน้า
               และท้องเละเทะของคุณยาย ก่อนจะช้อนตัวคุณยายขึ้นมากอดแน่น เลือดเลอะร่าง
               และใบหน้าของเด็กสาว ความรู้สึกอันแปลกประหลาดนี้ มือข้างขวาก็เขวี้ยงตะกร้า
               ลงบนพื้นจนพังยับเยิน ก่อนจะวางร่างของคุณยายลงบนพื้น แล้วหยิบอาวุธขึ้นมา
               เดินลงมายังชั้นล่าง
 
                          เด็กสาวเดินนิ่งดวงตาสอดส่องหาหมาป่าบริเวณใกล้ๆ ก่อนจะเจอหมาป่า
               ตัวหนึ่งที่กำลังกินไส้ของสิ่งมีชีวิตบางอย่างอยู่ บนตัวของมันมีเศษผ้าขาดๆของคุณ
               ยายอยู่เป็นริ้ว
 
                          ด้วยความโกรธและสติก็เริ่มเพ่งเล็งสับขวานจามลงบนหัวของมันจนแผละ
               ออกอย่างรวดเร็ว
                        
                          ก่อนที่เธอจะเดินหายไปในป่าลึก และไม่กลับออกมาอีก...
 
                          ผู้คนเล่าว่า หนังหมาป่าที่เจอในป่าสนนั้น ก็เป็นฝีมือของเธอคนนั้น สภาพ
              หนังหมาป่าก็จะแห้งติดต้นไม้หน่อยๆ ด้วยเพราะมันผ่านมาหลายปีแล้ว...
 
 
                          เขาเคยเดินเข้าไปล่ากวางกับพ่อ และเจออยู่ครั้งหนึ่ง...
                          มันไม่ใช่แค่นิทานแน่ๆ เพราะเขาเจอโพรงที่มีของใช้ของคน และตาม
              ต้นไม้กิ่งไม้ ก็มีหนังของสิ่งมีชีวิตที่คุมป่านี้อยู่ นั่นก็คือ หมาป่า...
 
 
 
                          เด็กชาย เมื่อนั่งนึกระลึกถึงเรื่องราวอันขื่นขมที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ โดยคนที่
               เล่าให้เขาฟังก็คือปู่ มันต่างจากฉบับที่แม่เล่าโดยสิ้นเชิง 
                          เขาเงยหน้ากลับไปมองที่บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมือง ก่อนจะจำได้
               ว่าเขาต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปเตรียมจัดงานศพที่โบสถ์ 
 
                          คิดได้ พร้อมยันตัวให้ลุกขึ้น เนินเขาลานหญ้าอันกว้างใหญ่ และมีต้นไม้
               ร้อยปีปลูกอยู่ตั้งเด่นสง่าอยู่ไกล
             จากเขตเมืองเล็กน้อย เขามักจะออกมานอนเล่นที่นี่ พลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หรือ
             อ่านหนังสือ บางครั้งก็จะพกปืนหรืออาวุธติดตัวมาด้วย เนื่องจากที่นี่อยู่ใกล้ป่า
 
                          ป่าที่เคยเกิดเรื่อง "หนูน้อยหมวกแดง" ขึ้น
 
                          และมันก็มีพวกหมาป่าอยู่จำนวนมาก พ่อของเขาไม่กังวลเสียเท่าไรว่าเขา
             จะเป็นอันตราย เพราะฝึกทักษะการสู้และยิงปืนมาเป็นปี แต่กับแม่เขามักจะโดนดุและ
             บอกกล่าวเสมอ ถ้าหากวันใดที่เขากลับถึงบ้านโดยที่มีแผล หรือความผิดปกติบาง
             อย่างเกิดขึ้น
 
                         
                           เขาเดินเข้าไปในตัวเมืองที่มีผู้คนเดินอุดหนาฝาคลั่ง ดูครื้นเครง มีไฟ
              สว่างตระการตาในเมืองที่เป็นเขตตลาด ก่อนจะเดินมุ่งไปที่คฤหาสน์หลังสีดำที่อยู่
             ทอดสูงขึ้นไปตามเนิน ในระหว่างทางเขาก็เห็นพวกเศษผ้าหลากสีหล่นอยู่ตามพื้น ใน
             ตรอกมืด ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ แล้วเดินตรงไปที่บ้านของตน
 
                            "วิลเฮล์ม? ทำไมเพิ่งกลับมาตอนนี้ ทานอาหารก่อนไหม?"
 
                            แม่ของเขาพูดขึ้นขณะนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องโถง เขาตอบปฏิเสธ
             ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตนเอง พลันดวงตาไปสะดุดเข้ากับภาพถ่ายของ
             เขา และชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง พี่ชายของเขาที่ในตอนนี้พ่อและแม่ปักใจเชื่อแล้วว่าเสีย
             ชีวิต หลังจากที่พี่ชายของเขาออกเดินทางเข้าไปในป่าสนที่ไม่มีใครทราบว่ามันมี
             อาณาเขตกว้างใหญ่เพียงใด เขาออกไปกับนักล่า และนายพรานจำนวนหนึ่ง และ
             ไม่มีใครเจอพวกเขาอีกผ่านมาสามปีแล้ว ที่พี่ชายของเขาไม่กลับมา...
 
                             เขาล้มตัวลงนอนบนเตียง แสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านกลุ่มเมฆมันทำให้
              เขาจ้องอยู่นานสองนาน พลันสายตาก็เห็นเงาของอะไรบางอย่างตัดผ่านหน้าต่างไป
              เขาสะดุ้ง ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น แล้วเดินไปดูที่หน้าต่าง 
 
                              ร่างหนึ่งในชุดคลุมสีแดงสด ดูจากความสูง ก็คาดได้ว่าไม่น่าจะใช่ผู้
              หญิง ร่างนั้นยืนนิ่งอยู่บนแกนหลังคาบ้าน เด็กชายไม่อยากเชื่อที่สายตาเห็นเท่าไร
              นัก ก่อนที่เขาจะโผงผางเผลอเปิดหน้าต่างออกไปดูให้ชัดๆชายคนนั้นก็หันมา...
 
                              เด็กชายรีบปิดผ้าม่าน ก่อนจะกระโจนตัวลงบนเตียงแล้วคลุมโปง...
 
                              สิ่งที่เขาเห็นมันคืออะไร?
 
                              แรงกดดันเมื่อครู่นี้ที่ได้รับหลังจากจ้องมองบุคคลนั้น...
 
           
                              เขาขอเพียงแค่นั่นจะเป็นเพียงภาพลวงตา 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา