Heart Project : ปริศนาความทรงจำ
10.0
เขียนโดย PnPn
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.40 น.
17 ตอน
0 วิจารณ์
18.05K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 23.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 4
เสียงนาฬิกาปลุกเวลา 7 โมงครึ่งตอนเช้าหญิงสาวผมยาวตื่นขึ้นมาเธอพบว่านิสาเพื่อนของเธอที่นอนอยู่ข้างๆตื่นก่อนแล้วและไม่อยู่ในห้องพักด้วย เอมจึงลุกจากที่นอนเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะออกมาจากห้องของนิสาเพื่อตามหาเพื่อนของเธอ
เอมสังเกตว่าประตูห้องของไวท์ปิดไม่สนิทเธอเลยลองแง้มดู...สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำเอาเธอต้องสะดุ้ง
เสียงนาฬิกาปลุก 7.45 ไวท์ค่อยๆลืมตาขึ้นเขาและค่อยๆลุกนั่งบนเตียง และพบว่ามีสาวสวมแว่นผมสั้นกับรอยยิ้มที่ดูยังไงมันก็น่ารักมานอนอยู่ข้างๆ(เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ฟร๊ะ?) “อรุสวัสดิ์ค่ะ” สาวแว่นผมสั้นที่ลืมตาตื่นอยู่แล้วกล่าวทักทายไวท์ที่หันมา จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเข้าไปกอดไวท์พร้อมจูบไปที่แก้มของเขา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเอมทั้งหมด(อะไรจะบังเอิญปานนั้น)
“สรุปพวกเธอสองคนมีความสัมพันธ์กันยังไงกันแน่” เอมตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“ก็บอกไปแล้วไง เพื่อนกันตั้งแต่สมัย ม.ต้น” นิสาหันกลับมาตอบพร้อมรอยยิ้มและลุกจากที่นอนของไวท์
“ไปทานอาหารเช้ากัน” นิสาชวนเอม และลากเอมไปห้องครัวที่ชั้น 1 ของหอพักปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งงงอยู่บนเตียงของเขา
ที่ห้องครัวของหอพัก
เอมยังคงรู้สึกไม่เข้าใจกับสิ่งที่เห็นเมื่อสักครู่ และยังคงไม่เข้ากับการกระทำของนิสา
“นิสา ไปนอนข้างไวท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่ฉันหลับไปแล้วใช่ไหม” เอมถามนิสา
“จะบ้ารึไง เราตื่นตั้งแต่ 7 โมงกว่าๆแล้ว” นิสาตอบกลับไปซึ่งทำให้เอมโล่งใจลงบ้าง “มาทำอาหารเช้ากันเถอะเอมจัง” นิสายังคงยิ้มอยู่ตลอด
“เอาเถอะจะทำเป็นลืมๆที่เห็นไปแล้วกัน” เอมแสดงอาการถอนหายใจ “แล้ววันนี้ทำอะไรกิน”
“ข้าวต้มดีไหม ใช้ของเหลือจากเมื่อวานแล้วก็ยังมีน้ำซุปที่เหลือไวอีกด้วย”
“ก็ดีนะ ทำง่ายดีด้วยงั้นเราไปเตรียมเนื้อสัตว์นะ”
“ชั้นไปหุงข้าวนะ”
หญิงสาวทั้งสองต่างช่วยเตรียมมื้อเช้า จนไวท์เดินลงมาพร้อมด้วยชุดที่ดูเรียบร้อยจนผิดหูผิดตา
“ไวท์จะไปไหนหรอ แต่งตัวซะหล่อเชียว” เอมทักไวท์
“จะกลับบ้านนะ โดนท่านพ่อท่านแม่เรียกตัว” ไวท์ตอบกลับไปทั้งสองคนนั่งลงที่โต๊ะทานอาหารและนิสาก็นำข้าวต้มที่ทำไว้กับเอมมาวางไว้บนโต๊ะแล้วไปนั่งข้างๆไวท์
“ไปพบท่านพ่อท่านแม่คราวนี้มีเรื่องอะไรอีกหรอ” นิสาถามพร้อมแสดงสีหน้าเป็นห่วง
“ดูท่าน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเล่นโทรมาตั้งแต่เมื่อคืนเลยและบอกให้รีบกลับบ้านเลย” ไวท์หันไปตอบกลับนิสา “นิสา พวกท่านฝากมาบอกว่า......” ไวท์ยื่นเศษกระดาษ เมื่อนิสาอ่านเนื้อหาในกระดาษที่ได้มาก็แสดงอาการดีใจอย่างออกนอกหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่ออกมากับแก้มที่แดงขึ้น
“ฝากบอกพวกท่านด้วยนะว่าไม่ต้องเป็นห่วงยังไงก็ยังไง แบบนั้นก็แบบนั้นอยู่แล้ว” นิสากล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “แต่ตอนนี้นายนะทานเยอะๆเลยนะ” นิสาพูดจบก็ตักข้าวต้มป้อนไปที่ปากของไวท์ภายใต้สายตาอันแครงใจของเอมที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“มาทำฉากเลิฟซีนอะไรกันตอนเช้าเนี่ย!!” เอมที่ทนมองตะโกนออกมาก่อนที่จะรีบตักอาหารเช้าเข้าปากของเธอ
“เอมวันนี้นะชั้นไม่ว่างนะ ต้องไปทำธุระสำคัญเลยไปเดินห้างด้วยไม่ได้ ขอโทษทีน้า” นิสาพูดขึ้นมา “แต่ไม่ต้องห่วงนะยังไงก็ต้องขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีเดียวกันอยู่แล้ว เราก็ออกไปพร้อมกันก็ได้”
“แล้วไปทำอะไรหรอ? สำคัญขนาดนั้น?” เอมถามด้วยความสงสัยเพราะโดยปรกติสำหรับนิสานั้นไม่มีอะไรสำคัญยิ่งกว่าการไปไหนมาไหนและเล่นฉากเลิฟๆกับนายไวท์
“ต้องไปพบคนสำคัญที่ไม่ได้เจอกันมานานนะ” นิสายิ้มตอบไปและปล่อยให้เอมนั่งกินข้าวต้มด้วยความไม่เข้าใจต่อไป
หลังจากทั้งสามคนรับประทานอาหารเสร็จ ไวท์ก็ออกไปข้างนอกทันทีส่วนนิสากับเอมก็ช่วยกันล้างจานแล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอก
เวลา 9.45 น.
นิสากับเอมออกมาจากศูนย์วิจัยและเดินไปทีสถานีรถไฟฟ้าซึ่งห่างจากศูนย์วิจัยประมาณ 200 เมตร ทั้งสองข้างถนนที่ทั้งสองเดินจะเป็นห้องแถวที่เป็นหอพักบ้างเป็นสำนักงานของบริษัทและยิ่งใกล้สถานีรถไฟฟ้าก็ยิ่งพบเจอผู้คนมากขึ้น เมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าสถานีนิสาจึงขอตัวไปก่อนส่วนเอมเดินไปที่สวนสาธารณะเล็กๆที่อยู่ข้างสถานีซึ่งเป็นสถานที่นัดกันไว้กับชิตและดรีม
เอมไปถึงสถานที่นัดกันไว้พบว่าดรีมกับชิตมารออยู่แล้ว
“นิสาไม่ได้มาด้วยกันหรอ” ดรีมถามเอม
“นิสามีธุระด่วน เลยไปแล้วละ” เอมตอบดรีม จากนั้นเธอเดินเข้าไปหาดรีมพร้อมเอามือตบไหล่ดรีม “ดรีมเอ้ย...เชื่อชั้นนะ ตัดใจจากนิสาเถอะถ้านายมาเห็นในสิ่งที่ชั้นเห็นในตอนเช้านายจะเข้าใจ”
“เห็นอะไรมา เอม” ดรีมถามเอมกลับ
เอมยังไม่ทันตอบก็มีรถสีดำคับหนึ่งมาจอดอยู่ใกล้ๆพวกเขา หลังจากจอดเสร็จมีชายวัยกลางคนสามชุดสูทสีดำออกมาจากรถเดินตรงมาที่ดรีม
“คุณหนูครับ” เสียงของชายในชุดสูท “ต้องขอโทษนะครับ พอดีทางบ้านมีเรื่องสำคัญมากจึงจำเป็นต้องให้คุณหนูกลับไปที่บ้านใหญ่โดยด่วนครับ” จากนั้นชายในชุดสูทก็พาดรีมขึ้นรถทันทีและเดินมาหาชิตกับนิสาที่ยืนนิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“ต้องขออภัยด้วยนะครับ” ชายในชุดสูทพูดกับชิตและเอม จากนั้นเขาก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป
นิสากับชิตก็ทำได้แค่ยืนงงอยู่อย่างนั้น
“ทำไงได้ลูกชายตระกูลใหญ่ก็มักจะเป็นแบบนี้ล่ะมั้งนะ” เอมที่ยังงงอยู่พูดขึ้นมา
ตระกูลเรนฟอร์ชถือเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจในแถบนี้มีอณาเขตกว้างขวางรวมถึงเส้นสายที่มากมาย ทั้งในวงการธุรกิจและการเมือง สำหรับดรีมนั้นเป็นหลายชายของผู้นำตระกูลคนปัจจุบันและยังเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไป ว่ากันว่าพ่อแม่ของดรีมเดิมทีถูกขับออกจากตระกูลไปแล้วแต่เนื่องจากตัวดรีมเองมีความสามารถสูงและเป็นหลานชายของผู้นำตระกูลเลยถูกนำกลับเข้ามาตระกูลหลักทั้งนี้ยังลือกันว่าสามารถล้มพวกระดับเอตั้งแต่ประถม
“เป็นถึง เดรโก เรนฟอร์ช เลยนะ” ชิตพูดขึ้นมากับเอม “ถ้างั้นวันนี้ก็มีแค่เราสองคนน่ะสิ”
“นั่นสิ” เอมตอบกลับพร้อมหันไปมองหน้าชิต “จะว่าไป...แบบนี้ก็เหมือนกับเรามาเดทกันเลย” เอมยิ้ม
ชิตได้ฟังดังนั้นก็นิ่งไปพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น
“งั้นไปกันเถอะ นายเลี้ยงนะ” เอมลากชิตไปขึ้นรถไฟฟ้า
ทั้งสองคนนั่งรถไฟไปยังสถานีเซ็นเตอร์ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง
เซ็นเตอร์ ศูนย์กลางของมหานครแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหน่วงงานบริหารส่วนกลางต่างๆและเป็นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจมีห้างร้านมากมายในที่แห่งนี้ทำให้มีวัยรุ่นมักจะมาเดินเที่ยวที่แห่งนี้กันมากในช่วงวันหยุด
ชิตกับเอมเดินออกมาที่หน้าสถานีเซ็นเตอร์
“ชิต วันนี้เริ่มด้วยที่ตรงนี้แล้วกัน”เอมชี้ไปที่ร้านขายน้ำปั่นที่อยู่ข้างสถานี เป็นร้านเล็กๆทาสีร้านด้วยสีเหลืองทั้งร้าน “ชั้นเห็นในเว็บร้านที่ต้องไปกิน” เอมพูดเสริมแล้วจูงมือของชิตไปที่ร้านนั้นทันที
หลังจากได้น้ำผลไม้ปั่นสูตรพิเศษเอมก็พาชิตไปยังย่านการค้าที่อยู่ตรงข้ามสถานี ร้านที่เอมจะไปต่อเป็นร้านขายขนมขึ้นชื่อ เอมไม่รีรอเธอจูงมือ(ลาก)ชิตเข้าไปในร้านนี้ทันทีทั้งที่น้ำผลไม้ปั่นในมือยังดื่มไปไม่ถึงครึ่งแก้ว ต่อจากร้านขายขนมก็ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องประดับ ร้านขนม(อีกร้าน) และไปจบที่ห้างที่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟ
“เธอนี่แวะหลายร้านมากเลยนะ แต่แปลกใจมากกลับใช้เวลาไม่นานในการเลือกของเลย” ชิตถามขึ้น
“ดูอะไรนานๆ สำหรับชั้นน่ะนะแค่มองผ่านๆก็รู้รายละเอียดหมดแล้ว” เอมหันมาตอบ
“เธอนี่ไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปเลย” ชิตพูดต่อพร้อมหัวเราะเบาๆ“จะว่าไปตั้งแต่ออกมาจากสถานีแล้วเธอยังไม่ปล่อยมือเลยนะ”
“เดี๋ยวนายหายไง ถ้านายหายไปใครจะเลี้ยงชั้นละ” เอมตอบกลับพร้อมหัวเราะ “นี่ก็จะบ่ายสามแล้ว ชักจะหิวแล้วสิ ชิตๆไปกินข้าวที่ร้านนั้นกัน” เอมชี้ไปร้านอาหารที่อยู่ในห้าง
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปอยู่นั้น ชิตเหลือบไปเห็นหญิงสาวผมสั้นหน้าตาน่ารักใช้ได้ใส่แว่นกำลังควงแขนชายหนุ่มใบหน้าคมผิวขาวผมสีส้มแดงส่วนสูงก็สูงกว่าหญิงสาวผมสั้นเล็กน้อยกำลังเดินผ่านชิตกับเอมไป จนทำให้ชิตต้องมองตามไปทันทีด้วยความแปลกใจ “นิสา” นี่คือสิ่งที่ชิตคิดได้เป็นอย่างแรกโดยตามปรกติแล้วภาพที่ชิตเห็นคือหญิงสาวผมสั้นใส่แว่นมันจะควงอยู่กับนายไวท์ตลอด
“นิสา นิสานี่นา” เอมตะโกนออกมาขึ้นพร้อมโบมือไปหานิสาที่ยืนอยู่หน้าร้านอาหารที่ชิตกับเอมจะมาทานกัน
ชิตหันกลับไปก็พบนิสายืนอยู่ตรงหน้ากำลังเดินมาหาพวกเขา
“อ่าว...ไหนมาอยู่ตรงนี้กัน แล้วดรีมละ” นิสาที่เดินเข้ามาถามทั้งสอง
“ดรีมน่ะถูกคุณพ่อบ้านพาตัวกลับบ้านใหญ่ไปแล้ว” เอมตอบกลับ “ก็เลยตัดสินใจมาที่นี่แทน แสดงคนสำคัญที่ยิ่งกว่าไวท์ก็อยู่แถวนี่สิน้า” เอมทำทีมองไปรอบๆ
“เขากลับไปแล้วละ หาไปก็ไม่เจอหรอก” นิสาพลางยิ้มออกมา “นี่เอมถือโอกาศที่ได้อยู่สองต่อสองเลยมาแอบมาเดทกันใช่ไหม”
“นี่ก็โอเวอร์ไปเดี๋ยวชิตก็เขินเอาหรอ” เอมตอบกลับพร้อมหันไปทาชิต
นิสาจ้องไปที่ชิต “ชิตเป็นอะไร ดูสีหน้าแปลกๆ” นิสาถามขึ้น “แล้วก็จองหน้าชั้นมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว หน้าชั้นมีอะไรติดหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่แปลกใจที่มาเจอนิสาเท่านั้นเอง” ชิตตอบกลับไปพลางยิ้มไป
“นิสา กินอะไรมายัง เรากำลังจะไปกินข้าวที่ร้านนี้กัน” เอมถามขึ้น
“ยังเลยไปกินด้วยคนได้ป่าว จะไปติดขัดการเดทของพวกเธอไหมนี่” นิสาตอบกลับแต่ก็แอบยิ้มมุมปาก
“ไม่ได้มาเดทกันสักหน่อย” ชิตรีบตอบกลับไป “นิสา มากินข้าวด้วยกัน” ชิตหัวเราะเบาๆ
ชิตก็พาเอมกับนิสาเข้าไปในร้านอาหารนั้นทันที “เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
หลังจากที่ทั้งสามทานอาหารมื้อ...บ่าย(ละมั้ง)เสร็จก็เป็นเวลาเย็น เลยตัดสินใจกลับหอพักของแต่ละคน นิสาเลยเสนอให้นั่งรถไฟฟ้าไปอีกเส้นทางอ้อมเนื่องจากผ่านสถานีที่เป็นบ้านของไวท์ และไวท์เองก็จะกลับหอพักเช่นกัน ทางด้านเอมกับชิตก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ทำได้แค่ทำสีหน้าเซ็งๆที่ต้องเห็นเพื่อนสาวผู้น่ารักกับชายที่เป็นเพื่อนตั้งแต่ ม.ต้นมาเล่นฉากเลิฟซีนบนรถไฟถึงอย่างนั้นถ้านั่งรถไฟสายนี้ก็จะสามารถไปลงสถานีที่ใกล้หอพักของเอมได้
“บ้านของไวท์กับนิสาอยู่เขต 15 ใช่ไหม” ชิตถามนิสา
“ใช่แล้ว” นิสาตอบ “วันหลังว่างๆจะพามาเที่ยวเขตนี้”
ขณะที่ทั้งสามนั่งรถไฟใกล้จะถึงเขต 15 พวกเขาได้รับการติดต่อจากพี่ศรที่เป็นเป็นนักวิจัยของศูนย์วิจัยอุปกรณ์ ว่าพบสิ่งรุกรานที่เขต 15 ให้ไปสมทบกับไวท์ทันที
“พี่ศร ไวท์คนเดียวน่าจะรับมือไหวอยู่นะไม่เห็นจะต้องถึงมือพวกเราเลย” นิสาตอบพี่ศรกลับไป
“ครั้งนี้ไม่ใช่พวกโครวนะแต่เป็นพวกบ็อท” พี่ศรตอบกลับมา
“แค่พวกบ็อทที่เป็นประเภทเน้นจำนวนเองนะ?” เอมที่ฟังอยู่ถามกลับด้วยความสงสัย
บ็อท(B.O.T)สิ่งรุกรานโลกระดับต่ำเป็นครึ่งจักรกลครึ่งสิ่งมีชีวิตรูปร่างคลายคน สติปัญญาระดับต่ำมากแต่พวกนี้จะเน้นปริมาณเป็นหลักถ้ามาบุกเมืองอย่างต่ำก็ 10 ตัว สำหรับ 1 ตัวจัดเป็นสิ่งรุกรานระดับดี แต่ถึงอย่างนั้นถ้ามาในปริมาณมากๆระดับอาจสูงถึงเอสเลย
“จากรายงานที่ได้รับมาจากไวท์บ็อทที่บุกมาราว 200 กว่าตัว แต่ทุกตัวใช้กายยาเกราะได้ทุกตัวจนตอนนี้มีบางตัวได้สร้างปีกทมิฬแล้ว น่าจะเป็นพวกที่ดัดแปลงมาแบบโครวที่เจอมาด้วย” พี่ศรตอบกลับ“ยังไงที่นั้นก็มีเจ้าหน้ากับคุณซิลเวอร์ปประจำการก่อนแล้วพวกเธอไปสบทบเลยนะ”
ชิต เอมและนิสาที่ได้ฟังดังนั้นต่างก็ตกใจกับรายงานที่ได้มา โดยเฉพาะนิสาที่แสดงสีหน้าให้เห็นว่ากำลังกังวลอะไรบางอย่าง เมื่อมาถึงสถานีเขต 13 ทั้งสามรีบออกไปยังหน้าสถานีเพื่อสมทบกับคุณซิลเวอร์ที่รออยู่แล้วเพื่อรับแหวนสำหรับสวมชุดปฏิบัติการณ์จากนั้นทั้งสามก็ใช้พลังของแหวนสวมใส่ชุดปฏิบัติทันที
“เอม ชิต พวกเธอไปกับคุณซิลเวอร์เลยนะ ชั้นต้องไปตามหาไวท์” นิสาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นออกมา
“นิสา เธอดูแปลกๆไปนะ ไม่ต้องห่วงไปหรอกไวท์จะต้องไม่เป็นอะไร” เอมปลอบนิสาที่แสดงท่าทีวิตก
“ชั้นไม่ห่วงเรื่องพรรณนั้นหรอก ชั้นห่วงเรื่องเขตนี่ต่างหาก...” นิสาตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุดัน
เอมยังไม่ทันได้พูดต่อนิสาก็แปลงร่างใส่ชุดสีดำด้วยแหวนแล้วพุ่งตัวเขาไปในเมืองทันที
“งั้นพวกเราไปกันเถอะไม่ต้องสนใจนิสา” คุณซิลเวอร์ที่สวมชุดสีดำแล้วบอกภารกิจของพวกเขา “เราจะต้องตามหาประชาชนที่อยู่ตามอาคารและคุ้มครองไปในที่ปลอดภัย” คุณซิลเวอร์กดปุ่มที่อยู่ข้อมือด้านซ้ายทำให้แผนที่แสดงพื้นที่ที่ต้องรับผิดปรากฏขึ้นที่หน้าของเอมกับชิต
เอม ชิตและคุณซิลเวอร์รีบไปที่พื้นที่ที่แผนที่บอก แต่เอมกับชิตก็อดห่วงนิสาที่ออกไปคนเดียวกับอาการกังวลของเธอที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “นิสา โชคดีนะ” ทั้งสองก็ทำได้แค่อวยพรไปเท่านั้น
เสียงนาฬิกาปลุกเวลา 7 โมงครึ่งตอนเช้าหญิงสาวผมยาวตื่นขึ้นมาเธอพบว่านิสาเพื่อนของเธอที่นอนอยู่ข้างๆตื่นก่อนแล้วและไม่อยู่ในห้องพักด้วย เอมจึงลุกจากที่นอนเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะออกมาจากห้องของนิสาเพื่อตามหาเพื่อนของเธอ
เอมสังเกตว่าประตูห้องของไวท์ปิดไม่สนิทเธอเลยลองแง้มดู...สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำเอาเธอต้องสะดุ้ง
เสียงนาฬิกาปลุก 7.45 ไวท์ค่อยๆลืมตาขึ้นเขาและค่อยๆลุกนั่งบนเตียง และพบว่ามีสาวสวมแว่นผมสั้นกับรอยยิ้มที่ดูยังไงมันก็น่ารักมานอนอยู่ข้างๆ(เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ฟร๊ะ?) “อรุสวัสดิ์ค่ะ” สาวแว่นผมสั้นที่ลืมตาตื่นอยู่แล้วกล่าวทักทายไวท์ที่หันมา จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเข้าไปกอดไวท์พร้อมจูบไปที่แก้มของเขา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเอมทั้งหมด(อะไรจะบังเอิญปานนั้น)
“สรุปพวกเธอสองคนมีความสัมพันธ์กันยังไงกันแน่” เอมตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“ก็บอกไปแล้วไง เพื่อนกันตั้งแต่สมัย ม.ต้น” นิสาหันกลับมาตอบพร้อมรอยยิ้มและลุกจากที่นอนของไวท์
“ไปทานอาหารเช้ากัน” นิสาชวนเอม และลากเอมไปห้องครัวที่ชั้น 1 ของหอพักปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งงงอยู่บนเตียงของเขา
ที่ห้องครัวของหอพัก
เอมยังคงรู้สึกไม่เข้าใจกับสิ่งที่เห็นเมื่อสักครู่ และยังคงไม่เข้ากับการกระทำของนิสา
“นิสา ไปนอนข้างไวท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่ฉันหลับไปแล้วใช่ไหม” เอมถามนิสา
“จะบ้ารึไง เราตื่นตั้งแต่ 7 โมงกว่าๆแล้ว” นิสาตอบกลับไปซึ่งทำให้เอมโล่งใจลงบ้าง “มาทำอาหารเช้ากันเถอะเอมจัง” นิสายังคงยิ้มอยู่ตลอด
“เอาเถอะจะทำเป็นลืมๆที่เห็นไปแล้วกัน” เอมแสดงอาการถอนหายใจ “แล้ววันนี้ทำอะไรกิน”
“ข้าวต้มดีไหม ใช้ของเหลือจากเมื่อวานแล้วก็ยังมีน้ำซุปที่เหลือไวอีกด้วย”
“ก็ดีนะ ทำง่ายดีด้วยงั้นเราไปเตรียมเนื้อสัตว์นะ”
“ชั้นไปหุงข้าวนะ”
หญิงสาวทั้งสองต่างช่วยเตรียมมื้อเช้า จนไวท์เดินลงมาพร้อมด้วยชุดที่ดูเรียบร้อยจนผิดหูผิดตา
“ไวท์จะไปไหนหรอ แต่งตัวซะหล่อเชียว” เอมทักไวท์
“จะกลับบ้านนะ โดนท่านพ่อท่านแม่เรียกตัว” ไวท์ตอบกลับไปทั้งสองคนนั่งลงที่โต๊ะทานอาหารและนิสาก็นำข้าวต้มที่ทำไว้กับเอมมาวางไว้บนโต๊ะแล้วไปนั่งข้างๆไวท์
“ไปพบท่านพ่อท่านแม่คราวนี้มีเรื่องอะไรอีกหรอ” นิสาถามพร้อมแสดงสีหน้าเป็นห่วง
“ดูท่าน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเล่นโทรมาตั้งแต่เมื่อคืนเลยและบอกให้รีบกลับบ้านเลย” ไวท์หันไปตอบกลับนิสา “นิสา พวกท่านฝากมาบอกว่า......” ไวท์ยื่นเศษกระดาษ เมื่อนิสาอ่านเนื้อหาในกระดาษที่ได้มาก็แสดงอาการดีใจอย่างออกนอกหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่ออกมากับแก้มที่แดงขึ้น
“ฝากบอกพวกท่านด้วยนะว่าไม่ต้องเป็นห่วงยังไงก็ยังไง แบบนั้นก็แบบนั้นอยู่แล้ว” นิสากล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “แต่ตอนนี้นายนะทานเยอะๆเลยนะ” นิสาพูดจบก็ตักข้าวต้มป้อนไปที่ปากของไวท์ภายใต้สายตาอันแครงใจของเอมที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“มาทำฉากเลิฟซีนอะไรกันตอนเช้าเนี่ย!!” เอมที่ทนมองตะโกนออกมาก่อนที่จะรีบตักอาหารเช้าเข้าปากของเธอ
“เอมวันนี้นะชั้นไม่ว่างนะ ต้องไปทำธุระสำคัญเลยไปเดินห้างด้วยไม่ได้ ขอโทษทีน้า” นิสาพูดขึ้นมา “แต่ไม่ต้องห่วงนะยังไงก็ต้องขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีเดียวกันอยู่แล้ว เราก็ออกไปพร้อมกันก็ได้”
“แล้วไปทำอะไรหรอ? สำคัญขนาดนั้น?” เอมถามด้วยความสงสัยเพราะโดยปรกติสำหรับนิสานั้นไม่มีอะไรสำคัญยิ่งกว่าการไปไหนมาไหนและเล่นฉากเลิฟๆกับนายไวท์
“ต้องไปพบคนสำคัญที่ไม่ได้เจอกันมานานนะ” นิสายิ้มตอบไปและปล่อยให้เอมนั่งกินข้าวต้มด้วยความไม่เข้าใจต่อไป
หลังจากทั้งสามคนรับประทานอาหารเสร็จ ไวท์ก็ออกไปข้างนอกทันทีส่วนนิสากับเอมก็ช่วยกันล้างจานแล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอก
เวลา 9.45 น.
นิสากับเอมออกมาจากศูนย์วิจัยและเดินไปทีสถานีรถไฟฟ้าซึ่งห่างจากศูนย์วิจัยประมาณ 200 เมตร ทั้งสองข้างถนนที่ทั้งสองเดินจะเป็นห้องแถวที่เป็นหอพักบ้างเป็นสำนักงานของบริษัทและยิ่งใกล้สถานีรถไฟฟ้าก็ยิ่งพบเจอผู้คนมากขึ้น เมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าสถานีนิสาจึงขอตัวไปก่อนส่วนเอมเดินไปที่สวนสาธารณะเล็กๆที่อยู่ข้างสถานีซึ่งเป็นสถานที่นัดกันไว้กับชิตและดรีม
เอมไปถึงสถานที่นัดกันไว้พบว่าดรีมกับชิตมารออยู่แล้ว
“นิสาไม่ได้มาด้วยกันหรอ” ดรีมถามเอม
“นิสามีธุระด่วน เลยไปแล้วละ” เอมตอบดรีม จากนั้นเธอเดินเข้าไปหาดรีมพร้อมเอามือตบไหล่ดรีม “ดรีมเอ้ย...เชื่อชั้นนะ ตัดใจจากนิสาเถอะถ้านายมาเห็นในสิ่งที่ชั้นเห็นในตอนเช้านายจะเข้าใจ”
“เห็นอะไรมา เอม” ดรีมถามเอมกลับ
เอมยังไม่ทันตอบก็มีรถสีดำคับหนึ่งมาจอดอยู่ใกล้ๆพวกเขา หลังจากจอดเสร็จมีชายวัยกลางคนสามชุดสูทสีดำออกมาจากรถเดินตรงมาที่ดรีม
“คุณหนูครับ” เสียงของชายในชุดสูท “ต้องขอโทษนะครับ พอดีทางบ้านมีเรื่องสำคัญมากจึงจำเป็นต้องให้คุณหนูกลับไปที่บ้านใหญ่โดยด่วนครับ” จากนั้นชายในชุดสูทก็พาดรีมขึ้นรถทันทีและเดินมาหาชิตกับนิสาที่ยืนนิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“ต้องขออภัยด้วยนะครับ” ชายในชุดสูทพูดกับชิตและเอม จากนั้นเขาก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป
นิสากับชิตก็ทำได้แค่ยืนงงอยู่อย่างนั้น
“ทำไงได้ลูกชายตระกูลใหญ่ก็มักจะเป็นแบบนี้ล่ะมั้งนะ” เอมที่ยังงงอยู่พูดขึ้นมา
ตระกูลเรนฟอร์ชถือเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจในแถบนี้มีอณาเขตกว้างขวางรวมถึงเส้นสายที่มากมาย ทั้งในวงการธุรกิจและการเมือง สำหรับดรีมนั้นเป็นหลายชายของผู้นำตระกูลคนปัจจุบันและยังเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไป ว่ากันว่าพ่อแม่ของดรีมเดิมทีถูกขับออกจากตระกูลไปแล้วแต่เนื่องจากตัวดรีมเองมีความสามารถสูงและเป็นหลานชายของผู้นำตระกูลเลยถูกนำกลับเข้ามาตระกูลหลักทั้งนี้ยังลือกันว่าสามารถล้มพวกระดับเอตั้งแต่ประถม
“เป็นถึง เดรโก เรนฟอร์ช เลยนะ” ชิตพูดขึ้นมากับเอม “ถ้างั้นวันนี้ก็มีแค่เราสองคนน่ะสิ”
“นั่นสิ” เอมตอบกลับพร้อมหันไปมองหน้าชิต “จะว่าไป...แบบนี้ก็เหมือนกับเรามาเดทกันเลย” เอมยิ้ม
ชิตได้ฟังดังนั้นก็นิ่งไปพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น
“งั้นไปกันเถอะ นายเลี้ยงนะ” เอมลากชิตไปขึ้นรถไฟฟ้า
ทั้งสองคนนั่งรถไฟไปยังสถานีเซ็นเตอร์ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง
เซ็นเตอร์ ศูนย์กลางของมหานครแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหน่วงงานบริหารส่วนกลางต่างๆและเป็นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจมีห้างร้านมากมายในที่แห่งนี้ทำให้มีวัยรุ่นมักจะมาเดินเที่ยวที่แห่งนี้กันมากในช่วงวันหยุด
ชิตกับเอมเดินออกมาที่หน้าสถานีเซ็นเตอร์
“ชิต วันนี้เริ่มด้วยที่ตรงนี้แล้วกัน”เอมชี้ไปที่ร้านขายน้ำปั่นที่อยู่ข้างสถานี เป็นร้านเล็กๆทาสีร้านด้วยสีเหลืองทั้งร้าน “ชั้นเห็นในเว็บร้านที่ต้องไปกิน” เอมพูดเสริมแล้วจูงมือของชิตไปที่ร้านนั้นทันที
หลังจากได้น้ำผลไม้ปั่นสูตรพิเศษเอมก็พาชิตไปยังย่านการค้าที่อยู่ตรงข้ามสถานี ร้านที่เอมจะไปต่อเป็นร้านขายขนมขึ้นชื่อ เอมไม่รีรอเธอจูงมือ(ลาก)ชิตเข้าไปในร้านนี้ทันทีทั้งที่น้ำผลไม้ปั่นในมือยังดื่มไปไม่ถึงครึ่งแก้ว ต่อจากร้านขายขนมก็ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องประดับ ร้านขนม(อีกร้าน) และไปจบที่ห้างที่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟ
“เธอนี่แวะหลายร้านมากเลยนะ แต่แปลกใจมากกลับใช้เวลาไม่นานในการเลือกของเลย” ชิตถามขึ้น
“ดูอะไรนานๆ สำหรับชั้นน่ะนะแค่มองผ่านๆก็รู้รายละเอียดหมดแล้ว” เอมหันมาตอบ
“เธอนี่ไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปเลย” ชิตพูดต่อพร้อมหัวเราะเบาๆ“จะว่าไปตั้งแต่ออกมาจากสถานีแล้วเธอยังไม่ปล่อยมือเลยนะ”
“เดี๋ยวนายหายไง ถ้านายหายไปใครจะเลี้ยงชั้นละ” เอมตอบกลับพร้อมหัวเราะ “นี่ก็จะบ่ายสามแล้ว ชักจะหิวแล้วสิ ชิตๆไปกินข้าวที่ร้านนั้นกัน” เอมชี้ไปร้านอาหารที่อยู่ในห้าง
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปอยู่นั้น ชิตเหลือบไปเห็นหญิงสาวผมสั้นหน้าตาน่ารักใช้ได้ใส่แว่นกำลังควงแขนชายหนุ่มใบหน้าคมผิวขาวผมสีส้มแดงส่วนสูงก็สูงกว่าหญิงสาวผมสั้นเล็กน้อยกำลังเดินผ่านชิตกับเอมไป จนทำให้ชิตต้องมองตามไปทันทีด้วยความแปลกใจ “นิสา” นี่คือสิ่งที่ชิตคิดได้เป็นอย่างแรกโดยตามปรกติแล้วภาพที่ชิตเห็นคือหญิงสาวผมสั้นใส่แว่นมันจะควงอยู่กับนายไวท์ตลอด
“นิสา นิสานี่นา” เอมตะโกนออกมาขึ้นพร้อมโบมือไปหานิสาที่ยืนอยู่หน้าร้านอาหารที่ชิตกับเอมจะมาทานกัน
ชิตหันกลับไปก็พบนิสายืนอยู่ตรงหน้ากำลังเดินมาหาพวกเขา
“อ่าว...ไหนมาอยู่ตรงนี้กัน แล้วดรีมละ” นิสาที่เดินเข้ามาถามทั้งสอง
“ดรีมน่ะถูกคุณพ่อบ้านพาตัวกลับบ้านใหญ่ไปแล้ว” เอมตอบกลับ “ก็เลยตัดสินใจมาที่นี่แทน แสดงคนสำคัญที่ยิ่งกว่าไวท์ก็อยู่แถวนี่สิน้า” เอมทำทีมองไปรอบๆ
“เขากลับไปแล้วละ หาไปก็ไม่เจอหรอก” นิสาพลางยิ้มออกมา “นี่เอมถือโอกาศที่ได้อยู่สองต่อสองเลยมาแอบมาเดทกันใช่ไหม”
“นี่ก็โอเวอร์ไปเดี๋ยวชิตก็เขินเอาหรอ” เอมตอบกลับพร้อมหันไปทาชิต
นิสาจ้องไปที่ชิต “ชิตเป็นอะไร ดูสีหน้าแปลกๆ” นิสาถามขึ้น “แล้วก็จองหน้าชั้นมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว หน้าชั้นมีอะไรติดหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่แปลกใจที่มาเจอนิสาเท่านั้นเอง” ชิตตอบกลับไปพลางยิ้มไป
“นิสา กินอะไรมายัง เรากำลังจะไปกินข้าวที่ร้านนี้กัน” เอมถามขึ้น
“ยังเลยไปกินด้วยคนได้ป่าว จะไปติดขัดการเดทของพวกเธอไหมนี่” นิสาตอบกลับแต่ก็แอบยิ้มมุมปาก
“ไม่ได้มาเดทกันสักหน่อย” ชิตรีบตอบกลับไป “นิสา มากินข้าวด้วยกัน” ชิตหัวเราะเบาๆ
ชิตก็พาเอมกับนิสาเข้าไปในร้านอาหารนั้นทันที “เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
หลังจากที่ทั้งสามทานอาหารมื้อ...บ่าย(ละมั้ง)เสร็จก็เป็นเวลาเย็น เลยตัดสินใจกลับหอพักของแต่ละคน นิสาเลยเสนอให้นั่งรถไฟฟ้าไปอีกเส้นทางอ้อมเนื่องจากผ่านสถานีที่เป็นบ้านของไวท์ และไวท์เองก็จะกลับหอพักเช่นกัน ทางด้านเอมกับชิตก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ทำได้แค่ทำสีหน้าเซ็งๆที่ต้องเห็นเพื่อนสาวผู้น่ารักกับชายที่เป็นเพื่อนตั้งแต่ ม.ต้นมาเล่นฉากเลิฟซีนบนรถไฟถึงอย่างนั้นถ้านั่งรถไฟสายนี้ก็จะสามารถไปลงสถานีที่ใกล้หอพักของเอมได้
“บ้านของไวท์กับนิสาอยู่เขต 15 ใช่ไหม” ชิตถามนิสา
“ใช่แล้ว” นิสาตอบ “วันหลังว่างๆจะพามาเที่ยวเขตนี้”
ขณะที่ทั้งสามนั่งรถไฟใกล้จะถึงเขต 15 พวกเขาได้รับการติดต่อจากพี่ศรที่เป็นเป็นนักวิจัยของศูนย์วิจัยอุปกรณ์ ว่าพบสิ่งรุกรานที่เขต 15 ให้ไปสมทบกับไวท์ทันที
“พี่ศร ไวท์คนเดียวน่าจะรับมือไหวอยู่นะไม่เห็นจะต้องถึงมือพวกเราเลย” นิสาตอบพี่ศรกลับไป
“ครั้งนี้ไม่ใช่พวกโครวนะแต่เป็นพวกบ็อท” พี่ศรตอบกลับมา
“แค่พวกบ็อทที่เป็นประเภทเน้นจำนวนเองนะ?” เอมที่ฟังอยู่ถามกลับด้วยความสงสัย
บ็อท(B.O.T)สิ่งรุกรานโลกระดับต่ำเป็นครึ่งจักรกลครึ่งสิ่งมีชีวิตรูปร่างคลายคน สติปัญญาระดับต่ำมากแต่พวกนี้จะเน้นปริมาณเป็นหลักถ้ามาบุกเมืองอย่างต่ำก็ 10 ตัว สำหรับ 1 ตัวจัดเป็นสิ่งรุกรานระดับดี แต่ถึงอย่างนั้นถ้ามาในปริมาณมากๆระดับอาจสูงถึงเอสเลย
“จากรายงานที่ได้รับมาจากไวท์บ็อทที่บุกมาราว 200 กว่าตัว แต่ทุกตัวใช้กายยาเกราะได้ทุกตัวจนตอนนี้มีบางตัวได้สร้างปีกทมิฬแล้ว น่าจะเป็นพวกที่ดัดแปลงมาแบบโครวที่เจอมาด้วย” พี่ศรตอบกลับ“ยังไงที่นั้นก็มีเจ้าหน้ากับคุณซิลเวอร์ปประจำการก่อนแล้วพวกเธอไปสบทบเลยนะ”
ชิต เอมและนิสาที่ได้ฟังดังนั้นต่างก็ตกใจกับรายงานที่ได้มา โดยเฉพาะนิสาที่แสดงสีหน้าให้เห็นว่ากำลังกังวลอะไรบางอย่าง เมื่อมาถึงสถานีเขต 13 ทั้งสามรีบออกไปยังหน้าสถานีเพื่อสมทบกับคุณซิลเวอร์ที่รออยู่แล้วเพื่อรับแหวนสำหรับสวมชุดปฏิบัติการณ์จากนั้นทั้งสามก็ใช้พลังของแหวนสวมใส่ชุดปฏิบัติทันที
“เอม ชิต พวกเธอไปกับคุณซิลเวอร์เลยนะ ชั้นต้องไปตามหาไวท์” นิสาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นออกมา
“นิสา เธอดูแปลกๆไปนะ ไม่ต้องห่วงไปหรอกไวท์จะต้องไม่เป็นอะไร” เอมปลอบนิสาที่แสดงท่าทีวิตก
“ชั้นไม่ห่วงเรื่องพรรณนั้นหรอก ชั้นห่วงเรื่องเขตนี่ต่างหาก...” นิสาตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุดัน
เอมยังไม่ทันได้พูดต่อนิสาก็แปลงร่างใส่ชุดสีดำด้วยแหวนแล้วพุ่งตัวเขาไปในเมืองทันที
“งั้นพวกเราไปกันเถอะไม่ต้องสนใจนิสา” คุณซิลเวอร์ที่สวมชุดสีดำแล้วบอกภารกิจของพวกเขา “เราจะต้องตามหาประชาชนที่อยู่ตามอาคารและคุ้มครองไปในที่ปลอดภัย” คุณซิลเวอร์กดปุ่มที่อยู่ข้อมือด้านซ้ายทำให้แผนที่แสดงพื้นที่ที่ต้องรับผิดปรากฏขึ้นที่หน้าของเอมกับชิต
เอม ชิตและคุณซิลเวอร์รีบไปที่พื้นที่ที่แผนที่บอก แต่เอมกับชิตก็อดห่วงนิสาที่ออกไปคนเดียวกับอาการกังวลของเธอที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “นิสา โชคดีนะ” ทั้งสองก็ทำได้แค่อวยพรไปเท่านั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ