Heart Project : ปริศนาความทรงจำ

10.0

เขียนโดย PnPn

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.40 น.

  17 ตอน
  0 วิจารณ์
  18.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 23.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) ตอนที่ 13

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 13

                เช้าวันอาทิตย์ในเดือนธันวาคม

                ฉันตื่นขึ้นบนเตียงกว้างขนาดนอนได้ 2 คนทั้งที่เป็นห้องพักสำหรับคนเดียวแท้ๆ ฉันมักจะมองรอบห้องเสมอหลังจากลุกออกจากที่นอน

                “วันนี้ก็อีกแล้วสินะ เห้อออ” ฉันถอนหายใจยาวหลังพบว่าทั้งที่ก่อนจะหลับกันก็มีคนอยู่ในห้อง 3 คน แต่ไหงตื่นมามีแค่ฉันคนเดียว มาตรงจุดนี้คงคิดไปว่าอีกสองคนคงตื่นขึ้นมาก่อน แล้วก็คงออกไปหามื้อเช้าทานไม่ก็คงไปออกกำลังกายหรือฝึกซ้อมยามเช้า

                แต่ความจริงแล้ว

                ฉันเดินออกจากห้องของฉันแล้วไปยังห้องตรงข้ามซึ่งเป็นห้องของนักศึกษาชายหนึ่งเดียวในหอพักแห่งนี้

ฉันเปิดประตูเข้าไปอย่างไม่ลังเล ทั้งนี้ฉันก็ทำใจไว้ว่าจะต้องเห็นอะไร

ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูเหมือนจะรู้ว่าฉันกำลังเปิดประตูเข้ามา กับหญิงสาว 2 คนที่นอนห้องเดียวกับฉันกำลังถูกมัดด้วยโซ่อยู่บนเตียงของชายคนนั้น

        “มอร์นิ่ง ไวท์”

       “มอร์นิ่ง เอม”

       “ยังเหมือนเดิมเลยนะ”

       “เห้อออ” เขาถอนหายใจ “ทางนี้เองก็ทำใจลำบากใจนะ แบบว่าตื่นมาก็มาเจออะไรแบบนี้ทุกเช้า”

       “แล้วจะเอายังไงกับสองคนนั้นล่ะ ไวท์” ฉันชำเลืองไปทางสองสาวที่ถูกมัดอยู่

       “ปล่อยไว้แบบนั่นหละ เดี๋ยวสองคนนั้นก็หาวิธีคลายออกมาได้เอง”

       ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่นี่เล่นมัดด้วยโซ่เวทย์ขาววันนี้คงคลายออกมาได้หรอก ฉันก็ได้แค่เบือนหน้าออกไป

       “งั้นเอม ไปหายไรทานกันเถอะ”

       “ก็ได้....ไวท์” ฉันมองไปทางเพื่อนสาวสองคนอีกครั้งพร้อมโบกมือ

 

       ฉันเดินลงจากอาคารหอพักไปยังส่วนที่เรียกว่าโรงอาหาร เป็นส่วนที่รวมกับอาคารสำนักงานของศูนย์วิจัยแห่งนี้ จะว่าอย่างไรดีโรงอาหารแห่งนี้สามารถรองรับคนได้มากกว่า 100 คนแต่มีคนใช้กันจริงๆไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ

       โรงอาหารแห่งนี้มีแม่ครัวเป็นระบบaiที่จะทำอาหารที่เราต้องการได้รวมไปถึงการทำความสะอาดที่ดีเยี่ยมทั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้พี่ศรผู้ออกแบบระบบนี้ขึ้นมา แต่ถ้าย้อยกลับไปวันที่ทำสุกี้กินกันความจริงคือการทำสุกี้ในวันนั้นไม่ได้ทำเนื่องในโอกาสพิเศษอะไรหรอกก็...แค่ว่าระบบaiมันรวนนิดหน่อย...เลยต้องหาอะไรกินกันเอง....

        ช่างเถอะ ยังไงวันนี้ฉันก็ได้อยู่กับเขาสองคนแล้ว
        หลังจากเราสองคนตักอาหารเสร็จก็ไปนั่งที่บนโต๊ะที่ประจำที่อยู่ทางเข้าส่วนห้องครัวเป็นโต๊ะกลมนั่งได้ 12 คน

       ดูเหมือนว่าอาหารเช้าวันนี้จะเป็นข้าวต้มปลา สมกับเป็นอาหารเบาๆสำหรับวันหยุดเช่นนี้จริง

       ยังไงก็ขอเปิดประเด็นคุยก่อนแล้วกัน…ฮิฮิ

       “นี่ไวท์ เป็นผู้ใช้กำแพงแสงหรอ”...แล้วเหตุใดฉันเปิดด้วยเรื่องนี้ละนี่

       “ก็ประมาณนั้นหละ แต่พอเอาเข้าจริงก็ชอบทำอะไรแปลกๆ”

       “อะไรแปลกๆ??”

       “555 ก็อะไรแปลกๆนั่นหละไว้วันหลังเอมก็รู้เอง แต่เพราะทำอะไรแปลกๆนี่หละเลยไม่ค่อยจะงัดมาใช้เท่าไหร่”

นี่แล้วตกลงอะไรแปลกๆที่ว่ามันเป็นยังกันแน่ =-=

       “แต่จะว่าเมื่อว่าทำอะไรแบบนั้นได้ด้วยหรอ ไอที่เอาสัตว์อัญเชิญมาทำเป็นเกราะน่ะ”

       “ก็นิดหน่อย ยังไงดีหละถ้าให้น้องสิงโตกับน้องกระทิงโผล่มาในทีแคบๆมันก็ไม่โออยู่ ก็เลยแอบฝึกไว้”

มาชมกันแบบนี้ก็เขินแย่สิ *////*

       “แบบนี้สินะที่เรียกว่า ดิจิเมนทอลอัพ 55555 ถึงจะเป็นคนใช้ก็เถอะ 5555” ไวท์ชูนิ้วโป้งพร้อมยิ้มมาทางฉัน

       “โยงได้เรื่อยๆเลยนะ 555”

       “แล้วใกล้ยังหละกับสิ่งที่เรียกว่า คิเมร่า” ไวท์กลับมาทำสีหน้าจริงจัง

       “ไม่ใกล้เลยสักนิด.....”

       “เอาน่าๆ ยังไงสักวันหนึ่งก็ทำได้เอง ก็เอมออกจะเก่งนี่นา”

       “ยอเก่นนะไวท์ 555” เห้ยเอาจริงดิ ไม่เคยเห็นโมเม้นนี้ของไวท์มาก่อนเลย แบบนี้ก็เขินสิโว้ยยย

       “เป็นไรตั้งแต่เมื่อกี่ละ ดูเอมแปลกๆไป ไม่สบายหรอ” ไวท์มองมาที่ตาของฉัน
       “ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ปรกติดี” แล้วทำไมฉันต้องทำตัวสั่นด้วยเนี่ยะ

ฮึบ...ตั้งสติไว้ก่อนๆๆๆๆๆๆ
       “ไวท์ถามอะไรหน่อยได้ไหม”

“ถามอะไรหรอ ลอมถามมาก่อน”

       “อืม......ยังไงดีอะ....ไวท์คิดยังไงกับนาเดียและนิสา”

อื้ออออ ถามตรงๆแบบนี้จะถูกโกรธไหม จะถูกเกลียดไหม
       “คิดยังไงคือยังไง” ไวท์หันมามองที่ฉัน

       “ก็...ตลอดเวลานิสาก็ตัวติดกันตลอดเวลานี่นาแล้วตอนนี้มีนาเดียมาด้วย...นาย....ไม่หวันไหว....อะไรทำนองนั้น” แล้วฉันจะขยี้ต่อทำไมเนี่ย โดนเกลียดแล้วแน่ๆ

ไวท์เริ่มคนข้าวต้มที่ยังทานไม่หมดและหันหน้าไปทางอื่น

       นี่ฉันกำลังโดนเกลียดแล้วใช่ไหม

       “ยังไงดีน้า...ถ้าพูดถึงน้องจ๋า-นาเดีย น้องจ๋าก็คือน้องจ๋า ถึงเมื่อก่อนผมจะมองนาเดียเป็นมามากกว่าน้องสาวก็จริง แต่ว่าตัวผมเองที่ยังเด็กเกินไปมั้ง เลยกลับถูกปฏิเสธความรู้สึกเหล่านั้นไป ยังไงก็ตอนนี้นาเดียก็เป็นน้องสาวของผม” จากนั้นไวท์ก็ยิ้มออกมา “ไม่สินาเดียคือเทพธิดาประจำตัวของผมละ”

       “เทพธิดา??” ฉันทวนคำบางคำที่ไวท์พูดมาด้วยความสงสัย ฉันหวังว่าคงไม่ใช่.....
      “อุ้ย โทษทีๆ เผลอออกอาการซิสค่อนไปอีกแล้ว” ไวท์แสดงท่าทางเขินอย่างแรง

       นั่นไงว่าแล้วอาการซิสค่อนนี่เอง แต่อย่างน้อยไวท์ก็ไม่ได้เกลียดเราหละ ขอยิงคำถามต่อแล้วกัน

       นาเดียเป็นน้องสาวของไวท์แต่ความจริงเป็นน้องสาวบุญธรรมที่พ่อแม่ของไวท์รับเลี้ยงมาเดิมทีนาเดียเป็นเจ้าหญิงของประเทศเอโรเนียแถบทวีปยุโรปและด้วยภัยทางการเมืองในประเทศทำให้ในวัยเด็กนาเดียต้องหลี้ภัยมาอยู่ที่ไทย และอีกอย่างคือไวท์กับนาเดียเป็นคู่หมั้นกันซึ่งไม่รู้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาไปตกลงเรื่องหมั้นกันอิตอนไหน

       “แล้ว...นิสาหละ ไวท์คิดยังไงกันเธอหรอ”

       “เออ...เอิม...อืม...รายนี้เริ่มจากตรงไหนดีละ ก็เรารู้จักกันตั้งแต่ม.1 ส่วนความประทับใจแรกก็ทะเลาะกันจะเป็นจะตายกันตั้งแต่เจอหน้ากันที่โรงเรียนตอนเช้ายันเดินกลับถึงบ้าน พอมารู้สึกตัวอีกทีก็ตัวติดกันยิ่งกว่าแฝดของเกลอีก...”

       เกลชื่อเล่นของนิสา พวกเราขอเรียกเธอว่านิสา สาวแว่นที่ดูจะพึ่งพาได้มากที่สุดเธอเป็นคนเก่งมากทั้งการเรียนและการใช้พลัง ฉันรู้จักนิสาเมื่อ 4 ปีก่อนจากเหตุการณ์จากเหตุการณ์ที่เรียกว่าภัยร้ายระดับแอลฟ่า นิสาคือคนที่พาฉันออกจากเขตอันตรายในตอนนั้น แล้วเราก็เจอกันอีกทีก็ตอนเข้ามาเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้

       อีกอย่างในรุ่นเราแล้วนิสากับฉันเป็นคนที่ป็อปแทบจะที่สุดของรุ่นเลยกระมัง(คนสวย+น่ารักก็แบบนี้หละ) ฉันยังจำได้เลยว่าฉันกับนิสาต้องมาคอยหลบพวกผู้ชายที่คอยมาตามจีบจนเธอต้องอัญเชิญไวท์มารับมาส่งทุกวัน ทำให้ผลเป็นอย่างที่เห็นคือไม่มีผู้ชายคนไหนย่างกายเข้ามาจีบอีกเลยส่วนฉันก็ได้ผลพลอยได้ไปด้วย

       ตัดกลับมาที่ไวท์กำลังพูดถึงนิสา

       “...คิดแล้วก็คิดถึงตอนนั้น...คิดย้อนกลับไปแล้วก็ตลกดีที่เกลชอบแอบเข้ามานอนห้องผมเดิมทีก็แค่อยากจะแกล้งนาเดียเล่นเท่านั้นเอง ทำไปทำมาจนเป็นนิสัยเลย..”

       อ้อแบบนี้นี่เอง เห้ย!!เดี๋ยวก่อนแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรอ

       “ไวท์ เอมสงสัยเรื่องแฝดของนิสา เธอเป็นคนแบบไหนหรอ"

       “อ่ออ เบลนะหรอ คนนี้คงต้องเท้าความยาวหน่อย....”

 ไม่ทันที่ไวท์จะพูดต่อ นิสากับนาเดียก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ สองคนนั้นมาพร้อมถาดใส่อาหารเช้ามานั่งข้างซ้ายขวาของไวท์

 เห้ยยยยย!! หลุดมาจากโซ่ขาวได้ไงนี่ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเลย

        “...พวกเธอสองคนเม้ามอยเรากับนาเดียถึงไหนแล้ว” นิสาเริ่มทักก่อน

        “ดูเหมือนพี่จ๋าจะพูดถึงเบลอยู่สินะ” นาเดียแทรกขึ้นมา

        "ชิ ยัยแมวขโมยนั่นนะหรอไม่เห็นจะต้องนึกถึงเลย” นิสาทำหน้าบึ้ง

        “ปากก็ว่าเขาเป็นแมวขโมย แต่เธอเองก็ทำให้เบลเป็นหนึ่งในผู้เสียหายแบบฉันนี่ไง”

       “ก็มันช่วยไม่ได้นี่ยัยนั่นอยากรนหาที่เอง เดี๋ยว!แล้วไหนเธอเป็นผู้เสียหายด้วยละเนี่ย”

แล้วทำไมกลายเป็นการทะเลาะของสองสาวไปได้ละ

        “เอมต้องระวังตัวด้วยนะ ถ้าไปสุงสิงกับยัยแว่นเฉิ่มนี่จะต้องกลายเป็นผู้เสียหายโดยไม่รู้ตัว”

แล้วทำไมฉันต้องโดนพ่วงเข้าไปด้วย

        “พอได้แล้วทั้งสองคน วันนี้เป็นเวรเกลกับน้องจ๋าที่ต้องเข้าแลปนะ” ไวท์ห้ามการทะเลาะของนิสากับนาเดียไว้

                นิสากับนาเดียก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ แล้วก็นั่งทานอาหารเช้าอย่างสงบ ฉันเองก็ทึ่งได้ตลอดเวลาที่ไวท์สามารถควบคุมทั้งนิสากับนาเดียได้ราวกับสั่งใช้งานหุ่นยนต์ แต่มาดนิ่งๆของไวท์ก็ดูเท่ไม่เบาเลย

               หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จนิสากับนาเดียก็ต้องไปช่วยศาสตราจารย์อรชุนทดสอบอุปกรณ์ใหม่ ที่ยังไงก็...กลายเป็นก้อนขยะอยู่ดี

                ได้โอกาสแล้ว

        “ไวท์วันนี้ไปไหนหรือเปล่า”

        “ไม่ได้ไปไหนนะ เอมมีอะไรหรอ”

                โอกาสมาแล้ว

        “คือ...คือว่า...ไปซื้อของด้วยกันหน่อย...ได้ไหม” โอ้ยยย พิรุธสุดๆแล้วท่าทางการพูดที่ตะกุกตะกักมันคืออะไร

        “อ่า ได้สิแล้วเอมไปที่ไหนหละ”

       ไวท์ก็ตอบง่ายเกินไปแล้ว แถมทำหน้านิ่งด้วย แต่ก็ช่างเถอะยังไงก็...ได้อยู่กันสองต่อสองแล้ว

       ฉันพาเขามาที่เขต 25
       เขต 25 เป็นเขตสำหรับค้าขายโดยเฉพาะไม่ว่าอยากจะได้อะไรที่นี่ก็มีขายทั้งหมด

       แต่ความจริงแล้วเขต 25 นี่เป็นสถานที่แรกที่ฉันเจอกับไวท์เมื่อ 2 กว่าปีก่อนต้อนนั้นฉันถูกพวกอาร์มเมอร์จับตัวมาทดลองบางอย่างจนฉันเกือบกลายเป็นตัวอะไรไม่รู้แต่ก็ได้ไวท์มาช่วยไว้ ถึงอย่างนั้นความทรงจำในช่วงที่ถูกจับมาก็หายไปราวกับว่าฉันไม่ต้องการจำเหตุการณ์อันเลวร้าย

       เราสองคนเดินออกมาจากสถานีรถไฟ

       “ไวท์ จำเขตนี้ได้ไหม”       

       “จำได้สิ ก็ตอนมาถล่มพวกอาร์มเมอร์ที่นี่ไง”

       “ถึงจะลืมช่วงนั้นไป แต่ก็มั่นใจนะว่าไวท์คือคนนี่ดึงฉันออกมาจากตู้นรกนั่นนะ”

       “จำผิดแล้วเอม ตอนนั้นผมกับทีมพบเอมนอนสลบอยู่บนพื้นอยู่เลยช่วยพาออกมา”

       เอาอีกแล้ว พอพูดถึงเรื่องความทรงจำหรือเรื่องในอดีตฉันมักจะมีความทรงจำที่แปลกออกไปจากคนอื่นเสมอ อ่าว่าแต่ความทรงจำที่ผิดออกจากชาวบ้านเลย ขนาดโพเทนซี่ของฉันยังไม่ปรากฏหรือมีสัญญาณอะไรออกมาเลย

       ยังไงก็ที่พาไวท์มาที่เขต 25 นี้ไม่ใช่มารื้อฟื้นความทรงจำอะไรหรอก ความจริงคืฉันตั้งใจจะมาเดทกับไวท์ ยิ่งไม่มีนาเดียกับนิสาด้วยแล้วการเดทครั้งนี้ต้องมีอะไรเปลี่ยนไปมั่งหละ

       “งั้นเอมเราเริ่มจากตรงนั้นดีไหม” ไวท์ชี้ไปทางร้านขายขนมเสียบไม้ร้านหนึ่ง

       “อืม” ฉันพยักหน้ารับ และไปที่ร้านขนมทันที

       หลังจากนั้นเราก็ไปกันหลายร้านไม่ว่าจะเป็นของกิน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ทั้งวันของวันนี้ฉันได้เห็นรอยยิ้มของไวท์บ่อยขึ้น แล้วยังได้รู้อีกว่าไวท์เองก็เป็นซุ่มซ่ามใช่ย่อย พอไวท์ปลดโหมดจริงจังออกก็กลายมาเป็นคนดูท่าทางตลกทันที

        พอพูดถึงโหมดจริงจังของไวท์พอเขาโหมดนี้ไวท์จะดูเป็นคนจริงจังหน้าตาขึงขัง แต่พอมาเป็นโหมดปรกติก็กลายมาเป็นคนที่ดูตลกไป ซุ่มซ่าม แถมก็ยังชอบยิงมุขแป็กอีก

       ถึงวันนี้ไวท์จะอยู่ในโหมดปรกติแทบจะตลอดทั้งวัน แต่ฉันรู้สึกได้ว่า...ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย

 

ในคืนนั้น

       ฉันโทรศัพท์ไปหาคนคนหนึ่ง นั่นคือชิตเพื่อนของฉัน

       ชิตเป็นชายหนุ่มผิวขาวสูง ผมดำสั้น เรารู้จักกันเพราะเรื่องที่มันดูโคตรจะน่าอายนั่นคือเรื่องที่เราสองคนหลงใหล Mask Man เหมือนกัน ไม่ใช่แค่หลงใหลแต่ถึงขนาดคลั่งไคล้เลยละ

“ไงเอม การเดทวันนี้เป็นไงบ้าง”

“ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เฮ้อออ” ฉันถอนหายใจ

“แต่อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่มีเรื่องที่ต้องใช้แรง”

“555 นั่นสิก็ปรกติพวกเราไปไหนมาไหนก็ชอบมีงานให้ทำตลอดเลย”

“นี่ชิต ฉันควรทำอย่างไรต่อไปดี”

“เธอนี่ก็น้า...มาขอคำแนะนำจากเราที่ยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนนี่นะ”

       มันก็จริง ก็ไม่รู้จะปรึกษาใครได้นิ จะให้ไปปรึกษาดรีมหรอ...หืมม...รายนั้นมีหวังโดนมุขเจ้าชู้มาเต็มๆ หรือจะไปปรึกษาเพื่อนสาวอย่างนิสากับนาเดีย รายนี้มีหวังโดนเก็บก่อน (อย่าให้เล่าเลยตอนปิดเทอมก่อนขึ้นปี2ได้ข่าวมาไวท์มีสาวมาจีบ ผลคือศพไม่สวย)

“เอาแบบนี้ไหม เอม ลองให้ได้อันดับสูงๆจากงานจัดอันดับพลังทั่วประเทศดุไหม ท่าทางนายไวท์จะชอบคนที่เก่ง มีพลังสูงๆนะ”

“นั่นสิๆ งันเราคงต้องมาพยายามกันแล้วละ เอ้อบอกดรีมด้วยอย่าโดดซ้อมบ่อยนัก ยังไงถ้าได้อันดับสูงมันก็ดีกับทุกฝ่ายด้วย”

“งันก็ดีลกันได้”

       //ก๊อกๆๆๆ// ทันให้นั้นเสียงเคาะประตูห้องของฉันก็ดังขึ้น

“มีคนเคาะประตู เออ...ยังไงก็เจอกันพรุ่งนี้นะ ชิต บาย”

“อ่ออ เค บาย”

       ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้วก็เดินไปเปิดประตู

       คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือ นิสา สาวแว่นประจำกลุ่มเราที่ปรกติมักจะยิ้มแย้มตลอดเวลา แต่ทำไมตอนนี้เธอทำหน้านิ่งตรึง ราวกันจะกลืนกินฉันที่อยู่ตรงหน้าเลย

       คงไม่มั้ง มาเจอโหมดจริงจังของนิสาตรงนี้อะนะ

       “ไงเอม...วันนี้...ไป...ไหน...มา”

       “เออ...นิสา ไปช็อปปิ้งมา”

       “หรอ แค่นั้นใช่ไหม ไม่ได้มีเรื่องอะไรนอกเหนือจากนี่ใช่ไหม”

       “แค่นี้...จริงๆ”

       “แล้วทำไมต้องพาไวท์ไปด้วย”

มาแล้วคำถามความยากระดับโอเมก้า จะตอบไงดีละทีนี้

       “ผมอยากไปเอง ก็มันวันหยุดว่างๆ ก็อยากไปเดินเล่นบ้าง” ชิตโผล่มาจากด้านหลังนิสา (รอดตายแล้ว)

       “งั้นหรอไวท์ ฉันเป็นห่วงนะ”

นิสาถอนหายใจ จากนั้นใบหน้าอันน่ากลัวของนิสาก็มีรอยยิ้มออกมา นิสากลับมาเป็นปรกติแล้ว

        “เอม เราขอโทษนะเราที่วิตกไป”

        “ไม่เป็นไรหรอกนิสา ฉันเข้าใจ” แต่ฉันเกือบตายแล้วไงถ้ารู้ว่าฉันลากเขาไปเที่ยวมีหวังตายแน่ๆ ขอบคุณนะไวท์

       หลังจากนั้นนิสากับไวท์ก็เดินกลับห้องของแต่ละคนไป ส่วนฉันก็ได้แค่ถอนหายใจ

นาเดียที่เดินขึ้นบันไดมาพอดีก็เดินเข้ามาหาฉันก่อนจะฉันจะปิดประตู

       “เอม เป็นยังไงบ้างวันนี้ ไปเดทกันพี่จ๋ามาสนุกไหม”

       “เอ๊ะ!!” ฉันหันกลับไปหานาเดียทันที ส่วนนาเดียก็เดินเข้ามากระซิบข้างหู

       “ฉันก็ไม่ได้จะว่าอะไรเธอหรอก ยังไงพี่จ๋าก็คือพี่จ่า บอกไว้ก่อนนะยิ่งเธอรู้สึกกับพี่จ๋ามากเท่าไหร่มันยิ่งเจ็บปวดมาเท่านั้น” นาเดียทำหน้าเศร้าและน้ำตาเริ่มคลอเบ้า

       "นาเดีย ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” มาเตือนฉันแต่น้ำตาคลอเบ้านี่อะนะ

       “ยังไงซะ พยายามเข้านะ” จากนั้นนาเดียก็เดินเข้าห้องของเธอไป

       ฉันก็กลับเข้าห้อง แล้วก็ลงนอนบนเตียงแล้วก็มีความคิดที่แล่นออกมา

       มันไม่ใช่เรื่องที่นิสาสงสัยในตัวฉัน มันไม่ใช่เรื่องที่ความคืนหน้าของไวท์กับฉัน แต่เป็นเรื่องของนาเดีย

‘นาเดีย...รู้ได้ไงว่า ฉัน ชอบ ไวท์’ *////////*

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา