Love You My Love รักเธอที่เป็นเธอ
9.6
เขียนโดย แม่หญิงเมืองสาคร
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.50 น.
9 ตอน
1 วิจารณ์
11.07K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2561 16.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) บทที่ 5 ความลับไม่มีในโลก (อัพ 100%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 5 ความลับไม่มีในโลก

พิมพ์ Part
“ว่าไงคะเพื่อนสาว โทรหาฉันแต่เช้ามีไรยะ” ฉันรีบรับสายโรส
“เย็นนี้ว่างไหมหมวย ไปหาไรกินกัน เพราะเดี๋ยวติดงานแล้วจะไม่ได้เจอแกหลายวันน่ะซิ”
“วันนี้ไม่ว่างว่ะแก มีนัดกับที่บ้าน เอ่อ...แกไปกินข้าวบ้านฉันไหม”นานแล้วที่โรสไม่ได้เจอเตี่ยกับม๊า ฉันเลยชวนเธอไปด้วยดีกว่า
“โอเค แวะมารับฉันที่โรงพยาบาลด้วยซิ วันนี้ฉันขอนอนกับแกนะ”
เอาใหญ่เชียว ได้ทีละใช้ฉันเลย แต่มีอีกอย่างที่เธอยังไม่รู้ว่าเฮียพอย์คู่กัดของเธอกลับมาแล้ว ถ้ารู้โรสคงไม่มาด้วยแน่นอน ไอ้คู่นี้ก็นะ เจอหน้ากันทีไรกัดกันทุกที
“ได้ ไว้ฉันไปรับตอนเย็นนะ”
“โอเคจ้า แล้วเจอกัน”
หมั่นไส้ทำเป็นพูดเพราะ รอตอนเย็นก่อนเถอะ เจอหน้าเฮียพอยท์ขึ้นมา หน้าคงบอกบุญไม่รับ
...เวลา5 โมงเย็น...
“เพื่อนเอ็งจะไปกินข้าวบ้านคนอื่นทั้งที ยังต้องลำบากให้เจ้าของบ้านไปรับอีก ยุ่งยากจริง” เฮียพอยท์บ่นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“น้อยๆ หน่อยเฮีย นั่นมันเพื่อนซี้น้องนะ ระวังเถอะ กัดกันไปกัดกันมา เดี๋ยวก็ลงเอยกันเอง”
เฮียพ๊อยที่ขับรถอยู่เอื้อมมือมาตบหัวฉันอย่างแรง
“โอ๊ยไอ้เฮีย พูดแค่นี้ทำไมต้องตบหัวแรงขนาดนี้ด้วย” ฉันร้องโว๊ยวาย
“สม...น้ำ...หน้า”
ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เฮียบ้า
เฮียพอยท์ค่อยๆ ชะลอจอดรถตรงหน้าโรงพยาบาล เมื่อโรสเห็นรถฉัน เธอจึงรีบเดินมาขึ้นรถทันที แต่เมื่อเธอเห็นหน้าผู้ชายคู่กัด จากหน้ายิ้มแย้มก็เปลี่ยนเป็นหน้ายู่โดยอัตโนมัติ
“นี่ จะไปไหม มัวแต่ลีลาอยู่ได้”
นั่นไงเจอกันปุ๊บก็ทักทายด้วยความสุภาพนิ่มนวลปั๊บ
“หมวย ไมแกไม่บอกฉันก่อนว่าเฮียพอยท์กลับมาแล้ว” นั่นไง จะมาถามอะไรตอนที่เฮียอยู่ด้วยล่ะ ฉันต้องปวดหัว เพราะรู้ว่าสงครามน้ำลายกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“พิมพ์ ช่วยบอกเพื่อนของเอ็งด้วยว่าถ้าไม่อยากไปก็เชิญลงได้ตามสบาย”
และแล้วสงครามน้ำลายก็เกิดขึ้นตามที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด ทำไมฉันถึงทายหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ
“หมวยช่วยบอกผู้ชายข้างๆ แกด้วยว่าหยุดพูดมาก มันน่ารำคาญ”
“พิมพ์ ช่วยบอกผู้หญิงที่นั่งหลังเอ็งว่าหยุดพูดมาก มันน่ารำคาญ”
“หมวย ช่วยบอกผู้ชายข้างๆแก ว่าไม่มีสมองคิดคำพูดเองหรือไง ถึงต้องเลียนแบบคำพูดของคนอื่น”
“พิมพ์ ช่วยบอกผู้หญิงที่นั่งหลังเอ็งว่าเฮียนี่มันสมองเป็นเลิศ”
“หมวยช่วยบอกผู้ชาย.......................”
“โอ๊ย!!!หยุด หยุดมันทั้งคู่นั่นแหล่ะ จะทะเลาะอะไรกันนักหนา เจอหน้ากันทีไร ต้องเป็นแบบนี้ทุกที”
ฉันร้องตะโกนห้ามทัพไว้ด้วยความรำคาญ และมันก็ได้ผล เพราะทุกคนในรถนั่งเงียบกริบ ไม่มีใครปริปาก หรือพูดคุยใดๆ ออกมาอีกจนกระทั่งถึงบ้าน
“มาแล้วหรอ แม่ลูกสาวตัวดีของม๊า และนี่ลูกโรสก็หายหน้าหายตาไปทั้งคู่เลยนะ” ม๊าเดินมากอดฉัน และโรส
“แล้วพอยท์ล่ะม๊า” เฮียพ๊อยพูดแบบงอนๆ
“อะไรตาพอยท์ ม๊าก็คิดถึงแกเหมือนกันนั่นแหล่ะ” ม๊าพูดพร้อมเดินเข้าไปตีแขนเฮีย
ทุกคนยิ้มกับภาพที่เห็นตรงหน้า แต่มีหนึ่งคนที่ไม่ยอมยิ้มตาม เพราะเหมือนว่าจะรู้สึกสะใจกับการที่เฮียพอยท์ถูกตีซะมากกว่า
“ตีแรงๆเลยค่ะม๊า”
“พอๆ มาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วนะ เตี่ยหิวข้าวละเราไปทานข้าวกันเถอะ” เตี่ยพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเราอยู่กันครบแล้ว
“สายใจ จัดสำรับกับข้าวพร้อมหรือยัง” เตี่ยหันไปถามพี่สายใจ แม่บ้านมือหนึ่งของบ้านเรา
“พร้อมแล้วค่ะท่าน” พี่สายใจตอบรับ แล้วเดินนำหน้าพวกเราทุกคนไปยังห้องอาหาร
“ยังไม่ครบค่ะคุณ ขาดคนที่ช่วยฉันไว้ วันนี้ฉันนัดเขามาร่วมทานข้าวกับเรา เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยฉันค่ะ” ม๊าหันไปบอกเตี่ย
“ใครครับม๊า” เฮียพอสหันไปถาม
“สวัสดีครับทุกคนวันนี้ผมขอฝากท้องไว้ด้วยนะครับ”เสียงที่เอ่ยสวัสดีเรียกสายตาของทุกคนให้หันไปยังประตู ส่วนฉัน โรส เฮียพอยท์ ต่างก็สตั้นเมื่อเห็นบุคคลที่ปรากฏ

“ไอ้พอล แกมาได้ไงวะ” เฮียพอยท์ถามพร้อมกับเดินเข้าไปตบไหล่เพื่อนของเขา
“อ้าวพอยท์ รู้จักคุณหมอพอลด้วยหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความประหลาดใจนิดๆ
“รู้จักครับก็ไอ้พอลมันเป็นเพื่อนพอยท์ตอนเรียนหมอไงม๊าแถมตอนนี้มันยังเป็นเพื่อนบ้านของไอ้พิมพ์อีก ...เฮ้ย!!!...” เฮียพอยท์ร้องออกมาด้วยความตกใจ เหมือนเพิ่งนึกอะไรออก แล้วมองมาทางฉัน
“...เฮ้ย!!!...” คราวนี้เป็นฉันอีกหนึ่งคนที่ต้องตกใจเหมือนกัน ก็เพราะว่าเฮียดันไปโกหกเขาว่าเป็นแฟนกับฉันนะซิ ความลับแตกก็งานนี้แหล่ะ
“สงสัยงานนี้ผมคงต้องมีเรื่องเคลียร์กับเพื่อนผมยาว เพราะไม่ได้เจอกันนาน โลกมันช่างกลมจริงๆนะครับคุณผู้หญิง” อีตาบ้าพูดไปยิ้มไป แถมยังส่งยิ้มแบบมีเลศนัยมาทางฉันและเฮียพอยท์อีก
“คุณผู้หญิงอะไรกันหมอพอล นี่เป็นเพื่อนลูกของม๊าก็เรียกว่าม๊าเถอะ ไม่ต้องเรียกคุณผู้หญิงให้ยืดยาวหรอก” ดูเหมือนม๊าจะถูกชะตากับอีตานี่เข้าให้แล้วล่ะ
“เอ๊าๆ ทุกคนพร้อมหรือยัง เตี่ยหิวจะแย่แล้วเนี่ย ครบทุกคนนะคุณ” เตี่ยหันไปถามม๊า
“ครบแล้วค่ะ ปะลูกๆ วันนี้ม๊ามีความสุขม๊ากมาก ที่ลูกๆอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ม๊าเตรียมของ อร่อยๆไว้เพียบเลย ทานกันให้หมดนะจ๊ะ”
ม๊าเดินโอบฉันกับโรสเข้ามาที่ห้องอาหาร ใบหน้าของท่านบ่งบอกว่ามีความสุขมากจริงๆ แต่คงยกเว้นฉัน และโรส ที่ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมไปกับการรับประทานอาหารในครั้งนี้สักท่าไหร่ ถึงแม้ว่าในวงอาหารจะมีทั้งเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะตลอดก็เถอะ
เวลาผ่านล่วงเลยมาจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง
“พิมพ์ ม๊าให้พี่สายใจเตรียมห้อง และชุดไว้ให้หนูกับลูกโรสแล้วนะ ส่วนลูกพอลตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว นอนค้างที่นี่ดีไหมลูก ขับรถขับราตอนกลางคืนมันอันตราย นอนกับตาพอยท์ก็ได้”
“ขอบคุณครับม๊า ไว้โอกาสหน้านะครับ เพราะผมต้องกลับไปวินิจฉัยเคสผ่าตัดของคนไข้ต่อ”
โอกาสหน้า หมายความว่ายังจะมาที่บ้านฉันอีกหรอ ฉันไม่ต้อนรับนะ
“เอางั้นหรอ ก็ได้จ๊ะ ไงม๊าก็ขอบใจที่ลูกช่วยม๊าไว้นะ ถ้าไม่ได้ลูกช่วยไว้ป่านนี้คงแย่แน่”
"ยินดีครับ วันหลังม๊าต้องระวังตัวให้มากกว่านี้นะครับ เพราะคนสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้ แล้วยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยต้องยิ่งระวัง"
"วันหลังม๊าห้ามไปไหนคนเดียวเด็ดขาด ต้องบอกพอส หรือไม่ก็ให้พี่สายใจไปเป็นเพื่อน" เฮียพอสสั่ง
"ขืนม๊ารอแก ม๊าไม่เหี่ยวหนักกว่านี้หรอตาพอส งานแกก็เยอะแยะ ม๊ารอไม่ไหวหรอก ไว้พาสายใจหรือเตี่ยแกไปด้วย แค่นี้ม๊าก็เข็ดแล้ว"
"ไงก็ได้ม๊า แค่อย่าไปคนเดียวพอ"
"ตามนั้น...ปะคุณ เราขึ้นนอนกันดีกว่า ปล่อยให้วัยรุ่นเขาอยู่ด้วยกัน คนแก่อย่างเราควรไปนอนได้แล้ว"
“งั้นเตี่ยกับม๊าขอตัวนะเด็กๆ”
เตี่ยฉันค่อยๆโอบประคองม๊าเดินขึ้นบันไดไปยังห้องพักของท่าน พวกเราทุกคนมองภาพที่อยู่เบื้องหน้าแล้วยิ้มให้กับความรักของคนทั้งคู่ ฉันอยากเจอคนที่เหมือนเตี่ย แต่พอเจอแล้วเขากลับไม่อยู่กับฉัน สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย
“เอ่อพิมพ์...”
เฮียพอสเรียกฉัน ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ของตัวเอง “มีไรเฮีย”
“อีกสองวันเตรียมตัวไว้ เฮียจะขึ้นเหนือไปดูงานที่นั่นหนึ่งอาทิตย์ เฮียจะให้พิมพ์ไปดูโครงการ แล้วสรุปยอดคราวๆมาให้เฮีย ส่วนโปรเจคใหม่ไว้ก่อน หลังจากกลับมาค่อยลุยกันต่อ”
ฉันพยักหน้ารับทราบคำสั่งของเฮีย
“ไปๆ สาวๆ ไปนอนกันได้แล้ว ตรงนี้ที่ของคนหล่อ คนหล่อเขาจะคุยกัน”
ว่าแล้วเฮียพอยท์ก็ไล่ฉันกับโรสขึ้นนอน ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ชายจะตั้งก๊งเหล้ากันนั่นเอง ถึงไม่ไล่ ฉันก็จะชิ่งอยู่แล้ว
"ไปเถอะโรส ที่ตรงนี้ไม่เหมาะกับคนสวยๆอย่างเราหรอก ขึ้นห้องกันดีกว่า"
"จริงของแก ไปเหอะ"

พอยท์ Part
ผมไล่ให้พิมพ์กับยัยตัวจุ้นจ้านที่ผมไม่ค่อยลงรอยกับเธอไปนอน เพราะผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเพื่อนตัวเอง พร้อมมีเฮียพอสเป็นพยาน จะเรื่องอะไรซะอีกล่ะ ก็เรื่องที่ผมไปโกหกมันว่าเป็นแฟนกับน้องตัวเองไง ความลับแตกขนาดนี้ เห็นทีคงต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนไปเลย
“มึงมีไรจะสารภาพกับกูก็ว่ามา” ไอ้พอลเป็นคนเปิดประเด็น ทำให้เฮียพอสที่นั่งดื่มอยู่ต้องหันไปมองหน้ามันแบบข้องใจ
“นี่พวกเอ็งเป็นไรกันวะ เห็นท่าทางแปลกๆ ตั้งแต่เจอกันล่ะ” เฮียพอสถามพวกเราออกมาตรงๆ ก็เฮียผมมันเป็นคนชอบสังเกต เอาง่ายๆ ชอบจับผิดมันทุกเรื่องอยู่แล้ว
“เฮียมึงไม่ต้องถามไรมาก มึงนั่งฟังพวกอั๊วคุยกัน จะเข้าใจเอง” เฮียพอสพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่ผมพูด
ผมไม่ได้เป็นคนก้าวร้าวนะแต่ผมกับเฮียเราเกิดห่างกันแค่ไม่กี่ปีแถมยังสนิทกันมาก เพราะฉะนั้นนี่เป็นเรื่องปกติที่เราพูดกันแบบนี้
“กูขอโทษที่โกหกมึงเรื่องพิมพ์ เพราะกูอ่านสายตามึงที่มีต่อน้องกูออก กูเลยต้องการกันไม่ให้มึงมายุ่งกับน้องกู” ผมพูดกับมันตรงๆ แบบไม่มีทีท่าว่าเครียดหรือกลัวมันเคือง
“มึงขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ ไม่ใช่กูไม่รู้สาเหตุที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้” ผมหยิบแก้วขึ้นมาดื่มก่อนจะพูดต่อ
“ตอนแรกกูคิดแบบนั้น แต่พอฟังน้องกูเล่าว่ามึงเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตน้องกูยังไง สิ่งที่กูคิดจะขัดขวางมึงก็ลดลง เพราะการที่มึงเข้าหาน้องกูแบบนั้น กูคิดว่ามึงคงจะจริงจังกับน้องกูจริง และกูคิดว่า มึงจะเป็นคนที่ทำให้น้องกูกลับมาเป็นพิมพ์คนเดิมได้” ผมพูดอธิบายให้เพื่อนผมรับรู้ในสิ่งที่ผมทำไป
“อืม เข้าใจละ” เฮียพอสพูดเสริมขึ้น “ถ้าเอ็งเห็นว่าเพื่อนคนนี้จะทำให้พิมพ์ลืมไอ้เต้มันได้ อั๊วก็เชื่อใจ ลื้อคงเลือกคนไม่ผิด” เฮียพอสเอื้อมมือมาตบไหล่ผม ก่อนจะชี้ไปทางหน้าไอ้พอล
“ส่วนเอ็งไอ้พอล ถ้าไม่คิดจะจริงจังกับพิมพ์ ก็ควรถอนตัวตั้งแต่ตอนนี้ เพราะอั๊วไม่ต้องการให้น้องมาเสียใจกับเรื่องนี้อีก"
"แล้วเอ็งคิดว่าจะรับผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วได้หรือเปล่า”
ผมกับเฮียต่างก็หันไปจ้องไอ้พอล เพื่อรอให้มันพูดอะไรออกมาบ้าง มันจ้องมาทางผมกับเฮียแบบจริงจัง
“ถ้าผมจะรักผู้หญิงคนหนึ่ง ผมไม่สนใจหรอกว่าในอดีตเธอจะเป็นใคร หรือทำอะไรมาก่อน ผมสนใจแค่ว่าเธอทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ผมเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่ใกล้เธอ ผมไม่เป็นตัวของตัวเองเมื่อเธออยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่น และผมก็เป็นแบบนั้นกับพิมพ์ พอผมได้รู้จักเธอถึงแม้ว่าจะเจอกันไม่กี่ครั้งก็ตาม แต่เธอมีพลังดึงดูดทำให้ผมอยากเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ผมเลิกกับแฟนคนเก่ามาผมยังไม่เจอใครที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ แม้แต่แฟนเก่าของผมเอง ผมก็ไม่เคยรู้สึกมากมายขนาดนี้” ไอ้พอลพูดถึงความรู้สึกของมันให้ผมกับเฮียพอสฟัง พวกเรานั่งฟังมันอย่างเงียบๆ
“แล้วยิ่งตอนที่ผมยังไม่รู้ว่าไอ้พอลกับพิมพ์เป็นพี่น้องกัน ผมแทบคลั่ง” แววตาของมันตอนนี้เริ่มอ่อนไหว “พิมพ์เป็นผู้หญิงที่อันตรายจริงๆ...หึหึ”
“ความรู้สึกแบบนี้ มันคงไม่ใช่แค่หลง หรือชอบธรรมดา แต่ผมคิดว่าผมรักน้องสาวของพวกคุณเข้าแล้ว” มันยกแก้วที่วางตรงหน้ากระดกจนหมด
“เฮียพอสช่วยเล่าเรื่องของพิมพ์ให้ผมฟังได้ไหมครับ”ไอ้พอลถามเฮียแต่เฮียกลับถอนหายใจแล้วหันมาทางผม ก่อนจะพูดประโยคที่ไม่ได้ไขข้อสงสัยให้มันรู้เลย
“เรื่องนั้นอั๊วคงเล่าให้เอ็งฟังไม่ได้หรอก”
“มึงคงต้องรู้จากปากของพิมพ์เอง เพราะถ้าเมื่อไหร่ ที่พิมพ์มันยอมเล่าเรื่องนี้ให้มึงฟัง แสดงว่ามึงคือคนที่พิมพ์อยากให้รู้ และไว้ใจ” ผมเสริมเฮียพอสต่อ
“กูว่าสิ่งแรกที่มึงควรจะทำตอนนี้คือ ควรทำให้ไอ้พิมพ์มันยอมคุยกับมึงก่อนเถอะไอ้หมอ...เหอๆ” ผมหัวเราะเยาะมัน
“ตี๋ ลื้อนี่ร้ายนะ ไม่เคยบอกเพื่อนเลยรึ ว่ามีน้องสาว” เฮียพอสหันมาถามผมแบบขำๆ
“ไม่เคยอ่ะเฮีย เพราะอั๊วหวง”
เมื่อทุกคนได้ยินคำตอบก็หัวเราะให้กับความขี้หวงน้องสาวของผม
“เอ๊ายกๆ หมดแก้ว” แกร๊ง!!!
................ไฟเขียว..................
อัพ 100%
- และแล้ว ความลับที่อำเพื่อนตัวเองก็แตกจนได้ เฮียพอยท์นะเฮียพอยท์ ขี้หวงน้องสาวชะมัด เป็นไงล่ะ ไปต่อไม่ถูกจนต้องมานั่งเคลียร์กันตรงๆไปเลย แต่ก็ดีเหมือนกันเนอะ อย่างน้อยก็ได้รู้ความคิดของหมอพอลที่มีต่อหมวย งานนี้หมวยจะมีความรักครั้งใหม่ได้ไหมหนอ? แต่ที่แน่ๆ หมอผ่านด่านเฮียของหมวยไปแล้วถึงสองคน แถมยังมีม๊าเป็นกำลังเสริมอีกต่างหาก หมวยเอ้ย!!! จะรับมือไหวไหม
ปล.เขาไปทำงานที่ ตจว.มาเลยไม่ได้อัพหลายวัน วันนี้กลับมาถึง กทม.แล้ว มาอัพให้อ่านกันแล้วนะคะ❤️

พิมพ์ Part
“ว่าไงคะเพื่อนสาว โทรหาฉันแต่เช้ามีไรยะ” ฉันรีบรับสายโรส
“เย็นนี้ว่างไหมหมวย ไปหาไรกินกัน เพราะเดี๋ยวติดงานแล้วจะไม่ได้เจอแกหลายวันน่ะซิ”
“วันนี้ไม่ว่างว่ะแก มีนัดกับที่บ้าน เอ่อ...แกไปกินข้าวบ้านฉันไหม”นานแล้วที่โรสไม่ได้เจอเตี่ยกับม๊า ฉันเลยชวนเธอไปด้วยดีกว่า
“โอเค แวะมารับฉันที่โรงพยาบาลด้วยซิ วันนี้ฉันขอนอนกับแกนะ”
เอาใหญ่เชียว ได้ทีละใช้ฉันเลย แต่มีอีกอย่างที่เธอยังไม่รู้ว่าเฮียพอย์คู่กัดของเธอกลับมาแล้ว ถ้ารู้โรสคงไม่มาด้วยแน่นอน ไอ้คู่นี้ก็นะ เจอหน้ากันทีไรกัดกันทุกที
“ได้ ไว้ฉันไปรับตอนเย็นนะ”
“โอเคจ้า แล้วเจอกัน”
หมั่นไส้ทำเป็นพูดเพราะ รอตอนเย็นก่อนเถอะ เจอหน้าเฮียพอยท์ขึ้นมา หน้าคงบอกบุญไม่รับ
...เวลา5 โมงเย็น...
“เพื่อนเอ็งจะไปกินข้าวบ้านคนอื่นทั้งที ยังต้องลำบากให้เจ้าของบ้านไปรับอีก ยุ่งยากจริง” เฮียพอยท์บ่นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“น้อยๆ หน่อยเฮีย นั่นมันเพื่อนซี้น้องนะ ระวังเถอะ กัดกันไปกัดกันมา เดี๋ยวก็ลงเอยกันเอง”
เฮียพ๊อยที่ขับรถอยู่เอื้อมมือมาตบหัวฉันอย่างแรง
“โอ๊ยไอ้เฮีย พูดแค่นี้ทำไมต้องตบหัวแรงขนาดนี้ด้วย” ฉันร้องโว๊ยวาย
“สม...น้ำ...หน้า”
ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เฮียบ้า
เฮียพอยท์ค่อยๆ ชะลอจอดรถตรงหน้าโรงพยาบาล เมื่อโรสเห็นรถฉัน เธอจึงรีบเดินมาขึ้นรถทันที แต่เมื่อเธอเห็นหน้าผู้ชายคู่กัด จากหน้ายิ้มแย้มก็เปลี่ยนเป็นหน้ายู่โดยอัตโนมัติ
“นี่ จะไปไหม มัวแต่ลีลาอยู่ได้”
นั่นไงเจอกันปุ๊บก็ทักทายด้วยความสุภาพนิ่มนวลปั๊บ
“หมวย ไมแกไม่บอกฉันก่อนว่าเฮียพอยท์กลับมาแล้ว” นั่นไง จะมาถามอะไรตอนที่เฮียอยู่ด้วยล่ะ ฉันต้องปวดหัว เพราะรู้ว่าสงครามน้ำลายกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“พิมพ์ ช่วยบอกเพื่อนของเอ็งด้วยว่าถ้าไม่อยากไปก็เชิญลงได้ตามสบาย”
และแล้วสงครามน้ำลายก็เกิดขึ้นตามที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด ทำไมฉันถึงทายหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ
“หมวยช่วยบอกผู้ชายข้างๆ แกด้วยว่าหยุดพูดมาก มันน่ารำคาญ”
“พิมพ์ ช่วยบอกผู้หญิงที่นั่งหลังเอ็งว่าหยุดพูดมาก มันน่ารำคาญ”
“หมวย ช่วยบอกผู้ชายข้างๆแก ว่าไม่มีสมองคิดคำพูดเองหรือไง ถึงต้องเลียนแบบคำพูดของคนอื่น”
“พิมพ์ ช่วยบอกผู้หญิงที่นั่งหลังเอ็งว่าเฮียนี่มันสมองเป็นเลิศ”
“หมวยช่วยบอกผู้ชาย.......................”
“โอ๊ย!!!หยุด หยุดมันทั้งคู่นั่นแหล่ะ จะทะเลาะอะไรกันนักหนา เจอหน้ากันทีไร ต้องเป็นแบบนี้ทุกที”
ฉันร้องตะโกนห้ามทัพไว้ด้วยความรำคาญ และมันก็ได้ผล เพราะทุกคนในรถนั่งเงียบกริบ ไม่มีใครปริปาก หรือพูดคุยใดๆ ออกมาอีกจนกระทั่งถึงบ้าน
“มาแล้วหรอ แม่ลูกสาวตัวดีของม๊า และนี่ลูกโรสก็หายหน้าหายตาไปทั้งคู่เลยนะ” ม๊าเดินมากอดฉัน และโรส
“แล้วพอยท์ล่ะม๊า” เฮียพ๊อยพูดแบบงอนๆ
“อะไรตาพอยท์ ม๊าก็คิดถึงแกเหมือนกันนั่นแหล่ะ” ม๊าพูดพร้อมเดินเข้าไปตีแขนเฮีย
ทุกคนยิ้มกับภาพที่เห็นตรงหน้า แต่มีหนึ่งคนที่ไม่ยอมยิ้มตาม เพราะเหมือนว่าจะรู้สึกสะใจกับการที่เฮียพอยท์ถูกตีซะมากกว่า
“ตีแรงๆเลยค่ะม๊า”
“พอๆ มาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วนะ เตี่ยหิวข้าวละเราไปทานข้าวกันเถอะ” เตี่ยพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเราอยู่กันครบแล้ว
“สายใจ จัดสำรับกับข้าวพร้อมหรือยัง” เตี่ยหันไปถามพี่สายใจ แม่บ้านมือหนึ่งของบ้านเรา
“พร้อมแล้วค่ะท่าน” พี่สายใจตอบรับ แล้วเดินนำหน้าพวกเราทุกคนไปยังห้องอาหาร
“ยังไม่ครบค่ะคุณ ขาดคนที่ช่วยฉันไว้ วันนี้ฉันนัดเขามาร่วมทานข้าวกับเรา เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยฉันค่ะ” ม๊าหันไปบอกเตี่ย
“ใครครับม๊า” เฮียพอสหันไปถาม
“สวัสดีครับทุกคนวันนี้ผมขอฝากท้องไว้ด้วยนะครับ”เสียงที่เอ่ยสวัสดีเรียกสายตาของทุกคนให้หันไปยังประตู ส่วนฉัน โรส เฮียพอยท์ ต่างก็สตั้นเมื่อเห็นบุคคลที่ปรากฏ

“ไอ้พอล แกมาได้ไงวะ” เฮียพอยท์ถามพร้อมกับเดินเข้าไปตบไหล่เพื่อนของเขา
“อ้าวพอยท์ รู้จักคุณหมอพอลด้วยหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความประหลาดใจนิดๆ
“รู้จักครับก็ไอ้พอลมันเป็นเพื่อนพอยท์ตอนเรียนหมอไงม๊าแถมตอนนี้มันยังเป็นเพื่อนบ้านของไอ้พิมพ์อีก ...เฮ้ย!!!...” เฮียพอยท์ร้องออกมาด้วยความตกใจ เหมือนเพิ่งนึกอะไรออก แล้วมองมาทางฉัน
“...เฮ้ย!!!...” คราวนี้เป็นฉันอีกหนึ่งคนที่ต้องตกใจเหมือนกัน ก็เพราะว่าเฮียดันไปโกหกเขาว่าเป็นแฟนกับฉันนะซิ ความลับแตกก็งานนี้แหล่ะ
“สงสัยงานนี้ผมคงต้องมีเรื่องเคลียร์กับเพื่อนผมยาว เพราะไม่ได้เจอกันนาน โลกมันช่างกลมจริงๆนะครับคุณผู้หญิง” อีตาบ้าพูดไปยิ้มไป แถมยังส่งยิ้มแบบมีเลศนัยมาทางฉันและเฮียพอยท์อีก
“คุณผู้หญิงอะไรกันหมอพอล นี่เป็นเพื่อนลูกของม๊าก็เรียกว่าม๊าเถอะ ไม่ต้องเรียกคุณผู้หญิงให้ยืดยาวหรอก” ดูเหมือนม๊าจะถูกชะตากับอีตานี่เข้าให้แล้วล่ะ
“เอ๊าๆ ทุกคนพร้อมหรือยัง เตี่ยหิวจะแย่แล้วเนี่ย ครบทุกคนนะคุณ” เตี่ยหันไปถามม๊า
“ครบแล้วค่ะ ปะลูกๆ วันนี้ม๊ามีความสุขม๊ากมาก ที่ลูกๆอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ม๊าเตรียมของ อร่อยๆไว้เพียบเลย ทานกันให้หมดนะจ๊ะ”
ม๊าเดินโอบฉันกับโรสเข้ามาที่ห้องอาหาร ใบหน้าของท่านบ่งบอกว่ามีความสุขมากจริงๆ แต่คงยกเว้นฉัน และโรส ที่ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมไปกับการรับประทานอาหารในครั้งนี้สักท่าไหร่ ถึงแม้ว่าในวงอาหารจะมีทั้งเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะตลอดก็เถอะ
เวลาผ่านล่วงเลยมาจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง
“พิมพ์ ม๊าให้พี่สายใจเตรียมห้อง และชุดไว้ให้หนูกับลูกโรสแล้วนะ ส่วนลูกพอลตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว นอนค้างที่นี่ดีไหมลูก ขับรถขับราตอนกลางคืนมันอันตราย นอนกับตาพอยท์ก็ได้”
“ขอบคุณครับม๊า ไว้โอกาสหน้านะครับ เพราะผมต้องกลับไปวินิจฉัยเคสผ่าตัดของคนไข้ต่อ”
โอกาสหน้า หมายความว่ายังจะมาที่บ้านฉันอีกหรอ ฉันไม่ต้อนรับนะ
“เอางั้นหรอ ก็ได้จ๊ะ ไงม๊าก็ขอบใจที่ลูกช่วยม๊าไว้นะ ถ้าไม่ได้ลูกช่วยไว้ป่านนี้คงแย่แน่”
"ยินดีครับ วันหลังม๊าต้องระวังตัวให้มากกว่านี้นะครับ เพราะคนสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้ แล้วยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยต้องยิ่งระวัง"
"วันหลังม๊าห้ามไปไหนคนเดียวเด็ดขาด ต้องบอกพอส หรือไม่ก็ให้พี่สายใจไปเป็นเพื่อน" เฮียพอสสั่ง
"ขืนม๊ารอแก ม๊าไม่เหี่ยวหนักกว่านี้หรอตาพอส งานแกก็เยอะแยะ ม๊ารอไม่ไหวหรอก ไว้พาสายใจหรือเตี่ยแกไปด้วย แค่นี้ม๊าก็เข็ดแล้ว"
"ไงก็ได้ม๊า แค่อย่าไปคนเดียวพอ"
"ตามนั้น...ปะคุณ เราขึ้นนอนกันดีกว่า ปล่อยให้วัยรุ่นเขาอยู่ด้วยกัน คนแก่อย่างเราควรไปนอนได้แล้ว"
“งั้นเตี่ยกับม๊าขอตัวนะเด็กๆ”
เตี่ยฉันค่อยๆโอบประคองม๊าเดินขึ้นบันไดไปยังห้องพักของท่าน พวกเราทุกคนมองภาพที่อยู่เบื้องหน้าแล้วยิ้มให้กับความรักของคนทั้งคู่ ฉันอยากเจอคนที่เหมือนเตี่ย แต่พอเจอแล้วเขากลับไม่อยู่กับฉัน สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย
“เอ่อพิมพ์...”
เฮียพอสเรียกฉัน ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ของตัวเอง “มีไรเฮีย”
“อีกสองวันเตรียมตัวไว้ เฮียจะขึ้นเหนือไปดูงานที่นั่นหนึ่งอาทิตย์ เฮียจะให้พิมพ์ไปดูโครงการ แล้วสรุปยอดคราวๆมาให้เฮีย ส่วนโปรเจคใหม่ไว้ก่อน หลังจากกลับมาค่อยลุยกันต่อ”
ฉันพยักหน้ารับทราบคำสั่งของเฮีย
“ไปๆ สาวๆ ไปนอนกันได้แล้ว ตรงนี้ที่ของคนหล่อ คนหล่อเขาจะคุยกัน”
ว่าแล้วเฮียพอยท์ก็ไล่ฉันกับโรสขึ้นนอน ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ชายจะตั้งก๊งเหล้ากันนั่นเอง ถึงไม่ไล่ ฉันก็จะชิ่งอยู่แล้ว
"ไปเถอะโรส ที่ตรงนี้ไม่เหมาะกับคนสวยๆอย่างเราหรอก ขึ้นห้องกันดีกว่า"
"จริงของแก ไปเหอะ"

พอยท์ Part
ผมไล่ให้พิมพ์กับยัยตัวจุ้นจ้านที่ผมไม่ค่อยลงรอยกับเธอไปนอน เพราะผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับเพื่อนตัวเอง พร้อมมีเฮียพอสเป็นพยาน จะเรื่องอะไรซะอีกล่ะ ก็เรื่องที่ผมไปโกหกมันว่าเป็นแฟนกับน้องตัวเองไง ความลับแตกขนาดนี้ เห็นทีคงต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนไปเลย
“มึงมีไรจะสารภาพกับกูก็ว่ามา” ไอ้พอลเป็นคนเปิดประเด็น ทำให้เฮียพอสที่นั่งดื่มอยู่ต้องหันไปมองหน้ามันแบบข้องใจ
“นี่พวกเอ็งเป็นไรกันวะ เห็นท่าทางแปลกๆ ตั้งแต่เจอกันล่ะ” เฮียพอสถามพวกเราออกมาตรงๆ ก็เฮียผมมันเป็นคนชอบสังเกต เอาง่ายๆ ชอบจับผิดมันทุกเรื่องอยู่แล้ว
“เฮียมึงไม่ต้องถามไรมาก มึงนั่งฟังพวกอั๊วคุยกัน จะเข้าใจเอง” เฮียพอสพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่ผมพูด
ผมไม่ได้เป็นคนก้าวร้าวนะแต่ผมกับเฮียเราเกิดห่างกันแค่ไม่กี่ปีแถมยังสนิทกันมาก เพราะฉะนั้นนี่เป็นเรื่องปกติที่เราพูดกันแบบนี้
“กูขอโทษที่โกหกมึงเรื่องพิมพ์ เพราะกูอ่านสายตามึงที่มีต่อน้องกูออก กูเลยต้องการกันไม่ให้มึงมายุ่งกับน้องกู” ผมพูดกับมันตรงๆ แบบไม่มีทีท่าว่าเครียดหรือกลัวมันเคือง
“มึงขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ ไม่ใช่กูไม่รู้สาเหตุที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้” ผมหยิบแก้วขึ้นมาดื่มก่อนจะพูดต่อ
“ตอนแรกกูคิดแบบนั้น แต่พอฟังน้องกูเล่าว่ามึงเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตน้องกูยังไง สิ่งที่กูคิดจะขัดขวางมึงก็ลดลง เพราะการที่มึงเข้าหาน้องกูแบบนั้น กูคิดว่ามึงคงจะจริงจังกับน้องกูจริง และกูคิดว่า มึงจะเป็นคนที่ทำให้น้องกูกลับมาเป็นพิมพ์คนเดิมได้” ผมพูดอธิบายให้เพื่อนผมรับรู้ในสิ่งที่ผมทำไป
“อืม เข้าใจละ” เฮียพอสพูดเสริมขึ้น “ถ้าเอ็งเห็นว่าเพื่อนคนนี้จะทำให้พิมพ์ลืมไอ้เต้มันได้ อั๊วก็เชื่อใจ ลื้อคงเลือกคนไม่ผิด” เฮียพอสเอื้อมมือมาตบไหล่ผม ก่อนจะชี้ไปทางหน้าไอ้พอล
“ส่วนเอ็งไอ้พอล ถ้าไม่คิดจะจริงจังกับพิมพ์ ก็ควรถอนตัวตั้งแต่ตอนนี้ เพราะอั๊วไม่ต้องการให้น้องมาเสียใจกับเรื่องนี้อีก"
"แล้วเอ็งคิดว่าจะรับผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วได้หรือเปล่า”
ผมกับเฮียต่างก็หันไปจ้องไอ้พอล เพื่อรอให้มันพูดอะไรออกมาบ้าง มันจ้องมาทางผมกับเฮียแบบจริงจัง
“ถ้าผมจะรักผู้หญิงคนหนึ่ง ผมไม่สนใจหรอกว่าในอดีตเธอจะเป็นใคร หรือทำอะไรมาก่อน ผมสนใจแค่ว่าเธอทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ผมเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่ใกล้เธอ ผมไม่เป็นตัวของตัวเองเมื่อเธออยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่น และผมก็เป็นแบบนั้นกับพิมพ์ พอผมได้รู้จักเธอถึงแม้ว่าจะเจอกันไม่กี่ครั้งก็ตาม แต่เธอมีพลังดึงดูดทำให้ผมอยากเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ผมเลิกกับแฟนคนเก่ามาผมยังไม่เจอใครที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ แม้แต่แฟนเก่าของผมเอง ผมก็ไม่เคยรู้สึกมากมายขนาดนี้” ไอ้พอลพูดถึงความรู้สึกของมันให้ผมกับเฮียพอสฟัง พวกเรานั่งฟังมันอย่างเงียบๆ
“แล้วยิ่งตอนที่ผมยังไม่รู้ว่าไอ้พอลกับพิมพ์เป็นพี่น้องกัน ผมแทบคลั่ง” แววตาของมันตอนนี้เริ่มอ่อนไหว “พิมพ์เป็นผู้หญิงที่อันตรายจริงๆ...หึหึ”
“ความรู้สึกแบบนี้ มันคงไม่ใช่แค่หลง หรือชอบธรรมดา แต่ผมคิดว่าผมรักน้องสาวของพวกคุณเข้าแล้ว” มันยกแก้วที่วางตรงหน้ากระดกจนหมด
“เฮียพอสช่วยเล่าเรื่องของพิมพ์ให้ผมฟังได้ไหมครับ”ไอ้พอลถามเฮียแต่เฮียกลับถอนหายใจแล้วหันมาทางผม ก่อนจะพูดประโยคที่ไม่ได้ไขข้อสงสัยให้มันรู้เลย
“เรื่องนั้นอั๊วคงเล่าให้เอ็งฟังไม่ได้หรอก”
“มึงคงต้องรู้จากปากของพิมพ์เอง เพราะถ้าเมื่อไหร่ ที่พิมพ์มันยอมเล่าเรื่องนี้ให้มึงฟัง แสดงว่ามึงคือคนที่พิมพ์อยากให้รู้ และไว้ใจ” ผมเสริมเฮียพอสต่อ
“กูว่าสิ่งแรกที่มึงควรจะทำตอนนี้คือ ควรทำให้ไอ้พิมพ์มันยอมคุยกับมึงก่อนเถอะไอ้หมอ...เหอๆ” ผมหัวเราะเยาะมัน
“ตี๋ ลื้อนี่ร้ายนะ ไม่เคยบอกเพื่อนเลยรึ ว่ามีน้องสาว” เฮียพอสหันมาถามผมแบบขำๆ
“ไม่เคยอ่ะเฮีย เพราะอั๊วหวง”
เมื่อทุกคนได้ยินคำตอบก็หัวเราะให้กับความขี้หวงน้องสาวของผม
“เอ๊ายกๆ หมดแก้ว” แกร๊ง!!!
................ไฟเขียว..................
อัพ 100%
- และแล้ว ความลับที่อำเพื่อนตัวเองก็แตกจนได้ เฮียพอยท์นะเฮียพอยท์ ขี้หวงน้องสาวชะมัด เป็นไงล่ะ ไปต่อไม่ถูกจนต้องมานั่งเคลียร์กันตรงๆไปเลย แต่ก็ดีเหมือนกันเนอะ อย่างน้อยก็ได้รู้ความคิดของหมอพอลที่มีต่อหมวย งานนี้หมวยจะมีความรักครั้งใหม่ได้ไหมหนอ? แต่ที่แน่ๆ หมอผ่านด่านเฮียของหมวยไปแล้วถึงสองคน แถมยังมีม๊าเป็นกำลังเสริมอีกต่างหาก หมวยเอ้ย!!! จะรับมือไหวไหม
ปล.เขาไปทำงานที่ ตจว.มาเลยไม่ได้อัพหลายวัน วันนี้กลับมาถึง กทม.แล้ว มาอัพให้อ่านกันแล้วนะคะ❤️
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ