ลิขิตรักฝากใจ

6.5

เขียนโดย Chatnara

วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.11 น.

  7 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,551 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561 11.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) I'm a Nurse

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วันจบการศึกษาของดากานดา

               ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยกรุงเทพเวนิส วันนี้ดากานดาตื่นเต้นเป็นพิเศษเนื่องจากจะเข้ารับปริญญาบัตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต  ดากานดากับปริยาภรณ์ตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อจัดการแต่งหน้าและทำผมสำหรับพิธีสำคัญในวันนี้ หลังจากจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองก็มารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เพื่อถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน บรรยากาศของวันเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดี ซุ้มดอกไม้ ร้านขายดอกไม้ต่างตั้งกันเรียงรายให้ได้เลือกซื้อตามความชอบใจ เหล่านักศึกษาพากันขวักไขว่เดินถ่ายรูปไปตามจุดต่างๆ ระหว่างรอเข้าพิธี  ดากานดาดูเหมือนว่าไม่มีสมาธิเท่าไรนัก เธอดูรุกรี้รุกรน หันซ้ายแลขวาราวกับว่ามองหาใครสักคน ปริยาภรณ์ หรือปิ๊กผู้เป็นเพื่อนสนิทสังเกตเห็นอากัปกิริยาของเพื่อนอยู่นานจึงเข้ามาถาม 
“มองหาใครอยู่รือเปล่าดา แล้ววันนี้หมอปริณไม่มาหรอ” 
 “สงสัยจะไม่มาแล้วมั้งปิ๊ก จนป่านนี้แล้วอ่ะแก” 
ดากานดาสีหน้าเศร้าหมองลง แววตาดูไม่มีความสุข 
"เค้าติดเคสอยู่หรือเปล่า อย่าคิดมาก วันสำคัญขนาดนี้ไม่มาก็บ้าแล้วแก"
"เค้าไม่เคยหายไปแบบนี้นะปิ๊ก มาได้หรือไม่ได้เค้าจะโทรมาบอกตลอดอ่ะ"
"แล้วแกได้คอนเฟิร์มกับหมอเค้าไปหรือเปล่าว่าเป็นวันนี้"
"ไม่อ่ะ ก็ไลน์ไปบอกแค่รอบเดียว ไม่เห็นตอบอะไรกลับมาเลย มีแต่พีทที่ตอบกลับมา"
"แกชวนพีทมาด้วยหรอดา" สีหน้าปิ๊กดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ได้ชวนสักหน่อย" หลังจากพูดจบ ดากานดาเหมือนฉุกคิดได้ถึงความผิดปกติของอะไรบางอย่างรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู เธอใช้นิ้วเลื่อนดูข้อความการสนทนาย้อนหลังในไลน์ระหว่างเธอกับปริณด้วยความรีบเร่ง
"ไม่ได้ชวนแล้วพีทมันตอบมาได้ไง หรือว่า......"
"เฮ้ย!! ปิ๊ก  แกดูนี่ดิ ชั้นส่งข้อความไปหาพีทเว้ย ถึงว่าทำไมหมอไม่ตอบมา ชั้นส่งผิดไปหาพีทนี่เอง งานงอกอีกแล้วดากานดา!!!  ปิ๊กแกช่วยคิดหน่อยซิ นะๆ” 
ดากานดาเขย่าแขนเพื่อนด้วยสีหน้าเว้าวอนเพื่อให้ช่วยหาทางออกในครั้งนี้
“อะไรว่ะแก พี่หมอของชั้นโคตรดูสำคัญเลย ชั้นว่าแกรีบโทรบอกเค้าก่อนดีมั้ย จะมาทันหรือไม่ทันก็ยังโทรไง เดี๋ยวมารู้ทีหลังจะน้อยใจเอาอีก ชั้นขี้เกียจรับโทรศัพท์เป็นศิลาณีให้แกสองคนอ่ะ แฟนแกขี้งอนได้โล่ห์อยู่ด้วยว่าแต่แกจะปลีกตัวไปโทรหาแฟนแกได้หรือเปล่าเถอะ”
“ทำไมอ่ะปิ๊ก  ทำไมจะโทรไม่ได้”
“โน่นไง ว่าที่แฟนใหม่แกมาละ ฮ่าๆๆ”  ปิ๊กสะกิดให้ดากานดามองดูชายที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ

“พีท!!” ดากานดาเอ่ยชื่อเพื่อนชายของเธอด้วยแววตาผิดหวัง
“พีทตัวจริงเสียงจริงเลยแล่ะดา พีทเค้าตื้อแกดีเนอะ ขนาดไม่รักไม่สนใจยังไม่เลิกตามจีบเลย สงสัยเค้าคงรักแกมากอ่ะ” ดากานดาสังเกตสีหน้าของเพื่อนรักของตัวเองจึงได้เข้าใจอะไรบางอย่างระหว่างความรู้สึกของปิ๊กที่มีต่อพีท  
“รักอะไร ไม่มีทางแน่นอน แกมั่นใจได้เลยนะระหว่างชั้นกับพีทเราไม่มีทางที่จะได้เป็นแฟนกันแน่นอน แกสบายใจได้" ดากานดาดึงตัวเพื่อนเข้ามาโอบและตบไหล่เบาๆ 
"จะเป็นแฟนหรือไม่เป็นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับชั้นสักหน่อย "
"ไม่เกี่ยวจริงหราาา ดูซิหน้าแดงไปหมดแล้ว อิอิ  " 
"ไม่ต้องมาแซวเลย ไปเลย รีบไปโทรหาพี่หมอเลย เร็วๆ"
"แหมรีบไล่เชียวนะ เขินอ่ะดิ ฮ่าๆๆ อ่ะๆ ไปก็ได้  ปิ๊กแกช่วยรับหน้าพีทให้ทีนะ ไม่รู้จะคุยอะไรอ่ะ เดี๋ยวชั้นจะไปโทรหาหมอตรงโน้นแล้วกัน"          

     โรงพยาบาลปรีชาเวชการ 1 หลังตรวจคนไข้คนสุดท้ายเสร็จ ปริณยังคงนั่งอยู่ในห้องตรวจไม่ลุกออกไปไหน เขานั่งมองดอกกุหลาบสีขาวช่อโตที่วางอยู่บนโต๊ะ  สีหน้าดูเคร่งขรึมคิ้วขมวดจนเกือบจะเป็นเลขแปด  พยาบาลเดินเข้ามาตรวจความเรียบร้อยของห้องตรวจและเก็บเอกสารของผู้ป่วยเข้าที่ ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของปริณดังอยู่นานพยาบาลสังเกตเห็นหมอปริณนั่งเหม่อลอยจึงตัดสินใจเรียก
"หมอปริณคะโทรศัพท์เข้าค่ะ  หมอคะ  คุณหมอปริณคะ!!"
"ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"เอ่อ...คือว่าโทรศัพท์ของหมอดังนานแล้วค่ะ"
"อ่อ  ขอบคุณครับ" ปริณรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปลายสายที่โทรมาทำให้ปริญหลุดยิ้มออกมา แต่ต้องมาชะงักเมื่อพยาบาลยังยืนจ้องอยู่  ปริญจึงคว้าดอกกุหลาบช่อนั้นเดินออกมาจากห้องและรีบกดโทรศัพท์ไปหาดากานดาทันที
กริ๊งๆ กริ๊งๆ "สวัสดีค่ะ"
"วันนี้มีอะไรหรือเปล่าถึงได้โทรหาผมได้"
“เอ่อ…..คือ…..คือว่า วันนี้ดารับปริญญาที่มหาวิทยาลัยค่ะ” ดากานดาพูดแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นักเพราะเกรงจะถูกปริณดุใส่ที่เธอลืมชวนเขามางานสำคัญในวันนี้
“อื้ม…..ผมรู้แล้วล่ะ ผมก็รอว่าดาจะชวนไปงานมั้ย”
“อ้าว!! คุณหมอรู้ได้ยังไงคะว่าดารับปริญญาวันนี้”
“ในเพจมหาวิทยาลัยเค้าก็อัพเดทวัน เวลา สถานที่ไว้ชัดเจนนะ ผมคลิ๊กเข้าไปดูก็รู้แล้ว”
“ดาอยากให้คุณหมอมาค่ะ วันนี้ติดเคสหรือเปล่า มาหาดาได้มั้ย”

“อยากให้ไปจริงๆหรอ ถ้าอยากให้ไปคงไม่มาบอกกระชั้นชิดแบบนี้หรอกมั้ง” ปริณทำเสียงเข้มใส่
“ดาขอโทษนะคะ ดาลืมจริงๆ อย่าโกรธเลยนะคะ ตอนนี้มีแค่คุณพ่อกับคุณแม่เองที่มางานดา ดาไม่ได้ชวนใครเลย จริงๆ น๊า”  
ขณะที่ดากานดากำลังออดอ้อนให้ปริณมาหา พีทกลับเดินเข้ามาทักทายดากานดาจากด้านหลัง ซึ่งก่อนหน้านั้นพีทได้ยืนแอบฟังการสนทนาอยู่พักใหญ่แล้ว ด้วยอาการออดอ้อนอี๋อ๋อพีทจึงเดาได้ไม่ยากว่าดากานดาคงกำลังคุยโทรศัพท์กับแฟนอยู่แน่นอน  พีททนไม่ได้ที่เห็นดากานดามีความสุขกับชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง พีทจึงตั้งใจพูดขัดจังหวะเสียงดังเพื่อหวังให้อีกฝ่ายได้ยินเสียงของตัวเอง
“ดาอยู่ตรงนี้นี่เอง” 

“พีท”  ดากานดาหันมาด้วยความตกใจที่พีททักทายด้วยเสียงดังจนเสียงเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์
“คุณแม่บอกดาเดินมาทางนี้ พีทเลยมาตาม  ดารู้มั้ยพีทเดินฝ่าวงล้อมคนตั้งเยอะแยะ เพื่อมาตามหาดาเลยนะเนี่ย  อ่ะนี่...พีทเอาดอกไม้มาแสดงความยินดีกับดา  ดีใจด้วยนะคะสุดที่รักของพีท”

ดากานดาตกใจไม่น้อยที่พีทพูดแบบนั้น  มืออีกข้างยกขึ้นมาป้องโทรศัพท์ไว้เพราะไม่ต้องการให้ปริณได้ยินเสียง พีทเองก็พูดเจื้อยแจ้วไม่เว้นช่องให้ดากานดาได้อ้าปากพูดตอบ เธอจึงตัดสินใจตัดสายปริณทิ้งและอยากเคลียร์กับพีทให้เรียบร้อยก่อน  หลังจากวางสายปริณพยายามทำใจให้ปกติ และขับรถมุ่งหน้าไปหาดากานดาเพื่อนำดอกไม้ไปร่วมแสดงความยินดีตามที่ได้ตั้งใจไว้

 “งานเข้าอีกแล้วดาเอ้ย!!! เฮ้อ!!!” ดากานดาพรึมพรำอยู่คนเดียวพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่

“งานอะไรเข้าหรอดา”

“เปล่าพีท นี่พีท…ทีหลังอย่าพูดที่รงที่รักอีกนะ ดาไม่ชอบ” ดากานดาจ้องเขม็งมาที่พีทด้วยสายตาจริงจังกว่าทุกครั้ง  ทำให้แววตาของพีทดูสลดลง

“โอเคจ้ะ พีทขอโทษ  พีทล้อเล่นน่ะ แล้วเมื่อกี้คุยกับแฟนหรอดา”

“อื้ม…..พีทไปรอกับคุณพ่อคุณแม่เลย เดี๋ยวเราตามไป โอเคนะ” หลังจากพีทเดินห่างออกไป ดากานดาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกไปหาปริณทันที

“ฮัลโหลคุณหมอคะ ขอโทษนะคะพอดีเพื่อนมาถ่ายรูปหมู่ค่ะ ดาเลยกดวางสายไปก่อน”

“ดาชวนพีทมางานด้วยหรอ”

“เอ่อ....คือ...คือว่า”

“ถ้าดาบอกผมมาตรงๆ ว่าชวนเค้ามางานวันนี้ ผมจะไม่คิดมากเลย แต่นี่ดาจงใจที่จะโกหกผม เมื่อกี้ผมก็ได้ยินเสียงเค้า คุณก็ยังบอกว่าเพื่อนมาตามไปถ่ายรูปอีก แบบนี้ผมจะเชื่อใจอะไรคุณได้ล่ะดา”

“ดาขอโทษค่ะ ดาไม่ได้ตั้งใจจะโกหก ดาแค่กลัวหมอจะไม่สบายใจถ้าพีทมาก็เท่านั้นเอง มันไม่มีอะไรไปมากกว่านี้จริงๆ เชื่อดานะคะ ดากำลังวุ่นวายหลายๆ เรื่องดาคิดว่าดาชวนหมอแล้วด้วยซ้ำ ดาก็รออยู่ว่าทำไมหมอไม่มาสักที ถ้าไม่เชื่อถามปิ๊กดูก็ได้ค่ะ”"ผมเข้าใจดา  แต่วันนี้ผมคงไปไม่ทันอยู่ดี ผมติดเคสผ่าตัดอีกเคสนึง ยังไงของขวัญจะเอาไปให้วันหลังนะ"

“จริงๆ แล้วดาอยากให้หมอมา แต่ถ้าติดงานก็ไม่เป็นไรค่ะ ดาผิดเองค่ะที่ลืมชวน  และดาขอโทษเรื่องพีทด้วยนะคะ  หมออย่าโกรธดาเลยนะคะ ดาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ และก็คิดถึงหมอเหมือนเดิมนะคะ เอาอย่างนี้ดีกว่าเพื่อเป็นการไถ่โทษ ถ้าเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้ว เราไปดูหนังรอบดึกกันนะคะ ดีมั้ย น้าๆๆๆ”

“อื้ม….ฮ่าๆๆ เรานี่อ้อนแบบนี้อีกแล้วนะ” ปริณตอบรับด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม แต่รอยยิ้มกลับต้องเลือนหายไปจากใบหน้าเมื่อเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยเล็ดลอดเข้ามาระหว่างที่คุยโทรศัพท์กับดากานดาอยู่ เสียงนั้นทำให้ปริณหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก

“ดา!! ใกล้จะได้เวลาเข้าหอประชุมแล้วนะ ปิ๊กบอกให้พีทมาตามอ่ะ”

“หมอคะ แค่นี้ก่อนนะคะ ดาไปเตรียมตัวก่อน คืนนี้เจอกันนะคะ บ๊าย บาย”

ตู้ดๆๆๆ  หลังจากดากานดาวางสายและเดินกลับเข้าไปในกลุ่ม  พีทยังคงยืนมองตามดากานดาไปและเผยรอยยิ้มมุมปาก แววตาดูเจ้าเล่ห์และมีประกายของความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งใดบางอย่าง อย่างน้อยตอนนี้พีทเองรู้สึกดีใจที่สามารถขัดจังหวะการคุยโทรศัพท์ระหว่างดากานดาและแฟนของเธอได้ถึงสองครั้ง

 “คิดจะทำอะไรอ่ะพีท"   พีทสีหนาตื่นตระหนกเมื่อเห็นปิ๊กเดินมาจากด้านหลัง
"ถ้าพีทคิดจะแย่งดามาจากแฟนเค้า ปิ๊กบอกไว้เลยนะว่าไม่มีทางสำเร็จ พีทก็รู้อยู่แล้วว่าดาไม่ได้คิดอะไรกับพีทเลย อย่าพยายามทำให้เค้าสองคนผิดใจกันเลยนะพีท สงสารดามันเถอะ”

 “วันนี้วันสำคัญของดาแท้ๆ แต่เค้ากลับไม่มา ปล่อยให้ดาโทรไปตื๊อโทรไปอ้อนวอนขอให้มา แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพีทให้ความสำคัญกับดามากกว่าแฟนของดา แล้วเราก็ไม่ได้คิดที่จะทำอะไรนี่ปิ๊ก สุดท้ายใครดีกว่า ใครเทคแคร์มากกว่าดาก็ต้องเลือกคนนั้นอยู่แล้ว ใช่ป่ะ สักวันพีทจะชนะใจดา ปิ๊กรอดูวันนั้นได้เลย พีทไม่หยุดความพยายามหรอก” แววตาของพีทฉายประกายของความมุ่งมั่น พีทหันมายิ้มเยาะพร้อมกับยักคิ้วเย้ยหยันปิ๊กและเดินจากไป ปิ๊กมองดูพีทซึ่งกำลังเดินมุ่งตรงไปหาดากานดาที่ยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อน  ทั้งสองถ่ายรูปด้วยกัน แววตาของปิ๊กเศร้าหมองลง ปิ๊กเสียใจที่พีทมองข้ามความรู้สึกของตัวเองดวงดากลมโตกำลังเต็มไปด้วยน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมา ปิ๊กเจ็บแปล๊บในใจจนยากที่จะบรรยาย ปิ๊กพยายามฝืนน้ำตาตัวเองไว้และเปลี่ยนสีหน้าเพื่อเข้าไปในกลุ่มเพื่อน  ขณะนั้นปริณซึ่งมาถึงได้สักระยะหนึ่งได้แต่ยืนดูดากานดาอยู่ห่างๆ เขาได้เห็นการหัวเราะต่อกระซิกระหว่างดากานดากับพีทอย่างสนิทสนม และพีทก็เดินตามดูแลเทคแคร์ดากานดาอยู่ไม่ห่าง  โดยที่ดากานดาเองดูท่าจะเต็มใจกับการบริการนี้ซะด้วย ปริณตัดสินใจเดินไปหาปิ๊กซึ่งยืนอยู่กับเพื่อนอีกหลุ่มหนึ่ง

“ปิ๊ก”

“อ้าวคุณหมอ สวัสดีค่ะ ปิ๊กนึกว่าจะไม่มาซะอีก ดูโน่นค่ะคู่แข่งแต้มนำไปไกลแล้ว”

“ผมเห็นแล้วล่ะ ดาเค้าดูแฮปปี้ดีนะปิ๊ก  ยังไงผมฝากดอกไม้ช่อนี้ให้ดาด้วยนะ ผมจะกลับแล้ว วันนี้ผมเหนื่อยมาก อยากกลับไปพัก”

“เอ่อ….คุณหมอเอาไปให้เองจะดีกว่ามั้ยคะ ดาจะได้ดีใจที่คุณหมอมา ดาเค้ารอคุณหมออยู่”

“แน่ใจหรอปิ๊กว่าเค้ารอผม ดูซิเค้าไม่ได้สนใจที่จะรอเลย อีกอย่างผมบอกเค้าด้วยว่าผมมาไม่ได้ ดูโน่นซิ แฟนผมดูดีใจและมีความสุขมากเลยกับเพื่อนชายคนนั้น   ฝากปิ๊กเป็นธุระให้ผมทีนะ ผมไปล่ะ” ปริณส่งช่อดอกไม้ช่อโตให้ปิ๊กและเดินหันหลังกลับในทันที ปิ๊กหอบกุหลาบขาวช่อนั้นไปให้ดากานดา  ซึ่งกุหลาบช่อนั้นมีโน้ตน้อยใบหนึ่งติดอยู่  ดากานดาจึงหยิบขึ้นมาเปิดอ่านลายมือที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี 

 “ยินดีด้วยนะคนดี รักนะครับ

                ปริณ

 “ปิ๊ก พี่หมอมาหรอ” ดากานดาถามด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่ตื่นเต้น ดวงตากลมโตของเธอมีประกายของความสุข ริมฝีผากเผยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่จะได้พบกับปริณ พีทเห็นแววตานั้นกลับรู้สึกผิดหวังที่เห็นดากานดาเฝ้ารอพบคนรักของเธออย่างใจจดใจจ่อ

“ตอนนี้พี่หมออยู่ไหนปิ๊ก ชั้นจะไปหาเค้า”  ปิ๊กชี้จุดที่ได้พบกับปริณเมื่อสักครู่ให้ดากานดาได้ดู ไม่ทันสิ้นเสียงเธอรีบวิ่งไปหาปริณทันที พีทพยายามทัดทานเนื่องจากใกล้ถึงเวลาพิธี แต่ดากานดากลับไม่สนใจเสียงของพีทเลยแม้แต่น้อย  ดากานดาเดินฝ่าวงล้อมของผู้คนมากมาย จนหันไปเห็นชายหนุ่มสูงโปร่งคนหนึ่ง  แค่เห็นจากด้านหลังดากานดากลับจดจำรูปร่างและบุคลิกของปริณได้ในทันที ดากานดารีบวิ่งตามไปจนทัน และคว้าแขนปริณเอาไว้ได้

“หมอคะ รอดาก่อน” ดากานดาหอบแฮกจากการวิ่งตามปริณด้วยระยะทางที่ไกลพอสมควร

ปริณชะงักฝีเท้า และหยุดนิ่งอยู่กับที่ พร้อมกับค่อยๆ หันกลับมามองจึงได้เห็นว่าตรงหน้าของตัวเองนั้น คือดากานดาที่ยืนส่งยิ้มหวานมาให้ด้วยสีหน้าสดชื่นแจ่มใส ดากานดาโผเข้ากอดปริณด้วยความคิดถึงและดีใจที่ปริณมาในวันสำคัญของเธอ  ปริณยังคงยืนนิ่งอึ้งแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ

“ดาดีใจมากเลยค่ะ ที่คุณหมอมา” ปริณก้มมองหน้าเธอ และส่งยิ้มบางๆที่มุมปาก ปริณยกแขนขึ้นโอบกอดเธอตอบมืออีกข้างหนึ่งลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา ดากานดาอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

“พี่เห็นว่าพีทมาด้วย พี่เลยไม่เข้าไปหา กลัวจะขัดจังหวะดา”ดากานดาปล่อยมือออกจากตัวของปริณ และยืนจ้องหน้าปริณเขม็ง คิ้วสองข้างขมวดจนแทบจะผูกโบว์ “ดาเคยบอกคุณหมอแล้วนี่ค่ะว่าพีทเป็นได้แค่เพื่อน ดาให้มากที่สุดได้เท่านี้ คุณหมออย่าคิดมากนะคะ ยังไงคุณหมอก็สำคัญที่สุดสำหรับดาอยู่แล้ว”

 พีทซึ่งยืนแอบฟังทั้งสองคนยืนคุยกันอยู่หลังต้นไม้ ถึงกับเจ็บเหมือนถูกมีดเสียดแทงเข้ามาในหัวใจที่ได้ยินประโยคดังกล่าวจากปากของดากานดา  ขาสองข้างเหมือนจะอ่อนแรง ผิดหวังที่ความพยายามของตัวเองไม่มีผลอะไรกับดากานดาเลยแม้แต่น้อย  พีทจึงตัดสินใจเดินออกมาและกลับบ้านไป“ดาขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะ ที่คอยอยู่เคียงข้าง คอยเคี่ยวเข็ญ และติวหนังสือให้ดาอยู่บ่อยๆ ถ้าไม่ได้คุณหมอช่วยติว ดาคงไม่ได้เกียรตินิยมแน่เลยค่ะ”

“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นกอดนานๆ แบบเมื่อกี้ได้ไหมอ่ะ”

“ได้ซิคะ” ดากานดาส่งยิ้มตาหยีให้ปริณและโผเข้ากอดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคราวนี้ปริณก้มหน้าเข้ามาใกล้ดากานดามากขึ้นและส่งตาหวานฉ่ำมาให้เธอ   ดากานดาอายจนต้องรีบผลักตัวปริณให้ถอยห่างออกไป

“ไม่ชอบให้มองแบบนี้เลยค่ะ” ดากานดาหันหน้าหนีไปทางอื่น

“ทำไม กลัวหลงเสน่ห์ผมมากไปกว่านี้ล่ะซิ ”

ดากานดาได้แต่ยิ้มกรุ้มกริ่ม  ตีเข้าไปที่อกของปริณหนึ่งที ปริณเอี้ยวตัวหลบไม่ให้เธอได้ตีได้ถนัดนัก พร้อมกับคว้ามือเธอมากุมไว้

“ดาเข้าไปร่วมพิธีเถอะ ปิ๊กเดินมาตามแล้ว เดี๋ยวผมจะไปรอดาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ของดา จะได้ขออนุญาตคุณพ่อพาดาไปดูหนังด้วย โอเคมั้ย”

“โอเคค่ะ”

หลังจากเสร็จพิธีปริณขออนุญาตกำพลเพื่อพาดากานดาไปทานอาหารและไปดูหนังต่อที่ห้างสรรพสินค้า  ทั้งสองเดินจับมือกันมาถึงรถ ปริณยังคงหันมองหน้าเธออยู่บ่อยๆ แล้วก็หันกลับไปยิ้มกรุ้มกริ่ม เขาทำเช่นนี้อยู่หลายครั้งจนดากานดาต้องปรามให้ตั้งใจขับรถ

“ขับรถเค้าให้มองถนนค่ะ มามองหน้าดาทำไมเดี๋ยวรถก็ชนหรอก หรือว่าหน้าดามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า” เธอลูบๆคลำๆ ใบหน้าของตัวเอง เมื่อไม่ได้สัมผัสอะไรที่ผิดปกติจึงรีบเปิดกระเป๋าหยิบกระจกออกมาเช็คดูความเรียบร้อยต่อเพื่อความมั่นใจ

“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่นา  มีแต่ความสวยที่ยังเป๊ะอยู่  คนอะไรน่ารักชะมัดเลย เนอะ”

ดากานดาหันไปส่งยิ้มหวาน สายตาออดอ้อน ปริณซึ่งกำลังขับรถอยู่หันมายิ้มบางๆให้เธอ

“เปล่าหรอก ไม่มีอะไรผมก็แค่อยากมองหน้าดาเฉยๆ มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ น่ารักจังแฟนใครก็ไม่รู้” ปริณเอื้อมมือไปหยิกที่แก้มของดากานดาอย่าเบามือ

“ปากหวานตลอดเลย ตอนอยู่กับคุณริสาคุณหมอก็คงชมเค้าแบบนี้ใช่ไหมคะ”

“ดา…..เรื่องมันจบไปนานแล้วนะ ไม่พูดถึงคนอื่นอีกได้ไหม”

“โอเคค่ะ รับแซ่บ อิอิ”

เธอทำมือแสดงท่าทางโอเคพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ปริณเหมือนอย่างเคย

“ถ้าเกิดว่าคุณริสาเธอกลับมาอีกครั้งแล้วมาตามตื้อขอคืนดีกับคุณหมอ ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆดาคงไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงเลยนะคะ ไม่รู้ว่าจะเสียใจแค่ไหนเลย"ดากานดาเอ่ยถามด้วยแววตาปนเศร้า เพราะแท้ที่จริงแล้ว การกลับมาของริสาคือสิ่งที่ดากานดากังวลอยู่ตลอดเวลา ปริณเปิดไฟเลี้ยวชะลอความเร็วและจอดรถริมทาง

“พี่หมอจอดรถทำไมหรอคะ ลืมอะไรหรือเปล่า”

ปริณเอื้อมมาจับมือของเธอไปทาบไว้ที่อกข้างซ้ายของตัวเอง และหันมองดากานดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก “ดา…..ฟังพี่นะ อนาคตไม่ว่าริสาจะกลับมาด้วยสถานนะอะไรก็ตาม พี่จะยังรักดาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง พี่จะไม่เปิดโอกาสให้ริสาเข้ามาแทนที่ดาแน่นอน เข้าใจมั้ย”

“แต่ให้ดาเข้ามาแทนที่คุณริสาใช่มั้ยคะ”

“ดา!!”

“ดาล้อเล่นค่ะ อิอิ”

 “ดา พี่อยากให้ดารู้ไว้ ณ ตอนนี้พี่รักดายังไง อนาคตมันจะมีแต่มากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันลดน้อยลง อนาคตถึงแม้ว่าดาจะไม่รักพี่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พี่ก็จะรักดาคนเดียวตลอดไป”

ดากานดาเอื้อมมาจับมือของปริณ แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยประกายแห่งความสุข เธอตื้นตันใจจนน้ำตาค่อยๆเอ่อล้นออกมา ปริณส่งยิ้มอ่อนให้พร้อมกับเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบา

“ดาขอบคุณนะคะที่คุณหมอเลือกดา ขอบคุณที่เลือกดาทั้งๆ ที่ดาเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้ร่ำรวยและไม่มีอะไรเท่าเทียมคุณริสาได้เลย  ขอบคุณนะคะที่สัญญาว่าจะรักดาคนเดียว”

ปริณกุมมือเธอเอาไว้แน่นพร้อมกับค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาประชิดเธอมากขึ้น ปลายจมูกของปริณค่อยๆ ขยับลงไปใกล้ดากานดามากขึ้นจนปลายจมูกแตะชิดแก้มของเธอ  ผิวของเธอช่างละเอียด  เนียนใส และหอมละมุนละไม ปริณกระซิบที่ข้างหูของเธออย่างแผ่วเบา ลมปากของปริณที่กระทบเข้ามาที่ใบหูทำให้ดากานดารู้สึกใจตื่นเต้น ใจสั่นระรัว และหัวใจเต้นแรงจนไม่เป็นจังหวะ

“แล้วดาล่ะ รักพี่บ้างมั้ย”

เธอพยักหน้ารับแทนการพูด  ปริณค่อยๆ ขยับตัวเข้ามาใกล้ดากานดามากขึ้นกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากตัวเธอช่างเย้ายวนใจจนเกินกว่าปริณจะหักห้ามใจไหว  ปริณเอื้อมมือทั้งสองประครองใบหน้าของดากานดาให้โน้มเข้ามาใกล้ๆ จนปลายจมูกของเขาและเธอแนบชิดกัน ดากานดาค่อยๆหลับตาลง  ปริณบรรจงจูบลงไปที่ริมฝีปากอันอวบอิ่มของเธออย่างแผ่วเบา  หลังจากปากของทั้งสองแนบประกบกัน ดากานดาถึงกับตกใจ ถลึงตาโต  รีบผลักตัวปริณให้ห่างออกไปทันที ดากานดาเขินอายจนทำตัวไม่ถูก ได้แต่นั่งบิดผมเป็นเกลียวไม่กล้าสบตาปริณเลยแม้แต่น้อย

“เอ่อ….พี่ขอโทษนะดา พี่ไม่ได้ตั้งใจ”  ปริณรีบดึงตัวกลับมานั่งนิ่ง เขาเอนหลังแนบชิดเบาะรถยนต์ และยังคงประหม่ากับสิ่งที่ได้กระทำลงไปเมื่อสักครู่  ซึ่งแม้ขณะนี้ใจของปริณเองก็ยังเต้นเร็วและแรงจนไม่เป็นจังหวะเช่นเดียวกันกับเธอ

“ไม่เป็นไรค่ะ”

ดากานดายังคงไม่กลาสบตาปริณ เธอได้แต่เม้มปากตัวเองเบาๆ แต่ยังคงจำสัมผัสและความรู้สึกเมื่อสักครู่นั้นได้เป็นอย่างดี   เวลาผ่านไปหลายวินาทีหัวใจยังคงเต้นเร็วไม่หยุด ใจเธอสั่นระรัว อาจเป็นเพราะนี่เป็นจูบแรกของเธอก็ได้ถึงทำให้ตื่นเต้นมากมายถึงเพียงนี้ 

 “เอ่อ….พี่เกือบลืมบอกดาไป พี่จะไปสิงคโปร์กับที่บ้านประมาณสองอาทิตย์นะ” ปริณรีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องเพื่อแก้เขิน

“ไปทำไมอ่ะคะ แล้วจะไปเมื่อไหร่”

“พ่อพี่จะไปดูโรงพยาบาลที่สิงคโปร์ ก็เลยจะอยู่พักผ่อนกันต่อ ตอนนี้พ่อกับแม่ พี่ปรางค์แล้วก็พี่เมศก์จะออกเดินทางกันคืนนี้ ป่านนี้เครื่องคงออกแล้วล่ะ อีกสองสามวันพี่คงเคลียร์งานเสร็จ ก็ตั้งใจว่าจะตามไปสมทบ ”

“แล้วทำไมหมอไม่ไปพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่เลยล่ะคะ”

"ดา"

"คะ"

"เรียกพี่ได้มั้ย   เรียกหมอๆๆ หรือใช้คำว่า ผมกับคุณ เราดูไม่สนิทกันเลยอ่ะ มันดูห่างเหินชอบกล”

“ได้ค่ะ งั้นดาเรียกพี่หมอได้มั้ยคะ พี่หมอ พี่หมอ พี่หมอ อิอิ น่ารักดี ถ้าเรียกพี่ปริณมันไม่ชินปากเลยค่ะ”

“โอเคๆ จะเรียกแบบนั้นก็ตามใจ”

ปริณส่งยิ้มบางๆ ให้เธอ

“ แล้วทำไมพี่หมอไม่ไปพร้อมกับที่บ้านล่ะคะ”

“ก็พี่รอมางานรับปริญญาของดาไง  เอาจริงๆ พี่ไม่อยากไปเลยนะ พี่คิดถึงดา กลัวคนอื่นมาตามจีบอีกโดยเฉพาะเจ้าพีทอะไรนั่นอ่ะ”

“ไม่มีหรอกน่า  อย่าคิดมากซิคะ”

“ดาไปกับพี่นะ คุณแม่กับคุณพ่อของพี่ให้ชวนดาไปด้วย พี่ไปขออนุญาตคุณพ่อดาให้ก็ได้นะตกลงมั้ย”

“ดาต้องไปเที่ยวกับครอบครัวเหมือนกันค่ะ พอดีว่าคุณพ่อจะกลับไปทำงานแล้ว ท่านลาแค่มางานรับปริญญาของดา เสร็จจากนี้จะพักอยู่ต่ออีกแค่สองสามวันเองค่ะแล้วก็จะกลับไปทำงานต่อ  อีกอย่างดาก็ยังไม่ได้สมัครงานเลย ดาเลยตั้งใจว่าจะไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ก่อนค่ะ พี่หมอไปกับครอบครัวเถอะนะคะ  กว่าสมาชิกจะพร้อมหน้าพร้อมตาคงใช่เรื่องง่าย เที่ยวเผื่อดาแล้วก็อย่าลืมคิดถึงดาด้วยนะคะ”

ปริณพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก และถอนหายใจเบาๆ 

“เป็นอะไรมากเปล่าคะเนี่ย ไปเที่ยวนะคะ ไม่ได้ไปรบ ไปแป้ปเดียวเองเดี๋ยวก็กลับมาเจอกันแล้ว ดาจะรอค่ะ”

ปริณจับมือนุ่มๆของดากานดามาแนบไว้ที่แก้มของตัวเองพร้อมกับพูดสั่งการ

“จะไปไหนให้คุณแม่ไปส่งนะ อย่าไปคนเดียว ถ้าเพื่อนที่ชื่อพีทโทรมา พี่ขอไม่ให้ดารับสายได้มั้ย พี่กลัวเค้าจะมาตามตื้อดาอีก”

“ได้ค่ะ ดาสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี โอเคมั้ย”

ดากานดาพูดพร้อมเอานิ้วก้อยของเธอไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของปริณไว้เพื่อเป็นการสัญญา

“เชื่อใจดานะคะ”

ปริณพยักหน้ารับคำ หลังจากทั้งคู่มาถึงที่โรงหนัง ปรากฏว่าหนังรอบสุดท้ายเล่นไปจนถึงครึ่งเรื่องแล้ว  ปริณจูงมือดากานดากลับมาที่รถพร้อมกับขับพาเธอไปยังสถานที่หนึ่ง

“พี่หมอจะพาดาไปไหนคะเนี่ย”

“พี่จะพาไปทานอาหารที่ร่อยที่สุดในโลกเลยล่ะ”

“จึงหรอคะ ดีจังตอนนี้กำลังหิวอยู่พอดีเลย”

ดากานดามีสีหน้าดีใจและเอามือลูบท้องตัวเอง ปริณขับรถมาจอดยังคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง บรรยากาศภายนอกดูหรูหรา เปิดไฟประดับประดาไปทั่วบริเวณ ดากานดาลงจากรถและเงยหน้าขึ้นมองตึกซึ่งสูงเสียดฟ้า

“ที่นี่ที่ไหนคะเนี่ย พี่หมอพาดามาที่นี่ทำไม”

“ก็พี่บอกแล้วไงว่าจะพามาทานอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ป่ะ!! เข้าไปกันเถอะ”

ปริณจูงมือดากานดาให้เดินตามเข้ามา ทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟท์ ดากานดายังคงถามอยู่ตลอดทางไม่หยุด ปริณยิ้มและมองเธอด้วยสายตาเอ็นดู ติ๊ง!!! เสียงลิฟท์ดังที่ชั้น 12 ลิฟท์ถูกเปิดออก ปริณก้าวขาออกไปแต่ดากานดายังคงรั้งมือไว้ไม่เดินตาม พี่หมอยังไม่บอกเลยนะคะว่าจะพาดาไปไหน"

“ฮ่าๆๆ ดา…ถ้าพี่ไม่บอกว่าจะพาไปไหน ดาคงจะถามไม่หยุดเลยใช่มั้ย”

“ก็บอกมาก่อนซิคะว่าจะพาไปไหน”

“พี่จะพาดามาดูห้องของเราไง เอ่อ….หมายถึงว่าห้องของพี่เอง พี่ซื้อคอนโดที่นี่ไว้เพราะว่าสะดวกหลายๆอย่าง ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะดา พี่ไม่ได้พามาทำอะไรไม่ดีหรอกน่า พี่อยากให้ดาเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของพี่ ว่าอยู่ที่ไหน กินอะไร ใช้ชีวิตยังไง จะได้ศึกษากันไว้เวลาแต่งงานจะได้ไม่ต้องปรับตัวมากไง”หลังพูดจบปริณมองหน้าดากานดาด้วยสายตาหวานเชื่อม เขาจูงมือให้เธอเดินตามเข้ามาในห้อง ดากานดาค่อยๆ มองสำรวจเข้าไปข้างใน สายตาของดูหวาดระแวงไม่น้อย

“ดาว่าเรากลับกันเถอะนะคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว”

 “เดี๋ยวพี่ทำกับข้าวให้ดากินก่อนก็แล้วกันนะ ดายังไม่ได้กินอะไรมาเลย อิ่มแล้วพี่จะพาไปส่ง ดาไปนั่งรอที่ห้องรับแขกเลยนะ พี่ทำแป๊ปเดียวก็เสร็จ”

“ค่ะ” ดากานดาเดินออกมารอที่ห้องรับแขกซึ่งเป็นโถงกลางห้อง คอนโดของปริณมีขนาดกว้างขวางดูโอ่อ่าไม่อุดอู้ แต่ละห้องมีการแบ่งโซนการใช้งานไว้ชัดเจน ของทุกชิ้นจัดวางอย่างเป็นระเบียบ  เธอเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่รูปใบหนึ่ง ดากานดาหยิบรูปนั้นขึ้นมาดู แววตาเธอช่างดูมีความสุข ดากานดาอมยิ้มที่มุมปาก มือข้างหนึ่งลูบไปบนกรอบรูปใบนั้นอย่างทะนุถนอม สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะรูปใบนั้นคือรูปของเธอนั่นเอง ปริณแอบถ่ายรูปของเธอเมื่อครั้งไปรับประทานอาหารด้วยกัน เขาล้างรูปของเธอใส่กรอบสีขาววางไว้หลายจุดของคอนโด  ดากานดาเดินตามรูปเข้าไปจนมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง ซึ่งเปิดประตูออกกว้าง ดากานดาโผล่หน้าเข้าไปสำรวจที่ห้องนั้น เธอมองเห็นเตียงนอนขนาดใหญ่ปูผ้าไว้ด้วยผ้าโทนสีเรียบสบายตาบนหัวเตียงมีรูปหนึ่งซึ่งมองไม่ชัดว่าใช่รูปของตนเองหรือไม่ ด้วยความสงสัยดากานดาจึงเดินเข้าไปดูเพื่อให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าเธอได้เผลอย่างกรายเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของปริณเข้าซะแล้ว ดากานดาค่อยๆ บรรจงหยิบรูปในกรอบนั้นขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้มและแววตาที่มีประกายของความสุข ดากานดารู้สึกปลื้มและตื้นตันใจที่ปริณรักเธอและแสดงออกกับเธอเช่นนี้ จังหวะที่ดากานดากำลังจะก้าวถอยหลังออกมาจากห้อง เธอรู้สึกได้ว่ามีใครคนหนึ่งยืนประชิดตัวเธอ  ดากานดาตกใจรีบหันหลังกลับไปมองทำให้ชนกับตัวของปริณเข้าอย่างจังจนเสียหลักเซถลาจนแทบจะล้มลงกับพื้น  ปริณคว้าตัวเธอเอาไว้ในอ้อมกอดได้ทัน แต่ด้วยทรงตัวไม่ดีนักทั้งสองจึงเสียหลักเซล้มลงบนเตียงนอนทำให้ปริณนอนทับอยู่บนร่างของเธอ ด้วยความตกใจที่ใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ดากานดาจึงพยายามดันอกของปริณออกอย่างรวดเร็ว แต่ดูท่าแล้วจะไม่เป็นผล เพราะสายตาที่ปริณมองมานั้นเหมือนดั่งราชสีห์ที่กำลังตะครุบเหยื่อเอาไว้ได้  ปริณช้อนมือเข้าไปที่กลางหลังของเธอ ดากานดายกแขนป้องตัวเองไว้ วินาทีนั้นดากานดารู้สึกว่าอากาศโดยรอบดูร้อนอบอ้าวขึ้นมาในทันที บนใบหน้าของดากานดาเริ่มมีเม็ดเหงื่อตามไรผม ทั้งๆ ที่อากาศภายในห้องเย็นราวกับมีหิมะตก ดากานดาหัวใจเต้นแรง

“ตื่นเต้นหรอดา”

“…….”

ดากานดาไม่ตอบแต่ยังพยายามดันตัวปริณให้ลุกขึ้น ปริณค่อยๆ จับแขนของดากานดาให้มาโอบกอดที่เอวของตัวเองไว้ พร้อมทั้งกระซิบที่ค้างหูของเธอให้พอได้ยิน

“พี่รักดานะ”

สิ้นประโยคปริณบรรจงหอมไปที่แก้มของดากานดาอย่างไม่รีรอ แก้มของเธอหอมละมุนจนปริณหยุดห้ามใจต่อไม่ไหว  ปริณซุกไซร้ไปตามซอกคอและเปลี่ยนมาจูบที่ปากของเธออย่างทะนุถนอม ขณะนั้นปริณสัมผัสได้ว่าหัวใจของดากานดาเต้นแรงจนเขารู้สึกได้ ปริณยังคงรุกต่อ ดากานดานอนนิ่งเคลิ้มไปตามอารมณ์ ทันใดนั้นดากานดาฉุกคิดถึงเรื่องของริสาขึ้นมา จึงได้มีสติผลักตัวของปริณออกไปอย่างแรง 

“พี่หมอ พอได้แล้วค่ะ ดาอยากกลับบ้าน” ดากานดารีบลุกออกจากเตียงแต่ไม่ทันการปริณรีบคว้าแขนของเธอและดึงตัวลงนอนพร้อมกับกดตัวเธอเอาไว้ คราวนี้ดากานดาดูท่าจะหนีได้ยากขึ้น

“ดา….พี่ขอนะ”  เหยื่อมาให้ตะครุบถึงที่พญาราชสีห์จึงจัดการเหยื่อของมันด้วยความดุเด็ดเผ็ดมัน ดากานดาเห็นท่าไม่ดี หากปล่อยไปแบบนี้มีหวังต้องได้เสียความสาวของเธอให้เขาเป็นแน่ ดากานดาจึงตัดสินใจพูดกับปริณด้วยสีหน้าจริงจังและเสียงแข็งมากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นผล

“ถ้าพี่หมอไม่หยุด  ดาจะเลิกกับพี่หมอ และจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก”

สิ้นประโยคปริณถึงกับผงะออก ดากานดาผลักตัวของปริณให้หลบไป ปริณลุกออกจากตัวเธอและเปลี่ยนเป็นมานั่งข้างๆ ดากานดาลุกขึ้นนั่งอยู่เคียงคู่ไม่ได้ลุกหนีไปไหน  แต่ยังง่วนกับการจัดระเบียบเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยดังเดิมดากานดานิ่งจนผิดปกติทำให้ปริณยิ่งอึดอัดมาก 

“พี่ขอโทษนะดา พี่สัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก” ปริณจับมือดากานดาขึ้นมากุมไว้สีหน้าดูสลด“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ดาขอนะคะ อย่าทำแบบนี้อีก มันไม่ดีกับดาเลย พี่หมอเข้าใจมั้ยคะ”

ปริณพยักหน้ารับคำคนรักอย่างเต็มใจ  และนึกขึ้นได้ว่าได้เตรียมอาหารให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงลุกขึ้นและจูงมือเธอไปที่โต๊ะอาหารอีกห้องหนึ่ง

“ไปเถอะ  พี่ทำสเต็กให้ดาด้วยนะ ไปนั่งที่โต๊ะอาหารกันดีกว่า”

“ดาว่าเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ  ดาไม่หิวแล้ว”

ปริณยังคงไม่สนใจ เขายังคงขมักเขม้นยกจานสเต็กมาให้เธอได้ชิมฝีมือของตัวเอง

“อันนี้พอร์คชอปของดานะ เนื้อตรงนี้จะนุ่มๆ หน่อย อร่อยดี ลองชิมดู” ดากานดายังคงมองหนาปริณไม่ลดละแต่ด้วยเห็นความตั้งใจที่จะทำอาหารมาให้ทาน จึงใจอ่อนยอมอยู่ต่อ ดากานดาหั่นชิ้นสเต็กเข้าปาก พร้อมกับพยักหน้าเล็ก

“อร่อยดีนะคะ พี่หมอทำเองจริงๆ หรอคะ ไม่อยากจะเชื่อเลย”

“พี่ซื้อเนื้อสำเร็จมาแล้วก็ย่างเองจ้ะ เป็นไง ฝีมือพอจะสูสีกับเชฟกระทะเหล็กได้หรือเปล่า”

“ปกติพี่หมอก็อยู่ที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว พี่หมอมาซื้อคอนโดทำไมล่ะคะ”

“คอนโดพี่จะเอาไว้พักในวันที่เลิกผ่าตัดดึกๆ น่ะ เกรงใจพี่พรต้องรอเปิดประตู วันไหนกลับไวก็นอนที่บ้านทานข้าวกับพ่อแม่ตามปกติ”

“หรอคะ  ดานึกว่าเอาไว้พาสาวๆ มานอนกอดซะอีก”

“สาวๆ ที่ไหนกัน จะมีก็ดาคนเดียวนี่แหล่ะที่เคยมาที่ห้องพี่ เป็นไงบ้างน่าอยู่มั้ย ดาชอบหรือเปล่า”

“ก็สวยดีนะคะ  เรียบหรูดี กว้างเหมือนอยู่บ้านเลย”

“แสดงว่าชอบ งั้นคืนนี้เรานอนที่นี่กันนะ”

“จะบ้าหรอคะมาชวนนอนค้าง น่าเกลียด”

“พี่สัญญาว่าจะไม่ทำแบบเมื่อกี้อีกนะครับ แค่นอนกอดเฉยๆ นะๆ”

“ดาอยากกลับบ้านค่ะ แล้วก็ไม่ไว้ใจด้วย” ดากานดารวบช้อนกับมีดไว้ที่จาน และรีบลุกไปหยิบกระเป๋าเตรียมตัวจะกลับ ปริณเห็นดังนั้นจึงใจอ่อนและพาเธอไปส่งตามเธอที่ต้องการ  เมื่อรถขับมาจอดที่หน้าประตูบ้าน ดากานดาก้าวขาลงจากรถพร้อมทั้งโบกมือลาให้ปริณ

“กลับได้แล้วค่ะ ดาจะเข้าบ้านแล้ว ขับรถดีๆ นะคะ”

“โอเคครับ…..พี่ไปแล้วนะ ถึงแล้วพี่จะโทรหา”

ดากานดาพยักหน้ารับคำและเดินเข้าบ้านไป หลังจากขึ้นห้องนอน ดากานดาโถมตัวลงบนเตียงปล่อยตัวไปตามสบายแต่ในใจยังนึกถึงภาพวินาทีที่ปริณกระทำต่อเธอที่คอนโด  ดากานดายังคงใจเต้นแรงสมองยังวนเวียนอยู่กับภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา  ดากานดานอนครุ่นคิดอยู่นานจึงเผลอหลับไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา