Your Heart's Guardian แล้วรักฉันจะดูแลเธอ

8.1

เขียนโดย Gwen_mk

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.03 น.

  9 ตอน
  6 วิจารณ์
  10.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561 22.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) 3: คุณพ่อของปืนใหญ่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

คุณพ่อของปืนใหญ่

“นี่นาย..” ฉันพยายามเรียกและสะกิดผู้ชายตรงหน้าที่กำลังช็อคอยู่กับกล้องที่ฉันทำแตกไป ในที่สุดเขาก็หันมาพูดกับฉันแล้ว ดีใจน้ำตาจะไหล

“ไม่! เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันผิดเองแหละที่มัวแต่ดูรูปในกล้องเลยไม่ได้มองทาง ปืนใหญ่ พ่อขอโทษToT” แล้วเขาก็กลับไปคุยกับลูก เอ้ย! คุยกับกล้องต่อ

“คือฉันผิดเองที่วิ่งมาชนนาย ฉันขอโทษจริงๆนะ ฉันอยากจะชดใช้แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังหนีคนอยู่ เราไปคุยกันตรงอื่นเถอะนะ”

“ไม่เป็นไร เธอไปเถอะ ฉันไม่ต้องการการชดใช้อะไรทั้งนั้นแหละ”

“ไม่ได้” ฉันจัดการช่วยเขาเก็บของที่กระจัดกระจาย รวมถึงปืนใหญ่ที่แตกสลายคาป้อมไปแล้ว จากนั้นก็ลากเขามานั่งที่โต๊ะข้างตึกเพื่อหลบพี่เตวิน พอฉันหลบเข้าข้างตึกได้ ฉันก็ได้ยินเสียงทอฟฟี่กับพี่เตวินเดินออกไปอย่างเฉียดฉิว รอดตัวไปที

 

เอาล่ะ ทีนี้ก็ถึงเวลาจัดการกับคุณพ่อของเจ้าปืนใหญ่แล้ว

 

“เธอหนีสองคนนั้นหรอ หนีทำไมอ่ะ” นี่เลิกสนใจลูกตัวเองแล้วเรอะ

“ก็ไม่เชิงหนีหรอก แค่ไม่มีอารมณ์จะเผชิญหน้าตอนนี้น่ะ เรามาคุยเรื่องค่าเสียหายดีกว่า ฉันอยากจะชดใช้น่ะ”

“ฉันบอกแล้วไงว่าเธอไม่ต้อง ฉันซุ่มซ่ามเองแหละ อีกอย่างก็มีแค่เลนส์ที่แตก ตัวกล้องไม่ได้เป็นไรมากหรอก” นี่ขนาดว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก พ่อคุณยังเล่นช็อคซะขนาดนี้ นี่ถ้ากล้องพังไปด้วยจะไม่หัวใจวายตายเลยรึไงกัน

“แต่ฉันรู้สึกผิดนี่นา” ฉันทำหน้าจ๋อยๆ

“อืม....” หมอนั่นเริ่มจ้องหน้าฉัน จ้องชนิดที่ว่าเก็บรายละเอียดใบหน้าแทบจะทุกรูขุมขน

“เอ่อ ถ้านายจะจ้องขนาดนี้ ขูดขอเลขเลยไหม”

“ยืนขึ้นหน่อยสิ” ฉันทำหน้างงๆแต่ก็ทำตามที่เขาสั่ง

 “เธอนี่..ก็ใช้ได้เหมือนกันแฮะ” หมอนั่นยังคงพึมพำกับตัวเอง ฉันเลยถือวิสาสะนั่นลงตามเดิม

“ใช้ได้ หมายความว่ายังไง”

“ก็ถ้าเธออยากชดใช้ ฉันก็มีวิธีให้เธอชดใช้นะ แต่ไม่ใช่ด้วยเงิน”

“ถ้าไม่ให้จ่ายค่าเลนส์แล้วนายจะให้ฉันทำอะไรล่ะ?”

“ฉันอยากใช้ความสวยของเธอชดใช้แทน” หมอนั่นพูดด้วยรอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย

“ห๊ะ พูดอะไรดูโรคจิตชะมัดเลย บอกไว้เลยนะถ้าจะจีบฉันหรือพูดอะไรแปลกๆต่ออีกล่ะก็ ลาก่อน” ฉันพูดพร้อมลุกออกจากโต๊ะ

 “เห้ย ไม่ใช่! เธอจะบ้าหรอ ฉันจะขอให้เธอมาช่วยเป็นนางเอกหนังสั้นให้ฉัน” เขาพูดพร้อมรั้งข้อมือฉันเอาไว้

“คราวนี้มามุกแมวมองเรอะ จะให้ฉันไปเป็นนางเองหนังโป๊หรือไง ปล่อยนะ ฉันไม่ชดใช้อะไรทั้งนั้นแล้ว” ฉันพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากเขา

“ไม่ใช่ๆ ฟังก่อน หนังสั้นประกอบเพลงโปรเจคต์ครึ่งเทอมแรกของกลุ่มฉัน ฉันเรียนนิเทศ สาขาภาพยนตร์”

“ห๊ะ!” ฉันนิ่งตั้งสติอีกครั้ง

“จะห๊ะอะไรเล่า ฉันก็เป็นนักศึกษาเหมือนกับเธออ่ะ”

“แล้วฉันจะเชื่อนายได้ยังไง ท่าทางนายไม่น่าไว้ใจอ่ะ” เขายังคงไม่ปล่อยมือของฉัน แต่เขาล้วงมือเข้าไปหยิบบางอย่างในกระเป๋า ฉันเตรียมตัวกระชากตัวเองออกมาเต็มที่ เพราะเผื่อเขาจะเอายาหรืออาวุธอะไรออกมา

“นี่ เห็นไหม ทีนี้เชื่อรึยังครับ”  ปรากฏว่าไม่ใช่ทั้งยาและอาวุธค่ะท่านผู้ชม แต่เป็นกระเป๋าตังที่เปิดออกมาแล้วมีบัตรนักศึกษาอยู่

“อ่า เอ่อออ.... เชื่อก่อนก็ได้มั้ง”

“งั้นก็นั่งคุยกันให้รู้เรื่องก่อน พอดีกลุ่มฉันกำลังหาคนมาเป็นนางเอกให้โปรเจคต์หนังสั้นอยู่น่ะ ถ้าเธออยากจะชดใช้เรื่องกล้องก็มาช่วยฉันทำงานได้ไหม รับรองว่าไม่ใช่หนังโป๊อะไรทำนองนั้นแน่นอน”

“แล้วทำไมนายไม่ไปหาคนที่เรียนนิเทศเอาล่ะ มาขอให้ฉันช่วยทั้งๆที่ฉันก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าจะแสดงได้หรือเปล่าเนี่ยนะ”

“ก็หาแล้วแต่ไม่ค่อยมีคนว่าง คนที่ว่างก็ไม่ตรงคาแรคเตอร์”

“แล้วฉันตรงคาแรคเตอร์ตรงไหนอ่า?”

“ก็ตรงที่สวย...เอ่อ..หมายถึงลุคเธอมันได้น่ะ”

          ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะตอบตกลงดีไหม ถ้าเลือกได้ฉันก็อยากจะชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินซะมากกว่า แต่ดูท่าทางแล้วหมอนี่จะเดือดร้อนจริงๆซะด้วย

“คือมันเป็นโปรเจคต์เก็บคะแนนชิ้นใหญ่ของวิชาฟิล์มที่ฉันเรียนอยู่น่ะ คะแนนตั้ง 40 เปอร์เซ็นต์” พ่อของปืนใหญ่อธิบายเพิ่มเติม

“แล้วที่ว่าจะให้ฉันเป็นนางเอกนี่คือยังไงอ่ะ ถ้าให้เล่นจำบท ท่องบทแสดงอารมณ์เยอะๆหนักๆแบบพวกดาราในทีวีนี่ฉันคงไม่ไหวมั้ง ไม่ได้เรียนหรือเคยทำอะไรแบบนี้มาเลยอ่ะ”

“ไม่ๆ มันไม่ถึงขนาดนั้น อันนี้ยังเป็นแค่วิชาพื้นฐาน เราแค่ทำสื่อหนังสั้นมิวสิควิดีโอตามเพลง ส่วนใหญ่ของหนังก็จะเป็นเพลงไม่ค่อยมีบทพูดหรอก เธอแค่แสดงสีหน้าท่าทางซะส่วนใหญ่เท่านั่นเอง” เขาอธิบาย

“งั้นเหรอ...อืม...” ฉันรับคำพลางคิดไปด้วย คุณพ่อปืนใหญ่เองเองก็ดูจะลุ้นกับคำตอบของฉันมากไม่น้อย

“ถ้ายังไงมาลองดูก่อนเถอะนะ ถ้าไม่ได้จริงๆ ฉันให้เธอชดใช้ด้วยวิธีอื่นก็ได้ ฉันไม่บังคับฝืนใจเธอขนาดนั้นหรอก” เขาพยายามโน้มน้าวฉันอีกครั้ง

“ฉันลองดูก็ได้ แต่ถ้าเกิดว่าฉันเล่นไม่ได้ ฉันจะชดใช้ค่ากล้องให้นายเป็นเงินแทนก็แล้วกันนะ”

“จริงนะ! เยส! ฉันเชื่อว่าเธอเล่นได้อยู่แล้วแหละ ฉันชื่อซันชายน์นะ เรียกซันก็ได้ อยู่ปีหนึ่ง เธอล่ะ?”

“น้ำค้าง ปีหนึ่งเหมือนกัน เรียนมนุษยศาสตร์”

“ดีเลย รุ่นเดียวกัน คุยกันง่ายหน่อย ตอนแรกฉันแอบกลัวว่าเธอจะเป็นรุ่นพี่ซะอีก” ซันชายน์พูดด้วยรอยยิ้ม นี่ฉันดูแก่กว่าเขาเหรอ หรือว่าร้องไห้จนหน้าโทรมเกินไป

“เออ ว่าแต่จะให้เริ่มตอนไหนอ่ะ” ฉันถามรายละเอียด

“อันที่จริงตอนนี้กลุ่มฉันยังเขียนบทไม่เสร็จทั้งหมดเลยอ่ะ แถมเพื่อนๆในกลุ่มก็ยังไม่รู้เรื่องเธอจะมาเป็นนางเอกด้วย ยังไงฉันขอไลน์เธอเอาไว้ได้ป่ะ พอคุยรายละเอียดกับกลุ่มแล้วจะไลน์ไปบอกเธออีกที”

“อื้ม โอเค” ฉันตอบตกลงพร้อมกันรับโทรศัพท์มือถือของซันมาแอดไลน์ของฉันลงไป ซึ่งยังไม่ทันจะแอดไลน์เสร็จโทรศัพท์ของฉันก็มีคนโทรเข้ามาพอดี ยัยทอฟฟี่นี่เอง

“เอ่อ..แปปนะซัน” ฉันหันไปบอกกับเขาก่อนจะกดรับโทรศัพท์

“ฮัลโหลน้ำค้าง นี่แกอยู่ไหนเนี่ย ไหนบอกว่าจะมารอที่รถไง?” ยัยทอฟฟี่เหวี่ยงฉันขึ้นมาทันทีทีฉันกดรับ เสียงนี่แสบเข้าแก้วหูก่อนที่ฉันจะได้เอาโทรศัพท์แนบถึงหูซะอีก

“โทษทีแก พอดีมีเรื่องนิดหน่อยแต่กำลังจะตามไปเดี๋ยวนี้แหละ”

“ให้ไวเลยแก นี่รู้ไหมกว่าฉันจะไล่พี่เตวินให้กลับไปได้ ฉันถึงกับต้องเล่นบทตุ๊ดหื่นที่จะลวนลามพี่เขาเลยนะ..แล้ว”

“เอาน่าแก ถือซะว่าช่วยเพื่อนเอาบุญ เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวตอบแทน รอแปปนะ ฉันกำลังจะไปที่รถละ เจอกันแก” ตึ๊ด! ฉันตัดบทแล้ววางสายจากทอฟฟี่ แล้วจัดการแอดไลน์ฉันเข้าเครื่องซันชายน์ให้เรียบร้อย พอเงยหน้าขึ้นมาจะคืนโทรศัพท์ให้เขาก็พบว่าเค้ากำลังเล็งกล้องมาที่ฉัน

‘แชะ’

“เห้ย! นี่นายถ่ายรูปฉันเหรอ กล้องไม่ได้พังรึไง”

“ตัวกล้องยังโอเคอยู่ ที่พังน่ะตัวเลนส์ที่เอามาต่อกับกล้อง พอดีฉันอยากได้รูปเธอไปให้เพื่อนในกลุ่มดูอ่ะ โทษที เห็นว่าคุยโทรศัพท์อยู่น่ะ”

“จริงๆขอรูปจากฉันก็ได้ สวยกว่าแอบถ่ายอีก หน้าฉันเหวอรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ช่างเหอะๆ ฉันต้องรีบไปละนัดเพื่อนไว้ นี่โทรศัพท์นาย แอดไลน์ให้ละ ไปก่อนนะ บาย”

    เขาชะงักไปเล็กน้อยเหมือนไม่รู้จะพูดแทรกตรงไหนแล้วก็ยกมือขึ้นเหมือนจะบ๊ายบายฉันแบบงงๆหลังจากที่ฉันแร๊พรัวๆใส่เขาก่อนจะเดินออกมาเลยโดยที่ไม่รอฟังอะไร ขืนไปช้าได้โดนยัยทอฟฟี่บ่นยาวจนหูยานกันพอดี แต่จะว่าไปแล้ว การที่ฉันออกมาข้างนอกและมีแต่เรื่องวุ่นๆเข้ามา ทั้งเรื่องหนีพี่เตวินและเรื่องหนังสั้นของซันชายน์ มันก็นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้ฉันไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องกายมากนัก เห้อ...เมื่อไหร่ที่ฉันจะลืมคนเลวๆอย่างนั้นไปได้สักทีนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา