กามเทพเถื่อน
-
7) ตอนที่ 7
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “อะไรจะตายง่ายๆอย่างนั้นพี่”
มานพทำหน้างง
“ ไม่แน่น่ะ ก็เมื่อคืนเขาเมามาก อาจหัวใจวายเฉียบพลันได้ ไม่งั้นป่านนี้ทำไมเขาถึงไม่ออกมาหาอะไรกินล่ะ นพไปดูหน่อยสิ”
“โอย ไม่ได้แล้วพี่ ผมเองก็ต้องพาแขกคณะที่มาเมื่อวานนี้ออกไปนั่งเรือตกปลาเล่น นี่ช้ากว่าเวลานัดไปหลายนาทีแล้ว ไปก่อนนะพี่”
มานพหายแวบไปทันทีที่พูดจบ อริยาเองก็ทนนั่งทำงานต่อไปไม่ไหว เกรงเหตุการณ์จะเป็นไปอย่างที่ตนสันนิถาน ต้องรีบตรงไปที่บ้านหลังที่สิบทันที
เมื่อถึงก็รีบเข้าไปเคาะประตูเรียก
“คุณ คุณ ตื่นหรือยัง เปิดประตูหน่อยสิ”
ทั้งเคาะประตูทั้งส่งเสียงเรียกอยู่เป็นครู่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ มันยิ่งทำให้หญิงสาวใจคอไม่ดี
จึงตัดสินใจเอากุญแจสำรองในกระเป๋ายีนส์แบบย่ามสะพายคู่กายของตนออกมาไขเพื่อเปิดประตู พอประตูถูกเปิดออกเท่านั้น
“ เฮ้ย”
หญิงสาวอุทานลั่นด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น รีบถอยออกมาพร้อมกับกระชากประตูปิดลงอย่างรวดเร็ว แล้วมายืนใจเต้นตึ่กๆๆอยู่ตรงระเบียงด้านหน้า
ก็จะไม่ให้ตกใจยังไงไหว เพราะเปิดประตูเข้าไปพบนายนั่นยืนเปลือยกายล้อนจ้อนอยู่กลางห้อง ในมือมีผ้าเช็ดตัวอยู่ผืนหนึ่งที่เขากำลังเอาเช็ดผมอยู่
ขณะที่อริยายังตกใจไม่หายเสียงคนข้างในกลับหัวเราะฮึฮึเพราะขำท่าทีตาลีตาเหลือกของคนที่พรวดพราดเข้ามา
“เป็นอะไรน้องชาย ทำท่าเหมือนโดนผีหลอก”
เขาเปิดประตูตามออกมาถามอย่างจำได้ดีว่าเป็นคนเดียวกับที่พาเขามาส่งบ้านพักเมื่อคืนนี้
“ยิ่งกว่าผีหลอกอีก ทำไมนายไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน”
หล่อนโวยวายโดยที่ยังหันหลังให้
“เอ้า ผมอยู่ในห้องพักส่วนตัวน่ะ น้องชายเองต่างหากที่พรวดพราดเข้ามาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง”
“บ้าสิ ฉันเรียกจนคอแทบแตก”
“อ๋อเหรอ ตอนนั้นผมคงอยู่ในห้องน้ำเลยไม่ได้ยิน พึ่งออกมาตอนที่น้องชายเปิดประตูเข้ามานั้นเอง ว่าแต่นี่แน่ะ ทำไมถึงพูดกับแขกไม่เพราะเลย ”
ตอนท้ายเขากล่าวอย่างจะตำหนิ
“อยากพูดยังไงก็จะพูด”
อริยาหันขวับมาย้อนเสียงเขียวตาขุ่น แอบโล่งอกที่เห็นเขาเอาผ้าเช็ดตัวมาพันกายท่อนล่างไว้แล้ว แต่กระนั้นก็มองเขาได้ไม่เต็มตานักเพราะท่อนบนยังเปลือยเปล่า
พอเห็นหน้ากันชัดๆตอนที่ไม่เมาอย่างนี้ศิรดลถึงกับทำตาโต
“นี่เป็นผู้หญิงหรอกหรือ”
“ใช่ ตาต่ำนัก ออกจะสวยเซ็กซี่อย่างนี้ ดูไม่ออกหรือไง”
หญิงสาวดึงหมวกแก๊ปบนศีรษะของตนออกสะบัดผมยาวสยายให้เขาเห็นชัดๆแต่แทนที่เขาจะตลึงในความสวย กลับหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่
“ขำอะไรไม่ทราบ”
อริยาถามเสียงเดียวกับนักเลงอันธพาลที่ชอบหาเรื่องชาวบ้าน
“เซ็กซี่ด้วยเหรอ”
ชายหนุ่มถาม ทั้งยังขำไม่เลิก ก็ที่เขาเห็นคือหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาอ่อนใส ท่าทางประเปรียวค่อนข้างคล้ายไปทางเด็กผู้ชายแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวลายสก๊อตพับแขนมาไว้ที่ข้อศอก สอดชายไว้ในกางเกงยีนส์ขายาวสีเข้ม รองเท้าผ้าใบ และมีย่ามเก่าๆอีกอันอยู่ติดตัว เขามองไม่เห็นความเซ็กซี่ที่เจ้าตัวประกาศอยู่ป่าวๆนั้นเลยสักนิด
ท่าทางอย่างนั้นของเขาทำให้หญิงสาวที่กำลังเดือดแทบจะระเบิดออกมา
“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้น่ะ ไม่งั้นฉันจะชกปากนาย”
X
มานพทำหน้างง
“ ไม่แน่น่ะ ก็เมื่อคืนเขาเมามาก อาจหัวใจวายเฉียบพลันได้ ไม่งั้นป่านนี้ทำไมเขาถึงไม่ออกมาหาอะไรกินล่ะ นพไปดูหน่อยสิ”
“โอย ไม่ได้แล้วพี่ ผมเองก็ต้องพาแขกคณะที่มาเมื่อวานนี้ออกไปนั่งเรือตกปลาเล่น นี่ช้ากว่าเวลานัดไปหลายนาทีแล้ว ไปก่อนนะพี่”
มานพหายแวบไปทันทีที่พูดจบ อริยาเองก็ทนนั่งทำงานต่อไปไม่ไหว เกรงเหตุการณ์จะเป็นไปอย่างที่ตนสันนิถาน ต้องรีบตรงไปที่บ้านหลังที่สิบทันที
เมื่อถึงก็รีบเข้าไปเคาะประตูเรียก
“คุณ คุณ ตื่นหรือยัง เปิดประตูหน่อยสิ”
ทั้งเคาะประตูทั้งส่งเสียงเรียกอยู่เป็นครู่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ มันยิ่งทำให้หญิงสาวใจคอไม่ดี
จึงตัดสินใจเอากุญแจสำรองในกระเป๋ายีนส์แบบย่ามสะพายคู่กายของตนออกมาไขเพื่อเปิดประตู พอประตูถูกเปิดออกเท่านั้น
“ เฮ้ย”
หญิงสาวอุทานลั่นด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น รีบถอยออกมาพร้อมกับกระชากประตูปิดลงอย่างรวดเร็ว แล้วมายืนใจเต้นตึ่กๆๆอยู่ตรงระเบียงด้านหน้า
ก็จะไม่ให้ตกใจยังไงไหว เพราะเปิดประตูเข้าไปพบนายนั่นยืนเปลือยกายล้อนจ้อนอยู่กลางห้อง ในมือมีผ้าเช็ดตัวอยู่ผืนหนึ่งที่เขากำลังเอาเช็ดผมอยู่
ขณะที่อริยายังตกใจไม่หายเสียงคนข้างในกลับหัวเราะฮึฮึเพราะขำท่าทีตาลีตาเหลือกของคนที่พรวดพราดเข้ามา
“เป็นอะไรน้องชาย ทำท่าเหมือนโดนผีหลอก”
เขาเปิดประตูตามออกมาถามอย่างจำได้ดีว่าเป็นคนเดียวกับที่พาเขามาส่งบ้านพักเมื่อคืนนี้
“ยิ่งกว่าผีหลอกอีก ทำไมนายไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน”
หล่อนโวยวายโดยที่ยังหันหลังให้
“เอ้า ผมอยู่ในห้องพักส่วนตัวน่ะ น้องชายเองต่างหากที่พรวดพราดเข้ามาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง”
“บ้าสิ ฉันเรียกจนคอแทบแตก”
“อ๋อเหรอ ตอนนั้นผมคงอยู่ในห้องน้ำเลยไม่ได้ยิน พึ่งออกมาตอนที่น้องชายเปิดประตูเข้ามานั้นเอง ว่าแต่นี่แน่ะ ทำไมถึงพูดกับแขกไม่เพราะเลย ”
ตอนท้ายเขากล่าวอย่างจะตำหนิ
“อยากพูดยังไงก็จะพูด”
อริยาหันขวับมาย้อนเสียงเขียวตาขุ่น แอบโล่งอกที่เห็นเขาเอาผ้าเช็ดตัวมาพันกายท่อนล่างไว้แล้ว แต่กระนั้นก็มองเขาได้ไม่เต็มตานักเพราะท่อนบนยังเปลือยเปล่า
พอเห็นหน้ากันชัดๆตอนที่ไม่เมาอย่างนี้ศิรดลถึงกับทำตาโต
“นี่เป็นผู้หญิงหรอกหรือ”
“ใช่ ตาต่ำนัก ออกจะสวยเซ็กซี่อย่างนี้ ดูไม่ออกหรือไง”
หญิงสาวดึงหมวกแก๊ปบนศีรษะของตนออกสะบัดผมยาวสยายให้เขาเห็นชัดๆแต่แทนที่เขาจะตลึงในความสวย กลับหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่
“ขำอะไรไม่ทราบ”
อริยาถามเสียงเดียวกับนักเลงอันธพาลที่ชอบหาเรื่องชาวบ้าน
“เซ็กซี่ด้วยเหรอ”
ชายหนุ่มถาม ทั้งยังขำไม่เลิก ก็ที่เขาเห็นคือหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาอ่อนใส ท่าทางประเปรียวค่อนข้างคล้ายไปทางเด็กผู้ชายแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวลายสก๊อตพับแขนมาไว้ที่ข้อศอก สอดชายไว้ในกางเกงยีนส์ขายาวสีเข้ม รองเท้าผ้าใบ และมีย่ามเก่าๆอีกอันอยู่ติดตัว เขามองไม่เห็นความเซ็กซี่ที่เจ้าตัวประกาศอยู่ป่าวๆนั้นเลยสักนิด
ท่าทางอย่างนั้นของเขาทำให้หญิงสาวที่กำลังเดือดแทบจะระเบิดออกมา
“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้น่ะ ไม่งั้นฉันจะชกปากนาย”
X
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ