Dear my twinkle star แด่ดวงดาวน้อยๆของฉัน

-

วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.18 น.

  7 chapter
  2 วิจารณ์
  8,642 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 11.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) Eridanus (กลุ่มดาวแม่นํ้า)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ปี้ปๆๆๆๆ.................ครืดดดดด

 

เวลา 6 โมงเย็นกว่าๆ เป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่จะเลิกงาน ในนี้เลยเน่นเป็นพิเศษ,,,,,ผมละเกลียดจริงๆเลย คือ เวลากูขึ้นเนี่ย จำเป็นต้องมีคนมาเบียดขนาดนั้นเลยหรอไง!!!! แล้วพอจะหลบให้ บางครั้งก็ไม่พ้น แล้วก็มาด่ากู!!! คือรู้ว่าอ้วน แล้วมันไปหนักหัวคุณหรือไงวะครับ?! ......ใจเย็นๆ ไม่เอาไม่โกรธ อีกไม่กี่ป้ายก็ถึงสยามแล้ว

 

 

 

เอออ.... ว่าแต่ ตั้งแต่หน้าโรงเรียนแล้วนะ ทำไมนิวยังไม่ตอบอีกละ....อย่าบอกนะว่าลืมไปแล้ว....ก็พึ่งนัดกันนิ คงไม่เบี้ยวนัดหรอกมั้ง....จะว่าไป เรื่องที่นิวจะพูดคืออะไรละ ปกติก็ไม่ค่อยได้คุยกันนิ แล้ววันนี้เป็นอะไร ถึงให้ไปเจอกันที่ สยาม กันสองคน มีอะไรแปลกๆแฮะ..

 

 

 

“ สยาม....ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปสายสีลมได้ที่สถานีนี้…..Next station Siam Interchange with Silom line” 

 

 

 

สิ้นเสียงประกาศทุกคนก็มามุงที่ประตูจนผมแทบจะกระเด็นออกมาจากรถไฟฟ้า.....พอประตูเปิด ผมก็โดนผลักจนแทบกระเด็น...หลังจากที่ผมรอด มรสุมตรงนั้นได้ ก็เดินเข้าไปในห้าง....ระหว่างเดินก็ส่งข้อความหามันตลอด มันก็ไม่ตอบ......ไม่ขั้น read ด้วย...

 

 

 

มันเบี้ยวนัดเราแน่ๆเลย...หรือมาแกล้งกัน....อะไรเนี่ย รู้ไหมว่าค่ารถไฟฟ้ามันแพงขนาดไหน แถมเมื่อกี้ก็โดนเบียดจนจะตาย!!! ถ้าไม่ตอบอีก 5 นาที จะกับจริงๆด้วย ผมที่รออยู่หน้าบันไดเลื่อนนั้น ก็ทำด้แค่มองไปรอบๆห้างด้วยความโกรธ.....พอผมมองรอบๆไปได้สักพักใหญ่ ผมก็กลับมามองที่นาฬิกา.....เหอะ ผ่านมา 10 นาทีแล้ว โอเค พอละ กูกลับแล้ว...

 

 

 

ในตอนที่ผมจะหันหลังกลับไปที่ประตู อยู่ๆ ก็มีคนเอามือมาจับข้อมือผมไว้....ด้วยความตกใจ ผมก็หันกลับไป!! ...เหอะ ไอ้นิว คือมันมาด้วยสภาพที่เหงื่อเต็มตัวเลย....ที่นี้มีแอร์ไม่รู้กี่ร้อยตัว ทำไมถึงได้เหงื่อซก แบบนี้นิ?...ตอนผมจ้องหน้ามันผมก็สึกแปลกๆขึ้นมาทันที....

 

 

 

 

 

 

 

“เห้ยยยยยยย เลาขอโต้ดดดดดดดด พอดีไปทำธุระมาอะ....ละนิมานานยังนิ”

 

 

 

“....ก็....พิ่งมา....”

 

 

 

“...เห้ยยย ขอโทษจริงๆนะยูกิ...........แล้วนิไปตากแดดมาหรอ หน้าแดงเชียว”

 

 

 

“....ปะ....เปล่า.....คือ เราแค่....”

 

 

 

“ ช่ายมันเหอะๆ 5555 แล้วนี้กินอะไรหรือยัง? ปะ หาอะไรกินกัน!! ”

 

 

 

 

 

...หลังจากที่คุยกันเราก็เดินไปหาร้านอาหารกินข้าวกัน ตอนที่ผมมา คือ โกรธมาก กะว่าเวลาเจอมันเมื่อไหรจะด่าสักเซตนึง....แต่พอเจอมันจริงๆ กลับไม่กล้าเลย...ไม่สิ แม้แต่จะพูดยังไม่กล้าเลย...เห้ย...หรอว่าเราจะเป็นอย่าที่ไอ้พลาสเตอร์บอกจริงๆ...ตอนเดินอยู่นั้น นิวมันเดินนำผมไปนี้ดนึง เดินนำด้วยหลังที่เต็มไปด้วยเหงื่อ นิวก็ไม่ได้คุยกับผมเท่าไหร ก็มีแค่ถามว่า วันนี้เรียนอะไร การบ้านนู้นนี้เสร็จยัง ถ้าเสร็จก็จะเอาไปลอก เดินมาสักพักก็ถึงร้าน...แปลกจังที่พามาร้านกาแฟ...ไปถึง มันก็สั่งๆ แล้วก็พาผมไปนั่งที่มุมของร้าน โต๊ะเป็นโต๊ะขนาดเล็กสำรับนั่งสองคน โต๊ะอยู่ในมุมมึดๆ ไม่มีคนมาใน่ในรัศมี 5 เมตรเลย...โอ้โห private มากๆ

 

 

 

“...ว่าแต่วันนี้มีอะไรถึงนัดมานี้ละ....คุยที่ โรงเรียนไม่ได้หรอ”  พอพูดจบผมก็หยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม...สั่งกาแฟดำมาให้ผมดื่ม.....อันที่เกลียดสุดเลย

 

 

 

“คือ.......เรามีเรื่องอยากให้แกช่วยหน่อยอะ...คือ.......”    มันพูดแบบไม่มองหน้าผมเลย มันเอาแต่เอาคนกาแฟของมันจนฟองนมหายไปหมด

 

 

 

“ขออะไรก็ขอมา”  ผมขึ้นเสียงใส่มัน จนมันสะดุ้งแล้วมองหน้าผม ผมเริ่มทำสายตาดุดันใส่มันแล้วจ้องหน้ามันโดยไม่กระพริบตา นิวเมื่อโดนผมจ้องจากที่กังวลอยู่แล้วก็กังวลหนักขึ้นไปอีก

 

 

 

“ก็.....ก็......คือว่า....”

 

 

 

“อะไรก็ว่ามา”

 

 

 

“....คือ.......แกมาช่วยร้องเพลงให้วงเราหน่อยได้ไหมอะ!!!!”   ในสุดมันกก็หลุดปากมาจนได้ พร้อมทำสายตาเป็นประกายเหมือนการ์ตูนนิเมะ สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าผมจะตอบโอเค

 

 

 

“ไม่”   ผมตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว เหมือนตอนที่หมอเอาค้อนเค้าะที่เข่า แล้วมันกระตุก เป็นรีเฟล็กที่ไม่ต้องผ่านสมองแต่อย่างใด พร้อมส่งสายตาเย็นชาใส่มัน  บ้าหรอ ร้องเพลงต่อหน้า คนเป็นร้อยๆ แถมเสียงเราก็ธรรมดามาก จะให้ขึ้นเป็นตัวตลกหรือไง

 

 

 

“น้า ยูกิ นะ ลองดูก่อนๆ เผื่อแกจะชอบไง! ตอนที่แกร้องเพลงในห้องดนตรีวันนั้นอะ มันเพราะจริงๆนะ ชอบมากเลยเว้ย!! นะๆ อีกไม่กี่วันนี้ เขาจะมีการคัดให้มีวงดนตรีไปเล่นที่หอประชุมโรงเรียน นะยูกินะ!!!”

 

 

 

“...ไม่เอา จะบ้าหรอ....ไม่เอาหรอก”

 

 

 

“นะๆๆ ได้แล้วเดี๋ยวเราเลี้ยงข้าว!! “  มันพูดพร้อมกับตบกระเป๋าตังไปด้วย จะว่าไปมันก็รวยจริงๆนั้นแหละ...ใช้ปัญหาสำหรับมันนิ..แต่ว่า พอมันตื้อเรื่อยๆแบบนี้ ทำไมอยู่ๆผมถึงได้ใจอ่อนลงเรื่อยๆละ.....

 

 

 

เวลาได้ล่วงเลยไปถึง 10 นาทีได้ นิว ก็ยังไม่เลิกเซ้าซี้เลย...ใจนึกก็รำคาญ อะไรวะ คนที่ร้องเพลงได้ในโรงเรียนนี้มีคนเดียวหรือไง ทำไมต้องเป็นเรา แต่อีกใจนึงก็คิดว่า......เอ แต่นี้ นิว ขอร้องเรานะ เราจะไม่ทำให้มันจริงๆหรอ.....ผมทะเลาะกับ มารในใจสักพักนึง จนสุดท้าย ก็ตัดสินใจได้ เลยเงยหน้าแล้วบอกมัน

 

 

 

“ เออ ก็ได้.........แต่แค่งานเดียวนะ”   พอผมพูดจบ มันก็นิ่งไปสักพัก แล้วจู่ๆ ก็ดีดขึ้นมาเหมือน ผีตราสังหลุด แล้วแหกปากออกมา

 

 

 

“เย้!!!!!!!!!!!!!! แต้งกิ้วหลายๆนะยูกิยยยยยย”  คนทั้งร้าน พร้อมกับพนักงาน หันมาหามันพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

 

 

 

“เห้ย!!! ไอ้นิว!!! หยุดเลย!! ถ้าไม่หุบปากจะไม่ไปจริงๆนะ”  ผมรีบเอามือไปปิดปากมัน แล้วจับมันนั่งที่ หลังจากที่ผมขู่ไป นิวมันก็เงียบลง แล้วมันก็มองหน้าผม ส่งสายตาจริงจังมาให้ผม

 

 

 

“ขอบคุณจริงๆนะยูกิ”

 

 

 

“....ออ......” จากนั้นผมก็นั่งลง เอาหน้าจมแก้วกาแฟที่หมดเกลี้ยง  แล้วทำเป็นดื่มกาแฟต่อไป

 

 

 

“....นิว..ละ..แล้ว..”  ผมพูดยังไม่ทันจบ อยู่ๆ โทรศัพท์ไอโฟนเอ็กซ์เครื่องดำๆ ของเขาก็ สั่นพร้อมกับเพลงสายเรียกเข้า ที่หน้าจอ ผมเห็นชื่อคนที่โทรมา เขียนว่า “กัสจัง” เป็นภาษาอังกฤษ  ทันทีที่นิวเห็น มันก็รีบหยิบโทรศัพท์ของันแล้วรับสายด้วยความรีบร้อน

 

 

 

“....ดีคับๆ..........ค้าบป๋มๆๆ....จะรีบไปแล้วคับบบ”  ในระหว่างที่มันพูด มันก็หยิบกระเป๋ากีตาร์ของมันแล้ว ก็ลุกขึ้นออกจากเก่าอี้แล้วเดินออกไปเลย....แต่ระหว่างทางออกจากหร้าน เหมือนจะนึกได้ นิวหันกลับมาหาผม แล้วตะโกนกฃับมาหาผม

 

 

 

“ พรุ่งนี้เดี๋ยวคุยกันนะ วันนี้เราต้องไปทำธุระแล้วๆๆ ขอบคุณนะเว้ย!!....................อ๋ออ เพื่อนครับบบ....ผู้ชายๆๆ.......”   แล้วมันก็กลับไปพูดกับบุคคลในโทรศัพท์ต่อไปและวิ่งขึ้นบันไดเลื่อนไป.....แล้วทิ้งให้ผมนั่งงงๆอยู่ในร้าน   โอ้โห จะทิ้งก็ทิ้งง่ายๆเลยเนอะ พอตั้งสติได้ผมก็เดินออกจากร้านไป....

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผมเดินกลับบ้านด้วยความสงใสตลอดเวลา....ความรู้สึกแปลกๆแบบนี้มันคืออะไรกัน.....ไม่ได้และ เราต้องเคลียรความรู้สึกนี้ให้ชัดเจน เราจะมาลังแลต่อไปแบบนี้...ไม่เอาแล้ว ในเวลาแบบนี้...คงต้องเป็นบล็อกล้วละที่เราต้องการมากที่สุด.....คือ  มันเป็นคนที่ผมไวใจได้มากที่สุด ในเรื่องแบบนี้ เพราะว่า ถ้าเราชอบนิวจริงๆ มันจะกลายเป็นว่า เราเป็นเกย์นิ....ถ้าเราบอกมันไป...มันน่าจะเป็นไม่กี่คนที่ไม่เดินออกห่างจากผม  ส่วนไอ้น้าแข็งไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจมัน แต่แค่ว่า....เรื่องแบบนี้มันไม่น่าถนัด...

 

 

 

มันเป็นคนหน้าหม้อมาโดยกำเนิดละครับ วันๆจีบผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า มันก็ไม่ได้หล่ออะไรขนาดนั้นหรอกครับ ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงหน้า ทองเหม็น บางระจัน ก็ได้ครับ แต่ว่า มันเป็นคนที่ตลกมาก ทุกคนเลยชอบอยู่กับมัน แต่เป็นคนหน้าหม้อมาก วันๆอยู่แต่กับผู้หญิงครับ แล้วมักจะไปจีบเขาก่อนแล้วจะโดนทิ้งกลับมากทุกที ก็เลยไว้ใจไม่ได้...ก็คงมีแค่บล็อกละครับ ที่ผมคุยได้ แล้วบ้านเราก็ไม่ได้อยู่ไกลกันครับ มันเลยมาบ้านผมได้สบายเลย พามันมาบ้านวัยยี้แล้วถามเลยดีกว่า...เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าเราเป็นอะไร

 

 

 

แต่ดูเหมือนฟ้าฝนจะไม่เป็นใจ ฝนตกครับ ตกหนักมาก.....แย่ละทีรี้ เห้อ.....ก็คงไม่ได้มาแล้ว ไม่เป็นไร โทรคุยก็ได้... ผมกำลังทำกับข้าวอยู่ในควรนั้น อยู่ๆก็มีเสียงตะโกนออกมาจากประตูบ้าน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“.........ไอ้กิ!!!!!!!!!! เปิดประตูววววววววววววว!!!”   เสียงของบล็อกตะโกนเสียงดังอยู่หน้าประตู พร้อมกับ เสียงเคาะประตูดังลั่น ผมตกใจมาก บ้าหรอ ฝนก็ตก ขับมอเตอร์ไซด์จากบ้านมันมาหาผม!! ผมรีบลงไปเปิดประตู....

 

 

 

 

 

สภาพแรกที่ผมเห็นมัน.....เปียกทั้งตัว ใส่ชุดนักเรียนสีขาวแนบเนื้อ โชว์ให้เห็นถึงแผงอกลอนๆ ของมัน กางเกงบอลสั้นเหนือเข่า...ผมจ้องอยู่สักพักจนมันเขกหัวผมดัง “ปัก!!”

 

 

 

“ โอ๊ยย!!! “

 

 

 

“จ้องอะไรนักหนาหะ เรียกมามีอะไร” มันมองด้วยสายตาเย็นชาหน่อยๆ แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปห้องผม  ทำเหมือนกับเป็นบ้านมันเลยนะเนี่ย

 

 

 

 

 

ผมวิ่งตามไปที่ห้อง....พอมันถึงห้อง แต่เนื่องจากมันตากฝนมามันเลยเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของผม แล้วไปค้นเอาเสื้อผมมาใส่ มันถอดเสื้อเปียกๆของมันออกโยนใส่ถังซักผ้าของผม....ภาพที่ผมเห็นต่อหน้าคือ เพื่อนผู้ชายที่ผมสนิทมานานมาถอดเสื้อ แล้วโชว์แผงอกของเขา พอเห็นสิ่งที่อยู่ต่อหน้าอยู่ๆหน้าผมก็แดงขึ้นมาเฉยๆ แล้วก็หันหน้าหนีไปอีกทาง

 

 

 

 

 

“ โอ้โห กิ เป็นอะไรวะ 5555 เดี๋ยวนี้กูถอดเสื้อแล้วมึงมีอายด้วยหรอวะ 5555 “ พูดแล้วมันก็ขำ จากนั้นมันก็เงียบไป ผมก็คิดว่ามันใส่เสื้อแล้วจึงหันกลับไป แต่ปรากฏว่า มันยังไม่ใส่ แค่นั้นยังไม่พอ มันทำหน้าตาเจ้าเหล่ แล้ว วิ่งเข้ามากอดผม!!

 

“....อะ...อะ..ไอ้ห่า..ปล่อยนะเว้ย!! ปล่อย!!”

 

 

 

“ แหมมม ทำไมละ กิจ๋า เพื่อนอยากกอดไม่ได้หรออ 555555 “ 

 

 

 

มันกอดผมแน่น ทั้งๆที่ตัวเปียกๆ ทั้งเหงื่อทั้งฝนผมสมกันหมดมาแนบตัวผมไว้ หน้าผมจากที่แดงอยู่แล้วก็แดงขึ้นไปอีก จนมันเห็นอาการเขินที่เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก....มันเลยปล่อยมือแล้วไปนั่งที่เตียง

 

 

 

“ กิ กูว่ากูรู้แล้วมึงเรียกกูมาทำไม”  จากที่แกล้งๆผมอยู่ มันก็เปลี่ยนมาเป็นจริงจังขึ้นมาทันที

 

 

 

“.........แหม มึงรู้จริงๆหรอ โกหกมึงอะ อย่างมึงนี้นะ มะ........”

 

 

 

“ มึงกำลังสงใสตัวเองว่าทำไมมึงถึงรู้สึกแปลกๆกับนิวถูกมะ”  มันพูดแทรกขึ้นมา ทำให้ผมหยุดชะงัก...เห้ย...มันรู้ได้ไงอะ..

 

 

 

“มึง....รู้.....ได้ไงวะ กูไม่เคยคุยกับมึงนะ”

 

 

 

“ กิ กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปี ?  ทำไมกูจะไม่รู้ ตั้งแต่เช้าแล้ว ที่มึงทำตัวแปลกๆ ไม่สิ ตั้งแต่ที่มึงเจอนิวมึงก็เปลี่ยนไป”

 

 

 

“.............”

 

 

 

 ผมพูดไม่ออกเลย....ที่มันพูด ก็เป็นเรื่องจริง แต่เราแสดงออกขนาดที่ว่ามันสังเกตได้เลยหรอ...

 

 

 

“ มึงฟังกูนะ มึงอะชอบมัน ไม่ได้ในฐานะเพื่อนด้วย แต่มากกว่านั้น “

 

 

 

“ มันเปลี่ยนอะไรหลายอย่างในตัวมึง เอาง่ายๆ เลยนะ กิ กูมาบ้านมึงกี่รอบแล้ว บางวันก็แทบจะแก้ผ้าเดินในห้องมึงด้วยซ้ำ มึงไม่เคยไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย แต่พอวันนี้ แค่กูตากฝนเสื้อกูเปียกจนเห็นนมกู มึงก็อายแล้ว”

 

 

 

“.......”  อยู่ๆ ผมก็เกิดอารมสะอื้นๆขึ้นมาสะงั้น

 

 

 

“ มึงชอบผู้ชายแล้วไง”

 

 

 

มันพูดด้วยเสียงออกดุๆหน่อยๆ.....สิ่งที่มันพูดมันก็จริงอะ....แสดงว่าสิ่งที่เรารู้สึกมาตลอดมันเรียกว่าการแอบชอบงั้นหรอ....แล้วถ้าเราชอบผู้ชายแบบนี้จริง...แบบนี้ แล้วบล็อกมันจะยังไงกับเราอะ......ถ้าเราเป็นเกย์จริงๆ มันจะทิ้งเราไปไหมอะ...อยู่ๆ จากที่สะอื้นจนตอนนี้ก็ร้องไห้ออกมา.....พอบล็อกเห็นผมเริ่มร้องไห้มันเลยเข้ามาหาผมแล้วจับใหล่ผม

 

 

 

 

 

“ กิ มึงฟังกูนะ ไม่ว่ามึงจะเป็นอะไรนะ มึงก็เป็นเพื่อนกู กูไม่มีทางทิ้งมึงหรอก ไอ้น้ำแข็งก็เหมือนกัน มึงจะมีผัว กูก็ไม่ว่าเข้าใจเป่า ถ้ามึงไม่มีผัวกูเป็นผัวให้มึงก็ได้..... “

 

 

 

“....อืออ...ไอ้เหี้ย!!! มึงอะ....”                  

 

 

 

“ 555 กูล้อเล่น แต่ กูก็งงนะ ทำไมมึงพึ่งมาเป็นตอนนี้ ตั้งแต่คบกับมึงมา มึงนิสัยโคตรเกย์เลยวะ 5555 “  จากนั้นมันก็กระโดดไปนอนที่เตียง แล้วก็หันหน้ามาหาผม หลังจากที่มันแซวผม มันก็เปลี้ยนหน้ามาเป็นสายตาจริง

 

 

 

“  มึงจำไว้นะ  การที่เราชอบใครสักคนนะ ก็ไม่ใช่ว่าจะสมหวังเสมอไปนะเว้ย มึงต้องคิดดีๆ “

 

 

 

“......แล้วมึงรู้ไงอะว่ากูรู้สึกแบบนี้กับนิวอะ...”

 

 

 

“ กูรู้สึกได้หลังวันวาเล็นทายไม่กี่วันอะนะ มึงไม่เคยเขินกับอะไรเลยนะ แต่มึงเขินกับนิว แล้วกูก็เห็นมึงที่สยามวันนี้ มึงไม่เคยเดินกับใครแล้วใจลอยได้ขนาดนั้น “

 

 

 

“.............”

 

 

 

“ เอาเถอะ ดีแล้วที่มึงยอมรับความรู้สึกตัวเองนะเว้ย”

 

 

 

“...........ขอใจนะเว้ย....”

 

 

 

“ ออ น่า เพราะงั้นกูไปละ หลังจากนี้มึงต้องเข้มแข็งนะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนแบบมึงจะได้รับความรักจากชายแท้ๆ คนนึง แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาสเลยนะเว้ย.....ออ ละก็ ค่าที่กูมาเป็นคลับแซทเทอร์เดย์ให้มึง ซักเสื้อกับกางเกงให้กูด้วยนะ เดี๋ยวมาเอา กูไปละ จุ้ฟ”  

 

 

 

จากนั้นมันก็วิ่งลงไปข้างล่างแล้วขี่มอเตอร์ไซด์ของมันกลับบ้านมันไป...

 

 

 

เอาแล้วสิครับ ผมชอบนิวขึ้นมาแล้วจริงๆ ไม่น่าจะใช่ความชอบความรู้สึกที่ชอบเพื่อนแล้ว แต่เป็นความรู้สึกที่มากกว่านั้น.....จะว่าไปการยอมรับความรู้สึกตัวเองก็ไม่ได้แย่เสมอไปนะครับ มันก็ยังคนที่รับในตัวตนแบบนี้ของเราด้วย ดีใจจังครับ จากที่แน่นออกมานาน ก็โล่งเลยพอได้คุยกับมัน..................ว่าแต่........หลังจากนี้จะเอาไงต่อดีละ....เอิ่ม....จีบมันหรอ...หรือ ไปเริ่มคุย หรือ....โอ้ยยยยยยยยย เราต้องทำไงก่อนดีละเนี่ยยยยย

 

 

 

ในระหว่างที่ผมกำลังฟุ้งซ่านอยู่นั้น อยู่โทรศัพท์ผมก็สั่นขึ้นมาพร้อมกับริงโทนเอกลักษณ์ของไอโฟน หน้าจอโชว์ถึงชื่อคนที่โทรมา มันเขียนว่า “ นิวเคลียร์ “....ทันทีที่ผมเห็น ผมรีบรับสายขึ้นมาทันที มือผมเปียกจนหน้าจอเลื่อนไม่ไปเลย กว่าจนเลื่อนได้ ริงโทรเกือบจบ

 

“ออโหล...”

 

“ยูกิยยย เดี๋ยวเราซ้อมกันวันพุทธนี้นะๆ “

 

“..อืม....โอเค....”

 

“ เคคคค ไว้เจอกันน้า “

 

 

 

 

 

สิ้นสุดคำสุดท้ายของมันสายก็โดนตัดไป ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งไปแล้วเอาหน้าไปซุกกับหมอน แล้วดีดขาไปมา พร้อมแหกปากเสียงดังในหมอน ทำเหมือนนางเองโดนพระเอกบอกแอบชอบเลย อาการเดียวกันแป๊ะ.....ผมสติหลุดไปสักพัก พอรู้ตัว....ก็นึกได้ว่า เอ๊ะ....กูทำอะไรลงไป..

 

 

 

“ 555555555 “ 

 

 

 

 

 

ผมขำลั่นห้องอย่าคนเดียว ก็แปลกใจนะครับผมไม่เคยมีอาการแบบนี้กับใครเลย คนนี้คงเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมใจสั่นเป็นไวเบรเตอร์ ได้ขนาดนี้  ผมเดินไปหยิบโทรศัพท์จากพื้น เปิดหน้าคอนแทก เลื่อนหารายชื่อผู้ติดต่อไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ก็มีแต่ เช็คดวง ผี ฟุตบอล บลาๆ จนเจอกับ ชื่อ “ นิวเคลียร์ “  จากนั้นก็เลื่อกปุ่มตัวเลือก แล้วไปที่เปลี่ยนชื่อ แล้วผมก็พิมพ์ว่า “ Mi pololo *หัวใจ* “  เสร็จก็ปิดหน้าจอ แล้วเอาโทรศัพท์มาแทบอับอกไว้..

 

“ ยาหยี๋ ครับ ผมเจอเนื้อคู่ของผมแล้วนะคับ!!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------

 

สวัดดค้าบบบบบ อาจจะลงช้าไปนี้ดนะคับบบ ก็ขอโทษด้วยนะคับบบ อ่านแล้วก็คอมเม็นต์ด้วยก็ดีนะคับ มีอะไร

 

ปรับได้เน้อ 5555 ขอคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคับบบบบ

 

 

 

-แบ้กแบ้กเขียนสือ​     

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา