The Last Pirate

-

เขียนโดย Tin59

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.10 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  6,860 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 16.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) เริ่มต้นความเกลียดชัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เวลาเช้าตรู่  ณ เกาะฟาโกเน่ อันห่างไกลผู้คน เกาะนี้อยู่ในความปกครองของ โลเวลล์ แม็กซ์ ฟาติโน่ ผู้เป็นสหายร่วมปล้นของเฮนรี่ครั้งเมื่อแรกเริ่มเป็นโจรสลัด

 

 

“ท่านโลเวลล์ครับ กัปตันเฮนรี่เดินทางมาถึงแล้วครับ ตอนนี้รอท่านอยู่ที่ห้องทำงานพร้อมกับบิวเนอร์ครับ” ลูกน้องคนสนิทของโลเวลล์เอ่ยขึ้นขณะที่เขากำลังวุ่นกับงานบนโต๊ะอยู่

 

 

“โอ้ย!! ข้าลืมไปเลยว่าเป็นคนบอกให้เขาเดินทางมาที่นี้โดยเร็วที่สุด เลยไม่ได้เตรียมพร้อมจะออกไปรับ  เฮ้อ แย่จริง ข้าคงจะเร่งทำงานมากไปหน่อย” โลเวลล์บ่นกับตัวเอง

 

 

“ขอบใจเจ้ามากนะโคลท์ที่ไปรับเฮนรี่แทนข้า….เจ้าไปบอกเฮนรี่ว่าอีกสักครู่เดี๋ยวข้าจะออกไปพบ”

 

 

“ครับ ท่านโลเวลล์” โคลท์รับคำสั่งผู้เป็นนายก่อนเดินออกไป

โลเวล์จึงวางเอกสารทุกอย่างลงบนโต๊ะแล้วไปแต่งตัวด้วยชุดที่เป็นทางการมากกว่าชุดนอนที่เขาสวมใส่อยู่ตอนนี้ ก่อนจะออกไปพบเฮนรี่ที่ห้องทำงาน

 

 

“เฮนรี่” โลเวลล์เรียกชื่อนั้นด้วยความดีใจ พร้อมวิ่งเข้าไปกอด

 

 

“ข้าคิดถึงท่านที่สุด เฮนรี่” โลเวลล์พูดด้วยความดีใจขึ้นไปอีก เมื่อเฮนรี่ลุกขึ้นมากอดเขาตอบ โคลท์และบิวเนอร์ที่นั่งดูอยู่ได้แต่ยิ้มให้ในความสัมพันธ์ของเขาสองคนนี้

 

 

“ฮ่าๆๆๆ เจ้ายังคงไม่เปลี่ยนไปเลยนะโลเวลล์” แบบนี้แหละเฮนรี่ถึงชอบเขา โลเวลล์ผู้ที่ไม่เคยแคร์ต่อสายตาใคร เขาทำทุกอย่างที่เขาอยากทำไม่ว่าใครจะนินทาอย่างไรก็ตาม เขาหาได้สนใจไม่

 

 

“ข้าต้องขออภัย ที่ไม่ได้ออกไปรับท่านที่ท่าเรือ ข้าเร่งทำงานให้เสร็จ เพื่อที่จะได้ใช้เวลากับงานใหญ่ของท่านอย่างเต็มที่”  โลเวลล์พูดบอกหลังจากที่นั่งลงบนเก้าอีกฝั่งตรงข้ามเฮนรี่

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงข้าก็ต้องมาที่ปราสาทของเจ้าอยู่ดี”

 

“เราเข้าเรื่องงานกันเลยดีกว่า ข้าไม่อยากจะเสียเวลาไปแม้แต่นาทีเดียว เกี่ยวกับเรื่องข้อความในจดหมายที่เจ้าส่งไป” เฮนรี่พูดต่อด้วยท่าทางจริงจัง

 

 

“ฮ่าๆ ท่านก็ยังเป็นท่านเช่นเดิมนะเฮนรี่” โลเวลล์อออกจะตลกด้วยซ้ำ กับท่าทีจริงจังของเฮนรี่

 

 

“โคลท์ เจ้าไปเอาข้อมูลทั้งหมดที่เราได้มาเมื่อสัปดาห์ก่อนมาให้ข้าที” โลเวลล์สั่งออกไป

 

 

“ครับ ท่านโลเวล” โคลท์รับคำสั่งก่อนเดินออกไป  ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมแผ่นกระดาษจำนวนมาก

 

 

“นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับประเทศฟอจจา ทั้งข้อมูลการปกครอง ท่าเรือ การทหาร เสบียง ผังเมืองใหม่และทุกๆอย่างที่เราต้องรู้ สายของข้าที่อยู่ที่นั้นรวบรวมเอาไว้ตลอดห้าปีมานี้ มันเปลี่ยนแปลงไปมากอยู่ทีเดียว ต่างจากเมื่อตอนที่พ่อของท่านยังปกครองอยู่” โลเวลล์อธิบายเมื่อโคลท์วางเอกสารทุกอย่างลงบนโต๊ะ

 

 

“ส่วนเรื่องทหารจากประเทศเนเปิ้ลและพอสกัลที่เจ้าให้ข้าไปเจรจานั้น ก็เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองประเทศตกลงจะส่งทหารมาช่วยเราทุกเมื่อที่เราต้องการ” โลเวลล์พูดต่อ

 

ทั้งเฮนรี่และบิวเนอร์ต่างก็ดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น แล้วหยิบเอกสารต่างๆขึ้นมาดู

 

“ข้าโชคดีจริงๆที่มีคนอย่างเจ้าเป็นสหาย โลเวลล์” เฮนรี่พูดด้วยความจริงใจ

 

 

“ไม่หรอกเฮนรี่ ท่านเองก็ช่วยข้าไว้มาก เรื่องแค่นี้มันไม่ลำบากข้าหรอก” โลเวลล์บอกออกไป กับเฮนรี่แล้วไม่ว่าจะอะไรเขาก็พร้อมช่วยเหลือเสมอ เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกคนที่สูญเสียสิ่งที่รักเป็นอย่างดี เพราะเขาเองก็เคยสูญเสียทุกอย่าง แต่ก็ได้เฮนรี่ช่วยเอาไว้และผูกพันธ์เป็นสหายกันมาถึงทุกวันนี้

 

 

“และเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเราอีกอย่างนะเฮนรี่ เมื่อวานสายของข้ารายงานมาว่า ตอนนี้ดยุกอีธานกำลงทรุดป่วย เพราะสูญเสียบุตรสาวคนกลางไปในงานเลี้ยงบนเรือจากพายุกลางทะเล ส่วนบุตรชายคนเล็กก็สูญหายไปในทะเล ตอนนี้ที่ประเทศนั้นเลยวุ่นกันใหญ่กับการตามหาตัวเขา” คำบอกเล่าของโลเวลล์ทำให้เฮนรี่เข้าใจเหตุการณ์ทุกอย่างตอนนี้มากขึ้น ว่าคนที่เขาช่วยไว้นั้นมาลอยอยู่กลางทะเลได้ยังไง

 

 

“หึหึ  ข้าก็ว่าอย่างนั้นแหละโลเวลล์ และเหมือนโชคจะเข้าข้างเราสองต่อนะ”

 

 

“หืมมม?” คำพูดของเฮนรี่นั้นทำให้โลเวล์สงสัยอยู่ไม่น้อย

 

 

“ตอนนี้บุตรชายคนเล็กของอีธาน อยู่บนเรือของข้า” เฮนรี่บอกออกไป

 

 

“ห้ะ!!! เฮนรี่นี่ท่านทำอย่างไร  ท่านไปลักพาตัวเขามาเหรอ ทำไมท่านทำงานอันตรายโดยที่ไม่บอกข้า นี่ถ้า…” โลเวลล์ถามออกมาเป็นชุด

 

 

“เดี๋ยวๆก่อน โลเวลล์เจ้าใจเย็นๆ” เฮนรี่ต้องห้ามเอาไว้ ก่อนที่โลเวลล์จะรัวคำถามออกมามากกว่านี้

 

 

“ข้าเจอเขาลอยอยู่กลางทะเล จึงให้คนช่วยขึ้นมา คงเป็นเพราะพายุนั่นแหละ นับว่าเขาโชคดีมากที่เขายังรอดมาได้จากพายุหนักขนาดนั้น” เฮนรี่บอกออกไป

 

 

“อืมมมม ”

 

 

“แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อเฮนรี่…เอ่อ ข้าหมายถึงเราจะวางแผนต่อเลยหรือไม่ ในเมื่อข้อมูลทุกอย่างก็มีครบแล้ว”

 

 

“ข้าขอเวลาศึกษาเอกสารพวกนี้ก่อน คิดว่าไม่นานคงจะเข้าใจทั้งหมด ไม่เกินสัปดาห์นี้หรอก เสร็จเมื่อไหร่ข้าจะแจ้งเจ้าให้ทราบ”

 

 

“โอเค งั้นข้าขอตัวไปพักผ่อน…และขอให้ท่านทำตัวตามสบายได้เลย ที่นี้ก็เป็นเกาะในปกครองของท่าน ไม่ต้องเกรงใจอะไรข้าทั้งนั้น เดี๋ยวข้าจะสั่งการให้คนเตรียมอาหาร แล้วเราเจอกันในมื้อเย็นนะเฮนรี่^^”

 

 

“อ้อออ อีกอย่าง ข้าให้คนจัดเตรียมห้องสำหรับทุกคนไว้แล้ว  ส่วนเอกสารพวกนี้ข้าจะให้คนยกไปไว้ในห้องเดิมของท่าน  เผื่อว่าท่านจะได้ศึกษามันอย่างเป็นส่วนตัว”

 

 

“โอเค ขอบใจเจ้ามากโลเวลล์” เฮนรี่พูด ก่อนโลเวลล์จะเดินออกไปพร้อมโคลท์

 

 

“บิวเนอร์ เจ้าไปตามลีโอ แกร์ริค และโบการ์ต แล้วไปรอที่ห้องทำงานของข้านะ”

 

 

“ครับกัปตัน”

 

 

“เอ่อออ กัปตันครับ แล้วบุตรชายแห่งตระกูลไวท์ละครับ เราจะทำอย่างไรกับเขาดี” บิวเนอร์หันมาถามเฮนรี่ขณะกำลังเดินออกไปจากห้อง

 

 

“เดี๋ยวข้าจัดการเอง  เจ้าไปเถอะ”

 

 

“ครับกัปตัน”  บิวเนอร์รับคำ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

 

 

หลังจากบิวเนอร์ออกไป เฮนรี่จึงทำตามที่เขาคิดไว้ นั่นคือไปที่เรือโลวีบอนด์

 

“หึหึ…มาดูกันสิว่าเจ้าจะดำเนินบทที่เจ้าสร้างขึ้นมาอย่างไรต่อ” เฮนรี่พูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อนึกถึงบุคคลที่อยู่บนเรือของเขาตอนนี้

 

“ท่านเฮนรี่” สาวใช้เอ่ยขึ้นพร้อมทำความเคารพ ขณะที่เฮนรี่เดินผ่าน

 

“เจ้าไปบอกคนเลี้ยงม้า ว่าให้เตรียมม้ามาให้ข้าที่หน้าปราสาท ตอนนี้เลยนะ ข้าจะรออยู่ตรงนี้ เมื่อเรียบร้อยให้เจ้ามาแจ้งข้า”

 

 

“รับทราบค่ะ ท่านเฮนรี่”

 

รอไม่นาน สาวใช้คนเดิมก็เดินมาแจ้งเรื่องที่เธอรับคำสั่งจากเฮนรี่ไปเมื่อครู่

 

 

“ท่านเฮนรี่คะ ม้าพร้อมแล้วนะคะ ตอนนี้อยู่ที่หน้าปราสาทแล้วค่ะ”

 

 

“อืม ขอบใจเจ้ามาก”

 

 

เฮนรี่เดินออกไปยังหน้าปราสาทก็พบคนเลี้ยงม้ายืนรอพร้อมม้าอยู่แล้ว

 

 

“ขอบใจเจ้ามากที่เตรียมม้ามาให้ เจ้าไปทำงานเถอะ”

 

 

“ครับท่านเฮนรี่”

 

เฮนรี่ขึ้นบนหลังม้าแล้วลูบหัวมันเบา

 

“เห็นเจ้าแล้วข้าก็นึกถึงฟาโก้ขึ้นมาเลยแฮะ” เฮนรี่คิดถึงเด็กน้อยของเขา ผู้ที่ชอบขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ ฟาโก้มักจะให้เขาสอนขี่ม้าอยู่บ่อยๆ จนตอนนี้ฟาโก้แทบจะขี่ม้าเก่งกว่าเขาไปแล้ว

 

 

“รอข้าหน่อยนะฟาโก้ เสร็จงานนี้เราก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้ว” เฮนรี่พึมพำเบาๆก่อนจะขี่ม้าออกไป

 

 

“ย่าห์!!”

 

 

ใช้เวลาไม่นานเฮนรี่ก็มาถึงที่ท่าเรือ

 

“ไปไม่ได้นะครับ กัปตันสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้ท่านไปไหนจนกว่ากัปตันจะสั่ง โอ้ยยยย!!” เสียงลูกเรือแว่วมาแต่ไกล เฮนรี่รีบลงจากม้าเพื่อเดินเข้าไปดู

 

“มีอะไรกันหรือ” เฮนรี่ถามผู้คนที่กำลังล้อมวงมุงดูอะไรสักอย่าง

 

 

“มีลูกเรือของกัปตันเฮนรี่กำลังโดนทำร้ายค่ะ” หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น  เฮนรี่จึงเดินแหวกวงล้อมนั้นเข้าไป  พบว่าลูกเรือของเขากำลังถูกชายคนนึงปาข้าวของใส่อย่างไม่หยุดหย่อน

 

“หยุดเถอะครับ โอ้ยยยย!! ถ้ากัปตันมาพบว่าท่านไม่ได้อยู่บนเรือ พวกข้าจะแย่นะครับ” ลูกเรือคนนึงพูดขึ้น

 

 

“ข้าจะไป!! พวกเจ้าอย่ามายุ่งกับข้า ถอยออกไป” ชายหนุ่มผู้ที่เขาช่วยขึ้นมาจากทะเลตอบโต้ลูกเรือของเขา

 

 

“โป๊กกก! เป๊กกก!!”  เสียงสิ่งของถูกโยนใส่ลูกเรือของเฮนรี่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  เฮนรี่มองไปที่ลุกเรือก็พบว่าบนตัวพวกเข้ามีทั้งเศษผัก ผลไม้ ผ้าขี้ริ้ว หญ้าแห้งต่างๆ เต็มไปหมด

 

 

บนเรือของเขาก็มีพวกไม่ได้ความอยู่เยอะเหมือนกัน…เฮนรี่คิดในใจ

 

 

“หยุดได้แล้ว” เฮนรี่ทนไม่ไหวจึงเข้าไปจับข้อมือของชายหนุ่มที่กับลังปาข้าวของไว้แน่น 

 

“อ๊ะ!!”

 

ยูจินพยายามสะบัดมือออกแต่ก็ไม่สำเร็จ  จนเฮนรี่หันมาทำสายตาดุใส่ จึงหยุด

 

“กัปตันนน!!” ลูกเรือของเขาอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นเฮนรี่

 

 

“ข้าสั่งพวกเจ้าว่ายังไง” เฮนรี่ถามเสียงเรียบ 

 

 

“พะ….พวกข้า พวกข้าขออภัยขอรับกัปตัน ตะ…แต่..” ลูกเรือตอบอย่างตะกุกตะกัก จนสร้างความรำคาญให้เฮนรี่ไม่น้อย

 

เฮนรี่เอามือเสยผมอย่างรำคาญใจ

“เฮ้อออ !ช่างมันเถอะ พวกเจ้าไปขนของบนเรือลงมาให้เสร็จเถอะ”

 

 

“ครับ!! กัปตัน” ลูกเรือรับคำสั่งก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

“ส่วนเจ้า มากับข้า!!” ท่ามกลางสายตางงงวยของผู้คนที่ท่าเรือ เฮนรี่ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาอุ้มยูจินขึ้นไปบนหลังม้าอย่างรวดเร็ว ตามด้วยตัวเขา ก่อนจะเร่งขี่ม้าไปที่ปราสาท…ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยหมากตัวสำคัญแบบนี้ให้หลุดมือไปเป็นอันขาด

 

 

 

“ท่านจะพาข้าไปไหน  ปล่อยข้านะ!” ยูจินดิ้นไปมาไม่หยุดในวงแขนของเฮนรี่ ทำให้การบังคับม้าเป็นไปอย่างลำบาก

 

 

“ถ้าเจ้ายังไม่หยุดนิ่ง ข้าจะฆ่าเจ้าซะ” เฮนรี่สุดจะทน

 

 

“…..” มันได้ผล  คำพูดของเฮนรี่นั้นทำให้ยูจินเงียบและนิ่งไปในทันที

 

 

“หึ” เฮนรี่ยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัย

 

 

ไม่นานนักเฮนรี่ก็ขี่ม้ากลับมาถึงปราสาทพร้อมกับยูจิน

 

 

“กัปตันครับ ตอนนี้ทุกคนรออยู่ที่ห้องทำงานแล้วครับ” บิวเนอร์ที่ยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้าปราสาทบอกออกไปหลังจากที่เฮนรี่ลงจากหลังม้า

 

 

“อืม  เดี๋ยวข้าตามไป เจ้าไปแบ่งเอกสารให้ทุกคนศึกษาคร่าวๆรอข้าไปก่อน”

 

 

“ครับกัปตัน”

 

 

“ส่วนเจ้า อยากอยู่บนม้าแบบนั้นตลอดข้าก็ไม่ว่า” เฮนรี่บอกยูจิน ที่ตอนนี้ยังไม่ยอมลงมาจากม้า

 

 

“ข้าอยากกลับบ้านของข้า!” ยูจินพูดเสียงแข็ง หลังจากลงมาจากม้า

 

 

“เจ้านี่เอาแต่ใจจริงๆ ความผิดเจ้าที่ทำร้ายลูกเรือข้า ข้ายังไม่คิดโทษเลยนะ  ตอนนี้ยังจะมาทำตัวแบบนี้กับข้าอีก”

 

 

“ข้า…”

 

 

“เอาเถอะๆ ข้าไม่ใส่ใจเอาความหรอก แล้วบ้านของเจ้าอยู่ที่ใดกัน ข้าจะได้ให้คนไปส่ง ที่เกาะนี้เพื่อนของข้าปกครองอยู่ เขาให้คนไปส่งเจ้าได้ถูกต้องแน่นอน” เฮนรี่บอกออกไป

 

 

“ขะ..ข้า เอ่อ… ” ยูจินไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดอะไรต่อไปเมื่อได้ยินดังนั้น เพื่อนของคนๆนี้ปกครองเกาะแห่งนี้งั้นหรือ?  ถ้าเกิดเขามั่วบอกออกไปว่าบ้านอยู่ตรงไหน แล้วถ้าไม่มีจริงขึ้นมาเขาคงจะซวยแน่ๆ คงจะถูกสงสัยว่าแท้จริงแล้วตัวเขาเป็นใคร

 

 

“หืมมมม ว่าไงล่ะ บ้านเจ้าอยู่ที่ใดกัน” เฮนรี่ถามย้ำ พร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆยูจิน เพื่อสร้างความกดดัน แต่มันกลับทำให้ยูจินหน้าแดงขึ้นมา

 

 

“ขะ..ข้า…นี่ช่วยเอาหน้าที่มีแต่หนวดเคราของท่านออกไปห่างจากหน้าข้าได้ไหม”ยูจินทนไม่ไหว ที่หน้าของเขาขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

 

 

“ฮ่าๆ ข้าเลิกแกล้งเจ้าแล้วก็ได้” หึหึ ไหนลองบอกข้ามาสิ ว่าเจ้าจะทำยังไงต่อ เบรามี่ ยูจิน ไวท์  ไม่สิตอนนี้เจ้าชื่อยูสตัสนี่หน่า

 

“ตกลงบ้านของเจ้าอยู่ที่ใดบนเกาะนี้กัน…ยูสตัส” เฮนรี่แสร้งถามออกไป

 

 

“ขะ…ข้า…ข้า”

 

“เอ่อออ ….”

 

 

“ข้าลืม!!” ยูจินโกหกออกไป

 

“ลืม?” เฮนรี่ถึงกับงงในคำตอบของคนตรงหน้า

 

“อื้อออ ข้าลืม ข้าจำอะไรไม่ได้เลย คงเป็นพระพายุหนักในทะเลที่ทำให้ข้าสูญเสียความทรงจำไปเช่นนี้” ยูจิบพยายามหาเหตุผลมาอธิบาย

 

“แต่เจ้าจำชื่อตัวเอง กับชื่อเกาะนี้ได้ แล้วเจ้าก็ยังจำได้ว่าขึ้นเรือหาปลาจนไปเจอพายุ” เฮนรี่แย้ง

 

 

“ขะ..ข้า ข้าจำได้แค่นั้น นอกเหนือจากนั้นข้าก็จำไม่ได้แล้ว” ยูจินตอบอย่างตะกุกตะกัก และได้แต่หวังว่าเฮนรี่จะเชื่อเขา

 

“หืมมม?”

 

 

“จริงๆนะ ข้าจำไม่ได้จริงๆ ข้าอยากกลับบ้านของข้า แต่ข้าจำไม่ได้” ยูจินพยายามบอกให้เฮนรี่เชื่อเขา

 

 

“อืมมม มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่เจ้าจะจำอะไรไม่ได้ ก็เจอพายุหนักซะขนาดนั้น” เฮนรี่ทำเป็นเชื่อสิ่งที่ยูจินบอก

 

 

“แล้วเจ้าจะเอาไงต่อ ในเมื่อจำอะไรไม่ได้เช่นนี้ ให้ข้าช่วยป่าวประกาศไหม เผื่อพ่อแม่ของเจ้าจะได้รู้และมารับตัวเจ้าไป” เฮนรี่ถามลองเชิง

 

 

“อ่ะ…เอ่อ ไม่เป็นไรๆ ข้าไม่อยากรบกวนท่าน....แต่ข้าขอแค่ให้ท่านไปส่งข้าที่นอกเมืองจะได้ไหม”

 

 

“หืมมม แล้วเจ้าจะใช้ชีวิตยังไง ในเมื่อจำอะไรไม่ได้เช่นนี้ แล้วเจ้ามีเงินหรือ?”คำถามของเฮนรี่ทำให้ยูจินถึงกับชะงัก

 

นั่นน่ะสิ ข้าลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย…ยูจินคิดในใจ

 

 

“แล้วอีกอย่าง เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่เขตนอกเมืองเป็นสถานที่แบบใด” เฮนรี่ถามออกไป

 

คำถามของเฮนรี่สร้างความสงสัยให้กับยูจินไม่น้อย

“หือ สถานที่แบบใดงั้นรึ?”

 

 

“สงสัยเจ้าจะจำไม่ได้…ฮ่าๆ ข้าจะบอกให้ก็ได้ว่ามันเป็นที่ๆบุรุษมักจะไปหาความสำราญกัน ข้าว่ามันยังเร็วไปนะสำหรับเด็กหนุ่มเช่นเจ้า” คำตอบของเฮนรี่ถึงกับทำให้ยูจินหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ ถึงเขาจะไม่เคยผ่านผู้หญิงมาก่อน แต่ก็พอจะรู้ว่าการที่ผู้ชายจะหาความสำราญให้ตัวเองนั้นมันมีไม่กี่อย่างหรอก

 

 

“ฮ่าๆ เจ้าหน้าแดงแบบนี้จะให้ข้าคิดเช่นไร” เฮนรี่ตลกกับท่าทางของยูจิน เขาไม่เคยเห็นชายใดที่มีท่าทีแบบนี้เมื่อพูดถึงเรื่องอย่างว่า

 

 

“ข้าไม่ได้หน้าแดงสักหน่อย! แล้วอีกอย่างข้าก็อายุ 20 แล้วด้วย”

 

 

“ฮ่าๆ เอาหล่ะๆ ข้าจะไปส่งเจ้าตามที่เจ้าขอ ไม่มีเหตุผลที่จะรั้งเจ้าไว้ ไหนๆก็ช่วยมาแล้ว ข้าจะช่วยอีกหน่อยก็แล้วกัน แต่ต้องหลังจากที่ข้าคุยธุระกับลูกน้องเสร็จนะ” เฮนรี่บอก เขายังคงตลกกับท่าทางของคนตรงหน้าไม่เลิก

 

 

“ขอบคุณท่านมากๆ” ยูจินพูดด้วยความดีใจ เขาจะได้ไปออกไปจากกลุ่มโจรพวกนี้ซักที

 

 

“ฮ่าๆ ไม่หนักหนาสำหรับข้าหรอก…ตามข้ามาเถอะ” เฮนรี่บอก ก่อนจะเดินนำเข้าไปในปราสาท

 

 

เฮนรี่เดินเข้าไปสั่งการกับสาวใช้ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่

 

 

“เจ้าตามพวกสาวใช้ไปรอที่ห้องของข้าก่อนก็แล้วกัน  คุยธุระเสร็จเมื่อไหร่ ข้าจะให้คนไปตาม” เฮนรี่เดินมาบอกกับยูจิน 

 

 

หึ..คิดหรือว่าข้าจะทำตามที่เจ้าของ่ายขนาดนั้น  หมากตัวสำคัญขนาดนี้ข้าคงไม่ปล่อยเจ้าหลุดมือไปง่ายๆหรอกคุณหนูไวท์

 

 

“อื้ออ” ยูจินตอบรับอย่างไม่สงสัยอะไร ก่อนจะเดินตามสาวใช้ไปอย่างว่าง่าย

 

 

“แล้วก็ข้าฝากสัมภาระของข้าไปเก็บที่ห้องด้วยนะ ”เฮนรี่พูดก่อนจะถอดสายสะพายปืนพกและผ้าคลุมให้กับสาวใช้

 

เมื่อเห็นว่ายูจินเข้าห้องนอนของเขาไปแล้ว เฮนรี่จึงเดินไปยังห้องทำงานที่ลูกน้องของเขากำลังรออยู่

 

 

“ขอโทษที่ข้าทำให้พวกเจ้ารอนะ” เฮนรี่บอกเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงาน

 

 

“ไม่หรอกครับ ว่าแต่เอกสารอยู่ไหนเหรอครับกัปตัน” บิวเนอร์ถามขึ้น

 

 

“หืม ก็โลเวลล์บอกว่าจะให้คนยกมาไว้ห้องข้าไม่ใช่รึ ข้าก็นึกว่ายกมาแล้วเลยบอกให้เจ้ามาแบ่งให้ทุกคนศึกษารอข้า”เฮนรี่ตอบออกไปอย่างงงๆ

 

 

“ห้อง? คุณโลเวลล์ได้บอกหรือไม่ครับ ว่าห้องนอนหรือห้องทำงานของกัปตัน”แกรร์ริคถามขึ้น

 

 

“เขาบอกว่าห้องเดิมของข้า…ห้องเดิมของข้า?...ไม่ๆๆนะ!! ” เฮนรี่อุทานเสียงดังอย่างตกใจ

 

 

“เอกสารต้องไปอยูห้องนอนของข้าเป็นแน่..และตอนนี้บุตรชายตะกูลไวท์กำลังอยู่ในห้องนั้น!!” เฮนรี่พูดต่อ ทำเอาทุกคนตกใจไปตามๆกัน ถ้าเกิดยูจินเห็นเอกสารทุกๆอย่าง ความจะต้องแตกเป็นแน่

 

 

ทุกคนได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งไปที่ห้องของเฮนรี่ เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่ายูจินกำลังยืนอ่านเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ ด้วยมือที่สั่นเทา

 

 

นี่มันอะไรกัน นี่มัน!!

 

“นี่พวกเจ้า…ทำไม ทำไมถึงมีข้อมูลเกี่ยวกับบ้านเมืองของข้า!!” ยูจินพูดเสียงดังด้วยความโมโหและสงสัย จนลืมไปว่าตัวเขาเองนั้นอยู่ในนามของยูสตัสไม่ใช่ยูจิน…ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับบ้านเมืองของเขามาตกอยู่มือของพวกโจรสลัดได้ยังไง ความสงสัยเกิดขึ้นเต็มหัวไปหมด เพราะข้อมูลบางอย่างเขาเองแทบไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ

 

 

“เจ้าเห็นหมดแล้วสินะ เบรามี่ ยูจิน ไวท์” เฮนรี่พูดออกมาอย่างใจเย็น

 

 

“จะ..เจ้า เจ้ารู้?” จากความโมโหเริ่มเปลี่ยนเป็นความสับสนและความกลัวขึ้นมาแทนที่

 

 

“หึ…ใช่แล้วล่ะ ข้ารู้  รู้ว่าเจ้าเป็นใครมากจากไหน ตั้งแต่วันที่ช่วยเจ้าขึ้นมาจากทะเล!!” เฮนรี่พูดเสียงดัง สร้างความตกใจให้กับทุกคนยิ่งนัก

 

 

“เจ้า…พวกเจ้ามันโจรชั่ว เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่” ยูจินถามออกไปด้วยร่างกายที่สั่นไปทั้งตัว

 

 

“หึ  ถ้าข้าบอกออกไปเจ้าจะห้ามข้าได้อย่างงั้นรึ..พวกเจ้า!! ไปจับตัวเขาไว้” เฮนรี่สั่งออกไปเสียงดัง

 

 

ยูจินตกใจเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะโดนจับตัว โดยไร้ทางหลบหนี สายตาเหลือบไปเห็นปืนพกที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงรีบคว้ามันมาและเล็งไปที่เฮนรี่

 

 

“ไอ้โจรสลัดชั่ว…ข้าจะไม่ยอมให้แกได้ตามที่หวังหรอก  ยุคของโจรสลัดอย่างพวกแกมันจบไปนานแล้ว”  

 

 

ยูจินพูดด้วยร่างกายที่สั่นไปทั้งตัวเพราะความโมโห

 

 

“โอ้วว ปากดีจังนะครับคุณหนู..หึหึ  ก็ใช่อยู่ว่ายุคของโจรสลัดมันหมดไปแล้ว  แต่ว่า…ข้ายังอยู่!  และอยู่ในนามของโจรสลัดที่ท่านแสนจะเกลียดชัง”

 

 

เฮนรี่ตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวกระบอกปืนที่คนตรงหน้านั้นถือและเล็งมาที่เขา

 

 

‘’ยิงสิ!! อย่างเจ้ากล้าฆ่าคนหรือเปล่าล่ะ” เฮนรี่พูดต่อ เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของยูจิน

 

ยูจินมือสั่นเมื่อได้ยินคำท้าจากเฮนรี่ ไม่มีทีท่าว่าโจรสลัดตรงหน้านั้นจะกลัวเขาเลย ถ้าเขายิงออกไปจะเกิดอะไรขึ้นต่อ

 

 

“ยิงสิ!!” เฮนรี่ตะโกนเสียงดัง

 

“เฮนรี่ ระวัง!!!” โลเวลล์ที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตะโกนขึ้น ก่อนจะกระโดดไปผลักเฮนรี่ออกจากวิธีกระสุน

 

 

“ปังงง!!” เสียงปืนจากการลั่นไกของยูจินดังขึ้น

 

 

ยูจินทรุดตัวลงนั่งพร้อมปล่อยกระบอกปืนออกจากมือ เขาตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างมาก และไม่ได้ตั้งใจจะยิงออกไป แต่เพียงแค่ตกใจกับเสียงของเฮนรี่เท่านั้น

 

กระสุนไม่ได้โดนเฮนรี่ แต่เฉี่ยวเข้าที่แขนขวาของโลเวลล์

 

“โลเวลล์!! นี่เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า” เฮนรี่ถามด้วยความตกใจที่แฝงไปด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นเลือดออกมาก

 

“ท่านโลเวลล์!” ทุกคนต่างพากันตกใจ

 

“ข้าไม่เป็นไรหรอกเฮนรี่ ท่านอย่าตกใจไปเลย แค่กระสุนเฉี่ยวเอง” โวเวลล์บอกออกมาเมื่อเห็นทุกคนตกใจกันมาก ถึงแม้ปากจะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ใบหน้าของเขาก็แสดงความเจ็บปวดออกมาไม่น้อย

 

เฮนรี่มองไปที่ยูจินด้วยความโมโห

“พวกเจ้าพาโลเวลล์ไปทำแผล” เฮนรี่สั่งออกไป

 

“ครับ กัปตัน” แกร์ริคและโบการ์ตรับคำก่อนช่วยกันพยุงโลเวลล์ไป

 

“บิวเนอร์  ลีโอ เจ้าออกไปก่อน”

 

“แต่กัปตันครับ..”

 

“ข้าบอกให้ออกไป!!” เฮนรี่สั่งเสียงดัง

 

 

“ขะ..ครับกัปตัน” บิวเนอร์รับคำ เขาเองไม่เคยเห็นเฮนรี่แสดงความโกรธขนาดนี้มาก่อน

 

 

“ตึงงง!!!!” เฮนรี่ปิดประตูห้องเสียงดังหลังจากบิวเนอร์และบลูตัสเดินออกไป แล้วหันมาพูดกับยูจินที่ยังนั่งทรุดตัวอยู่ที่พื้น

 

 

“เจ้าทำอะไรลงไป!!”

 

 

“ข้ะ..” ยูจินมองเฮนรี่ด้วยความกลัว เขาไม่เคยคิดว่าจะเห็นใครที่โกรธแล้วน่ากลัวขนาดนี้

 

 

“เพี้ยะ!!!” ใบหน้าของยูจินสะบัดไปตามแรงจากฝ่ามือเฮนรี่

 

 

“ข้าถามว่าเจ้าทำอะไรลงไป!! ” เฮนรี่เข้าไปบีบแขนยูจินอย่างแรง ตอนนี้เขาเหมือนคนคลั่งและไม่มีสติไปแล้ว

 

 

“คนในตระกลูไวท์อย่างพวกเจ้า คิดจะพรากคนที่ข้ารักไปถึงเมื่อไหร่กัน!!” เฮนรี่ทั้งบีบและเขย่าแขนของยูจินด้วยความโกรธ

 

 

ถ้าเกิดว่ากระสุนปืนโดนจุดสำคัญของโลเวลล์เข้าล่ะ  ถ้าเกิดมันไม่ได้เฉี่ยวแค่ที่แขน เขาคงต้องสูญเสียเพื่อนที่สำคัญของเขาไปเป็นแน่  

 

เพราะคนๆนี้ คนจากตะกูลไวท์ที่เขาแสนเกลียดชัง

 

“โอ้ยยย ข้าเจ็บ” ยูจินทั้งเจ็บ กลัว และสับสนกับคำพูดของเฮนรี่อย่างมาก

 

“เจ็บงั้นรึ  เจ้าบอกว่าเจ็บอย่างงั้นรึ!! ความเจ็บของเจ้ามันเทียบกับที่พ่อของเจ้าทำไว้กับข้าไม่ได้เลย!!”

 

 

“เจ้าพูดอะไร พ่อของข้าไปทำอะไรให้เจ้า” ยูจินกลั้นใจถามออกไป

 

 

“อ๋อ นี่พ่อของเจ้าคงจะปิดความลับนี้ไปจนตายเลยสินะ ว่าเคยทำอะไรกับครอบครัวของข้าไว้บ้าง!”

 

 

“’งั้นเจ้าก็รับรู้ไว้ซะ ว่าพ่อของเจ้าหักหลังพ่อของข้า ไม่พอยังยึดบ้านเมืองที่พ่อข้าปกครองอยู่ไปเป็นของตัวเอง และฆ่าทุกคนในครอบครับข้าจนหมดสิ้น!!” เฮนรี่พูดทุกอย่างออกไปจนหมดด้วยความโมโห

 

 

“เจ้าพูดอะไรออกมา…ไม่จริง!! ไม่จริง พ่อข้าไม่มีทางทำแบบนั้น เจ้าโกหก!”ยูจินเถียงขาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่มีทาง เขาไม่มีทางเชื่อคำพูดของโจรสลัดเด็ดขาด

 

 

 “ถ้างั้นเจ้าคิดว่าข้าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับประเทศฟอจจานี่ไปทำไมกัน!!” เฮนรี่พูดพร้อมโยนเอกสารทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะใส่หน้ายูจินอย่างแรง จนแผ่นกระดาษทั้งหมดปลิวไปทั่วห้อง

 

 

 “ข้า..” ยูจินเถียงไม่ออก ถ้าจะไปปล้นธรรมดาคงไม่ต้องมีข้อมูลทั้งประเทศลึกขนาดนี้  ไม่ใช่การปล้นงั้นหรือ  ถ้าโจรสลัดไม่ปล้น แล้วพวกเขาคิดจะทำอะไร?ทำไมถึงต้องมีข้อมูลทางทหารและการปกครองต่างๆ

 

 

สิ่งที่ยูจินคิดได้นั้นมันร้ายแรงมาก ถึงกับทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก

 

 

“ระ..หรือว่าพวกเจ้าจะก่อสงคราม” 

 

 

“หึ..ฉลาดเหมือนกันนี่ ข้าคิดว่าคุณหนูที่ใช้ชีวิตสุขสบายเช่นเจ้าจะคิดเรื่องแบบนี้ไม่ออกเสียแล้ว”

 

 

“จะ….เจ้า” ยูจินสั่นไปทั้งตัว สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดกับประเทศอันสงบของเขาที่สุด ก็คือสงคราม เพราะมันนำพาการสูญเสียทุกสิ่งอย่าง สิ่งที่ได้ก็มีเพียงชัยชนะของผู้ทำสงครามก็เท่านั้น เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เฮนรี่พูดเป็นความจริงหรือไม่  เขาไม่อยากเชื่อมันด้วยซ้ำกับการที่เฮนรี่บอกว่าพ่อของเขาเป็นคนแบบนั้น แต่เมื่อจะหาเหตุผลมาแย้งว่าเฮนรี่โกหกนั้นก็ไม่มีเลย

 

 

“ข้าจะเอาทุกอย่างที่เคยเป็นของข้ากลับคืนมา และพ่อของเจ้าจะต้องสูญเสียทุกสิ่ง..สูญเสียเหมือนที่เคยทำกับข้าไว้!!”

 

 

“เพี้ยะ!!” ยูจินตบไปที่ใบหน้าของเฮนรี่จนสุดแรง

 

“หยุดกล่าวหาพ่อของข้าสักที ไอ้โจรชั่ว!!”

 

 

“นี่เจ้า..ไม่รู้สถานะตัวเองตอนนี้เลยเหรอ!! เจ้าถึงกล้าตบข้าเช่นนี้!!” เฮนรี่โมโหมาก และไม่รอคำพูดใดจากคนตรงหน้า  เขาเหวี่ยงยูจินไปที่เตียงอย่างแรงและขึ้นคร่อมทับบนร่างนั้นอย่างรวดเร็ว

 

“โอ้ยยย” ยูจินร้องด้วยความเจ็บปวด

 

 

“ข้าจะทำให้เจ้ารู้ ว่าตอนนี้เจ้าไม่มีสิทธิที่จะทำอะไรตามที่อยากทำ เจ้ามันก็เหมือนลูกไก่ในกำมือของข้า” เฮนรี่บอกก่อนจะก้มลงไปซุกไซร้ที่ซอกคอขาวของยูจินด้วยความรุนแรง

 

 

“โอ้ย! ปล่อยข้านะ เจ้าจะทำบ้าอะไร!!” ยูจินดิ้นไปมาไม่หยุด

 

 

“หึ..ก็เริ่มทำให้ทุกอย่างเป็นของข้ายังไงล่ะ!!!”

 

 

 

 

 

 

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////

TBC.

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา