The Last Pirate

-

เขียนโดย Tin59

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.10 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  6,859 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 16.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เริ่มต้นการสูญเสีย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

            ณ คฤหาสน์ใจกลางตัวเมืองของประเทศฟอจจา ประเทศทางตอนเหนือที่มีดินแดนติดกับประเทศเกรทบริเธน

 

 

“ท่านพี่ช่วยพูดกับท่านแม่ให้ข้าไม่ได้เหรอครับ  ข้าไม่อยากไปงานเลี้ยงน้ำชาของมาดามเบลล์เลย”ยูจินที่ถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าบรรดาสาวใช้ ทำหน้าไม่สบอารมณ์ที่โดนบังคับให้แต่งตัวเพื่อที่จะไปงานเลี้ยงกับผู้เป็นมารดา

 

 

“ถ้าข้าช่วยเจ้าได้ ข้าคงไม่ต้องมาช่วยเจ้าแต่งตัวแบบนี้หรอกนะยูจิน”เวโรนิก้าพูดบอกกับน้องชายขณะช่วยผูกเน็คไทด์ให้

 

 

“เห้ออออ ข้าไม่อยากไปเลย  ฝึกขี่ม้าอยู่ที่นี่ยังจะสนุกกว่าเป็นไหนๆ”ยูจินบ่นออกมา

 

 

“ช่วยไม่ได้ย่ะ!! ทางมาดามเบลล์เค้าขอมาว่าให้ชั้นพาคุณยูจินลูกชายคนสุดท้องที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนของชั้นไปด้วย”เสียงบุคคคลที่สามพูดขึ้น ยูจินไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าแม่ของเขานั้นยืนฟังอยู่

 

 

“ท่านแม่-0-” 

 

“ท่านแม่ -,- ”

 

 

สองพี่น้องอุทานอย่างตกใจออกมาพร้อมกัน

 

 

“จ๊ะ  ก็แม่น่ะสิ นี่ถ้าแม่ไม่มาดูว่าพวกเจ้าแต่งตัวถึงไหนแล้ว เจ้าคงจะบ่นแม่มากกว่านี้อีกซินะ”

 

 

“แหะๆ ท่านแม่ก็พูดไป ลูกชายคนนี้จะกล้าบ่นให้คนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยได้ยังไงละครับ”ยูจินพูดพร้อมทำสายตาออดอ้อน

 

 

“แล้วไป แม่จะถือว่าไม่ได้ยินที่ลูกพูดว่าไม่อยากไปก็แล้วกันนะจ๊ะ^^” ผู้เป็นแม่อารมณ์ดีขึ้นมาทันที

 

 

“แต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปรอแม่ที่รถม้าเลยนะ แม่ให้คนเตรียมไว้แล้ว แม่ขอไปทำผมเพิ่มก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวจะสวยสู้มาดามคนอื่นๆไม่ได้  ลูกชายแม่จะอายคนอื่นเอา ฮิฮิ” มาดามโรสบอกกับลูกๆก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

 

            ส่วนมากแล้วยูจินมักจะได้ไปงานเลี้ยงน้ำชาของเหล่ามาดามที่ส่งคำเชิญมายังแม่ของเขาเกือบจะแทบทุกครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะแนะนำลูกสาวของตัวเองให้รู้จักกับยูจินนั่นเอง ซึ่งตัวเขาเองไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่ มันวุ่นวายในความคิดเขา ทั้งต้องหาเรื่องคุยกับคนที่พึ่งจะรู้จักกัน  ต้องทำหน้าตายิ้มแย้ม ทั้งต้องขำเรื่องที่มันไม่เห็นจะน่าขำตรงไหนที่พวกผู้หญิงคุยกันเพื่อเป็นมารยาทอีก เฮ้อออออ มันไม่ใช่สิ่งที่คุณชายน้อยของแห่งตระกูลไวท์อย่างเขาจะชอบเลย

 

 

“อ่ะเสร็จแล้ว เราไปกันเถอะจ๊ะ”เวโรนิก้าพูดหลังจากที่ช่วยยูจินแต่งตัวจนเสร็จ

 

 

“คร้าบๆ”ยูจินตอบรับ

 

 

ทั้งสองคนเดินไปที่รถม้าพร้อมกับเหล่าสาวใช้

 

 

“สัมภาระของใครกัน”ยูจินถามขึ้นขณะกำลังยืนรอผู้เป็นมารดา และเห็นคนรับใช้ถือกระเป๋าสัมภาระมาจัดเก็บที่ด้านหลังรถม้าอีกคัน

 

 

“นั่นน่ะสิ”เวโรนิก้าก็สงสัยไม่แพ้น้องชายของเธอ

 

“มาดาม…” คนรับใช้กำลังจะเอ่ยตอบ 

 

 

“ของแม่แล้วก็ของพวกลูกๆนั่นแหละจ๊ะ”มาดามโรสที่เดินมาพอดี พูดตอบลูกๆของเธอไป

 

 

“ของพวกข้า??” ยูจินและเวโรนิก้าพูดขึ้นพร้อมกัน

 

 

“ก็งานเลี้ยงครั้งนี้มันค่อนข้างแต่กต่างไปจากครั้งไหน ไปกลับในวันเดียวไม่ได้หรอกจ๊ะ เพราะเป็นงานเลี้ยงบนเรือที่จะล่องไปในทะเล และเข้าเทียบท่าที่แหลมรีไวน์ของประเทศเกรทบริเธน เป็นงานฉลองให้กับสามีของมาดาเบลล์ที่ได้รับตำแหน่งใหม่ที่นั่นน่ะ”มาดามโรสอธิบาย

 

 

“แล้วเราต้องไปกี่วันกันครับท่านแม่”ยูจินถามออกไป เขาไม่อยากจากบ้านไหนนานเลย อยู่บ้านที่มีเพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่าง อยากได้อะไรก็มีให้ตามใจเขานึก ใครล่ะจะอยากไปไหน

 

 

“รวมระยะเวลาเดินทางกลับด้วยก็ประมาณ 2สัปดาห์จ๊ะ”

 

 

“2 สัปดาห์!!!” สองพี่น้องอุทานออกมาพร้อมกันอีกครั้ง  

 

 

“ท่านแม่ นี่มันครึ่งเดือนเลยนะคะ”เวโรนิก้าก็เป็นอีกคนที่ไม่อยากไป

 

 

“พวกลูกไม่ต้องมาแย้งหรืออะไรทั้งนั้น แม่รับปากกับทางมาดาเบลล์ไปแล้ว”

 

 

“แต่ข้า…” ยูจินกำลังจะพูดแย้ง แต่ก็โดนผู้เป็นแม่ตัดบทไปซะก่อน

 

 

“หยุดจ๊ะ  เป็นลูกก็ต้องตามใจแม่สิจ๊ะ เด็กดี^^  ไปๆ ขึ้นรถม้าได้แล้ว เราต้องไปที่ท่าเรือ จวนจะถึงเวลาที่เรือออกแล้วนะ”

 

หลังจากนั้นทั้งสองพี่น้องก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งงานเลี้ยงบนเรือเริ่มขึ้น พวกเขาต้องเข้าร่วมอย่างไม่เต็มใจตามคำสั่งของผู้เป็นแม่

 

 

“ยิ้มไว้จ๊ะลูก ยิ้มไว้”มาดามโรสบอกกับลูกๆของเธอที่ทำหน้าตาบูดบึ้งอยู่ตั้งแต่ก่อนขึ้นเรือแล้ว

 

 

“คร้าบๆ”

 

 

“ค่าๆ”

 

สองพี่น้องตอบอย่างไม่เต็มใจ

 

“เดี๋ยวแม่ขอไปที่โต๊ะตรงนั้นก่อนนะ พวกลูกๆก็ทำตัวร่าเริงเข้าไว้ล่ะ”มาดามโรสพูด ก่อนจะทิ้งลูกๆของเธอไว้ที่โต๊ะแถวขอบเรือ แล้วเดินไปที่โต๊ะพวกมาดามคนอื่นๆ

 

 

“เห้ออออ ข้าล่ะอยากจะโดดลงจากเรือแล้วว่ายน้ำทะเลกลับคฤหาสน์จริงๆ”เวโรนิก้าพูดขึ้น

 

 

“ข้าก็อยากทำเหมือนท่านพี่ แต่นี่มันกลางทะเลไกลจากเมืองเรามากโขอยู่”ยูจินเห็นด้วยกับพี่สาวของเขามาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

 

 

            บรรยากาศงานเลี้ยงน้ำชาบนเรือขนาดใหญ่ของเหล่าชนชั้นสูง ดำเนินไปอย่างหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม อาหาร ของว่างต่างๆ ที่เงินสามารถซื้อได้ นักดนตรีบรรเลงเพลงให้เข้ากับบรรยากาศยามค่ำคืน ทุกๆคนบนเรือนี้ดูสนุกสนานไปกับงานเลี้ยงเป็นอย่างมาก  เว้นแต่สองพี่น้องที่โดนบังคับมา….นี่มันเกินงานเลี้ยงน้ำชาธรรมดาไปแล้วจริงๆ ยูจินได้แต่คิดในใจ

 

 

“ข้าว่าอากาศมันแปลกๆนะยูจิน”เวโรนิก้าพูดขึ้นท่ามกลางความเบื่อหน่ายของเขาและน้องชาย

 

 

“หืมม?”ยูจินสงสัย

 

“ก็ข้ารู้สึกแปลกๆน่ะสิ อยู่ดีๆอากาศก็เริ่มเย็นขึ้นมา”เวโรนิก้าบอกพ้อมกับเอามือทั้งสองข้างลูบต้นแขนตัวเองไปมา

 

 

“ข้าก็เริ่มรู้สึกเหมือนท่านพี่”ยูจินเห็นด้วย ว่าอากาศมันเย็นขึ้นจริงๆ เย็นเหมือนฝนจะตก

 

ไวเท่าความคิด ฝนเริ่มลงเม็ดจากเบาๆกลายเป็นตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนมองไปทางไหนก็มีแต่เม็ดฝน ผู้คนต่างแตกตื่น บ้างก็วิ่งเข้าห้องบนเรือ บ้างก็วิ่งลงใต้ท้องเรือไป ตอนนี้ทุกคนไม่สนใจงานเลี้ยงแล้ว มีเพียงสองพี่น้องที่เบื่อหน่ายในงานเลี้ยง ที่เริ่มสนุกขึ้นมา

 

 

“วู้ววววๆๆ วู้ๆๆ ฝนตกนี่ดีงจังนะยูจิน!!” เวโรนิกก้าตะโกนขึ้น

 

 

“เย่ วู้ววว ข้าก็ว่าอย่างงั้นแหละท่านพี่ วู้วๆๆ!”ยูจินตะโกนตอบกลับ พร้อมกับเอามือรองน้ำฝน

 

 

“ซ่า!!” น้ำฝนในมือยูจินตอนนี้ไปอยู่ที่หน้าเวโรนิกก้าจนหมด

 

 

“ได้!!เจ้าจะเล่นแบบนี้ใช่ไหมยูจิน!!”

 

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็วิ่งหยอก และไล่กันไปมาท่ามกลางโต๊ะน้ำชาและเก้าอี้ที่ไม่มีคนนั่งหลายสิบตัว นั่นแหละคือความสนุกชองเขาทั้งคู่…สนุกกว่างานเลี้ยงเป็นไหนๆ 

 

และนั่นก็เป็นความสนุกครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้รับ

 

ฝนเริ่มตกหนักขึ้น และหนักขึ้น จนกลายเป็นพายุที่โหมกระหน่ำมาใส่เรือ

 

 

“เจ้าสองคนทำอะไรอยู่ตรงนั้น รีบหลบเข้าไปในห้องกับคนอื่นๆเร็วเข้า!!”เสียงชายวัยกลางคนตะโกนขึ้น ความแรงของฝนที่ตกลงมาทำให้ยูจินแทบลืมตาไม่ขึ้น ถึงจะมองหน้าไม่ชัดแต่เขาก็พอเดาได้ว่าคนที่ตะโกนมาเมื่อกี้นั้นเป็นกัปตันเรือลำนี้

 

 

“เอ่อ ข้าขอโทษครับ จะรีบไปเดี่ยวนี้แหละครับ ไปกันเถอะท่านพี่ป่านนี้ท่านแม่เป็นห่วงแย่แล้ว”ยูจินตะโกนบอกพี่สาว พร้อมยื่นมือออกไปเพื่อที่จะจับมือของเธอไว้  

 

 

“อ๊ะ!!” แต่สถานะการณ์กลับไม่เป็นใจ เรือเริ่มโคลงไปมาเพราะลมที่แรงขึ้นและฝนที่ตกหนักขึ้นไปอีก เก้าอี้และโต๊ะบนเรือเคลื่อนไปมาตามทิศทางที่เรือโคลงไป

 

 

“พวกเจ้าไปพับใบเรือขึ้นให้หมด!!”ยูจินได้เสียงกัปตันสั่งลูกน้องของเขา เมื่อมองตามเสียงนั้นไปก็พบว่ามีคนอีก 2-3คนปีนขึ้นไปบนเสาเรือเพื่อพับเก็บใบเรือ

 

 

“ยูจินนน!!” เสียงเวโรนิก้าตะโกนขึ้น  เมื่อยูจินหันไปมองก็พบว่า เวโรนิก้าอยู่ห่างอีกฝั่งของขอบเรือแล้ว เพราะแรงเหวี่ยงของเรือก่อนหน้านี้

 

“ครืนนนนน  เปรี้ยงง!!” ฝนเริ่มตกลงมาห่าใหญ่ ลมใจกลางทะเลก่อให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ เรือเริ่มโคลงเคลงมากขึ้น แรงเหวี่ยงของเรือทำให้ยูจินแทบทรงตัวไม่อยู่ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือเกาะขอบเรือให้แน่นที่สุด

 

 

“ท่านพี่!  หาที่เกาะไว้ให้แน่นๆนะครับ ข้าจะไปช่วยท่านเดี๋ยวนี้แหละ!!”ยูจินพยายามหาที่เกาะเพื่อทรงตัวและเดินไปอย่างทุลักทุเล

 

 

“ครืดดดด โครมมมมม”เสียงเก้าอี้และโต๊ะต่างๆ เคลื่อนที่ชนกัน บางตัวชนเข้ากับเสาเรือ บางตัวชนเข้ากับขอบเรือ บางตัวก็กระเด็นออกไปนอกเรือเพราะแรงลม

 

 

“ยูจินนนนน โอ้ยยย”เสียงเรียกยูจิน ครั้งสุดท้ายของเวโรนิกา  ตามด้วยเสียงร้องของเธอ เพราะโดนโต๊ะที่ไหลไปตามแรงลมกระแทกเข้ากับตัวเธอย่างแรงจนสลบไป

 

 

“ท่านพี่!!!” ยูจินตะโกนด้วยความตกใจ  

 

 

“ท่านพี่!!ท่านพี่ตื่นสิครับ ท่านพี่ๆๆ”ยูจินตะโกน เมื่อเขาเดินมาถึงตัวเวโรนิก้า ทั้งเรียกทั้งเขย่าตัว แต่เวโรนิก้าก็ไม่มีท่าทีตอบสนองใดๆ  ยูจินจึงเอานิ้วทาบที่ข้อมือของเธอดู ก็พบว่าชีพจรยังเต้นอยู่  เขายิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ ก่อนจะอุ้มตัวของเวโรนิก้าขึ้นบนหลัง 

 

 

“ครืนนนนน โครมมม ผลั่ก!!!!” ด้วยความแรงของคลื่นอีกละรอกทำให้เรือโคลงไปมาไม่หยุด ถังไม้ที่ไม่รู้กระเด็นมาจากไหน กระแทกเข้าไปที่กลางลำตัวของยูจินที่มีเวโรนิก้าอยู่บนหลังอย่างแรง จนเขาทรงตัวไม่อยู่ และแรงเหวี่ยงของเรือทำให้เวโรนิก้าและยูจินกระเด็นออกนอกเรือไป โชคยังดีที่ยูจินมีสติคว้าถังไม้ไว้ จึงใช้ถังไม้ช่วยพยุงตัวให้ลอยในทะเลได้

 

 

“ท่านพี่!!!!!!” เป็นยูจินคนเดียวเท่านั้นที่มีสติและรับรู้ทุกอย่าง  เขาตะโกนสุดเสียง ท่ามกลางพายุหนัก ร่างของเวโรนิก้าลอยอยู่ห่างจากเขาแค่นิดเดียว เขาพยายามเอื้อมมือไปคว้า แต่คลื่นทะเลก็จมเธอลงไปต่อหน้าต่อตา  ลมและคลื่นแรงขึ้นจนพัดตัวเขาที่ลอยอยู่ ห่างจากเรือออกไปเรื่อยๆ จนรอบๆตัวเขามองเหลือเพียงแค่ผืนทะเลที่มันฝนตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่นานนักเขามองเห็นบางอย่างลอยเข้ามาใกล้ และเมื่อใกล้มากจนพอมองออกว่าเป็นอะไร เขาจึงรีบคว้าเอาไว้  มันคือเชือก ซึ่งคงจะเป็นเชือกจากเรือนั่นแหละ เขาจึงเอาเชือกพันรอบตัวเองและผูกเข้ากับตัวถังไม้ที่เขาเกาะอยู่ เผื่อว่าเขาหมดแรงเกาะมันไม่ไหวแล้ว ตัวเขาจะได้ไม่จมหายไปในทะเล…ยังอยากมีชีวต..เขาเองยังอยากมีชีวิต แม้ว่าโอกาสมันจะน้อยเพียงใดก็ตาม เขาก็ยังหวังว่าพายุจะสงบ และมีเรือสักลำผ่านมาช่วยเขาเอาไว้

 

.

.

.

.

            

 

            ดวงอาทิตย์ทอแสงส่องกระทบผิวน้ำระยิบระยับเป็นสัญญานว่าพายุนั้นได้สงบลงแล้ว ความร้อนจากดวงอาทิยต์นั้นกระทบเข้ากับน้ำทะเล และร่างที่ลอยไม่ได้สติอยู่ท่ามกลางทะเลนี้ด้วย 

 

“จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ”เสียงนกที่เกาะ และจิกหาอาหารบนร่างนั้น มันจิกและคุ้ยเขี่ยอยู่นานจนทำให้เขาตื่น

 

 

“ไอ้นกบ้า! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ข้าไม่ใช่อาหารของเจ้า”ยูจินตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด และใช้มือปัดไล่นกพวกนั้นออกไป

 

 

“เรื่องเมือคืนไม่ใช่ความฝันจริงๆสินะ”ยูจินมองไปรอบๆ และไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ผืนน้ำทะเล 

 

 

“ท่านแม่….ท่านพี่…ฮึกกก อึกก  ฮึก”เมื่อนึกถุงเหตุการณ์เมื่อคืน น้ำตาของเขาก็ไหลไม่หยุด 

 

 

“ท่านพี่!!!!!!” ยูจินตะโกนออกมาอย่างขาดสติ เมื่อภาพของเวโรนิก้าที่จมหายไปในทะเลเข้ามาในหัว เสียงตะโกนสุดแรงของยูจินก้องไปทั่ว เป็นเสียงตะโกนที่มีแต่เขาคนเดียวที่ได้ยิน 

 

 

            เป็นเวลานานที่ยูจินปล่อยตัวเองลอยไปเรื่อยๆตามแรงลมเล็กน้อยที่ค่อยๆพัดมา  ถึงแม้จะไม่ได้ออกแรงอะไรเลย แต่การที่แช่อยู่ในน้ำทะเล และยังไม่มีอะไรตกถึงท้องจนถึงตอนนี้ มันก็ทำให้ความเหนื่อยล้าย้ำกลายเข้ามาในร่างกายเขาจนได้

 

 

“นี่ข้าจะต้องตายแบบนี้จริงๆเหรอ”ยูจินบ่นออกมาด้วยเสียงที่แหบพร่าและอ่อนแรง ก่อนสติเขาจะดับวูบไปอีกครั้ง

 

 

 

             

 

////////////////////////////////////////////////////////////////// 

 TBC.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา