The Last Pirate

-

เขียนโดย Tin59

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.10 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  6,862 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 16.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ถึงเวลาที่รอมาแสนนาน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

      ทะเลสีครามกว้างใหญ่สุดสายตา ถูกย้อมเป็นสีส้มด้วยแสงจากดวงอาทิตย์ที่กำลังเคลื่อนต่ำลง บอกเวลาเป็นยามบ่ายแก่ๆ บนท้องฟ้าถูกแต่งแต้มด้วยนกฝูงใหญ่ที่กำลังบินผ่านไป ควันจากบุหรี่ลอยล่องไปตามแรงลมยามเย็นแล้วค่อยๆเลือนหายไปในอากาศ ช่างเป็นทิวทัศน์ยามเย็นที่งดงามยิ่งนัก ไม่ว่าใครก็อยากซึมซับบรรยากาศอันสบายกายและใจแบบนี้ให้นานที่สุด

 

 

“อีกไม่เกิน 10 นาทีเราจะถึงเกาะแล้วครับกัปตัน”เสียงที่พูดขึ้นมาไม่ได้ทำให้เขาอยากจะตอบรับเท่าใดนัก

 

 

“…...”

 

 

“กัปตันครับ…อีก…” ชายผู้เป็นลูกน้องยังคงพูดบอกต่อ

 

 

“เออ!!ข้ารู้แล้ว  ตาข้าไม่ได้บอดนะ  มองไปข้างหน้าก็เห็นเกาะแล้ว พวกเจ้าไปเตรียมตัวเถอะครอบครัวและคนที่เกาะคงจะคิดถึงพวกเจ้ามากทีเดียว”กัปตันหนุ่มบอกออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็แฝงไปด้วยความห่วงใย

 

 

“กะ..กระผมขออภัยเป็นอย่างยิ่งขอรับ  จะรีบไปบอกทุกคนให้เตรียมตัวครับ!”

 

 

“อืม”  สิ้นเสียงตอบรับกัปตันหนุ่มหันไปมองบรรยากาศที่ยังค้างคาจนถึงเมื่อกี้ต่อก่อนเรื่องจะเทียบท่าที่เกาะข้างหน้า

 

 

            ไม่นานนักเรือก็เข้าเทียบท่าหมู่เกาะที่เป็นจุดหมาย  คือเกาะ ’บิสเก้’ซึ่งเป็นหมูเกาะแห่งการเกษตร และเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญของหลายๆประเทศ เกาะนี้ได้รับการปกครองจากชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาโจรสลัดแห่งทะเลแคริเบียนนั่นเอง  ด้วยอายุเพียงแค่ 29 ปี แต่เขาได้ปกครองคนทั้งเกาะด้วยคุณธรรมอันดีที่ผู้นำควรจะเป็น จึงได้รับความรักและความเคารพจากคนทั่วเกาะไม่น้อย 

 

 

“เฮนรี่กลับมาแล้วๆ !!”

 

 

“เฮ้ทุกคนนนนน กัปตันเฮนรี่กลับมาแล้วๆ !!”

 

 

เสียงเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งตะโกนร้องบอกผู้คนไปทั่วเกาะ  ตามด้วยเสียงคนอื่นๆที่เห็นกัปตันเดินลงมาจากเรือ  ด้วยความดีใจที่นายเหนือหัวของพวกเขากลับมา  และมีชาวเกาะหลายคนมารอรับเรือที่ท่าแห่งนี้ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ลูกเรือได้พบกับคนบนเกาะ  เป็นภาพที่ทำให้กัปตันถึงกับยิ้มไม่หุบที่ลูกเรือของเขาทุกคนได้กลับบ้านมาหาครอบครัวอย่างปลอดภัย

 

 

“ฮ่าๆๆๆ ยังคึกคักไม่เปลี่ยนเลยนะ ฟาโก้”  เฮนรี่หัวเราะออกมาหลังจากเด็กน้อยคนนั้นวิ่งมากอดเขา

 

 

“เดี๋ยวเถอะฟาโก้ เจ้าเรียกกัปตันด้วยชื่อห้วนๆแบบนี้ได้ยังไง”ผู้ติดตามคนสนิทของกัปตันดุออกไป

 

“ไม่เป็นไรน่า บิวเนอร์”เฮนรี่พูดปรามออกไป 

 

 

“เจ้าไปจัดการให้คนอื่นๆเอาสินค้าที่แลกเปลี่ยนมาได้ไปเก็บที่คลังตามประเภทเถอะนะ เดี๋ยวทางนี้ข้าจะจัดการเอง”

 

 

“ครับกัปตัน”บิวเนอร์รับคำสั่ง

 

 

“แล้วนี่ทำไมเจ้าจึงแต่งตัวเช่นนี้ ฟาโก้  เนื้อตัวก็มอมแมม ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ เจ้าสร้างเรื่องอะไรไว้รึเปล่า?”เฮนรี่หันมาเค้นเอาความจากเด็กน้อยที่แต่งตัวไม่ต่างจากชาวบ้านทั่วไป เนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่นและดิน ที่ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยข่วนและรอยดำจากถ่าน

 

 

“ข้าไม่ได้ทำเรื่องเดือดร้อนให้ท่านหรอกน่า  ข้าแค่อยากออกมาดูชาวบ้านทั่วไปแค่นั้นเอง  อยู่แต่ในบ้านข้าก็เบื่อเป็นนะ ข้าขอขึ้นเรือไปด้วยก็ไม่ให้ไป ท่านไม่อยู่เกือบสองเดือน ไม่มีใครพาข้าไปขี่ม้า หรือไปล่าสัตว์ในป่าเลย มีแต่คนบอกข้าว่ามันอันตราย เด็กอย่างข้าไม่ควรจะไป”  เด็กน้อยบ่นความน้อยใจออกมาจนหมด

 

 

“ฮ่าๆๆๆๆ ก็เจ้าพึ่งจะอายุแค่ 9ขวบเท่านั้น ทุกคนเขาก็ต้องเป็นห่วงเจ้าเป็นธรรมดา”หน้าเง้างอนของเด็กน้อย ทำให้เฮนรี่อารมณ์ดีทีเดียว

 

 

“ปีนี้ข้าอายุ11 แล้วนะ!!ท่านจำไม่ได้หรือว่าแกล้งข้าอีกกันแน่”ฟาโก้พูดเสียงดังออกไปด้วยความโกรธ ยิ่งเฮนรี่ลืมเรื่องอายุเขาเช่นนี้ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก  

 

 

 หายนะมาเยือนแล้ว! เฮนรี่ได้แต่อุทานในใจ ทำไงได้ล่ะ ในสายตาเขาแล้ว ฟาโก้ยังคงเป็นเด็กอยู่เสมอ

 

 

“แล้วรอยข่วนบนหน้าเจ้านี่มันอะไรกัน”กัปตันผู้แสนจะฉลาด เปลี่ยนเรื่องให้ตัวเองพ้นผิดทันที

 

 

“แหะๆ ข้าไปไล่จับแมวในซอกตรงนั้นมา แต่จับได้แล้วมันไม่ยอมให้อุ้ม ข้าเลยโดนข่วนอย่างที่เห็น”เด็กน้อยผู้ตามไหวพริบของกัปตันไม่ทันพูดบอกออกไปอย่างสบายใจ โดยที่ไม่คิดเลยว่าจะทำให้เฮนรี่เป็นห่วงแค่ไหน

 

 

“นี่เจ้าชักจะซนมากเกินไปแล้วนะฟาโก้  เกิดเจ้าหกล้มหรือวิ่งชนอะไรมากกว่านี้จะทำยังไง  นี่ถ้าข้ายังไม่กลับมาเจ้าจะ….” เฮนรี่พูดเสียงดุ  ทำเอาฟาโก้ที่งอนอยู่หน้าหงอยไปเลยทีเดียว

 

 

“ท่านฟาโก้ ท่านฟาโก้ขอรับ  เจอตัวจนได้  แฮ่กๆๆๆ”เสียงตะโกนดังของบุคคลที่สาม เหมือนจะมาช่วยชีวิตฟาโก้ที่กำลังโดนดุอยู่

 

 

“แฮ่กๆๆๆ อยู่นี่เองท่านฟาโก้”ทั้งดีใจทั้งเหนื่อยหอบไปพร้อมกัน  เขาดึงฟาโก้เข้ามากอดจนแทบหายใจไม่ออก 

 

 

“แอ่กกกก บลูตัสปล่อยนะ ข้าหายใจไม่ออก”ฟาโก้พยายามดันบลูตัสออกไปจากเขา

 

 

“เจอท่านจนได้นะครับ รีบกลับบ้านกันเถอะครับ ก่อนที่ท่านเฮนรี่..จะกลับ มะ..”เหมือนว่าบลูตัสจะได้ไม่ได้สังเกตว่าชายที่ยืนตรงหน้าฟาโก้คือบุคคนที่เขากลัวว่าจะกลับกมาที่สุด ในเวลาที่ฟาโก้หนีออกมาเล่นนอกบ้าน  

 

 

“ท่านเฮนรี่!!!!!!!” บลูตัสตกใจจนเกือบขาดสติ

 

 

“เจ้าพูดว่า..ก่อนที่ใครจะกลับมานะบลูตาสสส”เฮนรี่ถามด้วยน้ำเสียงที่ทำให้บลูตัสสั่นไปทั้งตัวจนไม่รู้จะพูดอะไรออกไป

 

 

“ก่อนข้าจะออกเรือ ข้าสั่งเจ้าว่าอะไร แล้วเจ้ารับปากข้าว่าอะไรบ้างนะบลูตัส หืม”เฮนรี่ถามต่อไปอีก แต่บลูตัสยังคงไม่ได้ให้คำตอบกลับมา  ใช่ว่าเขาจะลืมคำที่นายเหนือหัวสั่งไว้ และเขาได้รับปากกับเฮนรี่อย่างหนักแน่นว่าจะดูแลฟาโก้เป็นอย่างดี ไม่ให้ออกไปไหนลำพัง ฟาโก้จะเรียบร้อยที่สุดในวันที่เขากลับมาที่เกาะนี้  ซึ่งทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมดในวันนี้  

 

      ตั้งแต่วันที่เฮนรี่แล่นเรือออกจากเกาะไปเขาก็ดูแลเอาใจใส่ฟาโก้เป็นอย่างดี จะไปไหนก็มีผู้ติดตามไปด้วยตลอดไม่ให้คลาดสายตา ฟาโก้เองก็อยู่แต่ในบ้านเชื่อฟังที่เขาพูดทุกอย่าง ไม่คิดว่าแค่ปล่อยให้คลาดสายตาไปเพียงชั่วครู่เดียว ฟาโก้จะหายออกจากบ้านไป จนเขาต้องออกตามหาด้วยความวุ่นวายใจ เพราะกลัวว่าในวันที่เรือของกัปตันเฮนรี่มีกำหนดกลับมาที่เกาะ แล้วจะไม่เจอฟาโก้อยู่ที่บ้าน ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นไปแล้ว เขาต้องตายแน่ๆ บลูตัสได้แต่พล่ามกับตัวเองในใจ

 

 

“ขออภัยเป็นอย่างยิ่งครับ จะลงโทษอะไร ข้าก็พร้อมยอมรับครับ!” บลูตัสคุกเข่าก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเพราะความกลัว  แต่ก็ต้องยอมรับผิดที่ทำตามคำสั่งของกัปตันไม่ได้ เขารู้ดีว่ากัปตันนั้นรักและเอ็นดูฟาโก้มากแค่ไหน การที่ละเลยหน้าที่แบบนี้เขาก็สมควรรับผิด

 

 

“เฮนรี่ ท่านอย่าไปว่าบลูตัสเลย มันเป็นความผิดข้าเองที่ออกมาเที่ยวเล่นคนเดียวโดยไม่บอกใคร”ฟาโก้พูดขอร้อง

 

 

“ท่านฟาโก้”บลูตัสเงยหน้าขึ้นมามองฟาโก้อย่างซึ้งใจ

 

 

“แต่บลูตัสทำผิดต่อคำสั่งของข้า”เฮนรี่ทำเสียงเข้ม อันที่จริงเขาก็ไม่ได้อยากจะกล่าวโทษอะไรกับบลูตัสอยู่แล้ว เพราะรู้ดีว่าบลูตัสไม่กล้าขัดคำสั่งเขาแน่นอน  แต่แค่อยากจะลองใจเด็กน้อยของเขาดูว่าโตพอที่จะยอมรับความผิดที่ตัวเองทำไว้รึเปล่า

 

 

“แต่ข้าป็นคนหนีออกมาเอง บลูตัสไม่รู้เรื่องอะไรด้วยทั้งนั้น”

 

 

“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า  ถ้าข้ายกโทษให้บลูตัสในครั้งนี้  ข้าเกรงว่าครั้งต่อไปเขาจะทำอีก”เฮนรี่ยังคงรับบทคุณพ่อผู้แสนจะหวงลูกชายต่อ

 

 

“ข้าขอรับผิดทั้งหมดเพียงคนเดียว  ท่านจะลงโทษข้ายังไงก็ตามแต่ท่านจะประสงค์”เด็กน้อยพูดอย่างหนักแน่น

 

 

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”  ท่าทีของฟาโก้ทำให้เฮนรี่พอใจยิ่งนัก จนอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ ทำให้ฟาโก้และบลูตัสงงไม่น้อยที่เขาเปลี่ยนอารมณ์เร็วขนาดนี้

 

 

“ท่านขำอะไรเฮนรี่!” ฟาโก้ถามอย่างสงสัยและไม่พอใจ

 

 

“เจ้าโตขึ้นมานิดหน่อยเลยนะฟ้าโก้”เฮนรี่ไม่ตอบคำถาม แต่เปลี่ยนเป็นลูบหัวและพูดชมฟาโก้แทน

 

 

“เรากลับบ้านกันเถอะ ข้าคิดถึงอาหารฝีมือโซเนียจะแย่แล้ว” พูดจบเฮนรี่ก็จูงมือเด็กน้อยไปขึ้นรถม้าที่ลูกน้องเตรียมมารอรับตั้งแต่เรือเทียบท่าแล้ว

 

 

“ส่วนเจ้า…เดินกลับนะบลูตัส”เฮนรี่หันมาทำเสียงเข้มใส่บลูตัสที่กำลังงงวยอยู่ 

 

 

“เฮนรี่”ฟาโก้ร้องทัก ในเมื่อเขายอมรับผิดทั้งหมดด้วยตัวเองแล้ว ใยบลูตัสจะต้องรับโทษอีก

 

 

“เจ้าไม่มีสิทธ์จะพูดอะไรนะฟาโก้  ในเมื่อเจ้ามีความผิดอยู่”

 

 

“ออกรถได้เลย”เฮนรี่ออกคำสั่งกับสารถีต่อ

 

“ครับท่านเฮนรี่”  จากนั้นรถม้าที่เฮนรี่กับฟาโก้นั่ง ก็ห่างออกไปและดูเล็กลงเรื่อยๆในสายตาของบลูตัส

 

เอาว่ะ ดีกว่าโดนเฆี่ยนด้วยแส้จนเดินไม่ได้ แค่เดินกลับบ้าน บลูตัสคนนี้ทำไหวอยู่แล้วครับ!! บลูตัสบ่นกับตัวเองก่อนจะวิ่งตามรถม้าไป

 

      ห่างออกไปไกลจากท่าเรือและตัวเมืองของเกาะบิสเก้ มีปราสาทหลังใหญ่แยกตัวออกจากที่อยู่อาศัยของผู้คนในเกาะอย่างเห็นได้ชัด ทิวทัศน์ที่ถูกล้อมรอบด้วยป่าและสนามหญ้ารอบตัวทำให้ปราสาทหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยมากพอควร  มันคือบ้านของกัปตันผู้ปกครองเกาะแห่งนี้นั่นเอง ในความคิดเขาแล้วแค่อยากได้บ้านหลังเล็กๆไว้อาศัยก็เพียงพอ ไม่ได้อยากอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่และอลังการขนาดนี้เลย อาจจะด้วยตัวเขาเองชอบที่จะออกทะเลมากกว่าอยู่บ้านก็เป็นได้  ความหรูหราใหญ่โตจึงไม่จำเป็นสำหรับเขา  แต่ด้วยความสามารถของเขาที่สามารถปราบขุนนางชั่วและยึดเกาะนี้ไว้ได้เมื่อ10 ปีก่อน  จึงทำให้บ้านขุนนางหลังนี้ตกเป็นของเขาไปโดยปริยายปราสาทหลังใหญ่ที่สามัญชนทั่วไปไม่กล้าเข้ามาอยู่ ถ้าเขาอยู่คนเดียวคงจะเหงาเป็นแน่  ถึงจะมีฟาโก้มาอยู่ด้วยความโล่งของปราสาทก็ไม่ได้ลดน้อยลง  เขาจึงให้ลูกเรือที่สนิทกว่า 20 ชีวิตมาอาศัยอยู่ด้วย  ดังนั้น ความคึกคัก เอะอะ เสียงดัง จะเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อกัปตันและลูกเรือกลับมาที่เกาะ แต่ถึงปราสาทจะใหญ่มากแค่ไหนเขาก็ยังอยากให้ทุกคนเรียกมันว่าบ้านอยู่ดี มันเป็นคำที่ดูมีคุณค่ามากกว่าสำหรับใครสักคนที่อยากมีบ้านให้กลับมาพักพิง  

 

 

“ยินดีต้อนรับกลับค่ะ คุณเฮนรี่”หญิงวัยกลางคนที่มายืนรอรับพร้อมหล่าสาวใช้เอ่ยขึ้น เมื่อเฮนรี่ลงจากรถม้าพร้อมฟาโก้

 

 

“ป้าโซเนีย คิดถึงที่สุดไปเลยครับ” เฮนรี่เดินเข้าไปกอดแม่บ้านผู้เป็นที่รัก

 

 

“ป้าก็คิดถึงคุณเฮนรี่ค่ะ  ดูซิ หน้าตาโทรมไปเยอะเลย ไปค่ะรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ป้ากับพวกสาวใช้เตรียมน้ำอุ่นไว้รอแล้ว  อาบเสร็จจะได้มากินข้าวกินปลา ป้าจะไปเตรียมของโปรดคุณไว้รอ”

 

 

“คร้าบๆ ”กัปตันหนุ่มรับคำก่อนเดินเข้าบ้านพร้อมกับสาวใช้สองคนที่เดินตามหลังไปติดๆ ป้าโซเนียยังทำเหมือนว่าเขาเป็นเด็กอยู่เสมอ

 

“ตายแล้วววววว ฟาโก้ นี่เจ้าไปทำอะไรที่ไหนมา ทำไมเนื้อตัวมอมแมมกลับมาอย่างนี้”หลังจากบอกเฮนรี่เสร็จ คนที่โดนต่อมาก็เป็นฟาโก้นั่นเอง

 

 

“แหะๆ เรื่องมันยาวครับป้าโซเนีย คือว่า…”

 

“สาวๆ รีบนำตัวฟาโก้ไปจัดการเดี๋ยวนี้”ไม่ทันที่ฟาโก้จะเล่าให้ผู้เป็นป้าฟัง เขาก็โดนนำตัวไปแบบไม่เต็มใจซะก่อน

 

            

       บรรยากาศห้องอาบน้ำที่ชั้นบนสุดของปราสาทเป็นอีกที่หนึ่งที่เฮนรี่ชอบ เพราะได้ผ่อนคลายจากงานหนักต่างๆ สาวใช้ที่คอยถูหลังให้บวกกับน้ำอุ่นๆที่ป้าโซเนียคอยเตรียมไว้เช่นทุกครั้งนั้นมันช่างดีทีเดียว ทิวทัศน์ที่มองออกไปยังด้านนอกกระจกใสบานใหญ่  ช่วยทำให้เขาผ่อนคลายเพิ่มขึ้นได้อีกมาก บรรยากาศในวันนี้ช่างเหมือนกับวันนั้น วันที่เรือของเขาแล่นอยู่กลางมหาสมุทรหลายวัน ก่อนที่จะมาถึงเกาะ

 

/

/

/

/

/

 

 

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ผู้เป็นกัปตันที่กำลังชี้แจงงานบนแผนที่ซึ่งถูกกางบนโต๊ะต้องหยุดชะงัก

 

 

“เข้ามา”เสียงเข้มของกัปตันเอ่ยบอกออกไป เป็นสัญญาณว่าอนุญาตให้ผู้เคาะประตูเข้ามาในห้องได้

 

 

“มีเหตุด่วนอะไรถึงได้มาเคาะประตูรบกวนเวลาที่พวกข้าทำงานกันแบบนี้”บิวเนอร์เอ่ยถามเสียงดุ

 

 

“ขออภัยเป็นอย่างยิ่งครับท่านบิวเนอร์  แต่ข้ามีเรื่องด่วนจะมารายงานครับ” ลูกเรือเอ่ยตอบด้วยความกลัว

 

 

“เอาเถอะน่าบิวเนอร์ เจ้าอย่าซีเรียสมากนักเลย”เฮนรี่พูดปรามออกไป

 

 

“มีอะไรก็ว่ามา”เฮนรี่เอ่ยถามลูกเรือต่อ

 

 

“มีเรือจากประเทศเกรทบริเธน มาขอเข้าพบกัปตันครับ”

 

 

“ประเทศเกรทบริเธน? ใครกันที่มาขอพบข้ากลางทะเลแบบนี้”การที่มีเรือมาขอพบเขากลางทะเลแบบนี้สร้างความแปลกใจให้เขาเป็นอย่างมาก ยิ่งเป็นเรือจากประเทศใหญ่อย่างเกรทบิเธนเช่นนี้แล้ว มันทำให้เขาอยากรู้ยิ่งขึ้นไปอีกว่ามีธุระสำคัญอะไรกันแน่

 

 

“เลดี้แอนนี่  บุตรสาวของท่านดยุกลูเบนส์ครับผม”คำตอบจากลูกเรือทำให้เฮนรี่แปลกใจมากขึ้นไปอีก

 

 

“หืมมม เลดี้แอนนี่?”บุคคลระดับนี้แล้วไม่ทางที่เฮนรี่จะไม่รู้จัก เขาเองก็แลกเปลี่ยนสินค้ากับประเทศนี้อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังเคยเจราจาเป็นการส่วนตัวกับดยุกลูเบนส์มาแล้ว รู้ว่าดยุกนั้นมีบุตรสาวอยู่คนหนึ่ง แต่ไม่เคยพบหรือเจอหน้าเลยสักครั้ง  เพียงแต่ได้ยินคำร่ำลือว่าบุตรสาวคนนั้นมีรูปโฉมที่งดงายอยู่มากทีเดียว

 

 

“ให้ท่านหญิงเข้ามาพบข้าได้ ทุกคนออกไปก่อน”เฮนรี่ตัดสินใจอย่างไม่ลังเล

 

ตามคำสั่งกัปตัน ทุกคนรับคำสั่งแล้วเดินออกไปพร้อมกับลูกเรือผู้มาเคาะประตู

 

 

“เจ้าด้วย บิวเนอร์”ไม่เว้นแม้แต่บิวเนอร์ คนสนิทของเฮนรี่เอง

 

 

“แต่ข้าควรจะอยู่นะครับกัปตัน”บิวเนอร์แย้ง

 

 

“เถอะน่าบิวเนอร์ นางก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง คงไม่ทำอะไรให้ข้าเป็นอันตรายหรอก อีกอย่างนี่ก็บนเรือของข้า”

 

 

“ก็ได้ครับ”บิวเนอร์รับคำ ก่อนคำนับต่อผู้เป็นกัปตันแล้วเดินออกจากห้องไป

 

ไม่นานนักประตูห้องทำงานของเฮนรี่ก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง พร้อมกับลูกเรือของเขาสองคนที่เดินนำหน้าสุภาพตรีที่มาพร้อมผู้ติดตามของเธออีกสองคน ความงามของเลดี้แอนนี่นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงเล่าลือเลยในความคิดของเฮนรี่  ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าชมพูระเรื่อ ตา จมูก หรือปากของเธอช่างดูดี ทุกอย่างดูเข้ากันไปหมด กระโปรงสุ่มที่ถูกประดับประดาไปด้วยลูกไม้ดูสบายตา เสื้อเกาะอกรัดรูปตั้งแต่ช่วงเอวขึ้นไปเผยให้เนินอกอวบอิ่มที่ถูกดันขึ้นมาตามสไตล์ของสตรีเมืองผู้ดี  ทำให้เฮนรี่ละสายตาคู่นี้ไปไม่ได้เลย 

 

 

“จะจ้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนี้ไปอีกนานแค่ไหนหรือคะ คุณบาร์เน็ท”เลดี้แอนนี่เอ่ยเรียกสติของกัปตันผู้นี้

 

 

“อ่ะ เอ่ออ ขอประทานอภัยเป็นอย่างยิ่ง เรียกข้าว่ากัปตันเฮนรี่ก็ได้ครับ บนเรือโจรสลัดของข้าท่านไม่ต้องเป็นทางการหรอกครับ”เฮนรี่ตอบอย่างตะกุกตะกัก ความงามของผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเจอะเจอนั้นเทียบไม่ได้เลยกับเลดี้ผู้นี้

 

 

“เชิญนั่งก่อนครับ”เฮนรี่บอกไปอย่างสุภาพ

 

 

“ขอบคุณค่ะ”

 

 

“มีธุระสำคัญอะไรกับโจรสลัดอย่างข้าเหรอครับ ถึงขั้นต้องมาขอพบกลางทะเลแบบนี้”ไม่รอช้า เฮนรี่รีบเอ่ยถามจุดประสงค์ของเลดี้ตรงหน้าในทันที  ความตะกุกตะกักของเขายังคงไม่หายไป แม้ว่าจะเอาเรื่องธุระมาคุยแล้ว

 

 

เลดี้แอนนี่ยิ้มและหัวเราะเบาๆอย่างหญิงผู้ดี เมื่อเห็นท่าท่างของกัปตัน ก่อนที่เธอจะเอ่ยตอบ

“ข้าอยากจะมาขอร้องให้ท่านจัดการกับคนๆหนึ่ง โดยข้ามีสิ่งตอบแทนจะมอบให้”พูดจบ เลดี้แอนนี่ก็สั่งให้ผู้ติดตามของเธอเอาหีบสมบัติขนาดเล็กที่ถือมาด้วยไปเปิดให้เฮนรี่ดู  

 

เฮนรี่ถึงกับตกใจในจำนวนเงินและทองคำที่อยู่ในหีบนั้น เพราะมันสามรถซื้อเสบียงดำรงชีพบนเรือได้หลายเดือนหรือซื้ออาหารดีๆมาเลี้ยงผู้คนได้มากกว่าร้อยคนทีเดียว…การใช้เงินที่ฟุ่มเฟือยของพวกชนชั้นสูงนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้ว่าจะผ่านมากี่สิบปีก็ตาม เฮนรี่คิดในใจ

 

 

“หากท่านยังไม่พอใจ ข้าจะเพิ่มให้อีกเป็นเท่าตัวเมื่องานเสร็จสิ้น”เลดี้แอนนี่เอ่ยต่อ เพราะไม่ได้รับคำกล่าวใดจากเฮนรี่

 

 

      เมื่อค่าจ้างจากลูกหลานผู้มีอำนาจของประเทศมันมากมายเกินกว่าจะปฏิเสธ  แลกกับงานง่ายๆ ที่สั่งแค่ลูกน้องระดับปลายแถวไปทำก็สำเร็จ…กับเขาที่เป็นถึงกัปตันเรือโจรสลัดที่ผู้คนต่างให้ความยำเกรง งานที่ถูกว่าจ้างมันง่ายแสนง่ายยิ่งนักในความคิดเขา

 

 

“ถ้าคุณจัดการคนในรูปภาพนี้ได้  ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด  ดิฉันก็พร้อมจะจ่ายเสมอค่ะ”

 

 

สุภาพสตรีสุดสวยตรงหน้าเอ่ย  หลังจากที่สั่งให้ผู้ติดตามอีกคนนำรูปภาพมาวางบนโต๊ะตรงหน้าเขา

 

 

“ข้าตกลง เลดี้แอนนี่”ไม่แม้แต่จะมองรูปนั้น กัปตันหนุ่มก็ตอบตกลงทันที แม้สมบัติที่เขามีอยู่แล้วนั้นจะมากมายระดับที่ใช้ไปจนตายก็ไม่หมดก็ตาม  แต่การจะเพิ่มจำนวนให้มันมากขึ้นไปอีกก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายในความคิดจอมโจรผู้นี้

 

 

“ค่าตอบแทนที่ท่านเอ่ยมา  ข้าจะขอรับเมื่องานเสร็จเรียบร้อย….แต่ตอนนี้…”  เฮนรี่เว้นระยะห่างประโยคที่จะพูดต่อไป แล้วหันไปส่งสัญญาณให้ลูกน้องสองคนที่อยู่ในห้องขณะนี้ แน่นอนว่าเขาหวังอย่างอื่นมากยิ่งกว่าค่าตอบแทนนั่นอยู่แล้ว

 

เป็นการรู้ใจกัปตัน ลูกน้องสองคนเข้าใจทันทีว่าเขาต้องการอะไร จึงเดินไปกระซิบข้างหูผู้ติดตามของเลดี้ผู้ว่าจ้าง

 

“พวกเจ้าทั้งคู่ออกไปก่อน เหมือนกัปตันเรือลำนี้อยากจะสนทนาเรื่องข้อตกลงกับเราเป็นการส่วนตัว”เลดี้แอนนี่เอ่ยขึ้นกับผู้ติดตาม และแน่นอนไม่ใช่แค่ลูกน้องที่เข้าใจความคิดของกัปตันผู้นี้

 

ผู้ติดตามของเลดี้แอนนี่รับคำสั่งและเดินออกไปจากห้องพร้อมกับลูกน้องของกัปตัน

 

 

“จะหาผู้งดงามและฉลาดเช่นท่านได้จากที่ใดอีก?”เสียงทุ้มกระซิบข้างหูนั้นเลดี้แอนนี่นั้นช่างเย้ายวน เกินที่ผู้หญิงคนไหนจะทนไหว

 

 

“ดูเหมือนว่าข่าวลือเกี่ยวกับตัวท่านจะเป็นเรื่องจริงนะคะ กัปตันเฮนรี่”

 

 

“หืมมมมม คนอื่นเขาพูดผมว่ายังไงเหรอครับ”ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ ว่าผู้หญิงในแถบทะเลแคริเบียนพูดถึงเขาว่ายังไง แต่เขาแค่ต้องการเย้าแหย่เลดี้ตรงหน้าแค่นั้นเอง

 

 

“คุณจะทำให้ดิฉันรู้ได้ไหมล่ะคะ  ว่าข่าวลือเกี่ยวกับคุณมันจริงแค่ไหน”เธอรู้ดีว่าคงจะปฏิเสธกัปตันผู้นี้ไม่ได้

 

 

“หึหึ…แน่นอนครับ”  ไม่รอช้า กัปตันหนุ่มประกบจูบและมอบบทรักแสนเร้าร้อนกับเลดี้ตรงหน้า

 

      เมื่ออิสตรีที่งดงามกล้าที่จะขึ้นมาบนเรือโจรลัดของเขา และตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าเขา เป็นไม่ได้เลยที่เขาจะปล่อยให้หลุดมือไปโดยที่ไม่ได้เชยชมให้สมอารมณ์ที่มันพลุ่กพลานภายในตัว เขาเองก็ผ่านผู้หญิงมาไม่น้อย ฉะนั้นจึงรู้ดีว่าควรจะปนเปรอพวกเธอยังไง

 

 

/

/

/

/

/

 

เหตุการณ์ที่ย้อนมาทำให้ตัวเขาฉุกคิดขึ้นมา ว่ายังไม่เห็นหน้าตาของผู้ที่เลดี้แอนนี่อยากจะกำจัดให้พ้นไป 

 

 

“เจ้าทั้งคู่ไปบอกกับบิวเนอร์ว่าให้นำรูปที่เลดี้แอนนี่มอบให้ตอนอยู่บนเรือ  ไปรอข้าที่ห้องทำงานนะ”เฮนรี่เอ่ยบอกสาวใช้ที่กำลังถูหลังให้เขา

 

 

“รับทราบค่ะ คุณเฮนรี่”สาวใช้ตอบรับก่อนจะเดินออกไปจากห้องอาบน้ำ

 

 เฮนรี่แช่น้ำอุ่นต่อเพื่อให้ผ่อนคลายขึ้นอีกสักนิด ก่อนนะออกไปยังห้องแต่งตัวและไปพบกับบิวเนอร์ที่ห้องทำงานตามที่บอกกับสาวใช้ไว้

 

 

เมื่อเข้ามาในห้องทำงานเฮนรี่ก็พบกับบิวเนอร์ที่ยืนรออยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขาแล้ว และมีฟาโก้ที่นั่งเล่นอยู่ตรงโซฟารับแขกกลางห้อง

 

 

“รูปภาพที่เลดี้แอนนี่ให้มาครับ กัปตัน”บิวเนอร์กล่าวพร้อมยื่นรูปภาพให้เฮนรี่ดู หลังจากที่เฮนรี่นั่งลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน

 

 

“ความเกลียดชังของสตรีนี่น่ากลัวจริงๆนะ”เฮนรี่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นบุคคลในรูป จากการแต่งกายของเธอแล้วน่าจะเป็นหญิงผู้มีฐานะพอสมควร ส่วนใบหน้านั้นจะพูดว่างดงามเลยก็ว่าได้ แต่ก็ยังงามน้อยกว่าเลดี้แอนนี่อยู่ดีในความคิดของเฮนรี่ ไม่เข้าใจว่าเธอไปทำเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไรให้กับเลดี้แอนนี่กัน แต่คงชิงชังพอสมควร ถึงกับต้องมาว่าจ้างเขาให้กำจัดเธอเลยทีเดียว แต่เฮนรี่ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงในรูปนี้เป็นใคร เขานึกโทษตัวเองที่วันนั้นควบคุมและหักห้ามอารมณ์ความใคร่ของตัวเองไว้ไม่ได้ เวลาที่ควรจะสอบถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับคนในภาพ กลับถูกใช้มอบบทรักแสนเร่าร้อนให้กับเลดี้แอนนี่จนหมด แต่เรื่องง่ายๆแค่นี้เขาสั่งลูกน้องไปสืบก็คงไม่ยาก

 

 

“สั่งคนไปสืบมาอย่างละเอียดเกี่ยวกับคนในภาพนี้ แล้วมารายงานข้าโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”เฮนรี่เองก็มีความอยากรู้ไม่น้อยเกี่ยวกับผู้หญิงในภาพนี้

 

 

“ครับ กัปตัน”บิวเนอร์รับคำก่อนจะก้มหัวคำนับแล้วเดินออกจากห้องไป

 

 

“ฟาโก้ วันนี้เจ้าไม่มีเรียนหนังสือหรือ ทำไม่ถึงมานั่งเฝ้าข้าในห้องทำงานเช่นนี้”เฮนรี่เอ่ยถามบุคคลที่นั่งจ้องเขาตั้งแต่ที่เขาคุยกับบิวเนอร์เมื่อกี้แล้ว

 

 

“วันนี้ข้าว่างนะเฮนรี่  เป็นวันเดียวในสัปดาห์ที่ท่านกำหนดให้ข้าว่างโดยที่ไม่ต้องเรียนหรือทำอะไร  นี่ท่านลืมอีกแล้วรึ?” ฟาโก้ตอบกลับไปด้วยใบหน้าไม่พอใจ เฮนรี่ลืมสิ่งที่เกี่ยวกับเขาอีกแล้ว

 

 

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สงสัยข้าอยู่บนเรือนานไปหน่อย อาการเมาเรือคงยังไม่หายเลยหลงๆลืมๆ”เฮนรี่บอกออกไปอย่างอารมณ์ดี

 

 

“ท่านเนี่ยนะเมาเรือ เฮนรี่!นี่ท่านใช้ชีวิตอยู่บนเรือมากกว่าอยู่ที่บ้านซะอีก ข้าคงไม่อาจเชื่อได้ว่าคนอย่างท่านจะเมาเรือ”ท่าทางแห่งความไม่พอใจของฟาโก้เพิ่มขึ้นไปอีก

 

 

“ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆๆ”เฮนรี่ได้แต่ขำกับท่าทางของฟาโก้ เจ้าเด้กน้อยที่เขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเล็ก ตอนนี้โตพอจนต่อปากต่อคำกับเขาได้ขนาดนี้แล้วเหรอ

 

 

“นี่เฮนรี่ ถ้าท่านยังไม่หยุดขำนะ ข้าจะโกรธท่านจริงๆด้วย ฮึ!!”ฟาโก้ทนไม่ไหว ลุกจากโซฟามายืนกอดอกพูดด้วยความโมโหตรงหน้าเฮนรี่ ทำเอาเขาเองก็ตกใจไม่น้อย

 

 

“ฮ่าๆ  เอาหล่ะๆ ฟาโก้ ข้าหยุดขำก็ได้ และข้าก็ขอโทษที่ลืมวันว่างของเจ้า เอาเป็นว่า….”

 

 

“ขออนุญาตค่ะท่านเฮนรี่ คุณโซเนียให้ข้ามาเชิญท่านทั้งสองไปรับมื้อเย็นค่ะ”ยังไม่ทันที่เฮนรี่จะพูดต่อ เสียงสาวใช้ก็แทรกเข้ามา

 

 

“เอาเป็นว่า…เราไปทานมื้อเย็นกันดีกว่า อ่าข้าคิดถึงอาหารของป้าโซเนียใจแทบขาดแล้วววว”เฮนรี่พูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ฟาโก้ยืนงงอยู่อย่างงั้น  ถึงฟาโก้จะเป็นเด็ก แต่เขาก็ไม่ได้โง่พอที่จะดูไม่ออกว่า สิ่งที่เฮนรี่จะพูดบอกเขา  ไม่ใช่การบอกให้ไปทานมื้อเย็น 

 

 

“ถ้าเจ้าช้าและยังไม่ตามมา ข้าจะกินในส่วนของเจ้าจนหมดนะ ฟาโก้”เฮนรี่ตะโกนบอก

 

 

“ข้ารู้แล้วน่า!” ฟาโก้ตะโกนตอบ ก่อนที่จะวิ่งตามเฮนรี่ไปยังห้องอาหาร

 

 

       เมื่อฟาโก้วิ่งมาถึงห้องอาหารก็พบว่าป้าโซเนีย บิวเนอร์ บลูตัส และลูกน้องคนสนิทของเฮนรี่อีกสามคนนั่งรอพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว รวมทั้งเฮนรี่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะด้วย ในทุกครั้งที่อยู่บ้าน ทุกคนจะกินมื้อเย็นพร้อมกันเช่นนี้ทุกวัน ที่จริงเฮนรี่เคยเอ่ยปากชวนให้ลูกน้องทุกคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้หลายต่อหลายครั้งแล้ว ว่าให้มาร่วมมื้อเย็นบนโต๊ะอาหารนี้ได้ เพราะที่นั่งยังว่าง 20 กว่าที่ทีเดียว แต่ด้วยความเคารพและเกรงใจต่อเฮนรี่แล้ว จึงไม่มีใครกล้าที่จะมากินข้าวร่วมกับเขาที่เป็นถึงระดับผู้ปกครองสูงสุดของเกาะเลย  เฮนรี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ที่จริงแล้วเขาไม่เคยถือตัวหรือถือในตำแหน่งอะไรเลย แต่ทุกคนกลับให้ความเกรงใจและเคารพเขามากมายด้วยเหตุเพราะเขาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยเกาะนี้จากอำนาจขุนนางชั่วที่เอาแต่กดขี่ข่มเหงประชาชน เท่านั้นเอง การที่พูดชวนหลายครั้งแล้วไม่มา เฮนรี่เลยไม่อยากจะสร้างความกดดันจากคำชวนของเขาแก่ลูกน้อง เขาจึงเลิกเอ่ยปากชวนในที่สุด ก็มีเพียงแต่ลูกน้องคนสนิทที่เป็นเหมือนสหายของเขา ห้าคนนี้แหละที่กล้ามาร่วมโต๊ะอาหารในมื้อเย็นกับเขาและฟาโก้

 

 

“อย่างวิ่งแบบนั้นสิฟาโก้ เดี๋ยวก็หกล้มชนอะไรเข้าหรอก”ป้าโซเนียพูดเสียงดุ เมื่อเห็นฟาโก้วิ่งมา

 

 

“คร้าบๆ”ฟาโก้ตอบกลับก่อนจะนั่งลงไปที่เก้าอี้ทางด้านขวาของเฮนรี่

 

 

“คิก คิก คิก”เฮนรี่แอบหัวเราะเบาๆ ด้วยความชอบใจ ที่ฟาโก้โดนดุ

 

 

“นี่ท่านหัวเราะข้างั้นเหรอ เฮนรี่”ฟาโก้ไม่พอใจ

 

 

“ฟาโก้ เจ้าเรียกกัปตันด้วยชื่อห้วนๆแบบนั้นได้ยังไง”บิวเนอร์พูดขึ้น

 

 

“ฮึ วันนี้เป็นวันที่ข้าต้องโดนดุรึไงกัน ทำไมมีแต่คนดุข้านัก”ฟาโก้พูดพร้อมกอดอกและทำคิ้วขมวดแสดงความไม่พอใจ

 

 

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เฮนรี่หัวเราะออกมาเสียงดังกับท่าทีของฟาโก้

 

 

“ท่านหัวเราะอะไรอีกแล้ว เฮนรี่”ฟาโก้ถามอย่างไม่พอใจอีกครั้ง

 

 

“คุณเฮนรี่ ป้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าหัวเราะเสียงดังบนโต๊ะอาหาร”กลายเป็นเฮนรี่เองที่โดนดุ

 

 

“สมน้ำหน้า”ฟาโก้พูดออกมาเบาๆ 

 

 

“เดี๋ยวเถอะฟาโก้ เจ้าไปพูดแบบนั้นกับผู้ใหญ่มันไม่ควรเลย”แต่ป้าโซเนียก็ยังมิวายได้ยิน

 

 

“อะไรกันสองคนนี้ หาเรื่องกวนใจกันไปมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว”ป้าโซเนียถามต่อ

 

 

“ก็เฮนรี่นั่นแหละครับท่านป้า ลืมอายุข้าบอกว่าข้าอายุ 9ขวบ ทั้งที่จริงข้าอายุ11 แล้วอีกอย่างก็ลืมว่าวันนี้เป็นวันหยุดของข้า ทั้งๆที่เขาเป็นคนกำหนดวันหยุดให้ข้าเองแท้ๆ”เด็กน้อยได้ทีก็ฟ้องผู้เป็นป้าออกมาจนหมด ทำให้ทุกคนขำกับท่าทีของเด็กขี้ฟ้องและความขี้ลืมของกัปตันพวกเขา ใครมันจะไปคิดว่ากัปตันเฮนรี่ผู้เก่งกาจจะขี้ลืมได้ขนาดนี้

 

 

“….”ป้าโซเนียถึงกับพูดไม่ออก

 

 

“เอาน่าๆ ฟาโก้ ยกโทษให้ข้าเถอะ  เอาเป็นว่า..พรุ่งนี้ข้าจะให้เจ้าหยุดอีกวัน แล้วข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวในเมืองดีมั้ย?” ฟาโก้รู้ทันทีว่าสิ่งที่เฮนรี่จะพูดบอกเขาก่อนที่สาวใช้จะมาเชิญให้มาที่ห้องอาหาร  ก็คือการพาเขาไปเที่ยวเป็นการไถ่โทษ

 

 

“ท่านพูดจริงนะ เฮนรี่ ห้ามผิดคำพูดด้วย”ฟาโก้พูดด้วยความตื่นเต้นและดีใจ

 

 

“ข้าเคยผิคคำพูดกับเจ้าด้วยรึ เด็กน้อย”เฮนรี่พูดพร้อมเอามือไปจับหัวฟาโก้ด้วยความเอ็นดู ทำให้ทุกคนอดยิ้มไม่ได้กับภาพที่เห็นตรงหน้า

 

 

“เอาละค่ะๆ เรามารับประทานอาหารกันได้แล้วเน๊อะ ^^เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน” ป้าโซเนียพูดขึ้นเมื่อเห็นทั้งคู่ดีกันแล้ว

 

 

“คร้าบๆ”

 

“ครับผม”

 

‘’ครับๆ’

 

ทุกคนตอบเกือบจะพร้อมกัน ก่อนลงมือทานอาหารของป้าโซเนียอย่างเอร็ดอร่อย

 

.

.

.

.

.

 

// เช้าวันถัดมา//

 

 

“เจ้าแต่งตัวเสร็จรึยังฟาโก้ กัปตันรอเจ้าอยู่ที่รถม้าแล้วนะ”บิวเนอร์ถามคนที่กัปตันของเขาสั่งให้มาตาม

 

 

“ใกล้เสร็จแล้ว รอสักครู่นะ” ฟาโก้ที่ถูกล้อมรอบโดยเหล่าสาวใช้พูดด้วยความเร่งรีบ

 

 

“วันนี้เจ้าตื่นสายรึ ฟาโก้”บิวเนอร์เอ่ยถาม

 

“ก็เมื่อคืนข้านอนไม่หลับนี่หน่า ฝนตกหนัก ฟ้าผ่าเสียงดัง กว่าข้าจะหลับได้ก็เกือบสว่างแล้ว”

 

 

“คงจะเกิดพายุแถวกลางทะเลน่ะ เมื่อตอนเช้ามืดข้าได้ยินพวกคนเลี้ยงม้าคุยกันว่าชาวประมงที่ไปหาปลาเกือบจะไม่รอดกลับมา เพราะคลื่นลมแรงมาก ใครที่เอาเรือออกทะเลช่วงนี้คงจะอันตรายน่าดู โชคดีที่กัปตันของเราเก่ง ให้พวกเรานำเรือมาถึงเกาะก่อนกำหนดตั้งแต่เมื่อวาน ไม่งั้นข้าคิดว่าคงจะแย่เป็นแน่”บิวเนอร์พูดบอกระหว่างรอฟาโก้แต่งตัว

 

 

“เสร็จแล้ว ไปกัน!” แต่เด็กน้อยหาใส่ใจฟังไม่ เพราะมัวแต่ง่วนอยู่กับการจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่พอดีตัว

 

 

“อ่า งั้นก็ตามข้ามา”บิวเนอร์พูดเสียงเข้ม เขาไม่ได้อยากดุอะไรนัก เพราะกัปตันรออยู่

 

 

     ฟาโก้เดินตามบิวเนอร์ไปยังลานหน้าปราสาท มีรถม้าจอดรออยู่พร้อมชายผู้ปกครองสูงสุดของที่นี้  เฮนรี่ในชุดสีเข้มทั้งตัว ยกเว้นเสื้อเชิตตัวในที่เป็นสีขาวมีจีบระบายที่อก ถูกทับด้วยเสื้อรัดรูปติดกระดุมสีดำ และผ้าคลุมสีทึบที่ยาวจนเกือบจะถึงพื้น  คลุมทับอีกชั้น แผลเป็นใต้ตาขวาและหนวดเคราเล็กน้อยไม่ได้ทำให้ใบหน้าที่ดูดีของเขาลดน้อยลงเลย  มันดูดีมากในสายตาฟาโก้ ดูสุขุม และน่าเคารพยิ่งนัก

 

“วันนี่เจ้าแต่งตัวน่าเอ็นดูมากนะ ฟาโก้”เฮนรี่เอ่ยทักเมื่อฟาโก้เดินมาถึง พร้อมกับบิวเนอร์ จนทำให้ฟาโก้เขินและยิ้มรับเล็กน้อย

 

เด็กน้อยในชุดสูทสีกรมท่าเข้มจนเกือบดำ ด้านหน้าสั้นถึงช่วงเอว ด้านหลังยาวคลุมจนถึงสะโพกมีแหวกตรงกลาง ศีรษะถูกประดับด้วยหมวกทรงสูงสีดำ ผ้าพันคอและกางเกงสีขาวตัดกับสีเสื้อได้ดีทีเดียว 

 

 

“ท่านก็เช่นกัน เฮนรี่”ฟาโก้ตอบรับ

 

 

“ฟาโก้ เจ้าจะเรียกกัปตันด้วยชื่อห้วนๆแบบนี้ไม่ได้นะ”บิวเนอร์ทำเสียงดุ

 

 

“เอาน่าบิวเนอร์ เจ้าอย่าซีเรียสไปนักเลย”เฮนรี่พูดปราม

 

 

“แบร่!” เด็กน้อยผู้มีคนให้ท้าย ทำท่าทีล้อเลียนบิวเนอร์ก่อนจะรีบชิ่งขึ้นรถม้าไปซะก่อนจะโดนดุอีก

 

 

“ไปกันได้แล้ว บิวเนอร์ วันนี้เราต้องตามใจฟาโก้เขานะ ฮ่าๆๆ”เฮนรี่บอกอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะขึ้นรถม้าไป

 

 

“ครับ กัปตัน”บิวเนอร์ตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อกัปตันพูดขนาดนี้ ลูกน้องอย่างเขาจะขัดได้อย่างไร 

 

       ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะถึงใจกลางเมือง เพราะที่ตั้งปราสาทนั้นแยกตัวห่างจากเมืองเป็ระยะทางไกลอยู่ทีเดียว  แต่ระยะทางก็ไม่ไดทำให้น่าเบื่อและอึดอัดเลย เพราะทิวทัศน์รอบด้านเต็มด้วยป่าที่อุดมสมบรณ์ มีเสียงสัตว์เล็กๆ และนกร้องขับขานอยู่ตลอดทาง ทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไม่ได้รับความเงียบเหงาเลย

 

 

“เจ้าอยากไปที่ใดเป็นที่แรกล่ะ ฟาโก้”เฮนรี่เอ่ยถามหลังจากเปิดหน้าต่างรถม้าดูด้านนอก และเห็นว่าอีกไม่นานก็จะถึงในตัวเมืองแล้ว

 

 

“ข้าอยากไปร้านเฟอรัส ข้าอยากได้บังเหียนอันใหม่มาให้พีเรเนียน”

 

 

“ตกลงๆ วันนี้ข้าจะตามใจเจ้าทั้งวัน เด็กน้อย^^”

 

 

หลังจากเฮนรี่พูดประโยคนี้ออกไป ตัวเขาก็ไม่ได้หยุดพักเลย ไม่รู้ว่าฟาโก้ไปเอาแรงมาจากไหน เดี๋ยวเข้าร้านนี้ออกร้านนู้น แล้วก็ไปร้านต่อไปเรื่อยๆ จนเขากับบิวเนอร์แทบจะเดินตามไม่ทัน แถมเขาทั้งคู่ยังต้องคอยถือข้าวของต่างๆที่ฟาโก้ซื้อมาอีก

 

“แฮ่กๆ  แฮ่ก ๆนี่เจ้ายังไม่พออีกเหรอฟาโก้ ข้าสองคนเหนื่อยแล้วนะ”เฮนรี่พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าฟาโก้กำลังจะเดินเข้าร้านเสื้อผ้าบุรุษ 

 

 

“ก็ท่านบอกว่าวันนี้จะตามใจข้านี่  นานทีปีหนท่านจะพาข้าออกมาเที่ยวแบบนี้”

 

 

“ข้าหิวแล้วฟาโก้ แฮ่กๆ ได้โปรด ข้าขอให้เจ้าเข้าร้านนี้เป็นร้านสุดท้ายเถอะนะ แล้วเราจะได้กลับบ้านกัน”เฮนรี่พูดด้วยท่าทางเหนื่อยหอบจนฟาโก้แอบตกใจเล็กน้อย  เขาไม่เคยเห็นเฮนรี่เหนื่อยแบบนี้เลย

 

 

“ก็ได้ งั้นเรากลับบ้านเลยแล้วกัน เข้าไม่ไปไหนต่อแล้ว”เด็กน้อยพูดบอกด้วยความสงสารกัปตัน ก่อนจะเดินนำไปยังรถม้าที่จอดรออยู่

 

 

“ไปกันบิวเนอร์ เราจะได้พักแล้ว”เฮนรี่พูดด้วยความดีใจ

 

 

“ครับ กัปตัน”บิวเนอร์ก็ดีไม่ต่างจากกัปตันของเขาเท่าไหร่

 

 

      ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนต่ำลงจากกลางท้องฟ้า เป็นสัญญาณบอกเวลาบ่ายอ่อนๆ รถม้าวิ่งด้วยความเร็วเพื่อไปถึงปราสาทท้ายป่าให้เร็วที่สุดตามคำสั่งกัปตัน ไม่นานนักก็ถึงที่หมาย

 

“แปลกแหะ วันนี้ลีโอกับโบการ์ตมารอรับข้าด้วย”เฮนรี่พูดขึ้นหลังจากเปิดหน้าต่างรถม้าออกไปดูก่อนรถจะถึงหน้าปราสาท ปกติจะมีแค่ป้าโซเนียและเหล่าสาวใช้คนสนิทของป้าเท่านั้นที่มารอรับเขา แต่วันนี้ลีโอกับโบการ์ตซึ่งเป็นสองในห้าของลูกน้องคนสนิทมารอรับเขาด้วย มีอะไรด่วนหรืออย่างไรนะ เฮนรี่คิดในใจ

 

“เป็นไงบ้างคะ ทั้งสามคน”ป้าโซเนียเอ่ยถามเมื่อฟาโก้ เฮนรี่ และบิวเนอร์ลงมาจากรถม้า 

 

 

“สนุกที่สุดไปเลยครับ วันนี้เฮนรี่ตามใจข้าทั้งวันเลยครับป้าโซเนีย”ฟาโก้ตอบด้วยความดีใจ

 

 

“เหนื่อยจะตายแล้วครับป้า ฟาโก้แกล้งข้ากับบิวเนอร์ชัดๆ”เฮนรี่ฟ้องผู้เป็นป้า ขณะที่ป้าโซเนียกำลังปลดผ้าคลุมออกให้

 

 

“ก็ท่านบอกจะตามใจข้านี่”ฟาโก้พูดแย้ง

 

“แต่เจ้า…” 

 

“เอาละค่ะๆ อย่าเถียงกันเลย ไปพักผ่อนกันก่อน เดี๋ยวป้าเตรียมอาหารเสร็จแล้วจะให้สาวใช้ไปแจ้งนะคะ”เพราะกลัวบทสนทนาจะยืดยาวกว่านี้ ป้าโซเนียจึงตัดสินใจพูดตัดบทขึ้นมาซะก่อน

 

 

“คร้าบๆ”เฮนรี่และฟาโก้ตอบรับพร้อมกัน

 

 

“กัปตันครับ มีจดหมายจากท่านโลเวลล์ส่งมาครับ”โบการ์ตที่ยืนรอยู่พูดขึ้นเมื่อมีโอกาส

 

 

“โลเวลล์?” เฮนรี่ทำหน้าตาสงสัย  จนลีโอเดินมากระซิบ

 

 

“พวกเจ้าไปรอข้าที่ห้องทำงาน แล้วตามแกร์ริคกับบลูตัสมาด้วย”เฮนรี่สั่งออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

 

“รับทราบครับ กัปตัน”ลีโอและโบการ์ตรับคำสั่ง

 

“ฟาโก้ เจ้ากินข้าวกับป้าโซเนียไปก่อนนะ พวกข้าต้องทำงานน่ะ”เฮนรี่หัวมาพูดบอกเด็กน้อยด้วยท่าทียิ้มแย้มแตกต่างจากตอนสั่งลูกน้องเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด

 

 

“แต่ข้า…”ฟาโก้กำลังจะแย้ง

 

 

“ฟาโก้ ไปช่วยงานป้าในครัวดีกว่านะจ๊ะ ป่ะไปกับเถอะ”แต่ถูกป้าโซเนียขัดขึ้นมาซะก่อน เหมือนโซเนียจะรู้ ว่าต้องทำยังไง โดยที่เฮนรี่ไม่ต้องพูดบอก

 

 

“พวกเจ้าจัดการกับของบนรถม้าแล้วตามข้าไปที่ห้องครัวนะ”ป้าโซเนียสั่งกับเหล่าสาวใช้ ก่อนจะเดินจูงมือฟาโก้ไป  แม้ขาจะเดินตามป้าโซเนียไปอย่างว่าง่าย แต่ใบหน้ายังคงหันมามองเฮนรี่ ยังกับว่าเขาจะไม่ได้เจอเฮนรี่อีกซะอย่างนั้น  เฮนรี่ได้แต่โบกมือและส่งยิ้มอ่อนๆให้ ก่อนจะเดินเข้าปราสาทไป

 

 

       บรรยากาศในห้องทำงานของเฮนรี่ดำเนินไปด้วยจริงจัง เพราะจดหมายจากโลเวลล์ พันธมิตรโจรสลัดของเขา  บิวเนอร์ บลูตัส ลีโอ แกร์ริคและโบการ์ตมองดูเฮนรี่อ่านจดหมายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

 

 

            ถึง เฮนรี่ เจมส์ บาร์เน็ท.

 

         ก่อนอื่นข้าต้องขออภัยที่ส่งจดหมายมาแบบนี้ อันที่จริงข้าควรจะมาแจ้งให้ท่าน       

ทราบด้วยตัวเอง แต่ตัวข้านั้นมีธุระสำคัญมากอยู่จึงมาไม่ได้ จึงขอแจ้งท่านไว้ก่อน

 อนึ่ง เพราะแผนการที่สำคัญของเรานั้น จะให้รั่วไหลไปสู่บุคคลอื่นเป็นไม่ได้

 ข้าจึงอยากให้ท่านมาคุยเรื่องสำคัญที่เราวางไว้เมื่อหลายปีก่อนนั้น

 ณ อาณาเขตของข้าเถิดจะเป็นการปลอดภัยต่อตัวท่านและทุกคนที่เกี่ยวข้อง

 

ด้วยความรักและเคารพเป็นอย่างยิ่ง

โลเวลล์ แม็กซ์ ฟาร์ติโน่ 

 

 

 

       เนื้อความในจดหมายไม่ได้แจ้งรายละเอียดชัดเจนมากนักสำหรับบุคคลอื่น แต่เฮนรี่ก็เข้าใจได้เป็นอย่างมาก เพราะแผนการที่เขาคิดไว้มันใกล้เข้ามาแล้ว เวลาที่เขาจะเอาทุกอย่างที่เคยเป็นของเขากลับคืนมา เขารอเวลานี้มาเกือบ 15 ปี ในที่สุดมันก็มาถึง ตั้งแต่วันที่เขาสูญเสียทุกอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นญาติมิตร สหาย คนรู้จัก และบ้านที่เขาเคยอยู่อาศัยกับครอบครัวอย่างอบอุ่น ตั้งแต่วันนั้นหัวใจของเขามันแหลกสลายไปหมด เหลือไว้ซึ่งแต่ความแค้น ว่าสักวันเขาจะชิงทุกอย่างกลับคืนมา จากคนที่ทรยศหักหลังได้แม้กระทั่งเพื่อนของตัวเอง เฮนรี่นิ่งเงียบและกำจดหมายแน่นจนกระดาษแทบจะขาดออก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเจอมาในอดีต

 

 

“กัปตันครับ กัปตัน เนื้อความในจดหมายว่าอย่างไรบ้างครับ”บิวเนอร์เห็นท่าทีของเฮนรี่ดังนั้น จึงเอ่ยขึ้นเพื่อเรียกสติกัปตันของเขา

 

เฮนรี่จึงยื่นจดหมายให้ทุกคนได้อ่าน ก่อนจะพูดบอกออกไป

 

“เราต้องไปหาโลเวลล์และคนอื่นๆโดยเร็วที่สุด”

 

เมื่อทุกคนได้อ่านเนื้อความในจดหมายก็เข้าใจท่านทีว่าสิ่งที่กัปตันของพวกเขารอนั้นมาถึงแล้ว ทุกคนดีใจเหลือเกินที่จะได้ช่วยเฮนรี่ให้ได้สิ่งที่เป็นของเขากลับคืนมา ตั้งแต่วันที่เฮนรี่ช่วยพวกเขาออกมาจากความมืดมิดที่สังคมเกลียดนักหนานั้น  พวกเขาก็สาบานต่อกันและกันว่าจะยอมอยู่ใต้อำนาจเฮนรี่ทุกอย่าง แม้ว่าจะถูกสั่งให้แลกด้วยชีวิตก็ยอม เพราะถ้าไม่มีเฮนรี่ก็คงไม่มีพวกเขาในทุกวันนี้

 

“ขอกำหนดการด้วยครับ กัปตัน”บลูตัสพูดขึ้น

 

 

“ทุกคนจงรับคำสั่งจากข้า”เฮนรี่พูดเสียงดังด้วยความหนักแน่น

 

 

“ครับกัปตัน!!”ทั้งห้าคนขานรับพร้อมกัน

 

 

“จงไปสั่งการและจัดเตรียมเรือโลวีบอนด์ให้พร้อม พรุ่งนี้เราจะออกแต่เช้ามืด”          

 

“รับทราบครับ กัปตัน”ทุกคนตอบรับและแยกย้ายไปตามหน้าที่ของตัวเอง ในห้องของเฮนรี่เงียบสงบลงอีกครั้ง ทำให้เขานึกถึงครอบครัวที่สูญเสียไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน

 

“ท่านพ่อครับ…ท่านแม่..ท่านพี่..อีกไม่นานแล้ว อีกไม่นานแล้วนะครับ ข้าก็จะได้ทุกอย่างกลับคืนมา ข้าจะทำให้คนที่มันพรากพวกท่านไปจากข้าได้รู้ซึ้งว่าการสูญเสียคนที่รักไปมันเจ็บปวดและทรานมานแค่ไหน”เฮนรี่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แสงจันทร์จากด้านนอกห้องส่องผ่านกะจกหน้าต่างมากระทบน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างไม่ขาดสายของเฮนรี่  เขากำลังเศร้า เศร้าเกินกว่าจะบอกให้ใครรับรู้ ว่ากัปตันเรือโจรสลัดผู้แข็งแกร่งก็ร้องไห้เฉกเช่นเด็กน้อยได้

 

 

 

 

 

//////////////////////////////////////////////////////////////////

TBC.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา