NEO MEMORiAL (ภาคการสอบ)
8.8
เขียนโดย สกิลพิมพ์เต่าคลาน
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.04 น.
25 ตอน
2 วิจารณ์
23.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561 22.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) การสนทนากับแองเจลลิน่า 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเราเดินมาตามถนนข้างตึกได้แค่เพียงสิบเมตร เราก็ถูกเรียกให้หยุดโดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่เปิดประตูรออยู่ เจ้าหน้าที่ที่เดินมากับฉันหยุดและทำความเคารพ ส่วนฉันได้แต่ยืนนิ่ง เจ้าหน้าที่ที่เดินออกมาจากประตูแต่งชุดเหมือนเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เพียงแต่คนนี้มีบัตรพลาสติกคล้องที่คอ คงจะเป็นระดับหัวหน้าและทำงานอยู่ในออฟฟิศ เขาเดินมาหาฉันและเอ่ยถามเรียบๆ
"เธอรู้จักเจ้าหน้าที่แองเจลเหรอ?" ฉันงง ฉันไม่เคยได้ยินชื่อแองเจลมาก่อน จึงหันไปหาเจ้าหน้าที่ที่เดินมาด้วยกัน เขาจึงพูดว่า
"เจ้าหน้าที่หญิงที่เดินมาส่งเธอและหกล้มเมื่อกี๊นี้น่ะ" ฉันพยักหน้ารับทราบและหันกลับมาหาคนที่เป็นหัวหน้า
"ไม่ค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณแองเจล"
"ฉันเข้าใจว่าพวกเธอเดินมาด้วยกัน" เขาพูดต่อ
"เข้าใจถูกต้องค่ะ แต่ฉันไม่รู้จักคุณแองเจล" ฉันยืนกอดอก แบบที่คุณมีร่าเคยทำ ชายที่เป็นหัวหน้าสูดลมหายใจเข้าก่อนจะพูดต่อ
"เธอสองคนหยุดยืนคุยกันซักพักก่อนจะมาถึงตึกนี้ ฉันอยากรู้ว่าคุยอะไรกัน?" ท่าทางว่าที่นี่จะเข้มงวดกว่าที่ฉันคิด แต่ฉันไม่มีอารมณ์อยากจะตอบคนๆ นี้เลย
"แค่ยืนคุยกับเจ้าหน้าที่ เป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับคุณจนถึงขนาดต้องมาเปิดประตูรอเลยเหรอคะ?" ฉันเห็นเขาขมวดคิ้ว ฉันจึงแกล้งยิ้ม
"เธอควรตอบคำถามฉันนะ ไม่อย่างนั้นเธออาจะไปถึงจุดลงทะเบียนช้าคนอื่นซัก... สี่หรือห้าชั่วโมง" เขาขู่พร้อมกับมองฉันอย่างคนชนะ ฉันจึงยอมเล่า
"ขอโทษค่ะ ฉันรู้สึกกังวลมากเกินไป พอดีฉันเป็นห่วงเพื่อนที่นั่งรถมาด้วยกัน เธอเมารถมาก ถึงขนาดที่ฉันต้องพยายามลากเธอจงจากรถ ฉันรู้ดีกว่าถ้าฉันปล่อยเธอไว้ข้างหน้าและหนีมาลงทะเบียนคนเดียว วันนี้เธอคงไม่ได้สอบแน่ๆ ฉันจึงพาเธอไปที่นู่นก่อนและพยายามช่วยเธอจัดเอกสาร พอดีเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นผ่านมาเจอ เธอจึงเข้ามาช่วย และอาสาพาฉันมาที่นี่ค่ะ" ชายคนนั้นฟังด้วยใบหน้านิ่งๆ
"ทำไมเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นต้องอาสามาส่ง? และพวกเธอคุยอะไรกัน?" ฉันคิดในใจว่าคนๆ นี้ คงจะถามไปเรื่อยๆ หากฉันไม่บอกว่าเราได้คุยอะไรกัน
"เธอคงกลัวว่าฉันจะแอบหนีกลับไปนั่งเฝ้าแมรี่มั้งคะ เธอจึงต้องทำให้มั่นใจว่าฉันมาถึงตึกนี้แน่ๆ ด้วยการพามาส่งด้วยตัวของเธอเอง" ฉันหยุดยิ้ม และพูดต่อ "ส่วนระหว่างทางเธอคงเห็นฉันเงียบ เธอจึงชวนคุยแต่ฉันไม่อยากคุย เธอจึงบอกให้ฉันถามคำถามได้หนึ่งข้อแล้วเธอจะตอบ ฉันไม่อยากปฏิเสธความตั้งใจของเธอจึงบอกเธอว่าขอเวลาคิดก่อน ก็พอดีมาเจออนุสาวรีย์ตรงลานนั่น ฉันเลยถามเธอไปว่ามันคืออะไรน่ะค่ะ"
ฉันคิดว่าฉันอธิบายทุกอย่างชัดเจนแล้ว เขาน่าจะไม่สงสัยอะไรอีก แต่เขาก็ยังถามมาอีกหน่งคำถาม "แล้วเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นอธิบายว่าอย่างไร?" เอ่อ! เราไม่ได้คุยกันเรื่องอนุสาวรีย์เลยซักนิดเดียว ถ้าฉันตอบไปแบบนี้ล่ะ? ฉันเม้มปาก
ฉันรู้ดีกว่าช่วงนี้ฉันโกหกบ่อยมาก แต่เหตุการณ์มันไม่เหมาะกับการพูดเรื่องจริงเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันจึงจำเป็นต้องโกหกและคงจะต้องโกหกไปอีกซักพัก ฉันมองตาเขา
"ฉันขอสารภาพนะคะ ฉันไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลย ฉันห่วงแมรี่มากกว่าที่จะสนใจเรื่องอนุสาวรีย์น่ะค่ะ ฉันขอโทษหากทำให้อนุสาวรีย์ของคุณดูด้อยค่าลงไป" พูดจบฉันก็ก้มหน้า ฉันคิดว่าฉันเล่นได้ดีทีเดียว การจ้องตากับการก้มหน้าที่แสดงถึงการยอมรับผิด น่าจะช่วยให้เรื่องของฉันมีน้ำหนักขึ้น
"เอาละ ไปลงทะเบียนเถอะ" เขาพูดและหมุนตัวเดินกลับไปที่ประตู เจ้าหน้าที่ที่ยืนรออยู่แสดงความเคารพอีกครั้งและพาฉันเดินเลียบตึกมาเรื่อยๆ และเลี้ยวขวาหนึ่งครั้ง ก็มาถึงด้านหน้าตึกที่มีป้าย 'สนามกีฬาในร่ม วิทยาลัยช่างฝีมือทหาร แกรนด์ฟอร์ท' ฉันเพิ่งสังเกตว่าตึกรูปรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้ใหญ่มาก เจ้าหน้าที่ที่เดินมาด้วยส่งฉันใกล้ๆ จุดลงทะเบียน ฉันเอ่ยขอบคุณเขา
“ไม่ต้องห่วงนะ เราจะดูแลเพื่อนเธอเป็นอย่างดี” เขาพูดขึ้นก่อนจะหมุนตัวกลับไป จุดลงทะเบียนมีนักเรียนเข้าแถวอยู่จำนวนหนึ่ง ถึงจะไม่หนาแน่นเท่ากับที่เต้นท์ แต่ก็ยังถือว่าเยอะมากอยู่ดี ฉันต่อแถวหลังเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ใกล้จะถึงฉันแล้วตอนที่นึกขึ้นมาได้ว่าฉันต้องเอาบัตรออกมาแกะวงกลมออกก่อน จึงสลับเป้มาไว้ด้านหน้าและล้วงเข้าไปในช่องเล็กพยายามลอกวงกลมตรงกลางบัตรออก
เด็กผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าเดินไปลงทะเบียนแล้ว ฉันมีเวลาอีกสองสามนาทีโดยประมาณ ฉันพยายามใช้เล็บสะกิดไปรอบๆ วงกลมเพื่อดูว่าตรงไหนเผยอขึ้นมาบ้างจะได้เริ่มต้นจากตรงนั้น ก็ยังไม่พบจุดที่วงกลมเผยอขึ้นมาซักที แล้วก็มาถึงฉัน 'ไวกว่าที่คิดแฮะ' ฉันจึงตัดสินใจงอบัตรเบาๆ พร้อมๆ กับก้าวไปที่โต๊ะลงทะเบียน
"เธอรู้จักเจ้าหน้าที่แองเจลเหรอ?" ฉันงง ฉันไม่เคยได้ยินชื่อแองเจลมาก่อน จึงหันไปหาเจ้าหน้าที่ที่เดินมาด้วยกัน เขาจึงพูดว่า
"เจ้าหน้าที่หญิงที่เดินมาส่งเธอและหกล้มเมื่อกี๊นี้น่ะ" ฉันพยักหน้ารับทราบและหันกลับมาหาคนที่เป็นหัวหน้า
"ไม่ค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณแองเจล"
"ฉันเข้าใจว่าพวกเธอเดินมาด้วยกัน" เขาพูดต่อ
"เข้าใจถูกต้องค่ะ แต่ฉันไม่รู้จักคุณแองเจล" ฉันยืนกอดอก แบบที่คุณมีร่าเคยทำ ชายที่เป็นหัวหน้าสูดลมหายใจเข้าก่อนจะพูดต่อ
"เธอสองคนหยุดยืนคุยกันซักพักก่อนจะมาถึงตึกนี้ ฉันอยากรู้ว่าคุยอะไรกัน?" ท่าทางว่าที่นี่จะเข้มงวดกว่าที่ฉันคิด แต่ฉันไม่มีอารมณ์อยากจะตอบคนๆ นี้เลย
"แค่ยืนคุยกับเจ้าหน้าที่ เป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับคุณจนถึงขนาดต้องมาเปิดประตูรอเลยเหรอคะ?" ฉันเห็นเขาขมวดคิ้ว ฉันจึงแกล้งยิ้ม
"เธอควรตอบคำถามฉันนะ ไม่อย่างนั้นเธออาจะไปถึงจุดลงทะเบียนช้าคนอื่นซัก... สี่หรือห้าชั่วโมง" เขาขู่พร้อมกับมองฉันอย่างคนชนะ ฉันจึงยอมเล่า
"ขอโทษค่ะ ฉันรู้สึกกังวลมากเกินไป พอดีฉันเป็นห่วงเพื่อนที่นั่งรถมาด้วยกัน เธอเมารถมาก ถึงขนาดที่ฉันต้องพยายามลากเธอจงจากรถ ฉันรู้ดีกว่าถ้าฉันปล่อยเธอไว้ข้างหน้าและหนีมาลงทะเบียนคนเดียว วันนี้เธอคงไม่ได้สอบแน่ๆ ฉันจึงพาเธอไปที่นู่นก่อนและพยายามช่วยเธอจัดเอกสาร พอดีเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นผ่านมาเจอ เธอจึงเข้ามาช่วย และอาสาพาฉันมาที่นี่ค่ะ" ชายคนนั้นฟังด้วยใบหน้านิ่งๆ
"ทำไมเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นต้องอาสามาส่ง? และพวกเธอคุยอะไรกัน?" ฉันคิดในใจว่าคนๆ นี้ คงจะถามไปเรื่อยๆ หากฉันไม่บอกว่าเราได้คุยอะไรกัน
"เธอคงกลัวว่าฉันจะแอบหนีกลับไปนั่งเฝ้าแมรี่มั้งคะ เธอจึงต้องทำให้มั่นใจว่าฉันมาถึงตึกนี้แน่ๆ ด้วยการพามาส่งด้วยตัวของเธอเอง" ฉันหยุดยิ้ม และพูดต่อ "ส่วนระหว่างทางเธอคงเห็นฉันเงียบ เธอจึงชวนคุยแต่ฉันไม่อยากคุย เธอจึงบอกให้ฉันถามคำถามได้หนึ่งข้อแล้วเธอจะตอบ ฉันไม่อยากปฏิเสธความตั้งใจของเธอจึงบอกเธอว่าขอเวลาคิดก่อน ก็พอดีมาเจออนุสาวรีย์ตรงลานนั่น ฉันเลยถามเธอไปว่ามันคืออะไรน่ะค่ะ"
ฉันคิดว่าฉันอธิบายทุกอย่างชัดเจนแล้ว เขาน่าจะไม่สงสัยอะไรอีก แต่เขาก็ยังถามมาอีกหน่งคำถาม "แล้วเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นอธิบายว่าอย่างไร?" เอ่อ! เราไม่ได้คุยกันเรื่องอนุสาวรีย์เลยซักนิดเดียว ถ้าฉันตอบไปแบบนี้ล่ะ? ฉันเม้มปาก
ฉันรู้ดีกว่าช่วงนี้ฉันโกหกบ่อยมาก แต่เหตุการณ์มันไม่เหมาะกับการพูดเรื่องจริงเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันจึงจำเป็นต้องโกหกและคงจะต้องโกหกไปอีกซักพัก ฉันมองตาเขา
"ฉันขอสารภาพนะคะ ฉันไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลย ฉันห่วงแมรี่มากกว่าที่จะสนใจเรื่องอนุสาวรีย์น่ะค่ะ ฉันขอโทษหากทำให้อนุสาวรีย์ของคุณดูด้อยค่าลงไป" พูดจบฉันก็ก้มหน้า ฉันคิดว่าฉันเล่นได้ดีทีเดียว การจ้องตากับการก้มหน้าที่แสดงถึงการยอมรับผิด น่าจะช่วยให้เรื่องของฉันมีน้ำหนักขึ้น
"เอาละ ไปลงทะเบียนเถอะ" เขาพูดและหมุนตัวเดินกลับไปที่ประตู เจ้าหน้าที่ที่ยืนรออยู่แสดงความเคารพอีกครั้งและพาฉันเดินเลียบตึกมาเรื่อยๆ และเลี้ยวขวาหนึ่งครั้ง ก็มาถึงด้านหน้าตึกที่มีป้าย 'สนามกีฬาในร่ม วิทยาลัยช่างฝีมือทหาร แกรนด์ฟอร์ท' ฉันเพิ่งสังเกตว่าตึกรูปรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้ใหญ่มาก เจ้าหน้าที่ที่เดินมาด้วยส่งฉันใกล้ๆ จุดลงทะเบียน ฉันเอ่ยขอบคุณเขา
“ไม่ต้องห่วงนะ เราจะดูแลเพื่อนเธอเป็นอย่างดี” เขาพูดขึ้นก่อนจะหมุนตัวกลับไป จุดลงทะเบียนมีนักเรียนเข้าแถวอยู่จำนวนหนึ่ง ถึงจะไม่หนาแน่นเท่ากับที่เต้นท์ แต่ก็ยังถือว่าเยอะมากอยู่ดี ฉันต่อแถวหลังเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ใกล้จะถึงฉันแล้วตอนที่นึกขึ้นมาได้ว่าฉันต้องเอาบัตรออกมาแกะวงกลมออกก่อน จึงสลับเป้มาไว้ด้านหน้าและล้วงเข้าไปในช่องเล็กพยายามลอกวงกลมตรงกลางบัตรออก
เด็กผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าเดินไปลงทะเบียนแล้ว ฉันมีเวลาอีกสองสามนาทีโดยประมาณ ฉันพยายามใช้เล็บสะกิดไปรอบๆ วงกลมเพื่อดูว่าตรงไหนเผยอขึ้นมาบ้างจะได้เริ่มต้นจากตรงนั้น ก็ยังไม่พบจุดที่วงกลมเผยอขึ้นมาซักที แล้วก็มาถึงฉัน 'ไวกว่าที่คิดแฮะ' ฉันจึงตัดสินใจงอบัตรเบาๆ พร้อมๆ กับก้าวไปที่โต๊ะลงทะเบียน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ