Once ล่ารักเมียขี้งอน

-

เขียนโดย พริ้งประกาย

วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.38 น.

  7 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,456 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561 17.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) พิษรักซาตาน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

              นักศึกษามากมายกำลังเดินทางเข้าสู้มหาวิทยาลัยวันแรกในการเปิดเทอม ที่จากน้องจะกลายเป็นพี่และจากพี่จะกลายเป็นน้อง ทุกเวลาในรั้วมหาลัยฯ ย้ำเตือนว่าชีวิตของเรากำลังดิ้นรนหาหนความสุขตามสไตล์ของตนเองนั้น ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ปั้นหยาทางนี้” นารากวักมือเรียกฉันเหมือนทุกปีที่ผ่านมา พร้อมกับพี่ชาร์ลที่กุมมือฉันเหมือนทุกครั้ง
“มานานยัง พอดีวนหาที่จอดรถไม่ได้ ต้องไปจอดชั้นเก้าแหน่ะ” หญิงสาวบ่นก่อนจะหันไปหอมแก้มชายหนุ่มที่นั่งข้างกาย จนลืมตัวไปว่านี้ไม่ใช่คนรักของเธออีกต่อไปแล้ว
“พึ่งมา ปีสุดท้าย หอมแก้มโชว์เลยนะ” น้ำเสียงของอีกฝ่ายกดต่ำลงไปทันทีถ้าใครหลายคนไม่ได้สังเกต คงไม่รู้ว่ายัยเพื่อนรักของฉันกำลังพยายามเสแสร้งมากแค่ไหน
“หยา พี่ไปเรียนก่อนนะ เลิกแล้วจะไลน์ไปหานะครับ จุ๊บ” ปั้นหยาพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวไปห้องเรียนหลังจากที่อีกฝ่ายหอมหน้าผากเธอ
“แกขึ้นไปก่อน เดี๋ยวฉันไปซื้อหนังสือ พอดีลืมเอามา” เสียงถอนหายใจของปั้นหยาดังขึ้นทันทีที่นาราเดินห่างไป พร้อมกับขาเรียวงามที่เดินไปหากลุ่มเพื่อนสนิท
“กูบอกมึงว่าอย่าไปยุ่งกับอีแรดใช่มั๊ย เลิกช่วยมันสักที” เสียงของลูกพลับดังขึ้นทันทีที่อีนางเอกประจำกลุ่มเดินเข้ามานั่งในคลาสเรียน
“เอาน่ามึง เดี๋ยวก็จบละ กูทำทานไปให้มันตั้งเยอะ” เสียงของปั้นหยาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆทั้งสิ้นนอกจากแววตาที่ฉายแววเจ็บปวด นาราเป็นคนเก่งที่ทะนงตนจนสุดท้ายเพื่อนในกลุ่มเริ่มแอนตี้และตีห่างออกไป
“แฟนมึงมันสมควรคู่กับอีนาราอยู่แล้ว ผีเน่ากับโรงผุ ดูรูปนี้” ซานญ่ายื่นโทรศัพท์ให้ฉันก่อนจะเห็นาราเดินเข้ามา และเป็นจังหวะเดียวกันที่อาจารย์เข้ามาสอนทันที คาบแรกของวันเปิดเทอมก็วิชาเอกไปอีก
“ปีสี่ วันนี้คุณว่างรึเปล่า ถ้าว่างรบกวนคุณกับเพื่อนไปแนะนำตัวกับรุ่นน้องหน่อยนะครับ” อาจารย์พูดทิ้งท้ายก่อนที่เพื่อนในคณะจะหันหน้ามามองกลุ่มพวกฉัน อะจ๊ะ คำตอบที่ไม่ต้องเปล่งเสียงแค่เพียงใช้สายตา

5 6 7 8 ตึ่ง ๆ ตึ่ง ๆ ๆ รปศ. พร้อมเชียร์
“พี่หวัดดีครับ/ค่ะ” พวกน้องคณะกรรมการปีสองยกมือไหว้พวกรุ่นพี่ปีสามปีสี่
“เป็นไงปั๊ม เด็กปีนึงให้ความร่วมมือดีมั๊ย วันนี้บอกสายรหัสเลยมั๊ย” คฑาที่มาจากไหนก็ไม่รู้มาโอบไหล่ฉันก่อนที่จะเอ่ยถามปั๊มเพื่อกลบเสียงแซวของคนอื่นๆ
“พอไหวครับพี่  สายรหัสคงเฉลยวันนี้เลยครับ พี่หยาวันนี้พวกพี่จะมาแนะนำตัวกับน้องใช่มั๊ยครับ”
“ใช่จ๊ะ”
“เฮ้ย!! พวกคุณปีหนึ่ง ไม่มีเสียงหรอครับ ผมคนเดียวยังดังกว่าพวกคุณเป็นร้อย ไหน รปศ.พร้อมเชียร์”
“พร้อมเชียร์!!!” โอ้โห ดังกว่ารุ่นพวกฉันเป็นสิบเท่าเลยอะ โคตรจะสามัคคีเลยน้อง
“ดังกว่านี้ได้มั๊ย ถ้าไม่ได้ไม่ต้องมีสาย รปศ.พร้อมเชียร์” บิ้วอารมณ์ไปอีกหลานรหัสฉัน  โอ๊ะ ปีหนึ่งคนนั้นหล่อจังเลยอะ ผิวขาวมว๊าก ใจบางเลยจ้า
“พร้อมเชียร์!!!!! วี้ด บึ้ม รอ ปอ รอ ปอ รอ ปอ สอ บลาๆ”
“โอเคดีมาก วันนี้มีพี่ปีสามและปีสี่มาแนะนำตัวและบอกสายรหัสนะครับ” ขอบอกก่อนว่าสำหรับปีหนึ่งนี้เปิดเทอมมาเป็นสองเดือนล่ะ ส่วนปีอื่นๆพึ่งเปิดเทอมวันนี้

               ปีสองปล่อยให้น้องเลิก ก่อนจะให้น้องๆแยกไปคุยตามสาย สายฉันได้น้องเป็นผู้ชายอีกแล้ว ฉันเป็นคนเดียวในสายรึเปล่าที่เป็นผู้หญิงเพราะพี่รหัสฉันก็เป็นผู้ชาย
“ตกลงทุกคนว่างวันเสาร์บ่ายครึ่ง เจอกันที่หน้าห้างPN ใครถึงให้ไลน์บอกนะ” ปั้นหยาสรุปก่อนที่จะสแกนเข้ากลุ่มไลน์ และเป็นจังหวะเดียวกันที่อดีตแฟนสุดที่รักของเธอไลน์มาว่ากำลังมาหา
“พวกพี่ ผมไม่เข้าใจเครื่องโครงสร้างภายในองค์กรเลย พวกพี่ติวให้หน่อยได้มั๊ยครับ” ทันทีที่เสียงของน้องซีเนียร์พูดจบ สายตาของน้องปั๊มและคฑาก็มองมาที่ฉันทันที
“เดี๋ยวไลน์มาหาพี่แล้วกัน เย็นแล้วแยกย้ายกันกลับเถอะ” คฑามองหน้าฉันแล้วพูด ก่อนฉันจะยิ้มตอบและโบกมือลาคฑากับปั๊มแต่มีคนยังยืนไม่ไปไหนอยู่
“มีไรรึเปล่าซี”
“เปล่า แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเย็นชาใส่กันขนาดนี้” ฉันมองหน้าซีเนียร์ก่อนจะยืนกอดอก สมัยมอปลายฉันเคยคบกับรุ่นน้องคนหนึ่งเป็นนักฟุตบอล น่ารักมาก แต่สุดท้ายเราก็เลิกกันไปเพราะเหตุผลบางอย่าง ซึ่งไอ้คนงี่เง่าตรงหน้าฉันก็คือรุ่นน้องคนนั้นไง
“งั้นก็เลิกสร้างภาพสิ ว่าเป็นผู้ชายใสๆ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญขอตัวนะ” ฉันจะเดินไปที่ลานจอดรถแต่ก็ถูกซีเนียร์จับข้อมือไว้
“แบบนี้ล่ะ” ฟิ้ว~ ปั่ก! จังหวะแบบซีรีย์เกาหลีมั๊ยละ ที่พระเอกกระชากนางเอกมาอยู่ในอ้อมกอด แต่ขอโทษพระเอกของฉันไม่ใช่เด็กนี้
“เป็นอะไรรึเปล่าน้อง” พี่ชาร์ลเดินมาเห็นตอนที่ซีเนียร์ตีเนียนโดนฉันผลักไปที่พื้นดีมั๊ยล่ะค่ะ ก่อนจะยื่นมือไปช่วยไอ้เด็กนั่นก็ถูกปัดมือ ก่อนมันจะลุกขึ้น
 “เปล่า ขอบคุณครับ ผมซีเนียร์ปีหนึ่งนะครับพี่ พี่?” เฮอะ อยากให้อีนาราได้เป็นผัวจริง ประสาทคงได้แตกตายสักวัน
“เอ่อ พี่ไม่ใช่พี่ในคณะหรอก พี่ชื่อชาร์ลเป็นคนสนิทพี่หยา” คำว่าแฟนยังยากเลยมั๊ยล่ะพ่อดาราคิวทอง
“กลับได้แล้วซี” เธอพูดตัดจบแค่นั้นแล้วควงแขนชายหนุ่มเดินออกมาจนหลุดพ้นจากสายตาของเด็กนั่น พร้อมกับรอขึ้นลิฟต์ไปที่ที่จอดรถ แต่แหมือนแต้มบุญที่เธอมีจะหนีไอ้เด็กซีเนียร์ไม้พ้น
“ผมหอมเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ” ซีเนียร์ดึงรุ่นพี่ที่น่ารักมาชิดกับตนเองเมื่อนักศึกษาต่างพากันรีบเข้ามา มือหนาดึงเอวบางเข้าหาร่างตน ก่อนที่มือบางจะพยายามแกะมืออีกฝ่ายที่กอดรัดอยู่ออกนั่นก็ไม่เป็นผลจนเมื่อคนเริ่มออกจากลิฟต์ไปเรื่อยๆ เธอก็สะบัดอีกฝ่ายหลุด ก่อนจะรีบเดินตรงไปที่รถ

               ทันทีที่ขาเรียวลงจากรถ รปภ. ก็วิทยุทันที นี้คืออีกสิ่งหนึ่งที่ปั้นหยาใส่ใจนั่นก็คือการสังเกต ก่อนจะเห็นใครบางคนรีบร้อนออกมาจากลิฟต์ ‘ดารัณ’ เธอจึงรีบเดินไปสแกนบัตรที่ลิฟต์และกดไปที่ชั้น22ทันที
“โทษนะคะ คุณดารัณมาทำอะไรที่นี้พอจะรู้มั๊ยค่ะ” ปั้นหยาถามพนักงานที่อยู่ใกล้ลิฟต์ก่อนจะเห็นสายตาเลิกลั่ก และร่างของจอร์แดนบอดี้การ์ดคนสนิทของไอ้คุณพระนายรีบเดินอ้อมไปที่บันไดหนีไฟ
“พระนาย” เสียงหวานที่ยิ้มอำมหิตเดินเข้าไปหาผู้บริหารระดับสูง ก่อนจะหยิบกรรคัตเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาถือเล่น รูดขึ้นแล้วรูดลง
“ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบไปด้วยความไม่มั่นใจเพราะแววตาของคนตัวเล็กฉายแววออกมาว่าเธอจะตัดน้องชายเขา พร้อมกับหมุนเก้าอี้ของตนมาที่กระจก และร่างบางนั่งลงคลุกเข่าตรงหน้าและจับไปที่ขาแกร่งของชายหนุ่ม
“มีอะไรจะพูดมั๊ยค่ะ คุณผัวสุดที่รัก” เลขาคิมและสิงห์ที่แอบฟัง ขนลุกทันทีเมื่อได้ยินเสียงของนายหญิง
“เอ่อ คือว่า หยาเอาคัตเตอร์วางลงก่อนดีมั๊ย” ผู้ชายสองคนที่แอบฟังอยู่หน้าห้อง มองหน้ากันทันทีอย่างไม่ได้นัดหมาย
“พูดความจริงมา ก่อนที่หยาอยากจะเฉือนทิ้ง” มือบางเอื้อมไปที่ซิปกางเกงของชายหนุ่ม และค่อยๆรูดซิปกางเกงเกงลงมา ก่อนจะจับไปที่ความเป็นชายของชายหนุ่มที่กำลังแข็งสู้มือ และเหลือบมองไปเห็นถังขยะที่ไร้คราบทิชชู่
“ดารัณเขามาของานเปิดตัวห้างPNที่เชียงใหม่ แต่พี่ไม่ให้เพราะบริษัทเลือกคนอื่นไว้แล้ว”
“ฟังดูเหตุผลนะคะ แต่มันคงไม่ใช่ความจริง”
“อ๊าก หยาใจเย็น พะ พี่เจ็บ” เสียงเจ็บปวดของพระนายดังขึ้นมา เมื่อคนตัวเล็กกำและบิดความเป็นชายของตนจนแทบจะระเบิด
“ไอ้พระนาย พูดความจริงมาเดี๋ยวนี้” ร่างเล็กที่เริ่มโมโหกระชากเนคไทอีกฝ่ายมาก่อนจะนั่งลงไปที่ตักอีกฝ่าย พร้อมใช้ก้นบดขยี้ยั่วยุอารมณ์คนตัวโต
“ดารัณมายั่วพี่ แต่พี่ไม่เล่นด้วย พอใจมั๊ยรึยัง” เสียงกระซิบตอบดังอยู่ข้างหูก่อนที่ริมฝีปากหนาจะขบเม้มติ่งหูของคนบนตัก
“เดี๋ยวก็รู้ว่าจริงไม่จริง” ปั้นหยาเปิดไปที่กล้องแอบถ่ายก่อนจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่พระนายพูดมานั้นเป็นจริง เพียงแต่ไม่ได้พูดว่าตนเกือบร่วมรักกับอีกฝ่าย
“มาแอบติดกล้องในห้องพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่” คนตัวเล็กพยายามเดินหนีอีกฝ่ายแต่ไม่เป็นผล เพราะเขานั้นตัวโตกว่า เลยทำให้เธอนอนหงายอยู่บนโต๊ะทำงาน และถูกคนใจร้ายสร้างรอยรักไว้ที่ลำคอและเริ่มจูบจากช้าๆจนกลายไปเป็นหนักหน่วง โดยมือหนานั้นปลดไปที่เสื้อนักศึกษาของอีกฝ่ายแต่ถูกกลับเธอผลักออก
“จะทำแบบนี้กับดารัณหรอ ถ้าหยาไม่มา” คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนติดกระดุมก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นเครือเมื่อมองหน้าของคนรัก
“ไม่ใช่อย่างที่หยาคิดนะ หยาอย่าพึ่งไป โถ่เว้ย” น้ำตาของปั้นหยาไหลรินออกมาทำให้พระนายถึงกับก้าวขาไม่ออกกันเลยทีเดียว เมื่อความรู้สึกผิดมันจุกอยู่ที่อก ก่อนอีกฝ่ายจะเดินหนีออกไป พระนายจึงบันดาลโทสะด้วยการต่อยไปที่กำแพง จนเลือดเริ่มไหลออกมา

“ปั้นหยา ใครอนุญาตเธอเดินหนี” พระนายรีบเดินตามมากระชากคนตัวเล็กที่กำลังเดินตรงไปที่รถ
“ตัวฉันเองนายจะทำไม นายคิดว่าฉันไม่รู้หรอว่านายนัดอีนั่นมา” เสียงของปั้นหยาดังมากพอที่จะทำให้คนในลานจอดรถได้ยิน
“เออ กูนัดมาเอาแล้วไง มึงเดือดร้อนหรอ” ชายหนุ่มบีบแขนคนตัวเล็กเต็มแรง ก่อนจะชากอีกฝ่ายเข้ามาหาตนเอง แต่ในที่สุดเธอก็ดิ้นไปจนหลุด ก่อนจะยืนจ้องตากับเขา
“เฮอะ” คนตัวเล็กแค่นเสียงออกมาก่อนที่จะตบไปที่หน้าคนตัวโตเต็มแรง จนใบหน้าอีกฝ่ายมีรอยมือ พร้อมกับเลือดที่ไหลตรงมุมปาก
“ปั้นหยา” พระนายกัดฟันกรอดๆ ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กพาดบ่าไปยังรถของตน
“ทำบ้าอะไรของมึง” ร่างบางพยายามหนีออกจากรถสปอร์ตคันหรูของชายหนุ่ม
“มองเหี้ยไรกัน ไปทำงาน สั่งสอนมึงที่กล้าหือกับกูไง ถ้ามึงก้าวขาลงจากรถ อย่าหวังว่าพรุ่งนี้มึงจะเดินไหว” พระนายปิดประตูรถอัดหน้าปั้นหยา ก่อนจะอ้อมไปฝั่งคนขับ แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาคนตัวเล็กก็รีบวิ่งลงจากรถทันที
“ช่วยด้วยค่ะ ปล่อยกูนะไอ้นาย โอ๊ย” ร่างสูงที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถ ก็ต้องวิ่งลงมาอุ้มคนตัวแสบไปขึ้นรถ แต่ก็ถูกอีกฝ่ายกัดลงมาที่ไหล่ จนทำให้เขาโยนร่างบางไปในรถ โดยไร้วี่แววของความปราณีใดๆ
“หุบปาก!!” ชายหนุ่มคาดเข็ดคัดนิรภัยให้ร่างบาง ก่อนจะจ้องเข้าไปที่นัยต์ตาสีน้ำตาลเข้ม แล้วคร่อมตัวอีกฝ่ายไว้ ก่อนจะข้ามไปนั่งยังเบาะคนขับ
“กูรักมึงขนาดนี้ ยังร่านไปหาชายคนอื่นอีกนะ ไหนจะหอมไอ้ชาร์ล กอดไอ้ซีเนียร์ คืนนี้มึงได้รู้ซึ้งถึงคำว่านรกแน่ปั้นหยา”
“แล้วไงก็นั่นมันแฟนกู แถมกูไม่ได้นัดมาเอากันเหมือนมึงนี้” พระนายที่โมโหจนสติแถทบขาดทุบกำปั้นไปที่พวงมาลัยก่อนจะเพิ่มความเร็วเป็น 160 กม./ชม.
“ไอ้เหี้ยนาย จอด พระนาย กรี๊ดดดดด ฮึก ไอ้บ้า” เสียงปั้นหยากรีดร้องทันที ที่พระนายขับรถไปจ่อท้ายรถสิบล้อ ก่อนจะหักพวงมาลัยปาดซ้ายปาดขวา จนร่างบางตัวสั่นงกๆ
“ลงมา!!” ทันทีที่ถึงบ้านร่างสูงก็ฉุดกระชากลากดึงคนตัวบางเข้าไปในห้องนอน พร้อมกับผลักอีกฝ่ายลงไปที่เตียง
แคว่ก~
กระดุมนักศึกษากระเด็นหลุดไปคนละทิศคนละทาง ก่อนที่ร่างสูงจะคร่อมและตรึงแขนหญิงสาวไว้
“ปล่อยกู ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้หน้าตัวเมีย” ประโยคสุดท้ายที่ร่างบางพ่นมันออกมาทำให้สติของพระนายขาดตึ่งทันที
“อ้าปาก ปั้นหยา อ้าปาก เดี๋ยวนี้” มือหนาบีบไปที่แก้มของคนตัวเล็ก ก่อนจะเริ่มจุมพิตอย่างดุดัน
“อื้อ อ่อย อ้าน อะ” ปั้นหยาพยายามถีบคนตัวโตออกจากร่างกายแต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจกัดไปที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายจนได้กลิ่นคาวเลือด
“ปั้นหยา” พระนายกัดฟันพูดชื่อคนตัวเล็กออกมา ก่อนที่อีกฝ่ายจะถอยไปชิดขอบเตียง แต่ก็ถูกมือแกร่งลากลงมาจัดการดึงสิ่งที่ขวางกั้นออกจากร่างกาย จนทั้งเธอปลือยเปล่าต่อหน้าเขา
เพี้ย
“เออ ตบมากูจูบกลับ เอาดิหยา ตบอีกดิ” พระนายจับมือบางให้ตบหน้าตนเอง

“พอสักทีนาย” ปั้นหยามองหน้าคนตัวโตก่อนจะปล่อยโฮออกมา นึกน้อยใจในชีวิตรักของตัวเองที่ไม่เคยพานพบความสมหวังสักที
“ให้ได้งี้ดิวะ บีบไปเถอะน้ำตาอะ” คนตัวสูงทึ้งผมตัวเองก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วประตูดัง ปั้ง!!

ไลน์! ไลน์! ไลน์!
JT :  ตกลงซิงช้ะเด็กที่มึงแอ้ม อย่าลืมส่งหลักฐานมา ไม่งั้นกูไม่ให้เครื่องบินฟรีๆนะเว้ย
JD : เด็กที่ชื่อซีเนียร์เข้าโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วครับ
JB : คืนนี้อย่าลืมพกถุงมา สาวที่กูจ้างมาอย่างเด็ด
เธอหยิบโทรศัพท์อีกฝ่ายขึ้นมาอ่านก่อนจะวางมันลงไป และเดินออกจากห้องนอนทันที ก่อนจะเห็นแจบอมยัดถุงยางอนามัยใส่กระเป๋ากางเกง
“ไป XXX ค่ะ” คนตัวเล็กหยิบหูฟังใส่ขึ้นมาฟังเพลงร็อคเพลงโปรด พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาเป็นทางถึงแม้อยากให้มันหยุดมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถหยุดไหลได้เลย

 

               ปั้นหยานั่งลงที่ม้านั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะเริ่มต้นดื่มของมึนเมาสีอำพันและขวางหินออกไปราวกับว่าหินนั้นทำให้ตนเจ็บปวดทรมาน
“ฉัน ผิด หรอ” เสียงหวานตะโกนไปให้ท้องทะเลข้างหน้าได้ยินเสียงของตน ก่อนจะเริ่มรำลึกถึงรักที่ผ่านเข้ามา  
“ที่ ฉัน อยาก มี”
“ฮึก รัก ดี ดี บ้าง” คนตัวเล็กหันหน้าไปหาหมาที่นั่งอยู่เป็นเพื่อนเธอ ก่อนจะเอาลูกชิ้นให้มันกิน และนึกถึงเพื่อนบางคนที่ตอบแทนคำว่ามิตรภาพด้วยการแทงข้างหลัง
“ไม่ผิดหรอก ผิดที่คนที่เรารักมันไม่ดีแค่นั้นเอง” พระพายเห็นคนตัวเล็กถูกพี่ชายฉุดกระชากลากดึงเข้ามาในบ้าน ซึ่งตนนั้นกำลังจะเข้าไปห้ามเพราะรู้ดีว่าฝ่ายที่ถูกกระทำเจ็บปวดเพียงใด แต่ดันถูกผู้เป็นสามีลากเข้าห้อง ก่อนที่เขาจะหัวเสียไปยืนสูบบุหรี่และโทรตามสาวๆให้ไปปรนเปรอเขากับเพื่อนๆที่ซ่องรัก เธอจึงขับรถตามหญิงสาวมา
“พี่พาย หยาเจ็บ ฮึก” เธอนึกถึงสิ่งที่เขาหลอกว่ารักเธอ โดยการเอาเธอไปเป็นเครื่องพนันความใคร่ของเขาและเพื่อนเพียงเพื่อความสนุกเท่านั้นเอง
“อย่าร้องนะ พี่ก็เจ็บไม่ต่างกัน เรามาลืมความเจ็บปวดไปด้วยกันมั๊ย” พระพายยื่นมือไปหาร่างบางก่อนจะพาอีกฝ่ายตรงไปยังราวเหล็กริมแม่น้ำ ก่อนจะสะท้อนให้เห็นว่าเธอก็อ่อนแอไม่ต่างจากปั้นหยาเลยสักนิด หรือบางทีอาจจะอ่อนแอมากกว่าซะอีก
“พระพาย ฮึก อย่าทิ้งพี่ไป” แจบอมเข้าใจว่าหญิงสาวจะโดดน้ำฆ่าตัวตาย ก็แทบจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคนในอ้อมกอด เขาโทษตัวเองที่ปากเสียหาเรื่องใส่ตัว ถ้ารถของพระพายไม่มีจีพีเอสคืนนี้เขาคงอกแตกตาย
“บ้า พายแค่จะพาหยามาดูเงาสะท้อนในน้ำ ปล่อยพายสิ ไหนบอกจะไปนอนกับคนอื่นไง” พระพายผลักคนตัวโตออกจากร่าง ก่อนจะหันไปเจอพี่ชายยืนอยู่ที่รถ
“เค้าขอโทษ ก็พายสนใจแต่หยาง่ะ เค้าก็น้อยใจ เลยเรียกร้องความสนใจคร้าบ”
“ไลน์ไปบอกพี่นาย ให้พี่นายมาฟ้องพายว่างั้น แล้วไอ้ถุงนี้พกไว้ทำไมห๊ะ” พระพายดึงหูแจบอมก่อนจะฝาดไปที่แขนชายหนุ่ม
“คืนนี้เค้ากะจะพาตัวเปลี่ยนสถานที่อ่า” ทันทีที่แจบอมพูดจบ ทั้งคู่ก็หน้าแดงทันที ก่อนจะหันไปอีกครั้งก็ไม่พบพระนายกับปั้นหยาแล้ว

“นายส่งคนไปซ้อมซีเนียร์หรอ” ปั้นหยาหันไปมองหน้าชายหนุ่มที่พึ่งลากเธอขึ้นมา
“ข่าวไวดีนี้ ดูไว้เป็นตัวอย่างถ้าเธอยังไม่หยุดคิดที่จะร่าน” คนตัวเล็กกำมือแน่นจนแทบอยากจะบีบคออีกฝ่ายให้ตายๆไป
“จะเสียเท่าไหร่ ถ้าฉันไม่ซิง” ฉันกลั้นใจถามออกไป ก่อนจะได้คำตอบมาจากอีกฝ่าย
“ก็เท่าที่ได้ ทำไม มีอย่างอื่นให้พนันด้วยหรอ” เธอรู้สึกว่าแม้แต่สัตว์เดรัจฉานยังมีคุณค่ามากกว่าเขาซะอีก
“นายช่วยรักษาคำพูดได้มั๊ย ที่ว่าฉันใช้ครบ นายจะให้ฉันเดินออกจากชีวิต” จบประโยคร่างสูงก็แทบจะไม่มีสติ ก่อนจะเลี้ยวจอดรถข้างทาง
“ลงไป!!” พระนายที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้าไล่คนตัวเล็กลงจากรถทันที ก่อนจะขับรถออกไปด้วยความเร็ว โดยไม่สนใจเลยว่าตรงที่เขาจอดให้เธอลงนั้นมันเปลี่ยวหรืออันตรายมากน้อยแค่ไหน

               คนตัวเล็กเดินเข้าห้องนอนด้วยสภาพอิดโรย ก่อนจะเผลอหลับไปด้วยพิษไข้ เพราะว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีรถคันไหนผ่านมาสักคันแถมฝนยังตกลงมาอีก นี้โชคดีแค่ไหนที่เธอยังปลอดภัยและเดินกลับมาถึงคอนโดได้ด้วยสองเท้าที่บวมเบ่งขนาดนี้
ไลน์! ไลน์! ไลน์! ไลน์!
คฑา : โทรกลับด้วย
แม่หญิงลูกพลับ : อีหยา ตอบ!!
แฟนสุดที่รัก : เป็นห่วงนะ
ซีเนียร์ : มาเยี่ยมผมหน่อยสิ

ปั้นหยาที่งัวเงียตื่นขึ้นมาตอนเย็นของอีกวัน ก็พบว่ามีหลายคนที่พยายามติดต่อเธอมา แต่ไม่ปรากฎชื่อของพระนายเลยสักนิดไม่ว่าจะเป็นไลน์หรือโทร เหมือนกับว่าเธอกับเขาไม่รู้จักมาก่อน
เพล้ง!!
หญิงสาวหยิบกรอบรูปปาไปที่ประตูก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เธอคาดหวังกับรักของเขาเหลือเกิน จนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาเห็นเธอเป็นแค่เครื่องมือพนันเท่านั้นเอง
“โอ๊ย” ร่างบางล้มลงกับพื้นทันที่ก้าวขาลงจากเตียง เนื่องจากเท้าของเธอนั้นยังบวมอยู่ ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวเองไปอาบน้ำ และเดินลงไปซื้อข้าวกิน
“ตำปูปลาร้าเผ็ดๆ1 น้ำตกหมู1 ต้มแซ่บกระดูกอ่อน1 ข้าวเหนียว1ค่ะ”
“ไม่มาอุดหนุนร้านลุงนานเลยนะ เป็นไงสบายดีมั๊ย” คุณลุงแตงไทยเจ้าของร้านวางอาหารลงก่อนจะเอ่ยทักทายฉันตามปกติ กี่เดือนแล้วนะที่ฉันตัวติดกับพระนาย
“สบายดีค่ะ โอ๊ยลุงเผ็ดจนร้องเลยเนี่ย” ปั้นหยาก้มหน้ากินก่อนจะเช็ดน้ำตาออกเมื่อคิดถึงคนใจร้าย นานแค่ไหนที่เธอไม่ได้ไปไหนมาไหนคนเดียว นานแค่ไหนที่เธอคุ้นชินกับการมีเขา...


 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา