9&9 Hers
เขียนโดย สกิลพิมพ์เต่าคลาน
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 22.49 น.
แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) ตอนที่ 12 : ยามเย็นแห่งการพักผ่อนที่แสนประทับใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“วันนี้กลับเร็วเหรอ?” ฉันโผล่เข้ามาในห้องของเก้า ก็รู้สึกแปลกใจที่เห็นเขาแต่งตัวผิดปกติจากทุกวัน ไม่ถึงกับเป็นชุดพิเศษ แต่ก็ไม่ใช่ชุดพนักงานที่ฉันเห็นทุกครั้ง พอฉันทัก เขาก็กระโดดขึ้นยืนและวิ่งไปถอดสายโทรศัพท์ออก
“ใช่ครับ วันนี้ผมขอพี่อี๊ดกลับไวนิดนึง” เขาตอบพร้อมกับเดินไปเปิดประตูและก้าวออกไป ฉันสงสัยจึงค่อยๆ เดินตาม แต่เขาก็กวักมือเรียกเพื่อเร่งฉัน
“อะไร? จะไปไหนน่ะ?” ฉันถามเขา แต่เขาไม่ตอบ ยังคงเร่งให้ฉันเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ
เรามาเกือบถึงป้อมที่ลุงโตดูแลอยู่ เขาเดินไปหาลุงโตและเอ่ยถามหาอะไรซักอย่างก่อนที่ลุงโตจะชี้ไปที่ใต้หอพัก เขาจึงพาฉันไปที่ลานจอดใต้ถุนอาคาร ฉันเพิ่งเห็นว่ามีจักรยานจอดเรียงรายอยู่หลายคัน ฉันเดินดูไปรอบๆ ในขณะที่เขาก็เดินไปเอาออกมาหนึ่งคัน เขาขึ้นขี่พร้อมๆ กับพยักเพยิดให้ฉันไปนั่งซ้อนข้างหลัง ฉันรู้แล้วว่าเขาจะทำอะไร ฉันจึงเดินไปนั่งที่เบาะหลัง เขาส่งโทรศัพท์มาให้และเอ่ยถาม
“จะไปไหนดีครับคุณผู้หญิง?” เขาทำเสียงเข้มอย่างมีมาด ฉันจึงหัวเราะ
“เข้าเมืองค่ะ” ฉันบอกเขาไป ‘ปั่นขาลากแน่ กล้าหรือป่าว?’ เขาชะงักและหันมาถามว่าจะไปจริงๆ เหรอ ฉันรู้ว่ามันมันค่อนข้างไกล ฉันจึงหัวเราะอีกครั้งและตอบว่าจะไปไหนก็ไปได้หมดนั่นแหละเพราะฉันนั่งเฉยๆ
เขาปั่นจักรยานออกจากหอและเลี้ยวไปทางตรงกันข้ามกับร้านสะดวกซื้อที่เขาทำงานอยู่และวิ่งเข้าถนนเส้นที่เลียบบึงใหญ่ เขากำชับตลอดว่าถ้าเมื่อไรที่เราเข้าโซนสีขาวหรือว่าฉันเริ่มมองไม่เห็นอะไรแล้วก็ให้เปิดกล้องและมองผ่านมัน เราจะได้เห็นทุกอย่างเหมือนๆ กัน แถมยังบอกให้ฉันช่วยเล่าให้ฟังด้วยว่าฉันเห็นอะไรบ้าง
หลังจากที่เราเข้าสู่ถนนเลียบบึง เราก็เข้าใกล้โซนสีขาวมากขึ้น ฉันจึงเปิดกล้องและจับภาพทิวทัศน์สองข้างทาง ด้านซ้ายเป็นบึงใหญ่ที่ผิวน้ำค่อนข้างนิ่งมีพุ่มไม้ต่างๆ ขึ้นตลอดริมบึง ฉันกดถ่ายภาพไปเรื่อยๆ และเล่าให้เขาฟังว่าฉันเห็นอะไร บางครั้งเขาก็เป็นคนชี้ให้ฉันดูอะไรบ้างเหมือนกันซึ่งส่วนใหญ่มันจะอยู่ในโซนสีขาวฉันจึงต้องมองผ่านกล้อง
เขาปั่นจักรยานมาไกลค่อนข้างไกล เสื้อเขาเปียกเหงื่อจนชุ่ม ฉันคิดว่าเราน่าจะหาที่พักก็พอดีเขาถามมาว่าจะไปนั่งพักในร้านกาแฟไหม ฉันจึงแกล้งบ่น
“หิวตั้งนานแล้ว พูดจนเสียงแหบแล้วด้วย” ฉันแกล้งทำหน้าเศร้า เขามองนาฬิกาและปั่นจักรยานตรงไปที่้ร้านกาแฟนั้น ฉันเองก็ดูเวลาจากโทรศัพท์ ใกล้ถึงเวลาตื่นนอนของฉันแล้ว
เขาเลือกที่นั่งให้ฉันและเดินไปที่เคาท์เตอร์ ฉันนั่งรอซักพักก็ได้น้ำเมล่อนปั่นมาหนึ่งแก้วและวอฟฟเฟิลแผ่นหนาอีกหนึ่งแผ่น เราคุยกันตลอดเวลาที่นั่งอยู่ที่นี่ ไม่สิ จริงๆ แล้วฉันเป็นฝ่ายพูดมากกว่า เขาเอาแต่นั่งมอง บางครั้งเหมือนเขาจะเคลิ้มไปชั่วขณะ ฉันต้องคอยสะกิดบ่อยๆ ซึ่งพอถึงตอนนั้นเขาก็จะได้สติขึ้นมาครั้งหนึ่ง แล้วซักพักเขาก็เข้าโหมดเคลิ้มต่อ
“นี่ ฟังอยู่หรือป่าว?” ฉันสะกิดอีกครั้ง เขาสะดุ้ง ยิ้มแหยๆ และกระพริบตาปริบๆ ฉันส่ายหน้าและเอาโทรศัพท์เคาะไปที่นิ้วของเขาเพื่อเป็นสัญญาณให้เขารับมันกลับไป
“ขี่จักรยานกลับบ้านดีดีนะ แล้วก็รีบนอน รู้มั้ย?” ฉันยิ้ม ฉันสั่งไปแบบนั้นเพราะรู้ว่ายังไงเขาก็ไม่เถียง ร่างของฉันเริ่มไม่เสถียรมาซักพักแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะหายตัวไปซะ ก่อนที่คนในร้านจะมองมา
ฉันตื่นขึ้นเพราะเสียงของคุณแม่ที่มาปลุก ‘ฉันกลับมาที่โรงพยาบาลแล้วซินะ’ คุณแม่ยิ้มให้ฉันก่อนที่จะเดินไปเปิดม่านให้กว้างกว่าเดิม วันนี้ฉันมีนัดกับคุณหมอ เขาต้องการเช็คคลื่นสมองของฉันอีกครั้ง หากครั้งนี้คลื่นสมองยังแสดงค่าที่สูงเกินไปอยู่ฉันคงต้องรับการบำบัดในระดับที่สูงขึ้น
---------------------------------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ