DARKซีรี่ส์ รักนี้สยองขวัญ(YAOI)
-
เขียนโดย PandaHERO
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 20.33 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,320 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2561 20.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Ep.1 ห้องพักวันแรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห้องพัก…วันแรก
“คิดดีแล้วเหรอน้องนพ ว่าจะเช่าหออยู่ น้องนพอยู่ที่บ้านของเราก็ได้นะลูกนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณแม่ ผมอยู่ได้”
เด็กหนุ่มร่างบางยิ้มให้กับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มสดใส เขาอายุก็19ปีแล้ว คุณแม่คนสวยก็ยังเป็นห่วงเขาราวกับว่า น้องนพ หรือ นพเก้า คนนี้ยังเป็นเด็กน้อยตัวกระจ้อย แต่เขาเองก็เข้าใจดีว่าแม้จะอายุมากเท่าไหร่ ในสายตาของผู้เป็นแม่ น้องนพคนนี้ก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี
“มีปัญหาอะไรรีบโทรมาหาแม่นะ ต้องทานข้าวให้ตรงเวลา ตั้งใจเรียนให้มากๆด้วยนะ ว่างๆก็กลับมาหาพ่อกับแม่ที่บ้านบ้าง และก็...”
“โถ่ คุณนี่ก็ห่วงลูกมากเกินไป ปล่อยๆลูกบ้างเถอะ ตานพไม่เป็นอะไรหรอก ตานพพ่อกับแม่กลับก่อนนะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ขึ้นไปดูห้อง ดูแลตัวเองดีๆล่ะ”
“ครับ สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ เดินทางปลอดภัยครับ”
หลังจากที่ยืนดูรถของคุณพ่อและคุณแม่จากไป นพเก้าก็หันกลับมามองหอพักที่อยู่เบื้องหน้าของเขา นับจากนี้เป็นต้นไป เขาต้องอาศัยอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัย นพเก้าเพิ่งจะขึ้นปี1คณะศิลปกรรมศาสตร์และในวันพรุ่งนี้เป็นวันที่เขาต้องเข้าปฐมนิเทศ
นพเก้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ใกล้บ้าน แต่ถึงจะว่าใกล้เอาเข้าจริงๆมันก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการเดินทาง แล้วปี1นั้นต้องมีการรับน้องในเวลาที่เขาเองก็ไม่ทราบว่าจะเป็นเวลาไหน หากรุ่นพี่นัดในเวลาที่เช้า เขาคนหนึ่งล่ะที่จะไปสายหากอยู่ที่บ้านของตัวเอง นพเก้าจึงอาศัยข้ออ้างนี้ในการขอออกมาอยู่ที่หอพักเพียงลำพัง แม้คุณแม่จะพยายามพูดโน้มน้าวอยู่หลายครั้งแต่เขาก็ยืนยันที่จะออกมาอยู่หอพักอยู่ดี
“เอาล่ะ นับจากนี้เราก็กลายเป็นเด็กหอแล้ว น่าตื่นเต้นจังเลย” พูดพลางเดินขึ้นหอด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้เมื่อวานเขาจะเข้ามาจัดของที่ห้องแล้วก็ตาม แต่มันก็ให้ความรู้สึกตื่นสถานที่อยู่ดี
หอพักแห่งนี้ห่างจากมหาวิทยาลัยของเขาเพียงแค่1ป้ายรถเมย์ สามารถเดินไปเรียนก็ได้ถ้าอยากออกกำลังกาย และในตอนที่เขามาสอบถามถึงห้องว่าง ก็เหลือเพียงห้องเดียวอีกด้วย หอพักนี้เจ้าของบอกว่าจะเต็มตลอดเวลา เพราะมันใกล้มหาวิทยาลัยและห้างชื่อดัง แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนมีคนย้ายออกไปพอดี เหมือนกับโชคเข้าข้างเขาเสียเหลือเกิน
ห้องของเขาอยู่ชั้น4ห้อง444 เลขช่างสวยเสียเหลือเกิน นพเก้ายิ้มขำเล็กน้อยก่อนจะไขกุญแจเข้าห้องไป ห้องขนาด5x6เมตรนั้นไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปสำหรับการอยู่คนเดียว เพราะมันยังมีห้องครัวและห้องน้ำเล็กๆแยกตัวออกไป ไหนจะระเบียงตากผ้าอีก แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว
ร่างบางยืนสำรวจความเรียบร้อยภายในห้อง มีเตียงนอนเดี่ยว โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะญี่ปุ่นที่กางไว้กลางห้อง ตู้เย็น ทีวีเครื่องเล็ก โน็ตบุ๊ค และมุมอุปกรณ์วาดภาพที่ให้ไล่รายชื่อก็คงอีกนานกว่าจะหมดเพราะมันเยอะมาก
“เย้!! ที่นี่คือปราสาทของไอ้นพ!!” ร่างบางกระโดดลงบนเตียงนอนแล้วร้องดีใจแบบเด็กๆ ด้วยความสูงเพียง162เซนติเมตร ร่างกายบอบบาง และใบหน้าอ่อนหวานคล้ายเด็กผู้หญิง จะถูกมองว่าเป็นเด็กก็คงได้ แต่นพเก้าจะไม่ชอบใจนักถ้าถูกมองว่าเป็นผู้หญิง
“ร้อนจังเลย ง่วงด้วย เปิดแอร์นอนเล่นดีกว่า ถึงตอนนี้จะบ่าย2ก็เถอะนะ” ว่าพลางลุกไปหยิบรีโมตแอร์พร้อมกับกดปุ่ม ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนอนด้วยความสบาย เพียงไม่นานร่างบางก็คล้อยหลับไปในทันที แต่ทว่า...
ภายในมุมห้องของเขานั้น กลับปรากฏเงาดำทมิฬขนาดใหญ่นั่งอยู่ตรงนั้น
นพเก้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นก็เกือบจะ6โมงเย็นแล้ว ร่างบางงัวเงียเล็กน้อยแต่ก็ต้องลุกขึ้นเพราะเขาเริ่มจะหิวแล้ว ในขณะที่เขายังวุ่นวายกับการพับผ้าห่ม หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเงาดำคล้ายร่างของคนยืนที่มุมห้อง ความรู้สึกเย็นยะเยือกชวนเสียวสันหลังทำให้นพเก้าต้องรีบหันไปดูทันที แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า
“สงสัยคงเพราะเพิ่งตื่นแน่ๆ เลยเห็นอะไรแปลกๆ” ร่างบางพึมพำกับตัวเองเบาๆแต่ก็ยังอดที่จะหันไปมองที่มุมห้องอีกครั้งไม่ได้ “ไปหาอะไรกินข้างล่างดีกว่า เมื่อวานตอนมาจัดของเห็นมีตลาดนัดด้วย จะได้ซื้อของกลับมาตุนไว้ด้วย น่าสนุกจังเลยน้า...” บ่นกับตัวเองด้วยความเริงร่าก่อนจะไปล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวไปเดินตลาดนัด ในขณะที่กำลังจะปิดห้อง ห้องข้างๆก็เปิดประตูออกมาพอดี ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่นพเก้าจะส่งยิ้มให้กับอีกฝ่าย ซึ่งเมื่อได้รับรอยยิ้มพิมพ์ใจอีกฝ่ายก็ยิ้มให้เช่นกัน
“สวัสดีครับ เพิ่งย้ายมาใหม่เหรอ”
“อ่ะ...สวัสดีครับ ผมชื่อนพเก้า เรียกนพก็ได้นะ”
“ผมชื่อเนตร ยินดีที่ได้รู้จักครับนพ”
นพเก้าแนะนำตัวกับอีกฝ่าย แม้จะเสียมารยาทไปหน่อยที่แอบคิดว่ารอยยิ้มของเนตรเหมือนกำลังฝืนยิ้มก็ตาม แต่เขาก็มองโลกในแง่ดีว่าคงคิดไปเอง “อยู่...ห้องนี้คนเดียวเหรอครับ” เนตรเอ่ยปากถามร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาลุกลี้ลุกลน จนนพเก้าก็รู้สึกได้ เหมือนเนตรอยากจะออกไปจากที่ตรงนี้ซะเต็มแก่แต่มันคงจะดูเสียมารยาทเลยชวนร่างบางคุยพอเป็นพิธี
นพเก้าเป็นคนซื่อแต่ก็ไม่ได้โง่ แม้จะไม่เข้าใจสถานการณ์แต่เขาก็อยากจะทำความรู้จักกับคนข้างห้องเพราะยังไงซะเขาก็จะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบ เลยอยากหาเพื่อนไว้ซึ่งข้างห้องนี่แหละดีที่สุด
“ครับ ผมอยู่คนเดียว ไม่ทราบว่าคุณว่างอยู่รึเปล่าครับ ไปหาอะไรทานกันมั้ย พอดีว่าผมกำลังจะไปตลาดนัดใกล้หอนี่ ไปด้วยกันมั้ยครับ”
“เอ่อ...ผมก็กำลังจะไปเหมือนกัน งั้นไปด้วยกันนะ” เนตรพูดจบก็เดินนำร่างบางไปรอที่ลิฟต์ ซึ่งท่าทางต่างๆของเพื่อนข้างห้องอยู่ในสายตาของนพเก้าทั้งหมด เหมือนเขากำลัง กลัว อะไรซักอย่าง
แล้วเนตรกลัวอะไรกันล่ะ?
“นพ นพ กินอันนั้นกัน เร็วๆ รีบเดินๆ”
“ครับๆ คุณชายเนตร กระผมกำลังไป”
นพเก้ารีบเดินตามเพื่อนใหม่ของเขาทันที ตอนนี้ทั้ง2กำลังเดินอยู่ในตลาดนัดหลังจากที่ได้พูดคุยกันทำให้รู้ว่าเนตรเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันกับนพเก้า แถมยังอยู่ปีเดียวกันและคณะสาขาเดียวกันอีก
เนตรอาศัยอยู่หอพักกับพี่ชายที่กำลังเรียนแพทย์ปีสุดท้ายที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กลับหอเพราะต้องฝึกงานอยู่ในโรงพยาบาล เนตรเป็นผู้ชายที่หน้าสวยมาก แถมยังสูงกว่าเขาตั้ง10เซนติเมตร ผิวขาวรูปร่างสูงโปร่ง โดยรวมก็เป็นคนที่ดูดีคนหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้นพเก้าสงสัยคือ ท่าทางของเนตรตอนที่เจอเขาหน้าห้องกับตอนที่อยู่ข้างนอกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาตั้งใจว่าหลังจากทานข้าวเสร็จจะลองถามดู เพราะเขาเองก็รู้สึกแปลกๆและไม่สบายใจ
“ป้าครับผัดไทยกุ้งสด2ครับ พิเศษกุ้งนะครับ”
“จ้า รอแป็บนะจ้ะ”
หลังจากที่เนตรลากนพเก้าเข้ามานั่งในร้านผัดไทยก็สั่งทันทีโดยที่ไม่ถามเขา แต่ร่างบางก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะมาร้านผัดไทยจะให้สั่งคะน้าหมูกรอบคงได้มีตะหลิวบินเป็นแน่
“เนตรครับ เรามีอะไรจะถาม ช่วยบอกเราได้รึเปล่า”
“เรื่องอะไรล่ะ ถ้าตอบได้เราก็จะตอบให้นะ”
นพเก้าสูดลมหายใจนิดๆก่อนจะจ้องหน้าเนตรด้วยสายตาจริงจังพร้อมกับประสานนิ้วไว้ตรงหน้า “ตอนที่พวกเราเจอกัน เนตรกลัวอะไรในห้องเรารึเปล่า” พอสิ้นคำพูด ใบหน้าสวยก็ซีดขึ้นมาทันที สายตาลุกลี้ลุกลนเหมือนกับตอนนั้นปรากฏบนดวงตาเรียว นพเก้าส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ เขาอยากรู้จริงๆว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นที่ห้องของเขารึเปล่า ก่อนจะย้ายมาอยู่หอก็พอจะทำใจเผื่อไว้แล้วว่าห้องที่ไปเช่าอาจมีเรื่องราวเก่าๆอยู่ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีจริงทั้งๆที่สภาพหอพักดูใหม่อยู่แท้ๆ
เนตรถอนหายใจแรงๆอย่างจำใจ มันก็เป็นเรื่องที่เจ้าของห้องควรจะรู้ไว้ว่าห้องของตัวเองมีอะไรเกิดขึ้น ใบหน้าสวยจริงจังขึ้นมาก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือเล็กๆของเพื่อนใหม่ไว้
“ถ้าเราบอกไป นพจะย้ายหนีรึเปล่า สัญญากับเราสิว่าถ้ารู้แล้วจะอยู่ต่อ”
“อืม เราสัญญา เราไม่ย้ายออกไปหรอก ถ้ามีอะไรเราไปนอนที่ห้องเนตรก็ได้ คิกคิก”
ร่างบางหัวเราะทำลายบรรยากาศหนักอึ้งออกไป เนตรยิ้มบางๆให้กับเพื่อนตัวเล็กของเขา พร้อมกับที่ผัดไทยมาเสิร์ฟพอดี “ทานเสร็จก่อนแล้วจะเล่าให้ฟัง” คนหน้าสวยพูดพร้อมกับตักผัดไทยเข้าปาก ร่างบางพยักหน้าก่อนจะเริ่มลงมือทานผัดไทยของตัวเองบ้าง
หลังจากที่ทานเสร็จก็ออกมาเดินย่อยรอบตลาดนัดพร้อมกับซื้อของใช้และของสดกลับไปด้วย โดยมีเนตรเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้นพเก้าฟัง
“เดิมทีห้องของนพตอนเราย้ายเข้ามาก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ ซัก5-6ปีที่แล้ว แต่เมื่อประมาณ2ปีก่อนมีคู่รักมาเช่าอยู่ เอ่อ...ทั้งคู่เป็นผู้ชายนะ เริ่มแรกก็ไม่มีอะไรแต่พอพักหลังเริ่มมีปากเสียงกัน จนกระทั่งทำร้ายร่างกาย คืนหนึ่งมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นจนห้องข้างๆต้องออกมาดูรวมทั้งเราและพี่ชาย ปรากฏว่าเขาฆ่ากันตาย คนหนึ่งถูกเชือดคอแถมยังโดนกรีดปากฉีกจนเกือบถึงใบหู คนที่เป็นคนฆ่าโดนแทงท้องแล้วไปตายที่โรงพยาบาล”
“แล้ว...วิญญาณของเขายังไม่ไปไหนใช่มั้ย?”
“วิญญาณยังไม่ไป ห้อง444โดนกันเกือบทุกคน คนที่ไม่โดนคือเขาย้ายออกไปก่อนครบ3วัน เอาพระมาสวดไล่ก็ไม่ยอมไป จะปิดห้องไว้ก็เสียการค้าใช่มั้ยล่ะเพราะหอนั้นทำเลมันดีใครๆก็อยากมาเช่า เจ้าของหอเลยเปิดให้เช่า จะอยู่จะย้ายก็แล้วแต่ อยู่ได้นานสุดน่าจะ6เดือนมั้ง แบบนานๆทีกลับห้องไรงี้ อย่างปกติก็เดือน2เดือนแหละ”
ห้องของผมมีการฆาตกรรมกันเกิดขึ้น แถมยังเป็นคู่รักเกย์อีก วิญญาณก็ยังไม่ไปไหนเสียด้วย แสดงว่าเมื่อตอนเย็นนั้นเขาไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ย
“ละ แล้วแบบนี้เราจะอยู่ได้มั้ย?”
“นพบอกเราแล้วว่าจะอยู่”
เนตรเอ่ยเสียงเรียบแต่ร่างบางรู้สึกเหมือนกับกำลังถูกกดดันจนรู้สึกเสียวสันหลัง ได้เพียงแต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้คนหน้าสวยพร้อมกับได้รอยยิ้มหวานส่งกลับมาให้ นพเก้าไม่มีคำถามที่จะถามอีกแล้ว ได้เพียงแค่เดินตามเนตร ภายในหัวคิดเรื่องประวัติฆาตกรรมห้อง444ไปเรื่อยเปื่อยจนเนตรพาเดินกลับมาถึงหน้าห้องถึงรู้สึกตัว
“งั้นเราไปก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ เจออะไรแปลกๆอย่าทัก มีอะไรให้รีบมาหาเราเลยนะนพ”
“อืม เข้าใจแล้ว จะรีบวิ่งไปหาสุดแรงเลย”
คนหน้าสวยยิ้มขำกับเพื่อนใหม่ร่างบาง อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะนพเก้าทั้งบอบบางและเหมือนจะขี้กลัวด้วย แต่เขาก็ไม่อยากให้ร่างบางย้ายออกไป อาจดูเหมือนเอาแต่ใจแต่เนตรก็ไม่อยากให้นพเก้าย้ายออกไปจริงๆ
“คิดดีแล้วเหรอน้องนพ ว่าจะเช่าหออยู่ น้องนพอยู่ที่บ้านของเราก็ได้นะลูกนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณแม่ ผมอยู่ได้”
เด็กหนุ่มร่างบางยิ้มให้กับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มสดใส เขาอายุก็19ปีแล้ว คุณแม่คนสวยก็ยังเป็นห่วงเขาราวกับว่า น้องนพ หรือ นพเก้า คนนี้ยังเป็นเด็กน้อยตัวกระจ้อย แต่เขาเองก็เข้าใจดีว่าแม้จะอายุมากเท่าไหร่ ในสายตาของผู้เป็นแม่ น้องนพคนนี้ก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี
“มีปัญหาอะไรรีบโทรมาหาแม่นะ ต้องทานข้าวให้ตรงเวลา ตั้งใจเรียนให้มากๆด้วยนะ ว่างๆก็กลับมาหาพ่อกับแม่ที่บ้านบ้าง และก็...”
“โถ่ คุณนี่ก็ห่วงลูกมากเกินไป ปล่อยๆลูกบ้างเถอะ ตานพไม่เป็นอะไรหรอก ตานพพ่อกับแม่กลับก่อนนะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ขึ้นไปดูห้อง ดูแลตัวเองดีๆล่ะ”
“ครับ สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ เดินทางปลอดภัยครับ”
หลังจากที่ยืนดูรถของคุณพ่อและคุณแม่จากไป นพเก้าก็หันกลับมามองหอพักที่อยู่เบื้องหน้าของเขา นับจากนี้เป็นต้นไป เขาต้องอาศัยอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัย นพเก้าเพิ่งจะขึ้นปี1คณะศิลปกรรมศาสตร์และในวันพรุ่งนี้เป็นวันที่เขาต้องเข้าปฐมนิเทศ
นพเก้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ใกล้บ้าน แต่ถึงจะว่าใกล้เอาเข้าจริงๆมันก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการเดินทาง แล้วปี1นั้นต้องมีการรับน้องในเวลาที่เขาเองก็ไม่ทราบว่าจะเป็นเวลาไหน หากรุ่นพี่นัดในเวลาที่เช้า เขาคนหนึ่งล่ะที่จะไปสายหากอยู่ที่บ้านของตัวเอง นพเก้าจึงอาศัยข้ออ้างนี้ในการขอออกมาอยู่ที่หอพักเพียงลำพัง แม้คุณแม่จะพยายามพูดโน้มน้าวอยู่หลายครั้งแต่เขาก็ยืนยันที่จะออกมาอยู่หอพักอยู่ดี
“เอาล่ะ นับจากนี้เราก็กลายเป็นเด็กหอแล้ว น่าตื่นเต้นจังเลย” พูดพลางเดินขึ้นหอด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้เมื่อวานเขาจะเข้ามาจัดของที่ห้องแล้วก็ตาม แต่มันก็ให้ความรู้สึกตื่นสถานที่อยู่ดี
หอพักแห่งนี้ห่างจากมหาวิทยาลัยของเขาเพียงแค่1ป้ายรถเมย์ สามารถเดินไปเรียนก็ได้ถ้าอยากออกกำลังกาย และในตอนที่เขามาสอบถามถึงห้องว่าง ก็เหลือเพียงห้องเดียวอีกด้วย หอพักนี้เจ้าของบอกว่าจะเต็มตลอดเวลา เพราะมันใกล้มหาวิทยาลัยและห้างชื่อดัง แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนมีคนย้ายออกไปพอดี เหมือนกับโชคเข้าข้างเขาเสียเหลือเกิน
ห้องของเขาอยู่ชั้น4ห้อง444 เลขช่างสวยเสียเหลือเกิน นพเก้ายิ้มขำเล็กน้อยก่อนจะไขกุญแจเข้าห้องไป ห้องขนาด5x6เมตรนั้นไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปสำหรับการอยู่คนเดียว เพราะมันยังมีห้องครัวและห้องน้ำเล็กๆแยกตัวออกไป ไหนจะระเบียงตากผ้าอีก แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว
ร่างบางยืนสำรวจความเรียบร้อยภายในห้อง มีเตียงนอนเดี่ยว โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะญี่ปุ่นที่กางไว้กลางห้อง ตู้เย็น ทีวีเครื่องเล็ก โน็ตบุ๊ค และมุมอุปกรณ์วาดภาพที่ให้ไล่รายชื่อก็คงอีกนานกว่าจะหมดเพราะมันเยอะมาก
“เย้!! ที่นี่คือปราสาทของไอ้นพ!!” ร่างบางกระโดดลงบนเตียงนอนแล้วร้องดีใจแบบเด็กๆ ด้วยความสูงเพียง162เซนติเมตร ร่างกายบอบบาง และใบหน้าอ่อนหวานคล้ายเด็กผู้หญิง จะถูกมองว่าเป็นเด็กก็คงได้ แต่นพเก้าจะไม่ชอบใจนักถ้าถูกมองว่าเป็นผู้หญิง
“ร้อนจังเลย ง่วงด้วย เปิดแอร์นอนเล่นดีกว่า ถึงตอนนี้จะบ่าย2ก็เถอะนะ” ว่าพลางลุกไปหยิบรีโมตแอร์พร้อมกับกดปุ่ม ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนอนด้วยความสบาย เพียงไม่นานร่างบางก็คล้อยหลับไปในทันที แต่ทว่า...
ภายในมุมห้องของเขานั้น กลับปรากฏเงาดำทมิฬขนาดใหญ่นั่งอยู่ตรงนั้น
นพเก้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นก็เกือบจะ6โมงเย็นแล้ว ร่างบางงัวเงียเล็กน้อยแต่ก็ต้องลุกขึ้นเพราะเขาเริ่มจะหิวแล้ว ในขณะที่เขายังวุ่นวายกับการพับผ้าห่ม หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเงาดำคล้ายร่างของคนยืนที่มุมห้อง ความรู้สึกเย็นยะเยือกชวนเสียวสันหลังทำให้นพเก้าต้องรีบหันไปดูทันที แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า
“สงสัยคงเพราะเพิ่งตื่นแน่ๆ เลยเห็นอะไรแปลกๆ” ร่างบางพึมพำกับตัวเองเบาๆแต่ก็ยังอดที่จะหันไปมองที่มุมห้องอีกครั้งไม่ได้ “ไปหาอะไรกินข้างล่างดีกว่า เมื่อวานตอนมาจัดของเห็นมีตลาดนัดด้วย จะได้ซื้อของกลับมาตุนไว้ด้วย น่าสนุกจังเลยน้า...” บ่นกับตัวเองด้วยความเริงร่าก่อนจะไปล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวไปเดินตลาดนัด ในขณะที่กำลังจะปิดห้อง ห้องข้างๆก็เปิดประตูออกมาพอดี ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่นพเก้าจะส่งยิ้มให้กับอีกฝ่าย ซึ่งเมื่อได้รับรอยยิ้มพิมพ์ใจอีกฝ่ายก็ยิ้มให้เช่นกัน
“สวัสดีครับ เพิ่งย้ายมาใหม่เหรอ”
“อ่ะ...สวัสดีครับ ผมชื่อนพเก้า เรียกนพก็ได้นะ”
“ผมชื่อเนตร ยินดีที่ได้รู้จักครับนพ”
นพเก้าแนะนำตัวกับอีกฝ่าย แม้จะเสียมารยาทไปหน่อยที่แอบคิดว่ารอยยิ้มของเนตรเหมือนกำลังฝืนยิ้มก็ตาม แต่เขาก็มองโลกในแง่ดีว่าคงคิดไปเอง “อยู่...ห้องนี้คนเดียวเหรอครับ” เนตรเอ่ยปากถามร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาลุกลี้ลุกลน จนนพเก้าก็รู้สึกได้ เหมือนเนตรอยากจะออกไปจากที่ตรงนี้ซะเต็มแก่แต่มันคงจะดูเสียมารยาทเลยชวนร่างบางคุยพอเป็นพิธี
นพเก้าเป็นคนซื่อแต่ก็ไม่ได้โง่ แม้จะไม่เข้าใจสถานการณ์แต่เขาก็อยากจะทำความรู้จักกับคนข้างห้องเพราะยังไงซะเขาก็จะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบ เลยอยากหาเพื่อนไว้ซึ่งข้างห้องนี่แหละดีที่สุด
“ครับ ผมอยู่คนเดียว ไม่ทราบว่าคุณว่างอยู่รึเปล่าครับ ไปหาอะไรทานกันมั้ย พอดีว่าผมกำลังจะไปตลาดนัดใกล้หอนี่ ไปด้วยกันมั้ยครับ”
“เอ่อ...ผมก็กำลังจะไปเหมือนกัน งั้นไปด้วยกันนะ” เนตรพูดจบก็เดินนำร่างบางไปรอที่ลิฟต์ ซึ่งท่าทางต่างๆของเพื่อนข้างห้องอยู่ในสายตาของนพเก้าทั้งหมด เหมือนเขากำลัง กลัว อะไรซักอย่าง
แล้วเนตรกลัวอะไรกันล่ะ?
“นพ นพ กินอันนั้นกัน เร็วๆ รีบเดินๆ”
“ครับๆ คุณชายเนตร กระผมกำลังไป”
นพเก้ารีบเดินตามเพื่อนใหม่ของเขาทันที ตอนนี้ทั้ง2กำลังเดินอยู่ในตลาดนัดหลังจากที่ได้พูดคุยกันทำให้รู้ว่าเนตรเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันกับนพเก้า แถมยังอยู่ปีเดียวกันและคณะสาขาเดียวกันอีก
เนตรอาศัยอยู่หอพักกับพี่ชายที่กำลังเรียนแพทย์ปีสุดท้ายที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กลับหอเพราะต้องฝึกงานอยู่ในโรงพยาบาล เนตรเป็นผู้ชายที่หน้าสวยมาก แถมยังสูงกว่าเขาตั้ง10เซนติเมตร ผิวขาวรูปร่างสูงโปร่ง โดยรวมก็เป็นคนที่ดูดีคนหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้นพเก้าสงสัยคือ ท่าทางของเนตรตอนที่เจอเขาหน้าห้องกับตอนที่อยู่ข้างนอกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาตั้งใจว่าหลังจากทานข้าวเสร็จจะลองถามดู เพราะเขาเองก็รู้สึกแปลกๆและไม่สบายใจ
“ป้าครับผัดไทยกุ้งสด2ครับ พิเศษกุ้งนะครับ”
“จ้า รอแป็บนะจ้ะ”
หลังจากที่เนตรลากนพเก้าเข้ามานั่งในร้านผัดไทยก็สั่งทันทีโดยที่ไม่ถามเขา แต่ร่างบางก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะมาร้านผัดไทยจะให้สั่งคะน้าหมูกรอบคงได้มีตะหลิวบินเป็นแน่
“เนตรครับ เรามีอะไรจะถาม ช่วยบอกเราได้รึเปล่า”
“เรื่องอะไรล่ะ ถ้าตอบได้เราก็จะตอบให้นะ”
นพเก้าสูดลมหายใจนิดๆก่อนจะจ้องหน้าเนตรด้วยสายตาจริงจังพร้อมกับประสานนิ้วไว้ตรงหน้า “ตอนที่พวกเราเจอกัน เนตรกลัวอะไรในห้องเรารึเปล่า” พอสิ้นคำพูด ใบหน้าสวยก็ซีดขึ้นมาทันที สายตาลุกลี้ลุกลนเหมือนกับตอนนั้นปรากฏบนดวงตาเรียว นพเก้าส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ เขาอยากรู้จริงๆว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นที่ห้องของเขารึเปล่า ก่อนจะย้ายมาอยู่หอก็พอจะทำใจเผื่อไว้แล้วว่าห้องที่ไปเช่าอาจมีเรื่องราวเก่าๆอยู่ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีจริงทั้งๆที่สภาพหอพักดูใหม่อยู่แท้ๆ
เนตรถอนหายใจแรงๆอย่างจำใจ มันก็เป็นเรื่องที่เจ้าของห้องควรจะรู้ไว้ว่าห้องของตัวเองมีอะไรเกิดขึ้น ใบหน้าสวยจริงจังขึ้นมาก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือเล็กๆของเพื่อนใหม่ไว้
“ถ้าเราบอกไป นพจะย้ายหนีรึเปล่า สัญญากับเราสิว่าถ้ารู้แล้วจะอยู่ต่อ”
“อืม เราสัญญา เราไม่ย้ายออกไปหรอก ถ้ามีอะไรเราไปนอนที่ห้องเนตรก็ได้ คิกคิก”
ร่างบางหัวเราะทำลายบรรยากาศหนักอึ้งออกไป เนตรยิ้มบางๆให้กับเพื่อนตัวเล็กของเขา พร้อมกับที่ผัดไทยมาเสิร์ฟพอดี “ทานเสร็จก่อนแล้วจะเล่าให้ฟัง” คนหน้าสวยพูดพร้อมกับตักผัดไทยเข้าปาก ร่างบางพยักหน้าก่อนจะเริ่มลงมือทานผัดไทยของตัวเองบ้าง
หลังจากที่ทานเสร็จก็ออกมาเดินย่อยรอบตลาดนัดพร้อมกับซื้อของใช้และของสดกลับไปด้วย โดยมีเนตรเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้นพเก้าฟัง
“เดิมทีห้องของนพตอนเราย้ายเข้ามาก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ ซัก5-6ปีที่แล้ว แต่เมื่อประมาณ2ปีก่อนมีคู่รักมาเช่าอยู่ เอ่อ...ทั้งคู่เป็นผู้ชายนะ เริ่มแรกก็ไม่มีอะไรแต่พอพักหลังเริ่มมีปากเสียงกัน จนกระทั่งทำร้ายร่างกาย คืนหนึ่งมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นจนห้องข้างๆต้องออกมาดูรวมทั้งเราและพี่ชาย ปรากฏว่าเขาฆ่ากันตาย คนหนึ่งถูกเชือดคอแถมยังโดนกรีดปากฉีกจนเกือบถึงใบหู คนที่เป็นคนฆ่าโดนแทงท้องแล้วไปตายที่โรงพยาบาล”
“แล้ว...วิญญาณของเขายังไม่ไปไหนใช่มั้ย?”
“วิญญาณยังไม่ไป ห้อง444โดนกันเกือบทุกคน คนที่ไม่โดนคือเขาย้ายออกไปก่อนครบ3วัน เอาพระมาสวดไล่ก็ไม่ยอมไป จะปิดห้องไว้ก็เสียการค้าใช่มั้ยล่ะเพราะหอนั้นทำเลมันดีใครๆก็อยากมาเช่า เจ้าของหอเลยเปิดให้เช่า จะอยู่จะย้ายก็แล้วแต่ อยู่ได้นานสุดน่าจะ6เดือนมั้ง แบบนานๆทีกลับห้องไรงี้ อย่างปกติก็เดือน2เดือนแหละ”
ห้องของผมมีการฆาตกรรมกันเกิดขึ้น แถมยังเป็นคู่รักเกย์อีก วิญญาณก็ยังไม่ไปไหนเสียด้วย แสดงว่าเมื่อตอนเย็นนั้นเขาไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ย
“ละ แล้วแบบนี้เราจะอยู่ได้มั้ย?”
“นพบอกเราแล้วว่าจะอยู่”
เนตรเอ่ยเสียงเรียบแต่ร่างบางรู้สึกเหมือนกับกำลังถูกกดดันจนรู้สึกเสียวสันหลัง ได้เพียงแต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้คนหน้าสวยพร้อมกับได้รอยยิ้มหวานส่งกลับมาให้ นพเก้าไม่มีคำถามที่จะถามอีกแล้ว ได้เพียงแค่เดินตามเนตร ภายในหัวคิดเรื่องประวัติฆาตกรรมห้อง444ไปเรื่อยเปื่อยจนเนตรพาเดินกลับมาถึงหน้าห้องถึงรู้สึกตัว
“งั้นเราไปก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ เจออะไรแปลกๆอย่าทัก มีอะไรให้รีบมาหาเราเลยนะนพ”
“อืม เข้าใจแล้ว จะรีบวิ่งไปหาสุดแรงเลย”
คนหน้าสวยยิ้มขำกับเพื่อนใหม่ร่างบาง อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะนพเก้าทั้งบอบบางและเหมือนจะขี้กลัวด้วย แต่เขาก็ไม่อยากให้ร่างบางย้ายออกไป อาจดูเหมือนเอาแต่ใจแต่เนตรก็ไม่อยากให้นพเก้าย้ายออกไปจริงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ