ความ(รัก)ลับของกลุ่มเพื่อนสนิท
-
เขียนโดย คุณแมวส้ม
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.34 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
5,617 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2561 15.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) เพื่อนกลุ่มเดียวกัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเรียวเดินนำพวกเรากลับมาที่ห้องเรียนซึ่งตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้วจึงไม่มีใครอยู่ที่ห้องเมื่อมาถึงที่ห้องทั้งสามคนไม่ได้พูดอะไรพวกเขาแค่นั่งมองฉันเฉยๆเหมือนรอให้พูดก่อน ฉันสูดหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนจะพูดออกไป “สรุปเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่” ฉันถามเสียงจริงจัง “ถ้าอยากรู้ความลับของกลุ่มเราก็ต้องมาเป็นเพื่อนกลุ่มเราก่อน” เรียวพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ แต่คนฟังเนี่ยสิไม่สบายฉันนั่ง งง เป็นไก่ตาแตกส่วนรินกับลูคัสก็หันไปมองหน้ากันทันทีเป็นสัญญาณประมาณว่า อะไรของมันวะ ? “เดี๋ยวนะ แค่เล่าก็จบแล้วทำไมฉันต้องไปอยู่กลุ่มนาย” รินกับลูคัสเองก็พนักหน้าเหมือนเห็นด้วย “ก็นั่นเป็นกฎของกลุ่มเรา ว่าเรื่องนี้จะเก็บเป็นความลับในกลุ่มเท่านั้น จริงไหม?” เรียวหันไปหารินกับลูคัสซึ่งสองคนนั้นก็ดันพยักหน้าเห็นด้วยอีก อะไรของมันวะ เอมิขมวดคิ้วคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบ “ก็ได้” เรียวคลี่ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ฉันพูดตัดหน้าก่อน “แต่เผื่อนายไม่สังเกต ฉันไม่เคยมีเพื่อนและขอบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันขี้รำคาญสุดๆ” “ไม่มีปัญหา จริงๆเธอพูดเก่งกว่าที่ฉันคิดซะอีก” แน่ล่ะคนไม่พูดไม่ได้แปลว่าพูดเก่งสักหน่อย นายเองก็เหมือนกันไอภาพลักษณ์หนุ่มอบอุ่นแสนดีมันหายไปไหนหมดห้ะ อยากจะถามออกไปเหมือนกันแต่ขี้เกียจจะพูดไม่งั้นวันนี้คงไม่ได้รู้ความจริงสักที “เล่าสิ”ฉันพูดด้วยน้ำเสียงปลงๆจากนั้นเรียวก็เล่าเรื่องต่างๆให้ฉันฟังว่าครอบครัวของเขามีดาบที่เอาไว้ส่งวิญญาณ ซึ่งเคียวเพื่อนร่วมห้องของเราก็เป็นวิญญาณที่มาเปลี่ยนความทรงจำเพื่อนในห้องให้รู้สึกเหมือนเขาอยู่กับเรามานานแต่จริงๆอยู่ไม่ถึงวันด้วยซ้ำ จริงๆแล้วหลังเรียวส่งวิญญาณฉันเองก็ควรจะลืมเรื่องนั้นเหมือนกัน แต่เพราะฉันดันไปเห็นตอนเรียวส่งวิญญาณทำให้เหมือนกับว่าฉันรู้แล้วว่านั่นคือวิญาณความทรงจำเลยไม่หายไปไหนเช่นเดียวกับรินและลูคัสที่ถึงแม้จะไม่เห็นตอนส่งวิญญาณแต่ทั้งคู่รู้อยู่แล้วว่านั่นคือวิญญาณความทรงจำจึงยังอยู่ เมื่อฟังจบบอกตามตรงฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี มันฟังดูจ้อจี้สุดๆเล่าไปคงมีแต่เด็กอนุบาลที่เชื่อ แต่ฉันดันเห็นกับตาแล้วเนี่ยสิไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อ บอกตามตรงฉันรู้สึกว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนตามแทบไม่ทัน ทางที่ดีฉันควรจะกลับบ้านแล้วไปนอนสักงีบ “ฉันกลับล่ะ” ฉันบอกก่อนจะเดินไปที่ประตู เรียวไม่ได้พูดอะไรแค่ส่งยิ้มแล้วโบกมือ ส่วนรินกับลูคัสก็ดูจะกำลังสนุกกับเกมส์บนมือถือไม่ได้สนใจฉันสักนิด ระหว่างทางกลับบ้านฉันก็คิดเรื่องที่เรียวเล่าซ้ำไปซ้ำมา โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าพรุ่งนี้ชีวิตของฉันมันจะไม่ได้อยู่อย่างสงบแบบเด็กม.ปลายธรรมดาอีก วันต่อมา ระหว่างที่กำลังจะเดินผ่านประตู รร ฉันเหลือบไปเห็นเรียวรินและลูคัสกำลังคุยกันอยู่ จริงๆก็ไม่น่าเห็นหรอกถ้ากลุ่มนักเรียนหญิงที่เดินอยู่ข้างๆไม่ซุบซิบกรี๊ดกร๊าดน่ารำคาญจนฉันต้องหันไปมอง ฉันทำเป็นมองไม่เห็นและเดินให้เร็วขึ้นแต่ก็ไม่ทันจะเดินพ้นประตู รร เสียงดังประสานกันอย่างพร้อมเพรียงจนทำให้ทุกคนบริเวณนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียวก็ดังขึ้น “เอมิ!!! ทางนี้ๆๆๆ” พอหันไปตามเสียงก็พบกับกลุ่มนักเรียนหน้าตาดีทั้งสามกำลังโบกมือหยอยๆมาให้ฉัน เอาไงดี แกล้งไม่ยินดีไหม แต่เสียงดังขนาดน้้นจะไม่ได้ยินได้ไงล่ะ“เฮ้อ...” เมื่อเถียงกับตัวเองในใจเสร็จก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วหันหลังเดินกลับไปหาทั้งสามคน “อรุณสวัสดิ์” เรียวทักฉันเป็นคนแรกด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนได้นอนเต็มอิ่มมาสิบชั่วโมง ตัดภาพไปที่ลูคัสที่นอกจากจะไม่ทักทายกันยังยืนหาวปากกว้างเหมือนเดินละเมอมาเรียนมากกว่าตื่นมาเรียน “อืม” ฉันตอบเรียวสั้นๆอย่างคนขี้เกียจจะพูดซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกเราสี่คนจึงเดินไปที่ห้องเรียนด้วยกัน ระหว่างที่กำลังเดิน “ตั้งแต่พรุ่งนี้เราจะรอคนอื่นๆที่ประตูเหมือนวันนี้นะแล้วค่อยเดินเข้าพร้อมกัน” รินพูดขึ้นมาแล้วหันมายิ้มให้ฉัน ฉันได้แต่ยิ้มกลับไปแห้งๆก่อนจะหันไปหาเรียวเพื่อขอความช่วยเหลือ ค้านสิ ! นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว แต่เหมือนตานี่จะไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลยเอาแต่มองมาแล้วก็อมยิ้มอยู่ได้ คิดว่าอยู่ในการ์ตูนตาหวานรึไงทำตัวเหมือนกำลังเดินไปเรียนกับแฟนอยู่ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด “ไม่เอาอะ ไร้สาระชิบ เจอกันที่ห้องก็จบ” เสียงลูคัสดังขึ้นอย่างรำคาญ ดีมากลูคัส กู๊ดจ๊อบ!! “อะไรของมึง ไม่เห็นหรอว่าไม่มีใครค้านสามเสียงชนะขาดย่ะ” ไม่ ฉันไงค้าน ฉันนน “มึงก็มาช้าๆดิได้ไม่ต้องรอ” เรียวพูดขึ้นซึ่งลูคัสก็ทำหน้าเหมือนคิดได้ “เออว่ะ กูมาคนสุดท้ายก็จบ” นี่ก็เชื่อคนง่ายเกิ๊นนน เฮ้อสรุปก็ต้องมายืนรอคนอื่นก่อนเข้า รร โครตจะเซ็ง เอมิขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างเซ็งๆโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังมีสายตาคู่นึงมองมาที่เธออย่างเอ็นดูอยู่พักเที่ยงเมื่อจบคาบที่สามฉันก็โดนทั้งสามคนลากไปยังดาดฟ้าทันทีโดยรินเป็นคนอาสาไปซื้ิอของกินมาให้ โชคดีที่ฉันหยิบมือถือมาด้วยไม่งั้นคงได้เบื่อแย่ เรียวเองก็เหมือนจะกำลังเล่นมือถืออยู่เหมือนกันส่วนลูคัสก็หลับอีกตามเคย ฉันนั่งเขี่ยๆทามไลน์ในทวิตเตอร์ไปมาแต่ก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังจ้องมาที่หน้าจอฉันอยู่พอเงยหน้าไปมองก็พบว่าเรียวกำลังชะโงกหน้ามามองอย่างสนใจ “อะไร?” ฉันถามเรียวก่อนจะเอามือปิดไม่ให้เขามองจอได้ “ก็แค่แปลกใจ ไม่คิดว่าเธอจะเล่นโซเชี่ยล” “ก็เห็นแล้วนี่ว่าเล่น” ฉันตอบอย่างฉุนๆ หมอนี่เห็นฉันเป็นอะไร เด็กสาวมืดมนผู้เก็บตัวหรอ “แล้วเล่นไลน์ป่ะ” เรียวถามด้วยรอยยิ้มทะเล้น “เล่น ทำไม” “ขอหน่อยดิ” เขายื่นมือถือตัวเองให้ฉันบนหน้าจอเปิดแอพไลน์ค้างไว้ พร้อมช่องกรอกไอดีไลน์ “ทำไมต้องให้” ฉันถามกลับและไม่ได้รับมือถือมา “เอ้า ก็อยู่กลุ่มเดียวกันแล้วก็ต้องลากเข้าไลน์กลุ่มดิ” เออ เอ้าเหตุผลมันดันฟังขึ้นแหะ สุดท้ายฉันก็ยอมกรอกไอดีไลน์ให้ไม่นานหลังจากนั้นรินก็กลับมาพร้อมกับแซนวิชและนม พวกเรากินกันเสร็จก็กลับไปเรียนจนกระทั่งจบคาบสุดท้ายจึงแยกย้ายกันกลับดูเหมือนเรียวจะมีเรียนพิเศษ ส่วนลูคัสกับรินก็ไปซื้อของด้วยกันแต่ถ้าจะให้พูดให้ถูกต้องบอกว่าโดนบังคับไปซื้อของด้วยกันมากกว่า เมื่อกลับถึงบ้านและทำธุระส่งนตัวเสร็จฉันจึงเอนตัวลงนอนบนเตียงแสนรักและกำลังจะได้ฝันหวาน กลับต้องมาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงไลน์ทีดังขึ้นมาหนึ่งที เมื่อเปิดดูก็พบกับข้อความนึง เด็กชายเรียว : ฝันหวานครับ เด็กชายเรียว : ส่งสติ๊กเกอร์รูปหมาหน้าแดงไม่รู้ทำไมหลังจากที่กดอ่านข้อความนั้นฉันถึงได้ปิดเครื่องทันทีและพยายามข่มตาหลับพร้อมกับหัวใจที่กำลังเต้นระรัว อาจเพราะว่าไม่มีใครไลน์หาฉันนานแล้วหรืออาจจะเป็นเพราะสติกเกอร์หมางี่เง่านั่น...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ