MysteryCode.Com
เขียนโดย KoonHame
วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 18.34 น.
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2561 12.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) Case1 ; Ep.4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“และคนที่ 5 ที่ทางลัทธิต้องการ ฉันจะเสนอตัวเอง" สุริยันบอก
"เห!!!!!!!!!!!!!!!" มินามิแสดงอาการตกใจออกมาทันที "เดี๋ยวก่อนสิ เธอจะบ้ารึไง นั่นมันก็อันตรายมากเลยนะ" สุริยันรู้ว่ามินามิจังคงจะไม่ยอมให้เขาทำอะไรสุ่มเสี่ยงเช่นนี้แน่ๆ ยิ่งเป็นปัญหาส่วนตัวของมินามิจังเองแล้วด้วย หากเกิดอะไรขึ้นเธอคงเอาแต่โทษตัวเอง เขาจึงอธิบายความคิดของตัวเองให้มินามิฟังเพื่อให้เธอเบาใจขึ้น "ไม่ต้องตกใจไปหรอก ฉันยินดียอมเสี่ยง และวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะได้ทั้งข้อมูลและรู้ตัวตนของพวกมัน" มินามิจังแทนที่จะคลายกังวลกลับยิ่งมีสีหน้ากังวลมากกว่าเดิม "แล้วที่ว่าเสนอตัวไปนี่คือยังไง จะเดินดุ่มๆเข้าไปหาพวกมันที่บริษัทเกมเงี้ยหรอ?" สุริยันยิ้มเล็กน้อยก่อนจะอธิบายว่า "ไม่หรอก ฉันก็จะเล่นเกม The100Question ให้ผ่านทั้ง 100 ข้อน่ะ ถ้าทำได้ก็น่าจะถือว่าผ่านเกณฑ์ประเมินความเป็นอัจฉริยะของพวกมัน แล้วเดี๋ยวพวกมันก็จะติดต่อมาเอง ทีนี้เราค่อยหาทางนัดเจอแล้วล้วงข้อมูลจากพวกนั้นเพิ่ม" มินามิเข้าใจแผนการของสุริยัน และเธอเองก็รู้สึกทึ่งในการวางแผนของเขา ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเห็นการไขปริศนามานับไม่ถ้วนของ Nomad ผ่านกระทู้ต่างๆในเว็บไซต์ MysteryCode แต่พอได้มาเห็นของจริงเธอรู้สึกได้ทันทีว่าคนๆนี้คือตัวอันตรายแน่ๆหากต้องเป็นศัตรูด้วย เธอจึงถามสุริยันต่อเกี่ยวกับเกม The100Question ที่สุริยันเคยบอกเธอว่าได้เล่นไปนิดหน่อย "เธอเล่นไปถึงข้อที่เท่าไหร่? แล้วใช้ชื่อว่าอะไรหรอ?" สุริยันยื่นโทรศัพท์มือถือของเขาให้มินามิจังดู ก่อนที่จะอธิบายเพิ่มเติม "ข้อที่53ละ ใช้ชื่อว่า Nomad น่ะ" มินามิจังตกใจจนตาโต แถมยังบ่นสุริยันชุดใหญ่ด้วยล่ะคราวนี้ "นี่เธอจะบ้ารึไงฮะ ใช้ชื่อ Nomad ไปเล่น เจ้าพวกนั้นก็รู้หมดสิว่านายเป็นใคร มันอันตรายนะเข้าใจมั้ย" สุริยันตกใจที่โดนดุ สีหน้าดูเขาเสียเซลฟ์นิดๆ ยิ้มแหะๆ พร้อมกับพยายามทำท่าปรามมินามิจังว่า ให้ใจเย็นๆ ฟังเขาก่อน "ใจเย็นๆนะใจเย็นๆ คือเราเห็นว่าชื่อ Nomad มันโหลน่ะ มีทั้งตัวละครในเกมส์ ซุปเปอร์ฮีโร่ ชื่อทีวีซีรีย์ ต่อให้เอาชื่อนี้ไปใช้ที่ไหนก็คงไม่มีใครคิดว่าเป็น Nomad จากเว็บ MysteryCode หรอก อีกอย่างพวกที่จะสนใจชื่อ Nomad จริงๆ คงมีแต่พวกที่ให้ความสนใจกับเว็บ MysteryCode เท่านั้นแหละ และอีกอย่างคือคนกลุ่มนั้นต้องมานั่งเก็บสถิติว่าใครบ้างที่สามารถไขคดีได้สำเร็จ คนพวกนั้นต่างหากล่ะถึงจะสนใจชื่อ Nomad น่ะ แต่ถ้าหากกลุ่มนั้นมัวแต่ไล่ตามชื่อ Nomad ในทุกที่ทุกเว็บไซต์ที่พบนะ ไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้วล่ะ เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าการใช้ชื่อนี้ไม่น่าจะอันตรายขนาดนั้นน่ะ อีกอย่างถ้าคนในเว็บ MysteryCode สักคนหนึ่งเป็นสมาชิกของลัทธินี้ ได้ดูข้อมูลของเกมนี้แล้วเห็นชื่อ Nomad นะ พวกนั้นคงรีบติดต่อมาตั้งนานแล้ว"
มินามิได้ฟังสุริยันอธิบาย ก็มีท่าทีที่สงบขึ้นแต่ยังคงแสดงสีหน้าเหมือนคนที่กำลังงอนอยู่ "ก็ได้ แต่ต่อไปนี้เวลาจะทำอะไร ก็ช่วยบอกแผนให้ฉันรู้ด้วยละกัน ฉันจะได้ไม่ต้องกังวล" มินามิถอนหายใจเฮ้อใหญ่ ก่อนที่จะแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยแล้วพูดว่า "นี่มันปัญหาของฉัน ฉันแค่ได้คำปรึกษาจากนายฉันก็ดีใจแล้ว แต่นี่นายต้องมาเสี่ยงเพราะฉันอีก ถ้านายเป็นอะไรไปฉันคงยกโทษให้ตัวเองไม่ได้แน่ๆ" สุริยันยิ้มแหะๆกลบเกลื่อนไป ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน ก่อนนอนสุริยันนั่งลิสรายการของที่ต้องการให้มินามิจังจัดหาไว้เพื่อใช้สำหรับแผนของเขาในวันหลัง เนื่องจากพรุ่งนี้เขามีเรียน คงจัดเตรียมสิ่งของเหล่านั้นไม่ได้
วิชาแรกของช่วงบ่ายเริ่มต้นขึ้น ระหว่างที่เขากำลังเรียน เขาก็สามารถเล่นเกม The100Question มาจนถึงข้อที่ในโปรแกรมโชว์เลขมุมขวาบนว่า 0 หรือให้อธิบายง่ายๆก็คือ ข้อนี้เป็นข้อที่ไม่มีใครสามารถผ่านไปได้ ข้อที่ 75 มีผู้เล่นติดอยู่ข้อนี้ทั้งหมด 4 คน จากผู้เล่นทั้งหมดสิบล้านกว่าคนทั่วโลก สุริยันรู้ได้ทันทีว่าข้อนี้น่าจะเป็นข้อที่ใช้ประเมินศักยภาพของผู้เข้าเล่นเกม ว่าเหมาะสมพอจะถูกเรียกว่าอัจฉริยะหรือไม่ ในตอนแรกสุริยันเองก็คิดว่าต้องตอบคำถามให้ครบ 100ข้อเสียก่อน ถึงจะถูกประเมินว่าผ่าน แต่คิดไปคิดมามันก็ไม่น่าที่จะจำเป็นต้องรอให้ครบ 100 ข้อก่อนซะหน่อย ถึงจะผ่านได้ เอาจริงๆแค่ 80 - 90ข้อนี่ก็ถือว่าผ่านได้แล้ว แต่นี่แค่ข้อ75ก็ไม่ผ่านกันทั้งโลกแล้วแบบนี้ นั่นแปลว่าการการันตีความเป็นอัจฉริยะคงวัดผลกันที่ข้อนี้แน่ๆ
ข้อที่ 75 ; ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้เดินทางไปทำภารกิจที่ดวงจันทร์ โดยกำหนดการคือต้องไปลงจอดใกล้กับฐานแม่ที่พื้นผิวดวงจันทร์ด้านสว่าง แต่เนื่องจากยานอวกาศของท่านเกิดเหตุขัดข้องจึงต้องลงจอดฉุกเฉินห่างจากยานแม่ราว 200 ไมล์ (ประมาณ 320 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นด้านมืดของดวงจันทร์ คุณเป็นคนเดียวที่เหลือรอดและต้องเดินทางไปยังจุดนัดพบ ตอนนี้คุณมีรายการสิ่งของอยู่ 15 อย่างที่ยังสามารใช้การได้ คุณจะให้ความสำคัญกับของชิ้นใดมากที่สุด โดยให้เรียงลำดับ 1 – 15 สำคัญที่สุดคือ 1 รายการสิ่งของมีดังนี้
_______ ไม้ขีดไฟ
_______ อาหารสกัดเม็ด
_______ เชือกไนล่อนยาว 50 ฟุต
_______ ร่มชูชีพ
_______ เครื่องทำความร้อนกระเป๋าหิ้ว
_______ ปืนพกขนาด 0.38มม.สองกระบอก
______ นมผง 1 ลัง
_____ ถังอ๊อกซิเจน หนัก 100 ปอนด์ สองถัง
_____ แผนที่ดวงดาวบริเวณดวงจันทร์
_______ แพชูชีพ
_______ เข็มทิศแม่เหล็กโลก
_______ น้ำ 5 แกลลอน
_______ พลุสัญญาณ
_______ กระเป๋ายา
_______ เครื่องรับส่งวิทยุพลังงานแสงอาทิตย์
*นี่เป็นคำถามทดสอบขององค์การนาซ่า เพื่อทดสอบว่าคุณจะสามารถเอาตัวรอดบนดวงจันทร์ได้หรือไม่ โดยจะมีเกณฑ์ประเมินให้ดังนี้
0 – 25 รอดปลอดภัย
25 – 32 รอดมาได้ แต่เหนื่อยหน่อย (เหมือนหนังเรื่อง Die Hard)
33 – 45 รอดแต่มีโอกาสเสียอวัยวะบางส่วนไป(พิการ)
46 – 55 ปาฏิหารย์เท่านั้นที่จะทำให้คณรอดมาได้
56 – 70 ตายแน่นอนเพราะคุณเผลอใช้หลักการบนโลกกับสิ่งของเหล่านั้น
71 – 112 นอกจากคณจะตายแล้วยังต้องปลดคนที่คัดเลือกคุณออกด้วย
หลักการคิดคะแนนคือ ดูว่าหมายเลขความสำคัญของสิ่งของเหล่านั้นที่คุณเลือกต่างกับเฉลย (ที่ Nomad ตอบ) มากน้อยขนาดไหน ไม่สนใจว่าได้บวกหรือลบ แล้วนำมาบวกทบไปเรื่อยๆ ลองทำกันดูนะ
สุริยันอ่านคำถามจบเขารู้ทันทีว่าโจทย์ต้องการให้ตอบให้ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งค่อนข้างยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ หากจะลองสุ่มเดามั่วๆ ทั้งอาทิตย์ก็คงไม่ผ่าน มีวิธเดียวคือค่อยๆวิเคราะห์แล้วลองถูกลองผิดนิดหน่อย คำตอบที่ถูกที่สุดก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม "อืมมมม ยากแฮะข้อนี้ งั้นจะลองตัดช้อยส์ไปเรื่อยๆเริ่มจากสำคัญที่สุดก่อนละกัน อันดับ 1 เลยก็ต้องเป็นถังอ๊อกซิเจนเพราะเราอยู่นอกโลก อันดับ 2 ก็คงต้องเป็นน้ำเพราะร่างกายต้องการน้ำเป็นหลักอีกอย่างด้านสว่างของดวงจันทร์มีผลต่อการสูญเสียน้ำในร่างกายมากกว่าปกติอีกด้วย อันดับ 3 แผนที่ดวงดาวละกัน เพราะเราไม่รู้ว่าพิกัดเราอยู่ตรงไหน ถ้าเราดูตำแหน่งดาวจากแผนที่ก็น่าจะพอนำทางเราไปจดนัดพบได้ อันดับ 4 คงต้องเป็นอาหารอัดเม็ด สุดท้ายอย่างไรปัจจัยสี่ก็ต้องมาก่อน อันดับ 5 เครื่องรับส่งวิทยุ ถึงแม้คลื่นวิทยุจะมีระยะที่สั้นแต่ก็จำเป็นเอาไว้ติดต่อกับยานแม่ อันดับ 6 เชือกไนล่อน เผื่อต้องไต่เขาหรือปีนขึ้นจากหลุม เพราะดวงจันทร์มีภูเขาและหลุมเยอะมาก ยิ่งด้านมืดวิสัยทัศน์การมองก็จะต่ำ อาจจะเผลอตกหลุมได้ อันดับ 7 กระเป๋ายา อันดับ 8 ร่มชูชีพ เอาไว้ป้อนกันรังสีตอนที่เราเดินทางไปยังด้านสว่างของดวงจันทร์ อันดับ 9 แพชูชีพ เราสามารถเอาของทั้งหมดใส่และใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในแพชูชีพมาช่วยในการเคลื่อนที่ อันดับ 10 พลุไฟ เผื่อไว้ส่งสัญญาณเมื่อใกล้ยานแม่ อันดับ 11 ปืน นี่ก็เพื่อการเคลื่อนย้ายเหมือนกัน ใช้แรงดันจากปืนทำให้เราเคลื่อนที่ได้ดีขึ้น อันดับ 12 นมผง ก็อาหารอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเรามีแล้วแต่เอาไปอีกก็ได้ อันดับ 13 เครื่องทำความร้อนหรอ ไม่จำเป็นเลยแฮะ แต่เผื่อได้ใช้ตอนอยู่ด้านสว่างของดวงจันทร์ อันดับ 14 เข็มทิศโลก จริงๆเอามาใช้ปบนดวงจันทร์ไม่ได้นะเนี่ย แต่เอาไว้รองสุดท้ายเผื่อแม่เหล็กจะมีประโยชน์อะไร อันดับ 15 ไม้ขีด มันจุดไม่ได้บนดวงจันทร์เพราะที่นี่ไม่มีออกซิเจน เอาไว้สุดท้ายเลยละกัน” เขาใส่คำตอบลงไปและเป็นไปตามคาด คำตอบถูกต้อง แต่เขาไม่คิดว่าจะถูกต้องภายในหนเดียวเนี่ยสิ เขาผ่านไปข้อที่76 ขณะที่กำลังจะโชว์คำถามของข้อนี้ ก็มีไอคอนประหลาดมีสัญลักษณ์รูปจดหมายปรากฎขึ้น พร้อมกับสั่นดุ้กดิ้กอยู่ตรงกลางของหน้าจอเกม สุริยันไม่ลังเลและกดไปที่ไอคอนรูปจดหมายนั้น
"ยินดีด้วย คุณผ่านเกมส์ของเราไปถึง 75 ข้อ คุณเป็นหนึ่งในผู้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกให้มาออกรายการ The100Question เพื่อตอบคำถามชิงเงินรางวัลออกกับเรา และต่อจากนี้อีก 25 ข้อ เราจะขอเชิญคุณมาเล่นเกมตอบคำถามออกอากาศ เราจะมีเงินรางวัลให้แก่คุณในทุกข้อที่สามารถผ่านเข้าไปได้ เราจะส่งทีมงานไปติดต่อเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับข้อตกลงต่างๆ ถ้าคุณสนใจคลิกตกลงเพื่อทำการนัดหมายกับเรา แต่ถ้าคุณไม่สนใจเราก็ขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะเกมส์ของเราจะหยุดให้เล่นที่ข้อนี้" จดหมายจากเกมส์
“ตกลง” เขากดปุ่มตกลงทันทีที่อ่านข้อความจบ หน้าจอของเกมส์พาเขาไปที่ข้อ 76 แต่ไม่มีคำถามอะไรเขียนไว้เลย เขาเลยปิดเกมเพื่อรอการติดต่อกลับของทีมงานผู้สร้างเกมส์ หลังจากนั้นไม่นาน เพียงแค่ 5 นาที โทรศัพท์ของเขาก็สั่นเนื่องจากมีสายโทรเข้ามา ไม่ใช่การโทรศัพท์แบบปกติ แต่เป็นการโทรผ่านแอพเกม The100Question เขาจึงขออณุญาติอาจารย์ไปห้องน้ำเพื่อที่จะรับสาย
"สวัสดีครับ" สุริยันกล่าวทักทาย
"สวัสดีค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะที่คุณสามารถผ่านข้อที่ 75 ของเกมส์เรามาได้ จะสะดวกไหมคะถ้าทางเราจะขอนัดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของรายการ The100Question ของเราในตอนนี้เลย" เสียงของโอเปอเรเตอร์สาวที่โทรมา กล่าวทักทายและรีบเข้าเรื่องทันที
"คือตอนนี้เรียนอยู่น่ะครับ คงไม่สะดวกพบวันนี้ ถ้ายังไงนัดเป็นวันพรุ่งนี้ดีมั้ยครับ พรุ่งนี้วันเสาร์และผมไม่มีเรียนด้วย" สุริยันไม่อยากรีบนัดเจอกันวันนี้เพราะเขาอยากมีเวลาเพื่อวางแผนให้ละเอียดรอบคอบกว่านี้
"อ๋อค่ะ คือตอนนี้ทางเราต้องการผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 5 ท่าน และตอนนี้เราได้ผู้เข้าแข่งขัน 4 ท่านแล้ว จึงอยากรีบนัดคุยเพื่อคุยรายละเอียดและรีบทำข้อตกลงร่วมกันน่ะค่ะ ไม่อยากให้คุณช้าจนพลาดโอกาสนะคะ" โอเปอเรเตอร์หว่านล้อม
สุริยันคิดว่าคงไม่มีใครในสี่คนที่ติดอยู่ข้อนี้จะผ่านในเร็ววันนี้แน่ เขาจึงลองนัดใหม่ "อ่าครับ งั้นนัดเป็นบ่ายวันเสาร์พรุ่งนี้มั้ยครับ ผมไม่มีเรียน เราจะได้มีเวลาพูดคุยกันนานๆด้วยไงครับ"
"เอิ่มมม ต้องขอโทษด้วยนะคะ คือถ้าเป็นเย็นของวันนี้จะสะดวกกว่า ถ้ายังไงนัดเจอกันหลังเลิกเรียนก็ได้นะคะ จะได้รีบจัดการให้เรียบร้อย รีบกำหนดวันถ่ายทำรายการน่ะค่ะ" โอเปอเรเตอร์คะยั้นคะยอสุริยันให้พบกันวันนี้ให้ได้
สุริยันเริ่มหนักใจเพราะมันกระชั้นชิดเกินไป แตก็กลัวว่าถ้าปฏิเสธไปอีกครั้ง แผนการที่จะได้เจอคนลักพาตัวคงจบลงตรงนี้แน่ "ก็ได้ครับวันนี้ก็ได้ ตอนนี้บ่ายสองครึ่ง ผมเลิกเรียนสี่โมง งั้นเรานัดเจอกันที่ร้านกาแฟใกล้สถานีบีทีเอสบางหว้า ตอน5 โมง ละกันนะครับ ผมใส่ชุดนักเรียนสะพายกระเป๋าสีเหลือง แล้วคุณล่ะครับ"
"โอเคค่ะ เดี๋ยวเราส่งคนไปรอเจรจากับคุณตอน5โมง ที่ร้านกาแฟใกล้สถานีบีทีเอสบางหว้านะคะ คนที่จะไปเจอเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40 เสื้อสีเขียวกางเกงยีนผิวคล้ำๆหน่อย น่าจะสังเกตุได้ง่าย" โอเปอเรเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกำลังจดโน้ตไปด้วย
"ถ้ายังไงขอเบอร์โทรสำหรับติดต่อไว้หน่อยได้มั้ยครับ เผื่อหากันไม่เจอ" สุริยันถาม
"ไม่เป็นไรค่ะ เบอร์โทรเป็นเบอร์ส่วนตัวของพนักงาน เราไม่สามารถเปิดเผยได้ค่ะ อ้ออีกอย่างนึงค่ะเกือบลืม เรื่องรายการของเรานั้นยังเป็นความลับ ถ้ายังไงกรุณาอย่าบอกใครและขอให้มาแค่คนเดียวนะคะ" โอเปอเรเตอร์บอก
"ครับผมได้ครับ" สุริยันตอบกลับก่อนจะกดวางสายเพื่อที่จะได้ไปเรียนต่อ
ระหว่างเรียนเขาก็ส่งข้อความหามินามิจังเพื่ออัพเดตสถานการณ์และบอกว่าแผนจะดำเนินไปอย่างไร แผนการเบื้องต้น ณ ตอนนี้คือ สุริยันจะให้มินามิจังไปเช่าหอพักที่อยู่ตรงข้ามกับร้านกาแฟเพื่อที่มินามิจังจะได้ไปนั่งสังเกตุการณ์เขาจากระยะไกล ถ้าหากเขาให้มินามิจังไปนั่งทำเป็นอ่านหนังสือพิมพ์ในร้านแล้วคอยแอบฟัง เขากลัวว่ามันจะดูจะมีพิรุธเกินไป เขาจึงให้มินามิซื้อกล้องส่องทางไกล หูฟังและไมค์ขนาดเล็กเพื่อเอาไว้คอยฟังบทสนทนาและติดต่อกับเขาได้ เขาให้ไปเฝ้าสังเกตุการณ์ตั้งแต่สี่โมง (หนึ่งชั่วโมงก่อนเวลานัดหมาย) เพื่อคอยจับตาดูว่าคนตามรูปพรรณสัณฐานที่จะมาหาเขานั้นมาคนเดียวหรือมากันหลายคน แต่แยกกันนั่งเพื่อให้ดูเหมือนมาคนเดียว และระหว่างที่รอก็คอยหาข้อมูลต่างๆ แล้วตอนสี่โมงครึ่ง (ก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง) เขาจะเข้าไปหามินามิจังเพื่อติดตั้งหูฟังและไมค์ที่ตัวเขาก่อนจะไปเจอกับคนที่นัดพบ มินามิจังเสนอให้พกอาวุธ แต่สุริยันบอกว่าเขาไม่ถนัด กลัวเอาไปแล้วจะโดนแย่งชิงกลายเป็นอันตรายกับตัวเขาซะเอง มินามิขอให้เธอได้เข้าไปด้วย ขออยู่ใกล้ๆ คะยั้นคะยอมากมายเพราะเป็นห่วงสุริยัน แต่สุริยันบอกไม่เป็นไร ไปคนเดียวคุมสถานการณ์ง่ายกว่า ก่อนจบบทสนทนาทางข้อความ มินามิส่งข้อความมาสั้นๆ แต่สุริยันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ "สมแล้วที่ชื่อ Nomad"
สิงโตเป็นสัตว์สังคม จะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง แบ่งแยกหน้าที่และมีชนชั้นที่ชัดเจน ออกล่าร่วมกัน แบ่งอาหารกินร่วมกัน และช่วยเหลือกัน แต่ก็มีให้เห็นสิงโตที่ไม่มีฝูง ล่า กิน อยู่เพียงลำพัง สิงโตเหล่านั้นถูกเรียกว่า Nomad
ถึงเวลาเลิกเรียน ตะวันรีบทวงถามสัญญากับสุริยันทันที "ไหนเฉลย ตามที่สัญญากันไว้" สุริยันลืมเสียสนิท "ลืมไปเลย เอาไว้บอกวันพรุ่งนี้ได้ป้ะ วันนี้มีธุระด่วน รีบมาก" ตะวันทำหน้าเซ็งทันทีแต่ก็ยื้อไม่ยอมให้สุริยันรีบไป "รีบไปไหน วันนี้วันศุกร์นะเว้ย" สุริยันกระอักกระอ่วนใจที่จะบอกความจริงเลยโกหกมั่วๆไปก่อน "เอิ่มม พอดีวันนี้มีนักเขียนมาแจกลายเซ็นน่ะเลยจะรีบไป เดี๋ยวไม่ทัน" ตะวันรู้ดีว่าสุริยันชอบอ่านหนังสือขนาดไหน ในขณะเดียวกันสุริยันเองก็รู้ดีว่าตะวันนั้นไม่ชอบอ่านหนังสือเลย ตนจึงโกหกเกี่ยวกับอีเว้นที่ตะวันไม่สนใจที่จะตามไป "ก็ได้ๆ ปล่อยไปก็ได้ แต่ไปแวะซื้อไอติมที่ข้างโรงเรียนเป็นเพื่อนก่อน" ในขณะเดียวกันอังศุมาลีแฟนของตะวันก็เดินมา "สวัสดีจ่ะสุริยัน ทำอะไรกันอยู่หรอ" ตะวันเหมือนทำท่าจะตอบอะไรบางอย่างแต่ไม่ทันสุริยัน สุริยันชิงตอบเสียก่อน "ตะวันมันอยากกินชาบูร้านเปิดใหม่แถวสยามน่ะ แต่เราไม่ว่างเลยปฎิเสธไป" ตะวันทำหน้าอึ้งทันทีในขณะที่อังศุมาลีตาลุกวาวกลมโต "อ๋อ ร้านชาบูเปิดใหม่ที่มีชีสเยิ้มๆให้ต้มด้วยใช่มั้ย อยากกินๆ เห็นคนเอามารีวิวใน Fate book แล้ว น่ากินมากเลย" สุริยันยิ้มใส่ตะวันเชิงเยาะเย้ยเหมือนผู้ชนะก่อนที่อังศุมาลีจะหันไปบอกตะวันว่า "ป่ะงั้นเราไปกินกัน" ตะวันได้แต่ตอบว่าจ่ะๆ ก่อนที่จะมองหน้าสุริยันพร้อมกับส่งโทรจิตไปหาสุริยันว่า "เจอกันคราวหน้า เอ็งตายแน่" สุริยันยิ้มร่าอย่างมีความสุข ก่อนจะลาทุกคนแล้วขอตัวออกไป
16.30 นาฬิกา สุริยันมาหามินามิจังตามนัด เขาติดตั้งไมค์และหูฟัง เทสอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนซักถามมินามิจังเกี่ยวกับคนน่าสงสัย ว่ามารึยัง มากี่คน เมื่อเขาเตรียมตัวเสร็จ เขาก็พร้อมที่จะไปพบกับคนที่นัดเจอเขา มินามิจังเป็นห่วงสุริยันมาก เธอจึงบอกให้สุริยันระวังตัวให้มากๆ ด้วยความเป็นห่วง สุริยันยิ้มรับปากแล้วบอกเธอว่า “ไม่ต้องห่วงไปหรอก ฉันรับมือไหว” แล้วเขาก็เดินออกจากหอพักไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ