Love in demon : รักวุ่นๆของเด็กหนุ่มกับ(เหล่า)ปีศา
เขียนโดย Blueheadphone
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 21.19 น.
แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2561 21.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) กาญผจญภัยครั้งที่ 8
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ไนน์เทล...”
เบ็คกาลอสพูดทวนชื่อปีศาจระดับสูงบนต้นไม้ก่อนจะรีบยกตรีศูลนั้นมารับหางข้างหนึ่งซึ่งพุ่งเข้ามา หากแต่ว่าพลังทำลายของหางปีศาจนั้นดูท่าจะมากกว่าอาวุธของเด็กหนุ่มจึงถูกแทงทะลุจนมันหักขึ้นแล้วตรงเข้าไปแทงเข้าบริเวณไหล่ด้านซ้าย
วูดวูฟหันไปมองทางคู่หูของตนจึงพลาดจังหวะยกแขนปีศาจขึ้นมาป้องกันตนเอง หางข้างเดิมถูกตวัดกลับมาฟาดเข้ากลางลำตัวของเขาแล้วลากครูดไปกับพื้นเป็นแนวยาว ส่วนทางมนุษย์ปลาก็สามารถใช้หอกคู่ขัดการโจมตีด้วยหางอีกข้างหนึ่งได้
“เอามันคืนมา!”
คนผมน้ำเงินปัดหางของปีศาจจิ้งจอกออกไปได้ก็วิ่งตรงไปหาชายผมส้มแล้วง้างแขนจนสุดเพื่อขว้างหอกด้ามหนึ่งไปหาเป้าหมาย แต่แล้วเมื่อเด็กน้อยผมม่วงนั้นยกมือขึ้นมาพร้อมกับวงเวทย์ประหลาดคล้ายหน้าปัดนาฬิกา หอกเหล็กของเขาก็ค่อยๆสลายหายไปในอากาศก่อนจะมาถึงใบหน้าของพ่อเลี้ยงตนเอง
ไนน์เทลลูบศีรษะของเด็กน้อยก่อนจะใช้หางปัดร่างของมนุษย์ปลาคนนั้นให้ถอยไปไกลๆ เพราะเขาไม่มีธุระอะไรกับปีศาจตนนั้น แต่มีกับเบ็คกาลอสและวูดวูฟต่างหาก
“ส่งมณีของพวกแกมา”
“ไม่มีวัน!!!”
เด็กหนุ่มผมฟ้าตอบพร้อมกับโยกตัวหลบหางที่พุ่งเข้ามาหมายจะมาฉกสร้อยคอของเขาไป เจ้าตัวเปลี่ยนร่างของตนเองให้กลับมาในสภาพปกติแล้วหันไปหักกิ่งไม้เล็กๆมาถือไว้ในมือ เพียงแค่ไม่ถึงวินาทีต่อมาจากกิ่งไม้ขนาดเล็กมันก็ดันยืดยาวและขยายขนาดจนกลายเป็นกระบองได้
เก้าหางเก้าชีวิตปรบมือให้กับความสามารถนั้นแต่ดูแล้วนั่นคงไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ยูเรนัสกลัวจนเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องสินะ?
เบ็คกาลอสรวมพลังลมไปที่เท้าเพื่อเพิ่มแรงกระโดดของเขาให้ไปไกลและสูงมากกว่าเดิม ไนน์เทลหัวเราะหึๆพลางส่ายหัวไปมาเมื่อคิดว่าเขาไม่ได้เห็นความผิดพลาดของมนุษย์ปลาคนนั้นเลยสินะ
การโจมตีแบบเดิมมาอีกครั้งเพราะไนน์เทลคิดว่ากลางอากาศแบบนั้นไม่มีใครหลบหางเขาได้อย่างแน่นอน แต่แล้วเด็กตรงหน้าก็ดันสามารถกระโดดได้อีกครั้งด้วยการเหยียบอากาศเปล่าๆ ฉับพลันเมื่อร่างนั้นตกลงมากระบองไม้ในมือก็ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นเหล็ก
“คิดตื้นไปแล้วพี่ชาย!”
เด็กหนุ่มบอกปีศาจตรงหน้าในเวลาที่กระบองเหล็กของเขาฟาดไปใส่หมาจิ้งจอกตรงหน้า แล้วในเวลาต่อมาเขาก็รับรู้ได้ในแทบจะทันทีว่าสิ่งที่เขาเพิ่งจะฟาดไปมันไม่ใช่ศีรษะของปีศาจอย่างที่เขาเล็งไว้
“พูดถึงตัวเองรึเปล่า?”
ท่อนเหล็กเสริมพลังลมและแรงโน้มถ่วงของโลกสามารถถูกหยุดอย่างง่ายดายด้วยหางเพียงข้างเดียว ไนน์เทลแสยะยิ้มก่อนจะใช้หางอีกข้างพุ่งเข้าไปเสียดสีกับสีข้างของศัตรูแล้วตค่อยรัดร่างของเด็กหนุ่มพร้อมกับออกแรงบีบอย่างแรงจนเขาต้องร้องด้วยความเจ็บปวด
ร่างของเหยื่อถูกขว้างพุ่งไปหาตัววูดวูฟซึ่งกำลังเล็งปืนฉมวกมาทางตนเองทำให้คนผมดำต้องรีบทิ้งอาวุธแล้วรับร่างของเด็กหนุ่มเอาไว้แทน
ปีศาจจิ้งจอกโจมตีต่อเนื่องด้วยลูกไฟวิญญาณซึ่งถูกปล่อยออกมาจากวงเวทย์ด้านหลังของตนเอง ด้วยพลังอานุภาพทำลายล้างของมันทำให้ทั้งสองกระเด็นออกไปไกลพร้อมกับเปลวไฟที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าของพวกเขา
“หางของฉันคือหอก ดาบและโล่ที่แข็งแกร่งที่สุด”
สำหรับเบ็คกาลอสมันไม่ค่อยมีผลมากเท่าใดเพราะเขาสวมเพียงแค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ต่างไปจากคนข้างๆที่สวมชุดนักประดาน้ำเต็มยศเขาจึงจำเป็นต้องหันมาช่วยดับไฟ และในจังหวะนั้นไฟวิญญาณสีส้มก็ถูกยิงมาอีกครั้ง คนผมฟ้าจึงหันหน้ากลับไปฟาดลูกไฟเหล่านั้นด้วยท่อนเหล็กรูปร่างบิดงอของตน
มีการโจมตีหนึ่งที่เบ็คกาลอสสามารถตบกลับไปหาเจ้าของมันได้ แล้วเมื่อเข้าไปในรัศมีของไนน์เทลมันก็สลายหายไปอีกครั้งในอากาศ คนผมฟ้ามองตรงไปหาตัวการซึ่งเขาคิดเอาเองว่าเด็กผมม่วงคนนั้นจะต้องเป็นคนทำมันอย่างแน่นอน
“ล่อซื้อเวลาให้ฉันหน่อย”เขาหันไปกระซิบคู่หูของตน
“นายต้องการอะไร?”อีกฝ่ายตอบ
“ฉันจะต้องทำอะไรสักอย่างกับเด็กคนนั้น”
“เข้าใจล่ะ”
ทั้งสองออกวิ่งไปพร้อมกันพร้อมกับหลบหางสามข้างซึ่งพุ่งเข้ามา วูดวูฟสไลด์ไปกับพื้นแล้วคว้าปืนฉมวกมายิงไปทางไนน์เทล หางที่สี่อ้อมมาป้องกันเจ้านายของตนแล้วพุ่งไปคว้าปืนนั้นมาก่อนจะบีบเพื่อทำลายมัน
คนผมดำเปลี่ยนแขนอีกข้างของตนให้เป็นแขนปีศาจแล้วจับหางข้างนั้นเอาไว้ ในวินาทีต่อมาเขาออกแรงดึงเต็มที่เพื่อดึงเจ้าของหางให้ลงมาจากต้นไม้ โดยมันก็เป็นไปตามที่เขาคาดหวังไว้เพราะเก้าหางเก้าชีวิตยอมกระโดดลงมาจากต้นไม้
ชายผมส้มเองก็ไม่น้อยหน้าด้วยการเปลี่ยนแขนของตนเองเป็นแขนปีศาจที่คล้ายคลึงกับวูดวูฟก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะพุ่งเข้าหากันโดยไม่มีสัญญาณใดสั่งเริ่ม
เบ็คกาลอสพยักหน้าเมื่อได้รับสัญญาณของคู่หู เขาเปลี่ยนเหล็กในมือให้กลายเป็นแส้หนามแล้วฟาดมันไปที่ต้นไม้ก่อนดึงให้แน่ใจแล้วปีนขึ้นไปยังต้นไม้ข้างๆของเด็กน้อยผมม่วงคนนั้น เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่ได้รู้ตัวเพราะเอาแต่ปรมมือรัวๆแล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มแสนใสซื่อเมื่อได้จ้องมองการต่อสู้ของสองคนด้านล่าง
“ขอโทษนะเจ้าหนู...”
เบ็คกาลอสกล่าวขอโทษคนบนต้นไม้เพราะถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นแค่เด็กแต่ถ้ามันเป็นจริงเขานั้นก็ต้องทำ ขณะกำลังจะฟาดแส้ไปหาเหยื่อจู่ๆก็มีบางสิ่งพุ่งมารัดคอของเขาซะก่อน มันลากตัวเขาลงมาจากต้นไม้พร้อมกับวัตถุประหลาดอีกห้าชิ้นที่กำลังรัดมือและเท้าของเขา
“บ้าน่า...นี่แกถอดหางตัวเองได้!?”
เขาร้องด้วยความตกใจเมื่อได้เห็นหางสีขาวของปีศาจจิ้งจอกที่กำลังสู้อยู่กับวูดวูฟนั้นไม่ได้ติดอยู่กับโคนหางของเจ้าของมัน แล้วเขาก็ไม่เคยยักรู้มาก่อนเลยว่ามันมีหมาที่ไหนถอดหางตัวเองได้บวกกับหางนั้นยังสามารถโจมตีคนอื่นได้อีกต่างหาก!
“ไม่ได้บอกงั้นเหรอ?”
ไนน์เทลหันหน้ากลับมาหัวเราะจนเปิดโอกาศให้เล็บของวูดวูฟพุ่งเข้าไปเฉียดแก้มของเขาจนเลือดไหลออกมาได้ เจ้าตัวกัดฟันแน่นแล้วใช้เท้ายันร่างของอีกฝ่ายออกไปก่อนจะใช้หางสามข้างที่เหลืออยู่พุ่งไปโจมตีเขา
หางสี่ข้างของปีศาจจิ้งจอกรัดแขนและขาทั้งสี่ข้างของเบ็คกาลอสเอาไว้เป็นผลให้เขาไม่สามารถขยับได้ ในขณะเดียวกันหางที่เหลือก็ตั้งท่าจะโจมตีเขาได้ทุกเมื่อเด็กหนุ่มจึงเปลี่ยนร่างของตนเองเป็นไฟเยอร์ฟอร์มเพื่อเผาพันธนาการออกไป และเบี่ยงศีรษะหลบได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปด
เด็กผมฟ้าสวมเกราะหน้าแข้งไฟแล้วหมุนตัวไปมาในแบบท่าเต้นบีบอยเพื่อป้องกันการโจมตีของหางเหล่านั้น เมื่อกลับมายืนได้ก็ซัดลูกเตะไฟไปตัดกิ่งไม้ที่เด็กคนนั้นนั่งอยู่ หนุ่มน้อยกระโจนลงมามองเขาด้วยสายตานิ่งๆก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในป่า โดยในช่วงแรกเขาพยายามจะวิ่งตามไปแต่กลับถูกขวางด้วยหางทั้งหกจึงต้องหันกลับมารับมือพวกมันแทน
“ให้มันได้อย่างนี้สิ...จิ้งจอกถอดหางตัวเองได้”
ตัดมาดูทางวูดวูฟซึ่งกำลังตีลังกากลับหลังหลบหางทั้งสามข้างของไนน์เทลก่อนจะพุ่งตัวกลับมาเมื่อเห็นช่องว่างนั้น กรงเล็บของทั้งคู่ซัดกันไปมาจนเกิดเสียงคล้ายโลหะกระทบกันหลายทีโดยดูเหมือนมันจะไม่หยุดลงง่ายๆ
มือข้างหนึ่งเอื้อมไปดึงศีรษะของจิ้งจอกเพื่อกระชากมันลงมาพร้อมกับยกเข่ากระแทกเข้าไปกลางหน้าของเขา คนถูกจู่โจมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเลือดกำเดาบริเวณจมูกแต่ก็ยังคงแสยะยิ้มก่อนจะสวนด้วยการใช้ศีรษะกระแทกกลับ
ทั้งสองถอยหลังไปด้วยความมึนจากการกระแทกนั้นและเมื่อกลับมาตั้งสติได้ก็พุ่งเข้าหากันอีกรอบ วูดวูฟกระโดดขึ้นด้านบนและใช้เท้าเตะแต่ไนน์เทลก็รับมันได้ด้วยแขนแล้วเปลี่ยนมาใช้เท้าเตะขึ้นไปแทน คนผมดำก้มตัวหลบก่อนใช้ข้อศอกกระแทกสีข้างของอีกฝ่าย จิ้งจอกเก้าหางนั้นถอยกลับไปเล็กน้อยโดยที่ยังมีคนดึงแขนเขาเอาไว้
ชายผมดำกระชากร่างของอีกคนเข้ามาหัวตัวเพื่อหาจังหวะโจมตีต่อ ซึ่งดูเหมือนคนผมส้มจะคาดการถึงเรื่องนั้นได้จึงใช้หางฟาดขาของอีกฝ่ายให้เขาเสียศูนย์การทรงตัว ด้วยผลของการฝึกฝนนั้นสามารถทำให้วูดวูฟหมุนตัวแล้วใช้ขาข้างหนึ่งเตะอัดกลางลำตัวของไนน์เทลได้ ส่วนขาอีกข้างที่หมุนมาก็เล็งไปยังขาของอีกฝั่งเพื่อให้เขาล้มลง
นักล่าปีศาจยังเปิดเกมรุกต่อด้วยการยกขาฟาดลงมายังร่างบนพื้น นับว่ายังโชคดีที่ประสาทสัมผัสของจิ้งจอกนั้นยังทำงานได้ดีจึงสามารถกลิ้งหลบได้แล้วใช้หางข้างหนึ่งดึงขาของอีกฝ่ายให้อยู่ในสภาพคุกเข่าลงก่อนที่หางเส้นสองจะฟาดใส่ใบหน้าของชายคนนั้น
“อึก...”ไนน์เทลสะกดความเจ็บปวดไว้เมื่อเล็บของวูดวูฟสามารถทำให้หางเขาเป็นแผลได้ “เล็บแกคมใช้ได้เลยนี่...ถ้าเป็นเล็บปีศาจทั่วไปป่านนี้ได้หักไปแล้ว”
“หางนายก็แข็งใช้ได้”เขาชม “แต่โล่ยังไงก็ต้องมีวันแตกอยู่ดี”
ยังไม่ได้ทันพักหายใจกันสักเท่าไหร่ก็เปิดศึกหมัดกันอีกต่ออีกยกหนึ่ง ไนน์เทลก้มตัวหลบหมัดของวูดวูฟแล้วใช้เท้ายันไปกลางลำตัวของคนตรงหน้าก่อนจะหมุนตัวพร้อมกับยกขาขึ้นไปฟาดใว่ใบหน้าของคู่ต่อสู้
ร่างของคนผมดำถอยกลับไปตามแรงเตะแต่ต้องรีบดึงสติกลับมาพร้อมกับใช้แขนรับหมัดปีศาจของอีกคนหนึ่งเก้าหางเก้าชีวิตดึงหมัดข้างนั้นกลับมาแล้วสวนหมัดอีกข้างไปซึ่งก็โดนบล็อคไว้ได้เหมือนเดิมวูดวูฟปัดแขนอีกฝ่ายออกไปแล้วพยายามจับไหล่ของเขา ทันใดนั้นเข่าด้านล่างก็พุ่งเข้ามากระแทกคางของเขาอย่างจัง มันยืดออกเพื่อเปลี่ยนเป็นลูกเตะแล้วค่อยฟาดลงมาอีกครั้ง
คนผมดำหมุนตัวหลบการฟาดขานั้นแล้วยื่นมือไปจับไหล่ของคู่ต่อสู้ทางด้านหลังได้สำเร็จ เขาออกแรงเต็มที่เพื่อยกร่างของไนน์เทลให้สูงขึ้นจากพื้นเพื่อโยนร่างของเขาไปหาต้นไม้ต้นหนึ่ง จิ้งจอกหนุ่มใช้ขาทั้งสองยันลำต้นนั้นกลับมาก่อนใช้ขาทั้งสองล็อคศีรษะของศัตรูก่อนจะใช้สองมันนยันพื้นแล้วจึงค่อยเขวี้ยงร่างของวูดวูฟออกไปจนทะลุต้นไม้ต้นเดิม
หมาป่าหนุ่มกระโดดกลับมาทำให้ไนน์เทลโจมตีคนกลางอากาศด้วยหางทั้งสาม หากแต่ดูเหมือนว่าการโจมตีด้วยหางแค่จำนวนนั้นวูดวูฟสามารถหลบได้ทำให้เขาลงพื้นพร้อมกับใช้หมัดปีศาจต่อยเข้าที่พื้นดินจนเกิดรอยร้าวได้อย่างปลอดภัย
จิ้งจอกตนเดิมกระโดดถอยหลังกลับเพื่อหลบมันตามมาด้วยการพุ่งเข้ามาใช้หมัดขา เท้าและเข่าสู้กันไปมา มีถูกบล็อกบ้างหรือโดนบ้างแล้วแต่สติของแต่ละคน ไนน์เทลกระโดดถอยหลังก่อนยิงลูกไฟวิญญาณใส่ศัตรู เมื่อเห็นดังนั้นวูดวูฟจึงใช้เล็บของตนจิกลงไปในพื้นดินแล้วยกมันขึ้นมาเพื่อป้องกันลูกไฟนั้น
“เรื่องต่อสู้แกเองก็ใช้ได้เลยนะ”ไนน์เทลว่าหลังจากหลบก่อนดินได้สำเร็จ “ทำไมปีศาจที่มีฝีมืออย่างแกถึงได้ไปอยู่ร่วมกับมนุษย์กัน”
“จะอยู่ฝ่ายไหนมันก็เรื่องของฉันไม่ใช่เรื่องของแก”
“จะเลือกข้างไหนก็คิดให้ดีๆก่อนแล้วกันล่ะ...เพราะต่อให้แกเป็นปีศาจถ้าพวกเราได้ ‘เขา’ กลับมาเขาก็คงไม่มีวันไว้ชีวิตพวกปีศาจที่ญาติดีกับพวกมนุษย์เด็ดขาด”
“เขา?”คนผมดำทวนคำพูดของปีศาจ “ใครกัน”
“แกไม่รู้จักหรอก”
จังหวะนั้นมีหอกด้ามหนึ่งถูกปาออกมาจากทางปาแต่ถูกรับไว้ได้ด้วยหางไนน์เทล เขากัดฟันก่อนจะบีบมันแตกแล้วหันไปมองที่มาของหอก มนุษย์ปลาตนเดิมกลับออกมาด้วยอาวุธจำนวนมากพร้อมกับลูกเลี้ยงของเขาที่อยู่ในมือของเขาคนนั้น
“คืนมันมาไม่งั้นฉันฆ่าไอ้เด็กนี่แน่!!!”
“พี่ไนน์ช่วยผมด้วย!”
“ไทม์!”
จิ้งจอกหนุ่มตะโกนเรียกชื่อของเด็กน้อยผมม่วง ในขณะนี้ต้นคอของเด็กคนนั้นถูกจ่อเอาไว้ด้วยคมมีดสั้นน้ำของฉลามตนนั้น นั่นทำให้ไนน์เทลจำใจต้องถอดกำไลข้อมือแล้ววางไว้บนพื้นเป็นสัญญาณยอมแพ้เพราะเขาไม่มีทางเลือก
และทันทีที่ปีศาจตนนั้นลดอาวุธลงจากคอของไทม์หางทั้งหมดของไนน์เทลก็พุ่งกลับมาจากด้านหลัง หางสองข้างคว้าและนำตัวของเด็กน้อยกลับมาส่วนอีกสี่ก็ฟันเข้ากลางหลังของมนุษย์ปลาจนเป็นแผลยาวสีแผล
“ปลอดภัยดีนะ?”
คนผมส้มโอบกอดเด็กที่กำลังขวัญเสียแล้วลูบหัวเพื่อปลอบโยนเด็กน้อยก่อนที่ดวงตาอาฆาตสีเดียวกับเส้นผมจะมองตรงไปยังฉลามตนนั้น โดยมันเป็นเวลาเดียวกับที่หางทั้งเก้ากลับมาต่อกับร่างกายของเจ้าของครบทุกข้าง
และแล้วไนน์เทลก็หันไปคว้าเครื่องประดับอันมีรูปร่างคล้ายกับมงกุฎขึ้นมาใส่ไว้บนศีรษะ ฉับพลันทุกคนบนเกราะก็ได้รับรู้ถึงพลังงานอันมหาศาลซึ่งไหลออกมาจากอัญมณีชิ้นนั้น เบ็คกาลอสซึ่งอยู่ในป่าหันมาจากต้นตอของพลังก็ได้แต่ภาวนาไว้ในใจว่าวูดวูฟคงต้องถ่วงเวลาไว้อีกสักหน่อยก่อนที่เขาจะทำงานตรงนี้เสร็จเสียก่อน
คนผมส้มสั่งให้ลูกเลี้ยงของตนถอยออกไป เจ้าตัวพยักหน้าแล้วทำตามแต่โดยดี วูดวูฟและชายผมน้ำเงินตั้งท่าเตรียมรับมือเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะบุกมาแบบไหน
“ซีนจะมอบพลังความเร็วแก่คนที่สวมมัน”
เมื่อพูดจบประโยคร่างของไนน์เทลก็หายวับไป โผล่มาอีกทีก็อยู่ด้านข้างของนักล่าหนุ่ม หมัดถูกชกเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างจังด้วยความรวดเร็วจนมองไม่ทันและจุดน่าสังเกตก็คือเขาดันไปชนกับมนุษย์ปลานี่สิ...
คนผมน้ำเงินซึ่งถูกไปเมื่อสักครู่ใช้หอกหินในมือฟาดใส่ร่างของปีศาจตนนั้นแต่มันกลับผ่านเขาไปราวกับธาตุอากาศทั้งๆที่ไนน์เทลยังคงรัวหมัดใส่เขาอยู่แท้ๆ และแล้วความจริงก็ได้ปรากฏเมื่อเขามองเห็นอีกร่างหนึ่งของจิ้งจอกตนนี้ที่กำลังรัวหมัดใส่วูดวูฟเช่นกัน
จนในช่วงเวลานั้นร่างอีกสี่ร่างของไนน์เทลก็โผล่ขึ้นมาแล้วโจมตีทั้งสองคนจากด้านข้างทั้งสองทาง ทำให้พวกเขาไม่สามารถป้องกันมันได้ทันสักทาง เพราะร่างพวกนี้มันโจมตีเร็วและรุนแรง พอจะหันไปป้องกันทางหนึ่งก็ยังมีอีกสองทางที่ยังโจมตีพวกเขาได้ ร่างของไนน์เทลเตะทั้งสองออกไปก่อนที่ร่างทั้งหมดจะกลับมารวมกันเป็นเขาคนเดิม
“แกแยกร่างได้รึยังไงกัน!”มนุษย์ปลาถามแล้วถ่มน้ำลายปนเลือดออกมา
“ฉันไม่มีวิชาแบบนั้นหรอกนะ ก็บอกแล้วไงว่าใครที่สวมซีนจะได้ความเร็วสุดยอดมาไว้ในครอบครอง”
ว่าก่อนจะโชว์ศักยภาพของอัญมณีนั้นให้ได้เห็นอีกครั้งด้วยการแยกร่างของตนเองล้อมรอบชายทั้งสองเอาไว้ ด้วยสถานการณ์บีบบังคับทำให้วูดวูฟต้องยอมใช้หลังชนกับมนุษย์ปลาตนนั้น ชายผมน้ำเงินพยักหน้าเป็นการเข้าใจแล้วก็ต้องพักเรื่องที่เขามาขโมยอัญมณีไว้สักพักพลางยื่นหอกหินด้ามหนึ่งให้ชายคนนั้น
ไนน์เทลเปิดฉากการจู่โจมโดยการพุ่งเข้าไปหาด้วยร่างแยกนับสิบของเขา คนผมน้ำเงินฟาดหอกไปหาร่างสองร่างทำให้มันหายไปก่อนจะยื่นมือออกไปรวมพลังน้ำไว้ที่ฝ่ามือเตรียมยิงแต่ถูกทำให้หายไปซะก่อนด้วยการเตะของจิ้งจอก
วูดวูฟหันกลับมาแล้วใช้หอกแทงไปยังร่างนั้นจนมันหายไป แต่นั่นก็คือการเปิดช่องว่างให้คนผมส้มสามารถโจมตีได้ด้วยกรงเล็บของเขาข่วนเข้าที่แผ่นหลังของศัตรู
“สองคนรับมือความเร็วของซีนไม่ได้หรอกน่า!”
ปึก!
ทันใดนั้นเมื่อได้พูดจบประโยคหอกจำนวนมากก็ถูกซัดเข้าใส่ร่างทั้งหมดจนพวกมันหายไปเหลือเพียงแค่ไนน์เทลซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของรัศมีการโจมตีนั้น เบ็คกาลอสกระโจนออกมาจากป่าแล้วควงหอกหินไปมาอย่างชำนาญแล้วส่งเสียงเรียกเหล่าเพื่อนใหม่ให้กระโดดตามออกมา เพื่อนใหม่ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะพวกเขาก็คือเหล่ามนุษย์ปลาผู้ถูกทำให้สลบด้วยบลู แล้วคนผมฟ้าไปปลุกพวกเขาขึ้นมาเพื่อช่วยในศึกครั้งนี้
“งั้นถ้าห้าสิบล่ะจะว่ายังไง?”เบ็คกาลอสถามคู่ต่อสู้ “ก็ไม่ได้ชอบเล่นวิธีหมา...เอ๊ย! ปลาหมู่หรอกนะแต่มันคงต้องทำ”
“ขนมาอีกสักกี่ตัวพวกแกก็ชนะฉันที่มีพลังของอัญมณีไม่ได้หรอกน่า”ไนน์เทลว่าก่อนหัวเราะ “รู้ไว้ซะด้วยว่าที่สู้ไปทั้งหมดยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ!!!”
ไนน์เทลก้มตัวลงในท่าเหมือนสุนัขที่เดินสีขาก่อนจะสะบัดตัวไปมาทำให้ผิวหนังมนุษย์เทียมหลุดออกเป็นแผ่นๆโชว์ให้เห็นกล้ามเนื้อสีแดงและเส้นเลือดด้านในจนแทบอ้วก แล้วผิวหนังสีขาวก็ถูกทำให้มาแทนที่ตามมาด้วยเหล่าขนสีส้มของปีศาจจิ้งจอกตนนี้
มันขู่คำรามด้วยปากที่ยืนยาวออกมาแล้วสยายหางทั้งเก้าให้มันยาวและมีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งกว่านั้นมันยังหลอมรวมร่างกายของตนเองเข้ากับเวทย์มนต์ของมันทำให้ทั้งตัวมันเต็มไปด้วยเปลวไฟอันร้อนระอุจนสามารถเผาทุกชีวิตที่เข้าใกล้ได้
“ฉันทำลายเมืองทั้งเมืองได้ด้วยตัวคนเดียว!!! แค่ขยะห้าสิบชิ้นมันไม่มีปัญญาพอจะหยุดได้หรอกน่า!!!”
ตัดฉับอีกแล้ว! 555 ตอนนี้ผมค่อนข้างแต่งไปแอคชั่นหน่อยๆไม่รู้ว่าจะคิดภาพกันตามทันผมไหม 555 ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ >/\<
ปล.อย่าลืมเม้นติชมเป็นกำลังใจให้เค้าหน่อยนะตัวเองงงงงงงง
Blueheadphone
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ