เทพร้ายปีศาจรัก
-
เขียนโดย Ronin
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.49 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
5,058 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 11.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) หน้าใสๆเรียกแขก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หนึ่งทุ่มตรง ในขณะที่ผมยืนโหนรถเมล์ตัวเปียกปอน เสื้อผ้าเลอะเทอะ จนคนรอบข้างที่อยู่บนรถเมล์ต่างก็มองผมเป็นสายตาเดียวกัน ใบหน้าของผมเคลิบเคลิ้มชวนฝันยิ้มอย่างคนมีความสุข นึกถึงแต่ประโยคสุดท้ายที่พี่คิวได้พูดทิ้งไว้ว่า “ หู ตา จมูก ปากก็ได้เห็นหมดแล้วนะ....วาดต่อให้เสร็จด้วยหล่ะ ” พร้อมกับส่งยิ้มที่มุมปาก..... “ อรึ้ยยยยย “ เสียงอุทานของผมเผลอดังขึ้น ขณะยืนโหนอยู่บนรถเมล์ พร้อมกับท่า กำหมัด ...เย้ เหมือนคนได้ชัยชนะ. ทำเอาคนบนรถเมล์จ้องผมเป็นสายตาเดียวกันอีกครั้งนึง แต่โชคดีที่ถึงหมู่บ้านผมพอดีผมเลยรีบเดินลงจากรถเมล์อย่างรวดเร็ว ผมเดินยิ้มร่าเข้าหมู่บ้านอย่างมีความสุข จนลืมเป็นห่วงพี่เค้าไปเลยว่าพี่เค้าจะกลับบ้านไหวไหมเจ็บซะขนาดนั้น. แต่ในขณะที่ผมเดินถึงบ้านตัวเองกลับเห็นว่าบ้านตัวเองมืดตึ๊ดตื๋อ มีแสงเทียนจุดอยู่ทั่วบ้าน ผมรีบเดินเข้าไปหาแม่แล้วถามว่า ปันปัน : “ทำไมบ้านเราไฟดับบ้านเดียวหละแม่ ” แม่ : “ โดนตัดไฟหละลูก แม่ไม่ได้จ่ายค่าไฟมา3เดือนแล้ว” ปันปัน : ( ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะพอจะเข้าใจสถานการณ์ของบ้านเราดีครับ ) แม่ : (มองหน้าผมด้วยความเป็นห่วง) ปันปัน : “แล้วแม่เอาเทียนจากไหนมาเยอะแยะ” แม่ : “ก็เพื่อนลูกเอามาให้ไง” (ผมคิดในใจว่า คงเป็นไอ้พีทสินะ เพราะว่าบ้าน ของมันเป็นตึกแถวขายของชำอยู่ตรงถนนหน้าหมู่บ้านนี่เอง) แล้วผมก็จับไปที่มือของแม่ แล้วก็พูดว่า ปันปัน : “ แม่ไม่ต้องให้เงินค่าขนมผมแล้วนะ ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป เดี๋ยวผมจะไปหางานพาร์ทไทม์ทำ เอาเงินเก็บไว้ไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟเถอะนะแม่” (แม่ผมน้ำตาซึม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเราเข้าใจกันดี) 07:30 น. ที่หน้าป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้าน ผมยืนรอรถเมล์อยู่กับไอ้พีท พร้อมสายตาก็พยายามมองรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันที่ผ่านมา เผื่อว่าจะเจอพี่คิวแต่ก็ไม่มีวี่แวว ผมปรึกษากับไอ้พีท เกี่ยวกับเรื่องงานพาร์ทไทม์ ปันปัน : “ เออ...มึงว่ากูทำงานพิเศษอะไรดีว่ะ” พีท : “ หล่อๆ อย่างมึงไปสมัครเป็นดาราดิวะ” ปันปัน : “ เห้อออ.. กูซีเรียสนะเว้ยเอาจริงๆ ดิวะ กูอยากทำซักวันละ4-5 ชั่วโมงจะได้ไม่เสียการเรียนด้วยห ว่ะ เริ่มงาน 4 โมงเย็นถึงสองทุ่มอะไรอย่างเนี๊ยะ มึงมีแนะนำป่าววะ “ 2 / 6พีท : “ เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง” ปันปัน : “ หืม.. ไรของมึง” พีท : “ ก็หน้ามึงไงดูไปดูมา กูก็ว่าสวยยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก ยิ่งถ้าลองได้แต่งนะ เครื่องสำอางเค้าน่าจะขายดีหว่ะ” ปันปัน : “ ในสมองมึงมีอะไรที่คิดได้ดีกว่านี้ไหม” พีท “ เออ... ร้านกาแฟ เหมือนซีรี่ย์เกาหลีเป็นไง ” ปันปัน : “ ถุย... น้ำเน่า กูไม่ทำหรอก” บ่าย 4 โมงครึ่งของเย็นของวันนั้น ปันปัน : “ นะครับ... นะครับ... ให้ผมลองทำซัก 3 วันก็ได้” พี่หนวดเจ้าของร้าน : “ โอ้ย...ไม่เอาหรอก ปกติยอดขายก็ไม่ดีอยู่แล้ว พี่จะจ้างคนมาช่วยอีกทำไมหละ ” ปันปัน: “ แต่ผมชงกาแฟเก่งนะครับ บ้านผมก็เคยมีเครื่องชงกาแฟ พี่แทบไม่ต้องสอนงานผมเลย” พี่หนวดเจ้าของร้าน : “ น้องพูดไม่รู้เรื่องหรอ พี่จ้างน้องพี่ก็ขาดทุนสิ เพราะทุกวันนี้ก็แทบจะไม่มีกำไรอยู่แล้วไปหาร้านอื่นเถอะไป ไป๊ ” ( พร้อมกับปัดมือไล่ผมแบบไม่มองหน้าด้วยซ้ำ) ปันปัน : “ โหพี่.... ผมไปสมัครมา 10 กว่าร้านแล้ว นะครับๆ เออ... ผมกวาดร้านให้ได้นะ ถูพื้นก็ได้ เช็ดกระจกก็ถนัด” พี่หนวดเจ้าของร้าน : “ ดื้อจริงๆเลย ยังไงกูก็คงไม่เอาหรอก” ปันปัน: “ งั้นเอางี้พี่ ปกติพี่ขายได้วันละกี่แก้ว” พี่หนวดเจ้าของร้าน : “ ก็ประมาณ 30 แก้วเอง หักต้นทุนและค่าเช่าร้าน กูก็แทบไม่เหลืออไรแล้ว” ปันปัน: “ งั้นผมจะขายให้พี่ได้วันละ 70 แก้ว เพิ่มขึ้นจากเดิม 40 แก้ว พี่ก็เอากำไรตรงนี้ที่เพิ่มขึ้น มาจ่ายเป็นค่าแรงให้ผม ผมคิดไม่แพงหรอก ขอแค่ 400 บาท ต่อวัน” พี่หนวดเจ้าของร้าน : “แล้วถ้าวันนั้นไม่ถึง 70 แก้วล่ะ” ปันปัน : “ ฟรี..... ฟรีไงพี่.. ผมไม่คิดค่าแรง” พี่หนวดเจ้าของร้าน : “เฮ้ย... เอ็งจะเอาจริงอ่ะ เอ็งนี่มันจริงๆเลย” ปันปัน : “ จริงดิพี่ ผมก็ได้เงิน ส่วนพี่ก็อาจจะมีกำไรเพิ่มขึ้นด้วย ( เด็กบริหารมาเอง) 3 / 6พี่หนวดเจ้าของร้าน : “ เออๆ งั้นพรุ่งนี้เอ็งก็มาเริ่มงาน แต่ถ้ายอดไม่ถึงเอ็งไม่ได้ตังค์นะ” ปันปัน: “ ครับพี่ ..ครับพี่ ( ท่าทางดีใจแววตามุ่งมั่นยิ้มอย่างสดใส) 15.30 ของวันถัดมา ปันปันรีบเก็บสมุดปากกาดินสอใส่ลงเป้ อย่างรวดเร็ว หลังจากเรียนคาบสุดท้ายเสร็จ พร้อมกับวิ่งพรวดพราดออกจากห้องเรียน มาถึงร้าน กาแฟ --- คอฟฟี โฮมมี่ --- ( ชื่อร้านกาแฟของพี่หนวด) ผมนั่งเฝ้าร้านอยู่กับพี่หนวดเป็นเวลาเกือบชั่วโมง... มันขายไม่ดีอย่างที่พี่เค้าว่าไว้จริง ๆ..ผมถามยอดขายของพี่เค้าตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เพิ่งจะ 20 แก้วเอง ผมนั่งเฝ้าร้านต่ออีก 1 ชั่วโมงกว่าๆก็มีคนมาซื้อแค่ห้าแก้วเอง รวมแล้วก็เพิ่งจะ 25 แก้ว แต่ตอนนี้ก็ปาเข้าไปจะ 6 โมงเย็นแล้ว แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังไม่ท้อใจนะครับ ผมจึงเกิดไอเดียพิเศษขึ้นมาว่า ไอ้เราก็หน้าตาใช่ย่อย ไปยืนหน้าร้านเรียกแขกสาวๆ เข้ามาดีกว่า ยิ่งตอนนี้เป็นเวลาเย็นด้วย น่าจะมีคนพลุกพล่านอยู่พอสมควร ผมจึงไปยืนอยู่นอกร้านถือป้ายร้านกาแฟ ยิ้มหวาน ๆ แล้วก็ ตะโกนเรียกแขก ทั้งสาวๆและหนุ่มๆ ก็มองมาที่ผมเยอะอยู่เหมือนกัน ( มันอาจจะได้ผล.. ผมนึกในใจ)ปันปัน : “ ดื่มกาแฟกันไหมครับ กาแฟสดชงเองทุกแก้วนะครับ” ดูเหมือนจะได้ผล... มีสาวๆกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาผม5-6คน แล้วพูดขึ้นว่า กลุ่มสาวๆ : “ คนขายกาแฟหล่อจัง ขอถ่ายรูปลงเฟส ได้ไหมคะ” ปันปัน : (ผมยิ้มตอบรับอย่างมีความหวัง) “ ได้ครับ เชิญเลยครับ” ( พร้อมกับยืนเก๊กทำหน้าหล่อให้สาวๆถ่ายรูปไปมา) กลุ่มสาวๆ : “ ขอบคุณมากนะคะ น้องยิ้มสวยจังเลยค่ะ ไว้วันหลังพี่จะมาอุดหนุนนะคะ” ( แล้วก็เดินจากไป) ปันปัน : “ วันนี้ไม่รับก่อนซัก 2 แก้วเหรอครับ ” ( ผมตะโกนไล่หลังสาวๆไป) สาวๆทั้ง5-6 คนนั้น เดินดูรูปที่ถ่ายกันไปมาโดยไม่สนใจคำถามของผมเลย..... ปันปัน : “เห้ออออออ” ( เสียงถอนหายใจลากยาวของผม) พอผมเริ่มหมดหวังกับสาวๆ กลุ่มนี้ ผมก็หันไปอีกด้านหนึ่งเพื่อจะตะโกนเรียกลูกค้าใหม่อีกครั้ง.. แต่ภาพที่ผมเห็นก็คือ ผู้ชายสูงโปร่งหุ่นดีใส่แว่นดำ กำลังเดิน ล้วงกระเป๋าทำท่าเท่ห์มาแต่ไกล.....ใช่ครับมันคือไอพี่เตโช. ..“เห้อออออ” เสียงถอนหายใจลากยาวกว่าครั้งแรกเสียอีก เพราะไม่รู้ว่ามันจะมาหาเรื่องอะไรผมอีก 4 / 6 เตโชเข้ามายืนตรงหน้าผมพร้อมกับค่อยๆ ถอดแว่นดำออก แล้วก็มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับทำเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ เสมือนเยาะเย้ย “ หึ หึ “ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมัน พยายามมองไปที่อื่นแล้วยังตะโกนขายกาแฟเหมือนเดิม ปันปัน : “ กาแฟสักแก้วไหมครับ ชงสดๆทุกแก้วหอมอร่อยเข้ามาชิมกันก่อนได้นะครับ” พี่หนวดเจ้าของร้านเปิดประตูชะโงกหัวออกมา แล้วตะโกนถามผมว่า พี่หนวด : “ เป็นไงล่ะไอ้น้อง มีแต่สาวกรี๊ด ไม่เห็นจะขายได้ซักแก้วเลย สงสัยวันนี้เอ็งคงทำให้ข้าฟรีๆแล้วล่ะ” เตโชทำหน้างงงง พร้อมถามกับเจ้าของร้านกลับไปว่า เตโช : “ ยังไงอะพี่ “ พี่หนวด : “ ก็ถ้ามันขายไม่ถึง 70 แก้วมันจะทำให้พี่ฟรี ตอนนี้ยังไม่ถึง 30 แก้วเลยมั้ง” เตโชหันมามองหน้าผมแล้วก็ทำเสียงหัวเราะแบบเยาะเย้ย. “หึ หึ” แล้วก็พูดต่อว่า เตโช : “ มาๆ เดี๋ยวกูช่วยมึงซื้อซักสองแก้ว นึกซะว่าทำทานหวะ “ ปันปัน : “ไม่ขายเว้ย” ( ผมตอบทันควัน) เสียงพี่หนวดแทรกขึ้นมาทันควันเช่นกัน พี่หนวด : “ เฮ้ย มึงปฏิเสธลูกค้าได้ไงวะ เชิญเค้าเข้ามานั่งรอในร้านสิวะ” เตโช มองมาที่ผมพร้อมยักคิ้วแบบยียวน ผมก็ได้แต่ต้องเดินเข้ามาพร้อมชงกาแฟให้มัน... ระหว่างชงกาแฟ เตโช ก็ได้แต่มองหน้าผม อมยิ้มด้วยสายตายียวน ปน เยอะเย้ย ... ผมก็ได้แต่เหลือบไปมองสายตามันแล้วทำหน้าหงุดหงิดปนเซ็งไปมา เตโช : “ สองแก้วเท่าไหร่ไอ้น้อง” ปันปัน : “110บาท” เตโช : ( มันก็ควักมาให้ 200 บาท พร้อมกับพูดว่า ) “ ไม่ต้องทอนนะกูให้ทิป”. ปันปันๆ: “ ที่นี่เค้าไม่รับทิปเว้ย” สวนทันควัน พี่หนวด : “ เฮ้ยเฮ้ย... รับดิที่ไหนๆ เขาก็รับทิปกันทั้งนั้นแหละ เอ็งเป็นบ้าอะไรของเอ็ง เนี่ย” แล้วพี่หนวดก็หยิบเงินไปคิดค่ากาแฟแล้วใส่เงินเข้าเครื่องเงินสด 5 / 6 เตโชมองผมยักคิ้วยียวนไม่จบเหมือนถือไพ่เหนือกว่าที่ผมไม่สามารถจะโต้เถียงอะไรได้มากนัก แล้วก็เดินออกจากร้านไปอย่างผู้กำชัยชนะ ก่อนออกไปจากร้านมันยัง ได้พูดให้ผมเจ็บใจเล่น มันกระซิบข้างหูว่า เตโช : “ มึงไม่ต้องออกไปเรียกแขกหรอก น้ำหน้าอย่างมึงไม่หล่อพอที่จะเรียกแขกได้หรอก ไปยืนให้ยุงกัดป่าวๆ นั่งอยู่แต่ในห้องแอร์เย็นๆรอเค้าไล่มึงออกแล้วกันนะไอ้น้อง หึ หึ ” ( ผมก็ก้มมองไปที่มือที่แขนของผมมีรอยยุงกัดจริงๆด้วย ยิ่งรู้สึกขายหน้าต่อหน้าเตโชเป็นอย่างมาก ทุ่มกว่าๆแล้วเราขายได้แค่30 แก้วตามที่พี่หนวดบอกไว้จริงๆด้วย พี่หนวดจึงเปรยๆพูดกับผมว่า พี่หนวด: “ ข้าว่าพรุ่งนี้เอ็งไม่ต้องมาแล้วหล่ะ.... ข้าไม่ได้ไล่เอ็งออกนะ แต่สงสารเอ็งหวะ” ปันปัน: (ก้มหน้าจ๋อย) “ ไม่เป็นไรหรอกพี่ลองดูอีกซักพักถ้ายอดไม่ขึ้นจริงๆผมไม่คิดเงินพี่หรอก” พี่หนวด : “ปะ ปะ เก็บร้านเดี๋ยวกูช่วยค่ารถมึงร้อยนึง แล้วกัน แล้วก็ค่าทิปของไอหน้าหล่อนั่นอีก 90 บาท ข้ายกให้เองหมดเลย” เสียงพี่หนวดยังพูดไม่ทันจบ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาแล้วพูดแทรกว่า สาวคนที่1: “ หนูเอาคาปูชิโนเย็นแก้วหนึ่งค่ะ” หนุ่มคนที่2 “ ของผมลาเต้เย็นสองแก้ว” สาวคนที่ 1 “ ของหนูเป็นโกโก้ปั่นสองแก้วค่ะ” แล้วก็เดินทะลักเข้ามาในร้านเป็น 10คน. ผมชะโงก มองออกไปที่ หน้าร้าน.... โอ้บระเจ้า! …. คนรุมที่หน้าร้านกาแฟของพี่หนวดไม่ต่ำกว่า 40 คน... เค้ามาจากไหนกันนี่หรือมีงานอะไรกันหรือ.... แต่ไม่มีเวลาที่ผมจะคิดอะไรได้ตอนนี้ นอกจากการรับลูกค้า ปันปัน : “ ครับๆๆ ของพี่อะไรนะครับ คาปู2 ของพี่หละครับ” (พร้อมหัวปั่นกับพี่หนวดกัน 2 คน ทั้งรับออเดอร์ ทั้งชงกาแฟ) เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ เป็นเวลา 3 ทุ่ม ผมกับพี่หนวดมองหน้ากัน พร้อมกับนับยอดขายของวันนี้ รวมทั้งหมด 92 แก้ว ผมรู้สึกดีใจมาก ที่ได้เกินเป้า ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า หรือถูกไล่ออก อย่างที่ไอพี่เตโช มันว่าไว้ เมื่อปิดร้านเสร็จแล้ว ขณะที่ผมเดินออกจากร้าน เพื่อที่จะกลับบ้าน ยังคงเหลือลูกค้าที่นั่งทานอยู่ตรงระเบียงร้านพี่หนวด4-5 คน ผมจึงลองถามอะไรบางอย่างที่อยากรู้ ปันปัน : “ มีงานอะไรหรอครับทำไมถึงแห่มาซื้อกาแฟกันเยอะแยะเลย” 6 / 6สาวคนแรก: “ ไม่ได้มีงานอะไรหรอกค่ะ มีพี่คนนึงเค้าเลี้ยงกาแฟพวกเราทุกคน บอกว่าเป็นการรับน้อง” ปันปัน: (ผมก็พยักหน้า) “ อ่อๆ “ สาวคนที่สอง: “ คนนั้นไงคะพี่ คนที่เลี้ยงพวกเราทุกคน (พร้อมกับชี้มือไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่สุดถนนในซอย) ปันปัน: “ คนไหนอ่ะ ยืนอยู่ตั้งหลายคน” สาวคนที่สอง: “ ก็คนที่สูงที่สุดในกลุ่มนั้นอะ คนที่ยืนริมสุด แล้วหันข้าง ๆ อยู่ไงคะ ” ปันปัน: ( ชี้ไปที่ผู้ชายที่สูงที่สุดที่ยืนล้วงกระเป๋า) “ ไอคนที่ยืนล้วงกระเป๋า หนะเหรอ ใช่แน่เหรอ สาวๆ ทั้ง3คนคนตอบพร้อมกันว่า “ แน่คะ ใช่แน่คะ ” ผมได้แต่คิดอยู่ในใจว่ามันจะทำอะไรของมัน
เพราะชายที่ยืนล้วงกระเป๋าคือ............ เตโช
——— โปรดติดตามตอนต่อไป ————
เพราะชายที่ยืนล้วงกระเป๋าคือ............ เตโช
——— โปรดติดตามตอนต่อไป ————
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ