Sensuality รัก? รัญจวนใจ?
เขียนโดย Licht
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.34 น.
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2561 23.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) Leave me (BL)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
...ได้โปรดไปจากผมเถอะ เพราะผมมันขลาดเขลาเกินกว่าจะเดินออกจากความสัมพันธ์นี้...
...ผมไม่อยากเจ็บปวดอีก แต่กลับทนรับมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ผมทราบดีว่าการที่อยากจะจบความสัมพันธ์นี้คือ การที่ใครคนใดคนหนึ่งต้องเดินออกมา
ทั้งๆ ที่ทราบดี ทั้งผม และคุณกลับยอมทนรับสภาพเดิมๆ
ผมได้แต่ขอร้อง...ขอร้องให้คุณไป...จากผม
ผมรู้อย่างที่ทุกคนบอก แต่ทำไมผมถึงไม่ไปเล่า?
ใช่...ผมมันโง่ ผมทนทำไม?
ผมขอร้องคุณ คุณก็ยังไม่สามารถทำให้ผม ด้วยอีกเหตุผลหนึ่ง...
เหตุผลสั้นๆ คุณบอกว่า คุณเคยอยากยุติความสัมพันธ์ของเรา อยากจะไปหาคนใหม่ อยากให้โอกาสตัวเอง แต่คุณคบกับผมมานาน นานจนผมแก่ตัว...ใช่ ผมแก่กว่าคุณ ผมหมดสิทธิ์ที่จะเริ่มความสัมพันธ์นี้กับใคร
คุณบอกว่า...คุณสงสารผม
คำสั้นๆ ‘สงสาร’
บางทีผมอยากบอกว่า สงสารก็ทิ้งผมไป แต่ผมก็ไม่กล้าใช้คำนั้น
แล้วเราก็ทู่ซี้กับความสัมพันธ์นี้ต่อไป
คุณไม่ไปเพราะสงสารผม
ผมไม่ไปเพราะไม่กล้า
ในห้องสี่เหลี่ยมที่ผมมีกรรมสิทธิ์อยู่นี้ ยังมีห้องสี่เหลี่ยมซ้อนอยู่ ในสี่เหลี่ยมนั้นก็มีสี่เหลี่ยมซ้อนอยู่อีก ช่างสลับซับซ้อนเหมือนจิตใจของคนเรา
ผมขี้ขลาด ผมควรจะขายที่นี่แล้วย้ายไปหาที่ใหม่ แต่ผมทำใจลำบากที่นี่เป็นสมบัติชิ้นแรกที่ผมพยายามอย่างมากจนได้ครอบครองมัน
คุณเป็นผู้อาศัยที่ไปได้ง่ายกว่าผม แต่คุณก็ไม่ไป
มันเริ่มจากอะไร ผมไม่ทราบได้
ผมเป็นพนักงานที่อยู่ประจำบริษัท แค่บางครั้ง นานๆ ครั้งเท่านั้นที่ได้ออกไปพบปะกับคู่ค้า และนั่นทำให้ผมได้รู้จักคุณ ที่เป็นพนักงานขายของบริษัทคู่ค้า
เราเริ่มจากเรื่องธรรมดาๆ แลกนามบัตร เจรจาธุรกิจ แม้ผมจะไม่ใช่ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจเลือก แม้ครั้งนั้นการซื้อขายของบริษัทผมและคุณจะไม่เกิดขึ้น แต่ความสัมพันธ์ของเรากลับเริ่มต้นขึ้น นับจากนั้น...
คุณใช้ข้ออ้างติดตามผลโทรหาผม ผมปฏิเสธคุณว่าผมไม่มีส่วนในการตัดสินใจ และคุณเป็นฝ่ายเริ่มชวนผมก่อน...ไม่เกี่ยวกับงาน...แต่คิดว่า...อยากเจอ...
หลังจากทำความรู้จัก เราเริ่มคบหากัน จนคุณเป็นฝ่ายย้ายมาอยู่กับผม
คนในบริษัททราบแค่ผมอยู่กับแฟน ผมบอกทุกคนเช่นนั้น...แฟนที่ไม่ได้แต่งงาน แต่ผมไม่เคยบอกใครว่า แฟนผมเป็นผู้ชาย ผมไม่คิดจะอวดรูปคุณให้ใครดู ใครถามหาผมก็ตอบตามจริงว่า แฟนผมไม่ค่อยชอบถ่ายรูป
ผมรู้ว่าตัวเองเป็นคนขี้หึง ผมจึงคอยควบคุมตัวเอง บางครั้งเวลาคุณเล่าถึงลูกค้าของคุณ คุณแซวผมว่าดูทำหน้าทำตาเข้าสิ ผมพยายามให้มันจบแค่นั้น ผมไม่ติดตามหรือไล่ต้อนถาม ผมเชื่อคุณ บางครั้งผมรู้ว่าคุณแกล้งหยอกเพื่อดูสีหน้าผม มีแค่นี้เท่านั้นที่ผมเก็บไม่ได้
ผมเป็นคนจริงจังพ่อ-แม่ผมจากไปโดยไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้ผม ผมเป็นคนขวนขวายหามากระทั่งที่อยู่อาศัยอย่างห้องชุดในคอนโดมิเนียม ถึงจะไม่ใหญ่นักแต่ผมก็ภาคภูมิใจกับมัน
คุณอายุน้อยกว่าผมหลายปี คุณเป็นคนสนุกสนานและมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ผมชอบคุณที่ตรงนั้น คุณตรงข้ามกับผมที่คุณใช้ชีวิตตามใจตัวเอง คุณอยากได้อะไรก็ซื้อหามาด้วยเงินทั้งหมดที่คุณหาได้ คุณบอกว่าคุณไม่เดือดร้อน พ่อแม่คุณมีบ้านมีที่ดินอยู่ต่างจังหวัด เงินที่คุณเหนื่อยหามาได้สมควรแลกเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข
นั่นเป็นจุดที่ทำให้เราเริ่มทะเลาะกัน ผมบอกคุณว่า คุณอายุยังน้อย คุณมีความสามารถหาเงินได้มากมายจากอาชีพของคุณแต่ผมอยากให้คุณเก็บออมไว้บ้าง
แรกๆ คุณก็แค่ชักสีหน้าใส่ ผมไม่ว่าอะไรเพราะคุณไม่เคยยุ่งกับเงินของผม คอนโดที่ผมภูมิใจนี้ผมรับผิดชอบทั้งหมด ทั้งค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะผมคิดว่าผมเป็นเจ้าของ ผมไม่เคยเรียกร้องเอาจากคุณ
วันเกิดผมคุณซื้อของขวัญราคาแพงให้ ทั้งที่คุณก็รู้ว่าแค่คุณอยู่กับผมก็สุขใจแล้ว ผมพูดไม่ออกว่าคุณเก็บไว้เพื่อตัวเองเถอะ
ผมเริ่มเตือนคุณบ่อยขึ้น ว่าให้เก็บเงินไว้บ้าง คุณโมโหใส่ผม บอกว่าคุณก็เป็นของคุณแบบนี้ อย่าบอกให้คุณเปลี่ยน
ผมจะไม่ว่าอะไรถ้าคำพูดเผ็ดร้อนที่ตอบโต้มาคือ การที่ผมขอให้คุณเปลี่ยนตัวเองเพื่อผม แต่ผมขอให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองเพื่อตัวคุณเอง ผมแค่อยากให้คุณรักตัวเอง
ผมเริ่มอายุมากแล้ว ผมมองตัวเองในอนาคตข้างหน้า แน่นอนว่าในนั้นผมอยากให้มีคุณอยู่ร่วมด้วยหากเป็นไปได้ แต่ผมก็คิดถึงอนาคตที่เลวร้ายที่สุดเผื่อเอาไว้ด้วย ถ้าในอนาคตของคุณไม่มีผมล่ะ คุณจะอยู่อย่างไร
พอเราทะเลาะกันมากเข้าคุณก็หนีผมไปเสมอ ผมรู้ว่าคุณไปไหน ทุกครั้งที่เราโต้เถียงกันรุนแรงแล้วคุณหนีผมไปพักอารมณ์ชั่วคราวก่อนจะกลับมาหาผมอีกคือบ้านพี่ชายของคุณในเมืองหลวง ครั้งนี้พี่ชายคุณก็เป็นฝ่ายโทรมาถามไถ่เช่นเคย
เขามาถึงก็บ่นให้ฟังว่าทะเลาะกันเรื่องเดิมอีกใช่ไหม พี่เข้าใจเรานะ น้องพี่มันก็ไม่รู้จักคิดจริงๆ ไว้มันแก่กว่านี้อาจจะคิดได้เองก็ได้
ผมได้แต่ตอบรับไปแกนๆ ผมรู้ข้อดีของคุณคือคุณไม่ใช่คนเจ้าชู้ถึงทะเลาะกันคุณก็หนีไปหาพี่ชายคุณที่ทราบความสัมพันธ์ของเรา
บางทีผมก็ถามตัวเอง อนาคตคุณจะคิดได้แล้วเมื่อไรล่ะ ผมจึงตัดสินใจไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก
สิ่งที่ตามมาคือความมึนตึงระหว่างเรา บางครั้งผมเป็นฝ่ายเข้าไปง้อคุณก่อน บางครั้งคุณเป็นฝ่ายง้อผม และถึงผมไม่พูดถึงเรื่องที่ทำให้เราทะเลาะกัน กลายเป็นว่าผมอดแสดงสีหน้าเวลาเห็นคุณซื้อของเล่นใหม่ของคุณมาไม่ได้ แล้วบรรยากาศตึงเครียดก็กลับมา...
สุดท้ายมันก็วนไปวนมาอยู่ในอ่าง ในความสัมพันธ์เดิมๆ
ผมทราบ...ผมทราบ...แค่ลองก้าวออกมา
คำว่าลอง มันช่างดูง่ายดาย...หากมันเหมือนตัวอย่างทดลองที่จะทดลองหรือไม่ก็ไม่มีผลอะไร แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ มันไม่สามารถทดลองได้ ยิ่งเกี่ยวพันกับความรู้สึกด้วยแล้วมันเหมือนกับเวลาเลือกอ่านหนังสือสักเล่ม บางครั้งผมไม่กล้าที่จะอ่านไปจนถึงตอนจบแต่เลือกวางมันไว้แค่เท่านั้น
ผมทราบว่าบางคนกล้าหาญที่จะเปิดไปอ่านตอนจบก่อน
แต่ผมไม่...ผมมันขี้ขลาด...
(จบ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ