ความทรงจำของเวลา

-

เขียนโดย TsuKiTsuKi

วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.59 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,363 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561 22.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่4เรย์ชูกับตัวเอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

https://youtu.be/wyBpdAagTZ0

 

 

ขอโทษที่หายไปนานครับ ไรต์ถูกหนูกัดนิ้วรับวันเกิดเมื่อวานเลยไม่ได้ลง เพราะต้องไปฉีดเซรุ่มพิษสุนัขบ้ากว่าจะได้กลับบ้านก็ต้องเข้าวันเกิดตัวเองแล้ว..วันนี้เริ่มดีขึ้นเลยมาลง แต่ก็ยังไม่ชินอยู่ดี

 

 

ทำความเข้าใจนิดนึง คำว่าโลกพ่อมด โลกแม่มด หรือโลกอื่นๆ หมายถึง เขตแดน เขตแดนแม่มดก็คือเขตที่มีแม่มดอาศัยอยู่อาจจะมีพ่อมดหรืออสูรกายแอบซุ่มอยู่ แต่ก็หมายถึงโดยร่วมแล้วจะมีแม่มดมากกว่า และแม่มดจะเป็นผู้ครองเมือง แต่ที่ใช้คำว่าโลกแทนเขตแดน ก็เพราะ โลกแม่มดไม่ได้มีแค่แม่มดเมืองหรือประเทศเดียว แต่ยังมีอีกหลายเมืองและหลายประเทศจึงกลายเป็นโลกแม่มด และโลกอื่นๆในที่นี้เองก็เป็นเช่นเดียวกัน

 

 

ตอนที่ 4 เรย์ชูกับตัวเอง

 

เว็บขีดเขียน

 

 

เรย์ชูตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกตกค้างจากฝัน  ความรู้สึกที่บอกว่าเขาไม่อยู่อีกแล้ว เพราะเรา..เพราะเรา.. เขาถึงจากไป..จากไปเพราะเรา เราฆ่า..เราฆ่าเขาและเราก็ฆ่าหัวใจตัวเอง การฝันแบบนั้นหลายๆครั้งติดต่อกันเป็นอาทิตย์อาทิตย์ทำให้ ก่อเกิดความสิ้นหวังทำให้เขาเกือบที่จะลงมือทำร้ายตัวเอง ทำให้ตัวเองหายไปตลอดกาล เวลานั้นเราไม่ได้คิดถึงใคร ไม่ว่าจะพ่อแม่ที่ให้กำเนิด คุณปู่ ที่รักเรามาก คุณตาที่เข้มขวด คุณย่าที่เหมือนเด็ก คุณทวดทั้งคู่ที่เก็บตัว คุณอาโชที่รักเขาเหมือนลูก หรือแม้กระทั่งเซย์จินเขาไม่ได้นึกถึงเลย

 

 

ในขณะที่ปลายมืดจะกดลงที่คอขาว ก็เหมือนมีพลังบางอย่างผลักให้มีดหลุดจากมือของเรย์ชู พลังนั้นไม่เพียงขัดขวางไม่ให้เรย์ชูทำร้ายตัวเอง แต่มันยังพัดมีดที่เรย์ชูจงใจใช้เป็นอาวุธปลิดชีพตัวเองหายไปในความมืดมิด

 

 

เรย์ชูนั่งน้ำตาไหลออกมา อย่างหาสาเหตุไม่ได้ เขาแค่...อยากไปหาคนคนนั้น อยากไปอยู่ข้างๆทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่ก็คิดว่าจะไปพบ จะไม่ปล่อยให้คนคนนั้นอยู่โดดเดี่ยวเพียงคนเดียว

 

 

เรย์ชูไม่มีมีดในมือแล้วแต่ก็ยังไม่หยุดที่จะทำร้ายตัวเอง เขามองไปรอบๆตัวเพื่อหาของที่จะทำให้เขาหลุดพ้นไปจากโลกนี้ แต่ในจังหวะนั้นเขาก็ได้ยินเสียง เสียงหนึ่งในหัว

 

 

ทำร้ายตัวเอง แล้วคิดถึงกันบ้างไหม คิดถึงคนทียอมให้ตัวเองตายเพียงเพื่อให้เธออยู่ต่อ  คิดบ้างไหม ก็รู้ว่าให้ความสำคัญขนาดไหน เธอเจ็บฉันก็เจ็บ เธอทำร้ายตัวเอง ก็เท่ากับได้ทำร้ายฉัน เธอตายก็เท่ากับฆ่าฉันทั้งเป็น อย่าฉีกหัวใจฉันเป็นชิ้นๆ

 

 

เสียงนี้เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร แต่มันคุ้นเคย  เสียงที่ปัดเป่าความทุกข์ในใจทั้งหมดให้หายไปถึงน้ำเสียงที่พูดนั้นจะเต็มไปด้วยความเสียใจและความเศร้า แต่ผมก็รู้สึกดีใจที่มีเขาอยู่ 

 

 

ผมไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหม หรือเป็นเพียงการหลอกตัวเองว่ามีเขาอยู่ เพราะกระแสเวทย์ที่นำพาเสียงนั้นมามันเหมือนกับของเงา เงานั้น เงาที่เจอในฝัน

 

 

เรย์ชูจะไม่ฝันแบบนี้อีกหากว่าเรย์ชู ไม่ไปคบใครหรือมีสัมพันธ์ทางกายกับใคร แต่ในขณะเดียวกันเรย์ชูก็อยากจะฝันอีก อยากเจอเงานั้นอีก อยากได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง เสียงที่ช่วยตัวเรย์ชูเอาไว้ ตอนที่ได้ยินครั้งเสียงนี้ในหัวเรย์ชูไม่ได้มีสติเต็มที่นัก แต่เมื่อมาย้อนคิดกับไปกับรู้สึกเหมือนว่าได้ย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่ถูกช่วยเอาไว้ มันเหมือนกันมาก เหมือนกับความรู้สึกนั้น แต่เรย์ชูก็มั่นใจว่าเสียงนั้นมันไม่ใช่เสียงของเซย์จิน เรย์ชูเอาแต่เฝ้าคิดถึงเสียงนั้นเพียงแต่ว่าเรย์ก็ไม่รู้อีกว่าเป็นกระบวนการปกป้องตัวเองหรือเปล่า ทำให้เรย์ชูอาจจะเผลอใช้เวทย์มนตร์ออกมาโดยไมรู้ตัว และเสียงนั้นเองก็เพราะจิตใต้สำนึกในส่วนลึกของตัวเรย์ชูสร้างมันขึ้นมา ส่วนกระแสเวทย์ผมก็อาจจะคิดไปเอง คนเราไม่สามารถปลอมกระแสเวทย์ของคนอื่นได้ กระแสเวทย์เวทย์ของแต่ละคนก็เหมือนกับลายนิ้วมือหรือรอยพิมพ์ของหูที่จะไม่มีวันเหมือนกัน และตัวเขาเองก็ควรหยุดคิดเรื่องเสียงนั้นได้แล้ว เสียงที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ เสียงกระซิบที่ลอยตามลม หรือเสียงที่ได้ยินคนเดียว ก็ไม่ได้รับการเชื่อถือจากโลกพ่อมดแม่มด แต่ทั้งเรย์ชูก็หาเหตุผล หาข้ออ้างต่างๆมาลบล้างสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถึงจะคิดว่าเป็นกระบวนการปกป้องตัวเอง แต่ลึกๆหัวใจของเรย์ชูเองก็เลือกที่จะเชื่อมัน และก็ไม่รู้ทำไมเวลาที่มีเรื่องแย่ๆเขามา เพียงแค่คิดถึงเสียงและกระแสเวทย์นี้ขึ้นมาเขาก็เหมือนจะผ่านไปได้โดยง่าย แต่เรื่องนี้ผลกระทบนี้ก็ทำให้ตัวเรย์ชูเศร้า

 

 

เรย์ชูนั่งลงบนพื้นหญ้า กลิ่นดิน กลิ่นหญ้า กินต้นไม้ กลิ่นธรรมชาติ ชั่งทำให้เขารู้สึกดีมากขึ้น ธรรมชาติโดยรอบนี้เห็นนี้มักเยี่ยวยาเขาได้เสมอ เวลาที่เขามีเรื่องไม่สบายใจเขามักจะมาที่นี่แล้วที่นี่ก็จะช่วยเขาได้เสมอ ครั้งสุดท้ายที่มาที่นี่ก็หลังจากพยามจะปลิดชีพตัวเอง แล้วเขาก็ไม่ได้มาอีกเลยก็สามสี่ปีได้แล้ว

 

 

ที่นี่ยังเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยครั้งแรกที่มาสวยอย่างไรวันนี้ก็ยังสวยอย่างนั้น เต็มไปด้วยธรรมชาติ อากาศยังสดชื่น  มองไปทางซ้ายก็เป็นภูเขาสุดลูกหูลูกตา มองไปลงไปทางขวาก็พบเจอทะเล แต่ตรงส่วนของทะเลนั้นตัวเขาเองก็ไม่เคยไป และไม่ชอบที่จะมองทะเลและไม่ใช่แค่ทะเลที่นี่แต่ทะเลที่อื่นเขาก็ไม่ไป ทุกครั้งที่เขาพยามจะไปทะเลทุกครั้งเขาจะมีอาการแปลก และจะยิ่งเป็นพิเศษกับทะเลด้านล่างนี้ เขาจะก้าวขาไม่ออก ขาของเขาจะค้างแข็งแล้วทรุดลงไปกองทั้งแบบนั้น  น้ำตาของเขามันไหลไม่หยุดเขาไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาของเขาถึงไหลออกมา แต่เขารับรู้ได้รับรู้จากความรู้สึก มันเหมือนมีเรื่องบางเรื่องเกิดขึ้นที่ชายทะเล เป็นเรื่องสำคัญมาแต่ทำไมเขาถึงจำไม่ได้ และทะเลก็นำพาสิ่งสำคัญไปจากเขา เขาเกลียดทะเล ทะเลมีแต่เรื่องร้ายๆ ทะเลพากหัวใจไปจากเขานั้นคือเรื่องที่เขารู้สึก เขาหาเหตุผลไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่มันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ไปเหยียบทะเลอีกเลย 

 

 

เขาเคย เคยถามที่บ้านว่าเขามีอะไรกับทะเลหรือเปล่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้พ่อกับแม่เขาก็ยืนยันว่ามันไม่มีอะไร แต่เขาไม่เอาทะเล ไม่ชอบทะเลตั้งแต่ครั้งแรกที่พาไปก็ร้องไห้ลั่นอาละวาดใส่พี่เลี้ยงทั้งที่ปกติผมในวัยทารกออกจะเข้ากับคนง่าย

 

 

 

พวกอาหารทะเล หากเป็นซูชิผมกิน ที่ทำมาใส่อาหารผมก็กินแต่ผมก็ทานได้ไม่ค่อยเยอะ มันรู้สึกทานแบบไม่สบายใจ แต่ยิ่งเป็นที่ต้องแกะเอง เขาไม่ทาน แม้คนในครอบครัวอย่างน้องเขาแกะให้เขาก็ไม่ทาน เขามักจะมองอาหารทะเลหรือมองคนที่แกะให้แต่เขาไม่ทานมันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เขาจำความได้

 

 

เขาชอบที่นี่ ที่นี่เงียบสงบไม่ค่อยมีคนเข้ามา  และเขาไม่รู้ว่าทำไมแต่พ่อหรือกระทั่งแม่ของเขาก็ออกปากไม่ให้เขามาที่นี่ถ้าแค่พ่อยังพ่อเข้าใจได้แต่แม่นี่สิ พ่อแม่บอกว่าที่นี่อันตรายแต่ว่าเขาที่มาที่นี่กับรู้สึกว่ามันปลอดภัย ปลอดภัยกว่าอยู่ดงอสรพิษของปู่อีก ปู่ผมมีผู้หญิงในฮาเร็มอยู่หลายคน และแต่ละคนก็มีลูกด้วย เฮ้อ...ดงงูพิษชัดๆ ที่นี่เป็นทีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผม

 

 

ที่เป็นทีที่ดีจริงๆ เขาสบายใจขึ้นเมื่อได้มาที่นี่ แค่เขาได้นั่งมองธรรมชาติโดยรอบก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เขาเลยตัดสินใจจะค้างที่นี่ ที่จริงเขาก็อยากจะเห็นที่นี่ยามค่ำคืน เขาอยากรู้ว่าที่นี้จะเป็นไง

 

 

เรย์ชูที่สบายใจหลังจากได้ดื่มดำกับธรรมชาติไม่ได้รู้ถึงความวุ่นวายที่ตัวเองก่อ ตอนนี้ทั้งโลกเวทย์มนตร์ และ โลกภูติ ผี (ภูติของพ่อมดแม่มดเกิดจากพลังเวทย์ แต่โลกภูติ ผีเป็นเขตแดนหนึ่ง)  กำลังระดมพลตามหาองค์ชายที่หายตัวไป หลังจากที่แม่ของเรย์ชู หรือ มินาโมโตะ ไฮเนะ ซากุระ ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็ต้องนำเรื่องนี้ไปรายงานพ่อสามี และแจ้งสามีให้ไปทางพ่อแม่แท้ๆของเธอ เธอจะไปแจ้งตระกูลที่รับเลี้ยงเธอเอง

 

 

ยิ่งเช้าเรื่องยิ่งวุ่นและแย่ลงยังไม่มีใครสามารถถึงกระแสเวทย์ของเรย์ชูได้  ถึงขนาดต้องไปร้องขอให้หนึ่งในบรรดาพี่สาวที่เก็บเธอไปเลี้ยงช่วยเธอ เธอจะทำพิธีเพื่อค้นหาลูกชายเธอ     มินาโมโตะ อิจิโกะ เคียวคุสะ หนึ่งในพี่สาวที่เก็บซากุระมาเลี้ยงก็ยินดีช่วย ทันที่ที่น้องสาวเอ่ยปาก

 

 

มินาโมโตะ ไฮเนะ ซากุระ เจ้าหญิงของโลกภูติผู้ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นเจ้าหญิงผู้เห็นอนาคต มินาโมโตะ อิจิโกะ เคียวคุสะ เจ้าหญิงของโลกแม่มด ผู้ที่มีพลังความสามารถทำนายอนาคต ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ผู้ถือครองพลังที่ขัดแย้งกันที่ผู้คนหวาดกลัว ทั้งคู่อยู่ในชุดพิธีเป็นชุดกิโมโนที่แฝงไปด้วยมนตร์ขัง ทั้งห้องมีเพียงทั้งสองคนที่นั่งอยู่หน้าแท่นพิธีถึงแม้จะไม่ได้พูดหรือทำอะไรแต่บรรยากาศกดเกรงขามที่แผ่ออกมาจากร่างสูงโปร่ง ทั้งสองเริ่มพึมพำบทสวดที่ทั้งสองเป็นคนสร้างกันมาเมื่อตอนยังรุ่นๆ เมื่อร่ายบทสวดจนจบทั้งคู่ ดวงตาหงส์ทั้งสองคู่ปิดตาลง บรรยากาศรอบตัวก็แปรเปลี่ยนจากน่าเกรงขามเป็นเยือกเย็นที่แสนน่ากลัว

 

 

การตามหาลูกชายครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จเหมือนมีอะไรบางอย่างขัดขวางเธอ อะไรที่มืดมิดและทรงพลังชนิดที่เธอเองก็ไม่เคยพบเจอ แต่กระแสพลังนั้นคล้ายกับย่าและพี่สาวของเธอมาก เพียงกระแสพลังนั้นมืดมิด ลึกล่ำเกินที่เธอจะยั่งถึงมันพลังนั้นมันรายล้อมพลังของเธอละพี่สาวแต่ก็ไม่ได้ทำร้ายเธอ เพราะถ้ามันทำเธอคนตายอยู่ตรงนี้ไปแล้วคงไม่สามารถที่จะลืมตากลับมาอยู่ในโลกนี้ได้ ทั้งเธอและพี่สาวของเธอที่มีพลังของมิโกะเองก็มืดแปดด้านไม่มีทางที่จะตามตัวเรย์ชูได้เลย

 

 

  อิจิโกะกับซากุระลืมตาขึ้นมาแล้วหันมามองหน้ากัน ก่อนที่อิจิโกะจะพรูลงหายใจออกมาแล้วสูดลงหายใจลึกๆ ซากุระเองพอเห็นพี่ทำ ก็ตามมันให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

 

 

“พี่ค่ะ...มันหมายถึงอะไรเหรอคะ”ซากุระเอ่ยปากถามพี่ขึ้นมา เธอไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาวะจิตค้นหาลูกของแม่

 

 

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่คิดว่าน่าจะเป็นอะไรบางอย่างที่คุ้มครองเรย์อยู่ แต่ที่ที่แน่ใจคือไม่ใช่พลังของเรย์ และพี่ก็ไม่เคยเจอพลังนี้” อิจิพูดด้วยเสียงเครียด ที่มาของความเครียดเกิดจากพลังนั้น หาพูดถึงพลังความมืดผู้ที่เป็นราชาทั้งปวงคือเจ้าแห่งการทำลาย พลังนั้นมีสองคนที่มี คนแรกคือคุณย่าของเธอ อีกคนคือเธอ หากจะให้อธิบายเรื่องพลังก็ต้องบอกว่า ประชากรของพ่อมดแม่มดนั้นในหนึ่งตระกูลจะมีคนที่เกิดมาพร้อมพลังที่เรียกว่าเป็นสายพิเศษ ถึงฝึกคนอื่นจะฝึกได้แต่ความสามารถก็ไม่เท่ากับคนที่มีมาแต่กำเนิด และคนที่จะฝึกได้จะต้องเป็นคนในตระกูลหรือสายเลือดเดี่ยวกัน พลังที่ติดตัวมาแต่กำเนิดจะเป็นเพียงหนึ่งเดียวจะไม่ซ้ำกับผู้ใด เพียงแต่มันจะมีข้อยกเว้นคือเป็นผู้สืบทอดของพลังนั้นๆ เพียงแต่การที่ผู้สีบทอดจะเกิดมาช่วงเดียวกับผู้ที่เป็นเจ้าของจริงๆนั้นมีน้อยมากจนถึงแทบจะไม่มี เพราะงั้นอิจิถึงเรียกได้ว่าเป็นคนพิเศษมาก

 

 

ทั้งนั้นแล้วพลังที่อิจิสัมผัสได้จากการตามหาเรย์หลานของเธอ มันกลับเป็นความมืดที่เหนือกว่าเจ้าแห่งการทำลาย แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเจ้าแห่งการทำลายคือผู้ถือเวทย์ความมืดสูงสุด หรือจะเป็นเพราะพลังเวทย์ ความมืดของเธอพ่ายแพ้ต่อ พลังเวทย์และความมืดของเจ้าของพลังนั้น แต่คนที่เธอพ่ายเรื่องความมืดที่เธอรู้มีเพียงคุณย่าของเธอ แต่นี้ก็ไม่ใช่พลังของย่า หรือคนอื่นที่เธอรู้จักแต่ไม่เคยลองที่จะซ้อมพลังกัน เจ้าของพลังนั้นต้องการอะไรจากหลานเธอ

 

 

อิจิไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอไม่อยากให้น้องสาวของเธอต้องกังวง แต่สีหน้าแววตาเธอที่กำลังครุ่นคิดทำไมน้องสาวที่เธอเลี้ยงมาเองจะไม่รู้ เพียงแต่ซากุระไม่แน่ใจว่าพี่เธอกังวลเรื่องอะไร

 

 

ส่วนเรร่าหลังจากกับมาจากซีบิลเธอก็เอาแต่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้องข้าวปลาก็ไม่ออกมาทาง ซากุระก็ห่วงลูกสาวเธอคิดว่าลูกสาวของเธอคงไม่รู้ว่าจะทำยังไง เธอรักเซย์ แต่เธอก็ไม่อยากให้พี่ชายของเธอเศร้า แต่เรื่องของความรักใครจะห้ามกันได้ เรื่องที่เรย์น่าจะชอบเซย์ก็พอจะมองออก แต่ก็เหมือนจะไม่ใช่เสียที่เดียว ท่าทางของเรย์บางครั้งก็ชวนให้สับสนท่าทางทำเหมือนมีใจกับเซย์ แต่ก็ไม่เข้าใกล้ แถมยังมีบางช่วงที่เรย์ไปคบกับผู้หญิงอีก แต่ถ้ากับหลานอีกคนเจ้าเซย์จินเธอก็พูดได้ว่า เซย์จินไม่ได้มีใจให้เรย์เลย เซย์จินมองเรย์เป็นเพียงน้องชายเท่านั้น

 

 

แต่หากให้พูดถึงเซย์กับเรร่า เซย์เมื่อเด็กๆยอมให้เรร่าเพราะเห็นเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนพี่สาวฝาแฝด แต่พอโตขึ้นมาก็ยอมให้ในแบบที่เรียกว่าไม่อยากยุ่งด้วย แต่มาหลังจากที่เซย์ช่วย เรร่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดูจะเปลี่ยนไป

 

 

เรร่าอาจไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว ซากุระก็ไม่แน่ใจ แต่ตั้งแต่สมัยก่อนแล้วที่ที่เรร่ามักจะมองไปที่เซย์ด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าอยากให้พี่ชายคนนั้นสนใจเลยแสดงออกด้วยการที่ดูเหมือนจะไม่ชอบพี่ชายคนนั้น ทุกครั้งที่ซากุระหันไปมองลูกสาวก็มักจะเห็นเธอจ้องมองไปที่เซย์อยู่เสมอ แต่พอแต่ละคนเริ่มเติบโตเริ่มมีความรับผิดชอบมากขึ้น เรร่ากับเซย์ก็ดูจะห่างกันไปบ้างแต่หลังจากนั้นก็พยามจะออกห่างอีกครั้งแล้วเธอก็ต้องแปลกใจที่เซย์เป็นคนเข้ามาหาลูกสาวของเธอเอง เธอรู้สึกตั้งแต่ที่ว่าเซย์จินเข้าหาเรร่า รู้แล้วว่าลูกชายของเธอจะต้องเสียใจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขนาดที่จะพักการเรียนแล้วก็หายตัวไปแบบนี้ เพราะตลอดเวลาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเรย์ชูก็มักที่จะยิ้มอยู่แบบนั้นเสมอ เธอเองก็คิดว่าลูกชายของเธอก็จะผ่านเรื่องนี้ไปได้ก็คงต้องใช้เวลาหน่อย ตอนนี้เธอก็คงต้องไปปรึกษาพวกพี่สาวเธอว่าจะทำยังไงกันต่อดีในเวลาแบบนี้ ถ้าพูดกันตรงๆคือเธอไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้

 

 

เรื่องเชิงชู้สาวไม่ใช่เรื่องที่เธอทำความเข้าใจโดยความคิดได้ มันต้องใช้ใจและประสบการณ์ซึ่งเธอมีประสบการณ์ต่ำมาก สามีของเธอคือแฟนคนแรกของเธอและเป็นรักเดียวของเธอด้วย ถึงมันจะมีเรื่องมากกมายกว่าจะได้แต่งงานกัน แต่ก็ไม่ได้จะเป็นรักซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรขนาดนั้น ทุกวันนี้ก็มีความสุขกันดี โชคดีที่ได้แต่งงานกับเขา แต่ก็เสียใจที่ไม่ได้อยู่กับพวกพี่น้องต้องมาอยู่ที่นี่ นี่เป็นเรื่องเดียวที่เธอเสียใจ

 

 

หลังจากได้ทำพิธีเธอก็สบายใจขึ้น เธอเชื่อว่าลูกเธอจะไม่เป็นไรกลับมาแข็งแรงดีหายห่วงแน่นอน แต่ผู้เป็นพ่อสามีของเธอสิ พอรู้ว่าลูกของเธอกับลูกชายตัวเองหายไปก็เกณฑ์คนตามหาไปทั่วทั้งโลกพ่อมดแม่มดแต่ก็ยังไม่เจอ ไม่ว่าใครก็หาไม่เจอแม้แต่คุณอาที่เป็นผู้ชายที่สามารถไปที่ไหนก็ได้ตามแต่ใจตัวเองต้องการก็ยังไม่สามารถจะไปหาลูกของเธอได้

 

 

ซากุระนั่งดื่มชาที่ในสวนดอกไม้ข้างปราสาท บรรยากาศกำลังเย็นสบาย กินหอมของดอกไม้เย็นๆหอมอ่อนๆกับนิยายน้ำดีบวกน้ำชาและขนมจากร้านโชชั่งเข้ากันดี

 

 

“แม่ค่ะ...ได้ข่าวพี่บ้างไหม” เสียงของเรร่าทำให้ซากุระเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ ใบหน้าของหน้าของเรร่าเต็มไปด้วยความอิดโรย ขอบตาทั้งสองบวมช้ำ นัตย์ตาแดงเป็นเลือด ขนตายังคงมีหยาดน้ำใสๆเกาะอยู่ที่ขนตางอน

 

 

 

“พี่เขาเป็นผู้ชายไม่ต้องห่วงหรอก อาจจะไปอยู่บ้านเพื่อน หรือไปเที่ยวที่ไหน ก็ได้เราอย่าคิดมาก เดี๋ยวพี่เขาก็มา เราก็ไปทานอะไรก่อนเกิดเราเป็นอะไรขึ้นมาพี่ชายอาจจะเสียใจนะว่าพี่เขาเป็นต้นเหตุ” ซากุระพูดกับลูกสาวยิ้ม

 

 

“พี่คงจะเกลียดน้องไปแล้วละคะแม่” หยาดน้ำตาใสๆไหลออกมาอีกรอบ คนเป็นแม่วางหนังสือ ลุกขึ้นมาดูลูกสาวตัวเอง

 

 

 

“เรื่องของหัวใจใครก็ห้ามไม่ได้ อีกอย่างเราก็ไม่ได้ไปแย่งคนรักพี่ชายนี่ค่ะ..แถมเซย์ก็เป็นคนที่คว้าหัวใจเราด้วยตัวเอง ไม่ใช่ลูกบังคับให้พี่เซย์จินเขาคบกับลูกนี่น่า  อย่าคิดมากเลยให้เวลาพี่เราหน่อยเถอะ เดี๋ยวพี่ชายเราก็ทำใจได้ ตอนนี้เราต้องดูแลตัวเองหากเราเป็นอะไรก่อนพี่ชายมาเราจะไม่ได้คุยกันนะ” ซากุระไม่เข้าข้างลูกคนไหนเธอพูดไปตามเนื้อผ้า แล้วกล่อมให้ลูกคนเล็กไปทานข้าว

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา