Revive and revenge (แฝงร่าง...ชำระแค้น)
เขียนโดย Mysteek
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.49 น.
แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561 18.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ตอนที่ 1 จุดจบและจุดเริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่ 1
จุดจบ และจุดเริ่มต้น
ดาวแลนทีโนส
เขตชายขอบของเมืองเมอร์แซงเทียร์ เขต 33 ช่วงรอยต่อกับเขต 34
ยานบินขนาดเล็กสีเงินรูปร่างคล้ายเรือ กำลังลอยอยู่ผืนดินแห้งแล้งสีเทา
ปราศจากซึ่งสิ่งมีชีวิต สักพักมันก็ลอยลงต่ำ เศษดินหินสีเทาปลิวกระจาย
เป็นวงกว้างออกรอบยานบินสีเงิน ควันจากเครื่องยนต์ประหลาดลอยคลุ้ง ครู่
เดียวเสียงเครื่องยนต์ก็เงียบลง ประตูโลหะสี่เหลี่ยมเปิดออก จากนั้นก็มีบันได
โลหะทอดลงมาสู่แผ่นดินที่เหือดแห้ง
ตุ้บ
ร่างของใครคนหนึ่ง ที่ถูกมัดข้อมือไพล่หลัง และมีถุงคลุมศีรษะอยู่ถูกโยนกลิ้ง
ลงผ่านบันไดโลหะ ไปนอนนิ่งอยู่ที่ดินสีเทา ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูง
ใบหน้าเคร่งเครียด คิ้วเข้ม จมูกไม่โด่งนัก ริมฝีปากบางเฉียบ เส้นผมสีน้ำตาล
เข้มและบางส่วนเป็นสีเทา สวมชุดรัดรูปเสื้อกางเกงสีขาว มีแถบสีน้ำเงิน
บริเวณหน้าอก เอวและด้านข้างของขากางเกง เขาก้าวลงบันได ไปยังร่าง
ที่นอนนิ่ง ดึงผ้าคลุมศีรษะออก มือขวาเขาคลำหาอาวุธบางอย่างรูปร่างคล้าย
ปืน แล้วยกมันเล็งไปที่ร่างเด็กหนุ่มผมสีดำที่นอนนิ่งอยู่ ในชุดนอนสีน้ำเงิน
นัยน์ตาสีดำของเขามองร่างนั้นอย่างชิงชัง
“ถ้าไม่มีแกซักคน หุ้นทุกอย่างของตระกูลก็ต้องตกเป็นของชั้น พ่อแม่แกก็
ตายไปแล้ว
ชั้นจะช่วยสงเคราะห์ให้พ่อแม่ลูก ได้ไปอยู่ด้วยกัน”
ขนตาสีดำยาวของเด็กหนุ่มหน้าตาเกลี้ยงเกลาเริ่มขยับ คิ้วสีดำพาดเฉียง
ขมวดชนกัน
“อืออ ปวดหัว”
เขาพยายามจะขยับมือ แต่ก็พบว่าแขนของตนเองถูกมัด เมื่อลืมตาขึ้น ก็พบว่า
ตรงหน้า มีอาของเขา กำลังจ่อปืนเล็งมาที่ร่างของเขา
“คุณ......อา”
เด็กหนุ่มร้องออกมาอย่างตระหนก เขาพยายามผุดลุกขึ้นนั่ง ตั้งสติ แล้วเอ่ย
ถาม
“คุณอา นี่มัน......เกิดอะไรขึ้นครับ”
“ชิ ตื่นซะได้ ท่าทางยาสลบจะหมดฤทธิ์เร็วกว่าที่คิด”
ชายวัยกลางคนเอ่ยด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์
“แต่ถึงนายจะตื่น ทุกอย่างก็ไม่เปลี่ยนหรอก เพราะวันนี้ จะต้องเป็นวันตายของ
แก”
“อะ อะไร ทำไมคุณอาต้องทำแบบนี้”
เขาเอ่ยตะกุกตะกัก ด้วยความตกใจ พลางถดตัวถอยหนีห่างจากร่างของอาที
ละนิด
“อย่าหนีเลย มันไม่ได้ผลหรอก”
ชายวัยกลางคน กดลั่นกระสุนใส่หน้าอกของเด็กหนุ่มทันที
ปัง ปัง ปัง
“อ่ะ อั่ก”
หน้าอกของเด็กหนุ่มเป็นรูพรุน แล้วมีของเหลวสีแดงสดไหลพรูออกมาไม่หยุด ย้อมเสื้อสีน้ำเงินให้กลางเป็นสีแดงสด
“ชั้นต้องได้ทุกอย่างของตระกูล แกมันผิดเองที่มาขวางทางชั้น”
“อึ้ก แค่ก แค่ก แค่ก”
เด็กหนุ่มไอออกมา มีของเหลวสีแดงสดไหลซึมออกจากปาก นัยน์ตาเทาหม่น
มีหยดน้ำเอ่อคลอ เขาพยายามอ้อนวอนขอชีวิต
“คุณอา อย่า.........อย่านะครับ”
ชายวัยกลางคนกลับไม่ได้รู้สึกสงสารแม้สักนิด เขายกปืนขึ้นเล็งไปที่หน้าผาก
“คุณอา ผมขอร้อง อย่า อย่าทำผม”
เด็กหนุ่มผมดำ ร้องอย่างหวาดกลัว หยดน้ำไหลรินจากดวงตาสองข้าง
“เสียใจด้วยนะเด็กน้อย ไปร้องไห้ต่อในนรกละกัน”
เปรี้ยง
เด็กหนุ่มหันหน้าหลบไปด้านข้าง กระสุนปืนพลาดเป้าไปเพียงถากด้านข้างศีรษะ
“บ้าเอ๊ย”
ชายวัยกลางคนสบถ เขาก้าวเข้าไปคร่อมร่างของเด็กหนุ่มผมดำเอาไว้ แล้ว
ยกมือขึ้นมาบีบลำคอขาวอย่างแรง ใบหน้าของเขามืดครึ้ม แรงบีบที่คอค่อยๆ
เพิ่มขึ้น
“อึ้ก ยะ อย่า......”
เด็กหนุ่มดิ้นทุรนทุราย ลูกแก้วสีเทาเหลือกขึ้นบน ลิ้นจุกปาก เขาดิ้นรนอยู่สัก
พักร่างเล็กก็แน่นิ่งไป ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ นัยน์ตาสีเทาเบิกค้าง
มือยังกำข้อมือ ของผู้เป็นอาแท้ๆ ไว้แน่น ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นฟ้า
หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ฮะ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า”
“ตายได้ซักที ชั้นอุตส่าห์วางแผนลักพาตัวมาฆ่าที่เมืองนี้แล้ว ที่นี่จะไม่มีใคร
พบศพแกเพราะที่นี่เป็นพื้นที่ที่ถูกปิดตายไปตั้งแต่ 3 เดือนก่อน เพราะเหตุ
อุกกาบาตตก ที่นี้ ชั้นก็จะได้ครอบครองทุกอย่าง ทุกอย่าง ฮะ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า”
ชายวัยกลางคนพร่ำเพ้อและหัวเราะราวกับคนบ้า เขาพยายามแกะมือของร่าง
เล็กออก ทว่าตอนนั้นเอง เขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาจับข้อเท้าของ
เขาไว้
“เฮ้ย อะไรน่ะ”
เขาก้มลงมองดูที่ขาของตัวเอง ก็พบว่า มีบางอย่างลักษณะเหมือนมือคน
ไม่สิ เหมือนกับมือของศพมากกว่า เนื้อเละหลุดลุ่ย จนเห็นกระดูกสีขาวด้านใน
ผุดขึ้นมาจากแผ่นดินสกปรกแห่งนี้
“บ้าเอ๊ย”
เขาสบถแล้วพยายามจะสลัดมันออก แต่ไม่สำเร็จ แรงมันมากกว่าที่เขาคิด มือ
ประหลาดนั่นดึงลากข้อเท้าของเขา จนเขาล้มลง เขาเบิกตาโพลง ใบหน้าซีด
เผือด
“เหวอ ผีเหรอ”
ครู่เดียว ก็มีมือประหลาดที่มีแต่เนื้อหุ้มกระดูกโผล่มาจับข้อเท้าอีกข้าง
“เหวอ ช่วยด้วย”
เขาร้องด้วยความกลัวสุดขีด เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นเต็มหน้า และแผ่นหลัง
นัยน์ตาปูดโปน
สักพัก ส่วนหัวกะโหลก ที่มีแต่ลูกตาติดอยู่ข้างเดียวก็โผล่ขึ้นมา
ทีละนิด ทีละนิด
เขาตกใจจนตัวชา กระดุกกระดิกไม่ได้ มันกำลังกลิ้งเข้ามาหาเขาแล้ว ส่วนที่
คิดว่าน่าจะเป็นปากของกระโหลกนั่น มีเขี้ยวแหลมติดอยู่ด้วย มันฝังเขี้ยวลง
บนน่องของชายคนนั้น
“อ้ากกกก”
ไม่ใช่แค่การฝัง แต่มันกำลังกัดกินเนื้อของเขา ชายกลางคนร้องอย่างเจ็บปวด
น้ำสีแดงสดไหลทะลักท่วมดินสีเทา จนฉาบย้อมเป็นสีแดงสด
“อ้ากกกกกก ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
เขาร้องโวยวาย ทันใดนั้น ส่วนที่เป็นหัวกะโหลกหันมาราวกับมันกำลังมองเขา
เขาตกใจจนกางเกงเปียก ส่วนที่เป็นหัวกะโหลก ค่อยๆ คลานขึ้นไปหาเขาที
ละนิด มือขวาควานหาปืนที่หล่นอยู่ ทว่า ทันทีที่เขาจับปืนและกำลังเล็งไปที่
มัน มันก็กระโจนเข้าหาลำคอของเขา
อึ่ก อั่ก
มันกัดเข้าไปในลำคอ ฉีกกระชากเส้นเลือดจนโลหิตพุ่งกระจาย
“อ้ากกกกก”
ปัง ปัง ปัง
เขายิงปืนไปที่หัวกะโหลกน่าขยะแขยงนั่น มันแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้น
น้อยราวกับแจกันที่ตกแตก เขายกปืนเล็งไปที่มือประหลาดน่ากลัวนั่น
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง
เศษชิ้นเนื้อ เศษกระดูกแตกกระจาย เขายกมือขึ้นกดแผลที่ลำคอ ซึ่งตอนนี้
เลือดยังไหลไม่หยุด
อึ้ก
“บ้าชะมัด”
เขาสบถ พยายามเดินกลับไปที่ยานบิน แต่สายตายังเหลือบมองเศษเนื้อนั่น
อย่างหวาดระแวง เขาเห็นเศษเนื้อน่าขยะแขยงนั่นขยับอยู่นิดหน่อย เขาจึง
เดินไปที่ยานบิน หยิบเอาแกลลอนบางอย่างออกมา มันคือ น้ำมัน เขาสาดใส่
กองเศษเนื้อนั่น จากนั้นก็หยิบที่ที่จุดไฟซึ่งเขาพกไว้สูบบุหรี่ขึ้นมา เขากดปุ่ม
จุดไฟเสร็จ ก็โยนมันลงไปบนเศษซากประหลาดนั่น เปลวเพลิงสีเหลืองค่อยๆ
ลุกติดขึ้นมาเผาเศษเนื้อนั่น จนหลอมละลายเป็นของเหลวสีดำ เขารีบกดปุ่ม
ปิดประตู แล้วเข้าไปในตัวยานบิน เขาพยายามบังคับคันโยกขับเคลื่อน
เครื่องยนต์ ยานบินลอยสูงขึ้น และพุ่งตัวออกไปได้สักพัก
เลือดที่ลำคอยังไหลทะลักไม่หยุด เขาเริ่มรู้สึกตาลาย ร่างซวนเซจะล้ม
มือของเขาร่วงหลุดจากคันบังคับ ในที่สุด ยานบินก็พุ่งเข้าชนภูเขาหิน เกิด
การระเบิดเสียงดังสนั่น เปลวเพลิงสีแดงลุกท่วมยาน ควันสีดำพวยพุ่งสู่
ท้องฟ้าสีเหลืองสว่างทันที
...
..
อีกด้านหนึ่ง เปลวเพลิงสีเหลืองที่ลุกไหม้ สักพักเมื่อหมดเชื้อไฟ เปลวเพลิงก็
เริ่มมอดลง เหลือเพียงก้อนสีดำน่าเกลียดกองหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
ก้อนนั้นก็ขยับ มันลื่นไถลตัวของมัน ราวกับเป็นของเหลว มันเคลื่อนที่เข้าไป
ใกล้ ร่างของเด็กหนุ่มผมดำ
เฮือก
ร่างของเด็กหนุ่มสะท้าน หน้าอกเริ่มขยับขึ้นลง เขาฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร ไม่มี
ใครรู้
ทว่า ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นมา ก็เห็นของเหลวสีดำเคลื่อนขยับไปบนร่างของเขา
“อะ อย่า อย่า”
เขาร้องออกมาอย่างหวาดกลัว นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกโพลง แต่ดูเหมือนจะ
ไม่ทันการณ์ ของเหลวสีดำเคลื่อนไปถึง ใบหน้าของเขา มันไถลตัวผ่านริม
ฝีปากและรูจมูกของเขา
“อ้ากกกก “
เด็กหนุ่มร้องออกมา ดิ้นไปมาอย่างทุรนทุราย สักพักเขาก็นิ่งไป นัยน์ตาสี
เทาเหลือกลอย ในที่สุด ของเหลวสีดำทั้งหมดก็หายไปในร่างของเขา
+++++++++++++++++++
1 วันต่อมา
เปลือกตาของเด็กหนุ่มก็ขยับ เขาเปิดเปลือกตาออก ร่างกายพยายามคลาน
ออกไปบนพื้นสีเทาอย่างเชื่องช้า เหนือฟากฟ้า ปรากฏยานบินลำหนึ่งสีเขียว
“ตอนนี้ เรากำลังตรวจสอบพื้นที่ อย่างละเอียดอยู่ครับ หัวหน้า ตั้งแต่เมื่อวาน
เราตรวจพบการระเบิดของยานบินลำหนึ่งครับ แต่ยานระเบิดทำให้ไม่สามารถ
ระบุตัวคนขับได้ครับ”
ชายหนุ่มผมสีเขียว นัยน์ตาสีเขียว ในชุดยูนิฟอร์มทหารสีเขียว แถบเหลือง ทั้ง
ตัวกำลังนั่งบังคับยานบินสำรวจ ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย กล่าวรายงาน
กับหน้าจอซึ่งมีชายวัยกลางคน อายุราว 40 ปี หัวหน้าหน่วย เขามีผมสีเทา
และสวมยูนิฟอร์มสีเดียวกันเพียงแต่มีเครื่องหมายดาวติดที่หน้าอกขวาหนึ่ง
ดวง นั่งฟังการรายงานอยู่อย่างตั้งใจ
“ตอนนี้ ผมกำลังบินสำรวจพื้นที่รอบๆ อยู่ครับ ตอนนี้ยังไม่พบอะไร
อ้ะ ตอนนี้ พบอะไรบางอย่างแล้วครับ”
“มีอะไรงั้นรึ”
“คือ.......คือ........”
“มีอะไรก็รายงานมาเลย k27”
หัวหน้าหน่วยเอ่ยเสียงเข้ม
“คือ ผมคิดว่า ผมเห็น..........คนครับ”
“ห้ะ ที่แบบนั้น จะมีคนอาศัยอยู่ได้ยังไง”
“แต่ผมเห็นจริงๆ นะครับ”
“ถ้างั้น คุณลองไปสำรวจดู แล้วค่อยรายงานผมอีกที”
สักพัก ภาพหน้าจอก็เลือนหายไป
“เฮ้อ หัวหน้าตัดสัญญานเร็วจัง ถ้างั้น เราคงต้องลงจอดกันล่ะ”
สักพัก ชายผมสีเขียวก็บังคับยานลงจอด เขากดปุ่มเปิดประตูและบันไดทอด
ยาวลงสู่อากาศร้อนเปรี้ยง ดินสีเทาดูแห้งแล้ง ราวกับดินแดนแห่งความตาย
เขาเดินหันมองไปมา ว่าร่างของคนคนนั้นอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่พบสิ่งใด นอกจาก
ความเวิ้งว้าง ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต
“อ้าว หายไปไหนแล้ว หรือว่า เราจะตาฝาด”
“เฮ้อ สงสัยจะหิวข้าวมากไป คงจะตาฝาดล่ะมั้ง รีบกลับไปรายงานหัวหน้าดี
กว่า”
ชายหนุ่มเดินกลับไปที่ยาน จนเมื่อเขาเกือบจนถึงบันได จู่ๆ ขาของเขาก็ก้าว
ไม่ออก
“เอ๊ะ ขาเป็นอะไร”
เขาก้มลองมองดูที่ขาขวาของตัวเอง และพบว่า มีมือซีดขาวข้างหนึ่งเกาะขา
เขาไว้
“เหวอ”
เขาพยายามดึงมือซีดๆ นั่นออก สักพัก ก็มีหัวของใครบางคนโผล่ขึ้นมาจาก
ดินสีเทานั่น
ครืด ครืด คราด
ร่างของใครคนหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากใต้ดินสีเทา ทีละนิด เสียงแหบแห้งประหลาดเปล่งออก
มาจากลำคอ
.......
“นายเป็นคนรึเปล่า พูดอะไรเนี่ย”
ชายหนุ่มที่แต่งชุดยูนิฟอร์มทหารร้องออกมาด้วยสีหน้าตกใจ มือซ้ายจับที่
อุปกรณ์สื่อสารที่อยู่หลังใบหูซ้าย
“หัวหน้า หัวหน้าครับ ผม k27 นะครับ”
“อ้าว รายงานสิ k27”
“คือว่า ผมคิดว่า ผมพบ .......เอ่อ .......คนแล้วครับ”
“เอ่อ แต่เขาเหมือนจะป่วยนะครับ”
“อืม ถ้างั้นนายก็พาเขาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆนั่นก่อนนะ
แล้วผมจะตามไปพบคุณที่นั่น แค่นี้นะ”
ตู้ดดดด
“อ้าว หัวหน้า หัวหน้า อ้าว ตัดสายอีกแล้ว”
“เฮอะ อย่าให้เจอหน้านะ ฮึ่ย ผมจะ จะ.............”
ชายหนุ่มโค้ดเนม k27 เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ พลางกัดฟันกรอด
“ฮึ่ย แล้วจะทำไง กับไอ้บ้านี่นะ เอาตัวไปใช่มั้ย”
“เออ ก็ได้”
ในที่สุด ชายหนุ่มก็ลากเด็กหนุ่มนั่นขึ้นไปบนยานได้ แบบทุลักทุเล
“เฮ้อ เหนื่อยชะมัด”
เขาปาดเหงื่อบนหน้าผาก จากนั้นก็กลับไปนั่งที่ประจำคนขับ แล้วขับยานออก
ไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เขต 34 เมืองไจโครเซท
......
ใครอยากอ่านต่อ ยกมือขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ