Your Blood เลือดของคุณ

-

เขียนโดย JustADreamYouSee

วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.56 น.

  3 chapter
  0 วิจารณ์
  5,081 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มีนาคม พ.ศ. 2561 19.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ครอบครัวรุ่นพี่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     
บทที่ 4
 
    ผมเบิกตากว้าง มองร่างสูงที่หัวเราะเสียงดังแล้วเดินไปเปิดประตู ผมรีบวิ่งไปคว้าแขนเขาแต่แม่งเหอะ! ทันทีที่กลอนประตู(อันโครตใหญ่) ถูกปลดออก ประตูก็ถูกผลักเข้ามาอย่างรุนแรง เกือบฟาดหน้าพี่ไมโดนิกแหนะ
 
     ดีที่เขาหลบทันไม่งั้นหน้าหล่อๆ นั้นคงได้เสียโฉมแน่ แต่ทำไมต้องอุ้มผมมาด้วยก็ไม่รู้ รึว่าผมจะน้ำหนักน้อยเกินไปนะ สงสัยต้องเริ่มกินข้าวเยอะๆแล้วมั้ง อ่า พูดถึงข้าวแล้วหิวข้าวจังแฮะ
 
    “ระวังหน่อยสิครับ เกิดโดนน้องเมฆของผมขึ้นมาทำไง” เขาพูดแล้วขมวดคิ้วมองไปที่ประตู อ่า ไม่สิ ซากประตูต่างหาก
 
    ผมลากสายตาไปทางประตู แล้วก็ต้องเบิกตากว้างนิดๆ ก็คนตรงหน้าผมน่ะ สวยมาก ไม่ใช่สวยธรรมดาซะด้วย สวยสุดๆไปเลย ถ้ามองว่าน่ารัก คนตรงหน้าก็เหมือนกับตุ๊กตาสุดๆ ดวงตาของเธอกลมโตสีน้ำผึ้งหวานซึ้งแต่กลับมีแววดื้อรั้น จมูกจิ้มลิ้ม กับปากอิ่มฉ่ำสีแดงเหมือนกับเชอรี่ ผมสีทองยาวถึงสะโพกเป็นประกาย ผิวขาวเหมือนกับนมสด รูปร่างบอบบางแต่ดูมีกล้ามเนื้อหน่อยๆเธอสูงแค่ปลายคางผม
 
    จะว่าไป เมื่อไรผมจะได้กินข้าวนะ อา ไม่ใช่แค่ผมที่อึ้ง เพราะพอเธอเห็นผม เธอก็เอามือกุมอก อ้าปากกว้างพอๆกับตา แล้วชี้นิ้วมาทางผมอย่างตื่นเต้น
 
    “น้องเมฆ!! ผมมาอยู่ที่นี่ได้ไงครับ” เธอร้องลั่นด้วยเสียงหวานทุ้ม
 
    “แม่จะเสียงดังทำไมครับ ผมนี่แหละพาน้องมาเอง” พี่ไมโดนิกว่าด้วยเสียงติดหงุดหงิด แล้วกอดผมแน่นขึ้น
 
    “แล้วแกก็ลักพาตัวน้องมาเนี่ยนะ! อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะ น้องเมฆของผม แหวะ! อยากจะอ้วก” เธอทำเสียงใหญ่ๆ ล้อเลียนคนร่างสูง
 
    “แม่กลับไปหาพ่อไป! ผมจะอยู่กับน้อง” พี่ไมโดนิกว่า แล้วทำมือโบกไล่เธอ
 
    จะว่าไป เมื่อกี๊รู้สึกได้ยินพี่ไมโดนิกเรียกเธอว่า แม่ รึเปล่า งั้นผู้หญิงโครตสวยคนนี้ก็เป็นแม่ของพี่ไมโดนิกน่ะสิ ไม่เห็นเหมือนกันเลยแฮะ
 
    ผมยิ้มนิดๆ มองสองคนทะเลาะกันเหมือนเด็ก อ่า น่าอิจฉาจัง ผมคงไม่มีอะไรยังนี้เหมือนแม่ผมหรอกมั้ง
 
    “เอ๊ะ! นั้นรอยอะไรตรงคอน้องน่ะ ไมโดนิก นี่แกทำมิดีมิร้ายน้องเมฆหรอ!” เธอว่าแล้วชี้ที่คอผม
 
    ผมยกมือขึ้นคลำที่คอ ซึ่งตอนนี้โช้กเกอร์สีดำมันหายไปจากคอผมแล้ว คงเป็นเมื่อกี๊มั้ง มันเลยหลุดไป เธอกระโจนเข้าหาผมแล้วเพ่งมองมาที่คอผม ผมสะดุ้งนิดหน่อย แต่ก็นิ่งให้เธอดู
 
    “แม่ไม่ต้องมาตกใจเลย ก็รู้อยู่แล้วหนิ แล้วผมก็ขอน้องแต่งงานแล้ว น้องตอบรับคำขอผมซะด้วย” เขาว่าพร้อมกับยิ้มเจ้าเลห์
 
     “อะไรนะ! เมื่อไร” เธอถามอย่างตกใจ
 
    “เมื่อกี๊” มีการยักคิ้วให้ด้วยนะ
 
    พอพี่ไมโดนิกพูดจบ ร่างเล็กของเธอก็กระโดดเข้ากระชากผมสีดำสนิทของพี่ไมโดนิกจนร้องลั่น เท่านั้นยังไม่พอ มันยังตามมาด้วยแม่ไม้มวยไทยอีกมากมายหลายกระบวนท่า ซึ่งผมได้แต่ชูสองนิ้วให้พี่ไมโดนิก แล้วถอยออกมายืนอยู่หน้าห้อง จากการสังเกตของผม พวกเขาน่าจะเป็นแวมไพร์
 
    เพราะดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นไปได้ที่สุด อ่า ผมควรจะตกใจกลัวสินะ แต่มันเหมือนคุ้นชินไปแล้ว จะว่าไป พวกคุณคิดเหมือนผมไหม จากครั้งแรกที่เจอกัน ผมรู้จักรุ่นพี่ที่มีออร่าเจ้าชายดูอบอุ่น แต่ตอนนี้ผมกลับเจอหนุ่มแบดบอยจอมหื่น ที่จ้องจะแต๊ะอั๋งผมทุกครั้งที่มีโอกาส
 
   หมับ
 
    ผมสะดุ้งตกใจ เมื่อมีบางอย่างวางแปะลงมาที่ไหล่ข้างขวาของผม เมื่อหันไปมอง ผมก็เจอกับผู้ชายคนหนึ่งแต่งชุดสีดำทองดูหล่อเหลา และใบหน้าของเขาทำให้ผมนึกถึงคุณแม่ของพี่ไมโดนิกในเวอร์ชั่นผู้ชายที่สูงกว่าผมมาก แตกต่างกันนิดหน่อยก็คือ ดวงตาสีน้ำผึ้งของเขาดูเจ้าชู้และซุกซนเหมือนเด็ก เขายิ้มให้ผมแล้วชะโงกหัวไปมองในห้อง ซึ่งตอนนี้เละ และยังมีสงครามอยู่ข้างใน
 
    “พี่นึกว่าใครซะอีก ไม่ยักกะได้ข่าวว่าเราจะกลับมานะเนี่ย” เขาพูด
 
    อ่า ทำไมทุกคนที่นี่ต้องทำเป็นเหมือนรู้จักผมด้วยนะ ผมต้องไปสืบมาให้ได้สินะ อ่า ไม่ดีกว่าแบบนั้นมันเสียเวลา ถามพี่ไมโดนิกเลยดีกว่า
 
    “น้องเมฆ ฮัลโหล ยังอยู่หรือเปล่า” เขาทำท่าโบกมือไปมา ผมเลยพยักหน้าให้ แล้วชี้ไปทางพี่ไมโดนิกที่กำลังรบ(?)กับคุณแม่อยู่
 
    “อ๋อ ไอ้ไมโดนิกพามานี่เอง หิวข้าวไหมเนี่ย?”
 
    อ่า คุณไม่รู้หรอกว่าผมรอคำถามนี่มานานแค่ไหนน่ะ ถ้าเป็นหมา คุณคงเห็นหูตั้งๆ กับหางที่ส่ายไปมาอย่างแรงแล้วแหละ ผมรีบพยักหน้าแรงๆ
 
    “…หิว” ผมตอบ คนตรงหน้าชะงักเล็กน้อย แล้วหน้าแดงใส่ผม
 
    “น้องเมฆ อย่าพูดกับใครจะดีกว่านะ พี่เตือน ไม่สิ! ขอร้องเลยล่ะ” เขาบอกผม แล้วคว้าข้อมือผมลากไปตามทางเดิน
 
    จะว่าไป พี่ชายคนนี้เหมือนคุณแม่จังแฮะ ทั้งท่าทางและวิธีการพูดจา และดูจากหน้าตาแล้วน่าจะอายุมากกว่าพี่ไมโดนิกนิดน้อย ผมคิดอะไรเพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ห้องอาหารซะแล้วบนโต๊ะอาหารยาวมีร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว อ่า พวกคุณต้องไม่เชื่อแน่ เพราะผู้ชายคนนี้หน้าตาเหมือนกับพี่ไมโดนิกมาก ถ้าดูผ่านๆ พวกเขาล่ะเหมือนกันอย่างกับแกะแหนะ!
    “ว้าว! วันนี้พายุจะมาพัดเมืองเราแน่ๆเลยอ่ะ!”พี่ชายข้างๆผมพูดออกมาเสียงดัง
 
    “…เมียพ่อล่ะ” อ่า เขาไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่แฮะ
 
    “อยู่กับไอ้ไมโดนิกน่ะ เดี๋ยวก็มาครับ เฮ้! ท่านพ่อครับ หัดสนใจลูกชายคนนี้หน่อยได้ม่ะ เอะอะอะไรก็เมีย เนอะ” คำสุดท้ายเขาหันมาพูดกับผม ซึ่งผมก็พยักหน้าส่งๆ ไปให้
 
    อ่า ตอนนี้ตาผมมันโฟกัสที่อาหารตรงหน้ามากกว่า ไก่สีฟ้าๆ แปลกตานั้นน่ากินชะมัด ไหนนะแมงมุมยักษ์สีขาวที่มีกินหอมหวานนั้นด้วย ให้ตายเหอะ! ผมหิวมากจนตาลายเห็นพี่ชายข้างๆ เป็นขาไก่แล้ว!
 
    “เฮ้ๆ ใจเย็นนะครับน้องเมฆ เอ้านั่งๆ ยะ..อย่าทำสายตาแบบนั้นสิ พี่กลัวนะ” เขาทำท่าขยับถอยห่างผม สร้างเสียงหัวเราะรอบตัวขึ้น
 
    ผมหันซ้ายหันขวามองหาต้นเสียง เห็นเพียงแสงไฟดวงเล็กๆ บินไปมา แสงพวกนั้นรวมตัวกันเป็นกระจุกก่อนจะยกอาหารหน้าตาประหลาดมาให้ผม
 
    พวกเขาคงเป็นแฟรี่ หรือไม่ก็ภูติมั้ง อ่า พวกคุณรู้จักใช่ไหม นางฟ้าตัวน้อยแสนน่ารักไงล่ะ เมื่อก่อนผมเคยขอพรจากพวกเธอด้วยนะ แต่พรที่ผมขอ มันคงยากเกินไป พวกเธอเลยไม่ได้ให้พร ซึ่งตอนนั้นผมเลยเลิกเชื่อของพวกนี้ไปเลย
 
    มาเห็นกับตาแบบนี้ ก็ทำเอาอึ้งไปไม่น้อยแหะ พวกเธอส่งเสียงราวกับกระดิ่ง ดังไพเราะออกมา ผมกลับมาสนใจอาหาร มันหน้าตาประหลาดแต่ก็ไม่เกินที่ผมจะรับไม่ได้ ผมเลยสวาปามอย่างผู้ดี(?) จนอาหารพร่องไปครึ่งโต๊ะ อ่า รสชาติมันอร่อยมาก อร่อยกว่าอาหารของมนุษย์ซะอีก
 
    “หะ..โห น้องเมฆท่าทางจะหิวมากเลยใช่ไหมครับเนี่ย ค่อยๆกินนะครับ มีอีกเยอะเลย” พี่ชายที่นั่งข้างๆ ทำตาโตใส่ ผมเห็นเขาแอบปาดเหงื่อด้วย
 
    โครม!! ตึง! เพล้ง!!
 
    เสียงของหนักตกอย่างดัง กับเสียงข้าวของแตกกระจาย ไมได้ทำให้ผมหยุดมือที่ตักอาหารเข้าปาก แม้แต่ พี่ไมโดนิก ที่กลิ้งหลุนๆ มากองอยู่แทบเท้าผม
 
    “น้อง…เมฆ” เขาเรียกผมเสียงอ่อนแรง พร้อมกับพยายามยกแขนขึ้นอย่างลำบากลำบนกอดขาของผมไว้
 
    “…” ผมมองเขานิ่ง แล้วเงยหน้ามองร่างเล็กของคุณแม่ เดินย่างสามขุมเข้ามาพร้อมมีดในมือ
 
    “แกตายแน่! หึๆๆ~ ไม-โด-นิก!” อ่า คุณแม่น่ากลัวจังแฮะ
 
    “น้องเมฆช่วยพี่ด้วยครับ” พี่ไมโดนิกตะเกียกตะกายมาหลบหลังผมพร้อมกอดผมแน่น
 
    อ่า สุดหล่อของผม หมดกัน ลุคแบดบอยที่ผมอุตสาห์ให้เขาเป็น เอาแวมไพร์สุดเซ็กซี่เมื่อตอนที่แล้วคืนมานะ! ผมมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ขณะที่ร่างสูงหมุนตัวหลบมือในมืออย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่ลืมโยกร่างผมหลบด้วย
 
    “แกจะหลบทำไม!” คุณแม่โวยวายเสียงแหลม
 
    “ไม่หลบผมก็ตายดิ!” ตะโกนกลับ แล้วโยกหลบ
 
    “เรื่องนี้จะได้จบไวๆ ไง ไอ้ลูกบ้า! พีคดีจะตาย ตอนจบพระเอกตายน่ะ!555+” ว่าแล้วหัวเราะดังลั่น
 
    ผมล่ะปวดหัวจริงๆ พี่ไมโดนิกเมื่อเห็นสบโอกาสที่คุณแม่หันไปป้องปากหัวเราะอย่างสะใจวิ่งหนีไปหลบหลังคนที่นั่งอยู่หัวโต้ะ อ่า เขายังอยู่ๆ หรอเนี่ย คุณแม่เห็นอย่างนั้นก็ไล่ตาม กลายเป็นว่าวิ่งวนกันไปมารอบโต๊ะอาหารซะงั้นโดยมีเสียงเชียร์คุณแม่เต็มที่ของพี่ชายคนนั้น
   
     “ชาล็อต…” เสียงทุ้มต่ำเย็นเยียบดังขึ้น มันอาจจะเบา แต่มันทำให้ความวุ่นวายทั้งหมดหยุดกับที่ แล้วถูกปกคลุมด้วยความเงียบแทน
 
   “จะ…จ๋า” คุณแม่ที่ตอนนี้เอามือกุมไว้ที่เป้าอย่างสงบเสงี่ยม สะดุ้งเฮือก ก่อนจะตอบเสียงหวานสั่นๆ
 
    “โตแล้ว…” เขาพูดเสียงเรียบด้วยใบหน้านิ่งๆ
 
    “อะ..อือ รู้แล้วน่า แค่สั่งสอนไมโดนิกนิดเดียวเอง” คุณแม่ตอบอ้อมแอ้มพลางจิกตาใส่ไมโดนิกที่ยืนอยู่ข้าง ท่าทางไม่ต่างกัน หงอเป็นลูกหมาเลยล่ะ ทำเอาผมอดขำไมได้ เมื่อทั้งสามคนมายืนเรียงหน้ากระดานแล้วเอามือกุมที่เป้า ก้มหน้าอย่างเรียบร้อย
 
    “โตแล้วนะ…” เขาบอกเหมือนย้ำอีกครั้ง ก่อนลุกขึ้นเดินไปหาคุณแม่ อ่า ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์แหนะ
 
    “ก็บอกว่ารู้แล้วไง เดี๋ยวไปทำสะอาดให้เลยก็ได้เอ้า!”
 
    “อืม…โตจนมีผัวแล้ว..รู้หน้าที่ด้วยสิ” พอจบประโยคนี้ ทุกคนก็มีปฎิกริยาที่ต่างกันไป
 
    คุณแม่หน้าแดงจัด อ้าปากพะงาบๆ พี่ไมโดนิกทำหน้าเหม็นเบื่อ ส่วนพี่ชายคนนั้นก็ทำท่าจะอ้วก ส่วนผมหรอ ใบ้แดกเลยทีเดียว จากบรรยากาศอึดอัดเมื่อกี๊ก็คลายลง พร้อมกับเสียงบ่นของพี่ชายคนนั้น
 
    “โอ๊ย! พ่อครับ จะจีบแม่ ก็หัดจีบให้มันถูกเวลาหน่อยได้ป่ะ”
 
    “นั้นดิ ฉิบหายแล้วว่ะพี่เซน จะอ้วกแล้วครับ” พี่ไมโดนิกแล้วหันไปกอดคอพี่ชาย
 
    “น้องเมฆคร้าบ” พี่ไมโดนิกเข้ามากอดคลอเคลียผม หลังจากที่คุณพ่ออุ้มคุณแม่ขึ้นห้องไป
 
    “เฮ้ย!ๆ อย่ามาหวานกันแถวนี้นะเว้ย สงสารคนไม่มีคู่อย่างพี่ด้วยครับ” พี่ชายโอดครวญ
 
    “นางเดมีของพี่ไปไหนหมดแล้วครับ” พี่ไมโดนิกว่า แล้วยกคิ้วกวนๆให้
 
    “อ่า มีที่ไหนล่ะ ไม่มี๊! ไม่มี” เขาว่า แล้วส่ายหน้าไปมา
 
    “เออใช่! น้องเมฆครับ นี่ พี่ชายของพี่ครับ โซเรน”
 
    ในที่สุดผมก็รูสักที เรียกพี่ชายตั้งนาน และมันก็ไม่ได้ผิดจากที่ผมคิดเท่าไหร่ ที่ว่าเขาเป็นพี่ชายของพี่ไมโดนิก ก็ดูจากคุณพ่อคุณแม่แล้วน่ะนะ พี่ไมโดนิกจับผมนั่งตัก กอดเอวผมไว้ แล้วซุกหน้าลงมาที่คอผม
 
    “ขอโทษนะครับที่บ้านพี่วุ่นวายไปหน่อย” เขาพูดพร้อมยิ้มให้จนเห็นลักยิ้มที่แก้มข้างซ้าย
 
    “…” ดีจะตาย
 
    “ครับ?”เขาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
 
    “ผม..อิจฉาพี่นะ” ผมพูดเสียงเบาหวิว
 
    ดวงตาคมสีฟ้าเบิกกว้าง ก่อนจะกดหัวผมเข้ากับอกของเขา มือใหญ่ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน ก่อนจะประทับริมฝีปากลงมาตรงกลางหน้าผากผม
 
    “งั้นมาเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา