GHOST

6

                “ฟริ้ง!” แสงสีเขียวเจิดจ้าประหลาดปรากฏขึ้นเพียงชั่วพริบตาในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง

“ปลอดภัยแล้วหละ” สาวหน้าหวานหันไปพูดกับสาวหน้าคมก่อนที่ร่างพลังงานของเธอจะหายเข้าไปในร่างของตัวเอง

“ฉันเลโกน่า เธอหละ?” สาวหน้าหวานแนะนำตัว

“ฉัน เอวา เดอ แซล” สาวหน้าคมตอบกลับ เธอสูงกว่าเลโกน่าจนมองเห็นความต่างและหน้าตาสวยคนละแบบ

“เมื่อกี้นี้มันคืออะไร ฉันสับสน ทำไมลาไมยถึง…” เอวายังคงสับสน

“เคเคเค ฉันจะสรุปง่ายๆเลยนะ ยายนั้นเป็นฆาตกรต่อเนื่องชื่อลาไมย นางมีพี่ชายหนึ่งคน และเธอ เอวา เธอคงเป็นเหยื่อรายล่าสุดของสองพี่น้องคู่นี้ ฉันว่าเราเดินไปคุยไปดีกว่านะ” เลโกน่าพยายามอธิบาย ทั้งสองสาวเริ่มเดินหาทางออกจากซอยที่พวกเธอไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน

“โชคดีนะที่ฉันมาทันพอดี ไม่งั้นป่านนี้เธอคงเป็นไก่ย่างห้าดาวไปแล้ว ฉันทำงานอยู่ในCSD เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษหน่วย JIN User Controlหรือ JUC รับผิดชอบหน้าที่เรื่องคดีเกี่ยวกับผู้ใช้จินและก็จิน ซึ่งคดีที่ฉันกำลังทำอยู่คือคดีของสองพี่น้องอิราโบโลส และที่สำคัญกว่านั้นถ้าจับกุมสองคนนั้นได้บางทีอาจจะสาวไปถึงพวกพันธมิตรจิน” เลโกน่าเดินไปคุยไป สองสาวเดินไปเรื่อยๆ

“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เธอพูดว่าพวกพันธมิตรจินเหรอ?” เอวารู้สึกสะดุดที่คำนี้ เธอขมวดคิ้วทันที

“ใช่ เธอรู้จักเหรอ? จะว่าไปพวกพันธมิตรกับCSDต่างก็มีเรื่องบาดหมางกันมายาวนานแล้วหละ นานก่อนที่ฉันจะเข้ามาทำงานตรงนี้ซะอีก” เลโกน่าเล่าต่อ

“พอดีกลุ่มที่ฉันจากมาเคยติดต่อกับพวกพันธมิตร” เอวาก้มหน้าไปคุยไป

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ยิ่งสำคัญกับเรา เพราะบางทีข้อมูลของเธออาจจะช่วยเราได้ ตอนนี้เรากำลังสืบเรื่องฐานบัญชาการของพวกพันธมิตรอยู่พอดีเลย” เลโกน่าพูดต่อ

“คือ..........” เอวากำลังพูดบางอย่าง

“ชู้วร์” แต่เลโกน่ารู้สึกถึงความผิดปกติ

“ฟลึบ!” เสียงการเคลื่อนไหวของบางสิ่งบางอย่างในพงหญ้าข้างทาง สองสาวถึงกับหยุดชะงัก เลโกน่าหันไปมองและเริ่มสังเกต

“ซู่!!!!” งูสีดำขนาดใหญ่โผล่ออกมาอย่างรวดเร็วและเข้าโอบรัดตัวของเลโกน่าจนเธอขยับไม่ได้ มันรัดแน่นจนเธอไม่มีสมาธิในการใช้ร่างพลังงานของเธอ

“เลโกน่า!” เอวาตกใจมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

“อย่าขยับนะ! ไม่อย่างนั้นเพื่อนเธอตาย” ชายหนุ่มเคราหนาปรากฏตัวขึ้น เขาเดินเข้ามาอย่างอุกอาจ ท่าทางยียวนกวนประสาทไม่น้อย

“จินของฉันไม่ใช่แค่จำแลงได้เท่านั้นนะ แต่มันดึงเอาความสามารถพื้นฐานของร่างจำแลงมาได้ด้วย งูจะรัดเหยื่อจนตายก่อนเขมือบเสมอ” ชายหนุ่มพูดกับเอวาในขณะที่สาวหน้าหวานถูกงูใหญ่รัดอย่างทรมาน และงูใหญ่ตัวนั้นคือจินของชายลึกลับ

“อ๊ากกกกก” เลโกน่าร้องออกมา สีหน้าของเธอบอกถึงความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดราวกับว่ากระดูกของเธอกำลังถูกบดอย่างช้าๆ

“อะฮ่า เธอคือคนที่นังโรคจิตนั้นตามหาสินะ” ชายหนุ่มหันไปพูดกับเอวา เธอใช้โอกาสนี้ผลักเขาให้ล้มลงไป เอวาพุ่งเข้าหางูยักษ์ทันที แต่เธอดันถูกมันตวัดหางกลับจนกระเด็นแล้วสลบไป จังหวะนี้ทำให้มันคลายตัวออกจากเลโกน่า เธอจึงรีบตั้งสมาธิ

“Ze-le-n...” เลโกน่าถูกชายหนุ่มฉีดยาสลบใส่โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ สติของเธอค่อยๆเลือนหายอย่างช้าๆ

“Culum เอาอีสองตัวนี้ไปใส่ไว้ในหลังรถฉัน” นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่เลโกน่าได้ยินก่อนที่ทุกอย่างจะวูบดับไป

                “เลโกน่า.. เลโกน่าตื่น.. ตื่นเร็วเข้า” สาวหน้าหวานได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกเธอจึงค่อยๆลืมตาตื่น สิ่งแรกที่มองเห็นคือใบหน้าสวยคมที่ดูกังวลใจของเอวา พวกเธอทั้งสองนั่งตรงข้ามกันบนรถตู้ขนสินค้า เลโกน่าเริ่มตั้งสติ

“เราอยู่ที่ไหน?” เธอถามเอวา

“ชู้วร์! เบาๆสิ เดี๋ยวมันก็รู้ว่าเราตื่นหรอก” เอวาเอ็ดเธอ เลโกน่าหันไปด้านซ้ายมือของเธอ พยายามมองช่องกระจกเล็กๆที่เชื่อมกับเบาะหน้าคนขับ

“เธอรู้จักมันไหม?” เอวาถาม

“ชื่อซาล์ เป็นหนึ่งในสมาชิกของพันธมิตรจิน” เลโกน่าตอบขณะที่เธอมองไปที่ช่องกระจก

“แล้วเราจะหนีได้ยังไง?” เอวาเข้าเรื่อง

“ไม่เป็นไร ฉันจัดการเอง Zele… อ๊ากก!!!” ขณะที่เลโกน่าตั้งสมาธิเพื่อเรียกร่างพลังงานของเธอ จู่ๆกระแสไฟฟ้าปริศนาก็ช๊อตเข้าที่หัวเธอเต็มๆจนเธอรู้สึกมึนเล็กน้อย

“ปลอกคอน่ะ” เอวาเงยคอให้เธอมอง ทั้งสองสาวถูกใส่ปลอกคอสีดำติดตั้งอุปกรณ์วัดค่าบางอย่าง

“แล้วทีนี่จะเอายังไง” เลโกน่าดูหงุดหงิดผิดจากสาวหวานร่าเริงคนเดิม

“เลโกน่า เลือด จมูกเธอเลือดไหล” เอวาทักขึ้นมาทันที เลโกน่าแตะไปที่รูจมูกพบว่ามีเลือดไหลออกมาจริง

“ไอ้ที่สวมคอเราสองคนมันคือเครื่องวัดค่าการเปลี่ยนแปลงของสนามพลังงานโดยรอบน่ะ จริงๆแล้วมันเป็นของCSD ฉันไม่คิดว่าพวกมันก็มี” เลโกน่าพยายามดึงปลอกคอออก

“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นขอฉันลองหน่อย” เอวาพูด

“เธอจะบ้าเหรอ เจ้าเครื่องนี้ถ้าฝืนใช้จินมันสามารถทำให้หัวสมองของเธอเละเป็นแกงส้มชะอมได้เลยนะ” เลโกน่าพูดกลับ

เอวายิ้มมุมปากก่อนที่จะ “Bodus” สิ้นเสียงอันบางเบาของเธอ ลำแสงสีขาวบังเกิดจากตัวเอวา จู่ๆปลอกคอของทั้งสองสาวก็หยุดทำงานและหลุดออกมาจากคอของพวกเธออย่างดื้อๆ

“ทำได้ไงอะ!” เลโกน่าตกใจมาก เอวาได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไรเธอสะบัดมือทั้งสองข้าง ลำแสงสีขาวทำให้รถหยุดชะงักภายในชั่วพริบตา

                “อะไรวะ!” เสียงของซาล์จากด้านหน้ารถ

“หนี!” เอวาตะโกนใส่สาวหน้าหวาน ทั้งสองคนรีบผลักประตูหลังรถแล้วกระโดดออกทันที

“Zelena!” เลโกน่าเรียกร่างพลังงานสีเขียวแสนสง่าของเธอออกมา มันสร้างแห่สีเขียวขึ้นมาห่อหุ้มรถทั้งคันเอาไว้ ซาล์พยายามจะเปิดประตูรถแต่ก็ออกไม่ได้ สองสาวรีบม้วนตัวแล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที ทันใดนั้นรถยนต์สีดำพุ่งเข้ามาตัดหน้าพวกเธอทั้งสอง ประตูรถเปิดออกอย่างช้าๆขาขาวเรียวยาวของผู้หญิงปรากฏขึ้นจากที่นั่งของคนขับ เธอสวมใส่ชุดดำพลิ้วสวย ดวงตาเปล่งประกายราวกับแสงดาว

“เจอตัวสักที คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ?” หญิงสาวดวงตางดงามพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น สองสาวถึงกับถอยหลัง

“Culum!!!” สิ้นเสียงของผู้ชายจากในรถตู้จู่ๆมังกรยุโรปขนาดมหึมาปรากฏตัวขึ้นฉีกรถตู้เป็นชิ้นๆ มันบินเหินขึ้นฟ้าแล้วดิ่งลงมาที่ด้านหลังของสองสาว ซาล์ที่ขึ้นไปอยู่บนหลังของมันค่อยๆหย่อนตัวลงมา

“พวกมึงนึกว่าตัวเองเก่งกันมากใช่ไหม?” ซาล์ชี้หน้าพวกเธอด้วยความโมโห

“ซาล์” เสียงที่เย็นยะเยือกกล่าวทักทายเขา นั้นทำให้ซาล์ถึงกลับหยุดชะงักจนต้องหันไปมอง

“ลาไมย” น้ำเสียงของชายหนุ่มสั่นเครือขึ้นมาทันที รอยยิ้มอันแสนหวานแฝงด้วยความน่ากลัวแปลกๆของหญิงสาวอีกคนส่งยิ้มไปให้เขา

“ไม่เคยจำเลยใช่ไหม ฉันบอกเธอว่าอะไร?” ลาไมยถามเขานิ่งๆ แวววาของเธอดูคมขึ้นราวกับมีดคมกริบ

“คิดว่ากูกลัวเหรอ พวกมึงสามคนเข้ามาเลย แถวสะพานใหม่ใครๆก็รู้ว่ากูแกร่งแค่ไหน!!!” ซาล์ตะโกนเหมือนคนบ้าพยายามข่มความกลัวเอาไว้ เจ้ามังกรมหึมาบัดนี้กลายเป็นแค่ชุดคลุมสีเทาขยับเข้ามาข้างกายเขา เลโกน่ารู้สึกถึงรังสีสังหารที่รุนแรงจากทางขวามือของเธอ เธอจึงดึงเอวาที่ยืนอึ้งอยู่ออกห่างจากทั้งสองคนอย่างช้าๆ

“ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา มันจะถูกไม้เสียบ อู้ว มันจะถูกไม้เสียบ อู้ว เสียบตูดซ้าย เสียบ...” ลาไมยจู่ๆก็ร้องเพลงขึ้นมายิ่งทำให้เธอดูน่ากลัวและโรคจิตมากขึ้น

“อีบ้า!!!” ซาล์ตะโกนใส่เธอ ทำให้เธอหยุดร้องเพลงและจ้องเขม่งตรงมาที่เขา

“Skia!” สิ้นเสียงของเธอจู่ๆลูกไฟยักษ์ปริศนาถาโถมดิ่งลงมาจากอากาศพุ่งตรงไปที่ซาล์ทันที

“Culum!” ซาล์พูดชื่อบางอย่างบ้าง ร่างพลังงานของเขาเปลี่ยนเป็นวานรยักษ์ มันอุ้มร่างทรงของมันหลบลูกไฟทั้งหมดได้ทันท่วงที มันวางซาล์ลงในที่ปลอดภัย ลาไมยยิ้มแสยะก่อนที่พลังงานร่างสีดำกับเขารูปพระจันทร์เสี้ยวจะปรากฏตัวขึ้น การต่อสู้ของทั้งสองคนได้เริ่มขึ้นแล้ว Skia สะบัดตัวสร้างเปลวไฟเป็นกลุ่มก้อนมากมายกระจายออกไปอย่างไร้ทิศทาง Culum จึงเปลี่ยนร่างเป็นนาคสามหัว หลบหลีกแล้วพุ่งใส่ Skia ทั้งสองตัวต่อสู้กันอย่างรวดเร็วและดุเดือดมาก Skia ดูท่าจะแพ้ทาง Culum ในร่างนาคสามหัวแม้ว่ามันจะมีสี่แขนก็ตาม นาคสามหัวจู่โจมอย่างต่อเนื่องจน Skia ต้องเป็นฝ่ายหลบหนีแทน พอตั้งตัวได้ Skia สร้างเปลวไฟสี่แฉกพุ่งเข้าใส่นาคสามหัวทันที Culum หลบหลีกได้อีกครั้งคราวนี้มันพุ่งเข้าประชิดตัว Skia ได้สำเร็จ ปากอันแหลมคมจากหัวทั้งสามของมันกัดไปที่ Skia จนบาดเจ็บ ลาไมยโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แววตาของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ

“ยอมแพ้ซะ! ถ้าไม่อยากตาย” เสียงของซาล์ที่ตะโกนใส่เธอ นั่นกลับทำให้เธอโกรธจนถึงที่สุด Skia ใช้มือสามมือจับใต้คางของนาคสามหัวไว้ ส่วนอีกมือจับไปที่ตัวเพียงชั่วพริบตาเปลวไฟได้ลุกไหม้ใส่นาคสามหัวจนมันร้องออกมาด้วยความทรมานก่อนที่จะถอยห่างแล้วคืนร่างเป็นชุดคลุมสีเทาเช่นเดิม ยังไม่ทันได้ตั้งตัว Skia สร้างพายุเพลิงมหาศาลถาโถมเข้าใส่ Culum ทั้งเป็น มันร้องออกมาด้วยความทรมานและร่างของมันกำลังถูกเผาอยากรวดเร็ว ซาล์รู้สึกเจ็บจนถึงที่สุดเขาพยายามตั้งสติเพื่อที่จะสลลายร่างพลังงานแต่ไม่ทันการ ลาไมยยืนมือมาทางเขาเปลวไฟบรรลัยกันต์แผดเผาไปที่ร่างของชายหนุ่มทั้งเป็นพร้อมกับแววตาที่สุดแสนจะอำมหิตของลาไมย ซาล์คือผู้พ่ายแพ้และตายอย่างน่าอนาถ สองสาวแม้ยืนดูอยู่ห่างๆยังรู้สึกหวาดกลัวและตกใจกับภาพตรงหน้า ลาไมยไม่รอช้าหันไปมองที่พวกเธอก่อนที่ Skia จะสร้างกองเพลิงล้อมรอบสองสาวเป็นวงกลมจนพวกเธอไม่มีทางหนีได้

“Skia” สิ้นเสียงของลาไมย เปลวไฟถูกแปรสภาพเป็นควันเสียหมกเข้าไปที่สองสาว ทั้งคู่สูบดมเข้าไปเต็มปอดและสลบไปในที่สุดเพราะขาดออกซิเจน ลาไมยเดินเข้ามาอย่างช้าๆด้วยความปลื้มปริ่ม