GHOST
เขียนโดย นางแกงพเนจร
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 23.13 น.
แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 05.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ2
“ที่นี่ห้องหับสะอาด น้ำสองร้อย ไฟหนึ่งพัน ไวไฟฟรี ทั้งหมดสามพันสองบาทถ้วนรวมค่าห้อง” ผู้หญิงสูงวัยใส่แว่นตากำลังเดินไปคุยไปภายในหอพักแห่งหนึ่งกับหญิงสาวหน้าคมสวยได้รูป ผมปะบ่าสีบลอนด์สว่าง สูงกำลังดี ผอมเพรียว
“เข้าไปดูข้างในกันก่อนนะ ...แก๊ก!” หญิงสูงวัยเปิดประตูห้องเข้าไปด้านใน เป็นห้องโล่งสีครีม มีเตียงนอน โทรทัศน์ ตู้เย็นเล็กๆ แอร์ และระเบียงที่มองเห็นวิวถนนใหญ่ย่านวิภาวดีรังสิต
“ตกลงค่ะ หนูชอบ เซ็นสัญญาเช่าเลยไหมคะ?” หญิงสาวหันไปถาม
“ได้สิๆ งั้นเราลงไปตกลงเรื่องรายละเอียดกันข้างล่างนะ ว่าแต่หนูชื่ออะไรจ๊ะ?” หญิงสูงวัยท่าทางดีใจที่ได้ผู้เช่ารายใหม่
“ชื่อ เอวา ค่ะ” หญิงสาวตอบ
“อเซวิส!” ลาไมยวิ่งหน้าตาตื่นไปหาพี่ชายในห้องนอนของเขา
“มีรายยย” อเซวิสงัวเงียบ่นพึมพำ เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมใบหน้าของตัวเองก่อนจะม้วนตัวซุกอยู่ในผ้าห่มเหมือนกับดักแด้ของแมลง
“ผู้ใช้จินคนใหม่ ฉันสัมผัสได้” ประโยคที่ลาไมยพูดทำให้อเซวิสถึงกับตั้งสติได้ทันที สองพี่น้องเดินไปที่ทางระเบียงของคฤหาสน์โทรมๆหลังนี้ ที่ที่ไม่ว่าจะมุมไหนก็ชวนให้ขนหัวลุกทั้งนั้น
“เมื่อกี้เธอบอกว่าสัมผัสถึงผู้ใช้จินคนใหม่งั้นเหรอ?” อเซวิสหันไปถามน้องสาว
“ไม่ใช่แค่สัมผัสถึงนะ แต่ฉันรู้สึกว่ามันอยู่ใกล้มาก” ลาไมยยิ้มแสยะปาก แววตาเปล่งประกายของเธอสามารถทำให้ผู้ชายทุกคนตกหลุมเสน่ห์ของเธอได้เลย
“หนึ่งปีแล้วนะ ที่พวกเราไม่ได้เพิ่มพลังให้ตัวเองเลย” ลาไมยพูดต่อ
“ฉันไปเอง น้องอยู่เฝ้าที่นี่” อเซวิสพูด
“พี่นั่นหละอยู่ ฉันจะไป” ลาไมยพูดสวนขึ้นมา
“แน่ใจนะ?” อเซวิสถาม
“เชื่อใจฉันสิ ถ้าครั้งนี้สำเร็จอีกแม้แต่พวก CSD ก็แตะพวกเราไม่ได้” นัยน์ตาเป็นประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามราตรีของเธอดูมุ่งมั่นมาก ใต้มนต์เสน่ห์ในใบหน้าของเธอนั้นแฝงไปด้วยความน่ากลัวแปลกๆ
“ระวังตัวด้วย” อเซวิสลูบไปที่ปลายผมของน้องสาว สายตาของเขาดูอ่อนโยนและห่วงใยเธอเป็นที่สุด
“Malibu yellow 1 ช็อต”
“ครับ” บาร์เทนเดอร์ตอบรับคำสั่งของหญิงสาวหน้าตาสะสวยและดวงตาเป็นประกายของเธอ ในชุดสีดำที่ทำให้เธอดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
“ลาไมย เธอเองเหรอ?” ชายหนุ่มผมสั้นไว้หนวดเคราหนา หน้าตาปานกลาง จมูกโด่งได้รูปรับกับโหนกแก้ม สูงยาวเข่าดี เข้ามาทักทายเธอ
“ซาล์!” ลาไมยฉีกยิ้มกว้าง ทั้งสองคนโอบกอดกันราวกับไม่ได้พบเจอกันมานาน ในบาร์สุดเก๋แห่งหนึ่งย่านสะพานใหม่
“ฉันเพิ่งรู้นะว่าเปิดร้านตอนกลางวันได้ด้วย” ลาไมยพูด
“ก็ไม่ได้ขายเหล้าสักหน่อย อีกอย่างฉันจ่ายเยอะ” ซาล์เป็นคนพูดจาติดตลกเสมอ เขามักจะทำให้ลาไมยอารมณ์ดีทุกครั้งที่พบเจอกัน
“แล้วนี่อะไร ทำไมฉันสั่งได้หละ?” บาร์เทนเดอร์เสิร์ฟเครื่องดื่มในแก้วช็อตตามคำสั่งของเธอ
“ก็เฉพาะลูกค้าพิเศษ พวกVIP กินแล้วไม่ชอบจ่ายตังเพื่อน” ซาล์กวนกลับ ลาไมยจึงยิ้มกวนกลับบ้าง
“Ruby Bar ชื่อร้านเหมาะกับนายดีนะ หวานแหววเชียว 555” ลาไมยเอาคืนบ้างก่อนที่จะกระดกแก้วหมดช็อต
“โอ้ว โอ้ว ใจเย็นๆคนสวย ถ้าเธอเมาพี่ชายเธอพังร้านฉันแน่ กว่าจะได้ร้านนี้มาฉันแทบตายเลยนะ” ซาล์พูด
“ไม่เมาหรอกน่า แค่ช็อตเดียวเอง” ลาไมยตอบกลับ
“แล้วนี่มาทำไมอะไรแถวนี้ อย่าบอกนะว่ามาเยี่ยมฉัน?” ซาล์ถามเธอ
“แล้วถ้าฉันมาเยี่ยมนาย นายจะเชื่อไหม?” ลาไมยถามกลับ
“ฉันก็จะเล่นงานเธอแล้วถามกลับไปว่าเอานังตัวแสบของฉันไปไว้ที่ไหน” ซาล์ตอบ
“5555 ....เออซาล์ ช่วงนี้นายได้เจอกับผู้ใช้จินหน้าใหม่ๆบ้างไหม?” ลาไมยเริ่มเข้าจุดประสงค์ แววตาของเธอสื่อถึงความรู้สึกได้เสมอ เพราะมันชัดเจนเกินกว่าที่จะซ่อนเอาไว้ได้
“ไม่มีหรอก แต่ถึงมีฉันก็ยังเป็นผู้ใช้จินที่แข็งแกร่งที่สุดในย่านสะพานใหม่อยู่ดี” ซาล์ตอบเธอ
“ได้ งั้นเดี๋ยวฉันโทรหาCSDแป๊บนึง” ลาไมยเล่นคืนบ้าง
“เฮ้ยๆ เดี๋ยวสิ ใจเย็นๆ ....ว่าแต่เหยื่อรายใหม่เหรอ?” ซาล์ดูจริงจังขึ้น
ลาไมยยิ้มหวาน “...... ฉันสัมผัสได้ว่ามันอยู่ใกล้ๆพวกเรา นายก็รู้ดียิ่งเราฆ่าผู้ใช้จินมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น” เธอพูดในขณะที่หันไปมองบรรยากาศของร้าน แม้ในตอนกลางวันก็ไม่เงียบเหงา ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกร้านนี้เพราะสะดวก มีที่จอดรถ พื้นที่กว้าง สามารถรับประทานอาหารพร้อมกับพูดคุยพบปะสังสรรค์กันได้ตามอัธยาศัย
“แค่นี้เธอกับพี่ชายก็แข็งแกร่งพอแล้วนะ แบ่งให้คนอื่นบ้างก็ได้” ซาล์พูด
“แข็งแกร่งอะไรกัน มันยังไม่พอหรอก” ลาไมยหันไปมองหน้าซาล์
“Culum! ขอ 2 ชุด” ซาล์พูดชื่อบางอย่างก่อนที่ร่างพลังงานจะปรากฏตัวข้างกายเขาและเคลื่อนไหวไปที่เคาน์เตอร์บาร์ มันตัวใหญ่สวมผ้าคลุมสีเทามิดชิดคล้ายนักบวชสมัยโบราณ ก่อนที่มันจะอันตรธานร่างของตัวเองกลายเป็นบาร์เทนเดอร์หนุ่มสุดหล่อในอุดมคติของสาวๆ
“ใช้จินโจ่งแจ้งแบบนี้เดี๋ยวก็มีใครมาเห็นเข้าจะซวยกันหมดนะ” ลาไมยกังวลเล็กน้อย
“แล้วมีใครเห็นที่ไหนหละ พนักงานในร้านของฉันไม่มีใครเป็นร่างทรงเลยสักคน พวกลูกค้ายิ่งแล้วใหญ่” ซาล์พูดด้วยท่าทางมั่นใจ
“นายเนี่ยนะ” ลาไมยส่ายหัว Culum เสิร์ฟน้ำสีส้มสดใสน่ารับประทาน 2 แก้วช็อตตรงหน้าทั้งสองคนก่อนที่จะสลายหายไปในร่างของซาล์
“ม็อกเทลสูตรใหม่ของร้าน ฉันอยากให้เธอลองชินดู” ซาล์อธิบาย ลาไมยยิ้มรับไมตรีจากเพื่อน ทั้งสองคนหยิบแก้วช็อตขึ้น
“CHEERS!”
“ปึ้ง!!” ประตูหลังร้านถูกเปิดออก
“โอ๊ยยย ฉันนี่ม่ายไหวเลยเนอะ ดื่มไปสามช็อตเอง เมาซะแล้วว” ลาไมยถูกซาล์พยุงออกมาจากหลังร้าน ร่างกายของเธออ่อนระทวย
“อย่างงี้หละคนดื่มไม่บ่อย ว่าแต่กลับเองได้แน่นะ?” ซาล์หันไปถามเธอ เขาคล้องแขนเธอไว้กลัวเธอจะล้มลงไป
“นี่แกแอบใส่อะไรลงไปในเหล้าของฉันหรือเปล่าเนี่ย?” ลาไมยพยายามประคองสติตัวเองอยู่ตอนนี้
“ใส่อะไรกันหละ พูดจาเพ้อเจ้อ เธอเป็นคนสั่งมันเองนะ ม็อกเทลนั่นก็ไม่ได้ผสมอะไร คออ่อนแล้วอย่ามากล่าวหากันสิ”
“โอ๊ยยยย” ลาไมยถูกซาล์โยนทิ้งลงกับพื้น เธอหลับโดยที่ไม่รู้ตัว สภาพของเธอตอนนี้เหมือนกับสาวขี้เหล้าไร้ราศีสุดๆ
“แต่ฉันลืมบอกเธอไปอย่างว่ะ ม็อกเทลสูตรใหม่ถ้าดื่มเข้าไปหลังกินเหล้ามันจะทำให้เมาทันที” ซาล์แสยะยิ้มด้วยความสมเพศ
“Culum แปลงร่างเป็นนังนี่ แล้วโทรหาพี่ชายของมันซะ ...คราวนี้ถึงตากูบ้าง พวกมึงสองพี่น้องมีพลังมากพอแล้ว” ซาล์พูดจบ ร่างพลังงานของเขาก็อันตรธานกลายเป็นหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้าของเขาทันที ราวกับว่ามันเป็นวิญญาณของเธอ Culum เข้าไปประชิดตัวลาไมยกำลังจะเอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอ จู่ๆไฟปริศนาลุกโชนแผดเผาตัวมันจนต้องสลายหายไป
“อะไรกันวะ!” ซาล์ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า ลาไมยลุกขึ้นยืน สีหน้าและแววตาที่โกรธเกรี้ยวของเธอราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อซาล์ทั้งเป็น
“Skia!” ลาไมยเรียกร่างพลังงานของเธอออกมา มันแผ่ไอร้อนระอุไปทั่วพื้นที่ รุนแรงราวกับว่าทั้งสองคนกำลังยืนอยู่ในนรกอเวจี ซาล์ถึงกับล้มลงไปกองที่พื้นด้วยความกลัว แววตาและสีหน้าของเขาบ่งบอกได้ชัดมากว่าเขากำลังกลัวผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“มึงนึกว่ากูไม่รู้เหรอว่ามึงคิดอะไร มึงเป็นเพื่อนกูทำไมกูจะไม่รู้ว่าสันดานมึงเป็นคนยังไง แต่กูไม่คิดเลยว่ามึงจะลอบกัดกูได้ขนาดนี้ อยากได้มากนักใช่ไหม? !!!” ลาไมยขึ้นเสียงไอร้อยระอุจาก Skia รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“กะ กะ กลัวแล้ววว กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ!!!!” ซาล์สะดุ้งตกใจ สติแตกกระเจิง เขารีบยกมือไหว้ขอโทษ เขานั่งงอเข่าตัวสั่น
“มึงตั้งใจ มึงตั้งใจ! ได้ยินไหม ไอ้ควายย! มึงจำเอาไว้เลยนะ อย่าให้กูเห็นหน้ามึงอีก ไม่งั้น มึง ตาย!!! ไป!” ลาไมยตะคอกเสียงดังลั่น เธอรู้สึกผิดหวัง เสียความรู้สึก แต่ในใจลึกๆแล้วเธอรู้ดีว่าไม่สามารถเชื่อใจใครได้อีก แม้ว่าซาล์จะเป็นเพื่อนคนเดียวและคนสุดท้ายของเธอก็ตาม แต่เขากลับหักหลังเธอ เธอจะไม่มีวันเชื่อใจใครอีกต่อไป Skia ระเบิดเปลวไฟเพื่อขู่ซาล์ให้สะดุ้งตกใจกลัว มันแสยะยิ้มด้วยความปลื้มปริ่มราวกับกำลังลิ้มรสชาติของขนมหวานเกรดพรีเมี่ยม ส่วนซาล์วิ่งเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนต่อไหน ลาไมยสงบอารมณ์ของตัวเองลงพร้อมกับ Skia ที่สลายหายไปในร่างของเธอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ