FARIUS

7.3

เขียนโดย eyetarsz

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 19.05 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,912 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 19.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) กริมส์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
กริมส์
     หลังจากที่โดนเฮลเลนกระทืบจนอ่วม ฟาเรียสก็ค่อยๆ รุดกายขึ้นมาจากดินด้วยสภาพที่สุดแสนจะสมบูรณ์ อดพึมพำเบาแบบเบ๊าเบาไม่ได้
     “ก็ข้าไม่รู้จักจริงๆนี่นา” คำพูดนั้นทำให้เฮลเลนตวัดหน้าหันกลับมามองอย่างรวดเร็ว ก็จะก้าวเท้าอันแข็งแกร่งของเธอฉับๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าฟาเรียส เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
     “หากเจ้าไม่รู้จักมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในทวีปซีเอลโลแห่งนี้ เจ้าก็ไม่สมควรรับปากใครหรือทำอะไรแล้วเฟ้ย!!” อาาาาาา...ช่างเป็นคำพูดที่ผิดกับหน้าตาของนางจริงๆขอรับ
     “ก็ข้าอยู่หมู่บ้านห่างไกลนี่นา แถมแค่ก้าวเท้าออกจากบ้านข้ายังทำไม่ได้เลย พวกคนในหมู่บ้านชอบว่าว่าข้าเป็นตัวอันตราย” อดตัดพ้อเล็กๆไม่ได้ เฮลเลนเห็นท่าทีเหงาหงอยดังนั้นจึงเงียบไป “เอ่อ..ท่านเฮลเลนขอรับ เรากำลังจะเดินทางไปที่ไหนหรือขอรับ” ฟาเรียสถามขึ้นหลังจากที่เขาเดินทางมาเป็นเวลาเนิ่นนาน
     “ก็ข้าบอกแล้วไง ว่าข้าจะให้เจ้าพาข้าไปเรียนที่ซีลเลีย เจ้าต้องรักษาสัญญาสิ” เฮลเลนหันกลับมาพูด ก่อนจะเดินต่อไปเรื่อยๆ นานเข้าฟาเรียสก็เริ่มเหนื่อยเพราะเขาถูกเจ้ากิ้งก่าบ้านั่นขโมยแอปเปิ้ลไป ทำให้เขาไม่มีอันจะกินอยู่แบบนี้ คิดแล้วโมโหจริงๆ
     โครกกกกก
     เสียงท้องของาเรียสดังสนั่นหวั่นไหวราวฟ้าร้องก็ไม่ปาน เฮลเลนหันมามองเขา ก่อนจะหยิบของออกจากสร้อยที่ห้อยคอของเธออยู่ ฟาเรียสมองตามมือของเฮลเลนก่อนจะเห็นว่ามันคือมันคือผลไม้นานาชนิด แค่เห็นก็อยากกินแล้วอ่ะ เฮลเลนเสกผ้าปูสีดำก่อนจะวางผลไม้ลงไปบนผ้าปูนั้น เธอนั่งลงแล้วหยิบผมไม้มากินเหลือบตามองฟาเรียสเล็กน้อยก่อนจะกินต่ออย่างไม่สนใจอะไร
     ฝ่ายฟาเรียสที่เห็นว่าเฮลเลนทำเช่นนั้นก็คิดว่าเธอคงจะแกล้งเขาแล้วกระมัง เขายืนมองเฮลเลนกินอยู่อย่างนั้น ก่อนเธอจะถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมา
     “จะยืนบื้ออีกนานมั้ย หิวไม่ใช่หรือไงห้ะ หรือกินผลไม้ไม่เป็น?” ฟาเรียสอยากจะส่ายหน้าแรงๆ กับข้อกล่าวหานั้น เข้านั่งลงอย่างรวดเร็ว แล้วเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะมีบางอย่างคว้ามันไป เขาจึงหันไปมองก่อนจะพบกับเจ้าอาร์มาดิลตัวเดิม เพิ่มเติมคือมันขโมยของอีกแล้ว!!!
     “เจ้า!!! เมื่อซักครู่เจ้าแย่งแอปเปิ้ลข้าไปผลหนึ่งแล้ว คราวนี้ยังจะแย่งข้าไปอีกงั้นหรือ” เขาเอื้อมมือไปจับแอปเปิ้ลในอุ้งเท้าของอาร์มาดิลตัวนั้น แต่มีหรือที่มันจะยอมให้เขาไปได้ง่ายๆ พวกเขายื้อยุดฉุดแย่งแอปเปิ้ลเพียงลูกเดียว ในขณะที่บนผ้าที่เธอปูไว้มีเป็นสิบ!!! เธองงกับอุปนิสัยของฟาเรียสมากเลย หรือว่าเขาจะเป็นบ้า?
     “นี่เจ้าน่ะ...ข้ายังมีให้อีกนะ ไม่เห็นต้องไปแย่งมันเลย” เฮลเลนเอ่ยบอก เพียงแต่ฟาเรียสไม่สนใจ พยายามเอาแอปเปิ้ลลูกนั้นกลับมาให้ได้ เฮลเลนที่ทนไม่ไหวจึงใช้บาทาอันแข็งแกร่งของเธอไปประดับไว้บนหน้าฟาเรียส(อีกแล้ว) แล้วใช้นิ้วดีดเจ้าอาร์มาดิลนั่นให้ไปอยู่บนหน้าของฟาเรียสอย่างพอดิบพอดี
     “เจ้าหนึ่งตัวกับอีกหนึ่งคนเป็นบ้าอะไร แค่แอปเปิ้ลลูกเดียว แบ่งครึ่งกันก็ได้นี่ถ้าอยากกินขนาดนั้นน่ะ บ้า!!!” วันนี้ฟาเรียสได้ยินคำว่าบ้าจากปากเธอกี่ครั้งกันแล้วนะ ไม่อยากจะนับเลย แต่พอเฮลเลนเสนอทางเลือกนั้นมา เขาจึงแบ่งแอปเปิ้ลเป็นสองซีก ส่งให้เจ้าอาร์มาดิลครึ่งหนึ่ง ให้เขาอีกครึ่งหนึ่ง แล้วหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวก็กินและอยาร่วมกันอย่างสงบสุข แฮปปี้เอนดิ้ง
     “เมื่อซักครู่ข้าคงทำรุนแรงกับท่านมากเกินไป ขออภัยด้วย” ฟาเรียสหันหน้าเข้าหาอาร์มาดิลตัวนั้นก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจัง เจ้าอาร์มาดิลเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฟาเรียสก่อนที่ทั้งสองจะมองกันอย่างลึกซึ้งมีความหมาย จนเฮลเลนอดคิดไม่ได้ว่าฟาเรียสจะเป็นคนบ้าจริงๆ อย่างที่เธอกล่าวหาเขาหรือไม่
     “ข้าขอตั้งชื่อให้ท่านเลยก็แล้วกัน” เฮลเลนที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มถึงกับพ่นออกมาดังพรวด เธอมองฟาเรียสอย่างอึ้งๆ นี่มันคิดจะเอาอาร์มาดิลที่เอาแต่ใจ เลี้ยงยากแถมชอบทำตัวจู้จี้น่ารำคาญเป็นที่สุด เอามันมาเลี้ยงเท่ากับว่าต้องตกเป็นทาสมันนะเห้ยย เอาจริงดิ “นี่ๆ ท่านเฮลเลน ข้าขอเลี้ยงอาร์มาดิลตัวนี้ได้หรือไม่ขอรับ”
     ฟาเรียสหันปส่งสายตาอ้อนวอนเฮลเลน เธอถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า เขายิ้มกว้างให้เธอก่อนจะหันไปดูเจ้าอาร์มาดิลว่ามันเป็นเพศอะไร หลังจากที่ลูบๆคลำๆดูซักพัก เขาจึคิดเองเออเองเลยละกันว่ามันเป็นตัวเมีย ก่อนจะทำหน้านึกชื่อแล้วตะโกนออกมาดังลั่น
     “ข้านึกออกแล้ว ท่านชื่อ ‘ออเดรย์’ นะขอรับ!!” อาร์มาดิลที่ได้ยินชื่อเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของใหม่เล็กน้อย ก่อนจะสะบัดหน้าไปกินแอปเปิ้ลต่อ แต่ฟาเรียสกลับคิดว่าสัตว์เลี้ยงที่ตนได้มาใหม่พยักหน้าพึงพอใจซะงั้น
     “นี่ๆ ท่าเฮลเลน เราจะไปที่ซีลเลียตอนไหนหรือขอรับ” ฟาเรียสที่อุ้มออเดรย์ขึ้นมาเกาะไว้บนไหล่เขาทักถามขึ้น
     “ตอนนี้...เดี๋ยวนี้เลยด้วย ข้าอยากไปเที่ยว” กล่าวจบหญิงสาวก็เร่งจำอ้าวไปอย่างรวดเร็ว จนฟาเรียสที่เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามไป
     “รอข้าด้วยขอรับ!!!”
     .
     .
     .
     กรร!
     ก่อนที่ฟาเรียสและเฮลเลนจะออกวิ่ง เขาก็มีความรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของสัตว์ขู่ แต่พอเขาหันไปรอบๆกายกลับไม่พบอะไร จึงไม่ได้ใส่ใจสิ่งนั้น แล้ววิ่งตามเฮลเลนต่อไป
     พวกเขาสองคนวิ่งตามกันมาจนเวลาพลบค่ำ เฮลเลนเห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น
     “ข้าว่าเราพักกันก่อน แล้วค่อยไปกันต่อเถอะ” ฟาเรียสที่ได้ยินดังนั้นจึงเตรียมพร้อมที่จะล้มกายลงนอน แต่ขณะที่หัวเขากำลังจะถึงพื้นนั้น เฮลเลนกลับกระชากเขาขึ้นมาเสียก่อน ก่อนจะดึงเขาเข้ามาหลบด้านหลังเธอ
     ฟาเรียสมีท่าทีงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะเบิกตากว้าง เมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาสองคนกับอีกหนึ่งตัวคือ ‘วูฟาเวีย’ หรือ
     ‘หมาป่าอสูร’ ถึงแม้เขาจะไม่เคยออกจากหมู่บ้านแต่เขาก็อ่านหนังสือมามากจนพอจะรู้ว่ามันคือตัวอะไร
     “ท่านเฮลเลนขอรับ ปกติวูฟาเรียจะอยู่แถบตรงที่ข้าเจอกับท่าไม่ใช่หรือ เหตุใดมันจึงมาอยู่แถวนี้เล่าขอรับ” เอ่ยถามอย่างงุนงง เฮลเลนไม่ตอบอะไร เพียงแต่หญิงแส้ที่เธอใช้ตอนฟาดใส่ฟาเรียสขึ้นมา ก่อนจะตั้งท่าพร้อมโจมตี
     “อยู่เงียบๆไป อย่าขัดสมาธิข้า...เข้าใจไหม!!” คำพูดที่เหมือนจเป็นประโยคคำถาม แต่กลับเป็นประโยคคำสั่งที่เขาต้องตอบว่าเข้าใจเพียงเท่านั้น ฟาเรียสพยักหน้าเล็กน้อย วูฟาเรียที่เห็นช่องโหว่จึงกระโจนใส่หวังจับสองคนนี้เป็นอาหารในทันที แต่เฮลเลนเร็วกว่า เธอตวัดแส้ใส่หมาป่าอสูรตัวนั้น จนมันร้องครางหงิงๆ อย่างขอความเห็นใจ เพราะโดยปกติแล้วนั้น วูฟาเรียเป็นสัตว์อสูรที่รักสันโดษ ชอบอยู่คนเดียว โดดเดี่ยว ไม่ชอบสุงสิงกับคัวอื่น หากมีครอบครัว ก็จะเลี้ยงดูลูกจนพอจะดูแลตัวเองได้แล้วก็จะปล่อยลูกไป
     เฮลเลนเห็นดังนั้นจึงจะฟาดแส้ลงไปอีกคราหวังที่จะตัดหัวเจ้าหมาป่าอสูรนี่ทิ้ง แต่ฟาเรียสกลับวิ่งมาขวางเอาไว้ พร้อมตะโกนอย่างสุดเสียง
     “อย่าฆ่ามันเลยนะขอรับท่านเฮลเลน” ครั้นเจ้าวูฟาเรียเห็นฟาเรียสเข้ามาขัดเช่นนั้นแล้ว จึงคิดว่าเอาหมอนี่เป็นเหยื่อเนี่ยแหละ ดีสุด ‘เจ้าโง่เองนะเจ้ามนุษย์’ วูฟาเรียกระโจนเข้าหาฟาเรียสอย่างรวดเร็วก่อนจะงับร่างของฟาเรียสแล้ววิ่งหายเข้าไปในป่า
     เฮลเลนที่เห็นฟาเรียสถูกจับตัวไปเช่นนั้นก็ยอมไม่ได้ ไล่ตามวูฟาเรียไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหมาบ้านั่นกล้าดีอย่างไร มาขโมยตัวการสำคัญที่จะพาเธอไปเที่ยวที่เมืองซีเอลโล อย่าหวังเลยว่าจะรอด ไอ้หมาบ้า(ฟาเรียส) นั่นก็อีกคน เป็นบ้าอะไรไม่รู้ อยู่ๆ ก็เข้ามาขวาง ไม่โง่ทำไม่ได้นะบอกก่อน
     ฝ่ายวูฟาเรียที่เห็นว่าเฮลเลนไล่ตามมา มันก็เร่งสปีดตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะต้องเบรกดังเอี๊ยดเมื่อข้างหน้าขอมันคือต้นไม้ขนาดใหญ่ หากไม่หลบคงมีมึนกันไปข้าง เป็นเหตุทำให้เฮลเลนไล่ตามอยู่ตามมาทัน ฟาเรียสเห็นเธอเตรียมฟาดแส้ลงมาจึงเอ่ยอีกว่า
     “ท่านเฮลเลนขอรับ เลี้ยงเจ้านี่อีกตัวได้มั้ย ข้าเคยอ่านว่าหากทำพันธะสัญญากับสัตว์อสูรพวกนี้ พวกมันก็จะไม่ทำร้ายเราน่ะขอรับ” มันจะรับเลี้ยงสัตว์อีกแล้วหรอฟะ?! คิดว่าเธอเปิดบ้านรับอุปถัมภ์สัตว์หรือไง 
     “เจ้าคิดหรือว่ามันจะยอมทำพันธะสัญญากับเจ้าน่ะ ห้ะ?!” เธอแทบจะตะโกนใส่หน้าของฟาเรียส แต่ฟาเรียสกลับพูดในสิ่งที่ทำให้เจ้าหมาป่าอสูรต้องยอมจำนนแต่โดยดีนั่นก็คือ
     “ถ้าหากว่าเขาไม่ยอมรับข้าเป็นนาย ก็ให้ท่านฆ่าทิ้งได้เลยขอรับ” เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มอันแสนน่ารักแต่กลับทำให้หมาป่าอสูรสะดุ้งเฮือก ส่งกระแสจิตบอกเฮลเลนด้วยความรวดเร็ว
     ‘ข้ายอมรับทั้งท่านแล้วก็เขาเป็นนาย ได้โปรดอย่าหวดแส้ใส่ข้าอีกเลย แงงงง’ บางครั้งเฮลเลนก็คิดว่าเจ้าหมาป่านี่ปัญญาอ่อน
     หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วว่าฟาเรียสและเฮลเลนจะเป็นนายของตน ทั้งสามจึงเริ่มทำพันธะสัญญากันโดยมีออเดรย์ร่วมเป็นสักขีพยาน ขั้นตอนในการทำพันธะสัญญานั้นไม่มีอะไรมาก แค่กรีดเลือดของกันและกันลงในพาชนะเพื่อไว้ผสม จากนั้นก็เทใส่ขวดเล็กๆ ตามจำนวนผู้ที่ทำพันธะสัญญา แล้วร่ายเวทย์ ซึ่งในส่วนนี้เฮลเลนเป็นผู้ทำแต่เพียงผู้เดียว เพราะอีกสองคนนั้นไม่น่าจะทำได้ ก่อนจะเก็บไว้กับตัวคนละขวดเป็นอันจบพิธี
     “งั้นท่านก็ต้องมีชื่อสินะ...อืมมม ท่านเป็นหมาป่าอสูร แถมยังเป็นตัวผู้...งั้นชื่อ!!!” ก่อนที่ฟาเรียสจะเอ่ย เฮลเลนกลับเอ่ยขัดเสียก่อน
     “กริมส์ เจ้าชื่อกริมส์ละกันนะ” ฟาเรียสที่ถูกเอ่ยขัดทำหน้าไม่พอใจ จะเอ่ยขัด แต่พอเห็นสายตาของเฮลเลนแล้วทำเอาเขาหุบปากลงแทบไม่ทัน เจ้ามาป่าอสูรที่ได้ยินชื่อใหม่นั้นก็กระโดดดีใจ โถมตัวเข้ามากอดเฮลเลนด้วยความรักจนนางล้มตึงลงไป
     ‘ขอบคุณขอรับเจ้านาย ฮี่ๆ’ กระแสจิตถูกส่งมาจากกริมส์อีกครั้ง ทำเอาเฮลเลนคิดในใจ ‘มันน่าจะชื่อหมาบ้ามากกว่ามั้ง’ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ก่อนจะนึกขึ้นได้
     “นี่กริมส์ ข้ามีภารกิจแรกให้เจ้าทำ” เฮลเลนพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัวในความคิดของฟาเรียส ก่อนเธอจะเอ่ยต่อ “พาพวกข้าสองคนไปที่อาณาจักรซีเอลโลเดี๋ยวนี้!!” ออกคำสั่งอย่างน่ากลัว กริมส์ขานรับอย่างแข็งขัน ก่อนจะช้อนเจ้านายใหม่ทั้งสองขึ้นสู่หลังแล้ววิ่งไปยังอาณาจักรซีเอลโลอย่างรวดเร็ว
     ไม่นานกริมส์ก็พอเจ้านายใหม่ทั้งสองของตนมาถึงหน้าซุ้มประตูที่เขียนว่า ‘อาณาจักรซีเอลโล’
หลังจากที่มาถึงหน้าซุ้มประตู เฮลเลนก็ดีใจกระโดดลงจากหลังหมาป่าอสูร ก่อนจะเดินเข้าซุ้มประตูด้วยสีหน้าเบิกบานใจ ฟาเรียสจึงอุ้มออเดรย์ขึ้นมาแล้วลงจากหลังของกริมส์ ปล่อยให้มันเดินตามหลังพวกเขาเข้าไปในซุ้มประตูบานใหญ่นั่น
     พอพวกเขาก้าวผ่านซุ้มประตูไป ทำให้พวกเขานั้นอึ้งมาก เพราะสภาพด้านนอกที่พวกเขาจากมานั้นต่างจากสภาพด้านในนี้มาก ฟาเรียสตาโตอ้าปากค้าง พวกเขาทั้งสามค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ โดยมีออเดรย์นอนเกาะอยู่บนใหล่ของฟาเรียสอย่างสบายใจก่อน เฮเลนจะรู้สึกว่ารอบข้างนั้นเงียบลง จึงละสายตาจากสิ่งที่มองอยู่ แล้วหันมามองรอบข้างตัวเองแทน พอเฮลเลนหยุดมอง ฟาเรียสก็หยุดมองเช่นกัน ก่อนที่ผู้คนรอบข้างจะพากันคุกเข่าลงแล้วก้มหน้า ในคราแรกทั้งฟาเรียสและเฮลเลนต่างงุนงง คิดว่าชาวบ้านนั้นก้มหัวคุกเข่าให้พวกเขา แต่สายตาของฟาเรียสกลับมองเห็นกลุ่มคนที่กำลังเดินมาทางพวกเขา พร้อมกับเสียงของผู้คนที่กำลังก้มหัวอยู่
      “ท่านราฟาเอลจงเจริญ!!” เอาตรงๆ จากใจของฟาเรียส ‘ใครวะขอรับ!!’
     ...
     ..
     .
สติไม่มีจริงๆนั่นแหละเจ้าค่ะ 5555

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา