ปาฏิหาริย์รัก ดินแดนต่างมิติ

7.0

เขียนโดย โองะเคจิ

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 10.02 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,790 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 10.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) การพบเจอของเราสองคน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ท่านริวจิ เรารอการมาขอท่านอยู่ ได้โปรดมาช่วยเราด้วย ท่านริวจิ”

เสียงที่เรียกผมอยู่นั้น มันดูเศร้าและเจ็บปวด แต่ทำไมต้องเป็นเราด้วยนะ และ ผมที่นอนอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนได้นอนหมุนไปหมุนมาจน

“โอ๊ย... เจ็บ”

เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดโดยที่เกิดจากการตกจะที่สูง ก็ตื่นขึ้นมาโดยทันที พร้อมกับเสียงประกาศได้ดังขึ้น

“ขอประกาศในนักเรียนที่จบการศึกษาได้มารวามตัวกันที่หอประชุมด้วยค่ะ”

ผมที่ตื่นขึ้นมาก็นึกได้ว่า วันนี้ผมเรียนจบแล้วนินะ นั้นสินะ ชีวิตของ นักเรียน ม.ปลายก็ได้จบลงแล้ว

“ริวจิ นายไปไหนมา พวกเราตามหายแกตั้งนาน”

ผมที่เดินมาจากดาดฟ้าก็ได้เจอกับ เพื่อนๆที่กำลังจะเดินไปที่หอประชุมก็ได้ถามผมด้วยที่หายผมไม่เจอ

“ไปนอนเล่นมานะ นี้ก็พึ่งจะตื่นนะนิ”ผมได้ตอบคำถามพร้อมกับเกาหัวไปด้วย

“หรอ ให้หาตั้งนาน แต่แกกลับไปนอนนินะ เจ๋งวะ” ผมที่ตอบคำถามนั้นไป เพื่อนผมก็ตอบกลับด้วยการประชดหน่อยและพวกผมก็เดินไปที่หอประชุมต่อ หลังจากที่ผมได้เจอเพื่อนและพากันเดินไปที่หอประชุม ให้หอประชุมที่คนพากันนั่งเป็นแถวตามที่ ได้จะที่นั่งไว้

“ยินดีกับนักเรียนที่จบทุกคนด้วยนะ ที่ได้เรียนจบจากที่แห่งนี้ไป ครูก็ขอให้นักเรียนทุกคนเจอแต่สิ่งดีๆนะ”

หลังจากที่ผู้อำนวยการพูดจบก็ได้เริ่มการมอบเกียรติบัตรและเอกสารจบหลังจากนั้นก็มีการกล่าวอำลาจากรุ่นน้อง

หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกับกัน ผมที่ได้เดินแยกออกมาจากกลุ่ม ผมเดินมาจากโรงเรียนก็คิดเรื่องของคำพูด เมื่อตอนเช้า เสียงที่เรียกผมนั้นเป็นใคร และ มาจากไหน ผมที่กำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ก็ได้เดินมาจนถึงนะ ตึกแห่งนึ่ง นั้นคือ ที่อยู่ของผมเอง พ่อแม่ผมไปทำงานต่างประเทศเลยไม่ได้กลับมา ผมเลยอยู่คนเดียวนะ แต่พ่อแม่มักจะส่งของอะไรต่างๆมาเป็นของฝากนะ จนห้องผมจะเป็นที่เก็บของโบราณวัตถุแล้ว

“มาดูสิวันนี้มีอะไรน่าทานบ้าง” ผมที่กำลังเดินไปที่ห้องครัวนั้นก็มีกล่องขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น มันดูขนาดความยาวเท่าผมและหน้าหลังก็แบนๆ คงจะเป็นของฝากจากพ่อแม่อีกตามเคย แต่มันมาอยู่กลางบ้านได้ไงนิ ปกติมันจะอยู่หน้าประตูทางเข้านิ เอาเป็นว่าเดียวคอยถามคนดูแลอีกทีละกัน

“ส่งอะไรมาอีกนะ แกะดูก่อนละกัน คงเป็นของเก่าอีกชิ้นละมั่ง” ผมได้ลงมือแกะดูของข้างใน ตอนนั้นเองของข้างในนั้นมันเป็นกระจกบานใหญ่ตัวกรอบกระจกเป็นลายเถาวัลย์ ดูสวยมาก มันน่าจะเป็นของเก่าแก่แน่เลย

“เอ๋ มีอะไรเขียนอยู่ด้วย” ผมที่กำลังดูลายของกระจกอยู่นั้นก็ได้เห็นมีข้อความเขียนไว้ด้านล่างของกรอบ “ กระจดเอ๋ย จงแสดงสิ่งที่อยู่หลังกระจกนี้ แด่ผู้ที่เลือกด้วยเทิด

 ผมที่พูดตามนั้น จู่ๆแสงก็ออกจากกระจก และ ตอนนั้นเองกระจกก็ได้ไปติดอยู่ที่ผนังห้องนั่งเล่น แล้วได้สะท้อนภาพของทุ่งหญ้าแห่งนึ่ง ที่กว้างสุดสายตา ผมจึงได้จะยืนมือไปจับที่กระจก จังวะนั้นเอง กระจกได้ดูดผมเข้าไป รอบตัวผมก็เป็นสีขาวโพลน สติของผมก็เริ่มช้าๆลง

“$.....@....”เสียงใครกัน ใครเรียกผมอยู่ และนั้นภาษาอะไร และ ตอนที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆเสียงของคนที่เรียกผมนั้นก็เริ่มเป็นภาษาที่ผมเข้าใจแล้ว

“นี้เจ้าตื้นเดียวนี้นะ ข้าบอก....ให้....ตื่น”จู่ๆเสียงที่กำลังเรียนผมนั้นก็กลายเป็นมีอะไรบ้างอย่างมาโดนที่หน้าผม มันคือน้ำ เสียงเด็กสาวจบไปก็มีน้ำมาโดนที่หน้า

“เฮ้อ เกิดอะไรขึ้น” ผมที่โดนน้ำราดที่หน้าก็ได้ตื่นขึ้นโดนทันที และด้วยตกใจก็เอยถามเพื่ออยากรู้เหตุผล

”เกิดอะไรขึ้น และ เธอเป็นใคร” ผมหันไปถามคนที่อยู่ข้างๆผม

“ฉันสิ คงถาม จู่ๆเจ้าก็ตกลงมาที่บ้างข้า” เด็กสาวก็ได้อธิบายให้ฟังแบบโมโหนิดๆ

“ผมหรอตกลงมา และที่นี้ที่ไหน และ เธอเป็นใคร” ผมหันมองรอบๆและหันไปถามเธออีกรอบ

“เจ้าตกมาจากฟ้า นี้บ้านข้า ข้าชื่อ ริน เป็นมนุษย์ อาศัยอยู่ที่ เขาแห่งนี้ “ รินได้อธิบายแบบละเอียด

“งั้นหรอ ผมจำอะไรไม่ได้เลย ผมจำได้แต่ว่า ผมกำลังดูกระจกอยู่และพอจับมัน หลังจากนั้นก็ได้มาเจอเธอนิละ” หลังจากที่ผมอธิบายสิ่งที่ผมจำได้ รินก็มาหน้าผมก่อนที่จะ เดินไปที่ห้องด้านหลัง และ สักพัก ก็เดินมาพร้อมกับ น้ำและขนมปังนึ่งก้อน

“กินซะ และ เล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น” หลังจากที่รินพูดเสร็จก็ได้ กลับไปนั่งที่เก้าอี้

“นี้ให้ผมกินหรอ” ผมหันไปถาม

“เออสิ มีเจ้าคนเดียวนิ ไม่ใช้เจ้า และ ข้าจะให้ใคร” รินนั้นมาดุผม และ หันกับไปอ่านอะไรบ้างอย่าง หลังจากที่ผมทานขนมปังเสร็จ ผมจึงเล่าเหตุการณ์ ให้รินฟัง

ไม่ว่าจะเรื่อง ผมเป็นใคร มาจากไหน และเกิดอะไรขึ้น รินฟังผมไปด้วยสลับกับเขียนไปด้วย ดูเหมือนเธอคนนี้จะเป็น นักเขียนไม่ก็นักวิจัยอะไรประมาณนี้นะ ผมก็เล่าไปได้สักพัก ริมก็เดินมาที่ผมและพูดว่า

“นี้ เจ้ามาจากต่างโลกหรอ ข้าไม่เคยคิดเลยนะ ว่าจะมีใครมาจากต่างโลกจริงๆ เจ้าชื่อ ริวจิสินะ “

“ใช้ ผมชื่อ ริวจิ อายุ 18 ปี “ผมได้แนะนำตัวอีกครั้ง

“ข้าชื่อ ริน เป็นนักวิจัยของเมืองหลวงนะ อายุ ข้าก็ดูจากเจ้าแล้ว ข้าคงจะเป็นพี่เจ้านะ”

“ผมจะได้กลับโลกเดินได้ไหมนิ “ผมที่กำลังคิดหนักเรื่องจู่ๆตัวเองมาต่างโลกได้ไง

คิดและก็คิดไม่ออกเลย “งั้นเจ้ามากลับข้าสิ ข้าจะพาไปหาที่จะให้คำตอบเจ้าได้

” รินได้บอกผมให้ไปกลับเธอ เธอจะพาไปหาคนที่สามารถหาทางกับโลกของผมได้

“แต่วันนี้เจ้าต้องนอนที่นี้นะ และพรุ่งนี้ออกเดินทางกัน แต่เจ้าช่วยเล่าเรื่องของโลกเจ้าให้ข้าฟักด้วยนะ” ผมก็ได้เล่าทุกเรื่องที่ผมเรียนมาจากโรงเรียน

ไม่ว่าจะในตำราหรือนอกตำราก็ตาม เล่าไปก็อดจะคิดไม่ได้ว่าทำไมมันถึงไม่รู้สิกลัวเลย กลัวที่ได้มาต่างโลกแบบนี้ ผมเล่าจนตัวเองได้หลับไป มันเป็นการนอนที่นานที่สุดของวันนี้เลย

“ริวจิ ตื่นได้แล้ว” เสียงของริวที่เรียกผม

“อ่า เช้าแล้วหรอ “ผมที่ตื่นขึ้นมาก็ได้ เดินไปล้างหน้าที่บ่อน้ำ

“ริวนี้ ชุดเปลี่ยนของเจ้า” รินบอกผม พร้อมกัน เอาชุดเสื้อผ้ามาให้ พร้อมกับ เครื่องป้องกัน ผมจึงหันไปถามว่า

”เอานี้ผมทำไม” ผมอดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องใส่ด้วยนะ

“ก็เราจะเดินทางกันไปที่เมืองหลวงกันไง “ รินตอบผมพร้อมกับแต่งตัวเต็มชุด

“แต่เราต้องใช้เวลา 2 อาทิตย์ กว่าจะถึง” รินหันมาบอกผม

“เหอะ 2 อาทิตย์เลยหรอ แล้วเราจะเดินทางอย่างไง” ผมตกใจ เพราะมันนานมากเลยนะ การเดินทางไปเมืองหลวงนะ มันพอกับผมไปเที่ยวรอบโลกได้เลยนะ

“เราจะนั่งม้าไปกันนะ ข้าจอดมันไว้ข้างนอกแล้ว “ผมได้ยินแบบนนั้นก็ได้ วิ่งไปดู รถม้าจริงด้วย มันมีขนาดใหญ่พอสมควรนะ

แถวมีสัตว์ตัวแปลกๆด้วย มันเหมือนนกกระจอกเทศ แต่มันตัวใหญ่มากเลยนะ

“เจ้านั้นมันเรียกว่า นกบิ๊กมาด มันเป็นสัตว์ของโลกนี้นะ ใช้ไว้ลากรถทุกชนิดเลยนะ” หรอ สัตว์ของโลกนี้สินะ

“มันชื่อเล่นว่า มิมิ น่ารักนะ ข้าเจอมันบาดเจ็บในป่านะ เลยเก็บมาเลี้ยง และใช้งานได้ดีเลยนะ” อะไรของ เขานะ น่ารักหรอ ความน่ารักของที่นี้ น่ากลัวจัง ผมที่ฟัน ริน อธิบายเสร็จก็ได้ไป แต่งตัวตามที่ยัยนั้นเอามาให้ แต่ไปเอามาจากไหนนะ มันดูเก่าๆจัง หลังจากนั้นผมกับรินก็พากันเก็บของและนำไปขึ้นรถม้า(นกสิมิว่า) ก็มีพวกของกินและอุปกรณ์ต่างๆ จากนั้นทุกอย่างก็เสร็จกันทั้งหมด เราก็เริ่มออกเดินทาง

“นี้ ริว เจ้าต่อสู้เป็นไหม” รินหันมาถาม “ก็พอได้นะ เคยฝึกเคนโด กลับ คาราเต้ มานะ

“ผมตอบกลับไป “เคนโดหรอ มันคืออะไรหรอ” ลืมไป ยัยนี้ไม่รู้จักนิ

“มันเป็นวิชาป้องกันตัวนะ” ผมก็ได้อธิบายให้รินฟัง “หรอ ก็ดีนะ เพราะโลกนี้มัน มีทั้งคนไม่ดี ไหนจะมอนสเตอร์อีก เจ้าควรจะฝึกไว้มากๆนะ “

ผมถึงกลับอึ่งนิดๆเลยนะ จริงด้วยเราควรฝึกให้เก่งๆดีกว่า 

หลังจากนี้ผมก็เดินทางกันต่อไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา