หวานใจสาวนักดริฟ

-

เขียนโดย ไอติมโคนนี่

วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.00 น.

  11 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2561 17.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ตอนที่ 6 ตกหลุมรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 6 ตกหลุมรัก

 

            หลังจากที่คุยกันเสร็จ คนหน้าคมก็มาเปลี่ยนชุดเป็นบีกินี่ และออกไปเผยเรือนร่างแก่ทีมงาน และยังมีอีกสายตาคู่หนึ่งที่ยังตามมา กำลังมองมาที่เรือนร่างคนหน้าคมที่เผยทรวดทรงอันสวยงาม

            “ทำอะไรอ่ะ!?” วรภพทักถามสายตาคู่นั่นที่กำลังจ้องมองคนหน้าคม

            “ปะ..เปล่าค่ะ” คนหน้าหวานรีบเดินหนีออกไป

            คนเป็นพี่ชายจึงเดิมตามร่างคนหน้าหวานไป เห็นในสายตากับรู้แล้วละว่าเป็นอะไร ก็เล่นจ้องมองซะขนาดนั้น

            คนหน้าคมที่กำลังพักอยู่ เปลี่ยนชุดบิกินี่เป็นอีกแบบสวมเสื้อคุมเดินออกมาตามหาคนหน้าหวานที่ตนนั้นยังไม่ได้คุยอะไรกันเป็นการส่วนตัว นึกคิดถึงเรือนร่างที่วันนี้จะได้เห็นอีกครั้ง เดินออกมาตามชายหาดก็เจอคนหน้าหวานนั่งเล่นทรายอยู่

            “เมลคะ” คนหน้าหวานที่กำลังเล่นทรายเงยหน้ามองคนหน้าคม

            “มีอะไรคะ?” คนหน้าหวานยืนขึ้นปัดทรายออกจากมือ

            “พี่คิดถึงเมลค่ะ ไม่ไปดูพี่ถ่ายแบบเหรอคะ” คนหน้าคมยิ้มให้

            “เหรอคะ ฉันว่าคุณน่าจะคิดถึงพี่ชายฉันมากกว่านะ ไปชวนพี่ชายฉันไปดูคุณเถอะค่ะ” คนหน้าคมรับรู้ถึงน้ำเสียงติดหงุดหงิดของคนหน้าหวาน จึงเข้าใจว่าคงจะเห็นตอนคุยกันสองคน คนหน้าคมยิ้มออกมา ทำให้คนหน้าหวานทำหน้างง

            “คุณยิ้มอะไร?”

            “แค่ดีใจอะไรนิดหน่อยค่ะ ไปดูพี่ถ่ายแบบดีกว่าค่ะ” คนหน้าคมพูดปัดๆไป แล้วจึงคว้ามือคนหน้าหวานขึ้นมาสัมผัสที่แก้มตัวเอง แล้วจึงเดินไปยังที่ถ่ายแบบ การกระทำของคนหน้าคมตะกี้ทำให้คนหน้าหวานรู้สึกเขินขึ้นมาหน่อยๆ

            คนหน้าคมดันตัวคนหน้าหวานให้นั่งลงบนตัวเก้าอี้ ที่ที่สามารถมองเห็นตนทำงานได้ชัด คนหน้าคมที่เปลี่ยนชุดถ่ายใหม่เรียบร้อยแต่แรกแล้วจึงถอดเสื้อคลุมต่อหน้าคนหน้าหวาน และส่งรอยยิ้มหวานเยิ้มมาให้ ทำให้คนหน้าหวานถึงกับทำหน้าเหวอ เมื่อเห็นชุดที่คนหน้าคมใส่ มันเซ็กซี่กว่าตัวเมื่อกี้เยอะมาก

            คนหน้าหวานนั่งดูการถ่ายแบบ หน้าตัวเองก็รู้สึกร้อนตลอดเวลา เพราะการขยับร่างกายแต่ละส่วนมันเซ็กซี่ไปหมด

            ในระหว่างนั้นวรภพที่เห็นว่าน้องสาวตนนั้นคงเริ่มจะสนใจเซนย่าบ้างแล้ว ตนจึงเดินเล่นตามชายหาด แต่มาเจอกับสิริกาญที่กำลังคุยโทรศัพท์และวางสายพอดี ทำให้หันหน้ามาชนกับวรภพเข้า ในความสูงที่ต่างกัน ปากวรภพจึงสัมผัสเข้ากับหน้าผากสิริกาญ จนต้องถอยออกมาขอโทษ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตัวแข็งทื่อไปซะแล้ว

            “คุณกาญ” วรภพเรียกเมื่อไม่มีการตอบรับ จึงเรียกอีกครั้ง

            “คุณกาญครับ”

            “คะ..คะๆ” สิริกาญที่ได้สติจึงขานรับ

            “ผมขอโทษนะที่ทำให้คุณตกใจ เห็นคุณคุยโทรศัพท์เสร็จพอดี กะจะชวนไปเดินเล่นด้วยกัน”

            “อ่อ ค่ะ” วรภพมองหน้าสิริกาญที่ก้มหน้ากำลังเขินอาย ดูๆไปก็น่ารักดี

            “ตกลงไปเดินเล่นกับผมมั๊ยครับ”

            “คงไม่ได้หรอกค่ะ คือฉันต้องกลับไปดูเซน อีกสักพักคงจะเสร็จแล้ว ต้องไปดูซะหน่อย”

            “ครับๆ”

            ทางคนหน้าคมที่ถ่ายงานเสร็จเรียบร้อย กล่าวขอบคุณทีมงานทุกๆคน จึงเดินมาหาคนหน้าหวานที่เผลอหลับไปซะแล้ว หันไปเห็นผู้จัดการสาวเดินตรงมาพอดีจึงขอให้อยู่ดูคนหน้าหวานก่อน

            “พี่กาญคะ ช่วยดูเมลให้ก่อนนะคะ จะไปเปลี่ยนชุดก่อน”

            “จ้ะๆ”

            “ทำไมพี่กาญหน้าแดงๆจังคะ” สิริกาญที่ยังเขินอยู่รีบนำมือมาปิดแก้มตนเอง

            “คงเพราะร้อนๆมั้ง แดงมันแรงน่ะ”

            “ค่ะ เดี๋ยวจะรีบมานะคะ” คนหน้าคมจึงรีบวิ่งไปเปลี่ยนใส่เสื้อผ้า

            ส่วนคนหน้าหวานที่หลับตาอยู่ ค่อยๆลืมตาขึ้น เมื่อได้ยินเสียงทีมงานเก็บอุปกรณ์ รีบดีดตัวขึ้นนั่งมองไปรอบๆก็เจอกับผู้จัดการของคนหน้าคมเข้า

            “ตื่นแล้วเหรอคะ?”

            “ค่ะ ถ่ายเสร็จกันแล้วเหรอคะ?”

            “ใช่ค่ะ เดี๋ยวเซนมา รออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ” ผู้จัดการสาวจึงขอตัวไปทำธุระตนต่อ

            คนหน้าคมที่เปลี่ยนชุดเสร็จกำลังรีบเดินมาหาคนหน้าหวาน เมื่อเห็นว่าตื่นแล้วคนหน้าคมคิดว่าตอนแรกกะจะอุ้มพาไปนอนบนห้อง แต่ในเมื่อตื่นแล้วควรจะพาไปเล่นน้ำทะเลดีกว่า จะได้เห็นหุ่นอันน่ามองอีกครั้ง

            “เมล ไปเล่นน้ำทะเลกันเถอะค่ะ”

            “แต่คุณเพิ่งทำงานเสร็จเองนะคะ คุณควรจะพักสิคะ” คนหน้าคมได้ยินอย่างนั้นจึงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหู

            “พี่น่ะแรงเยอะ ไหวอยู่แล้วค่ะ” ด้วยคำพูดและเสียงที่ชวนคิดลึกทำให้คนหน้าหวานหน้าร้อนขึ้นมา

            “คุณ!!” คนหน้าหวานดันคนหน้าคมออก เผยให้เห็นรอยยิ้มคนหน้าคม

            “ไปเปลี่ยนชุดกันดีกว่าค่ะ” คนหน้าคมชวน

            “ก็ได้ค่ะ”

            ทั้งคู่จึงแยกย้ายกันไปเปลี่ยนชุด และค่อยมาเล่นน้ำทะเลกัน ทางฝ่ายพี่ชายคุยกับพ่อตนอยู่ที่เตียงชายหาดริมทะเล

            “ทำไมมาอยู่นี่ละ ไม่ไปหาหนูเซนเขา”

            “ผมไม่มีทางรักเซนได้หรอกครับ” วรภพกล่าวอย่างนั้นทำให้ผู้เป็นพ่อต้องถอนหายใจออกมา

            “ทำไมล่ะ เพราะอะไรกัน พ่อคิดว่าเราสองคนจะเข้ากันได้ซะอีก”

            “ผม...” วรภพอ้ำอึ้งพูดไม่ออก จึงเผลอพูดออกไป “มีคนที่ชอบแล้วครับ”

            “ใครกันละ พามาดูตัวหน่อยแล้วกันนะ” คนเป็นพ่อส่ายหัวเบาๆ ถึงจะอยากให้คู่กับเซนย่า แต่เขาก็ไม่อยากบังคับลูกตัวเอง

            “ครับ” วรภพรับปากก่อนจะเดินแยกออกไป

            ในขณะที่สองสาวกำลังจะลงเล่นน้ำก็มีสองชายหนุ่มเดินโซเซเข้ามาหา กลิ่นเหล้าพัดโชยมาให้ได้กลิ่น พยายามชักชวนให้ไปด้วยกันการกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาคุณกิตติ

            “น้องสาวสองคนไปกับพวกพี่ดีกว่านะจ๊ะ” ชายที่มีหนวดเคราเดินเข้ามาจะจับมือคนหน้าหวาน แต่คนหน้าคมเข้ามาปัดมือชายคนนั้นออก แล้วดันคนหน้าหวานให้มาหลบข้างหลัง

            “นี่คุณอย่ามายุ่งกับพวกเรา อย่าหาว่าไม่เตือน” คนหน้าคมพูดเตือนชายหนุ่ม

            “ร่างบอบบางอย่างนี้จะทำอะไรพี่ได้จ๊ะ” ชายหนุ่มสองคนกระโจนเข้ามาจะจับตัวคนหน้าคม แต่ก็เจอหน้าแข้งฟาดเข้าใส่ก้านคอชายที่มีหนวดเคราจนล้มลงไปนอนนิ่ง จึงทำให้ชายอีกคนโมโห

            “แก!!” แต่ก็โดนชายสวมสูทสีดำสองสามคนเข้ามากดร่างให้นอนลง

            “เอาตัวไปสั่งสอนซะ” คนหน้าคมพูดกับชายสวมสูททั้งสามและแบกทั้งสองคนนั้นไปคุณกิตติที่มองดูอยู่ถึงกับโล่งใจที่ทั้งสองสาวปลอดภัย

                “คุณเข้าไปสู้แบบนั้นได้ไง ถ้าหากคนพวกนั้นมีอาวุธ คุณอาจบาดเจ็บได้นะ” คนหน้าหวานที่กำลังหวาดกลัวแต่ก็พูดด้วยความเป็นห่วง

            “ไม่เป็นไรหรอก ฉันเก่งอยู่แล้ว” สายตาก็ยังมองคนพวกนั้น

            “แล้วนี่คุณ คนพวกนั้นเป็นใครกัน” คนหน้าหวานนึกสงสัยชายสวมสูทดำ

            “อ่อ คนของฉันเองน่ะ” คนหน้าคมหันมาพูดกับคนหน้าหวาน

            “คุณเป็นใครกันแน่คะ ดูท่าคุณจะไม่ใช่คนธรรมดานะ” คนหน้าหวานกอดอกมองหน้าคนหน้าคม

            “ไว้ค่อยคุยดีกว่า เรามาเล่นน้ำกัน” คนหน้าคมอุ้มคนหน้าหวานที่ตัวเล็กกว่าตนมาก วิ่งลงน้ำทะเล

            คุณกิตติที่ยังคงจับจ้องมองสองสาวอยู่พอจะมองสายตาทั้งคู่ออก แต่สำหรับการกระทำคนหน้าคมนั้นแสดงออกให้เห็นชัดเจน ว่าห่วงและทะนุถนอมขนาดไหน

            ทั้งสองที่กำลังเล่นน้ำอยู่มีผู้จัดการสาวที่เปลี่ยนชุดเสร็จมาเล่นด้วย และวรภพที่เห็นว่ามาเล่นน้ำกันอยู่นี่ ตนจึงหยิบลูกบอกชายหาดมาเล่นกับสาวๆ คนหน้าคมที่รับลูกบอลมาจึงโยนให้คนหน้าหวาน เล่นกันไปมา พอลูกบอกลอยมา ตนจึงกระโดดขึ้นจากน้ำทะเล ใช้ฝ่ามือฟาดลงที่บอลอย่างแรง ทำให้โดนหน้าวรภพจนล้มลงไปนั่งที่น้ำทะเล ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมากัน

            เมื่อเล่นจนเหนื่อยล้ากัน ต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพักผ่อนกันหน่อย พอค่ำๆ ทุกคนก็มารับประทานอาหารกันริมทะเล คนหน้าคมมีหน้าที่คอยย่างกุ้งอยู่กับผู้จัดการสาว ส่วนคนหน้าหวานนั้นคอยนั่งแกะนู่นนี่ให้ผู้เป็นพ่อ วรภพก็เช่นกัน

            “ทั้งสองคนมานั่งกันได้แล้ว เดี๋ยวให้ตามาร์สไปย่างให้” คุณกิตติที่เห็นสองคนนั้นย่างมานานแล้วจึงกล่าวชวน

            “ค่ะ” คนหน้าคมตอบ

            “พี่ขออยู่ตรงนี้ดีกว่านะ” ผู้จัดการสาวบอกคนหน้าคม

            “จะจู๋จี๋กันเหรออออ” คนหน้าคมแซวผู้จัดการสาว

            “บ้าเหรอ”

            บึก!

คนหน้าคมโดนฝ่ามือตีเข้าให้ที่แขน จนต้องลูบแขน

“แซวหน่อยเอง” คนหน้าคมมุ่ยหน้าใส่

“ไปนั่งได้แล้ว” คนหน้าคมจึงเดินไปนั่งลงข้างคนหน้าหวาน คอยแกะนู่นนี่ให้ทุกคน แต่จะแกะให้คนหน้าหวานซะส่วนใหญ่

“เมล อะ” คนหน้าคมยื่นกุ้งที่แกะแล้วให้

“ขอบคุณค่ะ” คนหน้าหวานจะยื่นมือไปรับ แต่มือคนหน้าคมกับดึงกลับไป

“เดี๋ยวพี่ป้อนเองค่ะ” คนหน้าคมยิ้มพยักหน้างึกๆๆ

คนหน้าหวานจึงอ้าปากรับกุ้งเข้าปากไปเคี้ยวตุ้ยๆ คุณกิตติเห็นอย่างนั้นจึงคิดว่าคงต้องสลับคู่กันแล้วละมั้ง เขาไม่ใช่คนหัวโบราณจึงเข้าใจดี คนหน้าหวานที่รู้สึกเหนื่อยไม่หายจึงจะขอตัวไปนอนก่อน

“คุณพ่อคุณแม่คะ เมลขอตัวไปนอนก่อนนะคะ เหมือนจะเหนื่อยๆ”

            “จ้ะๆ” ผู้เป็นพ่อตอบ และหันไปบอกคนหน้าคม “เซนไปดูเมลให้หน่อยนะ กลัวจะไม่สบายเอาได้”

            “ได้ค่ะ” คนหน้าคมยิ้มออกมา

            “ไม่เห็นเป็นอะไรเลย” คนหน้าหวานที่กลัวจะโดนทำอะไรโดยไม่ทันตั้งตัวจึงระแวงคนหน้าคม

            “ให้พี่เขาไปด้วยนั่นแหละดีแล้วลูก” คุณหญิงกล่าวเสริม

            คนหน้าหวานไม่สามารถปฏิเสธได้จึงยอม และเดินนำคนหน้าคมไปยังห้องของตนเอง มีคนหน้าคมเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อได้โอกาส คนหน้าคมจึงเข้ามาโอบเอวเดินไปพร้อมกัน นั่นไงล่ะฉวยโอกาสตลอด

            “คุณ ฉันไม่ล้มหรอกค่ะ” คนหน้าหวานบอก

            “พี่ห่วงเมลน่ะคะ” คนหน้าคมบอกด้วยความห่วงจริงๆ

            พอเข้ามาในห้องได้ คนหน้าหวานเข้าไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะออกมาหยิบชุดจะไปเปลี่ยน ในขณะที่หาอยู่นั้น คนหน้าคมเข้ามายืนข้างหลังใช้แขนโอบกอดคนหน้าหวานทันที ทำให้คนหน้าหวานสะดุ้งตกใจออกมา

            อุ้ย!

            “ตกใจเหรอคะ” คนหน้าคมถาม

            “ตกใจสิคะ คุณชอบฉวยโอกาสฉันตลอดเลยนะคะ” คนหน้าหวานที่กำลังจะหยิบชุดออกจากตู้ ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อคนชอบฉวยโอกาสกำลังซุกหน้าลงไปที่คอขาวตนเอง และเป่าลมร้อนใส่ คนหน้าหวานที่เพิ่งเคยได้รับการกระทำแบบนี้ครั้งแรกถึงกับครางออกมา

            “อื้อออ คุ...ณ” คนหน้าหวานจะต่อว่าคนหน้าคม แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อคนหน้าคมพูดขึ้น

            “หอมจัง” คนหน้าคมสูดดมที่ลำคอขาว

“พี่ชอบเมลจริงๆนะ เมื่อไหร่จะเปิดใจให้พี่สักทีคะ”

“ก็ต่อเมื่อฉันตกหลุมรักคุณแหละค่ะ” คนหน้าหวานตอบ ทั้งๆที่ใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วเมื่ออยู่ใกล้คนหน้าคม

            “แน่ใจเหรอคะว่ายังไม่ตกหลุมรักพี่” คนหน้าคมจับคนหน้าหวานหันมามองหน้าตน แต่คนหน้าหวานไม่กล้ามองหน้า

            “ถ้าอย่างนั้น พี่จะทำให้เมลแน่ใจเอง” พูดจบ คนหน้าคมจึงเชยคางคนหน้าหวานมารับจูบจากตนเอง ถึงจะไม่มีการขัดขืนใดๆ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ คนหน้าคมจึงใช้มือลูบเข้าไปใต้สาบเสื้อ คนหน้าหวานที่ตกใจจึงผลักคนหน้าคมออกแต่ด้วยความตกใจจึงเผลออ้าปากจะพูด แต่ถูกลิ้นอุ่นๆของคนหน้าคมแทรกเข้ามา คนหน้าหวานที่ตกใจเริ่มทุบคนหน้าคม แต่ด้วยความร้อนแรงแฝงไปด้วยความอ่อนโยน ทำให้คนหน้าหวานเริ่มจูบตอบอย่างลืมตัว

คนหน้าหวานที่จะเริ่มขาดอากาศหายใจ คนหน้าคมจึงยอมผละริมฝีปากออกพอปากเป็นอิสระ คนหน้าหวานรีบกอบโกยอากาศเข้าปอดทันที

            “เริ่มตกหลุมรักพี่แล้วสิคะ” คนหน้าคมยิ้มให้คนหน้าหวานที่ตอนนี้หน้าแดงไปหมด คนหน้าคมดึงตัวคนหน้าหวานเข้ามากอด ก่อนจะพูดย้ำอีกครั้ง

            “พี่บอกแล้วไงว่าพี่ยกเลิกเรื่องหมั้นได้ อีกอย่างพี่ชอบเมลจริงๆนะคะ ยิ่งอยู่ใกล้กันพี่ยิ่งแน่ใจ” คนหน้าหวานที่ได้ยินอย่างนั้นจึงกอดตอบคนหน้าคมทั้งที่หน้ายังคงซุกที่อกคนหน้าคม ทำให้คนหน้าคมยิ้มออกมา ให้ความรู้สึกว่าตัวเองนั้นยังมีโอกาสขึ้นมาได้บ้าง

            “ฉันคิดว่าคงตกหลุมรักคุณในอีกไม่กี่วิแน่ค่ะ ถ้าคุณยังคงรุกเร็วขนาดนี้” คนหน้าหวานเงยหน้าสบตา คนหน้าคมไม่รอช้าที่จะเสียโอกาสนี้ไป ก้มลงไปประทับจูบที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยน ไม่นานจึงปล่อยออก

            “ว่าไงคะ” คนหน้าคมถามคนหน้าหวานที่ยังคงยิ้มอย่างนั้น

            “ตกหลุมรักสิคะ” ทำให้คนหน้าคมยิ้มออกมาอย่างกว้าง

 

            “แต่”คนหน้าหวานเว้นไว้อย่างนั้น

 

            “เราจะคบกันต่อเมื่อ คุณยกเลิกหมั้นนั้นแล้ว” คำพูดของหน้าหวานทำให้คนหน้าคมต้องหน้าเหวอไปอีกเมื่อคนหน้าหวานพูดว่า “อีกอย่างเราจะไม่ได้แตะต้องตัวกันสักนิดค่ะ” คนหน้าหวานยิ้มให้ แล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไป

 

 

เซนแย่แล้วละสิ สงสัยคงต้องรีบหาทางยกเลิกหมั้นให้เร็วที่สุด

มาติดตามตอนต่อไปกันนะ

ดูซิว่าจะทำยังไง

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา