บ่วงแค้น บ่วงรัก

-

เขียนโดย sunflower_

วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.55 น.

  13 ตอน
  1 วิจารณ์
  15.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2561 20.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) เลขาของพลาธิป 40%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

ตอนที่ 4 เลขาของพลาธิป

 

 

 

     “น้องมินคะ อาทิตย์หน้าคุณเคนอิจิกลับเข้ามาทำงานแล้ว น้องมินอยู่คนเดียวได้แล้วเนอะ” วันวิสาหันมาถามคนที่นั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น เธอสอนงานมัลลิกาจนหมดแล้ว และหญิงสาวเองก็หัวไว เพียงแค่ 3 อาทิตย์ก็สามารถจดจำความรับผิดชอบในหน้าที่ตัวเองได้หมด ทั้งยังทำงานออกมาได้ดีสมกับเป็นคนที่คุณเอมม่ารับรอง

     “คะ?”

     “อาทิตย์หน้าพี่มาช่วยน้องมินไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าคุณเคนอิจิกลับเข้ามาทำงาน พี่จะห่างหน้าห้องไม่ได้เลย คุณเคนอิจิน่ะดูเหมือนจะใจดีกว่าคุณพลาธิปนะ แต่จริง ๆ แล้วเนี๊ยบมาก”

     “มินเข้าใจค่ะ แค่นี้ก็รบกวนพี่วันมามากแล้ว ขอบคุณที่ช่วยสอนงานมินนะคะ”

     “มันเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้วค่ะ” วันวิสาส่งยิ้มให้มัลลิกา เธอรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอ และยิ่งได้ทำงานด้วยกันเธอยิ่งประทับใจนิสัยของหญิงสาวมากขึ้นเรื่อย ๆ มัลลิกาที่ภายนอกอาจจะดูเปรี้ยว แต่งตัวเก่ง และสวยมากจนดูเข้าถึงยาก แต่ภายในเป็นคนอ่อนหวาน มีสัมมาคารวะ ฉลาดพูด ฉลาดคิด เธอรู้สึกวางใจที่พลาธิปจะได้เลขาดี ๆ แบบมัลลิกามาช่วยแบ่งเบาภาระ

     “คุณวัน เดี๋ยวออกไปดูโครงการที่รังสิตกับผมนะ” ประตูไม้บานใหญ่เปิดออก ร่างสูงของพลาธิปเดินตรงมาที่โต๊ะของเลขาพร้อมเอ่ยบอกธุระของตน ก่อนจะก้มลงไปอ่านข้อความในไอแพดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

     “คุณพลาธิปคะ วันนี้น้องมินจะไปกับคุณนะคะ”

     “หืม?”

     “คือว่าอาทิตย์หน้า ดิฉันต้องกลับไปประจำตำแหน่งแล้วค่ะ เลยอยากให้น้องมินหัดออกไปดูงานกับคุณ”

     “อ๋อ...” พลาธิปพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนจ้องเขาสลับกับวันวิสาไปมาตาแป๋ว “เก็บของเลยนะคุณมัลลิกา เราจะไม่กลับเข้ามาที่นี่แล้ว เดี๋ยวผมลงไปรอที่รถ”

     ชายหนุ่มไม่ได้รอให้มัลลิกาตอบรับ ขายาวก้าวจากไปอย่างรวดเร็วเมื่อพูดจบประโยค ทิ้งให้เลขาสาวยืนนิ่งด้วยความมึนงง

     “น้องมินคะ รีบเก็บของเร็วเข้า คุณพลาธิปเธอไม่ชอบคนทำอะไรชักช้าค่ะ”

     “ค่ะ ๆ” มัลลิการีบกุลีกุจอเก็บข้าวของลงกระเป๋า “แล้วมินต้องไปหาคุณพลาธิปที่ไหนคะ”

     “ที่จอดรถชั้นผู้บริหารเลยค่ะ เปิดประตูไปก็เจอรถคุณพลาธิปเลย อ่ะนี่ พี่ช่วยเก็บแล้ว รีบไปเลยค่ะน้องมิน”

     “ค่ะ มินไปก่อนนะคะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” มัลลิการับของจากวันวิสามาถือไว้ ก่อนจะเอ่ยลาหญิงสาวรุ่นพี่เหมือนเช่นที่เคยทำทุกวันและวิ่งเข้าลิฟต์ที่มาถึงพอดีไป ทิ้งให้วันวิสามองตามด้วยรอยยิ้ม

     น่าเอ็นดูจริง ๆ

 

 

 

 

     “ขอโทษที่ช้านะคะ” มัลลิกาเอ่ยขอโทษคนที่ยืนนิ่งพิงกระโปรงรถด้วยท่าทีสบาย ๆ หากแต่ใบหน้ายังดูเครียดกว่าปกติ

     พลาธิปหุ่นดีมาก ชายหนุ่มถอดสูทที่ใส่มาถือไว้ บนตัวมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไทสีเข้ม และกางเกงสแล็คที่เข้ากับขายาว พอมายืนพิงรถหรู ๆ แบบนี้แล้ว พลาธิปเหมือนนายแบบที่ยืนตั้งท่าให้ตากล้องจับภาพมากกว่านักธุรกิจพันล้านเสียอีก

     ทั้งเป็นทายาทตระกูลดัง หน้าตาดี ทำงานเก่ง ถ้าเปิดตัวออกสื่อเมื่อไหร่ สาว ๆ คงเข้าหาจนหัวกระไดไม่แห้งเป็นแน่

     “ขึ้นรถเถอะ”

     “ค่ะ” มัลลิการับคำ ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นว่าพลาธิปสอดตัวเข้าไปในที่นั่งของคนขับ เธอคิดว่าระดับพลาธิปจะมีคนขับรถให้เสียอีก แต่สุดท้ายหญิงสาวก็เก็บความสงสัยในใจ และก้าวขึ้นไปนั่งข้าง ๆ เจ้านายหนุ่ม พลาธิปเมื่อเห็นว่ามัลลิกาคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้วจึงออกรถ

     การจราจรติดขัดมากกว่าที่คิด ทั้ง ๆ ที่ออกจากบริษัทย่านสีลมตั้งแต่บ่าย 2 โมง แต่กว่าจะถึงรังสิตก็กินเวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง หลังจากเข้าไปตรวจสอบโครงการที่กำลังดำเนินการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่จึงรีบกลับก่อนที่รถจะติดมากไปกว่านี้

     จากที่เข้ามาดูงานกับพลาธิป ทำให้มัลลิการู้ว่าสาเหตุที่ชายหนุ่มดูเครียดว่าปกติ เป็นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการที่กำลังก่อสร้าง เมื่อบ้านตัวอย่างสร้างออกมาไม่เหมือนกับแบบที่วางไว้ ทำให้ต้องรื้อออกหลายส่วน และมีแนวโน้มสูงว่างานจะเสร็จช้ากว่าที่กำหนด

     มัลลิกาเหลือบตามองเจ้านายหนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นสารถีชั่วคราว คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่นตั้งแต่ออกมาจากไซต์งาน เธอพอจะเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่ม แม้ปัญหาที่เกิดขึ้นจะเกิดจากผู้รับเหมา แต่ตอนนี้พลาธิปโดนจับตามองจากหลายฝ่าย ความผิดพลาดแม้จะเล็กน้อย แต่ก็อาจจะทำให้คนที่จ้องจะหาเรื่องใช้มันเป็นข้ออ้างว่าชายหนุ่มไม่เหมาะสมกับงานนี้ก็เป็นได้

     “คุณพักที่อยู่ไหน”

     “ดิฉันพักอยู่คอนโดxxx แถวราชเทวีค่ะ”

     “อืม” พลาธิปตอบรับในลำคอเบา ๆ ก่อนที่บรรยากาศในรถจะกลับมาเงียบกริบอีกครั้ง

     มัลลิกาขยับตัวด้วยความอึดอัด เธอไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เอาเสียเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะชวนเจ้านายหนุ่มคุยอะไรดี ทำงานมา 3 อาทิตย์ เธอได้คุยกับพลาธิปนับประโยคได้ ความสนิทสนมที่เข้าขั้นติดลบ ทำให้เธอค่อนข้างเกร็งเมื่อต้องอยู่กับชายหนุ่มตามลำพัง

     “คุณมีธุระที่ไหนหรือเปล่า” เป็นอีกครั้งที่พลาธิปเอ่ยถาม รถที่ติดไฟแดงอยู่ทำให้สามารถหันมามองคู่สนทนาได้ มัลลิกาสบตากับชายหนุ่ม ก่อนจะส่ายหน้า

     “ไม่มีค่ะ”

     “งั้นทานข้าวกับผมก่อนได้ไหม มีบางอย่างต้องคุยกับคุณ”

     หญิงสาวนิ่งคิดเพียงครู่เดียว ก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงเป็นการตอบรับ

     ไฟเขียวพอดี พลาธิปหันกลับมาสนใจท้องถนนต่อ หากแต่ใบหน้าที่เคยเครียดขรึมกลับหายไป ตาคมเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งมองท้องถนนเงียบ ๆ ก่อนจะลอบยิ้มบาง

     อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นบ้างล่ะนะ

 

 

 

 

     พลาธิปพามัลลิกามาทานอาหารที่โรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง หญิงสาวมองบรรยากาศรอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ อดแปลกใจไม่ได้ที่พลาธิปพาเธอมาในที่ ๆ หรูหราขนาดนี้ จากการทำงานด้วยกันมา และการเจอกันโดยบังเอิญในครั้งแรกนั้น ทำให้หญิงสาวค่อนข้างมั่นใจว่าเจ้านายของเธอไม่ได้เป็นคนติดหรู

     อาหารเลิศรสถูกทยอยมาเสิร์ฟตามลำดับ ทั้งคู่จัดการอาหารตรงหน้าโดยที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เมื่อของคาวหมดลง พนักงานก็นำของหวานมาเสิร์ฟต่อทันที เป็นเค้กชาเขียวชิ้นเล็ก ๆ หน้าตาน่ารับประทาน

     “เค้กที่นี่ไม่หวานนะ รับรองไม่อ้วน” ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำราวกับเป็นเจ้าถิ่น มัลลิกาเผลอขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เธอจำได้ว่าโรงแรมนี้ไม่ใช่เครือของทากาฮาชิ แต่เจ้านายของเธอกลับรู้จึกที่นี่ดีราวกับเป็นโรงแรมตัวเอง

     พลาธิปอมยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้ายุ่งด้วยความสงสัย ท่าทางเลขาของเขาจะเป็นคนช่างสังเกตน่าดู

     “เคยได้ยินไหม รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งน่ะ”

     “เคยค่ะ” มัลลิกาพยักหน้ารับ ดวงตาเฉี่ยวมองเจ้านายหนุ่มอธิบายด้วยความสนใจ

     “การได้ศึกษาการทำงานของคู่แข่ง มันจะทำให้เราได้เปรียบ” พลาธิปพูดพลางมองไปรอบ ๆ ก่อนจะหันกลับมามองมัลลิกาอีกครั้ง “นอกจากที่จะต้องรู้งานของคู่แข่งแล้ว เราก็ต้องรู้งานของเราเองด้วย หลายครั้งที่ผมเข้าไปในโรงแรมตัวเองในฐานะแขก มันทำให้รู้ว่าพนักงานของเราปฏิบัติกับลูกค้าอย่างไร”

     “แล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ”

     “ผมชอบที่คุณถามนะ มันทำให้รู้ว่าคุณสนใจ” พลาธิปเอ่ยชม “โรงแรมเราเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว เพราะฉะนั้นการบริการที่ดีคือหัวใจของพนักงานทุกคน แขกทุกคนที่ได้ไปพักต้องกลับไปด้วยความสุขและไม่รู้สึกเสียดายเงินที่จ่ายไป ผมเจอทั้งบริการที่ดีกว่ามาตรฐานและต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้ามันต่ำมากไปทั้งพนักงานคนนั้นและหัวหน้างานจะได้รับใบเตือน ใบเตือนนี้มีผลกับเซอร์วิสชาร์จทุกเดือนเป็นเวลา 1 ปี โดน 1 ใบ ลดเซอร์วิสชาร์จ 20% 2 ใบจะลด 50% 3 ใบคือไล่ออก ทากาฮาชิให้ใจกับพนักงานทุกคน เราไม่เคยหวงเงินเดือนและสวัสดิการ แต่ถ้าพนักงานไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ตั้งไว้ เราก็ไม่เอาไว้เช่นกัน”

     “ฉันเห็นด้วยนะคะ ทั้งที่ทำทีว่าเป็นแขกเข้าไปใช้บริการเพื่อดูการทำงานของพนักงาน และบทลงโทษ”

     “หายเกร็งหรือยัง”

     “คะ?”

     “คุณดูเกร็งมากนะเวลาอยู่กับผม เราต้องทำงานด้วยกันอีกนาน ทำตัวให้สบาย ไม่เข้าใจตรงไหนถามผมได้เสมอ”

     “ขอบคุณมากนะคะ” มัลลิกาส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม บรรยากาศบนโต๊ะดีขึ้นตามลำดับ เมื่อหญิงสาวกล้าคุย กล้าถามมากขึ้น ชายหนุ่มเองก็ตอบทุกคำถามไม่มีเบื่อ

     ความสัมพันธ์ดี ๆ กำลังก่อต่อขึ้นอย่างช้า ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้งง ๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ เดี๋ยวอัพครบ 100 % อาจจะมีการรีไรท์นะคะ

ขอบคุณที่ติดตามนิยายของตะวันนะคะ

ช่องทางติดต่อตะวัน

Facebook : Sunflower

https://web.facebook.com/Sunflower-268692590198513/

Twitter : @sunflower_np

https://twitter.com/sunflower_np

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา