The Exotic วันนั้น..ฉันขอให้มันหวนคืน

-

เขียนโดย ohmynovel

วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.11 น.

  3 chapter
  0 วิจารณ์
  4,616 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2561 20.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ผมหาจาคอปเจอแล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   ผม ดิอ้อน คุณคงรู้เรื่องราวของผมไปบ้างแล้ว เรื่องราวช่วงวัยเด็กของผมมันไม่ค่อยมีเรื่องอะไรมากเท่าไหร่ ไม่ได้สำคัญอะไรกับใครมากมาย ผมรู้แค่ว่าผมเติบโตที่บ้านเด็กกำพร้าเซนต์ แอนดรูวส์ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แค่นั้น ชีวิตผมตอนนี้ไม่เคยชอบใคร หรือปลื้มใครมาก่อน ผมไม่ค่อยรู้จักความรัก ชีวิตผมตอนนี้รู้จักความรักเพียง 2 อย่างนั่นคือ 1.รักเพื่อน เพื่อนๆของผมที่นั่นทำให้ผมได้รู้จักอะไรหลายอย่าง เราเคยทะเลาะกันบ้างแต่สุดท้ายก็ดีกันตามประสาเด็กทั่วไป โดยเฉพาะเพื่อนคนสำคัญอย่างเจคอป และ2.พวกป้าๆที่ดูแลเรา โดยเฉพาะป้าลีน่า ป้าใจดีกับพวกเรามากๆ ทุกวันนี้พวกท่านเริ่มชราลง มีผู้ดูแลคนใหม่แวะเข้ามาสมัครงานบ้างเป็นระยะ แต่พวกป้าๆไม่เคยรับใครเข้ามา พวกเขาบอกว่า เรายังไม่ถึงเวลารับใคร พวกเรายังไหว ผมล่ะปลื้มกับสปิริตพวกป้าๆจริงๆ เวลาผมเดินไปไหนมาไหน เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นเด็กจูงมือมากับพ่อแม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ส่วนใหญ่ผมจะเห็นแต่คู่รักวัยหนุ่มสาว เดินจับมือกันมั่ง จูบกันมั่ง ไปเที่ยวไหนต่อไหนกันมั่ง อ้อ ผมลืมบอกผู้อ่านไปว่าตอนนี้ผมโตพอที่จะทำงานพิเศษแล้ว แรกๆผมหางานทำจ้าละหวั่นเลย คนส่งของ บุรุษไปรษณีย์ เด็กเสริฟ ผมทำมาหมดแล้วทั้งนั้น แต่ก็ไม่เวิร์คไปทำข้าวของเขาพังโดนไล่ออกตลอด จนผมได้งานนี้...พวกคุณอย่าขำผมล่ะ ตอนนี้ผมได้งานเป็นนักเต้นในบาร์เกย์น่ะสิ แหมมม หยอกเล่นน่า ผมทำงานในร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งในย่านคนทำงานในกรุงลอนดอน มันไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยแล้วก็บ้านเด็กกำพร้านัก เงินที่ผมพอเก็บมา รวมกับที่ทำงานตอนนี้มันยังไม่ได้ครึ่งของบ้านเล็กๆที่ผมอยากได้เป็นของตัวเองเลย ใช่ครับ ผมอยากได้บ้าน บ้านจริงๆ บ้านของผมเอง วันนึงก่อนเรียนมหาลัยซะอีก ผมกำลังเดินกลับบ้าน คิดยังไงไม่รู้ผมอยากเปลี่ยนเส้นทาง ผมเลยเลี่ยงถนนใหญ่ๆที่ผมเดินประจำ มาใช้ทางที่ไม่ค่อยมีใครจะเดินกัน ผมเหลือบไปเห็นบ้านหลังนึง บ้านหลังเล็กๆน่าอยู่ หน้าบ้านมีติดประกาศขาย ป้ายนั่นดูเก่ามากๆ เหมือนติดไว้เป็น 10 ปี ไม่มีใครสนใจ ละแวกนั้นมีบ้านหหลังนึง มีคุณยายคนนึงอาศัยอยู่ ผมเดินเข้าไปถามเธอ เผื่อเธอจะรู้อะไรเกี่ยวกับบ้านหลังเล็กๆนั่นบ้าง ผมเดินเข้าไปหาเธอ ในขณะที่ผมเห็นเธอนั่งเอนตัวบนเก้าอี้เก่าๆตัวนึงอยู่ในสวนหน้าบ้าน ผมถามเธอว่า "ยายครับ พอจะรู้เรื่องบ้านหลังนั้นบ้างไหมครับ ทำไมไม่มีคนซื้อล่ะครับ คือผมสนใจบ้านหลังนั้นมาก ผมต้องถามใครครับ" ยายคนนั้นหันหน้าช้าๆมาหาผม แล้วยิ้มให้ผมเล็กน้อย แล้วบอกผมว่า "บ้านหลังนั้นเป็นของลูกชายยายเอง เขาเสียไปเป็น 10 ปีแล้ว ถ้าสนใจ อยากได้จริงๆ เรื่องราคายายไม่ค่อยคิดอะไรมากหรอกนะ ขอแค่มีคนอยากอยู่ที่นั่นก็พอแล้วล่ะ ที่นั่่นถูกปล่อยร้างมานานมากแล้ว" ผมได้ยินดังนั้น ผมเหมือนยิ่งมีหวังมากกว่าเดิมเรื่องบ้านนั่น ผมเลยยิ้มให้ยายแล้วเดินกลับบ้านไปพร้อมบอกยายว่า" ยายรอผมก่อนนะครับ ผมนี่แหละจะเป็นคนมาซื้อบ้านหลังนั้นเอง" 

     เช้าวันถัดมาผมเดินไปเรียนตามปกติ ตอนนี้ผมเหมือนคนอดนอน ตาบวมช้ำไปหมด เป็นเพราะการบ้านเมื่อวานที่อาจารย์สั่งให้ทำเสร็จภายในคืนเดียว อาจารย์นี่ไม่เห็นใจนักเรียนอย่างผมบ้างเลย เด็กที่ตอนเช้าต้องไปเรียน ตอนเย็นต้องไปทำงานพิเศษเนี่ย แต่ก็ใช่แหละนะ ใครจะมาสนใจเรื่องของเรา เรานี่ก็คิดอะไรไร้สาระจริงๆ ในระหว่างที่ผมเดินอยู่นั้น มีผู้หญิงคนนึงร้องไห้ เธอหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เดินสวนทางกับผมไป แววตาเธอเศร้า หน้าตาเธอเหมือนไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย ในมือเธอถือดอกไม้ช่อเล็กๆช่อหนึ่ง แต่นั่นแหละ ใครจะไปกล้าถามว่าร้องไห้แล้วถือดอกไม้ทำไม ผมว่าถ้าถามไป เธอคงต้องร้องไห้หนักกว่านี้ แต่ลึกๆลงไปแล้วผมก็เหมือนคนใจดำคนนึงเลยนะนั่น แต่สุดท้ายเถียงตัวเองในใจก็ไม่ช่วยอะไร เธอเดินไปแล้ว เธอหายไปลับตา เพราะไอความที่ผมมัวแต่คิดในใจไม่ได้หันหลังกลับไปมองเลย ผมเลยเดินไปเรื่อยๆต่อ อีกนิดเดียวก็จะถึงมหาวิทยาลัยแล้ว 

    ผมเกือบเข้าเรียนไม่ทัน ดีนะที่อาจารย์ยังให้ผมส่งงานได้อยู่ อุตส่าห์ทำทั้งคืน ผมคงไม่อยาก F แน่ๆ ผมเกือบเข้าสายเพราะมัวแต่คิดเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนที่ร้องไห้ สวนทางกับผมเมื่อเช้า ผมมาช้าเลยได้นั่งหลังๆ ผมเลยได้นั่งริมหน้าต่าง ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมเห็นอะไรหลายๆอย่าง พวกเด็กนักเรียนโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆมหาลัยกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ไม่สนใจใครเล้ย แถมเป็นผู้หญิงทั้งนั้น ห่วงอนาคตหน่อยก็ได้มั้งเนี่ยพวกเธอ ผมคิดในใจ แต่ก็อยากตะโกนต่อว่าจริงๆถ้าไม่ติดว่าผมเรียนอยู่ ถัดไปอีกหน่อยก็เป็นร้านเล็กๆขายนู่นขายนี่ตามประสาคนดักรอนักศึกษาเลิกเรียน หน้ามหาลัยผมมีร้านดอกไม้อยู่ร้านเดียวแทนที่จะเป็นคาเฟ่ไม่ก็ร้านอาหารให้นักศึกษาเข้าไปนั่ง ใครมันจะไปซื้อดอกไม้ทุกวันกัน แล้วตอนนั้นผมเลยคิดขึ้นมาได้ ผู้หญิงคนนั้น คนที่เราเจอเมื่อเช้าเธอคงซื้อดอกไม้ที่นี่แหละ ช่อดอกไม้เล็กๆนั่นพร้อมกับสีหน้าที่แสนเศร้านั้น เธอเป็นอะไรกันแน่นะ 

     เย็นวันนั้นแทนที่ผมจะรีบไปทำงานพิเศษ ผมกลับเดินตรงเข้าไปที่ร้านดอกไม้หน้ามหาวิทยาลัยเพื่อไปถามคนขายดอกไม้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น แอดดดด ...ผมค่อยๆเปิดประตูร้านช้าๆ พอคนในร้านเห็นผมก็เดินตรงเข้ามา เขาถามผมว่าอยากได้ดอกไม้หรือช่อดอกไม้ให้ใครคะ อยากได้ดอกไม้ชนิดไหน ผมเลยบอกเค้าไปว่า"เอ่ออขอโทษนะครับ คือผมอยากถามอะไรสักหน่อยน่ะครับ คือเมื่อเช้าผมเห็นผู้หญิงคนนึง อายุประมาน 30 กว่าๆ เดินไปร้องไห้ไป ในมือผู้หญิงคนนั้นถือช่อดอกไม้เล็กๆด้วย ไม่ทราบว่าเธอซื้อมาจากที่นี่ใช่ไหมครับ ผมว่าเธอคงเศร้าเรื่องอะไรสักอย่างเธอถึงร้องไห้ น่าสงสารมากครับ" เห้อเรานี่ตัดสินใจถามจนได้ หวังว่าพี่คนขายดอกไม้เขาจะตอบเรานะ "อ๋อคุณเอมิเลียน่ะหรอคะ เธอมาซื้อดอกไม้ที่นี่ทุกอาทิตย์เลยค่ะ ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเธอเอาไปให้ใคร รู้แต่เธอไม่เคยยิ้มเลย เวลามาซื้อเธอจะทำหน้าเศร้าเหมือนคนร้องไห้เลยค่ะ ฉันก็มีแอบสงสัยบ้างเหมือนกัน แต่ถามไปคงไม่ดีแน่ค่ะ เลยทำได้เอาดอกไม้ให้เธอไป" ซื้อทุกอาทิตย์เลยหรอ หรือผู้หญิงคนนั้นเค้าชอบแต่งบ้านนะ ไม่น่าจะใช่ ชอบอะไรแบบนี้ก็คงต้องมีความสุขสิ แต่เธอกลับตรงกันข้าม ผมรู้อะไรมามากขึ้น ผมบอกลาและขอโทษที่มารบกวนคนที่ร้านดอกไม้ไป และผมก็รีบวิ่งไปร้านกาแฟร้านที่ผมทำงานพิเศษ ผมโดนหัวหน้าบ่นใหญ่ที่ผมไปสาย วันนี้คนมากินกาแฟกันเยอะซะด้วยสิ      

     "เห้อออออ วันนี้เหนื่อยมากเลย แถมหัวหน้ายังให้ทำงานเลทตั้งครึ่งชั่วโมงชดเชยที่เรามาทำงานสายอีก" ผมบ่นพึมพำระหว่างทางเดินกลับบ้าน แต่ระหว่างนั้น ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินตัดหน้าผมไปอีก เธอเหมือนรีบไปไหนสักแห่ง ด้วยความที่ผมชอบสอดรู้สอดเห็นซะด้วยสิจะรออะไร ผมเลยแอบตามเธอไป ผมย่องตามเธอมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าสุสานที่ไหนสักแห่ง เป็นที่ที่ผมไม่เคยมามาก่อน ผมคิดในใจไปแล้วว่านี่ผมกำลังตามวิญญาณมาหรือเปล่าเนี่ย แถมบรรยากาศที่นี่น่ากลัวซะจริงๆ เธอรีบวิ่งตรงไปที่หลุมศพใครคนนึง ผมมองไม่เห็นชื่อเขา แต่เห็นรูปที่ตั้งตรงหลุม นั่นเป็นรูปเด็กผู้ชายคนนึง แล้วผมรู้แล้วว่าดอกไม้ที่เธอซื้อจากร้านมาอยู่ที่นี่หมดเลย ผมเห็นเธอก้มลงไปกอดหลุมศพนั่น แล้วก็ร้องไห้และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า"วันนี้เป็นวันเกิดของลูกแท้ๆ แต่..แต่แม่ไม่เคยเอาอะไรมาให้ลูกเลย ลูกอยู่ที่นี่ลูกเป็นยังไงบ้าง แม่คิดถึง แม่คิดถึงลูกจริงๆจาคอป..." จาคอปหรอ... ชื่อนี้มัน ชื่อนี้...หรือจะเป็นนาย จาคอป ไม่จริง นี่เราคิดมากไปแล้ว ไม่ใช่หรอกน่าา แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วบอกกับเด็กชายในรูปนั้นว่า" แม่ต้องไปแล้วนะจาคอป เดี๋ยวผู้ชายคนนั้นหาแม่ไม่เจอเค้าต้องโกรธมากแน่ๆ " ผู้หญิงคนนั้นนั้นรีบเดินจากไปทันที เหมือนกับเขาต้องรีบไปหาใครสักคน ผมเลยไม่รอช้ารีบย่องเดินเข้าไปดูหน้าเด็กชายคนนั้นชัดๆ พร้อมกับบอกตัวเองว่าต้องไม่ใช่อย่างที่เขาคิด เขารีบเช็ดรูปภาพให้ฝุ่นที่จับเกาะรูปนั้นออกไป จนผมเห็นหน้าเด็กในรูปชัดเจน ใช่ เด็กคนนี้ ใช่จาคอปจริงๆด้วย ทำไม ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย ผมไม่รอช้ารีบปัดฝุ่นหน้าหลุ่มศพออกเพื่อที่จะรู้วันตายของเขา วันที่ที่ผมเห็นคือวันที่วันนี้ มันเป็นวันเกิดของเขา ทำไม ทำไมไม่มีใครบอกเราเลย จาคอปฉันขอโทษตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยมาหานายเลย แล้วทำไมแม่ของนายเขา....

 

To be continue...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา