ผู้กล้าตายด้าน แต่เขาเป็นนักบวช
เขียนโดย ItsukakunG
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.07 น.
แก้ไขเมื่อ 13 เมษายน พ.ศ. 2562 13.08 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ว่าอะไรนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 7 ว่าไงนะ
ฝูงเฟอร์บี้ที่ผ่านทางมานั้น เมื่อผมเห็นมัน สิ่งที่ผมคิดออกคือ ไอตัวแบบนี้ ยังจะตามมาหลอกหลอนเราอีกเรอะ หลังจากที่ผมเห็น ผมจึงฆ่าพวกมันไปทันที ด้วยเหตุนี้ระดับเลเวลของผมจึงขึ้นเป็น 19 เพิ่มขึ้นง่ายกว่าที่คิดแฮะ
เมื่อผมเดินมาถึงหน้าเขาวงกต ผมก็เห็นผู้คนเดินเข้าออกเป็นระยะ ๆ ด้วยเหตุนั้นผมจึงเดินตามเข้าไป พวกยามเฝ้าที่อยู่ด้านหน้านั้นมองผมด้วยสายตาสงสัย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจแล้วเดินเข้าไปแบบส่ง ๆ
ผมเห็นกลุ่มคนหลาย ๆ กลุ่มกำลังเข้าปะทะกับเหล่ามอนส์เตอร์จำนวนมากมาย แต่ดูเหมือนมอนสเตอร์เหล่านั้นต่างก็เมินผมไป นี่ผมทำอะไรผิดรึเปล่านะ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ในขณะที่เปิดดูแผนที่จากคริสตัลอยู่นั่น ผมก็สังเกตเห็นจุด ๆ หนึ่ง ห้องของบอสประจำชั้นที่ 1 เมื่อผมเห็นดังนั้น ผมที่กำลังรู้สึกสนใจจึงเดินเข้าไปตรวจสอบดู
ผมเห็นผู้คนจำนวนหนึ่งเดินไปยังห้องบอสด้วยเช่นกัน ด้วยความสงสัยนั้น ผมจึงถามพวกเขาออกไปว่าพวกเขามาทำอะไร
“เอ่อ ขอโทษนะครับ พวกคุณจะไปที่ไหนเหรอครับ”
“อ๋อ พอดีพวกเราจะไปเสี่ยงเคลียร์บอสมอนสเตอร์ชั้นที่ 1 ดูน่ะ เพราะพวกมันให้ค่าประสบการณ์ที่เยอะและค่าตอบแทนที่สูงน่ะ” ชายหนุ่มที่อยู่ในกลุ่มนั้นตอบกลับมาด้วยสีหน้าเป็นมิตร
“เอ่อ ผมขอร่วมทางไปด้วยจะได้ไหมครับ”
“ก็ได้อยู่หรอก เพราะปาร์ตี้ของเราก็ยังไม่เต็มด้วย ส่าแต่นายอาชีพอะไรล่ะ” ชายหนุ่มถามมาด้วยสีหน้าดีใจ
“ไม่เป็นไรครับ แค่ร่วมทางด้วยน่ะครับ ไม่ต้องร่วมปาร์ตี้หรอครับ แล้วก็ ผมชื่อรีเชอร์ อาชีพคือนักบวช” ผมตอบไปไปแบบนั้น พวกเขาก็ต่างพากันหัวเราะอย่างตลกขบขัน
“นักบวชใส่เกราะถือดาบเนี่ยนะ นี่แกบ้ารึเปล่าเนี่ย แต่ถ้าเป็นนักบวชจริง ๆ พวกเราก็ยินดีต้อนรับ เพราะทีมเรามีนักบวชอยู่แค่คนเดียว แบบนี้เธอคงจะสบายขึ้นบ้างล่ะนะ จริงไหมริต้า” ชายอีกคนหนึ่งซึ่งใส่เกราะหนาเตอะอยู่หัวเราะขึ้นแล้วหันไปทางหญิงสาวที่ใส่ชุดสีขาวมีระบายที่ส่วนปลายของชุดพร้อมกับถือคฑาสีเขียวอ่อน
“ไม่เป็นไรครับ เพราะผมเป็นโซโล่ เพราะแบบนั้น อาวุธจึงเป็นเรื่องสำคัญครับ” ผมแถไปเท่าที่จะแถได้ก่อน เพราะถ้าหากพวกเขานั้นไม่เชื่อใจในตัวผม ผมก็คงจะลำบากกว่านี้
“เข้าใจแล้ว ๆ เดี๋ยวพวกเราไปพร้อมกันเลย รวมแล้วตอนนี้มี 5 คน นับรวมนายด้วยก็เป็น 6 ถึงแม้จะต้องหารของด้วย แต่นายต้องการอะไรบ้างรึเปล่า” ชายที่ตอบผมเป็นคนแรกนั้นถามขึ้น
“เอ่อ ผมอยากรู้ชื่อของทุกคนน่ะครับ มันจะได้ง่ายเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน” ถึงผมจะบอกแบบนั้นไป แต่ผมก็รู้ชื่อของทุกคนด้วยสกิลประเมินไปแล้ว เลเวลของพวกเขานั้นมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 13 ถึงจะน้อยกว่าผม แต่พวกเขาก็น่าจะมีประสบการณ์ที่มากกว่าผมล่ะนะ
“เอ่อ ผมชื่อ กาแลน จะเรียกผมว่ากัลก็ได้นะครับอาชีพคือนักรบครับ ส่วนหมอนี่ที่ใส่เกราะหนาเตอะมีชื่อว่าคาล เป็นนักรบถึกและเป็นน้องชายผมเอง อีกสองคนคือ ชิฟตี้(Chiftie)และสคาร์(Skarh)เป็นคู่หูกันทำหน้าที่เป็นนักสู้ แล้วก็ผู้หญิงอีกคนคือ ริต้า(Ritar) เธอเป็นนักบวช” กาแลนยิ้มรับ เขาบอกข้อมูลที่ผมถามไปอย่างครบถ้วน
“ครับ เอ่อ คุณกัล เรียกแบบนี้ได้สินะครับ” ผมถามเขาไปเล่น ๆ
“ได้ครับ งั้นวันนี้เราก็ไปกันต่อเลยละกันนะครับ”
“ได้ครับ ผมไม่มีปัญหา” หลังจากที่คุยกันเสร็จ พวกเราก็เดินทางกันต่อ มอนสเตอร์จำนวนมากนั้นเข้าบุกโจมตี แต่พวกเขาก็จัดการกันได้แบบไม่ยากเย็นอะไรนัก แต่ผมก็คอยฟันมอนส์เตอร์ที่หลุดเข้ามาในแนวหลังจึงทำให้พอจะมีผลงานอยู่บ้าง
“แย่ล่ะสิ กัล เสบียงของพวกเราเริ่มหมดแล้วล่ะ วันนี้พอแค่นี้เถอะ” สคาร์กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าตึงเครียด
“เข้าใจแล้วล่ะ งั้นวันนี้พวกเราพอแค่นี้นะ เอ่อ คุณรีช แล้วคุณจะทำอะไรต่อล่ะครับ” กาแลนถามผมขึ้น
“ผมน่าจะไปต่อแหละครับ”
“เอ่อ มีใครสนใจจะไปต่อไหม ผมกับคาลจะขอกลับก่อนนะ คุณรีช ผมคิดว่าคุณน่าจะแกร่งที่สุดในกลุ่มของพวกเราเลยนะ เอ่อ แล้วทุกคนว่าไงล่ะ”
“ฉันกับสคาร์อยู่ต่อก็ได้นะ ไม่มีปัญหา แล้วริต้าล่ะ” ซิฟตี้หันหน้าไปทางริต้า
“ฉันไปต่อไหวจ๊ะ ไม่ต้องเป็นห่วง” ริต้าตอบกลับมาแบบทุลักทุเล
“อื้ม เข้าใจแล้วล่ะ ไว้วันหน้าเราค่อยมาเจอกันใหม่นะ” กาแลนกล่าวขึ้นพร้อมกับเดินจากไป โดยมีคาลเดินตามหลังไปด้วย
“จริงสิ สคาร์ เราไปตรงนั้นกันไหม” ซีฟตี้กล่าวขึ้นมากะทันหัน
สคาร์ไม่ตอบอะไรแล้วพยักหน้า
“เอ่อ ตรงนั้นมันอันตรายไม่ใช่เรอะ” ผมพูดขึ้น
“งั้นก็ฝากคุณรีชช่วยปกป้องหน่อยได้ไหมคะ” ซีฟตี้กล่าวขึ้น
“เฮ้อ ก็ได้อยู่หรอกนะ” ผมตอบออกไปแบบส่ง ๆ
ผมเดินออกไปรอบ ๆ ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะไปคนเดียว แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดริต้าจึงเดินตามมาด้วยกัน
ผมกับเธอนั้นไม่ได้พูดอะไรกันเลย หลังจากที่เดินไปได้ไม่นานนั้น ผมก็บังเอิญไปเจอฝูงก็อบลินเดินผ่านมากันพอดี และแน่นอน พวกมันต่างพากันทยอยมาโจมตีพวกเราเมื่อมันสังเกตเห็น ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่รีรอชักดาบออกมาทันที
ริต้านั้นเธอทรุดลงกับพื้นในสภาพที่หวาดผวาไปด้วยความกลัว และจากที่ผมใช้สกิลประเมินตรวจสอบดู พวกมันมีจำนวนมากกว่า 40 ตัว แต่เลเวลเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 11 ดังนั้นผมจึงไม่ได้รู้สึกอะไรมาก
“นี่ อย่าอยู่ห่างจากฉัน ไม่งั้นอาจจะเจ็บตัวได้นะ” ผมบอกริต้า เพื่อให้เธอได้สติ แต่ทำไมใบหน้าของเธอนั้นกลับเต็มไปด้วยสีแดงก่ำได้กันล่ะ
ผมเริ่มเข้าปะทะกับเหล่าก็อบลินทันที พวกมันนั้นพกอาวุธมาด้วยด้วยมากมาย ไม่ว่าจะดาบ,ทวน,หอก หรือแม้กระทั่งค้อน พวกมันโจมตีเล็งมาที่ผมซึ่งยืนอยู่ด้านหน้า แต่ก็มีพวกมันบางตัวกำลังร้องขึ้น ผมเองก้ไม่เข้าใจภาษาก็อบลินด้วย เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ได้สนใจ ไล่ฆ่าพวกมันไปทีละตัว สองตัว
“ว้ายยยยย!!” ริต้าร้องลั่นขึ้น เนื่องจากมีก็อบลินหลุดไปจากด้านหน้าของผม ไม่สิ พวกมันมาเพิ่มขึ้นมากกว่า ดังนั้นผมจึงรีบวิ่งเข้าไปกระชากก็อบลินที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอด้วยดาบของผม
ริต้านั้นแสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นและเต็มไปด้วยความกลัว ผมที่เห็นดังนั้นจึงรู้ได้เลยว่า เธอนั้นกำลังหวาดผวาไปกลับภาพที่เห็นตรงหน้า
เวลาไม่นานนัก ก็อบลินจำนวนมากก็ถูกผมเชือดจนหมด เลเวลของผมเพิ่มมาอีก 1 เลเวล น้อยจังแฮะ ส่วนริต้านั้นยังคงนั่งสั่นไปด้วยความกลัว
“ปลอดภัยแล้วนะ ริต้า” ผมกล่าวขึ้นเพื่อเรียกสติของเธอ
เมื่อเธอได้สติ เธอจึงมองไปรอบ ๆ แล้ว
“เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณฆ่าพวกมันไปหมดเลยงั้นเหรอคะ” ริต้าถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว
“เอ่อ ไม่ได้นับน่ะ แต่คิดว่าน่าจะราว ๆ 60 กว่าตัวล่ะมั้งนะ”
“แล้ว คุณไม่กลัวบาปงั้นเหรอคะ นักบวชน่าจะถูกสอนมาอย่างเข้มงวดในศาสนจักรว่าห้ามแย่งชิงชีวิตนี่คะ เพราะทุกชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้ามอบให้นะคะ”
“แต่ว่าผมไม่ได้เชื่อในพระเจ้าหรอกนะ” ผมตอบกลับไป
“แต่คุณก็ยังคงใช้เวทรักษาได้ไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไม”
“เพราะผม เชื่อในบุคคลที่มีค่าสำหรับผมเท่านั้นน่ะนะ”
“บุคคลที่มีค่า เหรอคะ” ริต้าเงียบลง
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ยังไงซะ กฎเหล็กของธรรมชาติน่ะ มันก็แค่ จะฆ่าหรือถูกฆ่าเท่านั้นแหละ” ผมกล่าวออกไปด้วยสีหน้าที่กดดัน ริต้าที่มองมาที่ผมนั้นกลับเงียบกริบ เธอมองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ
“เอ่อ ขอโทษนะคะ คือว่าคุณรีเชอร์มีแฟนรึยังคะ” จู่ ๆ เธอก็ถามขึ้น คำถามนี้มันทำให้ผมเกือบหัวใจวายเลยนะ เพราะชีวิตก่อนในฐานะของวีรยุทธ์ผมยังโสดจนถึงอายุ 34 เลยนะ
“เอ่อ ไม่มีหรอก” ผมที่ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไป จึงตอบออกไปตามตรง
“งั้นช่วยคบฉันได้ไหมคะ” เธอมองมาที่หน้าของผมด้วยสีหน้าแดงก่ำ พร้อมกับแววตาที่สาดส่องความคาดหวังมาแบบเต็มสูบ
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ว่านะ คบเหรอ หาาาาา
“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะครับ” ผมถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“อะ เอ่อ คือว่า กรุณาช่วยคบกับฉันด้วยเถอะคะ” สรุปคือ ผมไม่ได้หูฝาดหรอกเรอะ!!
จบตอนที่ 7
สิ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงในสเตตัส
เลเวลปัจจุบัน 20
สกิลพ้อยต์ที่เหลือ 500
ได้รับฉายาเพิ่มขึ้น
นักบวชลึกลับ
นักฆ่าก็อบลิน
ชายผู้ปักธงสาว ๆ แบบไม่รู้ตัว(3 คน)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ