SweetHunter นักดาบซ่า ล่าขนมหวาน

-

เขียนโดย Dingsufah

วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.57 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,452 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560 17.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) แปรเปลี่ยน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 5 แปรเปลี่ยน

 

          ทั้งคู่หยุดชะงัก พร้อมกับมองหาเจ้าของเสียง แต่พยายามมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เห็นแต่ซากศพไร้วิญญาณของอสูรกระจอกกองกันเกลื่อน ทั้งคู่เหลียวซ้ายแลขวากันคนละทาง ก็ไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ จะเห็นก็แต่ร่างโงนเงนของอสูรตัวหนึ่ง คุนางิจำได้ว่ามันคือตัวหัวหน้าของพวกที่นอนกองกันอยู่

 

          ร่างนั้นดึงดูดความสนใจของทั้งคู่เป็นอย่างมาก ไม่ทันไรแสงสีแดงก็ฉายออกมาจากดวงที่ ปกติจะเป็นสีดำมืดของอสูรทาส พร้อมกับสัมผัสของพลังชั่วร้าย สหายทั้งสองอยู่ในท่าเตรียมพร้อมสู้

 

          “ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน ไอ้หนูนักดาบ” เสียงอันชั่วร้ายชวนสยองให้ขนขลุกขนพอง ส่งผ่านมาจากร่างโงนเงน ที่อยู่เบื้องเด็กหนุ่มทั้งสอง ทำให้ทั้งคู่ตั้งท่าระวังตัวกันมากขึ้น

          “เปล่าประโยชน์” เจ้าตัวโงนเงนพูดด้วยน้ำเสียงปริศนา “นี่เป็นแค่ร่างที่ข้ายืมมาพบกับพวกเจ้าทั้งสอง”        

          “ร่างยืมอย่างนั้นหรอ” คาร์ลอสทวนคำพูดของเสียงประหลาดนั่น

          “ใช่แล้ว ด้วยพลังของข้า ข้าสามารถจะยืมร่างของสมุนข้าได้ และตอนนี้ข้ายืมร่างทรุดโทรมนี้มาพบกับพวกเจ้า” เจ้าหุ่นเชิด บรรยายความสามารถของผู้สิงร่างแบบคร่าวๆ

 

          คุนางิก้าวออกาด้านหน้าสหายของตน “เจ้าสินะ ทีรามิสุ” เด็กหมุ่นตวาด “มาเจอกันตัวต่อตัวกับข้าซะ แล้วข้าจะเด็ดหัวเจ้า มาเซ่นสังเวยความต่ำช้าของเจ้า” มืออันพลิ้วไหวชักดาบจากฝัก ตวัดชี้ไปยังอสูรเสียงเบื้องหน้า ปลายดาบเฉียบคมจ้องนิ่งต่อหน้าไม่ไหวเอน ราวกับ ว่า ส่งคำท้าทายของข้าผ่านใบดาบไปยังอสูรทราม

 

          “ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อสูรร้ายคำรามออกมาด้วยความขัน “เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นเจ้าสองคนน่ะรึ คิดจะท้าทายข้า” สิ้นเสียงเย้ย ร่างโงนเงนก็หยุดนิ่งเฉยต่อหน้าเด็กหนุ่มทั้งสอง แล้วอ้าแขนออกกว้างทำท่าเชื้อเชิญ “แต่เห็นแก่ฝีมือและความสามารถของพวกเจ้าทั้งสอง ข้าจะยื่นข้อเสนอให้พวกเจ้า” เจ้าปีศาจยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

 

          “ปีศาจอย่างแกจะให้ข้อเสนออะไรกับพวกเรา” คาร์ลอสถามข้ามหลังคุนางิมา โดยยังคงไม่คลายท่างทีระแวดระวัง

 

          “หึหึ เข้าอยากให้พวกเจ้าทั้งสองทำงานรับใช้ข้ายังไงล่ะ”

          “ว่าไงนะ ล้อเล่นรึไง ทำไมพวกเราจะต้องร่วมมือกับแกด้วย” คาร์ลอสเดือดดาดขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน รู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็ยืนล้ำหน้าคุนางิมาเสียแล้ว

 

          “ไม่ต้องเดือดดาดขนาดนั้นหรอก พ่อหนุ่มปืนไว รอฟังข้อเสนอของข้าซะก่อนเป็นไง” เจ้าปีศาจพยายามจะซื้อเวลา

          “แล้วแกมีข้อเสนออะไร” คุนางิเอ่ยถาม

          เจ้าปีศาจยิ้มที่มุนปาก “หากเจ้าทำงานรับใช้ข้า พวกเจ้าทั้งสองก็จะอยู่สบาย มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ ไม่ว่าเจ้าทั้งสองต้องการอะไรข้าก็ให้เจ้าได้ตามที่เจ้าต้องการ ไม่ว่าจะสุรานารี ข้ามีให้เจ้าไม่ขัดเคือง ”

          คำเชื้อเชิญของทีรามิสุน่าสนใจยิ่งนัก แต่กับคาร์ลอส มันไม่มีความพิสมัยอะไรเลย ทั้งหมดที่พูดมา สำหรับเค้ามันคือการดูหมิ่นที่ไม่น่าจะให้อภัย “เรื่องแบบนั้นน่ะใครจะไปสน การไปเสวยสุขกับแก แล้วปล่อยให้ผู้อ่อยแอต้องโดนยำยีแบบนี้ พวกเราไม่แม้จะเก็บมาคิดด้วยซ้ำ” ว่าแล้วก็หันมองย้อนมาที่คุนางิ โดยเชื่อว่าหน้าตาของเพื่อนจะให้คำตอบแบบเดียวกับตน แต่

 

          “น่าสนใจดีนี่” คุนางิเดินยิ้มเข้าหาร่างหุ่นเชิดของทีรามิสุ ท่าทางเค้าสนใจในข้อเสนอไม่น้อย

          “บ้าไปแล้วรึไง” คาร์ลอสร้องปรามสหายของตน เพื่อเตือนสติ แต่นักดาบหนุ่มก็ยังคงเดินเข้าหาเจ้าของคำชวน โดยไม่มีทีท่าว่าจะฟังคำใดๆ จากสหายของตนเลย

          “ที่เจ้าว่ามามันก็ไม่เลวนะ” คุนางิเดินย่ำใกล้เท่ากับคาร์ลอส “เพียงแค่ข้ายอมทำงานให้กับเจ้า ก็จะได้ทั้งความสบาย มีบริวารน้อยใหญ่คอยรับใช้ อาหารการกินก็ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ” คุนางิ เดินผ่านร่างของเพื่อนตนไปเลย เข้าใกล้กับร่างแทนของผู้ยิ่งใหญ่ “เจ้าไม่สนบ้างหรอ คาร์ลอส” เด็กหนุ่มหันกลับมาชักชวนสหายให้เข้าร่วมกับตน

 

          “ไม่เด็ดขาด!!” เด็กหนุ่มตวาดลั่น หน้าบิดเบี้ยวผิดรูปราวกับคนละคนเพราะความโกรธ ตนไม่นึกว่า คนที่ตนเทใจจะให้ความช่วยเหลือแม้ยามตกอับ จะเปลี่ยนใจเพียงแค่คำหลอกล่อที่มีแต้กิเลศ แบบนี้ได้ เด็กหนุ่มกัดฟนกั้นทน ทั้งที่ในใจอยากจะระเบิดสมองให้แหกคาตาทั้งมิตรและศัตรู

          “ไม่งั้นหรอ?” คุนางิส่งแววตาให้เพื่อน คาร์ลอสชะงักความโกรธไว้ เมื่อรู้ในความหมายในนัยน์ตาสหาย เป็นสัญญาณบอกว่าจะไม่แปลเปลี่ยน ในเส้นทางที่เลือกเดินมา “งั้นก็”

 

          ฉึบ!

          ชั่วพริบตา คมดาบตวัดเฉียงจากมุมอับสายตาขึ้นทางขวา ผ่าร่างโงนเงนหล่นเป็นสองท่อน ร่างของเด็กหนุ่มผู้ตวัดดาบ ยืนค้ำเบื้องหน้าของร่างชำรุดทั้งสองท่อน องอาจรอรับผลที่อาจจะตามมา

         

          “หึหึ แสบนักนะเจ้านักดาบ” แม้ร่างแทนจะขาดเป็นท่อน แต่เสียงนั้นจะยังคงก้องอยู่ท่ามกลางเด็กหนุ่มทั้งสอง “ไหนๆ เจ้าก็ปฏิเสธข้าแล้ว ขอถามหน่อยเถอะ ว่าพวกเจ้าคิดว่าจะจัดการกับข้าผู้นี้ได้อย่างงั้นรึ” เสียงคำรามด้วยความโมโห กึกก้องรับคำท้าของผู้ปฏิเสธตน

 

          “ข้าไม่รู้หรอกว่าจะทำได้รึป่าว” คุนางิที่ยืนตง่านอยู่สวนขึ้น “แต่เมื่อเทียบกัน ระหว่างความต่ำช้าของเจ้า กับจิตใจสูงส่งของพวกข้าทั้งสอง” คุนางิชี้ดาบไปยังทิศที่ตั้งปราศาจของทีรามิสุ “และคมดาบเล่มนี้ ที่เป็นของจากพ่อข้า จะไม่มีวันแพ้ให้กับคนอย่างเจ้าเป็นอันขาด” สายฟ้าปรากฏขึ้นเพียงชั่วพริบ ไม่มีแม้เสียงคำรนจากประกายแสง เป็นดังคำสัตว์ที่จะติดกับตัวของราชาปีศาจผู้ชั่ช้าไปตลอดกาลตราบใดที่ยังอยู่ใต้ฝืนฟ้าเดียวกัน

 

 

          ทั้งสองจากหมู่บ้านของคาร์ลอสมาในยามมืดดึก ต้องเร่งรีบที่จะไปยังจุดหมายโดยเร็ว แต่ไม่ว่าจะเร่งฝีเท้ายังไงก็ดูเหมือนกับจะยิ่งยกเท้าไม่ขึ้น ความช้าสะสมจากการต่อสู้ บวกกับระยะทางในการฝ่าฟันความหนาวเหน็บยามค่ำคืน ทำให้ล้าอย่างหนักแม้ว่าจะอยู่ในตอนเช้า แสงแดดก็ยังคงไม่ระคายความล้าของทั้งสอง ทั้งคู่เหลือบมองดูทางข้างหน้า ว่าเป็นสถานที่ใด ก็พบว่ามันเป็นหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่ในดงทะเลทรายที่แห้งแล้ง

 

          หมดสิ้นแล้วศรัทธาอันแรงกล้าที่จะกอบกู้ความเท่าเทียมให้แก่ผู้คน ความหิวจนตาลายทำให้ทั้งคู่ถอนใจไป แต่เหมือนว่าฟ้ายังไม่ทอดทิ้งผู้กล้าทั้งสอง ทั้งคู้ฝืนใจจ้องมองไปข้างหน้า ภาพเลือนรางค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ

          ชัดขึ้น

          ชัดขึ้นอีก

          ชัดขึ้นอีก

          ชัดขึ้นอีก

          “ท่านผู้มาจากต่างเมือง พวกเราชาวบ้านทรายมายา ขอต้อนรับท่านทั้ง ด้วยสรรพอาหารควหวานทั้งหลายนี้”.    

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา