SweetHunter นักดาบซ่า ล่าขนมหวาน
เขียนโดย Dingsufah
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.57 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560 17.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) คำเตือน และเพื่อนร่วมทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
คุนางิจ้องมองร่างของเด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า ดูแล้วอายุไม่น่าต่างจากตนมากนัก ชายเบื้องหน้ายืนถ่างขาและถือปืนสั้นต่อยาวด้วยที่เก็บเสียง เค้าใส่กางเกงและเสื้อซับในของทหาร หน้าตาดูแก่แดด และน่าจะสูงกว่าคุนางิอยู่ซักยี่สิบเซ็น เค้าจ้องมองคุนางิ
“ข้าบอกให้เจ้าหยุด ได้ยินรึไม่” เค้าขู่คุนางิ อีกรอบ
คุนางิเดินเข้าไปหาด้วยท่าทีที่เป็นมิตร และยิ้มแย้ม “เอ่ย ใจเย็นๆ ก่อนสิท่าน ข้าแค่เดินผ่านมา ไม่ได้จะ..”
ปั้ง!!
หัวกระสุนพุ่งมาดักหน้าคุนางิแบบฉิวเฉียด ทำเอาคุนางิเหงื่อตก แล้วรีบยกมือขึ้นเหนือหัว
“ดะ ดะ เดี๋ยว.. ท่านเดี๋ยวๆๆๆ” คุนางิพูดเสียงตะกุกตะกัก ในใจคิดเบื่อหน่าย พึ่งจะพ้นเรื่องสนุมปีศาจมา ต้องมาเจอกับเจ้าบ้าชุดทหารนี่อีก “ข้ายังไม่ทันได้ทำอะไรไม่ดีเลยนะ ทำไมต้องรุนแรงกันด้วยเล่า” คุนางิว่าพลางกระโดดโหย่งเหยงหลบลูกกระสุนที่ยิงมาไม่หยุดหย่อน
เด็กหนุ่มผู้เฝ้าปากทางเข้าหมู่บ้าน ยังคงไล่สาดกระสุนใส่คุนางิต่อเนื่อง จนคุนางิองก็เริ่มจะฟิวล์ขาด
“เจ้าบ้าเอ๊ยยย!!” คุนางิตะหวาดร้อง แล้วชักดาบออกมา ใบดาบสะท้อนแสงยามเย็น เห็นแล้วชวนให้นึกถึงวีรบุรุษในสงครามยุคก่อน คุนางิใช้ดาบปัดป้องกระสุนปืนที่พุ่งมาราวห่าฝน แล้วเริ่มจระโจนเข้าใส่เพื่อตอบโต้
“ข้าไม่ใช่ผู้ร้ายข้ามแดนนะ หยุดยิงได้แล้ว” คุนางิว่าขณะที่ใช้ดาบดันปืนของ เด็กหนุ่มชิดลำตัว
“ของแบบนั้นใครๆ ก็พูดได้” เด็กหนุ่มใช้ปืนอีกข้างยิงเสยหน้าคุนางิไป แต่ก็ถูกหลบได้
คุนางิกระโดดมาตั้งหลัก พร้อมหายใจหอบ เหงื่อชุ่มไปทั้งตัว
“ผีมือไม่เลวหนิ ดูท่าคราวนี้จะส่งมือดีมาสินะ แต่ดูท่าแล้วคงตะได้แค่นี้แหละ” เด็กหนุ่มว่าพลางเย้ยหยันสภาพของคุนางิ ที่บัดนี้ดูไม่สู้ดีเอาซะเลย ผลของการต่อสู้คราวก่อนทำเอาเสียพลังไปเยอะไม่ใช่เล่น
“เจ้าพูดเรื่องอะไรข้าไม่เห็นข้าใจเลย” คุนางิยืนตรง แต่ยังหอบอยู่
“อย่ามาทำไก๋ พวกสนุมปีศาจอย่างแก พอเข้าตาจนก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องรึไง” เด็กหนุ่มไม่เชื่อคำของคุนางิ มองว่าเป็นเพียงข้อแก้ตัว
แกร๊ง!!
คุนางิทิ้งดาบลง กางแขนออก แล้วสบตากับเด็กหนุ่มเบื้องหน้า
“เจ้าทำบ้าอะไร” เด็กหนุ่มซักถาม เพราะเห็นท่าทีแปลกไป แต่ยังคงไม่ลดปืนลง ปืนยังเล็งไปที่หัวใจของเป้าหมาย
“ก็จะพิสูทน่ะสิ” คุนางิสบตากับเค้า “ว่าข้าไม่ได้เป็นพวกเดียวกันหับสมุนปีศาจอย่างที่เจ้าว่า และเพื่อเป็นการยืนยัน ข้าจะไม่สู้กับเจ้า” คุนางิยืนกราน สายตาจับจ้องในดวงตาเด็กหนุ่มไม่ไหวติง เพื่อบ่งบอกจากใจว่าตนนั้นบริสุทธิ์
เด็กหนุ่มไม่เชื่อคำง่ายๆ สายตาและท่าทางของเค้ายังคงแสดงชัดว่า ไม่ว่าใครก็อย่าหวังจะล่วงล้ำผ่านเค้าไปเป็นอันขาด
ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะลงมืออะไรต่อ ร่างของคุนางิก็ล้มฟุบกองกับพื้น เด็กหนุ่มรีบวิ่งเข้าดูอากาศของผู้ต้องหา
คุนางิฟื้นขึ้นมา แล้วเห็นว่าตนอยู่ในห้องนอนของบ้านหลังหนึ่ง ข้างๆ มีจานข้าวหนึ่งจานส่งกลิ่นยั่วยวน วางคู่กับน้ำหนึ่งแก้ว ด้วยความหิว คุนางิรีบจัดการอาหารตรงหน้าโดยเร็ว ในยังครุ่นคิดว่าตนมาอยู่ในห้องนี่ได้ยังไง ไม่ทันไรคำตอบก็ปรากฏ
เด็กหนุ่มที่สาดกระสุนใส่คุนางิเมื่อตอนเย็นเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับชายวัยกลางคนที่ ดูออกอย่างง่ายดายว่าเป็นคู่พ่อลูก ท้องสองนั่งคุกเข่าตรงหน้าของคุนางิ
“ต้องขอโทษด้วยที่ลูกชายข้าคาร์ลอส ได้กระทำเรื่องน่าอับอาย จนเป็นเหตุให้เจ้าต้องเดือดร้อน” ชายวัยกลางคนน้อมลงเพื่อแสดงความขอโทษ โดยที่ลูกชายน้อมตาม
“ท่านไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก” แสดงท่าทีเกรงใจ “ตัวข้าเองก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร ที่เป็นลมล้มไป ก็เพราะเหนื่อยล้าจากการประดาบกับพวกสมุนปีศาจจากหมู่บ้านข้างๆ ก็เท่านั้น”
“ปีศาจจากหมู่บ้านข้างๆ หรอ” คาร์ลอสถามแบบออกอาการ
“อือ ข้าเดินเดินทางมา เพื่อที่จะไปหาเจ้าราชาปีศาจที่ชื่อ.... เอ่อ..” คุนางิหยุดถึงชื่อที่ไม่ค่อยได้จำพักหนึ่ง “อ่อ ทีรามิสุ แล้วก่อนหน้าจะถึงหมู่บ้านนี้ ข้าได้พบกับพวกมัน มันได้ทำการชั่วช้า จนข้าทนไม่ได้ จึงไม่พลั้งมือเข้าไปจัดการกับพวกมันให้หลาบจำ แต่ก็ดันปล่อยให้มันตัวหนึ่งหนีรอดไปได้” คุนางิแสดงท่าทีว่าเสียดาย แล้วสบกับคู่พ่อลูก
“เจ้าออกตามล่าทีรามิสุอย่างงั้นรึ” คนพ่อเอ่ยถาม “ดูเจ้าอายุก็ยังไม่มาก น่าจะเด็กกว่าลูกชายข้าซักสองปีเสียด้วยซ้ำ เจ้ามีเหตุผลอันใดถึงต้องทำเรื่องเสี่ยงชีวิตแบบนี้”
“เพราะว่า..” คุนางิหยุดชะงัก เมื่อนึกถึงสัญญาที่ให้ไว้กับจอมเวทย์ “ข้าทนความต่ำช้าของมันไม่ได้” คุนางิรีบต่อความ เมื่อนึกเรื่องบังหน้าขึ้นได้ “เพราะความชั่วช้า และต่ำทรามของมัน ทำให้หมู่บ้านของข้า ต้องขาดแคลนขนมที่เป็นดั่งยารักษาโรคภัยต่างๆ จนคนในหมู่อาการทรุดหนัก ข้าในฐานะที่เป็นทายาทของสำนักดาบจึงไม่อาจอยู่เฉยได้ ข้าจึงตัดสินใจที่จะตามล่า เพื่อกำจัดมันและเหล่าสนุมชั่วให้สิ้น” คุนางิก้มหน้า กำปั้นทุบพื้น ยิ้มย่อมในใจที่ตนคิดเรื่องบังหน้าได้ซึ้งกินใจ
“ความคิดของเจ้าช่างกล้าหาญนัก” ผู้พ่อขยับตัวตรงและสบตาคุนางิ “แต่อย่าหาว่าข้ายุ่งเรื่องของเจ้าเลยนะ เรืองนี้น่ะ ดูมันจะหนักหนาไปสำหรับเด็กอย่างเจ้า ข้าจึงอยากจะให้เจ้าลองคิดทบทวนความคิดของตนซะใหม่”
สิ้นเสียงเตือนอันหวังดี คุนางิหยุดนิ่งไปไม่ใช่เพราะต้องคิดหนักอะไร แต่เพราะไม่ต้องคิดอะไรเลยต่างหาก ที่รับภารกิจนี้มา ก็เพราะเห็นว่าท่านจอมเวทย์เป็นคนขอ และตนเองที่อยากจะแสดงฝีมือ ให้กับผู้เป็นพ่อได้เห็น ว่าตนนั้นมีความสามารถเพียงใด แต่การจะตอบแบบมีเหตุผลน่าฟังนั้น มันออกจะเป็นงานยากสำหรับคนชอบทำอะไรตามใจตัวเองอย่างคุนางิซักหน่อย
“ถ้าเจ้าเห็นว่าสิ่งที่ข้าพูดนั้นถูกต้องแล้วล่ะก็ ข้าก็อยากให้เจ้าปล่อยมือจากเรื่องนี้ซะ เจ้าจะพักที่นี่สักคืน แล้วค่อยกลับไปยังหมู่บ้านของเจ้าพรุ่งนี้เช้าก็ได้” สิ้นคำปลอบประโลม พ่อของคาร์ลอสก็ลุก และทำท่าจะเดินออกจากห้องไป
“ข้าว่าเจ้านี่ไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ หรอก” คาร์ลอสพูดขึ้น ทำให้ผู้เป็นพ่อหยุดชะงักที่ปากประตู
“เจ้าพูดอะไรของเจ้า” ผู้เป็นพ่อ ชักถามความเห็นจากลูกชาย
“ขนาดว่าล้าจากประดาบกับพวกมันมาแล้ว ยังมีใจที่จะสู้กับข้าเพื่อที่จะผ่านทางไปยังเป้าหมายให้ได้อีก คนแบบนี้น่ะมันน่าส่งเสริมจะตายไป” คาร์ลอสยิ้มที่มุมปาก โดยมีคุนางินั่งงงโงยหน้าเบื้องหน้า
“เจ้าจะบอกอะไรกันแน่ คาร์ลอส” ผู้เป็นพ่อถามเสียงเรียบ
คาร์ลอสหันไปทางผู้เป็นพ่อ “ท่านพ่อข้ารู้ดีว่าที่ป่านมาข้าได้ทำอะไรไปบ้าง ฉนั้นตั้งแต่วันนี้ไปข้าอนุญาติท่านพ่อ ให้ข้าได้ทำสิ่งที่สำคัญกับข้าด้วย ขอให้ข้าได้ช่วยเค้าอีกแรง”
บรรยากาศในห้องดูอึดอัด ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น มีเพียง เสียงของนกกลางคืน และเสียงผู้คนที่พูดคุยกันอบยู่ภายนอก คุนางินั่งบื้อไม่รู้เรื่องใดๆ ทั้งนั้นรู้สึกได้ว่าตนกลายเป็นส่วนเกินของระหว่างสองพ่อลูก
ทั้งสองพ่อลูกยังจับจ้อง ไม่ละสายตาจากกัน เวลานั้นล่วงเลยไปหลายนาทีแล้ว คุนางิเริ่มคุ้ยเขี่ยพื้น ไม่รู้จะทำตัวยังไง
“ตามใจเจ้าสิ” ผู้เป็นพ่อตอบเสียงเรียบแล้วเดินออกจากห้องไป
“หมายความว่าไง เจ้าจะไปกับอย่างนั้นหรอ”
“อย่างที่เจ้าได้ยินนั่นแหละ อย่าชักช้า รีบเตรียมข้าวของออกเดินไปต่อได้แล้ว” คาร์ลอสทำการพรึ่บพรับว่องไว ทั้งคู่เตรียมตัวเสร็จภายในไม่กี่นาที แล้วพากันเดินตรงไปยังทางออกของหมู่บ้าน
“ทำไมเจ้าต้องช่วยข้าด้วย” คุนางิถามระหว่างที่กำลังก้าวเดินอย่างรวดเร็ว
“ไว้ข้าจะอธิบายทีหลัง ตอนนี้รีบออกจากหมู่บ้านกนก่อนเถอะ” คาร์ลอสรีบเดินนำหน้าโดยเร็ว ทั้งคู่หลุดประตูหน้าหมู่บ้านมาแล้ว แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงดังกังวานที่น่าเกลียดดังขึ้น
“เจ้านักดาบอยู่ที่ไหน พวกเจ้าทั้งหมดที่หมู่บ้านนี้ มีใครพบเจ้านักดาบตัวเตี้ยสวมแจ็คเก็ตเดินผ่านมาทางหมู่บ้านนี้บ้าง”.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ