SweetHunter นักดาบซ่า ล่าขนมหวาน
-
เขียนโดย Dingsufah
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.57 น.
5 ตอน
0 วิจารณ์
6,370 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560 17.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่ 1 คาตานะไวเบรเนี่ยม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแอ๊ด ปัง!!
ประตูวิหารเปิดอ้าออกกลางเงามืด ร่างของชายหนุ่มผู้ถูกเลือกเดินฝ่าองค์รักษ์สองขนาบประตูเข้าสู่ห้องอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกครองแห่งหมู่บ้านเซาท์ จอมเวทย์คิงส์เมจิกยืนสง่าบนบัลลังก์ รอที่จะบอกเรื่องร้ายแรงให้กับเด็กหนุ่มรู้
เด็กหนุ่มเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าบัลลังก์ สายตาจับจ้องคิงส์เมจิกด้วยความงุงงง
“นี่ท่านจอมเวทย์ ท่านเรียกข้ามามีธุระอะไรรึ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม พลางมองดูรอบๆ วิหาร มันประดับไปด้วยอัญมณีที่หายาก รายล้อมด้วยรูปปั้นแห่งเหล่าทวยเทพทั้งหลาย และเปลวไฟเวทย์มนต์สีฟ้า ที่ส่องประกายตามหัวเสาอันมหึมา บันดาลให้ห้องวิหารนี้ดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
“ต้องขอโทษด้วยที่เรียกเจ้าเข้าพบกะทันหันแบบนี้” จอมเวทย์สบตาแสดงความไม่ตั้งใจรบกวน “แต่ที่ข้าเรียกเจ้าเข้าพบเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ระดับที่สี่หมู่บ้านใหญ่ต้องประกาศเป็นภัยฉุกเฉิน และข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้แล้ว” จอมเวทย์สบสายตาเด็กหนุ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้มิใช่แววตาที่แสดงความเสียใจแต่อย่างใด “ข้า..”
“เรื่องอะไรที่ข้ารู้แล้วรึท่านจอมเวทย์” เด็กหนุ่มถามมาหน้าตาย
แววตาจริงจังเมื่อครู่กลายเป็นแค้นเคืองในความไม่ประสาของเด็กหนุ่ม
“ข้าให้คนตามเจ้ามาเพราะเหตุร้ายแรง แต่เจ้ากลับไม่รู้เรื่องเลยงั้นรึ”
“ก็ไม่เห็นมีใครบอกข้า บอกแค่ว่าท่านจอมเทพเรียกข้าให้เข้าพบ ข้าก็เลยตามคนของท่านมา”
หมดสิ้นคำพูดที่จอมเวทย์จะกล่าว
“เอาล่ะคุนางิ ที่ข้ารียกเจ้ามาเพราะมีเหตุร้ายเกิดกับที่ขึ้นกับทั้งสี่หมู่บ้านใหญ่ และรวมทั้งหมู่บ้านเซาท์ของพวกเราด้วย” แววตาท่านจอมเวทย์กลับมาจริงจัง “ไม่นานมานี้มีข่าวจากทั้งสามหมู่บ้านใหญ่ว่า ขาดแคลนขนมหวานซึ่งเป็นยารักษาโรคอย่างหนัก ทีแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จึงได้มีการส่งจอมยุทธ์ของหมู่บ้านอีสต์ออกไปสืบหาเบาะแส และ..” สายตาท่านจอมเวทย์เลื่อนลงต่ำ
“มีอะไรรึท่านจอมเวทย์ ดูหงอยเชียว” คำถามหวังดีจากคุนางิ ที่ตอนเริ่มจะอยู่ไม่สุข
“มีข่าวรายงานมาว่าขนมหวานทั้งนั้นถูกรวบรวมไว้ที่ใครบางคน ไม่สิต้องว่าที่ราชาองค์หนึ่งต่างหาก” สายตาจับจ้องที่คุนางิอีกครั้ง “แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือ จอมยุทธ์ที่ถูกส่งไปนั้นไม่ได้กลับมาด้วย และไม่มีใครรู้ด้วยว่า ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไง”
คุนางิ เริ่มสนใจบ้างแล้ว
“ท่านจะบอกว่ามีแต่ข่าวส่งมา แต่คนไม่มาด้วยงั้นรึ” คุนางิ ทำท่าครุ่นคิด
ท่านจอมเวทย์พยักหน้า
“ตามที่เจ้าเข้าใจ ดังนั้นข้าจึงอยากให้เจ้าช่วยไปจัดการกับทีรามิสุ ราชาชั่วที่ยึดครองขนมหวานไว้แต่เพียงตนผู้เดียว อันเป็นเหตุให้ผู้คนนับมิถ้วนต้องเดือดร้อน” ท่านจอมเวทย์พักหายใจชั่วครู่ “และช่วยตามหาจอมยุทธ์อีกคนให้เจอ แล้วพาเค้ากลับไปหมู่บ้านอีสต์ด้วย”
“งานกล้วยๆ น่า ” คุนางิยิ้มแป้น “เดี๋ยวข้าจะจัดการเองท่านจอมเวทย์ไม่ต้องห่วง ข้าคนนี้เป็นถึงทายาทของสำนักดาบอันดับหนึ่งของหมู่บ้านเซาท์ดังนั้น...”
“เดี๋ยวสิคุนางิ” ท่านจอมเวทย์ขัดขั้น “ถึงนี้จะเป็นคำสั่งจากข้าแต่อย่าให้คนนอกรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด เข้าใจมั้ย”
คุนางิเอียงคอส่งสายตาเจ้าเล่ห์ “ไว้ข้าจะพยายาม”
“เดี๋ยวสิเจ้า.....”
ไม่ทันซะแล้วคุนางิวิ่งแจ้นออกไปด้วยไม่ฟังคำใดๆ
เช้าอันสดใสที่คลินิกแพทย์อันดับหนึ่งของหมู่บ้าน คุนางิวิ่งหน้าตั้งแต่เช้า เพื่อมาหาใครซักคนให้ช่วย
ปัง!!
เสียงเปิดประตูดังลั่น
“หมอเรปต้า!!” เสียงตะโกนโวยวายดังขึ้น
“อยู่ใหนน่ะ!!” เสียงผีเท้าวิ่งพล่านไปทั่วห้อง “ผมมีเรื่องอยากให้ช่วยออกมาหาผมหน่อยสิ หมอเรปต้า” สิ้นเสียงโวยวายก็ วิ่งพล่านอีกครั้ง
“อยู่ในนี้” เสียงดังมาจากห้องใต้ดิน
“ลงไปทำอะไรในนั้นน่ะ” คุนางิร้องถาม พร้อมก้าวลงบันได
“ก็ห้องใหม่ของข้าน่ะสิ ข้างบนมันเสียงดังเอะอะจนไม่มีสมาธิทำงาน ก็เลยสร้างมันที่ห้องใต้ดินนี่แหละ” คุณหมอร่างใหญ่
“แล้วเจ้ามีเรื่องอะไร เอะอะแต่เช้าเชียว”
คุนางิแสยะยิ้ม“ก็ไม่มีไรมากหรอก”
“คำว่าไม่มีอะไรของเจ้า มักมีอะไรทุกที” หมอเรปต้าดักคอ
“ก็นะ” คุนางิขยับตัวนั่งบนเก้าอี้ข้างโต๊ะทำงานหมอเรปต้า “พอดีว่าข้าน่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านจอมเวทย์ ให้ช่วยไปจัดการกับทีรามิสุอะไรนั่นน่ะ แล้ว..”
“ห้ะ!! ทีรามิสุ เจ้ารู้ตัวรึป่าวว่าพูดถึงอะไร”
“ก็ต้องรู้สิ” คุนางิ เท้าคาง “เห็นบอกว่าเป็นราชาชั่ว ที่ยึดเอาขนมหวานที่เป็นยารักษาโรคมาไว้ที่ตนเพียงคนเดียว ก็เลยทำให้ชาวบ้านเค้าเดือดร้อนกัน แล้วท่านจอมเวทย์ก็วานให้ข้าช่วยไปจัดการ อ้อ!! แล้วก็ช่วยหาตัวจอมยุทธ์อีกคนกลับมาด้วยล่ะ” คุนางิร่ายยาว
“ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น” หมอเรปต้ากัดฟัน “ทีรามิสุน่ะ เป็นราชาปีศาจที่ได้รับพลังจากพระเจ้าเชียวนะ เจ้าไม่รู่เรืองนี้รึไงกัน” หมอเรปต้าเกลี้ยว
คุนางิส่ายหัว “ไม่มีใครบอกข้าเรืองนี้เลย”
“ว่าแล้วเชียว” หมอเรปต้าเริ่ม เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
“ทำไมหมอต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนั้นด้วยล่ะ”
“ยังจะถามอีก ที่ข้าเล่าไปเจ้าไม่รู้สึกถึงความหน้ากลัวของมันเลยรึยังไง”
“ไม่หรอก” คุนางิเป้ปาก “ก็แค่ได้พลังจากพระเจ้า ไม่ใช่พระเจ้าซักหน่อย จะกลัวทำไมกัน”
“เหอะ!! หัวดื้อตามเคย” หมอเรปต้าเอือม “ว่าแต่ที่เจ้ามาอยากให้ข้าช่วยอะไร”
“ก็แค่เรื่องยาน่ะ” คุนางิยิ้มเจ้าเล่ห์
“ยาอะไรของเจ้า ไปออกตามล่าคนชั่ว จะเอายาไปทำอะไรกัน”
“ก็แค่เผื่อไว้น่ะ ถ้าข้าเป็นไรขึ้นแล้วได้กลับมาเจอท่านจะทำยังไงเล่า” คุนางิหว่านล้อม จนหมอเรปต้าต้องขมวดคิ้วคิดอยู่ชั่วครู่
“ก็ได้ เจ้าอยากได้ยาอะไรล่ะ” หมอเรปต้าติดกับหลานตัวแสบ
“อยากขอให้ฉีดวักซีนตัวใหม่ของท่านให้ข้าหน่อยน่ะ เผื่อฉุกเฉิน” คุนางิอ้อนวอน
“เจ้าบ้า!!” หมอเรปต้าคำราม “วักซีนนี้น่ะ ข้าเอาไว้ใช้ตอนฉุกเฉินเท่านั้น อย่ามาล้อเล่นนะ” หมอเรปต้าลุกขึ้นทำท่าจะไปที่ห้องใหนซักห้อง
“แต่นี่ก็เหตุฉุกเฉินนะท่าน” คุนางิทำเสียงเศร้า “ภารกิจนี้น่ะข้าต้องจากหมู่บ้านไปไกล แถมจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้” หมอเรปต้าหยุดนิ่งแล้วเริ่มเอียงตัวมาทางคุนางิ “ข้าก็แค่ขอความช่วยเหลือจากท่าน เพราะเห็นว่าในฐานะหมออันดับหนึ่งของหมู่บ้านแล้ว คงไม่เกินตัวท่านนัก” การแสดงนี้กินใจหมอเรปต้าอย่างจัง จึงยอมตกลงให้วักซีนกับคุนางิแต่โดยดี
“นี่น่ะเป็นวักซีนชนิดพิเศษที่ข้าสกัดจากยีสต์ในแป้งเทพ ผลของมันช่วยฟื้นฟูร่างกายจากทุกโรคได้เป็นอย่างดีทีเดียว” หมอเรปต้าวางเข็มลงแล้วล้างมือ
“เท่านี้ก็เรียบร้อย” คุนางิลงจากเตียง “ขอบคุณท่านมากนะ ข้าคงต้องขอตัวก่อนล่ะ คุนางิเดินออกมาที่หน้าประตู
“ไม่อยู่กินอะไรกับข้าซักหน่อยรึ” หมอเรปต้า เดินมาพร้อมซุปถั่วแดง กลิ่นหอมของมันช่างยั่วน้ำลาย
“ขอบคุณนะ แต่ไม่ล่ะ ข้าต้องไปเตรียมตัวก่อนน่ะ” ข้าไปล่ะ
คุนางิกลับไปแล้ว ไม่ทันที่จะถามต่อหมอเรปต้าได้แต่ยิ้มส่งหลานของตน
ณ สำนักดาบริวเทซึ
“ท่านพ่อข้าขอตัวไปล่ะครับ” คุนางิเดินออกจากห้องของตน พร้อมสัมภาระใหการเดินทาง และดาบประจำตัว
“อื้อ ว่าแต่ดาบของเจ้าเตรียมพร้อมดีรึยัง” พ่อที่อยู่ห้องดาบตรงข้าม ถามเพื่อความเช็คความพร้อม
“พร้อมดีขอรับท่านพ่อ” คุนางิว่า พร้อมกับเดินเข้าในห้องเพื่อให้ท่านพ่อตรวจดูดาบของตน
ซึนางิ ตรวจดาบลูกของตน เป็นดาบคาตานะชั้นดี ด้ามดาบสีเทาล้วนพันผ้าผ้ายอ่อนนุ่มทำให้ไม่เจ็บมือ ใบดาบลายคลื่นสีม่วง สะท้อนแสงวาบวับ คมดาบให้ความรู้สึกคมแม้มิได้สัมผัสใกล้ชิด
“อือ พร้อมดีทุกอย่าง” ซึนางิ เก็บดาบเข้าฝัก
“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอดาบนั่นคืนด้วยครับท่านพ่อ” คุนางิอื้มมือไปยังดาบของตน แต่ก็โดนดึงกลับ
“พ่อว่าพ่อมีที่ดีกว่านี้จะให้เจ้านะ” ซึนางิ วางดาบไว้ข้างตัวแล้วเดินนำคุนางิไปยังห้องเก็บดาบ “ตามพ่อมาสิ”
คุนางิตามพ่อของตน ทั้งคู่เข้าในห้องเก็บดาบของตระกูล เป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดเมตรคูณเมตร ปูพรมขนสัตว์อ่อนนุ่ม ผนังทุกด้านถูกแขวนไปด้วยดาบชั้นเลิศ แต่ทั้งซึนางิพาคุนางิมายังดาบที่วางไว้บนแท่นบูชาดาบ
“นี่คือของที่พ่ออยากจะให้เจ้าใช้ในภารกิจนี้” ซึนางิยื่นดาบให้คุนางิ มันเป็นดาบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“มันจะดีรึท่านพ่อ นี่มัน.. ด้ามจับทำจากคาร์บอนพลาสติกเหนียวพิเศษ แถวฝักก็ทำวัสดุเนื้อเดียวกันด้วย” คุนางิมองดูดาบที่รับไว้ในมืออย่างไม่เชื่อสายตา
“ชักมันออกมาจากฝักสิ” ซึนางิเชื้อเชิญ
วิ๊ง
“นี่มัน..” ใบดาบสีน้ำเงินอมทองส่องประกายเป็นงาม ความคมที่สัมผัสได้แม้มองด้วยตาเปล่า ใบดาบนิ่งไม่ไหวติง เหมือนรอให้ใครซักคนเป็นผู้ถือครอง
“ใบดาบทำจากแร่ไวเบรเนี่ยมแร่ที่หายาก และแกร่งแกว่งที่สุดในโลกใบนี้” ซึนางิแนะนำตัวดาบให้กับ คุนางิ
“แต่ท่านพ่อนี่มันมากเกินไปสำหรับคนอย่างข้า ข้าคงรับไว้ไม่ได้” คุนางิส่งเก็บดาบเข้าฝัก และยื่นคืยให้ซึนางิ
“มิได้” ซึนางิค้าน “ภารกิจที่เจ้าจะเผชิญนั้นอันตรายยิ่งนัก เจ้าจะต้องเจอกับภัยร้ายรอบตัว ดินแดนแปลกประหลาดที่เจ้าไม่เคยเจอ ผู้คนที่เจ้าไม่รู้นิสัยใจคอ” ซึนางิจับที่ไหล่คุนางิ แล้วบีบเบาๆ “ดังนั้นนี่จึงเป็นของดีที่สุด ที่พ่อจะให้เจ้าได้ เจ้าจงรับไว้”
คุนางิไม่อาจคัดค้าน ทำได้เพียงน้อมรับดาบนั้นไว้แล้วกล่าวลาผู้เป็นพ่อเพื่ออกเดินทาง
ณ ปากทางออกหมู่บ้านเซาท์
ท่านจอมเวทย์ หมอเรปต้า และซึนางิ ออกมายืนส่งคุนางิ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้บุรุษน้อยของพวกเค้าได้ ทุกคนบอกลาคุนางิด้วยใจอาลัย และหวังว่าเด็กหนุ่มจอมซ่าของพวกเค้าจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย
คุนางิออกเดินทางแล้ว การเดินทางครั้งนี้นั้นแสนยาวไกล ท่องไปสู่ดินแดนที่ตนไม่อาจคาดการณ์ได้ มีเพียงเสื้อแจ็คเก็ตตัวเก่ง เป๋ใบเล็กยามฉุกเฉิน และดาบคาตานะเล่มใหม่ ที่เป็นของขวัญจากพ่อ.
ประตูวิหารเปิดอ้าออกกลางเงามืด ร่างของชายหนุ่มผู้ถูกเลือกเดินฝ่าองค์รักษ์สองขนาบประตูเข้าสู่ห้องอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกครองแห่งหมู่บ้านเซาท์ จอมเวทย์คิงส์เมจิกยืนสง่าบนบัลลังก์ รอที่จะบอกเรื่องร้ายแรงให้กับเด็กหนุ่มรู้
เด็กหนุ่มเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าบัลลังก์ สายตาจับจ้องคิงส์เมจิกด้วยความงุงงง
“นี่ท่านจอมเวทย์ ท่านเรียกข้ามามีธุระอะไรรึ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม พลางมองดูรอบๆ วิหาร มันประดับไปด้วยอัญมณีที่หายาก รายล้อมด้วยรูปปั้นแห่งเหล่าทวยเทพทั้งหลาย และเปลวไฟเวทย์มนต์สีฟ้า ที่ส่องประกายตามหัวเสาอันมหึมา บันดาลให้ห้องวิหารนี้ดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
“ต้องขอโทษด้วยที่เรียกเจ้าเข้าพบกะทันหันแบบนี้” จอมเวทย์สบตาแสดงความไม่ตั้งใจรบกวน “แต่ที่ข้าเรียกเจ้าเข้าพบเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ระดับที่สี่หมู่บ้านใหญ่ต้องประกาศเป็นภัยฉุกเฉิน และข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้แล้ว” จอมเวทย์สบสายตาเด็กหนุ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้มิใช่แววตาที่แสดงความเสียใจแต่อย่างใด “ข้า..”
“เรื่องอะไรที่ข้ารู้แล้วรึท่านจอมเวทย์” เด็กหนุ่มถามมาหน้าตาย
แววตาจริงจังเมื่อครู่กลายเป็นแค้นเคืองในความไม่ประสาของเด็กหนุ่ม
“ข้าให้คนตามเจ้ามาเพราะเหตุร้ายแรง แต่เจ้ากลับไม่รู้เรื่องเลยงั้นรึ”
“ก็ไม่เห็นมีใครบอกข้า บอกแค่ว่าท่านจอมเทพเรียกข้าให้เข้าพบ ข้าก็เลยตามคนของท่านมา”
หมดสิ้นคำพูดที่จอมเวทย์จะกล่าว
“เอาล่ะคุนางิ ที่ข้ารียกเจ้ามาเพราะมีเหตุร้ายเกิดกับที่ขึ้นกับทั้งสี่หมู่บ้านใหญ่ และรวมทั้งหมู่บ้านเซาท์ของพวกเราด้วย” แววตาท่านจอมเวทย์กลับมาจริงจัง “ไม่นานมานี้มีข่าวจากทั้งสามหมู่บ้านใหญ่ว่า ขาดแคลนขนมหวานซึ่งเป็นยารักษาโรคอย่างหนัก ทีแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จึงได้มีการส่งจอมยุทธ์ของหมู่บ้านอีสต์ออกไปสืบหาเบาะแส และ..” สายตาท่านจอมเวทย์เลื่อนลงต่ำ
“มีอะไรรึท่านจอมเวทย์ ดูหงอยเชียว” คำถามหวังดีจากคุนางิ ที่ตอนเริ่มจะอยู่ไม่สุข
“มีข่าวรายงานมาว่าขนมหวานทั้งนั้นถูกรวบรวมไว้ที่ใครบางคน ไม่สิต้องว่าที่ราชาองค์หนึ่งต่างหาก” สายตาจับจ้องที่คุนางิอีกครั้ง “แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือ จอมยุทธ์ที่ถูกส่งไปนั้นไม่ได้กลับมาด้วย และไม่มีใครรู้ด้วยว่า ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไง”
คุนางิ เริ่มสนใจบ้างแล้ว
“ท่านจะบอกว่ามีแต่ข่าวส่งมา แต่คนไม่มาด้วยงั้นรึ” คุนางิ ทำท่าครุ่นคิด
ท่านจอมเวทย์พยักหน้า
“ตามที่เจ้าเข้าใจ ดังนั้นข้าจึงอยากให้เจ้าช่วยไปจัดการกับทีรามิสุ ราชาชั่วที่ยึดครองขนมหวานไว้แต่เพียงตนผู้เดียว อันเป็นเหตุให้ผู้คนนับมิถ้วนต้องเดือดร้อน” ท่านจอมเวทย์พักหายใจชั่วครู่ “และช่วยตามหาจอมยุทธ์อีกคนให้เจอ แล้วพาเค้ากลับไปหมู่บ้านอีสต์ด้วย”
“งานกล้วยๆ น่า ” คุนางิยิ้มแป้น “เดี๋ยวข้าจะจัดการเองท่านจอมเวทย์ไม่ต้องห่วง ข้าคนนี้เป็นถึงทายาทของสำนักดาบอันดับหนึ่งของหมู่บ้านเซาท์ดังนั้น...”
“เดี๋ยวสิคุนางิ” ท่านจอมเวทย์ขัดขั้น “ถึงนี้จะเป็นคำสั่งจากข้าแต่อย่าให้คนนอกรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด เข้าใจมั้ย”
คุนางิเอียงคอส่งสายตาเจ้าเล่ห์ “ไว้ข้าจะพยายาม”
“เดี๋ยวสิเจ้า.....”
ไม่ทันซะแล้วคุนางิวิ่งแจ้นออกไปด้วยไม่ฟังคำใดๆ
เช้าอันสดใสที่คลินิกแพทย์อันดับหนึ่งของหมู่บ้าน คุนางิวิ่งหน้าตั้งแต่เช้า เพื่อมาหาใครซักคนให้ช่วย
ปัง!!
เสียงเปิดประตูดังลั่น
“หมอเรปต้า!!” เสียงตะโกนโวยวายดังขึ้น
“อยู่ใหนน่ะ!!” เสียงผีเท้าวิ่งพล่านไปทั่วห้อง “ผมมีเรื่องอยากให้ช่วยออกมาหาผมหน่อยสิ หมอเรปต้า” สิ้นเสียงโวยวายก็ วิ่งพล่านอีกครั้ง
“อยู่ในนี้” เสียงดังมาจากห้องใต้ดิน
“ลงไปทำอะไรในนั้นน่ะ” คุนางิร้องถาม พร้อมก้าวลงบันได
“ก็ห้องใหม่ของข้าน่ะสิ ข้างบนมันเสียงดังเอะอะจนไม่มีสมาธิทำงาน ก็เลยสร้างมันที่ห้องใต้ดินนี่แหละ” คุณหมอร่างใหญ่
“แล้วเจ้ามีเรื่องอะไร เอะอะแต่เช้าเชียว”
คุนางิแสยะยิ้ม“ก็ไม่มีไรมากหรอก”
“คำว่าไม่มีอะไรของเจ้า มักมีอะไรทุกที” หมอเรปต้าดักคอ
“ก็นะ” คุนางิขยับตัวนั่งบนเก้าอี้ข้างโต๊ะทำงานหมอเรปต้า “พอดีว่าข้าน่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านจอมเวทย์ ให้ช่วยไปจัดการกับทีรามิสุอะไรนั่นน่ะ แล้ว..”
“ห้ะ!! ทีรามิสุ เจ้ารู้ตัวรึป่าวว่าพูดถึงอะไร”
“ก็ต้องรู้สิ” คุนางิ เท้าคาง “เห็นบอกว่าเป็นราชาชั่ว ที่ยึดเอาขนมหวานที่เป็นยารักษาโรคมาไว้ที่ตนเพียงคนเดียว ก็เลยทำให้ชาวบ้านเค้าเดือดร้อนกัน แล้วท่านจอมเวทย์ก็วานให้ข้าช่วยไปจัดการ อ้อ!! แล้วก็ช่วยหาตัวจอมยุทธ์อีกคนกลับมาด้วยล่ะ” คุนางิร่ายยาว
“ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น” หมอเรปต้ากัดฟัน “ทีรามิสุน่ะ เป็นราชาปีศาจที่ได้รับพลังจากพระเจ้าเชียวนะ เจ้าไม่รู่เรืองนี้รึไงกัน” หมอเรปต้าเกลี้ยว
คุนางิส่ายหัว “ไม่มีใครบอกข้าเรืองนี้เลย”
“ว่าแล้วเชียว” หมอเรปต้าเริ่ม เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
“ทำไมหมอต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนั้นด้วยล่ะ”
“ยังจะถามอีก ที่ข้าเล่าไปเจ้าไม่รู้สึกถึงความหน้ากลัวของมันเลยรึยังไง”
“ไม่หรอก” คุนางิเป้ปาก “ก็แค่ได้พลังจากพระเจ้า ไม่ใช่พระเจ้าซักหน่อย จะกลัวทำไมกัน”
“เหอะ!! หัวดื้อตามเคย” หมอเรปต้าเอือม “ว่าแต่ที่เจ้ามาอยากให้ข้าช่วยอะไร”
“ก็แค่เรื่องยาน่ะ” คุนางิยิ้มเจ้าเล่ห์
“ยาอะไรของเจ้า ไปออกตามล่าคนชั่ว จะเอายาไปทำอะไรกัน”
“ก็แค่เผื่อไว้น่ะ ถ้าข้าเป็นไรขึ้นแล้วได้กลับมาเจอท่านจะทำยังไงเล่า” คุนางิหว่านล้อม จนหมอเรปต้าต้องขมวดคิ้วคิดอยู่ชั่วครู่
“ก็ได้ เจ้าอยากได้ยาอะไรล่ะ” หมอเรปต้าติดกับหลานตัวแสบ
“อยากขอให้ฉีดวักซีนตัวใหม่ของท่านให้ข้าหน่อยน่ะ เผื่อฉุกเฉิน” คุนางิอ้อนวอน
“เจ้าบ้า!!” หมอเรปต้าคำราม “วักซีนนี้น่ะ ข้าเอาไว้ใช้ตอนฉุกเฉินเท่านั้น อย่ามาล้อเล่นนะ” หมอเรปต้าลุกขึ้นทำท่าจะไปที่ห้องใหนซักห้อง
“แต่นี่ก็เหตุฉุกเฉินนะท่าน” คุนางิทำเสียงเศร้า “ภารกิจนี้น่ะข้าต้องจากหมู่บ้านไปไกล แถมจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้” หมอเรปต้าหยุดนิ่งแล้วเริ่มเอียงตัวมาทางคุนางิ “ข้าก็แค่ขอความช่วยเหลือจากท่าน เพราะเห็นว่าในฐานะหมออันดับหนึ่งของหมู่บ้านแล้ว คงไม่เกินตัวท่านนัก” การแสดงนี้กินใจหมอเรปต้าอย่างจัง จึงยอมตกลงให้วักซีนกับคุนางิแต่โดยดี
“นี่น่ะเป็นวักซีนชนิดพิเศษที่ข้าสกัดจากยีสต์ในแป้งเทพ ผลของมันช่วยฟื้นฟูร่างกายจากทุกโรคได้เป็นอย่างดีทีเดียว” หมอเรปต้าวางเข็มลงแล้วล้างมือ
“เท่านี้ก็เรียบร้อย” คุนางิลงจากเตียง “ขอบคุณท่านมากนะ ข้าคงต้องขอตัวก่อนล่ะ คุนางิเดินออกมาที่หน้าประตู
“ไม่อยู่กินอะไรกับข้าซักหน่อยรึ” หมอเรปต้า เดินมาพร้อมซุปถั่วแดง กลิ่นหอมของมันช่างยั่วน้ำลาย
“ขอบคุณนะ แต่ไม่ล่ะ ข้าต้องไปเตรียมตัวก่อนน่ะ” ข้าไปล่ะ
คุนางิกลับไปแล้ว ไม่ทันที่จะถามต่อหมอเรปต้าได้แต่ยิ้มส่งหลานของตน
ณ สำนักดาบริวเทซึ
“ท่านพ่อข้าขอตัวไปล่ะครับ” คุนางิเดินออกจากห้องของตน พร้อมสัมภาระใหการเดินทาง และดาบประจำตัว
“อื้อ ว่าแต่ดาบของเจ้าเตรียมพร้อมดีรึยัง” พ่อที่อยู่ห้องดาบตรงข้าม ถามเพื่อความเช็คความพร้อม
“พร้อมดีขอรับท่านพ่อ” คุนางิว่า พร้อมกับเดินเข้าในห้องเพื่อให้ท่านพ่อตรวจดูดาบของตน
ซึนางิ ตรวจดาบลูกของตน เป็นดาบคาตานะชั้นดี ด้ามดาบสีเทาล้วนพันผ้าผ้ายอ่อนนุ่มทำให้ไม่เจ็บมือ ใบดาบลายคลื่นสีม่วง สะท้อนแสงวาบวับ คมดาบให้ความรู้สึกคมแม้มิได้สัมผัสใกล้ชิด
“อือ พร้อมดีทุกอย่าง” ซึนางิ เก็บดาบเข้าฝัก
“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอดาบนั่นคืนด้วยครับท่านพ่อ” คุนางิอื้มมือไปยังดาบของตน แต่ก็โดนดึงกลับ
“พ่อว่าพ่อมีที่ดีกว่านี้จะให้เจ้านะ” ซึนางิ วางดาบไว้ข้างตัวแล้วเดินนำคุนางิไปยังห้องเก็บดาบ “ตามพ่อมาสิ”
คุนางิตามพ่อของตน ทั้งคู่เข้าในห้องเก็บดาบของตระกูล เป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดเมตรคูณเมตร ปูพรมขนสัตว์อ่อนนุ่ม ผนังทุกด้านถูกแขวนไปด้วยดาบชั้นเลิศ แต่ทั้งซึนางิพาคุนางิมายังดาบที่วางไว้บนแท่นบูชาดาบ
“นี่คือของที่พ่ออยากจะให้เจ้าใช้ในภารกิจนี้” ซึนางิยื่นดาบให้คุนางิ มันเป็นดาบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“มันจะดีรึท่านพ่อ นี่มัน.. ด้ามจับทำจากคาร์บอนพลาสติกเหนียวพิเศษ แถวฝักก็ทำวัสดุเนื้อเดียวกันด้วย” คุนางิมองดูดาบที่รับไว้ในมืออย่างไม่เชื่อสายตา
“ชักมันออกมาจากฝักสิ” ซึนางิเชื้อเชิญ
วิ๊ง
“นี่มัน..” ใบดาบสีน้ำเงินอมทองส่องประกายเป็นงาม ความคมที่สัมผัสได้แม้มองด้วยตาเปล่า ใบดาบนิ่งไม่ไหวติง เหมือนรอให้ใครซักคนเป็นผู้ถือครอง
“ใบดาบทำจากแร่ไวเบรเนี่ยมแร่ที่หายาก และแกร่งแกว่งที่สุดในโลกใบนี้” ซึนางิแนะนำตัวดาบให้กับ คุนางิ
“แต่ท่านพ่อนี่มันมากเกินไปสำหรับคนอย่างข้า ข้าคงรับไว้ไม่ได้” คุนางิส่งเก็บดาบเข้าฝัก และยื่นคืยให้ซึนางิ
“มิได้” ซึนางิค้าน “ภารกิจที่เจ้าจะเผชิญนั้นอันตรายยิ่งนัก เจ้าจะต้องเจอกับภัยร้ายรอบตัว ดินแดนแปลกประหลาดที่เจ้าไม่เคยเจอ ผู้คนที่เจ้าไม่รู้นิสัยใจคอ” ซึนางิจับที่ไหล่คุนางิ แล้วบีบเบาๆ “ดังนั้นนี่จึงเป็นของดีที่สุด ที่พ่อจะให้เจ้าได้ เจ้าจงรับไว้”
คุนางิไม่อาจคัดค้าน ทำได้เพียงน้อมรับดาบนั้นไว้แล้วกล่าวลาผู้เป็นพ่อเพื่ออกเดินทาง
ณ ปากทางออกหมู่บ้านเซาท์
ท่านจอมเวทย์ หมอเรปต้า และซึนางิ ออกมายืนส่งคุนางิ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้บุรุษน้อยของพวกเค้าได้ ทุกคนบอกลาคุนางิด้วยใจอาลัย และหวังว่าเด็กหนุ่มจอมซ่าของพวกเค้าจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย
คุนางิออกเดินทางแล้ว การเดินทางครั้งนี้นั้นแสนยาวไกล ท่องไปสู่ดินแดนที่ตนไม่อาจคาดการณ์ได้ มีเพียงเสื้อแจ็คเก็ตตัวเก่ง เป๋ใบเล็กยามฉุกเฉิน และดาบคาตานะเล่มใหม่ ที่เป็นของขวัญจากพ่อ.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ