What's your take(on this) 201 : ความลับของห้อง 201
เขียนโดย Banana_Balm
วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.46 น.
แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560 20.54 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) Demo / Cold / peggy *2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนนี้ผมมาถึงที่บ้านแล้วล่ะ ป่านนี้พ่อกับแม่คงจะนั่งรอผมที่โต๊ะกินข้าวกันแล้ว เอาล่ะผมจะต้องมีสติ วันนี้จะต้องมีแต่เริ่องดีๆ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของแม่ผมผมจะทำให้เสียบรรยากาศไม่ได้
แอ๊ด
ผมค่อยเดินไปเปิดประตูห้องกินข้าวด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความอึดอัด นานเหมือนกันนะที่ไม่ได้มาที่นี้แล้ว พอเข้ามาก็เห็นพ่อกับแม่กำลังนั่งรอผมอยู่ที่โต๊ะกินข้าวจริงๆด้วย
“สวัสดีครับพ่อแม่”ผมยกมือไหว้ทั้งพ่อและแม่ก่อนที่จะไปนั่งลงบนเก้าอี้ ตอนนี้ผมต้องไม่อึดอัดสิ มันต้องเป็นบรรยากาศที่ฟีลกู๊ดสิ
“เป็นไงบ้าง” จุ่ๆพ่อก็เอ่ยถามผมเล่นเอาตัวชาไปทั้งตัวเลย พ่อเป็นคนๆนึงเลยที่มีรัศมีแห่งความพิศวงซ่อนอยู่
“ก็โอเคครับ”
“แล้วเรื่องงานเขียนโอเคใช่มั้ยลูก”นี้เป็นแม่ที่ถามผม น้ำเสียงของท่านเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ผมสัมผัสมันได้ดีเลยล่ะ
“ก็โอเคครับ ตอนนี้ผมกำลังหาประสบการ์ณอยู่” พอสิ้นคำพูดผมทุกคนก็ตักข้าวเข้าปากกันอย่างอัตโนมัติ เอาล่ะรีบๆกินแล้วไปหาโคลด์ดีกว่าป่านนี้ไอ้บ้านั้นคงรออยู่แย่แล้วล่ะ
หลังจากที่กินข้าวกับครอบครัวเสร็จผมก็รีบขับรถออกมาเลย เพราะตอนนี้เวลามาล่วงเลยมาถึงหนึ่งทุ่มแล้ว ทำไมเวลาวันนี้มันถึงเดินเร็วจังเลยนะ
ติ๊ดๆ
ผมพยายามติดต่อไอ้โคลด์แต่มันก็ดันปิดเครื่อง เอาล่ะตอนนี้มันอาจกำลังเศร้าเรื่องลิลลี่ก็ได้ ทำไมถึงเปย์หัวใจให้ผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนั้นนะ ตอนนี้ผมเริ่มเป็นห่วงมันแล้วนะ
ติ๊ดๆ
อ๊ะมันโทรกลับมาแล้ว
“ฮัลโหลเป็นไงบ้างตอนนี้แกอยู่ใหนวะ” ผมรีบพูดโพล่งออกไปทันทีที่รับสาย
(เดี๋ยวๆ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากเว้ย ยัยนั้นกลับไปแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ฉันต้องการความช่วยเหลือจากแกว่ะ มาที่คอนโดอะโฟร์ไดท์หน่อยดิ)
“เออได้ๆ”
อ๋อไอ้คอนโดที่โปรโมตว่ามีปริศนาซ่อนอยู่อ่ะนะ แล้วมันจะนัดผมไปที่นั้นทำไมวะ
พอปลายสายกดวางสายโทรศัพท์ผมก็รีบบึ่งรถไปที่คอนโดนั้นทันที
Ar4dite Condominium
03/11/17
เวลา 19:30 น.
“โคลด์!”
“เอ้าเดโม่มาถึงแล้วเหรอวะ”
“มีอะไรรึเปล่าถึงชวนฉันมาที่นี่”
ไอ้โคลด์ทำหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะพูดความจริงออกมา ตอนนี้ผมตื่นเต้นยิ่งกว่ากำลังดูหนังสยองขวัญสะอีก
“ฉันอยากให้แกมาช่วยฉันแก้ปริศนาว่ะ พอดีว่า...”
“อะไรนะ” ตายโหงสิครับ ปริศนาบ้าบอคอแตกอะไรกันล่ะ ตอนนี้ผมเหมือนเข่าแทบทรุดพอได้ยินว่าต้องช่วยไอ้โคลด์แก้ปริศนาที่คอนโดนี้ บ้าป่ะเนี้ยถ้าเกิดฉันแก้ปริศนาไม่ได้ล่ะจะทำไงกันที่นี้
“นะๆฉันขอละ ยัยลิลลี่มันอยากได้ห้องหรูที่คอนโดนี้เป็นคำขอโทษจากฉันอ่ะ”
“แล้วแกก็ยอมอย่างนั้นเหรอวะ แกนี้มัน”
“เออๆฉันมันโง่ที่ไปรักผู้หญิงคนนั้น แต่จะให้ทำไงวะคนมันรักไปแล้วนี้น่า”
“แล้วที่นี้จะทำยังไง ต้องแก้ปริศนานั้นจริงๆใช่มั้ย”
“ใช่ แกต้องช่วยฉันนะเว้ย ฉันมีแกที่เป็นที่พึ่งอยู่คนเดียวแล้ว” โคลด์พูดพร้อมกับส่งสายออดอ้อนมาให้ แต่มันทำให้ผมรู้สึกขนลุกยังไงก็ไม่รู้สิ
“เออๆ นี้เห็นแก่แกที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแปดปีนะเว้ย”
“มันก็มีประโยชน์ต่อแกด้วยแหละวะ มันจะได้เป็นประสบการ์ณใหแกด้วย ต่อจากนี้แกจะได้มีประสบการ์ณในด้านนี้ไงล่ะ”
“ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดเลยไอ้โคลด์เพื่อนเลวเอ้ย แล้วต่อจากนี้ต้องทำไงบ้างเนี้ย”
“อ๊ะนั้นไง”โคลด์ชี้ไปที่พนักงานชายคนนึงที่เดินถือกล่องสีดำมาให้เราสองคน ผมมองสภาพกล่องนั้นดูก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากนัก ที่นี้มันดูหรูหราดีว่ะ
“นี่เป็นกล่องปริศนาของพวกคุณ หลังจากนี้ผมจะนำคุณขึ้นไปบนชั้นยี่สิบคุณจะได้แก้ปริศนาในห้องแรกคือห้อง201 และจะมีเวลาเตรียมตัวให้พวกคุณสามสิบนาทีก่อนจะเริ่มภารกิจ”
“ฟังดูเหมือนหนังฝรั่งเลยอ่ะ แต่คุณต้องอธิบายทุกอย่างให้ผมนะไม่งั้นแสดงว่าคุณและคอนโดนี้โกงพวกเรา”
“ได้สิครับ”พนักงานคนนั้นพูดเสร็จก็นำเราสองคนเดินขึ้นลิฟต์ไปชั่นที่ยี่สิบ เอาล่ะตอนนี้ทั้งผมและโคลด์เริ่มตื่นเต้นกันแล้วล่ะจะไม่ให้ตื่นเต้นได้ไงล่ะก็พวกเราสองคนเป็นลูกค้าคนแรกที่เข้ามาแก้ปริศนาที่นี้ไงล่ะ มันไม่มีหลักประกันอะไรเลยผมเลยไม่ค่อยจะไว้ใจอะไรมากนัก มันมีโอกาสสูงที่เราจะแพ้เกมส์นี้เพราะทางคอนโดคงจะไม่ยอมให้เราชนะเกมส์นี้ง่ายๆหรอก
และแล้วทั้งผมและโคลด์ก็มายืนหน้าห้อง201ซึ่งเป็นห้องที่เราสองคนต้องแก้ปริศนา ชั้นนี้มีความลึกและกว้างมากอารมณ์คล้ายๆโรงแรมหรูๆแนวฝรั่งเศสเลย ได้ข่าวว่าห้องนี้แพงมาก ถ้าเกิดพวกเราแพ้เกมส์นี้คงได้หาเงินมาชดใช้ไม่ทันการแน่
แอ๊ด
ตอนนี้พนักงานคนนั้นพาผมและโคลด์เข้ามาสำรวจภายในห้อง201 ที่นี้สวยและของทุกอย่างดูแพงอลังการมาก แถมยังมีเปียโนขนาดยักษณ์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางห้องด้วย
“พวกคุณมีเวลาเตรียมตัวกันแค่สามสิบนาทีนะครับ ถ้าสงสัยอะไรอ่านคู่มือที่อยู่ในกล่องดำนั้นได้เลย”
“คุณไม่คิดจะอธิบายและยืนยันถึงกฏของที่นี้เลยหรอครับ” ผมถามออกไปด้วยความสงสัยเบอร์แรง
“อ๋อก็ตามคู่มือแหละครับ ผมไม่มีหน้าที่จะพูดอะไรมาก ทางคอนโดอยากให้พวกคุณใช้ไหวพริบและอ่านจากคู่มือกันเอาเองน่ะ ไปนะครับโชคดี”
ไม่ทันที่พวกผมจะทักท้วงอะไรไอ้พนักงานบ้านั้นก้เดินออกไปจากห้องด้วยความสงสัยขั้นสุด ไอ้บ้านี้มันต้องโดนอัดสักทีสองที พูดจาวกวนปล่อยให้พวกเรางงกันเป็นหมาอยู่ได้ ไอ้ผีเอ้ย!
“โอ้ยฉันหิวว่ะ เราสั่งไก่ทอดมากินเถอะ ร้านนั้นอร่อยมากเลยแก”
“ป่านนี้แกยังมีหน้ามาหิวของกินอีกเหรอวะ ฉันเครียดอยู่อ่ะกลัวคอนโดมันจะโกงเราจัง”
“คิดมากน่า เรามีเวลาเตรียมตัวตั้งครึ่งชั่วโมง เราน่าจะหาอะไรลงท้องแล้วค่อยเริ่มภารกิจกันนะ”
“แกนี้มันชิลมากเลยว่ะ แกไม่กลัวเราแพ้มันบ้างเหรอวะ ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะ”
“เดี๋ยวฉันสั่งไก่ทอดแป๊ปนึงนะเพื่อน”
(Demo Time : end)
03/11/17
เวลา 19:30 น.
(Peggy Time)
ร้าน We love Chicken
“เพกกี้!!!”
กรี๊ดใครกล้ามาขัดจังหวะตอนที่ฉันกำลังนั่งดูพี่เจมส์แคสเกมส์ผีอยู่เนี้ย บ้าที่สุด บ้าบอมากๆกำลังถึงจุดพีคของเกมส์แล้วอ่ะ บ้ามากๆ มันเครซี่สุดๆเลย
“มีอะไรคะพี่บอย”
“ลูกค้าโทรมาบอกว่ามีพนักงานคนหนึ่งหลอกเธอว่ามีผีไก่สิงอยู่ในกล่องอาหารทำให้เขาไม่พอใจ อย่าบอกนะว่าเป็นเธออ่ะไปหลอกลูกค้า”
โอ้ยตายแล้วอีลูกค้าผีเปรตนั้นหาเรื่องให้ฉันแล้วอ่ะ อันที่จริงก็ถูกนะที่ฉันเป็นคนไปหลอกแต่บางทีมันก็ต้องมีกึ๋นหน่อยใหมยะ มากลัวซี้ซั้วอะไรแบบนี้มันไม่ใช่ แบบนี้มันเรียกว่าบ้าค่ะพี่น้อง เอิ้วววว
“นี่พี่บอยคะ ลูกค้าคนนั้นเขาป่วยทางจิตรึไงกัน เรื่องแค่นี้คิดเองไม่เป็นใช่มั้ย ทำไมถึงได้ปอดแหกขนาดนี้นะ”
“นี้ไม่สำนึกบ้างเลยรึไงนักเด็กโรคจิต ก็นิสัยเธอชอบไปพูดเรื่องผีๆให้พวกลูกค้าฟังบ่อยๆไงล่ะร้านเรากำลังจะกลายเป็นร้านไก่ผีไปแล้ว ไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่ไปกุเรื่องว่าร้านเรามีผีสิงอยู่ทำให้ผู้จัดการไม่ค่อยกล้ามาที่ร้านเลยอ่ะ”
“เอิ่มมมม” เอาไงล่ะเถียงไม่ถูกเลยจ้า อันที่จริงมันก็เป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งของร้านเลยนะ แต่ทำไมพวกเขาต้องเอาเรื่องที่ฉันพูดไปคิดในแง่ไม่ดีด้วยล่ะ ก็คนมันชอบหลอกผีคนอื่นนี้น่า
“นี้ยังไม่รวมถึงเรื่องที่เธอหลอกพนักงานในร้านจนทยอยออกไปกันเกือบหมดแล้วเนี้ย ร้านไก่ของเราจะกลายเป็นบ้านร้างแล้วนะยัยเบอะเอ้ย”
พี่บอยหัวเสียขั้นโคม่าฮีระเบิดใส่ฉันจนคนในร้านเริ่มจะหันมามองกันอย่างตกอกตกใจ หน๊อย!ทำมาเป็นดุฉันทีตัวเองชอบจีบลูกค้าสวยๆจนเกือบโดนแฟนเขามาเผาร้านทีหนึ่งยังไม่เคลียร์ทีนะยะ
“น้อยๆหน่อยเถอะค่ะพี่บอย แล้วใครที่มันไปจีบสาวแล้วเกือบโดนแฟนเขามาขู่จะเผาร้านนี้ล่ะจ๊ะ ใครกันจ๊า”
“เอ่ออันนั้นมันผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยน่ะ”
“ยิ้มแห้งให้เลยนะคะ”
พี่บอยทำหน้าเหยเกทันทีที่ฉันส่งยิ้มแห้งใส่ เอาล่ะตอนนี้หมดเวลาถามตรงกันแล้ว ต่อจากนี้ฉันจะได้ดูพี่เจมส์แคสเกมส์ผีนี้ต่อสักที ค้างคาใจมานาน --___--
“ยังจะไปดูเกมส์ผีอีกเหรอยัยงั่งเอ้ย มีคนสั่งไก่ทอดที่คอนโดอะโฟไดท์เนี้ยรีบไปส่งร็วเข้า”
“กรีดร้องรัวๆ ขัดจังหวะจริงๆเลย ถ้าเกิดฉันกลับมาแล้วอย่ายุ่งวุ่นวายกันอีกนะ เอากล่องอาหารมา”
พี่บอยส่งกล่องที่บรรจุไก่ทอดมาบนเคาท์เตอร์ แหมสั่งแต่ไก่ทอดกันอยู่นั้นแหละโลกนี้มันไม่มีอะไรให้กินแล้วใช่มั้ย ไก่ทอดก็มีหลายร้านทำไมต้องเป็นร้านนี้ด้วยนะ (เอ๊ะยังไง)
“ชั้นยี่สิบห้อง201นะเธอ เอ๊ะแล้วชั้นนี้มันเป็นชั้นที่เขเปิดไว้ให้แก้ปริศนาไม่ใช่หรอ” พี่บอยทำหน้าอึ้งมึนอย่างกับคนเพิ่งเจอจานบินผ่านหน้าไปหยกๆ
“จริงด้วย งั้นฉันจะไปสืบมาเองว่ามันคืออะไร เดี๋ยวเพกกี้จะมารายงานนะคะไปล่ะ”
ฟิ้วว
ฉันสวมหมวกกันน็อคแล้วจัดการขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์ประจำร้านไก่ทอดของเรา เรื่องส่งไก่นี้ต้องตกเป็นหน้าที่ของฉันทุกทีเลยเฮ้อ -____-
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ