What's your take(on this) 201 : ความลับของห้อง 201
เขียนโดย Banana_Balm
วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.46 น.
แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560 20.54 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) The room 201 *1 เริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ02/11/17
(Demo Time)
แฮกๆ
“โอ้ย!ทำไมมันถึงเหนื่อยหมาไม่แดกแบบนี้เนี้ย”
“เลิกแหกปากสักทีไอ้เด็มแกพาฉันมาเองนะเว้ย” โคลด์เพื่อนสนิทผมทำท่าทางไม่ไหวจะเคลียร์กับนิสัยหัวร้อนของผมทันที ก็ใครมันจะทนได้ล่ะวะใหนมีคนเคยบอกว่าการปีนเขาเป็นการออกกำลังกายและผ่อนคลายกับชีวิตได้ดีอย่างนึง แล้วทำไมมันถึงเพิ่มความเครียดให้กับผมได้มากขนาดนี้เลยล่ะเนี้ย
“ก็ใครมันจะไปคิดว่าจะเหนื่อยขนาดนี้ล่ะวะ ตอนแรกที่ฉันดูรีวิลมันยังดูไม่น่ากลัวเท่านี้เลยนะเว้ย”
“แกนี้มัน”
“อ๊ะๆปีนต่อไปเถอะ ถ้าเกิดฉันรอดพ้นจากเขาบ้าๆนี้แล้ว ฉันจะเลี้ยงชาบูแกเลยไอ้โคลด์”
“เฮ้ยจริงเหรอวะ” โคลด์ทำหน้าตาดีใจ ไอ้บ้านั้นไม่รู้เอาแรงมาจากใหนมันปีนนำผมจนเกือบจะถึงจุดยอดของเขา แต่ตอนนี้ผมรั้งท้ายมันแล้วอ่ะ ไม่มีทางที่คนอย่างเดโม่จะยอมแพ้ง่ายๆหรอกโว้ย
“แกรอฉันด้วยสิวะไอ้โคลด์”
“ทีใครทีมันเว้ยเพื่อนเอ้ยอ๊ากกกก” แต่จู่ๆมันก็เผลอปล่อยมือออกจากหินเลยทำให้มันต้องร่วงหล่นไปเริ่มที่จุดเดิมใหม่ แต่อย่าเพิ่งตกใจนะมันยังมีสายสลิงเป็นตัวรับความปลอดภัยอยู่
“ฮ่ะๆทีใครทีมันเว้ยเพื่อน”
“ไอ้เดโม่!!!”
หลังจากที่เราสองคนปีนเขากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมและโคลด์เลยขับรถยนตร์ออกไปหาอะไรกินกันข้างนอก ตอนนี้ก็ใกล้จะค่ำแล้วเลยทำให้พวกเราเหนื่อยล้ากันเป็นพิเศษ
“...”
“เป็นไงบ้างได้ไอเดียคิดพล็อตหนังบ้างมั้ย”
“ก็งั้นๆอ่ะ ฉันนี้พอถึงคราวหัวตันก็ตันสะมิดเลย เบื่อจัง”
“ฮ่ะๆเดี๋ยวมันก็คิดได้แหละเว้ย ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาและประสบการ์ณใหม่ๆ”
“แล้วเรื่องที่แกจะเขียนมันเป็นแนวใหนอ่ะ”
“เขาว่าไม่จำกัดอ่ะ แต่เรื่องนี้ฉันอยากได้รางวัลจริงๆนะเว้ย ถ้าเกิดฉันได้รางวัลขึ้นมาจริงๆพ่อคงจะเปิดใจให้ฉันได้อ่ะ”
พ่อของผมวาดฝันให้ผมไปเป็นอัยการแต่ผมกลับเลือกไปเรียนเกี่ยวกับภาพยนตร์ท่านเลยโกรธและไม่ยอมเปิดใจให้ผมเลย แต่ท่านก็เคยบอกว่าถ้าผมประสบความสำเร็จในทางนี้ท่านจะยอมเปิดใจให้แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่เคยโด่งดังกับผลงานของตัวเองสักที น่าหนักใจจริงๆนะเนี้ย
“สู้ๆเว้ยเพื่อน ฉันจะอยู่ข้างๆแกแบบนี้แหละ ^^”
“ขอบใจมากนะโคลด์”
“เพราฉะนั้นเราจะต้องไปเลี้ยงฉลองแก้เซ็งกันสักหน่อยฮ่ะๆ”
“จัดไปเลยเพื่อน”
พอมาถึงที่ร้านปิ๊งย่างเจ้าประจำแล้วโคลด์ก็จัดการปิ๊งเนื้อหมูและเนื้อวัวจนเยอะแยะไปหมด ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าพวกเราจะกินหมดรึเปล่าแต่เชื่อเถอะมาอยู่กับไอ้โคลด์แล้วไม่มีวันที่ของพวกนี้จะเหลือรอดออกไปได้ อันนี้ที่แน่ใจอ่ะนะ
“ถึงเวลาสวาปามแล้วเพื่อน”
“แกต้องกินให้หมดนะเว้ย”
“คนอย่างฉันไม่มีวันยอมให้หมูพวกนี้ได้รับออกซิเจนเกินสามนาทีหรอกเว้ย เดี๋ยวก็หมด”
“กินเยอะแบบนี้เดี๋ยวหุ่นก็พังหรอก เดี๋ยวลิลลี่จะไม่รักนะ”
เคร้ง!
ดูท่าผมน่าจะไปพูดสะกิดต่อมอะไรให้ไอ้โคลด์รู้สึกจี๊ดขึ้นมาทันที ผมไม่น่าหลุดปากพูดออกไปเลย
“นึกเรื่องนี้แล้วปวดใจว่ะ”
“เอ้ยขอโทษเว้ยนึกว่าพวกแกคืนดีกันแล้วสะอีก”
“ยังเลย ยัยบ้านั้นเอาแต่ใจตัวเองจะตายแต่ยังไงฉันก็ยังอยากจะคืนดีกับยัยนี้อยู่นั้นแหละ”
“สู้ๆนะเพื่อน” ผมได้แต่ชูสองนิ้วให้โคลด์แล้วส่งยิ้มแห้งๆไปให้ ไม่อยากให้มันรู้สึกแบบนี้เลยอ่ะ โธ่เว้ยไม่น่าไปพูดสะกิดต่อมมันเรื่องนี้เลย
“เอาล่ะใหนๆเราสองคนก็มีปัญหาคาใจกันทั้งสองคน เราจะจัดการกินปิ๊งย่างพวกนี้ให้หมดกันจนอิ่มแปล้เลยล่ะกัน”
“เอาว่ะ กินจนลืมไปเลยว่าเคยหิว”
“ฮ่ะๆชอบว่ะ”
พอทั้งผมกับไอ้โคลด์กินกันจนแหลกลาญ เราทั้งสองคนเลยกะจะหาที่พักแถวในเมืองเพราะดูท่าน่าจะขับรถไม่ไหวแล้วล่ะ ง่วงสะจนจะลืมทางกลับบ้านแล้วเนี้ย
ผมขับรถหาที่พักกันอย่างทุลักทุเลเพราะตาอีกข้างก็กำลังจะปิดแล้ว ทำไมวันนี้ถึงได้ง่วงบรรลัยขนาดนี้เนี้ย อ๊ะพักที่นี้ล่ะกันดูท่าห้องน่าจะดูดีราคาก็คงไม่แพง ผมเลี้ยวรถเข้าไปที่จอดรถของห้องพักแต่จู่ๆก็ต้องตกใจเพราะนี้มันไม่ใช่ห้องพักธรรมดาๆ นี้มันม่านรูดเว้ย
“เฮ้ย!แกพาฉันมาที่ใหนวะเนี้ย”
“ฉันเลี้ยวผิดอ่ะ โทษทีๆ” บ้าจริงทำไมถึงได้เลอะเทอะแบบนี้วะเนี้ย นี้มึนขนาดนี้ผมว่านอนในรถเถอะ วันนี้คงไปใหนไม่รอดแล้วล่ะเหนื่อยมาทั้งวันล่ะ
“เอ้ยไอ้เดโม่แกดูนั้นดิวะ น่าสนใจว่ะ”
“อะไรของแกไอ้โคลด์”
โคลด์ชี้ไปที่ป้ายขนากยักษ์ที่ติดอยู่ใจกลางเมือง เฮอะอะไรนะแก้ปริศนาแลกกับที่อยู่งั้นเหรอ บ้าบอที่สุดแค่จ่ายเงินก็ได้แล้วมั้ยบางทีก็ เฮ้อทำไมต้องมาเสียเวลาแก้ปริศนาบ้าบอนี้ด้วยเนี้ย ดูไร้สาระมากเลยอ่ะ
“น่าสนใจว่ะ มันอาจจะช่วยเรื่องการคิดพล็อตแกก้ได้นะเว้ย”
“แกจะบ้าเหรอวะไอ้โคลด์ เสียเวลาว่ะฉันว่า”
“เฮ้ยคิดในแง่ดีหน่อยดิวะ เอาแต่หมกมุ่นแต่เรื่องพล็อตหนังอยู่ได้ ตอนนี้มันต้องเป็นช่วงที่แกจะต้องเก็บเกี่ยวประสบการ์ณเข้าไว้ หยุดคิดเรื่องพล็อตหนังแล้วไปหาไอเดียใหม่ๆดีกว่าฉันว่า” ไอ้โคลด์ร่ายยาวใส่ผมมาสะยกใหญ่ บ้าที่สุดทำไมต้องให้ผมไปทำอะไรบ้าๆแบบนั้นด้วยอ่ะ ไม่มีวันสะหรอก
“ฉันว่าเราไปหาที่พักกันต่อดีกว่านะเพื่อนขืนมาเถียงกันเรื่องนี้คงได้บ้าตายกันแน่”
“เออแล้วแต่แกละกัน แต่ขอถ่ายรูปป้ายนี้ไว้หน่อยนะเผื่อฉันจะแวะมาฮ่าๆๆๆ”
“ค๊าบบบบ”
และแล้วเราทั้งสองคนก็หาที่พักกันจนได้ ผมไม่รอช้ารีบอาบน้ำแล้วนอนทันที เพราะวันนี้มันโคตรจะเหนื่อยเลยอ่ะ ผ่านมาทั้งปีนเขาใหนจะซัดปิ๊งย่างสะจนหมดแรงไปอีก
วันต่อมา 03/11/17
ติ๊ดๆๆ
งื้ออออ โอ้ยเสียงนาฬิกาปลุกใครวะเนี้ยน่ารำคาญชะมัดเลยคนกำลังหลับสบายแท้ๆ
ติ๊ดๆ
“ไอ้โคลด์นิมนต์มาปิดนาฬิกาแกหน่อยดิวะ”
ไม่มีเสียงตอบรับ!
“....”
“ไปตายโหงใหนวะไอ้บ้าเอ้ย”
“…”
และแล้วก็เป็นผมที่ต้องลุกขึ้นมาปิดนาฬิกาปลุกของไอ้โคลด์เอง บ้าชะมัดมีเพื่อนแบบนี้หนักกบาลมากเลยว่ะ
(-_- ) ( -_-)
ขวับๆ
เอ้า!แล้วมันหายหัวไปใหนวะเนี้ย เมื่อคืนยังนอนอยู่เลยหนิ แล้วทำไมตอนนี้มีแต่ผมนอนอยู่คนเดียวในห้องเนี้ย
ผมไม่รอช้ารีบโทรหามันทันที ไอ้บ้านี้มันบ้าบอที่สุดเลยชอบหายตัวไปอยู่เรื่อยเลย
ตู๊ดๆ
(ฮัลโหลไอ้เด็ม)
“แกอยู่ใหนวะ”
(เอิ่มมม)
ไอ้โคลด์เงียบไปพักนึงก่อนจะทำเสียงเอิ่มนานระงมจนผมเริ่มรำคาญใจ มันเป็นบ้าไรวะ
“เป็นไรวะ”
(คือฉันอยู่กับลิลลี่อ่ะ ยัยนั้นมีเรื่องให้ช่วย แกต้องมาหาฉันนะเว้ย)
“นี้มันเช้าอยู่เลยนะไอ้โคลด์”
(งั้นไว้บ่ายๆแกค่อยมาหาฉันที่บ้านนะเว้ย)
“เย็นๆได้ป่ะ วันนี้ฉันมีธุระกับครอบครัวอ่ะ”
(ได้ๆ โทรกลับด้วยนะเว้ยถ้าเสร็จธุระแล้ว ฉันว่างานนี้ฉันต้องร้องไห้แน่เลยว่ะ ทำไมฉันถึงแคร์ผู้หญิงคนนี้มากขนาดนี้วะ)
“ใจเย็นๆเดี๋ยวถ้าฉันเสร็จธุระแล้วจะรีบไปหาแกนะเว้ย”
(ขอบใจมากเว้ย)
“เคๆแค่นี้ล่ะกันนะ”
(บายๆ)
ตู๊ดๆ
ผมกดวางสายทันที ตอนนี้ทำไมมีแต่เรื่องให้ปวดหัวอยู่ตลอดเลยนะ ใหนจะต้องไปเจอหน้าพ่ออีกวันนี้ ไม่เป็นไรวันนี้ผมต้องมั่นใจเอาไว้ ทุกอย่างมันต้องโอเค ต้องโอเคที่สุด ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ