บุรุษวิปริต สตรีวิปลาส
7.3
เขียนโดย DontAddMe
วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 10.03 น.
9 บท
0 วิจารณ์
10.55K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) สตรีวิปลาสฉันใด บุรุษย่อมวิปริตฉันนั้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทเรียนสุดท้าย สตรีวิปลาสฉันใด บุรุษย่อมวิปริตฉันนั้น
“นั่นน่ะนะ? เหตุผลที่เจ้าตามรังควานข้ามาตลอดหลายปีนี้?”
“แล้วยังจะให้มีเหตุใดอื่นอีก? เรื่องคอขาดบาดตายที่มีศักดิ์ศรีสาวน้อยของข้าเป็นเดิมพันยังไม่ร้ายแรงพอใจเจ้าอีกหรือ?”
“...สาวน้อย...”
“กรุณาเลือกคำพูดต่อไปให้ดีนะจ๊ะ พ่อคนเก่ง~”
[เฮ้อ~]
อาร์คดัชเชสมองอดีตนักเรียนทุนที่ถอดถอนหายใจก่อนเงียบเสียงไป การต่อปากต่อคำกับนางเป็นสิ่งที่บุรุษวิปริตไม่ช่ำชอง เพียงนางยุแหย่เล็กน้อยเขาก็ยกธงขาวยอมแพ้ทุกครั้งไป แต่นั่นมันเฉพาะการพูดคุย ด้านการกระทำละก็อีกเรื่องหนึ่ง
เขาว่ากันว่าน้ำนิ่งไหลลึก คำกล่าวนั้นช่างเหมาะสมกับอดีตนักเรียนทุนแห่งนอร์ทฟอเรสย่ิงนัก นางไม่รู้เลยจริงๆ ว่าภายใต้ใบหน้าเย็นชามักที่ส่งสายตาคร้านโลกอยู่ร่ำไป ได้ซุกซ่อนความคิดวิปริตอันใดไว้กันแน่ หากเปรียบเทียบว่าเขาเป็นลานน้ำแข็งที่ซุกซ่อนมหาสมุทรไว้คงไม่ผิดนัก
การกระทำของบุรุษที่ได้ชื่อว่าจอมปราชญ์แห่งยุคเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดอธิบายได้
ทำคะแนนสอบเข้าได้เต็ม เพียงเพื่อที่จะเดินทางมาสละทุน
ตีสนิทเจ้าชายที่ไร้ผู้สนับสนุน ก่อนเปลี่ยนเขาเป็นมหาราชที่ทั่วแดนมนุษย์ต้องค้อมหัวให้
สอนหนังสือให้เพื่อนร่วมรุุ่นในระดับที่เด็กเรียนอ่อนที่สุดยังฉลาดกว่าศาสตราจารย์บางท่าน
เพียงหกปีสามารถผลิตบุคลากรนับร้อยที่พลิกโฉมหน้าประเทศให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ปฏิเสททุกตำแหน่งสำคัญและเพียงรับงานเป็นครูสอนพิเศษให้แก่ลูกขุนนางในบางครา
บางครั้งบุตรีดยุกอยากผากะโกลกเปิดดูภายในหัวของบุรุษวิปริตว่ามีส่ิงใดยัดไว้กันแน่? ชายเช่นเขาสามารถได้ทุกส่ิงที่ต้องการ ไปที่ใดก็ได้ในแดนดิน เหตุใด...เหตุใดเขาจึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายนาง?
นาง...ที่พยายามเหนี่ยวรั้งเขาไว้เพื่อซึมซับความอบอุ่นที่คลายความหนาวเกาะกุมภายใน
นาง...ที่ชอบให้เขาใช้นิ้วลูบไล้กระหม่อมเพื่อที่ความเจ็บปวดของนางจะโบยบินหายไปในบัดดล
นาง...ที่ได้แต่เอาเปรียบเขาโดยที่ไม่อาจให้สิ่งใดตอบแทน
นางรู้ดีว่าระหว่างเขาและนางไม่มีข้อผูกมัดใดๆต่อกันทั้งสิ้น
***
เมื่อครั้งบุตรบารอนยังเล่าเรียนในชั้นปีสาม มีอยู่คืนหนึ่งที่อากาศหนาวเหน็บกว่าปรกติ อาจารย์ใหญ่แห่งนอร์ทฟอเรสได้เพียงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อนเดือด นางหลั่งน้ำตาเพียงลำพัง กัดฟันกล้ำกลืนเสียงกรีดร้องลงคอหวังให้ดวงตะวันมาถึงโดยเร็ว
จู่ๆนักเรียนทุนกลับมาปรากฏกายในห้องนางจากอากาศธาตุดุจเทพยดา เขาช้อนร่างนางขึ้นจากน้ำก่อนใช้เวทหายตัวพานางกลับไปยังห้องพักของเขาและวางร่างนางบนเตียงอย่างแผ่วเบา
เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดหยดน้ำจากกายนางโดยเบามือดั่งเกรงว่ากายนางจะแตกสลายเป็นเศษธุลีแก้ว นางปรือนัยน์ตากวาดมองรอบตัวเห็นวงเวทรักษาและมณีมนตรามากมายวางอยู่รอบเตียง นางไม่รู้ว่าบุตรบารอนเช่นเขาสามารถรวบรวมส่ิงมีค่ามากมายเช่นนี้มาได้อย่างไร แต่นางอ่อนแรงเกินกว่าจะคิดสนใจ
นักเรียนทุนใช้มนตร์เสกผ้าปูเตียงให้แห้งก่อนนำผ้าห่มทอจากทองคำหลายชั้นมาคลุมกายนาง ตลอดการกระทำทั้งหมดนั้นเขาไม่เอื้อนเอ่ยวาจาใดเพียงนำมือของนางไปกุมไว้เพียงเท่านั้น
คืนนั้นเป็นคืนแรกในรอบหลายสิบปีที่นางนอนหลับสบายจนล่วงเลยถึงยามสาย นางรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ไม่ใช่จากผ้าห่มที่คลุมตัวเสียหนาเต๊อะหรืออุปกรณ์เวทมากมายที่แผ่ความร้อนออกมา แต่จากไออุ่นจากมือนักเรียนทุนที่กุมนางไว้ไม่คลาย
เขาไม่เคยบอกว่าไปรู้เรื่องมาจากไหน และนางก็ไม่เคยคิดถาม
หลังจากคืนนั้นนางสำมโนครัวไปพักห้องเดียวกับเขา การที่อาจารย์ใหญ่กับนักเรียนจะอยู่ร่วมห้องกันควรเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำ แต่เขากลับทำทีเฉกเช่นมันเป็นเรื่องสามัญอย่างที่สุด ทุกคืนร่างของนางและเขาจะแนบชิดใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ และทุกคืนนางจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดของตนที่ทยอยทุเลาลง
มีบางคืนที่นางภาวนาหวังไม่ให้จบสิ้น ขอให้เขาได้อยู่ข้างการนางเช่นนี้ตลอดไป
แต่นางรู้ดีว่าความจริงกับความฝันมักตรงกันข้ามกันเสมอ วันหนึ่งเขาจะจบการศึกษาและไปจากชีวิตนาง และนางจะมีมีส่ิงใดที่เหนี่ยวรั้งเขาไว้ได้ ระหว่างนางและเขาไม่มีพันธะใดๆต่อกัน ไม่มีคำสัญญาหรือกระทั่ง...คำบอกรัก
วันหนึ่งเขาจะเบื่อหน่ายและจากนางไป
วันหนึ่งเขาจะได้พบคนที่ดีกว่า คนที่ไม่ต้องทำให้เขาต้องเหน็จเหนื่อยเช่นนาง
วันหนึ่งเขาจะเดินออกจากประตูและไม่หันกลับมา
เมื่อถึงวันนั้นนางจะไม่อ้อนวอนหรือรั้งเขาไว้ เพราะนางรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์อันใด
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น...ขอนางได้ซึมซับไออุ่นอีกแม้เล็กน้อยก็ยังดี
***
วันจบการศึกษาของโรงเรียนหลวงนอร์ทฟอเรสเป็นหนึ่งในวันที่สำคัญที่สุดของอาณาจักร เจ้าขุนมูลนายทั้งหลายจากทั่วอาณาจักรหลั่งไหลเดินทางมายังแดนเหนือนอร์มฟอเรส บ้างมาเพื่อร่วมฉลองให้แก่บุตรหลาน และบางมาเพื่อจองตัวบุคลากรมีความสามารถไปร่วมงาน โดยเฉพาะรุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดของหัวกระทิที่กระทั่งอาจารย์ผู้สอนยังยอมแพ้ยิ่งไม่น่าแปลกใจที่หัวหน้ากรม กระทรวงทั้งหลายมายื้อแย่งเด็กจบใหม่ดั่งเสื้อผ้าลดราคา
[โอ้ย!!!]
ว่าไม่ทันขาดคำมีเด็กคนหนึ่งที่โดยฉุดกระชากแขนสองข้างดั่งเชือกชักขเย้อจนแขนขาดที่ข้อหัวไหล่! เลือดไหลกระฉูดดั่งน้ำจากสายยางเลอะเปรอะพื้นและเสื้อผ้าของแขกเหลือร่วมงาน
ความวุ่นวายเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ก่อนที่หน่วยพยาบาลจะนำตัวเด็กผู้โชคร้ายไปรักษาใช้เวทต่อแขน
“…”
งานเลี้ยงรื่นเริงเงียบเสียงลงโดยพลันก่อนที่ผู้ร่วมงานจะทยอยออกจากห้องจัดเลี้ยงไปเตรียมตัวร่วมพิธีจบหลักสูตรที่โถงใหญ่
เหล่าผู้ปกครองทยอยนั่งเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ตามบรรดาศักดิ์ ณ แถวหน้าสุดเป็นพระที่นั่งขององค์ราาชินีที่มาร่วมงานเป็นเกียรติให้แด่องค์ชายรัชทายาท และที่แถวหลังสุดคือที่นั่งของบารอนที่พยายามชะเงิอมองหาบุตรคนที่หกของตนจนคอแทบเคล็ด
เวลาผ่านไปซักพักก่อนที่แสงเทียนจะหรี่ลงและท่านรองอาจารย์ใหญ่ขึ้นกล่าวโอวาสที่กลางเวที ขุนนางหลายคนและเหล่านักเรียนเก่าแอบซับเหงื่อโล่งใจที่ท่านอาจารย์ใหญ่ไม่ได้ขึ้นกล่าวเอง นางเพียงนั่งเหยียดหลังตรงบนเก้าอี้ไม่มีทีท่าว่าจะก่อเรื่องใด การที่องค์ราชาและขุนนางชั้นสูงหลายคนไม่กล้าเหยียบเข้านอร์ทฟอเรสมาหลายปีก็เพราะหวั่นนางนั่นแล แม้แต่คนที่ไม่มีเรื่องบาดหมางใดกับนางยังอดใจตุ้มๆต่อมๆทุกครั้งที่เผลอเหลือบตาไปมองนางมิได้
พิธีดำเนินต่อไปอย่างสงบเหล่านักเรียนทยอยเดินขบวนมารับใบจบหลักสูตรอย่างเป็นระเบียบ ที่สุดปลายขบวนคือนักเรียนผู้มีผลการเรียนเป็นเลิศทั้งสามกอปรด้วยองค์ชายรัชทายาท ท่านหญิงพระคู่มั่นที่ทุกคนต่างมองว่าช่างเหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก แม้ในพิธีการสำคัญยังไม่วายแอบหยอกล้อ? หยิกแขน? กันเล่น
แต่น่าแปลกที่นักเรียนทุนกลับมิได้เดินตามมาด้วย หลังจากองค์ชายและท่านหญิงได้รับมอบใบสำคัญไปแล้ว ยังไม่มีวี่แววของนักเรียนทุนคนดัง พิธีกรกล่าวประกาศชื่อของนักเรียนทุนหลายครั้ง และทุกครั้งนักเรียนจบใหญ่ทุกคนจะทำหน้าซีดเซียวหวาดกลัว? สดุ้งตัวโยนทุกครั้งไป แต่ไม่ว่ากี่ครั้งนักเรียนทุนกลับไม่แสดงตัวออกมาจนในที่สุดท่านรองอาจารย์ใหญ่ก็สั่งให้ข้ามเขาเสีย และดำเนินพิธีการต่อไป
หลายคนทำหน้าสงสัยที่นักเรียนทุนคนสำคัญเลือกที่จะไม่มาร่วมงานสำคัญ
มีเพียงท่านอาจารย์ใหญ่ที่มีใบหน้าเศร้าหมอง ย้ิมเย้ยหยั่นตนเอง
‘เขาคงรอไม่ไหวที่จะหนีจากนางเป็นแน่’
บุตรีดยุกมิอาจนั่งร่วมพิธีการอีกต่อไปและเลือกที่กลับ...บ้านของนาง
บ้าน...ที่คงไม่มีเขาอีกต่อไป
นางเดินทอดน่องมาถึงพักร้อยกว่าชั้น แต่แทนที่นางจะใช้เวทหายตัวขึ้นชั้นใต้หลังคาดั่งที่ทำเป็นประจำ นางเลือกที่จะก้าวขึ้นบรรไดอย่างเชื่องช้าแทน นางคงใจสลายเมื่อเห็นห้องกว้างที่ไร้ไออุ่น นางจึงอย่างประวิงเวลาไว้ให้นานที่สุด
นางก้าวเท้าขึ้นบันไดผ่านชั้นที่หนึ่ง...
...สอง...
...สาม...
...สี่...
...
...สิบเอ็ด...
…สิบสอง...
…
…ยี่สิบหก...
…ยี่สิบเจ็ด…
…
...ห้าสิบสาม...
…
...หนึ่งร้อยสิบแปด...
…
…
ทุกชั้นที่สูงขึ้นไปนางรู้สึกได้ถึงลมหนาวที่พัดผ่านหน้าต่างเข้ามา ศรีษะที่อาการทุเลาลงมากกลับมาปวดดั่งมีหนามเหล็กทิ่มแทงสมอง นางอยากร่ำไห้ นางอยากกรีดร้อง เล็บแหลมจิกเข้าฝ่ามือจนห่อเลือด แต่นางกลับเพียงก้าวขาขึ้นบรรไดขั้นต่อไป
เวลาผ่านไปนานเท่าใดมิอาจทราบ แต่ในที่สุดนางก็ขึ้นบรรไดถึงชั้นบนสุด
ชั้นที่เคยถูกใช้เก็บขยะและของเก่าที่ถูกพ่อตัวดีโมดิฟายเสียใหม่จนหรูย่ิงกว่าโรงแรมหกดาว นางใช้ปลายน้ิวลูบไล้ขมับโล่งข้างซ้ายโดยสัญชาตญาณ นางส่งเสียงหัวเราะในลำคอเมื่อนึกย้อนไปถึงการแก้ของของใครบางคนที่ทำเอาปราสาทเสียหายไปกว่าหนึ่งในเจ็ด การยุแหย่บุรุษวิปริตนั้นมักมีผลลัพท์ที่คาดเดาไม่ได้ตามมาเสมอ
นางกวาดสายตาผ่านอ่างน้ำร้อ-ไม่สิ สระน้ำร้อนที่นางมักลงไปว่ายได้เล่นได้ พรมขนสัตว์เหมาะแก่การกล้ิงเกลือกกล้ัว ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ โต๊ะ ตั่ง เตียงครบชุด และ...
เก้าอี้...
เก้าอี้นวมตัวหนาที่เขาชอบนั่ง...
เก้าอี้นวมตัวหนาที่นางชอบไปเบียดตัวนั่งชิดกับเขา...
เก้าอี้นวมตัวหนาที่เขามักบ่นดั่งหญิงวัยทองเมื่อนางทำให้มันเปียกน้ำ...
เก้าอี้นวมตัวหนาที่บัดนี้มีร่างเจ้าของผู้ไม่ชอบพิธีการยุ่งนากนั่งหลับอยู่...
นางไม่รู้ว่าเหตุใดห้องใต้หลังคาของหอคอยสูงเสียดฟ้านี้จึงรู้สึกอบอุ่นย่ิงนัก
***
บุรุษวิปริตเอ๋ย เจ้าเบื่อหน่ายไหมยามข้านำเรื่องยุ่งยากมาให้เจ้าหนักใจ?
สตรีวิปลาสเอ๋ย เจ้าหงุดหงิดไหมยามข้้าไม่อาจแบ่งเบาความเจ็บปวดของเจ้าได้?
บุรุษวิปริตเอ๋ย เจ้าเบื่อหน่ายไหม ตัวข้าที่มิมีสิ่งใดตอบแทนความปราณีของเจ้า?
สตรีวิปลาสเอ๋ย เจ้าหงุดหงิดไหมตัวข้าที่ไร้พลังที่จะช่วยเหลือเจ้า?
บุรุษวิปริตเอ๋ย เจ้าเบื่อหน่ายไหมที่ข้าเห็นแก่ตัวต้องการนิทราข้างกายเจ้า?
สตรีวิปลาสเอ๋ยเจ้า เจ้าหงุดหงิดไหมที่ข้าเห็นแก่ตัวต้องการลืมตาเห็นเจ้าเป็นคนแรก?
บุรุษวิปริตเอ๋ย...
สตรีวิปลาสเอ๋ย...
“เจ้าอย่าจากข้าไปจะได้ไหม?”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ