สามี...ท่านมียางอายบ้างหรือไม่!
7.0
เขียนโดย สาวเพ้อฝัน
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.17 น.
9 ตอน
0 วิจารณ์
11.53K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ขนาน1.2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ฮูหยิน”
“ฮูหยินเจ้าคะ!”
“หะ...หะ”
“ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ? บ่าวเห็นท่านจ้องกระจกซะจนลูกตาจะถลนออกนอกเบ้าแล้ว บ่าวเป็นห่วงเจ้าค่ะ!”อี๋เอ๋อพูดจบก็ทำตาแดงๆใส่เหม่ยถิง
ให้ตายสิยัยนี่ ฉันไปทำอะไรให้หล่อนรักและเป็นห่วงขนาดนั้นยะ! แล้วนี่สรุปยัยโง่ที่ตกลงพนันบ้าบอก็คือฉัน แล้วฉันควรทำยังไงต่อไปละเนี่ย โอ้ย ปวดหัว
เธอยกมือสองข้างขึ้นมากุมศีรษะเอาไว้
นี่หมายความว่าตอนนี้ฉันต้องมีชีวิตอยู่ในยุคจีนโบราณที่ยังต้องใช้เทียนไขให้แสงสว่างแทนการใช้ไฟฟ้า แม้กระทั้งการเดินทางยังต้องเดินทางกันเป็นวัน เป็นเดือน
เรื่องสุขอนามัยอีกแล้วเรื่องนั้นของผู้หญิงละ! ให้ตาย แค่คิดถึงความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันต่อไปนี้ก็แย่แล้วนี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ฉันกังวลเกี่ยวกับตัวฉันในอนาคตเลยนะ ถ้าฉันมาอยู่ทีนี่แล้วในอนาคตของฉันละ แล้วนี่มันยุคราชวงศ์ไหน? แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ชิงแน่นอน
ถ้าจะย้อนมาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ฉันมาไกลขนาดนี้ไหม ดูๆไปเนื้อผ้าชุดแต่งงานรูปแบบนี้มัน หรือว่า ราชวงศ์ถัง? โถ่ ทำไมตอนเรียนประวัติศาสตร์ฉันถึงโดดเรียนบ่อยๆกันนะ
เธอพึมพำกระวนกระวายแล้วเอามือเขกหัวตัวเองแรงๆติดๆกันเหมือนคนเป็นบ้า การกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของสาวน้อยข้างกายเธอ ในขณะที่อี๋เอ๋อมองเจ้านายพรางเบะปากทำตาแดงๆ จวนจะร้องไห้ออกมาอีกรอมร่อ
“อ๋า ฮูหยินท่านอย่าเขกหัวตัวเองอย่างนั้นสิเจ้าคะ ตอนนี้ท่านจำไม่ได้ก็แล้วไปเถอะแต่อย่าทำให้สมองของท่านเสื่อมหนักกว่าเดิมได้ไหมเจ้าคะ! ถ้านึกไม่ออกก็อย่านึกต่อไปอีกเลย ฮือ…ข้าทนดูท่านทำร้ายตัวเองแบบนี้ไม่ได้จริงๆ" อี๋เอ๋อร้องห้ามก่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าขาวผืนน้อยขึ้นมากัดทำท่าทางเหมือนพวกนางอิจฉาคับแค้นใจน้ำตารินในจอซีรี่ย์ที่เธอเคยดู
“นี่ เจ้าจะร้องทำไมข้ายังไม่ตาย!! อีกอย่างเจ้าเป็นบ่าวภาษาอะไรหะ มีอย่างที่ไหนข้ายังดีอยู่เจ้ากับแช่งข้าให้ปัญญาอ่อนซะแล้ว"
“บ่าวป่าวนะเจ้าคะ บ่าวไม่เคยแม้แต่จะคิดเลย ที่บ่าวพูดแบบนี้ก็เพราะว่า ท่านเคยบอกว่าท่านเหลือบ่าวแค่คนเดียว ท่านเห็นบ่าวเป็นคนในครอบครัวคอยใส่ใจบ่าวตลอดมา บ่าวซาบซึ้งใจนัก บ่าวเห็นท่านเปรียบดังพี่สาว บ่าวเป็นห่วงและรักท่านจากใจจริงนะเจ้าคะ" อี๋เอ๋อโบกมือปฏิเสธ
เฮ้อเอาเถอะ ฟังที่ยัยนี่พูดแล้วฉันก็พอจะเข้าใจแล้วแหละ
“อ่า อี๋เอ๋อเอาเป็นว่าต่อไปนี้เจ้าจะต้องปรับตัวใหม่ อย่าเอะอะก็ฟูมฟายร้องไห้ออกมา ขอบใจเจ้านะที่มีใจคิดเผื่อข้าถึงเพียงนี้แต่ว่าหลังจากนี้ก็คิดให้น้อยลงหน่อยเถิดแล้วอีกอย่างนึง ต่อไปนี้ก็ทำความรู้จักข้าใหม่แล้วกัน ตกลงไหม?”เธอตบไหล่สาวน้อยเบาๆ
“เจ้าค่ะ"นางพยักหน้า
“เอ่ออีกอย่างข้าอยากถามเจ้า ตอนนี้เวลาอะไร?”
“เอ่อ…เวลาอะไรหรือเจ้าคะ?”
“เอ่อข้าหมายถึง…หมายถึงตอนนี้ราชวงศ์ไหนนะ"
“สวรรค์ ฮูหยินท่านจำอะไรไม่ได้จนถึงเพียงนี้เลยหรือเจ้าคะ"ยัยนี่จะร้องอีกแล้ว ให้ตายสิ!
“อย่าร้องๆ ข้าขอร้องเจ้าแหละตอบคำถามข้าเถอะนะ"
“ตอนนี้ราชวงศ์ถังเจ้าค่ะ"
“ฮ่องเต้ละ?”
“ฮ่องเต้ถังไท่จงเจ้าค่ะ"
รัชสมัยของถังไท่จง โอ้พระเจ้า! ถึงฉันจะโง่ประวัติศาสตร์ก็เถอะแต่นี่มัน…..
จะเป็นลม ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งอยากจะล้มพับไม่แน่พอฉันสลบไปอาจจะได้กลับบ้านฉันซักที
“ยินดีกับท่านหูด้วยแต่งเมียนับว่าเป็นเรื่องดี ถึงแม้ท่านจะแต่งกับคุณหนูซือไม่ได้แต่ตอนนี้ก็ได้แต่งกับหญิงงามคนหนึ่งเลยทีเดียวเชียว"เสียงเอะอะจากข้างนอก
“คุณหนู ท่านรีบกลับไปนั่งที่เตียงเร็วเข้าเจ้าค่ะ!” เธอผลักฉันให้กลับไปนั่งที่เดิม ฉันก็ยอมให้ความร่วมมือโดยดี
“แน่นอนอยู่แล้วภรรยาของข้าหูจิ้งไม่มีทางที่จะมีความงามน้อยหน้าใครไปได้ คนเช่นข้าหากไม่ได้ยอดพธูมาครอบครองแล้วใต้หล้านี้ก็ไม่มีคนสมควรได้ไปเช่นกัน"
“เอาเถอะ ใครจะเป็นดังท่านพนันกับแม่สื่อเพื่อให้ได้คุณหนูซือ แต่ว่าท่านไม่ได้แต่งกับคนที่ตนต้องการแบบนี้นับว่าท่านก็ล้มเหลวหรือไม่ ฮ่าๆ"
“ไม่หรอกคุณชายฉู่ ให้ตายข้าก็ต้องได้สิ่งที่ตนต้องการอย่างแน่นอน มิฉะนั้นฉายา คุณชายหน้าหนาอันดับหนึ่งของข้ามิเป็นเพียงลมปากหรอกหรือ"
“จุๆ..คุณชายหูท่านนี่นอกจากน่าไม่อายแล้วยังอาจจะเป็นพวกเจ้าชู้ประตูดินด้วยก็ได้กระมัง ไม่ทันจะเข้าหอกับเมียแรกก็คิดจะแต่งเมียสองซะแล้ว น่าไม่อายๆ"
ใช่!น่าไม่อาย พูดออกมาได้ยังไง ให้ตายเถอะตอนกลางวันประคับประคองกันซะดิบดี ยังไม่ท่านจะเหยียบเข้าหอก็ออกลายแล้ว ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอใครหน้าด้านได้ขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ
“เอ่อฮูหยิน ท่านอย่าใส่ใจเลยนะเจ้าคะ ท่านบอกว่าท่านมีแผนวางไว้หลังจากนั้น ท่านอย่าได้ยอมลงให้คุณชายหูเด็ดขาดนะเจ้าคะ"
“แผนหรือ?”
หึหึ คนอย่างฉันเหรอจะยอม เหอะ คอยดูฉันไปเถอะผู้หญิงอย่างฉันทำงานบริษัทจับคู่สายตาในการมองผู้ชายนี่ที่หนึ่งเลยแหละ และแน่นอนมันย่อมมาพร้อมกับมันสมองขั้นสุดยอด กับแผนการชั้นเยี่ยมไม่อย่างนั้นฉันจะจับคู่ให้ได้ตามที่ลูกค้าต้องการได้ยังไงละ สวยแล้วต้องมีสมองด้วย สวยโง่! ไม่มีทางเป็นฉันหรอกหึ
“เอาเถอะ พวกข้าไม่รั้งท่านแล้วคืนเข้าหอมีค่าพันตำลึงทอง พวกข้าลาละ"
“เชิญ"
สิ้นเสียงพูดคุยข้างนอก ก็เป็นเสียงเปิดประตู ชายน่าไม่อายค่อยๆเดินเข้ามาหาฉันที่ละก้าว ฉันรู้สึกได้ เสียงฝีท้าวหนักแน่นในขณะที่เข้าเดินเข้ามา บรรยากาศก็ต่างจากเดิม
น่าอึดอัดมากให้ตายเถอะ
“เจ้าออกไปได้แล้ว"
“เจ้าค่ะ"
อี๋เอ๋อรับคำก่อนเดินออกไปปิดประตูลงทิ้งให้ฉันอยู่สองคนตามลำพังกับอีตาคนน่าไม่อาย เหอะ หูจิ้ง สมเป็นจิ้งจอกจริงๆ กลิ้งกลอกนัก!
“น้องหญิง"เขาพูดพลางเดินลงมานั่งบนเตียงข้างๆฉัน ฉันยังคงเงียบและไม่ขานรับเขา
“เฮ้อ! เจ้าจะไม่พูดกับข้าจริงๆหรือ”
“….”
“ถ้าเจ้าไม่พูดเรื่องเรือนแม่สื่อหมื่นบุปผากับโอกาสที่เจ้าขอ ข้าจะถือว่าเจ้ายกเลิก…ดีหรือไม่"
ขออะไรยะ ฉันไม่เคยไปขออะไร และเรื่องพนันนั่นอีกฉันไม่เคยไปพูดอะไรกับนายทั้งนั้นแหละย่ะ ฮึ่ม!
“ข้าตกลงอะไรกับท่าน ข้าไม่ทราบจริงๆข้าความจำเสื่อม"
“โอโห มุขใหม่หรือ เจ้าคิดอย่างอื่นไม่ออกรึไร?”
“ข้าไม่ได้หลอกท่านไม่เชื่อก็ออกไปถามอี๋เอ๋อสิ"
“ได้ข้าจะเรียกนางมา"
“นี่!ข้าพูดจริงๆ"
“ก็เรียกนางมาถามแบบที่เจ้าต้องการอย่างไร"
“อี๋เอ่อ"เขาตะโกน
“เจ้าคะ"นางเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“นายหญิงเจ้าบอกข้าว่านางความจำเสื่อม"
“ใช่เจ้าค่ะ ศีรษะนายถูกหญิงกระแทกแรงมากตอนนั้นเกี้ยวที่กำลังเดินทางเกิดอุบัติเหตุคนหามเกี้ยวสะดุดก้อนหินเจ้าค่ะ! พอมาถึงตอนส่งตัวข้าน้อยก็เพิ่งจะทราบเช่นกัน"
“อย่างนั้นหรือ นายหญิงเจ้าความจำเสื่อมแล้วจริงหรือ?”อี๋เอ๋อตัวสั่น
“จริงเจ้าค่ะ! ได้โปรดนายท่านอย่างรังแกนายหญิงเลยนะเจ้าคะ"
“ทำไมพูดอะไรเช่นนั้นเล่าข้าไปรังแกนายเจ้าตั้งแต่เมื่อไร ข้าก็แค่ถามมิใช่หรือ? ใช่ไหมน้องหญิง"
เขาเขยิบเข้ามาก่อนรวบเอวฉันเข้าไปหา จ้องตาฉันผ่านม่านลูกปัด ดวงตานั้นราวกับว่ามันกำลังพูดว่า ข้าจะทำแล้วเจ้าจะทำไม? เกลียด…เกลียดจริงๆ
ฉันพยายามที่จะผลักเข้าออกแต่เขากลับยิ่งรัดเอวฉันแน่นขึ้น พร้อมกับยกยิ้มริมฝีปากบางเป็นเชิงว่า เจ้าหนีไม่พ้นข้าหรอก
หนอย เย้ยหยันฉันเหรอ มันน่านักอยากตบหน้าสั่งสอนคนโว้ย!
“ไม่มีอะไรแล้วเจ้าออกไปได้ เพราะว่าข้าจะช่วยทายาให้น้องหญิงแล้ว โถ่ น้องหญิงเจ้าคงจะเจ็บที่แผลมากสินะ มาข้าจะทายาให้ ล้มแรงขนาดนั้นนอกจากที่หัวแล้วคงจะ ช้ำที่อื่นอีก!"
เขาพูดขณะหันมาหน้าไปมองนางก่อนใช้สายตาหยาบคายโลมเลียไปทั่วร่างกาย
นั่นมันแทบทำให้ฉันลุกขึ้นมาฆ่าคนได้เลยจริงๆ ทุเรศ ไอ้ผู้ชายน่าไม่อาย ฉันยิ่งดิ้นขัดขืนขึ้นอีก แต่เขาก็รัดแน่นขึ้นอีก
“ออกไป"เขาขึ้นเสียง
“เจ้าค่ะ"อี๋เอ๋อย่อตัวคำนับก่อนส่งสายตามองฉันราวว่า นายหญิงท่านรักษาตัวนะเจ้าคะ
ให้ตาย ให้ตาย อยากตบคนแล้วจริงๆ!
“มาเถิดน้องหญิง ได้เวลาแล้วสินสอดเจ้าตั้งสี่สิบห้าหีบเห็นทีพ่อค้าอย่างข้าได้เวลาถอนทุนคืนแล้ว!”
“เดี๋ยวท่าน"ฉันใช้มือยันตัวเข้าออกในขณะที่เขากำลังโถมกายใส่เข้ามา
“อะไรหรือน้องหญิง"เข้ายิ้มตาหยี
“ท่านลืมแล้วหรือว่าท่านกับข้ายังคุยเรื่องข้อตกลงไม่เสร็จเลย ข้าลืมไปแล้วว่าตกลงอะไรกับท่าน ท่านต้องอธิบายให้ข้าฟังก่อนสิ!”
“โอ๋ว ไว้ข้าอธิบายไปทำไปก็ได้นี่นา"เขากระซิบข้างหู ก่อนจะยกมงกุฎหงส์บนศีรษะฉันออกไป เขาขยับกายเข้ามาใกล้กว่าเดิมในขณะที่ฉันก็ถอยหลังมากกว่าเดิม
“เจ้ามันทุเรศ!"
“จุๆพูดจาหยาบคายมันไม่ดีนะ สามีภรรยาแต่งงาน การเข้าหอกับข้าถือว่าถูกทำนองคลองธรรม ไม่ต้องอายหรอกหากเจ้าไม่ประสีประสาข้าก็จะนำเจ้าเอง คนดีอย่าดื้อดึงอีกเลยมาๆ ข้าถอดเสื้อให้เจ้าเจ้าก็ถอดให้ข้าหรือว่าเจ้าอาย? ข้าถอดให้เราสองคนแทนก็ได้นะ"เขาพูดในขณะที่ยื่นมือมาจับไว้ที่สาบเสื้อทำท่าทางจะถอดเสื้อผ้าของฉันจริงๆ
“จะ..เจ้า กรี๊ดดดดดด!!”
*ลงตอนที่สองแล้วตื่นเต้นจัง ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเหมือนเดิมถ้าตกหล่นหรือมีคำผิดไปบ้างไรท์ต้องขออภัยจริงๆนะคะ -/\- *
*คอมเม้นพูดคุยเป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ <3*
“ฮูหยินเจ้าคะ!”
“หะ...หะ”
“ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ? บ่าวเห็นท่านจ้องกระจกซะจนลูกตาจะถลนออกนอกเบ้าแล้ว บ่าวเป็นห่วงเจ้าค่ะ!”อี๋เอ๋อพูดจบก็ทำตาแดงๆใส่เหม่ยถิง
ให้ตายสิยัยนี่ ฉันไปทำอะไรให้หล่อนรักและเป็นห่วงขนาดนั้นยะ! แล้วนี่สรุปยัยโง่ที่ตกลงพนันบ้าบอก็คือฉัน แล้วฉันควรทำยังไงต่อไปละเนี่ย โอ้ย ปวดหัว
เธอยกมือสองข้างขึ้นมากุมศีรษะเอาไว้
นี่หมายความว่าตอนนี้ฉันต้องมีชีวิตอยู่ในยุคจีนโบราณที่ยังต้องใช้เทียนไขให้แสงสว่างแทนการใช้ไฟฟ้า แม้กระทั้งการเดินทางยังต้องเดินทางกันเป็นวัน เป็นเดือน
เรื่องสุขอนามัยอีกแล้วเรื่องนั้นของผู้หญิงละ! ให้ตาย แค่คิดถึงความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันต่อไปนี้ก็แย่แล้วนี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ฉันกังวลเกี่ยวกับตัวฉันในอนาคตเลยนะ ถ้าฉันมาอยู่ทีนี่แล้วในอนาคตของฉันละ แล้วนี่มันยุคราชวงศ์ไหน? แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ชิงแน่นอน
ถ้าจะย้อนมาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ฉันมาไกลขนาดนี้ไหม ดูๆไปเนื้อผ้าชุดแต่งงานรูปแบบนี้มัน หรือว่า ราชวงศ์ถัง? โถ่ ทำไมตอนเรียนประวัติศาสตร์ฉันถึงโดดเรียนบ่อยๆกันนะ
เธอพึมพำกระวนกระวายแล้วเอามือเขกหัวตัวเองแรงๆติดๆกันเหมือนคนเป็นบ้า การกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของสาวน้อยข้างกายเธอ ในขณะที่อี๋เอ๋อมองเจ้านายพรางเบะปากทำตาแดงๆ จวนจะร้องไห้ออกมาอีกรอมร่อ
“อ๋า ฮูหยินท่านอย่าเขกหัวตัวเองอย่างนั้นสิเจ้าคะ ตอนนี้ท่านจำไม่ได้ก็แล้วไปเถอะแต่อย่าทำให้สมองของท่านเสื่อมหนักกว่าเดิมได้ไหมเจ้าคะ! ถ้านึกไม่ออกก็อย่านึกต่อไปอีกเลย ฮือ…ข้าทนดูท่านทำร้ายตัวเองแบบนี้ไม่ได้จริงๆ" อี๋เอ๋อร้องห้ามก่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าขาวผืนน้อยขึ้นมากัดทำท่าทางเหมือนพวกนางอิจฉาคับแค้นใจน้ำตารินในจอซีรี่ย์ที่เธอเคยดู
“นี่ เจ้าจะร้องทำไมข้ายังไม่ตาย!! อีกอย่างเจ้าเป็นบ่าวภาษาอะไรหะ มีอย่างที่ไหนข้ายังดีอยู่เจ้ากับแช่งข้าให้ปัญญาอ่อนซะแล้ว"
“บ่าวป่าวนะเจ้าคะ บ่าวไม่เคยแม้แต่จะคิดเลย ที่บ่าวพูดแบบนี้ก็เพราะว่า ท่านเคยบอกว่าท่านเหลือบ่าวแค่คนเดียว ท่านเห็นบ่าวเป็นคนในครอบครัวคอยใส่ใจบ่าวตลอดมา บ่าวซาบซึ้งใจนัก บ่าวเห็นท่านเปรียบดังพี่สาว บ่าวเป็นห่วงและรักท่านจากใจจริงนะเจ้าคะ" อี๋เอ๋อโบกมือปฏิเสธ
เฮ้อเอาเถอะ ฟังที่ยัยนี่พูดแล้วฉันก็พอจะเข้าใจแล้วแหละ
“อ่า อี๋เอ๋อเอาเป็นว่าต่อไปนี้เจ้าจะต้องปรับตัวใหม่ อย่าเอะอะก็ฟูมฟายร้องไห้ออกมา ขอบใจเจ้านะที่มีใจคิดเผื่อข้าถึงเพียงนี้แต่ว่าหลังจากนี้ก็คิดให้น้อยลงหน่อยเถิดแล้วอีกอย่างนึง ต่อไปนี้ก็ทำความรู้จักข้าใหม่แล้วกัน ตกลงไหม?”เธอตบไหล่สาวน้อยเบาๆ
“เจ้าค่ะ"นางพยักหน้า
“เอ่ออีกอย่างข้าอยากถามเจ้า ตอนนี้เวลาอะไร?”
“เอ่อ…เวลาอะไรหรือเจ้าคะ?”
“เอ่อข้าหมายถึง…หมายถึงตอนนี้ราชวงศ์ไหนนะ"
“สวรรค์ ฮูหยินท่านจำอะไรไม่ได้จนถึงเพียงนี้เลยหรือเจ้าคะ"ยัยนี่จะร้องอีกแล้ว ให้ตายสิ!
“อย่าร้องๆ ข้าขอร้องเจ้าแหละตอบคำถามข้าเถอะนะ"
“ตอนนี้ราชวงศ์ถังเจ้าค่ะ"
“ฮ่องเต้ละ?”
“ฮ่องเต้ถังไท่จงเจ้าค่ะ"
รัชสมัยของถังไท่จง โอ้พระเจ้า! ถึงฉันจะโง่ประวัติศาสตร์ก็เถอะแต่นี่มัน…..
จะเป็นลม ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งอยากจะล้มพับไม่แน่พอฉันสลบไปอาจจะได้กลับบ้านฉันซักที
“ยินดีกับท่านหูด้วยแต่งเมียนับว่าเป็นเรื่องดี ถึงแม้ท่านจะแต่งกับคุณหนูซือไม่ได้แต่ตอนนี้ก็ได้แต่งกับหญิงงามคนหนึ่งเลยทีเดียวเชียว"เสียงเอะอะจากข้างนอก
“คุณหนู ท่านรีบกลับไปนั่งที่เตียงเร็วเข้าเจ้าค่ะ!” เธอผลักฉันให้กลับไปนั่งที่เดิม ฉันก็ยอมให้ความร่วมมือโดยดี
“แน่นอนอยู่แล้วภรรยาของข้าหูจิ้งไม่มีทางที่จะมีความงามน้อยหน้าใครไปได้ คนเช่นข้าหากไม่ได้ยอดพธูมาครอบครองแล้วใต้หล้านี้ก็ไม่มีคนสมควรได้ไปเช่นกัน"
“เอาเถอะ ใครจะเป็นดังท่านพนันกับแม่สื่อเพื่อให้ได้คุณหนูซือ แต่ว่าท่านไม่ได้แต่งกับคนที่ตนต้องการแบบนี้นับว่าท่านก็ล้มเหลวหรือไม่ ฮ่าๆ"
“ไม่หรอกคุณชายฉู่ ให้ตายข้าก็ต้องได้สิ่งที่ตนต้องการอย่างแน่นอน มิฉะนั้นฉายา คุณชายหน้าหนาอันดับหนึ่งของข้ามิเป็นเพียงลมปากหรอกหรือ"
“จุๆ..คุณชายหูท่านนี่นอกจากน่าไม่อายแล้วยังอาจจะเป็นพวกเจ้าชู้ประตูดินด้วยก็ได้กระมัง ไม่ทันจะเข้าหอกับเมียแรกก็คิดจะแต่งเมียสองซะแล้ว น่าไม่อายๆ"
ใช่!น่าไม่อาย พูดออกมาได้ยังไง ให้ตายเถอะตอนกลางวันประคับประคองกันซะดิบดี ยังไม่ท่านจะเหยียบเข้าหอก็ออกลายแล้ว ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอใครหน้าด้านได้ขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ
“เอ่อฮูหยิน ท่านอย่าใส่ใจเลยนะเจ้าคะ ท่านบอกว่าท่านมีแผนวางไว้หลังจากนั้น ท่านอย่าได้ยอมลงให้คุณชายหูเด็ดขาดนะเจ้าคะ"
“แผนหรือ?”
หึหึ คนอย่างฉันเหรอจะยอม เหอะ คอยดูฉันไปเถอะผู้หญิงอย่างฉันทำงานบริษัทจับคู่สายตาในการมองผู้ชายนี่ที่หนึ่งเลยแหละ และแน่นอนมันย่อมมาพร้อมกับมันสมองขั้นสุดยอด กับแผนการชั้นเยี่ยมไม่อย่างนั้นฉันจะจับคู่ให้ได้ตามที่ลูกค้าต้องการได้ยังไงละ สวยแล้วต้องมีสมองด้วย สวยโง่! ไม่มีทางเป็นฉันหรอกหึ
“เอาเถอะ พวกข้าไม่รั้งท่านแล้วคืนเข้าหอมีค่าพันตำลึงทอง พวกข้าลาละ"
“เชิญ"
สิ้นเสียงพูดคุยข้างนอก ก็เป็นเสียงเปิดประตู ชายน่าไม่อายค่อยๆเดินเข้ามาหาฉันที่ละก้าว ฉันรู้สึกได้ เสียงฝีท้าวหนักแน่นในขณะที่เข้าเดินเข้ามา บรรยากาศก็ต่างจากเดิม
น่าอึดอัดมากให้ตายเถอะ
“เจ้าออกไปได้แล้ว"
“เจ้าค่ะ"
อี๋เอ๋อรับคำก่อนเดินออกไปปิดประตูลงทิ้งให้ฉันอยู่สองคนตามลำพังกับอีตาคนน่าไม่อาย เหอะ หูจิ้ง สมเป็นจิ้งจอกจริงๆ กลิ้งกลอกนัก!
“น้องหญิง"เขาพูดพลางเดินลงมานั่งบนเตียงข้างๆฉัน ฉันยังคงเงียบและไม่ขานรับเขา
“เฮ้อ! เจ้าจะไม่พูดกับข้าจริงๆหรือ”
“….”
“ถ้าเจ้าไม่พูดเรื่องเรือนแม่สื่อหมื่นบุปผากับโอกาสที่เจ้าขอ ข้าจะถือว่าเจ้ายกเลิก…ดีหรือไม่"
ขออะไรยะ ฉันไม่เคยไปขออะไร และเรื่องพนันนั่นอีกฉันไม่เคยไปพูดอะไรกับนายทั้งนั้นแหละย่ะ ฮึ่ม!
“ข้าตกลงอะไรกับท่าน ข้าไม่ทราบจริงๆข้าความจำเสื่อม"
“โอโห มุขใหม่หรือ เจ้าคิดอย่างอื่นไม่ออกรึไร?”
“ข้าไม่ได้หลอกท่านไม่เชื่อก็ออกไปถามอี๋เอ๋อสิ"
“ได้ข้าจะเรียกนางมา"
“นี่!ข้าพูดจริงๆ"
“ก็เรียกนางมาถามแบบที่เจ้าต้องการอย่างไร"
“อี๋เอ่อ"เขาตะโกน
“เจ้าคะ"นางเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“นายหญิงเจ้าบอกข้าว่านางความจำเสื่อม"
“ใช่เจ้าค่ะ ศีรษะนายถูกหญิงกระแทกแรงมากตอนนั้นเกี้ยวที่กำลังเดินทางเกิดอุบัติเหตุคนหามเกี้ยวสะดุดก้อนหินเจ้าค่ะ! พอมาถึงตอนส่งตัวข้าน้อยก็เพิ่งจะทราบเช่นกัน"
“อย่างนั้นหรือ นายหญิงเจ้าความจำเสื่อมแล้วจริงหรือ?”อี๋เอ๋อตัวสั่น
“จริงเจ้าค่ะ! ได้โปรดนายท่านอย่างรังแกนายหญิงเลยนะเจ้าคะ"
“ทำไมพูดอะไรเช่นนั้นเล่าข้าไปรังแกนายเจ้าตั้งแต่เมื่อไร ข้าก็แค่ถามมิใช่หรือ? ใช่ไหมน้องหญิง"
เขาเขยิบเข้ามาก่อนรวบเอวฉันเข้าไปหา จ้องตาฉันผ่านม่านลูกปัด ดวงตานั้นราวกับว่ามันกำลังพูดว่า ข้าจะทำแล้วเจ้าจะทำไม? เกลียด…เกลียดจริงๆ
ฉันพยายามที่จะผลักเข้าออกแต่เขากลับยิ่งรัดเอวฉันแน่นขึ้น พร้อมกับยกยิ้มริมฝีปากบางเป็นเชิงว่า เจ้าหนีไม่พ้นข้าหรอก
หนอย เย้ยหยันฉันเหรอ มันน่านักอยากตบหน้าสั่งสอนคนโว้ย!
“ไม่มีอะไรแล้วเจ้าออกไปได้ เพราะว่าข้าจะช่วยทายาให้น้องหญิงแล้ว โถ่ น้องหญิงเจ้าคงจะเจ็บที่แผลมากสินะ มาข้าจะทายาให้ ล้มแรงขนาดนั้นนอกจากที่หัวแล้วคงจะ ช้ำที่อื่นอีก!"
เขาพูดขณะหันมาหน้าไปมองนางก่อนใช้สายตาหยาบคายโลมเลียไปทั่วร่างกาย
นั่นมันแทบทำให้ฉันลุกขึ้นมาฆ่าคนได้เลยจริงๆ ทุเรศ ไอ้ผู้ชายน่าไม่อาย ฉันยิ่งดิ้นขัดขืนขึ้นอีก แต่เขาก็รัดแน่นขึ้นอีก
“ออกไป"เขาขึ้นเสียง
“เจ้าค่ะ"อี๋เอ๋อย่อตัวคำนับก่อนส่งสายตามองฉันราวว่า นายหญิงท่านรักษาตัวนะเจ้าคะ
ให้ตาย ให้ตาย อยากตบคนแล้วจริงๆ!
“มาเถิดน้องหญิง ได้เวลาแล้วสินสอดเจ้าตั้งสี่สิบห้าหีบเห็นทีพ่อค้าอย่างข้าได้เวลาถอนทุนคืนแล้ว!”
“เดี๋ยวท่าน"ฉันใช้มือยันตัวเข้าออกในขณะที่เขากำลังโถมกายใส่เข้ามา
“อะไรหรือน้องหญิง"เข้ายิ้มตาหยี
“ท่านลืมแล้วหรือว่าท่านกับข้ายังคุยเรื่องข้อตกลงไม่เสร็จเลย ข้าลืมไปแล้วว่าตกลงอะไรกับท่าน ท่านต้องอธิบายให้ข้าฟังก่อนสิ!”
“โอ๋ว ไว้ข้าอธิบายไปทำไปก็ได้นี่นา"เขากระซิบข้างหู ก่อนจะยกมงกุฎหงส์บนศีรษะฉันออกไป เขาขยับกายเข้ามาใกล้กว่าเดิมในขณะที่ฉันก็ถอยหลังมากกว่าเดิม
“เจ้ามันทุเรศ!"
“จุๆพูดจาหยาบคายมันไม่ดีนะ สามีภรรยาแต่งงาน การเข้าหอกับข้าถือว่าถูกทำนองคลองธรรม ไม่ต้องอายหรอกหากเจ้าไม่ประสีประสาข้าก็จะนำเจ้าเอง คนดีอย่าดื้อดึงอีกเลยมาๆ ข้าถอดเสื้อให้เจ้าเจ้าก็ถอดให้ข้าหรือว่าเจ้าอาย? ข้าถอดให้เราสองคนแทนก็ได้นะ"เขาพูดในขณะที่ยื่นมือมาจับไว้ที่สาบเสื้อทำท่าทางจะถอดเสื้อผ้าของฉันจริงๆ
“จะ..เจ้า กรี๊ดดดดดด!!”
*ลงตอนที่สองแล้วตื่นเต้นจัง ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเหมือนเดิมถ้าตกหล่นหรือมีคำผิดไปบ้างไรท์ต้องขออภัยจริงๆนะคะ -/\- *
*คอมเม้นพูดคุยเป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ <3*
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ