MAYA มายา
7.3
เขียนโดย โชฒิกากราณ์
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.
23 chapter
1 วิจารณ์
45.78K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) นาทีหยุดนิ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสองสัปดาห์ผ่านไป ทำให้พยาบาลน้องใหม่เริ่มทำงานคล่องตัวมากขึ้น ดีหน่อยที่รันลณีเป็นคนอัธยาศัยดีและรู้จักวางตัว ทำให้เป็นที่รู้จักและชื่นชอบของเพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงจิตแพทย์คนสวยของเธอด้วย หลังจากที่ได้ทำงานกับเธอทำให้รู้ว่าโฉมฉายเป็นจิตแพทย์ที่สามารถโน้มน้าวใจคนไข้ด้วยคำพูดและการกระทำของเธอได้อย่างยอดเยี่ยม เวลาว่างโฉมฉายมักจะพูดคุยเรื่องทั่วไปหรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวให้รันลณีได้ฟัง ทำให้เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายของเธอ
ในส่วนของการทำงานร่วมกับจิตแพทย์พาร์ทเนอร์หนุ่มคนนั้น มันก็ได้แย่ขนาดที่ว่าไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
“คุณรันคะ ช่วงบ่ายนี้ช่วยกายภาพคุณพิชิตด้วยนะคะ รันมีประชุมต้องขอตัวก่อน และขอโทษนะคะที่ไม่ได้ไปด้วย”
ใช่ มันก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ต้องอึดอัดทุกครั้งเมื่อต้องเจอเขา…
รันลณีนั่งจิ้มไส้กรอกที่อยู่ตรงหน้าเธอจ้องมองมันด้วยสายตาที่เบื่อหน่าย เมื่อนึกถึงประโยคของโฉมฉายในตอนเช้าก็ต้องถอนหายใจหนักๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่ได้สนใจเลยว่ามีบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญกำลังทรุดตัวลงข้างหน้าของเธอ
“กินแบบนั้นแล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ ผมคงไม่ต้องมานั่งรอลูกน้องตัวเองหรอกนะ ไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น” รันลณีเงยหน้ามองจิตแพทย์หนุ่มด้วยอาการตกใจนิดๆ รันลณีหันมองข้างตัวพบว่าหลายๆ คนกำลังจ้องมองเธอกับจิตแพทย์สุดหล่อที่อยู่ข้างหน้า
“รันอิ่มแล้วละค่ะ ขอตัวไปเตรียมข้อมูลก่อน” รันลณีก้มหัวให้เจ้านายอีกคนของเธอ ก่อนจะลุกออกไปด้วยรอยยิ้มที่มอบให้เขาดังเช่นทุกครั้ง
“นั่งลง” แทนคุณพูดขณะที่กำลังตักอาหารเข้าปากโดยไม่มองฝ่ายตรงข้างเลยสักนิด
“นั่งลงและจัดการอาหารที่อยู่ในจานของคุณให้หมด ผมมีคนไข้ที่ต้องดูแลแล้วไม่มีเวลามาดูแลใครอีก”
“แต่รันอิ่มแล้ว”
“งั้นหรอ ก็ได้ แต่คุณควรรู้ไว้ว่าอย่าทำตัวเป็นภาระ เพราะหลังจากนี้คุณต้องทำงานกับผม… ผมต้องการผู้ช่วย ไม่ต้องการภาระ” แทนคุณยิ้มหวานให้กับพยาบาลสาว ยิ้มที่เธอรู้ว่ามันเสแสร้งเพียงใด รันลณีทรุดลงนั่งที่เดิมอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะจัดการอาหารของตัวเองจนหมด ในทุกวันเวลาทานอาหารก็จะนั่งด้วยกันสามคนโดยมีโฉมฉายเป็นสีสันของมื้อ มีบางครั้งที่ต้องทานกันเพียงสองคนกับโฉมฉาย แต่กับแทนคุณ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับประทานอาหารกับเขา ทั้งคู่เลยเป็นที่จับตาของคนในห้องอาหารมากกว่าปรกติ
และเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกกระวนกระวาย ภาวนาขออย่าให้เขาได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวนี้…
การทำงานในช่วงบ่ายผ่านไปอย่างราบรื่น คุณพิชิตคือผู้ป่วยระดับพิเศษ ครั้งหนึ่ง เขาเคยเป็นนักธุรกิจที่เป็นที่รู้จักในแวดวงสังคม กิจการส่งออกของเขากำลังไปได้สวยแต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เขาล้มละลาย ทรัพย์สินทุกอย่างที่มีถูกยึด ชื่อเสียงที่สร้าง หน้าตาทางสังคมกลายเป็นเพียงความหลัง เหมือนเคราะห์กรรมยังคงตอกย้ำ เมื่อเกิดโศกนาฏกรรมกับครอบครัวของเขา ภรรยาสุดที่รักเสียชีวิตลงพร้อมลูกชายคนเล็ก และนั่นเป็นเหตุให้เขาเข้ามาที่ M.Y Hospital แห่งนี้ ลูกชายคนโตของคุณพิชิตคือแสงสว่างในครอบครัวเขาต้องการให้คุณพิชิตกลับมาเป็นปรกติทั้งร่างกายและจิตใจภายในเวลาสามปี เงินหลายล้านที่ต้องจ่ายให้กับโรงพยาบาลมันจะคุ้มถ้าหากว่าพ่อของเขาหายเป็นปรกติ และกลับมากอบกู้ชื่อเสียงของครอบครัวไปพร้อมกับลูกชายตนโต รันลณีสังเกตอาการของคนไข้ที่อยู่ตรงหน้า บัดนี้เขาสามารถเดินได้เกือบจะเป็นปรกติ รวมถึงสภาพจิตใจที่ไม่ต้องรอให้ถึงสามปีก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเมื่อก่อนได้แล้ว
อีกด้านหนึ่งพยาบาลสาวมองจิตแพทย์ด้วยสายตาอดชื่นชมไม่ได้ โฉมฉายเคยเล่าให้ฟังว่างานกายภาพของคุณพิชิตถือเป็นเคสที่ยากมากเพราะการที่ร่างกายจะหายได้ต้องสัมพันธ์กับสภาพจิตใจไปด้วย งานกายภาพส่วนใหญ่แทนคุณจะเป็นคนรับผิดชอบ และเขาสามารถทำได้ ซึ่งรันลณีได้เห็นแล้วว่าเขาทำอย่างไร
ทำไม ‘คนบ้า’ ถึงยอมทำกายภาพได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เช้าช่วย มีเพียงคำพูด
ใช่… มีเพียงคำพูดและรอยยิ้ม… รอยยิ้มที่จริงใจ
“ทำเพื่อลูกนะครับคุณพิชิต ทำเพื่อคนที่เขายังอยู่ คนที่คุณรัก”
สิ่งที่เขาพูด ทุกสิ่งที่เขาทำมันคือความจริงใจ รันลณีอดยิ้มไม่ได้ กับอีกด้านหนึ่งของเขา ด้านที่เธอไม่เคยมองเห็นมาก่อน…
“ผมฝากคุณช่วยเปลี่ยนชุดให้เขาด้วย อีกสองชั่วโมงเขาจะตื่นมาทานอาหาร หลังจากทานอาหารเสร็จพาคุณพิชิตไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะด้วย เขาชอบดมกลิ่นของดอกคาโมมาย พาเขากลับมาก่อนหนึ่งทุ่มล่ะเพราะเขาต้องทานยาและก็พักผ่อน” แทนคุณอธิบายงานของเธอหลังจากนี้ รันลณีได้แต่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ
“ปรกติโฉมจะเป็นคนทำหน้าที่นี้ เขาอาจจะไม่คุ้นหน้าคุณสักหน่อย รับมือให้ได้ล่ะ ถ้าคุณทำได้ผมอาจจะให้คุณรับหน้าที่นี้แทนโฉม เธองานยุ่งๆ ผมไม่อยากให้เธอเหนื่อยมาก คุณทำได้ไหม” แทนคุณพูดพลางมองด้วยสายตาที่คาดหวัง ลึกๆ เข้าไปรันลณีรับรู้ถึงความอบอุ่น
“ได้ค่ะหมอ” เธอรับปากก่อนจะหลบตาเขาหลังรู้ว่าหัวใจของเธอมันเต้นแรงแค่ไหน
ไม่หรอกรันลณี สายตานั้นเขาสื่อถึงโฉมฉายต่างหาก ไม่ใช่เธอ หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว!
“อย่าคิดว่าได้เข้ามาโซนนี้แล้วจะสบาย เหนื่อยหน่อยนะพยาบาลใหม่ แต่ถ้าไม่ไหว คุณจะออกก็ได้ผมไม่ได้ห้าม” แทนคุณยกยิ้ม เขาวางผ้าเช็ดมือแอลกอฮอล์ลงตรงรถเข็นยาก่อนจะเดินออกไป
ใช่หยุดเพ้อเจ้อ นี่แหละแทนคุณคนเดิมคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเธอ รันลณีเบ้ปากให้กับตัวเองพร้อมถอนหายใจรอบที่สิบของวันนี้ สักพักเธอจึงเริ่มทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ทุกอย่างเป็นปรกติ พิชิตดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นพยาบาลคนใหม่แทนที่จะเป็นโฉมฉายนางฟ้าของเขา แต่นั้นก็เพียงชั่วครู่ เขาทานอาหารจนหมดและไปที่สวนสาธารณะอย่างอารมณ์ดี รันลณีรู้สึกดีเมื่อเห็นอาการที่สงบ ไม่วุ่นวายของพิชิต แต่นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดี ดีมากๆ สำหรับเธอ แทนคุณเข้ามาดูอาการของพิชิตประมาณหนึ่งทุ่ม เขาได้รับยาและนอนหลับไป ภารกิจวันนี้ของรันลณีจบสิ้น ร่ายกายที่เริ่มอ่อนล้าต้องการการพักผ่อน รันลณี บอกกับตัวเองว่าคงต้องนอนที่นี่เสียแล้วเมื่อยังมีงานอื่นกองรออยู่ในห้อง เสียงท้องร้องเบาๆ เริ่มประท้วงร่างกาย บ่งบอกให้หาอะไรกินซะก่อนที่น้ำย่อยจะกินกะเพราะของเธอเอง หญิงสาวลูบท้องเบาๆ พลางคิดว่าถ้าตอนเที่ยงเธอลุกหนีเจ้านายของเธอขณะที่ไม่ได้กินอะไร เธอคงต้องเป็นภาระอย่างที่เขาพูดแน่ๆ หน้าคงแตกแบบไม่มีหมอไหนกล้าที่จะรับเย็บ
รันลณีมองหาจิตแพทย์หนุ่มที่เพิ่งแยกกันไปเมื่อครู่แต่ก็ไม่พบ เธอคิดว่าเขาจะตามเธอมาเพื่อที่จะลงลิฟต์ด้วยกันซะอีก หญิงสาวถอนหายใจรอบที่สิบเอ็ดของวัน สักพักความคิดที่ขัดแย้งก็ดังขึ้นว่า
แล้วเธอจะไปสนใจอะไรเล่า เขาจะไปไหนมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องรู้…
ใช่คิดถูกแล้วล่ะ ไม่ใช่เรื่องของเธอ รันลณีพยักหน้าให้กับตัวเองก่อนนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคุณแม่ที่รออยู่ที่บ้าน เธอควรจะบอกท่านว่าวันนี้จะนอนที่โรงพยาบาล
ตู๊ด… ตู๊ด…ตู๊ด…
เสียงรอสายยังคงดังต่อไป รันลณีเดินไปเรื่อยๆ พลางคิดว่าผู้เป็นแม่กำลังทำอะไรอยู่ สักพักก็มีคนรับสายจังหวะเดียวกันกับที่เธอกดลิฟต์ เพื่อที่จะลงไปห้องพัก
“คุณแม่ขา ระ…”
“อีกแค่สองคนเท่านั้น” เสียงชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงปลายสาย รอยยิ้มหายไปเมื่อได้ยินเสียงที่ไม่ใช่แม่ของเธอ!
“เราเจอแล้ว เราเจอมันแล้วไง” เสียงอันแหบแห้งคล้ายเสียงของแม่มดดังขึ้นจากปลายสาย เสียงที่พูดขึ้นดัดเป็นเสียงใหญ่น้อยสลับกันในแค่ละประโยค คล้ายกับว่ากำลังพูดกับตัวเอง!
“ใช่ๆ เราเจอมันแล้ว ฮ่าๆ ๆ เราจะมีชีวิต เราจะมีชีวิต!!! ฆ่ามัน ฆ่ามัน! เร็วสิ!!!”
“ได้เราจะฆ่ามัน เราจะใช้เลือดของมันชโลมตัว เราจะงดงาม งดงามเกินกว่าใคร”
“เราชอบให้เธองดงาม เราจะเอาเส้นผมของมันมาเป็นผมของเรา”
“เราชอบผมที่งดงาม ฮ่าๆ ๆ ๆ เราจะฆ่ามัน ไม่ต้องห่วงเราจะทำ เราจะฆ่ามันเอง!!”
เคร้ง เคร้ง
“คุณมาแล้ว คุณมาแล้ว” รันลณีชะงักเมื่อได้ยินเสียงคล้ายโซ่ลากกับพื้น บวกกับเสียงของผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความกลัว ไม่ใช่เสียงที่แหบแห้งในโทรศัพท์
เสียงที่เธอได้ยินมันไม่ได้อยู่ในโทรศัพท์…
มันอยู่ด้านหลังของเธอ!!
ตุบ!
โทรศัพท์หล่นลงบนพื้นกระทบกับก้อนอิฐ รันลณีใช้มือทั้งสองข้างปิดปากตัวเองแน่น นัยน์ตาใสเริ่มเอ่อล้นไปด้วยหยดน้ำตา ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอ
ทางข้างหน้าที่เธอเห็นไม่ใช่ชั้นพิเศษอีกต่อไป มันกลับกลายเป็นทางยาวที่เป็นเหมือนอุโมงค์ คล้ายสถานที่ที่เธอเคยเห็นแต่กลับไม่ใช่ ที่นี่ชื้นมากกว่า น่ากลัวมากกว่า พื้นที่ปูด้วยก้อนอิฐเช่นเดียวกันกับผนังมีตะไคร่น้ำสีเขียวเกาะอยู่ อีกฝั่งหนึ่งของผนังเป็นห้องหลายๆ ห้องเรียงกัน แสงนีออนอ่อนๆ ลอดออกมา แต่มีเพียงห้องเดียวที่มีแสงไฟสว่างที่สุด และเป็นเพียงห้องเดียวที่มีเสียงของผู้หญิง
เสียงที่เธอได้ยิน!!
“ฉันกลัวค่ะ เธอจะมา เธอมาที่นี่…”
“ผมอยู่นี่ คุณไม่ต้องกลัว”
“ฮือออๆ ไม่ เธอจะมา เธอกำลังมาแล้ว เอาฉันออกไป พาฉันออกไป!!” ทุกคำที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความกลัว สับสน และหวาดระแวง รันลณีค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ ห้องนั้นด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ภายในใจทั้งหวาดกลัวและเต็มไปด้วยความอยากรู้ ดวงตาร้อนผ่าวมือเริ่มเย็นและรู้สึกชา รันลณีมองผ่านลูกกรงใหญ่ของประตูนั้นเข้าไป พบเพียงเงาสะท้อนของบุคคลปริศนาสองคน ชายและหญิง คนหนึ่งถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนที่ข้อเท้า! เธอคนนั้นพูดเพียงประโยคที่วกวนจนเกือบจับใจความไม่ได้ โดยมีชายปริศนาพยายามกอดเธอไว้เพื่อปลอบประโลม
“พาฉันออกไปที ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฮือ… ฉันกลัว” หล่อนทรุดตัวลง นั่งกอดเขาด้วยความสิ้นหวัง
“คุณจะไปออกไปจากที่นี่ ผมสัญญาอัปสร” เขาพูดด้วยเสียงที่นุ่มและจริงจัง ชายหนุ่มทรุดตัวลงข้างกาย ไม่มีสิ่งใดทำได้มากกว่าการกอดปลอบปะโลมเพื่อให้เธอใจเย็นลง
บางอย่างที่ให้รันลณีรู้สึกสงสัย ภาพเงาสะท้อนของเขาบวกกับน้ำเสียงที่เธอเคยได้ยิน…
เป็นไปไม่ได้!! รันลณีผงะออกจากกรงเหล็กนั้น น้ำตาไหลงมาอย่างช่วยไม่ได้
“ดีจัง ดีจัง ดีจัง ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ”
แต่ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ รันลณีมองหาที่หลบทันที เธอเข้าไปในห้องขังข้างๆ เพื่อซ่อนตัว เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวนั้น เสียงของปีศาจอยู่ด้านหลังไม่ไกลจากเธอ เสียงที่คล้ายกับเสียงที่เธอได้ยินในโทรศัพท์!
เสียงหายใจหอบทำให้เธอต้องทุบอกของตัวเองเบาๆ เผื่อว่าหัวใจจะหยุดเต้นรัวซะที รันลณีหลับตาแน่น กลืนน้ำลายที่แห้งเหือดของตัวเองลงคอย่างยากเย็น ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เธอพยายามแนบตัวเองเข้าติดกับกำแพงห้องขังที่เหม็นอับ เท้าเจ้ากรรมเหยียบบางอย่างที่เปราะทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบ จนสะดุ้งก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังเหยียบชิ้นส่วนของโครงกระดูกของมนุษย์ ที่ส่วนหัวอยู่ตรงด้านหน้าของเธอ!!
“กรี๊…”
เสียงที่ออกมาโดยอัตโนมัติทำให้เธอรีบปิดปากของตัวเองทันที รันลณีกัดริมฝีปากแน่นมองไปรอบๆ กายมีเศษเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มโครงกระดูกที่กระจัดกระจายด้วยความเวทนา น้ำตาที่ไหลกับเสียงสะอึก ดังออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ความกลัวที่มีอยู่มันเกินกว่าที่เธอจะรับไหว หญิงสาวเบิกตาโพลงแทบหยุดหายใจเมื่อเสียงรองเท้าส้นเข็มดังเข้ามาใกล้ๆ
ใกล้ๆ …
กึก…
กึก…..
กึก………….
ร่างในชุดสีขาว ใบหน้าถูกพันด้วยผ้าขาวเต็มไปด้วยเลือดปรากฏอยู่ด้านหน้าของเธอ รันลณีกลั้นหายใจ พยายามควบคุมตัวเองให้สั่นไหวน้อยที่สุด หากแต่น้ำตายังคงไหลงมาอย่างไม่สามารถห้ามได้
“คนตาย หายใจได้ด้วยหรอ” มันหยุดที่ตรงประตู เอียงหัวด้วยความสงสัยพร้อมทำจมูกฟุตฟิต เหมือนกำลังจะค้นหาบางอย่าง
บางอย่างที่อยู่หลังประตูข้างๆ มัน!!!
กรี๊ด!!!!!
นางปีศาจหันขวับ มันตรงดิ่งออกไปในทันที รันลณีทรุดลงอย่างอย่างอ่อนล้า มีเพียงประตูเหล็กกั้นระหว่างเธอกับปีศาจ หากแต่ลูกกรงซี่นั้นไม่สามารถปกปิดภาพของปีศาจที่อยู่ด้านหน้าของเธอได้เลย รันลณีหายใจถี่ๆ ปนกับเสียงสะอึก เสียงห้องข้างๆ กรีดร้องด้วยความกลัว เธอไม่สนอะไรแล้ว ไม่สนแม้กระทั่งว่าใครอยู่ในนั้น หรือใครกำลังจะตาย สองมือค่อยๆ คลานตัวเองออกมาจากนี่นั่นอย่างอ่อนล้าและหมดแรง น้ำตายังคงไหลไม่หยุด
“มาเล่นกัน มาเล่นกัน!!!!!!”
“กรี๊ด!!!!”
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
“หยุด คุณบอกว่าจะไม่ทำร้ายเธอ!”
“มา มาเล่นกันเร็ว!!!!”
“ไม่ ออกไป!!!!”
“คุณจะไม่ทำร้ายเธอตราบใดที่ผมยังช่วยคุณอยู่!”
ทุกอย่างเงียบลงราวกับถูกหยุดเวลาชั่วขณะ นางปีศาจหยุดการเคลื่อนไหวหลังจากที่พยายามฉุดผู้หญิงที่กำลังร้องไห้ด้วยความกลัวที่อยู่ด้านหลังของเขา
“โง่!! เราจะฆ่ามัน!…”
รันลณีได้ยินทุกประโยคที่ดังเข้ามาในหูของเธอ การที่ไม่รับรู้อะไรเลยมันยังดีซะกว่าในตอนนี้
เมื่อถึงประตูลิฟต์ เธอกดปุ่มซ้ำๆ ด้วยมือที่สั่นเทา เสียงกรีดร้องกับเสียงหัวเราะยังคงดังอยู่ เธอกลัวจนแทบจะเป็นบ้า กลัวจนขอตายซะยังจะดีกว่า น้ำตาแห่งความกลัวยังคงไหลริน ความสิ้นหวังได้เข้ามาเยือนเมื่อพบว่าลิฟต์ไม่สามารถใช้งานได้
ได้โปรดพาเธอออกไปจากขุมนรกนี้ที…
“นี่ก็โง่ มีแต่คนโง่!!!”
แทบหยุดหายใจ หยุดการกระทำทุกสิ่ง เมื่อได้ยินเสียงที่ใกล้…
เสียงกระซิบใกล้ๆ หูของเธอ
“กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
รันลณีทรุดลงด้วยความตกใจ พยายามดันตัวเองให้ถอยห่างจากนางปีศาจที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีที่ให้เธอต้องหลบซ่อนอีกแล้ว ต้องหนี มันคงเป็นทางเดียวที่จะไปจากนรกนี้ได้
แต่แล้ว ความคิดนั้นก็ต้องสะดุดลงเมื่อแผ่นหลังชนเข้ากับบางอย่าง รันลณีหันมองเห็นร้องเท้าหนังสีดำก่อนจะเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อพบกับใบหน้าที่คุ้นเคย
“หมอแทน!!!” รันลณีฉุดตัวเองให้ลุกขึ้น ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาเริ่มมีความหวัง
“ช่วยรันด้วย!!! ช่วยรันด้วย!!!” เธอเขย่าตัวชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ หลบอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม มือเล็กจิกเข้าที่ไหล่ของเขาด้วยความกลัว
“ช่วยเราสิ ไหนบอกว่าจะช่วยเรา” นางปีศาจพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงน้อยใจที่เต็มไปด้วยเลห์อุบาย รันลณีต้องชะงักเมื่อคนที่อยู่ข้างๆ นิ่งเฉย ในหัวสั่งให้วิ่งเพราะว่าเขา ไม่ใช่คนที่จะช่วยเธอได้!!!
หมับ!!!
“คุณไม่ควรมายุ่งตั้งแต่แรกรันลณี ผมเตือนคุณแล้ว” แทนคุณจับแขนของรันลณีแน่น เขากระซิบบอกก่อนจะลากเธอไปยังที่ที่เพิ่งออกมา
“ดีจัง ดีจัง มาเล่นกัน ฮ่าๆ ๆ ๆ”
“คุณทำแบบนี้ทำไม” รันลณีถามออกมาอย่างไม่เข้าใจด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“เพื่อช่วยคนที่ผมรัก” สายตานั้นบ่งบอกถึงความจริงใจและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด รันลณีมองไปยังห้องข้างๆ ที่ตอนนี้เงียบสงัด ผู้หญิงที่อยู่ในนั้นงั้นหรอ คือคนรักของเขา…
ประตูเหล็กถูกเปิดออกอีกครั้ง เสียงเอี๊ยดอ๊าดทำให้รันลณีขนลุก เธอกำลังจะถูกขังงั้นหรอ
ไม่ได้! เธอจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ เธอขอตายถ้าหากต้องอยู่ที่นี่กับนางปีศาจนั่น!!!
ผลัก…
“ไม่!!!!!!!!!! กรี๊ด!!!!!!!”
เสียงร้องยาวอันโหยหวนแล่นเข้ามายังโสตประสาทของเธอในทันทีที่เขาผลักเธอเข้าในห้องนั้น นางปีศาจทรุดลงด้วยความเสียดายเมื่อเห็นร่างที่หายไปกับตา
ทุกอย่างวูบดับลงพร้อมกับร่างกายของเธอ…
ติ้ง!!
ตุบ...!
ร่างบางนอนราบไปกับพื้นห้องสีขาวสะอาดตาในทันทีที่ลิฟต์เปิดออก คราบน้ำตายังคงมีอยู่บนใบหน้าสวย เสื้อผ้าเต็มไปด้วยโคลนที่เปียกชื้น
จะมีใครรู้บ้างว่าเธอคนนี้พบเจอกับอะไรมา…
ลึกๆ ในใจของเธอคงภาวนา ขออย่าตื่นมาพบเจออะไรอีกเลย…
Talk
สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ
รันลณีกำลังเจอกับอะไรอยู่นะ สงสารน้องง ฮือออ มาร่วมกันเอาใจช่วยนางเอกของเรากันค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ ขอบคุณทุกท่านค่ะ
โชฒิกากราณ์
4.12.2017
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ