MAYA มายา
เขียนโดย โชฒิกากราณ์
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.
แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) การเปลี่ยนแปลง II
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ประตูลิฟต์หยุดลงตรงชั้น C1 รันลณีเดินออกมาพร้อมกล่องใบใหญ่ที่ถืออยู่ในมือ เธอใช้เวลาประมาณครึ่งวันในการจัดของของตัวเองในห้องพัก รวมถึงประชุมงานที่ได้รับมอบหมายกับหัวหน้าพยาบาลโซนซี ขึ้นชื่อว่าโซนพิเศษ และทุกอย่างที่อยู่ในที่นี้ต้องพิเศษ ตั้งแต่สถานที่ที่ใหญ่กว่าโซน A หรือโซน B ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องอาหารฟิวชั่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสิ่งอำนวยสะดวงต่างๆ ครบครัน สถานที่ที่เหมือนเป็นโรงแรมหรูมากกว่าจะเป็นโรงพยาบาลจิตเวช
“คุณรัน” เสียงใสเรียกสติให้รันลณีตื่นจากภวังค์
“หมอโฉม”
“ประชุมเสร็จแล้วใช่ไหมคะ” รันลณีพยักพลางยิ้มให้กับเจ้านายคนใหม่ของเธอ
“งั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ โฉมนัดหมอแทนไว้ให้แล้ว จะได้แนะนำตัวคุณรันให้รู้จักด้วย” โฉมฉายพูดก่อนจะเดินนำไป เธอชะลอให้รันลณีเดินตามทันก่อนจะพูดขึ้น
“หมอแทนเป็นพาร์ทเนอร์ของโฉมเองค่ะ เพราะงั้นคุณจึงเป็นพยาบาลของเขาด้วย แพทย์ของโซนพิเศษจะมีพาร์ทเนอร์เป็นของตัวเองและมีพยาบาลในความดูแลเพียงหนึ่งคนต่อผู้ป่วยหนึ่งเคส เราจะไม่ดูแลผู้ป่วยหลายคนในเวลาเดียวกัน นั่นคือความแตกต่างของโซนนี้กับโซนอื่นๆ เพราะเราถือว่าผู้ป่วยที่มาโซนพิเศษคือคนป่วยที่ต้องการหายป่วย และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปรกติเช่นเดียวกับคนทั่วไป มันคือหนึ่งในคุณภาพที่ทางโรงพยาบาลสร้างขึ้น” โฉมฉายอธิบายให้พยาบาลใหม่ฟัง ระหว่างนั้นก็มาถึงห้องอาหารที่คล้ายกับภัตตาคารหรูย่อมๆ อาหารฟิวชั่นมากมายวางอยู่ รวมไปถึงของหวานที่แบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างเรียบหรู สิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันทำให้รันลณีเผลอกลืนน้ำลายอย่างช่วยไม่ได้
สองสาวตักอาหารด้วยรอยยิ้มที่สดใส ทำให้หนุ่มๆ ที่อยู่ในห้องอาหารไม่อาจละสายตาจากความงดงามนั้นได้เลย บางคนถึงกับอ้าปากค้างขณะที่มีอาหารอยู่เต็มปากด้วยความลืมตัวจนสาวที่อยู่ข้างๆ ต้องฟาดแขนเข้าให้หนึ่งที
“แล้วพยาบาลคนก่อนเธอไปไหนแล้วล่ะคะ” รันลณีถามออกมาขณะที่ตักสลัดผลไม้
“เธอลาออกไปเมื่อสามเดือนก่อน เฮ้อ… โฉมก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันนะคะ คนที่ทำงานกับโฉมมักจะอยู่ไม่ถึงปี ถ้าไม่ลาออกก็หายไป” โฉมฉายพูดด้วยใบหน้าที่ดูเศร้า
“หายไป?”
“ใช่ค่ะ หายไปแบบที่ไม่ได้บอกใคร ไม่มีใบลาออก อยู่ๆ ก็หายไป” รันลณีพยักหน้าเชิงรับรู้ ไม่กล้าที่จะถามต่อ
“สงสัยโฉมคงเป็นเจ้านายที่ไม่ดีมั้งคะ”
“ไม่หรอกค่ะหมอโฉม รันว่า พวกเธออาจจะไม่ได้รักงานที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่พิเศษแบบนี้จริงๆ งานพวกนี้ต้องใช้ใจด้วยนะคะไม่ใช่แค่ความชอบหรือฐานเงินเดือนหรือเกียรติยศที่ได้รับ ไม่งั้นก็อยู่ไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างแรงกดดันของที่นี่คงมีมากกว่าที่อื่นเพราะมาตรฐานสูงกว่ามากด้วย” รันลณีพูด อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเชิงปลอบแพทย์สาวที่อยู่ข้างๆ
“ดีใจที่คุณคิดแบบนั้นนะคะ จะมีสักกี่คนที่คิดแบบคุณ หวังว่าคุณรันคงไม่ไปไหนนะคะ” โฉมฉายพูดยิ้มสายตาเหมือนหวังคำตอบที่ดีจากรันลณี
“รันเป็นพยาบาลนะคะ รันจะทิ้งคนไข้ได้ยังไง” หญิงสาวพูดพลางตักอาหารที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม และโฉมฉายยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำตอบของเธอ
“ดีจัง… ดีสุดๆ ไปเลย…”
เพล้ง!!!!!!!
จานสลัดผลไม้หล่นกระทบพื้นเงาแตกกระจาย แต่กระนั้นรันลณีก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ ความเย็นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวของเธอ ภาพรอบตัวมันเหมือนภาพที่กำลังสโลโมชั่น เธอได้ยินเพียงลมหายใจที่หอบจนดังของตัวเอง…
คำพูดนั้น…
คำพูด… ของปีศาจ!!!
“คุณรัน!” โฉมฉายเขย่าตัวพยาบาลคนใหม่ รันลณีสะดุ้งตัว สายตาที่มองหล่อนเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและความกลัว
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ” รันลณีสะบัดหัวตัวเองแรงๆ พยายามไล่ความคิดบ้าๆ นั้นออกจากหัว ก่อนจะตอบคำถามของจิตแพทย์สาว
“มะ... ไม่เป็นไรค่ะ สงสัยรันจะนอนน้อยไปหน่อยน่ะค่ะเลยรู้สึกเพลียๆ”
“งั้นไปนั่งก่อนนะคะเดี๋ยวโฉมจะให้พนักงานเอาอาหารไปให้” โฉมฉายพารันลณีไปนั่งยังโต๊ะใกล้ๆ สายตามองด้วยความเป็นห่วง
‘นี่เธอคิดบ้าอะไรของเธอ เธอกำลังเทียบเทพธิดาที่อยู่ตรงหน้ากับปีศาจงั้นหรอ เธอบ้าไปแล้วรันลณี’
รันลณีสลัดความคิดนั้นออกไป ก่อนจะเริ่มถามคำถามที่เธอสงสัยมานานในระหว่างที่อาหารกำลังถูกเสิร์ฟ
“ทำไม คุณถึงเลือกรันมาเป็นพยาบาลของคุณล่ะคะ” โฉมฉายมองใบหน้าพยาบาลสาวด้วยสายตาที่ดูจริงใจ เธอยิ้มน้อยๆ
“วันที่เกิดอุบัติเหตุโฉมตั้งใจแค่ว่าจะขอบคุณคนที่ช่วยโฉมไว้แค่นั้น แต่เมื่อเห็นคุณโฉมกลับรู้สึกดีกับคุณ รู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก อีกอย่างโฉมว่าไม่มีพยาบาลคนไหนรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้เท่าคุณอีกแล้ว โฉมปล่อยคนอย่างคุณไปง่ายๆ ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าพูดกับแบบนักธุรกิจก็คงต้องบอกว่า โฉมอยากร่วมงานกับคุณ” โฉมฉายพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม รันลณียิ้มตอบพลางพยักหน้าให้กับเธอเหมือนเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เข้าใจในความหมายนั้นอยู่ดี เหมือนคำตอบที่ได้รับมันยังไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่ก็เอาเถอะ ถือว่าเธอได้รับคำตอบแล้ว
“หมอแทน ทางนี้ค่ะ” รันลณีหยุดความคิดของตัวเอง เมื่อเห็นว่าโฉมฉายกำลังกวักมือเรียกใครบางคนที่กำลังเดินมา รันลณีก็หันมองโดยอัตโนมัติ และเธอก็เหมือนกับคนที่อยู่ในห้องอาหารนี้ คือมองชายหนุ่มที่กำลังเดินมาอย่างไม่วางตา เจ้าของรูปร่างที่สูงประมาณ 185 เซนติเมตร บวกกับรูปร่างที่สมส่วนอย่างนายแบบระดับไฮคลาส มันทำให้เขาดูโดดเด่น เสื้อกาวน์ที่เขาใส่ยกระดับความเพอร์เฟคของเขาขึ้นอีก รันลณีหันกลับมาด้วยหน้าที่เริ่มชา อายนิดๆ เมื่อรู้ตัวว่ามองเขามากเกินไป
“ขอโทษครับโฉม ที่ประชุมวุ่นวายนิดหน่อยน่ะครับเลยมาสาย”
“ไม่เป็นไรค่ะแทน” โฉมฉายพูดพลายยิ้ม แทนคุณยิ้มตอบน้อยๆ พลางทรุดตัวลงข้างจิตแพทย์สาว ก่อนจะมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขา ด้วยสถานการณ์ที่เริ่มอึดอัด ทำให้โฉมฉายเป็นฝ่ายเริ่มที่จะแนะนำบุคคลที่ถูกหมอหนุ่มมองอย่างไม่วางตา
“พยาบาลคนใหม่ของเรา คนที่โฉมเล่าให้ฟังไงคะ” เมื่อถูกเอ่ยถึง รันลณีจึงสบตาด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ รันลณีค่ะ” หล่อนแนะนำตัวเองอย่างสั้นๆ ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้อย่างมีมารยาท ดวงตาสีดำปนเทาอ่อนๆ ของเขามันมีเสน่ห์ต่อหัวใจของผู้พบเห็นเหลือเกิน ใบหน้าราวกับรูปปั้นที่พระเจ้าสร้างมันทำให้ไม่ว่าชายหรือหญิงต้องต้องมนต์และหลงใหล รันลณีคิดอย่างนั้น หากว่าเขายิ้มมากกว่านี้อีกสักหน่อย มันคงจะทำให้รันลณีรู้สึกดีมากกว่านี้
“ของเรา หึ! ของคุณคนเดียวโฉม ไม่ใช่ของผม”
ม่เลย ดูจากคำพูดของเขานั้น มันคงไม่มีวันที่หล่อนจะรู้สึกดีกับเขา ความหลงใหลในรูปกายมันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น
“แทน!” โฉมฉายพูดเสียงดุให้กับคนข้างๆ มันคงเป็นน้ำเสียงที่เธอคิดว่าดุแล้ว แต่มันกลับเป็นน้ำเสียงที่น่ารักเสียมากกว่า จนทำให้คนข้างๆ ยกยิ้มน้อยๆ
“ผมเพิ่งเจอเขาเองนะ แถมยังเป็นแค่พยาบาลโซนเอ แล้วยังทำให้คนไข้เสียชีวิต รับใครมาก็ควรปรึกษากันบ้างนะโฉม และ ผมไม่ได้พูดอะไรผิด ใช่ไหมครับ” แทนคุณมองพยาบาลคนสวยที่อยู่ตรงหน้า รันลณียิ้มกว้าง เธอคิดว่ามันคงเป็นยิ้มที่เธอยิ้มออกมาอย่างไม่จริงใจเอาเสียเลย หากจะเรียกง่ายๆ มันคงจะหยาบไป เอาเป็นยิ้มแบบสตรอว์เบอร์รีละกัน และเขาคงไม่ใช่คนแรกที่รันลณีมอบผลไม้ชนิดนี้ให้
“หมอแทนพูดถูกแล้วคะ หมอโฉมน่าจะพิจารณารันให้มากกว่านี้ ทำงานได้แค่เดือนเดียวก็ทำคนไข้หัวใจวาย รันเป็นคนโง่ เป็นคนไม่เอาไหน รันรู้ตัวดีค่ะ” แทนคุณยกยิ้มอีกครั้งเมื่อได้ยินประโยคโต้ตอบของพยาบาลสาวคนใหม่ที่อยู่ตรงหน้า เล่นหูเล่นตา คำพูดจิกกัดแสบใช่เล่น
“โธ่ คุณรันอย่าว่าตัวเองแบบนี้สิคะ โฉมเป็นคนดึงคุณมาเพราะเห็นความสามารถของคุณ เห็นความรับผิดชอบของคุณ ถ้าหากว่าใครไม่เห็น หรือว่าเห็นแต่ไม่รับรู้ก็ช่างเขาเถอะค่ะ โฉมมีคุณคนเดียวก็ได้” โฉมฉายพูดแขวะคนข้างตัวอย่างน่ารัก
“คุณขาดผมได้ด้วยหรอโฉมฉาย” แทนคุณมองจิตแพทย์สาวที่อยู่ข้างๆ
“คุณต่างหากที่ขาดโฉมไม่ได้ อย่าพูดกลับกันสิคะคนดี” โฉมฉายยิ้มน้อยๆ พลางมองจิตแพทย์หนุ่มที่อยู่ข้างๆ กลับ
หากมองทั่วไปทั้งคู่เหมือนกับคู่รักที่แสนเพอร์เฟคและน่าอิจฉา สายตาที่ทั้งสองมองกัน มันเป็นสายตาที่เหมือนที่คนรักมีให้กัน แต่มันกลับไม่ใช่…
ลึกๆ เข้าไป มันมีอะไรซ่อนอยู่…
แทนคุณหลบสายตาคู่สายนั้น ก่อนจะลงมือจัดการอาหารที่อยู่ตรงหน้า โฉมฉายเริ่มจัดการอาหารของตัวเองบ้างเช่นเดียวกับรันลณี อาหารสุดหรูมื้อนี้ มันค่อนข้างที่จะฝืดคอไปเสียหน่อย มันคงจะเป็นมื้อที่พิเศษและเป็นวันที่พิเศษมากสำหรับรันลณีที่ได้ร่วมโต๊ะกับเจ้าชายและเจ้าหญิงผู้เลอโฉม แต่เจ้าชายคนนั้นต้องไม่ใช่เขา…
มื้อเที่ยงยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ โดยมีเสียงใสๆ ของโฉมฉายเป็นตัวช่วยบรรเทาความอึดอัด รันลณีอดเหนื่อยใจไม่ได้ เมื่อคิดถึงการทำงานในอนาคตของเธอ…ร่วมกับผู้ชายคนนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ