MAYA มายา

7.3

เขียนโดย โชฒิกากราณ์

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  44.89K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) การเปลี่ยนแปลง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
               ติ้งงงงง
 
            เสียงสัญญาณของประตูลิฟต์เปิดออก รันลณีมองออกไปด้านนอกด้วยสายตาที่พล่ามัว มือข้างหนึ่งยังคงชันพนังลิฟต์ไว้เพื่อทรงตัว แสงไฟจ้ากระทบเข้ากับดวงตาของเธอ และนั่นทำให้เธอขนลุกไปทั่งตัวเมื่อมองไปยังจอลิฟต์ที่ปรากฏตัวอักษร A1 เป็นไปไม่ได้!!
             
               พื้นเงาสีขาวกับเคาน์เตอร์บริการลูกค้าที่คุ้นตา ที่นี่คือชั้นแรกของโรงพยาบาล แล้วสิ่งที่เธอเห็นเมื่อไม่กี่นาทีนี้มันคืออะไรกัน!
          สิ่งที่เธอเห็น… เรื่องที่เกิดขึ้น มันคือความคิด หรือความฝัน
          มันคืออะไรกันแน่!!
          รันลณีส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ ทุกอย่างยังคงอยู่ในหัวของเธอ เธอจำมันได้ทั้งหมด
           
               ‘20.35 น.’
 
            หญิงมองดูนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง สลัดความคิดนั้นออก ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นอะไรก็ตาม ตอนนี้หน้าที่ของเธอคือตามหานภาให้เจอ เร็วกว่าความคิดสายตาเจ้ากรรมก็มองเห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งเธอใส่ชุดสีขาว นอนคว่ำอยู่ตรงมุมหน้าห้องน้ำถัดจากลิฟต์ที่เธอออกมา เธอจำหล่อนได้ดี คุณนภา!!
            รันลณีวิ่งตรงเข้าไปหาร่างนั้น และเธอก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อมองเห็นอีกร่างหนึ่งนอนอยู่ใกล้ๆกับนภา ชุดกาวน์ของร่างปริศนาทำให้เดาได้ว่าเป็นหมอของที่นี่ แต่แถบสีที่อยู่บนไหล่ของเธอทำให้เธอรู้สึกสงสัยเพราะมันต่างจากที่เธอเคยเห็น สักพักเสียงจุ๊จาก็ทำให้เธอสะดุ้งอีกครั้ง หล่อนวิ่งตรงมาหารันลณีพร้อมกับพยาบาลเวรอีกสองสามคน
 
               ใครว่ามีแค่ตำรวจที่มาตอนละครจบ
               พยาบาลที่นี่ก็เหมือนกัน…
           
               จุ๊จาบอกพยาบาลคนหนึ่งให้ไปรายงานหมอว่าพบผู้ป่วยที่หายไปแล้ว เธอตรงดิ่งไปยังร่างของนภาก่อนที่รันลณีจะเข้าไปถึงตัวของนภา หล่อนพลิกร่างของนภาให้หงายขึ้นก่อนจะกรีดร้องด้วยความตกใจพร้อมกับพยาบาลสองคนที่ตามมา
            “เธอตายแล้ว…”
               รันลณีกระตุกวูบ ทรุดลงข้างตัวนภา เธอจับชีพจรให้แน่ใจ พยายามปั้มหัวใจของผู้ป่วยของเธอ
               ครั้งแล้ว ครั้งเล่า…
            “ไม่จริง” ร่างที่ซีดเซียวสงบนิ่ง ไม่มีวี่แววที่นภาจะตื่นขึ้นมาเลยสักนิด
               สักพักใหญ่อีกร่างหนึ่งก็ถูกพลิกให้หงาย หมอสูงวัยที่พึ่งมาถึงสะดุ้งเฮือกเมื่อจำใบหน้างามนี้ได้จากในหน้าอินเตอร์เน็ตของโรงพยาบาล
            “ห้องฉุกเฉินพิเศษ ไปห้องฉุกเฉินพิเศษเดี๋ยวนี้!” เขาตะโกนลั่น เหงื่อเม็ดโตผุดออกจากหน้าผาก ร่างนั้นถูกอุ้มไปห้องฉุกเฉินพิเศษ หมอคนนั้น หมอที่รันลณีจำหน้าได้อย่างดี เขาดูท่าจะสนใจผู้หญิงที่ยังมีลมหายใจเสียมากกว่าผู้ป่วยที่กลายเป็นศพอยู่ตรงนี้!
 
 
          
            วันรุ่งขึ้น ร่างของคุณนภาก็มีคนมารับกลับไปทำพิธีทางศาสนาอย่างถูกต้อง จากกล้องวงจรปิดพบว่านภามีอาการคลุ้มคลั่งทำให้วิ่งออกจากบันไดหนีไฟลงมายังชั้นเอ หมอที่วิ่งตามลงมานั้นถูกนภาทำร้ายด้วยแจกันดอกไม้ คุณนภาวิ่งหนีต่อไปก่อนจะหมดสติลงตรงหน้าห้องหน้า หลังการชันสูตรพบว่า นภาเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต รันลณีให้การกับตำรวจ ไม่มีพยานและหลักฐานที่พบว่าเธอทำผิด แต่กระนั้นเธอก็ยังจะขอชดใช้ความผิดด้วยการลาออก
            ผ่านมายี่สิบสี่ชั่วโมงหลังจากเกิดเรื่องทั้งหมด เธอไม่ได้นอนเลยแม้แต่น้อย แต่กระนั้นความง่วงก็ไม่ได้เข้ามากวนเธอเลยสักนิด อาจเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งที่ยังคงอยู่ในหัวเธอมันยังคงวนเวียนอยู่เสมอ ซึ่งกลายเป็นคำถามที่ตัวเธอเองก็ตอบไม่ได้…
           
               ก๊อก ก๊อก ก๊อก
               ประตูห้องพักของเธอเปิดออก รันลณียิ้มน้อยๆให้กับผู้มาใหม่
           
               “ทำไมรีบเก็บของนักล่ะ น่าจะนอนพักสักหน่อย” นกนิดพยาบาลผู้อาวุโสที่สุดของโซนเอกล่าวถาม เธอคือคนที่มองเห็นรันลณีเป็นทั้งลูกและน้องสาว เป็นผู้ใหญ่ที่รันลณีเคารพ นกนิดรู้เรื่องทุกอย่างจากจุ๊จาหลังจากที่ให้การกับตำรวจเสร็จ หล่อนขอตัวนอนพักที่ห้องพักของตัวเอง นับเป็นอีกบุคคลที่รันลณีอยากจะขอโทษและขอบคุณด้วยใจจริง
            “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่นก เก็บอีกสักนิดก็เสร็จแล้วละค่ะ” รันลณีพูดพลางเก็บของลงกล่อง
            “พี่เข้าใจรันนะที่ทำแบบนี้ พี่เคารพการตัดสินใจของเธอ ทุกคนก็ด้วย” นกนิดพูดพลางตบบ่าของหญิงสาวเบาๆราวกับเป็นการปลอบและให้กำลังใจ
            “ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะคะพี่นก ฝากขอบคุณพี่จุ๊จาและคนอื่นด้วยนะคะ และขอโทษจริงๆที่รันไม่ได้ลาทุกคนในแผนก” นกนิดยิ้มตอบพลางพยักหน้า
           
               ก๊อก ก๊อก ก๊อก
               เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง
            “น้องรัน มีคนมาขอพบค่ะ” พยาบาลสาวบุคคลที่สามกล่าวขึ้น ทำให้รันลณีถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
            ไม่นานรันลณีก็มาถึงจุดนับพบ หน้าเคาน์เตอร์มีหญิงสาวในชุดกาวน์ยืนรอเธออยู่พร้อมกับหมอวัยสามสิบที่ตอนนี้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับหมอสาวที่อยู่ข้างกาย หมอที่รันลณีเริ่มเบื่อหน้า เพราะดูเหมือนว่าช่วงนี้จะเจอเขาบ่อยซะเหลือเกิน ผู้คนรอบข้างต่างซุบซิบกัน มองจิตรแพทย์คนสวยคนนั้นด้วยสายที่ตกตะลึง
            “คุณรัน” จิตรแพทย์สาวมองหน้าผู้มาใหญ่พลางเรียกชื่อด้วยความสงสัย
            “ค่ะ รันลณีค่ะ”
            “พยาบาลในความดูแลของผมเองครับคุณโฉม” หมอวัยสามสิบพูดขึ้น น้ำเสียงของเขามันช่างแตกต่างจากน้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอในวันนั้นซะเหลือเกิน เขาคงไม่รู้ว่าตอนนี้เสียงของเขานั้นมัน ‘ดัดจริต’ มากแค่ไหน
 
               นึกว่าจะมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นซะอีกที่ ‘ดัดจริต’
           
               “โฉมทราบค่ะหมอกานต์ คุณบอกโฉมเป็นรอบที่สามแล้ว” ประโยคของโฉมฉายทำให้หมอผู้ถูกเอ่ยสะอึกเบาๆ
            “โฉมฉายค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณรัน” เธอยิ้มให้กับรันลณี เป็นครั้งแรกที่ได้มองเห็นถึงความงดงามของเธอ ดวงตาสีฟ้าเข้มยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนกำลังถูกดูดลงกลางทะเลลึก ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อสวยละมุนคล้ายสีของดอกกุหลาบ เมื่อเธอยิ้มจะพบลักยิ้มเล็กๆ มันมีเสน่ห์และน่าหลงใหล ผิวขาวชมพูกับรูปร่างที่สมส่วน ทำให้เธอเหมือนกับเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย หรือไม่ก็เทพแห่งความงดงามที่สามารถทำให้คนตกหลุมรักได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที…
            “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะคุณโฉม” รันลณียิ้มตอบบุคคลที่งดงามที่สุดเท่าที่เธอเคยพบเห็น
            “คงแปลกใจสินะคะที่โฉมขอพบคุณ โฉมแค่อยากจะขอบคุณคุณรันเท่านั้นเองค่ะ”
            “ขอบคุณ เรื่องอะไรหรอคะ” รันลณีถามออกไปด้วยความสงสัย
            “ก็แค่… อยากจะขอบคุณนะคะ และ อยากเจอคุณด้วย” คำตอบของโฉมฉายไม่ได้ช่วยให้รันลณีหายสงสัยได้เลย แต่ก็ช่างเถอะ รันลณีพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ
            “คุณโฉมไม่เป็นไรนะคะ” รันลณีถามออกไปเมื่อพบว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เริ่มอึดอัด อาจเป็นเพราะเธอยังไม่คุ้นและรู้สึกประหม่า
            “ยังเจ็บที่หัวตุบๆ แต่ก็ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ แสดงความเสียใจด้วยนะคะกับเรื่องของคนไข้ที่คุณดูแล ถ้าโฉมห้ามเขาทันคงไม่เป็นแบบนี้” เธอลูปหัวของตัวเองน้อยๆตรงผ้าพันแผล
            “ไม่ใช่ความผิดของคุณโฉมหรอกค่ะ รันต่างหากที่ต้องขอโทษคุณโฉมที่ทำให้คุณโฉมเจ็บตัว”
            “ไม่หรอกค่ะ โฉมมาขอบคุณคุณนะคะที่ช่วยโฉมไว้ ไม่ได้ให้คุณมาขอโทษโฉม” รันลณีเหลือบมองหมอกานต์ที่ชี้ตัวเองย้ำๆอยู่ด้านหลังประมาณว่า เขาต่างหากที่ช่วยเธอไม่ใช่แม่นี่ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากบุคคลข้างกายแม้แต่น้อยจนรันลณีอดขำไม่ได้
             “เสียเวลาพักผ่อนของคุณรันมามากแล้ว ขอบคุณที่มาคุยกันนะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ”
            “เอ่อ คงไม่ได้เจออีกแล้วหละค่ะ… รันกำลังจะลาออกวันนี้”
            “ค่ะ โฉมรู้ว่าคุณกำลังจะลาออก โฉมไม่ได้ประจำอยู่ที่โซนเออยู่แล้วเพราะฉะนั้น… เราคงไม่ได้เจอกันที่นี่” รันลณีขมวดคิ้วน้อยๆ เช่นกันกับหมอกานต์ที่อยู่ข้างๆรวมถึงพยาบาลขาเมาส์ที่อยู่รอบๆคอยฟังเรื่องของ ‘คนอื่น’ แบบหูผึ่ง
            “เจอกันที่โซนซีนะคะ” โฉมฉายยิ้มกว้าง หากเธอเป็นผู้ชายคงหลงเธอเข้าเต็มเปาหากแต่ไม่ใช่สถานการณ์เช่นนี้ เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นแผ่ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว รันลณีเหลือบเห็นหมอกานต์อ้าปากค้างอยู่นานก่อนจะพยายามเปล่งเสียงออกมา
            “ซะ ซะ โซน โซนพิเศษ…”
            “ใช่สิคะ รันลณีลาออกจากโซนเอ และเธอจะบรรจุใหม่ที่โซนซีในวันพรุ่งนี้ ในฐานะพยาบาลผู้ดูแลผู้ป่วยในความดูแลของฉัน”
            “ตะ ตะ ตะ แต่ แต่โซนพิเศษไม่เคย…”
            “ไม่เคยรับเด็กใหม่ที่มาจากโซนอื่น ค่ะ เธอเป็นคนแรกและโฉม จิตรแพทย์โซนพิเศษอนุญาตค่ะ รันลณีเป็นพยาบาลของฉันแล้วขอโทษด้วยนะคะหมอกานต์” โฉมฉายพูดยิ้มและหันมามองรันลณีพลางขยิบตาให้กับเธอก่อนจะเดินจากไปทิ้งความงุนงงให้กับทุกคนและนั่นหมายรวมถึงเธอด้วย เสียงซุบซิบได้กลายเป็นเสียงที่ดังแซ่ซ้องไปทั่ว รันลณีมองข้างหลังจิตรแพทย์สาวอย่างไม่เข้าใจ คำถามมากมายเต็มหัวของเธอไปหมด
 
               วูบหนึ่งแล่นเข้ามาให้หัวของเธอ และเธอคิดว่าตัวเองบ้า
 
               ดวงตากระตุกวูบ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
 
               สายตาที่มองไปยังโฉมฉาย รองเท้าส้นเข็มสีขาวกลับกลายเป็นรองเท้าส้นเข็มสีแดง จังหวะการเดินที่เธอจำได้แม่น
 
               มันเป็นภาพทับซ้อนของปีศาจ!!
   
 
 
               รันลณีกลับถึงบ้าน เธอล้มลงบนเตียงสีขาวคู่ใจขนาดคิงไซส์ในทันที มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หญิงสาวคิดทบทวนเรื่องทั้งหมด เรื่องที่เธอพบเจอ เรื่องที่อยู่ในหัวเธอมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนสมองของเธอจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
 
              ภาพร่างของนภาที่ถูกแบกด้วยปีศาจนั้นมันฉายเข้าหัวของเธออีกครั้ง บางทีเธออาจจะทำงานหนักไปหรืออยู่กับผู้ป่วยมากไปจนเกิดอาการประสาทหลอนไปเอง ใช่ มันคงเป็นแบบนั้น รันลณีลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ เธอพยายามนึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เข้ากับวิทยาศาสตร์ และแน่นอน มันคงเป็นโชคของเธอที่ทำให้ได้เข้าไปทำงานที่โซนซี โซนพิเศษที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝัน สายโทรศัพท์ของเธอแทบไหม้เมื่อเหล่าสาวๆโซนเอที่เธอรู้จักต่างพากันโทรหาเธอกระหน่ำราวกับเบอร์โทรของเธอขายเสื้อผ้าที่กำลังฮาร์ดเซลอยู่อย่างนั้น รันลณีถอนหายใจแรงๆก่อนจะยิ้มให้กับตัวเองในกระจก พยายามสลัดความคิดบ้าๆนั้นก่อนจะเข้าไปห้องอาบน้ำเพื่อหวังให้สายน้ำที่กระทบกับตัวเธอจะทำให้ผ่อนคลายจากเรื่องทั้งหมด โดยที่เธอไม่สังเกตเลยว่า
           
            คนในกระจกยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น ไม่ไปไหน…
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา