MAYA มายา
เขียนโดย โชฒิกากราณ์
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.
แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
20) เงาอดีตที่สวยงาม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด จะเรียกอย่างนั้นได้หรือเปล่านะสำหรับเขาและโฉมฉาย เมื่อมีครั้งแรก ก็จะมีครั้งต่อๆ ไป มันต่อเนื่องจนยาวนานเหมือนความต้องการของมนุษย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด มันกลายเป็นเรื่องปรกติสำหรับทั้งสอง
ใช่ มันเป็นเรื่องที่เขาจะรู้เอง เมื่อมีผู้หญิงเข้ามาหาที่ห้องโดยไม่ต้องเชื้อเชิญ เมื่อทุกอย่างจบลง ทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันอย่างที่ใครต่อใครเห็น ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไงกับความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ ซึ่งเขาไม่เคยถามถึงมัน สำหรับถ้าพูดอย่างคนเห็นแก่ตัว แน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้สึกผูกพันกับมันเลย ให้เข้าใจคือเขาไม่ได้รักเธอ ถ้าเขาได้รัก ไม่มีทางที่เขาจะเป็นแบบนี้ ถ้าเซ็กส์เป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยให้ผู้หญิงคนนั้นมีความสุขและเยียวยาความทุกข์ของเธอได้ เขาก็จะช่วยตามที่ขอ เพราะนั่นทำให้เขาได้ปลดปล่อย
ก็เพราะเขาเป็นผู้ชายนี่นา…
ในถานะที่ยังเป็นผู้ชายที่มีความคิดอยู่บ้างเขารู้สึกผิดเสมอนั่นแหละ แต่มันรู้สึกมากๆ ในครั้งแรกเท่านั้น เพราะเขารู้ดี ว่าเขาไม่ใช่คนดีมาก เขาทำเลวและเฉยเมยต่อความดีในหลายๆครั้งเมื่อชีวิตต้องมาผัวพันกับเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ก็ยังมีความดีบ้าง ความดีที่อุทิศให้กับผู้เป็นที่รัก ผู้ที่จะปกป้องไปตลอดแม้ต้องแลกกับทุกอย่าง
แต่หลายๆ อย่างกลับเปลี่ยนไป เมื่อจิตใจเริ่มแบ่งปันให้กับอีกคนอย่างรู้ตัว รู้สำนึก รู้สึกผิด และรู้สึกรัก
รู้ตัวว่าต้องการเธอ อยากปกป้องและห่วงใย
รู้สำนึกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และไม่ควร
รู้สึกผิดในเรื่องเลวๆ ที่สารภาพออกไป
รู้สึกรัก และรักไม่ได้….
เลิกรักผม เพราะผมรักคุณไม่ได้
เสียงกระดิ่งที่กระทบกับประตูร้านเมื่อมีคนเข้าออกดังขึ้น หญิงสาวในชุดเดรสสีฟ้ามองหาใครบางคนที่อยู่ภายในร้าน ใครบางคนที่เธออยากเจอจนรู้สึกตื่นเต้นไปหมด
แทนคุณในชุดยีนส์เดินคุยโทรศัพท์ คล้ายจะบอกว่าพวกเขาได้มาถึงจุดนัดหมายแล้ว ไม่นานก็มีหญิงสาวแปลกหน้าโบกมือให้กับผู้ชายที่โดดเด่นเดินเข้าไปหา พวกเขาพูดคุยกันนิดหน่อยก่อนเธอคนนั้นจะมองรันลณีที่เดินเข้าไปหาอย่างเป็นกังวล
“มาญา” เสียงที่เรียกเบาเหมือนคนกระซิบ แต่ก็ทำให้คนตรงหน้าได้ยิน รันลณียิ้มบางๆ ในหัวเริ่มประมวลผลอีกครั้ง
“สวัสดี” คำทักทายที่แสนง่ายถูกมอบให้กับผู้หญิงตรงหน้า
“แกไปอยู่ไหนมา เจ็ดปีที่แกไม่มีติดต่อมาเลย นี่ยังจำฉันได้รึเปล่าเนี้ย นี่จีไง ไอ้จีดาวค่าย จำได้ไหม ไอ้จีคนที่ชอบเต้นหน้าเสาธงตอนมอปลาย คนที่แกชอบแย่งไม้ไอติมฟรีไปแลกไอติมไง” หล่อนเขย่าแขนคนตรงหน้าแรงๆ อย่างดีใจ น้ำตารื้อออกมาอย่างช่วยไม่ได้ รันลณีเองก็เช่นกัน ถึงจำอะไรเกี่ยวกับความตรงหน้าไม่ได้เลยสักอย่าง แต่กลับรู้สึกผูกพันอย่างอย่างไม่สามารถบอกความรู้สึกได้ จีน่า เจ้าของร่างเล็กขนาดพกพาความสูงประมาณร้อยห้าสิบกับผิวขาวอวบนั้นทำให้เธอดูน่ารักเหมือนตุ๊กตาล้มลุก จีน่าปาดน้ำตาแห่งความดีใจออกลวกๆ เมื่อพบเจอเพื่อนสนิทที่ขาดการติดต่อไปอย่างยาวนาน หลังจากที่ได้รับการติดต่อจากอีเมลที่ไม่คุ้นเคย เธอก็ตอบกลับในทันทีที่จำใบหน้าของเพื่อนรักได้
“ดีใจ ดีใจเหมือนกันที่ได้เจอเธอ” รันลณีพูดเสียงเบา รู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อรู้สึกไม่คุ้นเคย
“หาโต๊ะนั่งคุยกันดีกว่านะ” แทนคุณแทรกการสนทนา ก่อนจะนำสองสาวไปยังโต๊ะที่ว่าง อาหารอิตาเลี่ยนสองสามอย่างถูกสั่งไว้บนโต๊ะ ก่อนบทสนทาจะเริ่มขึ้น
“เห็นว่าแกไปอยู่กับญาติที่เมกา กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่เคยติดต่อกันมาเลย” เจ้าของผมบ๊อบสีบรอนซ์พูดพลางตักสปาเกตตี้เข้าปาก รันลณีเหลือบมองแทนคุณที่นั่งดื่มกาแฟนั้นอยู่ สายตาสบกันสักครู่ จับใจความได้ว่า ให้ตามสถานการณ์ไปก่อน
“คือ บ้านญาติอยู่ในชนบทน่ะ เลยติดต่อใครที่ไทยไม่ได้เลย แล้วก็เพิ่งกลับมาได้ปีกว่าเอง”
“แล้วเพิ่งติดต่อมาตอนนี้เนี้ยนะ อยากจะตีให้ตายเลยจริงๆ”
“เอ่อคือ… ยุ่งๆ น่ะ ก็เลย…”
“รันยุ่งกับการสอบเข้าทำงานที่โรงพยาบาลเอ็มวายน่ะครับ จริงๆ เธออยากติดต่อพวกคุณตั้งแต่กลับมาแล้ว แต่ดันลืมเบอร์ติดต่อ เลยหาช่องทางการต่อพวกคุณไม่ค่อยได้” แทนคุณพูดอธิบายแทนเธอ พูดอย่างเป็นธรรมชาติจนอยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จีน่ายิ้มกริ่มเมื่อฟังจบ
“ดีกรีเอ็มวายเลยหรอเนี้ย แถมยังได้แฟนหล่อขนาดนี้ไปอีก” รันลณีอมยิ้มเหลือบมองคนที่นั่งยิ้มอยู่นั้น อยากจะตะโกนออกไปว่าเขาไม่ใช่ ถึงแม้อยากจะให้มันเป็นความจริง แต่ก็ไม่มีทางเป็นจริงเมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธอยู่เสมอ
“ว่าแต่ แกเปลี่ยนชื่อตั้งแต่เมื่อไหร่มาญา”
“อ๋อ เอ่อ นานแล้ว”
“หรอ เปลี่ยนทำไมอ่ะ โหวงเฮ้งงี้หรอ” รันลณีพยักหน้ารัวเป็นคำตอบ
“แกรู้ไหม แม็กกับยัยฟ้าต้องดีใจมากๆ ที่รู้ว่าติดต่อแกได้แล้ว” ตัวละครที่มาใหม่เกือบทำให้เธอตั้งรับไม่ทัน แต่มันยังขาดอยู่เพียงคนเดียวที่ยังไม่ถูกเอ่ยถึง
“แล้วฝันล่ะ เป็นยังไงบ้าง” รอยยิ้มเลือนหายไปจากคนตรงหน้าเมื่อรันลณีตัดสินใจเอ่ยปากถาม คนที่ต้องการรู้อดีตมากที่สุด
“ยัยฝัน…ตายไปนานแล้ว” เสียงเรียบถูกเอ่ยขึ้นไร้รอยยิ้มที่สดใสจากคนตรงหน้า
“ตายหรอ ตายยังไง”
“อุบัติเหตุ ตกถังกรดที่อยู่หลังมหา’ลัย แกคงยังไม่รู้สินะ ก็แกเล่นย้ายไปก่อนเกิดเรื่อง”
“อุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุหรอ” รันลณีถามออกมาอย่างร้อนใจเมื่อผูกเรื่องเข้ากับที่โฉมฉายเคยเล่าให้ฟัง
“คือ ฉันก็ไม่รู้ ตอนนั้นทุกคนเสียใจกันมาก ทางมหา’ลัยก็ปิดเรื่องเงียบเพราะกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่อยากถามเรื่องแบบนี้กับครอบครัวของฝัน กลัวพวกเขาจะเสียใจ” จีน่าพูดเสียงสั่น บทสนทนาตกอยู่ในความเงียบ ก่อนที่จะถูกผู้ชายคนเดียวพูดถึงอาหารที่ใกล้จะเย็นแล้ว รันลณีเห็นด้วยก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรื่องสับเพเหระ ทำให้รู้ว่าในอดีต มาญาเป็นผู้หญิงที่แสนแสบ ร่างเริงขนาดไหน ไฟ้าและแม็ก เพื่อนในกลุ่มและเพิ่งแต่งงานกันได้สองปี ก่อนที่ฟ้าจะย้ายตามแม็กไปอยู่ที่ลาสเวกัสเพราะแม็กเป็นอัยการประจำอยู่ที่นั่น ส่วนตัวจีน่าก็ใช้วิชาที่เรียนมาเปิดร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังเป็นของตัวเองอย่างประสบความสำเร็จ หญิงสาวฟังอย่างตั้งใจบทสนทนาที่เป็นไปอย่างสนุกสนาน ไม่มีเรื่องของสุดฝันเข้ามาดึงอารมณ์ให้หล่นลงไป นอกจากในหัวที่รู้สึกเจ็บเหมือนอะไรบางอย่างอยากที่จะทะลุออกมาตลอดเวลาเมื่อความทรงจำมากมายไม่ได้ผุดขึ้นตามบทสนทนาที่ได้ฟัง
เกือบสามชั่วโมงที่ได้พบปะกับเพื่อนเก่า รันลณีสนิทใจกับเพื่อนคนนี้อย่างรู้สึกได้ ทั้งสองแชร์ช่องทางที่เอาไว้ติดต่อกันภายหลังก่อนแยกย้าย จีน่าพูดว่าเธอจะติดต่อเพื่อนที่เหลือและนัดเจอกันในสักวันซึ่งรันลณีสัญญาว่าเธอจะไม่มีทางพลาดมันแน่นอน
สัญญาจริงๆนะ ถ้าได้มีโอกาสนั้น ถ้ากลับมาจากโลกแห่งมายาได้อย่างมีลมหายใจ เราพร้อมจะเจอกับอดีตที่สดใสและเต็มไปด้วยความทรงอีกครั้ง…
“มาญา เป็นชื่อคุณจริงๆ สินะ” แทนคุณพูดขึ้นกลางอากาศขณะที่กำลังขับรถ
“คงงั้น ถ้าได้รู้จากปากแม่อีกคนคงใช่จริงๆ แต่ที่แน่ๆ สุดฝันเป็นเพื่อนรัน” รันลณีพูดพลางหันมองแสงไฟบนถนนใหญ่ สมองไม่อยากคิดอะไรอีกในตอนนี้เพราะมันเหมือนกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในอีกไม่นาน
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า” แทนคุณถามขึ้นเมื่อเหลือบเห็นท่าทีของคนตัวบาง
“รันปวดหัว อยากนอนพัก”
“คุณจะงีบก็ได้ ถ้าถึงบ้านแล้วผมจะปลุกเอง” สมองทำการชัดดาวน์ตัวเองในทันทีหลังจากที่ได้รับอนุญาต แทนคุณส่ายหัวออกมาเบาๆ
“อดทนนะรัน มันใกล้จะจบแล้ว” เขาพูดออกมากลางอากาศอีกครั้ง รู้สึกเป็นห่วงคนตัวบางอย่างสุดหัวใจ
-Back Than-
“มาญา… ไอ้ญาตื่นโว้ย!” เสียงที่ดังก้องหูทำเอาคนที่กำลังงีบหลับอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น เธอกะพริบตาถี่ๆ รับแสงที่กระทบเข้ามานั้น
“หลับขนาดนี้กลับไปนอนที่หอไหม๊!!”
ปึก!!
“ไปเรียนได้แล้ว” ชีทเรียนปึกใหญ่ฟาดลงที่ไหล่ของมาญา ก่อนเจ้าตัวจะลูบมันป้อยๆ พลางลุกตามเพื่อนในกลุ่มที่กำลังเก็บขยะที่อยู่บนโต๊ะกลางโรงอาหารเพื่อกลับเข้าห้องเรียนในช่วงบ่าย
“นี่เพิ่งปีสองเองนะ แพทย์เรียนหนักขนาดนั้นเลยหรอวะ”
“ก็เอาเรื่องอยู่ แต่ที่แน่ๆ ไอ้ญามันไม่ได้อดหลับอดนอนเพราะเรียนหนัก อ่านหนังสือนั่นโน่นนี่หรอก มันติดเกม เล่นอยู่ได้ทั้งคืน เข้านอนก็เกือบเช้า” จบประโยคที่จะเรียกว่าฟ้องได้ไหมนะ เมื่ออีกสองคนมองเจ้าของเรื่องอย่างเค้นความจริง
“นี่แกฟ้องหรอฝัน” มาญาคว่ำปากเมื่อสุดฝันแลบลิ้นใส่ หลังจากที่โดนเพื่อนๆ ในกลุ่มบ่นจนหูชา มาญาและสุดฝัน ตัดสินใจเข้าคณะแพทย์หลังจากที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่มอปลายเพื่อตามความฝันของแต่ละคน ซึ่งมาญาเองอยากเป็นจิตแพทย์ และสุดฝันเองอยากเป็นศัลยแพทย์ที่เก่งที่สุดในประเทศไทย
“บ่นๆ กันนี่ยังไม่ชินอีกหรอครับสาวๆ ถึงไอ้ญามันจะติดเกมหนักขนาดไหน สุดท้ายตอนสอบก็ติดท๊อปอยู่ดี ดูอย่างตอนปีหนึ่งดิ ที่ท้องเสียตอนวันสอบ ยังคว้าเอมาได้ครบไม่มีตกหล่น”
“ใช่เลยแม็กที่รัก เพราะอย่างงี้ เลยมีรถไว้ขับรับส่งพวกเธอกันไง สำนึก สำนึก” มาญาวิ่งไปควงแขนผู้ชายคนเดียวของกลุ่ม รู้สึกภูมิใจที่อย่างน้อยก็มีคนเข้าข้างอยู่บ้าง เจ้าของรอยยิ้มหวานทำให้ใครบางคนใจสั่นได้ทุกเมื่อ รูปร่างของแม็กสูงสมส่วน เขาเป็นผู้ชายที่โดดเด่นและป๊อบปูล่าในหมู่สาวๆ แต่ถึงอย่างนั้นแม็กก็ไม่เคยมองใครนอกจากฟ้า แฟนสาวของเขาที่คบกันตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง ผู้หญิงที่จู่ๆ ก็มาตบหน้าและบอกเลิกเขากลางลานกิจกรรม เพราะถูกรุ่นพี่แกล้งเพื่อแลกกับรายชื่อที่ต้องเก็บให้ครบ เธอขอโทษเขายกใหญ่หลังจากนั้นและมันทำให้เขาชอบเธอตั้งแต่วันนั้น แม็กจึงถูกดึงให้อยู่ในแก๊งเพื่อนสนิทของคนรักอย่างช่วยไม่ได้
“ก็จริง โอ๊ย!! เบื่อโว้ย”
“เบื่อคนสวยแถมเก่งด้วยแบบฉัน”
“มั่นมาก” จีน่าพูดอย่างหลอกล้อ ด้วยส่วนสูงที่น้อยที่สุดในกลุ่มจึงโดนมาญาล๊อกคอในท่าทางที่ตลก เสียงหัวเราะคิกคักออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ผมสั้นทัดหูทำให้จีน่าดูโฉบเฉี่ยว เหมาะกับบุคลิกของดีไซน์เนอร์อย่างที่เธอใฝ่ฝัน จีน่าเป็นเพื่อนของมาญาตั้งแต่มอต้นก่อนจะมีสุดฝันและฟ้าใสเข้ามาในกลุ่ม
“นี่จีต้องเข้าคลาสแล้ว ไปเถอะ” บุคคลที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มเอ่ยปากขึ้น แม็กยีหัวจีน่าอย่างหมั่นเขี้ยวทำให้ผมที่ยุ่งอยู่จากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ยุ่งเข้าไปอีก มือเล็กอดไม่ได้ที่จะฟาดเข้าที่หลังคนตัวใหญ่จนเขาต้องโก่งหลัง
“เจอกันนะ ไปนะแม็ก” ฟ้าใสบอกลาก่อนแยกตัวไปกับเพื่อนตัวเล็กที่จัดผมให้เข้าที่อยู่ แฟนหนุ่มยกมือขึ้นเชิงตอบรับ
“แล้วคุณไม่แยกไปเรียนล่ะคะคุณ นิติศาสตร์อยู่ตึกโน้นค่ะคุณอศวัต” มาญาพูดขึ้นยกแขนเกยไหล่คนอยู่ใกล้อย่างสนิท เมื่อเห็นว่าเพื่อนชายยังคงยืนมองตามคนที่ลับตาไปอย่างจดจ่อ
“กำลังจะไปแล้วครับคุณมัศยา นี่ฝันฝากดึงหูไอ้ญาด้วยนะถ้าเผลอหลับในห้องอีก ไม่ก็อัดคลิปมาฝากด้วย อยากรู้น้ำลายยังยืดอยู่ไหม”
“นี่!!!” อศวัตพูดจบก็กระเด้งตัวหลบเท้าที่ขว้างใส่เขา มือโบกให้สองสาวที่ยืนอยู่อย่างอารมณ์ดี
“ป่ะ เราก็ไปกันเถอะ” มาญาจับมือคนข้างกายให้เดินไปด้วยกัน สายตาที่มองไปยังร่างที่อยู่ไกลทำให้เอามาญาถอนหายใจอยู่ลึกๆ
“มองไปก็เท่านั้นแหละเพื่อนเอ้ย ตัดใจเถอะ ถึงจะบอกเป็นรอบที่ล้านแล้ว แต่ก็จะบอกต่อไป ตัดใจเถอะฝัน”
“เอ่อ รู้แล้วน่า พยายามอยู่” สุดฝันเดินคอตก มีเพียงแค่มาญาที่รู้ว่าเธอชอบแม็กมากแค่ไหน ผู้ชายคนที่เธอชอบตั้งแต่แรกพบ ชอบก่อนฟ้าซะอีก
“มีผู้ชายมาจีบแกเป็นร้อยๆ เลือกๆเอาสักคนเถอะ บางทีแกอาจจะลืมไอ้แม็กไปเลยก็ได้ รุ่นพี่ที่คณะไงแก คนที่ชอบซื้อขนมมาฝากตั้งแต่ปีหนึ่งอ่ะ คนนั้นก็ดีนะ จะได้เอาไว้ช่วยติวข้อสอบด้วย หรือแกไม่ชอบ นี่ๆ พี่แวนอักษร หล่อ รวย ขับเบนซ์ บ้านขายทอง…”
“พอเลยมาญา ไม่ต้องร่าย ไปค่ะ ไปเรียนเถอะเพื่อน” สุดฝันตบไหล่เพื่อนเบาๆ พลางยิ้มให้ ซึ่งเธอก็ยิ้มตอบด้วยสายตาปริบๆ รู้ในใจว่ายังไงมันก็เป็นเรื่องยากที่เพื่อนคนนี้จะตัดใจจากรักแรกของเธอได้ ไม่ว่าจะหลอกล่อหรือพูดปลอบด้วยวิธีไหน สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับเธอทั้งหมด ด้วยความที่ทั้งสองอยู่ห้องเดียวกันที่หอพักนักศึกษาแพทย์ บางเรื่องที่บอกใครไม่ได้ทั้งสองจะรู้ความลับนั้นของกันและกัน
คลายปมทีละนิดแล้ววววววว เป็นยังไงกันบ้างทุกคน อย่าลืมมาพูดคุย แนะนำคอมเม้นได้ตามสบายเลยจ้า ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอด แต่ปมยังไม่หมดหรอกนะ อิอิ
3-24-2018
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ