จิ้งจอกผู้โชคร้ายกับโรงเรียนเวทต์มน
8.7
เขียนโดย Bakeru_Beto
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.
10 ตอน
2 วิจารณ์
12.83K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560 22.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) นักเรียน ใหม่ กับ ความเป็นมา ที่ ลึกลับ!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หญิงสาวมัดผมทรงหางม้าในตาสีแดงผมสีทองเปล่งประกายราวกับทองคำบริสุทธิ์ และชุดนักเรียนหญิงที่ไม่คุณเคย
"เอาหละมา แนะนำตัว ได้แล้ว นะจ๊ะ ยาตะจัง"อาจารย์ทาจิบานะพูดพร้อมกลับเข้าไปจูงมือเธอมา "สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ สุคุโมะ ยาตะค่ะ นับจากนี้ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะทุกคน เออ.....แล้วก็ฉันเป็นนักดาบเวทต์อันดับ3ของเมื่อง แต่ทักทายฉันแบบธรรมชาติได้เลยนะ ไม่ต้องทำเหมือนฉันเป็นคนพิเศษนะ" เธอ พูด พร้อม ใบหน้าที่ ยิ้มแย้ม
ทุกคนในห้องต่างตกใจและคลึกคืนเฮฮามากขึ้นแน่นอนว่า เบโตะและฺฮานะก็ตกใจ เช่นกัน แต่ถว่าเรื่องที่เบโตะตกใจนั้นไม่ใช้เรื่องที่ว่าเธอเป็นอันดับ 3 ของเมืองแต่เป็นเรื่องที่ เธอคนนั้นเป็นคนรู้จักของเบโตะในสมัยเด็ก และแน่นอนว่าเธอต้องรู้เรื่องที่เบโตะเป็น.......จิ้งจอก
"เอาหละ! ยาตะจังมีเรื่องที่บอกทุกคนอีกมั๊ยจ๊ะ"
"มีค่ะอาจารย์ทาจิบานะ" ยาตะพูดพร้อมมองมาที่เบโตะ
"เบโตะ.....ไม่ใช้สิเจ้าจิ้งจอกจงมา<ประลอง เวทมนต์>กับชั้นสะ!!!"เธอพูดพร้อมชี้หน้ามาที่เบโตะ
(การประลองเวทมนต์คือการประลองที่นักเวทต์สองคนมาประรองกันการประลองจะไม่หยุดจนกว่าจะมีคนใดคนหนึ่งหมดสติหรือขอยอมแพ้และ ในกรณีที่สามคือเกิดเหตุฉุกเฉินในการประลอง เช่นมีสิ่งมีชีวิตหลุดเขาไปในการประลองแต่ว่าโดยปกติสิ่งอื่นจะไม่เข้าใกล้การประลองแต่ถ้าเกิดขึ้นกฎของการประลองหรือก็คือโลกใบนี้จะทำให้ผู้ประลองทั้งสองฝ่ายหมดแรงทันที)ทุกคนก็เริ่มตื่นตระหนก้มื่อได้ยินคำว่า“จิ้งจอก”เนื่องจาก โลกใบ นี้มี หลากหลาย เผ่าพันธุ์ เช่น สัตว์ มนุษย์ ปีศาจ ภูติ เทพ เป็นต้น และ ยังมีอีกหลากหลายเผ่าที่ยังไม่พูดถึง แต่ว่าจิ้งจอกที่มีพลังจะแบ่งออกเป็น 2 เผ่า คือ ภูติ และ ปีศาจ หรือเรียกง่ายว่า “ภูติจิ้งจอก และ ปีศาจจิ้งจอก” เผ่าภูติจิ้งจอกจะเป็นเผ่าที่รักมนุษย์ อ่อนโยนใจดี ส่วนทางปีศาจจิ้งจอก จะมี นิสัย ตรงกันข้าม คือ เกรียจมนุษย์ ชั่วร้าย ทำแต่ความต้องการของตนเอง แต่ที่มนุษย์กลัวจิ้งจอกนั้นเป็นเพราะว่า ทางปีศาจจิ้งจอกนั้นชอบมาทำร้ายเผ่ามนุษย ์ฆ่า กัดกิน ทรมานมนุษย์ มนุษย์จึง
เกริยจจิ้งจอกจนฝังใจ จึงทำให้หลายครั้งภูติจิ้งจอกจึงถูกตราหน้าว่าเป็น ปีศาจจิ้งจอกจึงถูกทำร้ายจากพวก มนุษย์ที่พวกเขา รัก.......
"เออ.....นี้.......ยาตะจังพูดอะไรนะ อย่างเบโตะคุงเนี่ยนะจะเป็นจิ้งจอก..." ฮานะพูดขึ้นเพื่อกลบเกลื่อน เออใช่เบโตะจะเป็น จิ้งจอกได้ไง ทุกคนในห้องต่างเออ ออไปกับฮานะ
"งั้นมาลองกันมั๊ยละ ถ้าเบโตะสามารถชนะฉันได้โดยไม่ใช้พลังจิ้งจอกละนะ"ยาตะเริ่มพูดอย่างท้าทาย
"เบโตะ นาย จะแพ้ ไม่ได้นะ!"ฮานะพูดพร้อมกับหันไปทางเบโตะ แต่เธอกลับเห็นเบโตะตัวสั่นและหน้าซีดเซียว
"อาว! รู้สึกจะ...ชื่อ..คุณฮานะสินะมันใจรึปล่าวละ"ยาตะพูดเยยใสฮานะ
"ค่ะ! ฉันมั่นใจในเบโตะเพื่อนของฉัน"ฮานะ พูด อย่างมั่นใจ
"ชิ! งั้นเจอที่หน้าโรงเรียนนะเบ..โตะ"ยาตะพูดพร้อมกลับออกไปรอที่หน้าโรงเรียน
"นี่!ทั้งสองคน จะชนะ ใช่มั๊ย?"แต่ เบโตะ กับ นิฟ
ก็เงียบไม่ตอบอะไร......
งั้นการประลองเริ่มได้อาจารย์ทาจิบานะ
พูดเพื่อให้สัญญาณ ว่า สามารถเริ่มได้เลย
"อิริกะ!"ทั้งสองคนพูดเพื่อเริ่มการประลอง(อิริกะ คือ คำที่ใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายต้องการเริ่มการการประลอง)
นิฟเปลี่ยนเป็นมีดแล้วหมุนควงแล้ว
เบโตะก็จับที่ด่ามมีด ส่วนอาวุธของยาตะนั้นคือดาบเวทมนต์ขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างประหลาด
และมีอัคขระประหลาดที่ไม่ใช้ของภูติ ปีศาจ และ
เทพ ใช้แล้วมันคืออัคขระที่ถูกสร้างขึ้นมาจากมนุษย์ ถึงจะมีพลังไม่เท่าอัคขระของสายอื่นแต่ถือได้ว่าเป็นอาวุธสุดยอดของมนุษย์เช่นกัน เธอเริ่มตั้งท่า เตรียมค่อสู้โดยเอามือซ้ายขวั้ยหลังไว้
หันข้างแล้วชี้ปลายดาบไปที่เบโตะ ส่วนทางเบโตะก็ทำท้าเหมือนเริ่มตังกะมวยแต่ถือมีดไว้มือขวา แล้วเป็นฝ่ายของยาตะที่เริ่มโจมตีก่อน
โดยการแทงกวัดดาบไปมา และ มือขวาก็กลับมาอยู่ในระดับคาง แล้วเริ่มกวัดต่ออย่างรวดเร็วราวกับสายลมกันโชคงดงาม แน่นอนว่าเบโตะที่ไม่ได้ฝึกทักษะการต่อสู้อย่างจริงจังยิ่งไม่ใช้คู่มือ และ พลังของจิ้งจอกแล้ว ย่อมไม่สามารถสู้กับพลังของยาตะที่ฝึกทักษะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก
ได้แน่นอน เบโตะทำได้เพียงหลบการโจมตี และ ปัดออกไปเท่านั้นำไม่สามารถส่วนกลับได้ แต่ว่า
ถึงจะ ปัด และ หลบการโจมตีได้แต่ก็ หลบได้ไม่หมดจึงได้รับความเสียหายมาในระดับนึงเลย แต่ถึงอย่างนั้นยาตะก็ไม่สน และ กระหน่ำโจมตีต่อไปโดยไม่สนชีวิตของเบโตะ เพื่อกดดันให้เบโตะใหใช้พลังของจิ้งจอก
ในการต่อสู้ที่กดดันนิฟได้พูดขึ้น"เบโตะ ถ้ายังเป็นแบบนี้เราแย่แน่"
"อาว! เบโตะถ้านายไม่ใช้พลังนายตายแน่"
'ยังไงก็ ให้ ทุกครรู้ไม่ได้เด็ดขาดไม่ว่ายังไงก็ตาม'
เบโตะได้แต่คิดเตือนตนเองไว้ การต่อสู้ยืดยาวจนถึงตอนเที่ยง โดยเบโตะเป็นฝ่ายบาดเจ็บเพียงฝ่ายเดียว จนอาการสาหัสจนจะยืนยังแทบไม่
หวัยแต่เบโตะก็ยังยืนอยู่ ทุกคนในห้องจึงเริ่มโห่ใส่ยาตะ ว่า หาเรื่อง คน ไม่มีทาง สู้
"ทุกคน....ทำไม....ต้องว่าฉันด้วยละแค่จะทำให้ทุกคนรู้"ยาตะร้องไห้และพูดทั้งน้ำตา
เบโตะเมื่อเห็นยาตะที่เป็นคนรู้จักในสมัยเด็กร้องไห้ เขาจึงคุกเข่าซุดลง พร้อมเงยหน้ามองดิน
ยาตะจึงคิดจะปิดฉาก และเดินไปตรงหน้าเบโตะ
แต่ ทันใดนั้น
ก็มีปีศาจตัวใหญ่ยักษ์ ปรากฎขึ้น ที่ หน้าประตู โรงเรียน และ เริ่ม ทำลาย อาคม ของโรงเรียน "เจ้า ปีศาจนั้น โง่ ชัดๆ ไม่มีอะไรทำทลายเขตอาคมได้หรอก"นักเรียน คนหนึ่ง พูดขึ้น
"เพร๊ง" เขตอาคมแตกเป็นรูแล้วปีศาจก็เข้ามาในตัวโรงเรียน ทุกคนตื่นตระหนกและตกใจวิ่งหนีกันพล่าน จึงทำให้การประลองหยุดกลางคันเบตะจึงซุดลกองกับพื้นทันที ส่วนทางยาตะที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจึงแค่หมดแรงเล็กน้อย
ยาตะจึงคิดที่จะจัดการกับ ปีศาจ แต่ พลังของยาตะทำอะไรไม่ได้เลย ยาตะจึงบาดเจ็บหนัก ในระหว่างที่ปีศาจง้างดาบยักษ์กำลังจะ ฆ่ายาตะนั้น
เบโตะจะทำอย่างไร
"เอาหละมา แนะนำตัว ได้แล้ว นะจ๊ะ ยาตะจัง"อาจารย์ทาจิบานะพูดพร้อมกลับเข้าไปจูงมือเธอมา "สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ สุคุโมะ ยาตะค่ะ นับจากนี้ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะทุกคน เออ.....แล้วก็ฉันเป็นนักดาบเวทต์อันดับ3ของเมื่อง แต่ทักทายฉันแบบธรรมชาติได้เลยนะ ไม่ต้องทำเหมือนฉันเป็นคนพิเศษนะ" เธอ พูด พร้อม ใบหน้าที่ ยิ้มแย้ม
ทุกคนในห้องต่างตกใจและคลึกคืนเฮฮามากขึ้นแน่นอนว่า เบโตะและฺฮานะก็ตกใจ เช่นกัน แต่ถว่าเรื่องที่เบโตะตกใจนั้นไม่ใช้เรื่องที่ว่าเธอเป็นอันดับ 3 ของเมืองแต่เป็นเรื่องที่ เธอคนนั้นเป็นคนรู้จักของเบโตะในสมัยเด็ก และแน่นอนว่าเธอต้องรู้เรื่องที่เบโตะเป็น.......จิ้งจอก
"เอาหละ! ยาตะจังมีเรื่องที่บอกทุกคนอีกมั๊ยจ๊ะ"
"มีค่ะอาจารย์ทาจิบานะ" ยาตะพูดพร้อมมองมาที่เบโตะ
"เบโตะ.....ไม่ใช้สิเจ้าจิ้งจอกจงมา<ประลอง เวทมนต์>กับชั้นสะ!!!"เธอพูดพร้อมชี้หน้ามาที่เบโตะ
(การประลองเวทมนต์คือการประลองที่นักเวทต์สองคนมาประรองกันการประลองจะไม่หยุดจนกว่าจะมีคนใดคนหนึ่งหมดสติหรือขอยอมแพ้และ ในกรณีที่สามคือเกิดเหตุฉุกเฉินในการประลอง เช่นมีสิ่งมีชีวิตหลุดเขาไปในการประลองแต่ว่าโดยปกติสิ่งอื่นจะไม่เข้าใกล้การประลองแต่ถ้าเกิดขึ้นกฎของการประลองหรือก็คือโลกใบนี้จะทำให้ผู้ประลองทั้งสองฝ่ายหมดแรงทันที)ทุกคนก็เริ่มตื่นตระหนก้มื่อได้ยินคำว่า“จิ้งจอก”เนื่องจาก โลกใบ นี้มี หลากหลาย เผ่าพันธุ์ เช่น สัตว์ มนุษย์ ปีศาจ ภูติ เทพ เป็นต้น และ ยังมีอีกหลากหลายเผ่าที่ยังไม่พูดถึง แต่ว่าจิ้งจอกที่มีพลังจะแบ่งออกเป็น 2 เผ่า คือ ภูติ และ ปีศาจ หรือเรียกง่ายว่า “ภูติจิ้งจอก และ ปีศาจจิ้งจอก” เผ่าภูติจิ้งจอกจะเป็นเผ่าที่รักมนุษย์ อ่อนโยนใจดี ส่วนทางปีศาจจิ้งจอก จะมี นิสัย ตรงกันข้าม คือ เกรียจมนุษย์ ชั่วร้าย ทำแต่ความต้องการของตนเอง แต่ที่มนุษย์กลัวจิ้งจอกนั้นเป็นเพราะว่า ทางปีศาจจิ้งจอกนั้นชอบมาทำร้ายเผ่ามนุษย ์ฆ่า กัดกิน ทรมานมนุษย์ มนุษย์จึง
เกริยจจิ้งจอกจนฝังใจ จึงทำให้หลายครั้งภูติจิ้งจอกจึงถูกตราหน้าว่าเป็น ปีศาจจิ้งจอกจึงถูกทำร้ายจากพวก มนุษย์ที่พวกเขา รัก.......
"เออ.....นี้.......ยาตะจังพูดอะไรนะ อย่างเบโตะคุงเนี่ยนะจะเป็นจิ้งจอก..." ฮานะพูดขึ้นเพื่อกลบเกลื่อน เออใช่เบโตะจะเป็น จิ้งจอกได้ไง ทุกคนในห้องต่างเออ ออไปกับฮานะ
"งั้นมาลองกันมั๊ยละ ถ้าเบโตะสามารถชนะฉันได้โดยไม่ใช้พลังจิ้งจอกละนะ"ยาตะเริ่มพูดอย่างท้าทาย
"เบโตะ นาย จะแพ้ ไม่ได้นะ!"ฮานะพูดพร้อมกับหันไปทางเบโตะ แต่เธอกลับเห็นเบโตะตัวสั่นและหน้าซีดเซียว
"อาว! รู้สึกจะ...ชื่อ..คุณฮานะสินะมันใจรึปล่าวละ"ยาตะพูดเยยใสฮานะ
"ค่ะ! ฉันมั่นใจในเบโตะเพื่อนของฉัน"ฮานะ พูด อย่างมั่นใจ
"ชิ! งั้นเจอที่หน้าโรงเรียนนะเบ..โตะ"ยาตะพูดพร้อมกลับออกไปรอที่หน้าโรงเรียน
"นี่!ทั้งสองคน จะชนะ ใช่มั๊ย?"แต่ เบโตะ กับ นิฟ
ก็เงียบไม่ตอบอะไร......
งั้นการประลองเริ่มได้อาจารย์ทาจิบานะ
พูดเพื่อให้สัญญาณ ว่า สามารถเริ่มได้เลย
"อิริกะ!"ทั้งสองคนพูดเพื่อเริ่มการประลอง(อิริกะ คือ คำที่ใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายต้องการเริ่มการการประลอง)
นิฟเปลี่ยนเป็นมีดแล้วหมุนควงแล้ว
เบโตะก็จับที่ด่ามมีด ส่วนอาวุธของยาตะนั้นคือดาบเวทมนต์ขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างประหลาด
และมีอัคขระประหลาดที่ไม่ใช้ของภูติ ปีศาจ และ
เทพ ใช้แล้วมันคืออัคขระที่ถูกสร้างขึ้นมาจากมนุษย์ ถึงจะมีพลังไม่เท่าอัคขระของสายอื่นแต่ถือได้ว่าเป็นอาวุธสุดยอดของมนุษย์เช่นกัน เธอเริ่มตั้งท่า เตรียมค่อสู้โดยเอามือซ้ายขวั้ยหลังไว้
หันข้างแล้วชี้ปลายดาบไปที่เบโตะ ส่วนทางเบโตะก็ทำท้าเหมือนเริ่มตังกะมวยแต่ถือมีดไว้มือขวา แล้วเป็นฝ่ายของยาตะที่เริ่มโจมตีก่อน
โดยการแทงกวัดดาบไปมา และ มือขวาก็กลับมาอยู่ในระดับคาง แล้วเริ่มกวัดต่ออย่างรวดเร็วราวกับสายลมกันโชคงดงาม แน่นอนว่าเบโตะที่ไม่ได้ฝึกทักษะการต่อสู้อย่างจริงจังยิ่งไม่ใช้คู่มือ และ พลังของจิ้งจอกแล้ว ย่อมไม่สามารถสู้กับพลังของยาตะที่ฝึกทักษะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก
ได้แน่นอน เบโตะทำได้เพียงหลบการโจมตี และ ปัดออกไปเท่านั้นำไม่สามารถส่วนกลับได้ แต่ว่า
ถึงจะ ปัด และ หลบการโจมตีได้แต่ก็ หลบได้ไม่หมดจึงได้รับความเสียหายมาในระดับนึงเลย แต่ถึงอย่างนั้นยาตะก็ไม่สน และ กระหน่ำโจมตีต่อไปโดยไม่สนชีวิตของเบโตะ เพื่อกดดันให้เบโตะใหใช้พลังของจิ้งจอก
ในการต่อสู้ที่กดดันนิฟได้พูดขึ้น"เบโตะ ถ้ายังเป็นแบบนี้เราแย่แน่"
"อาว! เบโตะถ้านายไม่ใช้พลังนายตายแน่"
'ยังไงก็ ให้ ทุกครรู้ไม่ได้เด็ดขาดไม่ว่ายังไงก็ตาม'
เบโตะได้แต่คิดเตือนตนเองไว้ การต่อสู้ยืดยาวจนถึงตอนเที่ยง โดยเบโตะเป็นฝ่ายบาดเจ็บเพียงฝ่ายเดียว จนอาการสาหัสจนจะยืนยังแทบไม่
หวัยแต่เบโตะก็ยังยืนอยู่ ทุกคนในห้องจึงเริ่มโห่ใส่ยาตะ ว่า หาเรื่อง คน ไม่มีทาง สู้
"ทุกคน....ทำไม....ต้องว่าฉันด้วยละแค่จะทำให้ทุกคนรู้"ยาตะร้องไห้และพูดทั้งน้ำตา
เบโตะเมื่อเห็นยาตะที่เป็นคนรู้จักในสมัยเด็กร้องไห้ เขาจึงคุกเข่าซุดลง พร้อมเงยหน้ามองดิน
ยาตะจึงคิดจะปิดฉาก และเดินไปตรงหน้าเบโตะ
แต่ ทันใดนั้น
ก็มีปีศาจตัวใหญ่ยักษ์ ปรากฎขึ้น ที่ หน้าประตู โรงเรียน และ เริ่ม ทำลาย อาคม ของโรงเรียน "เจ้า ปีศาจนั้น โง่ ชัดๆ ไม่มีอะไรทำทลายเขตอาคมได้หรอก"นักเรียน คนหนึ่ง พูดขึ้น
"เพร๊ง" เขตอาคมแตกเป็นรูแล้วปีศาจก็เข้ามาในตัวโรงเรียน ทุกคนตื่นตระหนกและตกใจวิ่งหนีกันพล่าน จึงทำให้การประลองหยุดกลางคันเบตะจึงซุดลกองกับพื้นทันที ส่วนทางยาตะที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจึงแค่หมดแรงเล็กน้อย
ยาตะจึงคิดที่จะจัดการกับ ปีศาจ แต่ พลังของยาตะทำอะไรไม่ได้เลย ยาตะจึงบาดเจ็บหนัก ในระหว่างที่ปีศาจง้างดาบยักษ์กำลังจะ ฆ่ายาตะนั้น
เบโตะจะทำอย่างไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ