The Red Eye Blood ดวงตาแดงเลือด
8.2
เขียนโดย Bloodlas
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.32 น.
51 ตอน
6 วิจารณ์
49.34K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม พ.ศ. 2561 00.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
30) ถ้ำสี่ฤดู
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ณ ห้องรับแขกบ้านคุณปู่
ฉันกับพี่ฮาเอล มานั่งในห้องรับแขก ฉันอธิบายสาเหตุที่เดินทางมาให้ท่านปู่ฟังและบอกคำขอของคุณแม่ให้ฟังอีก
"ปู่เข้าใจละ ปู่จะฝึกให้ตามที่ขอ" เหอ
"ขอบพระคุณมากค่ะ
"แต่ปู่ไม่ใช่คนที่ฝึกหลานน่ะ
"แล้วไครจะมาฝึกให้ล่ะค่ะ
"เจอก็จะรู้เอง ตามมาจะเริ่มกันเลยบอกว่ามีเวลาไม่มากนิ
ฉันกับพี่ฮาเอล เราเดินตามท่านปู่ไปเรื่อยๆ เดินเข้าในป่าผ่านทานน้ำ ผ่านหน้าผาไปเรื่อยๆประมานครึ่งชั่วโมง เรามาถึงหน้าถ้ำแห่งนึง
"ที่นี้และที่หลานจะต้องเข้าไปฝึก ถ้ำสี่ฤดู
"เออในนี้จะมีคนอยู่จริงๆหลอค่ะท่านปู่
"มีสิ เออปู่จะบอกอะไรก่อนสภาพอากาศในถ้ำมันผันอย่างมากนะ เอาล่ะถ้าพร้อมก็เข้าไปได้เลย
"ขอบคุณมากค่ะปู่ พี่ฮาเอลฝากสัมภาระหน่อยค่ะ
"ได้สิมาเดวพี่ดูให้" พี่ฮาเอลรับสัมภาระใว้
ฉันเตรียมตัวเท่าที่ทำได้ แต่ตอนจะร่ายเวทย์ใส่ตัวเองปู่ห้ามใว้ ท่านบอกหากร่ายเข้าไปจะไม่เจอคนที่จะฝึกสอน ฉันเลยต้องเข้าถ้ำทั้งแบบนั้น ก่อนเข้าไปก็หันไปบอกพี่ฮาเอล "หนูไปก่อนนะแล้วเจอกันค่ะพี่สาว" ฉันก้าวเดินมาในถ้ำที่ค่อยๆมืดลงมืดลง จนผึ้งตาไม่ได้ ต้องใช้มือคำทางไปเรื่อยๆ
มุม ฮาเอล : ตัวฉันที่ยืนมอง องค์หญิงที่เดินเข้าถ้ำแล้วค่อยๆลับตาไป เราทำได้แค่นี้สินะ
"สาวน้อยเธอเป็นไครกันแน่ ฉันจำได้ว่าลูกชายกับสะไภ้ฉันมีแค่ลูกสาวคนเดียวนิ" ท่านปู่ขององค์หญิงถามมา
"ที่จริงฉันเป็นผู้พิทักษ์ของแม่มิซาเนะ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเลยกลายเป็นพี่สาวน่ะค่ะ
"เธอก็เป็นผู้ใช้เวทมนต์ตะวันตกสินะ ช่วยอะไรหน่อยสิ
"อะไรหรือค่ะท่านปู่
"ช่วยกางค่ายเวทย์ กันทุกอย่างที่ไม่ใช่หลานมิซาเนะออกด้วย
"รับทราบค่ะ
จบมุม ฮาเอล
แย่จริงตาก็มองไม่ให้และตอนนี้สัมผัสที่มือเริ่มแย่ลงแล้วด้วย มันเริ่มหนาวแล้วหน้าวจริงๆ หนาวจนมือชาไปหมด ไม่แย่แน่แบบนี้ แต่ผ่านไปไม่นานอากาศก็ร้อนขึ้นฉับพลันเล่นเอาหน้ามืดเลยแต่ยังดีที่ไม่ถึงกับเป็นลมล้มพับ เดินไปอีกหน่อยมีน้ำหยุดบนหัวเหมือนฝน ฝน? ในถ้ำไม่น่ามีฝนตกนี้ และแล้วอากาศรอบตัวก็ปั่นป่วนไปหมดไม่ไหวแล้ว
แม่หนูแม่หนู ฝื้นได้แล้ว
อะแสบตาจังเอ๊ะท้องฟ้าหลอ แต่เราอยู่ในถ้ำไม่ใช่หลอ แต่นี้มันสว่างนี้ไม่ใช่ในถ้ำแล้วนี้ที่ไหนฉันลุกขึ้นดูเป็นศาลาไม้ ฉันลุกเดินดูรอบๆ ก็เจอผู้หญิงคนนึงอยู่ใกล้ เอ๊ะผู้หญิงทำไมชีวิตฉันเจอแต่ผู้หญิงไม่เจอผู้ชายบ้างนะ เหออย่าให้คาสึเมะรู้ความคิดนี้เชียวเดียวโดนงอล ผู้หญิงคนแต่งตัวในชุดมิกโกะ
"ขอบโทษนะค่ะ ทราบรึป่าวค่ะว่าที่นี้ที่ไหน" ฉันผู้หญิงคนนั้นที่หันหลังให้อยู่
"ที่ ที่เธออยากมาไงแม่หนู" ผู้หญิงคนนั้นหันมาตอบ
"หรือว่าคุณคือคนที่ปู่บอกว่าจะสอนวิชาฉัน
"ใช่จะ เธอคงเป็นลูกหลานฉันสินะ ไปกินข้าวกันก่อนแล้วฉันจะสอนให้" เธอพูดแล้วยิ้ม
ฉันเดินตามเธอไป ไปที่ศาลเจ้าแห่งนึง มันเหมือนมันเหมือนศาลเจ้าที่ปู่อยู่เลย แต่แค่ดูสะอาดและใหม่กว่ามาก ฉันเข้ามาในบ้านผู้หญิงคนนั้นบอกให้ฉันนั่งลอที่ห้องรับแขก
"อะนี้จะ ข้าวปั้นกับชาจะ" เธอยกมาวางให้
"ขอโทษนะค่ะคุณชื่ออะไร
"นั้นสินะ ฉันชื่อซุยเมย์
"ค่ะ หนูชื่อมิซาเนะ จากนี้ฝากตัวด้วยค่ะ
หลังจากกินข้าวเสร็จ อาจารย์ซุยเมย์ก็ได้ให้ฉันไปเปลี่ยนชุดเป็นชุด มิกโกะมันหวิวๆยังไงไม่รู้ไม่มีกางเกงในสำรองมาด้วยแย่จริง ลำบากจริงเวลานั่งก็ต้องค่อยละวัง คงเย็บขึ้นมาเองสินะเหอชีวิต หลังจากนั้นอาจารย์ซุยเมย์ก็เริ่มสอนหลักการของวิชา มันคือวิชาองเมียวจิที่ถนัดการผนึกและกักขัง อีกคือการอัญเชิญวิญญาณที่ทำสัญญาด้วย แต่การใช้วิชาส่วนมากต้องมีสื่อกลางคือยันนั้นเอง ก่อนอื่นต้องเรียนรู้อีกศรที่ใช้เขียนยันและรูปแบบยัน และท่านก็สอนการใช้วิชาผนึกดาวห้าแชกและการกลางเขตป้องกันและเขตอาคมที่ลดทอนประสิทธิภาพเวทมนต์อีกฝ่าย
"อาจารย์ค่ะ วิชาพวกนี้มันมีรูปแบบที่ตายตัวรึป่าวค่ะ
"มันไม่ตายตัว หากวันไดที่มันตายตัวนั้นคือวันที่เราหยุดพัฒนา
"มันสามารเปลี่ยนแปลงได้สินะ
หลังจากสอนพื้นฐานวิชาการผนึกและการป้องกันและเขตแดนเสร็จ ก็สอนการอัญเชิญชิกิงามิให้ ตอนแรกให้ชั้นฝึกควบคุมชิกิงามิกระดาษรูปคนให้เดินได้จนคล้อง และเริ่มฝึกให้อัญเชิญวิญญาณมาในรูปแบบชิกิงามิ และทำความเข้าใจในดาวห้าแชก พอเรียนรู้จากอาจารย์ซุยเมย์มากขึ้นทุกวันๆ ก็เริ่มเข้าใจว่าเวทมนต์ที่ฉันเรียนรู้มา หากได้ทำความเข้าใจกับวิชาองค์เมียวจิมันจะทำให้เราสามารถใช้พวกเวทมนต์ต่างได้ง่ายขึ้นคล่องขึ้น แล้วที่สำคัญคือเราสามารถใช้ยันในการร่ายเวทย์ล้วงหน้าได้อีก
"อาจารย์ค่ะ นี้ผ่านมานานเท่าไหร่ล่ะค่ะ
"อย่าถามจะดีกว่า ถึงเวลาแล้วฉันจะบอกเอง
"ถึงเวลา ??
คำว่าถึงเวลาของอาจารย์ซุยเมย์มันคืออะไรน่ะ ฉันฝึกทุกวันจนเวลาผ่านไปนานเข้าเส้นผมเริ่มยาวขึ้นเรื่อย ผ่านไปผ่านไป จนมาถึงวันนี้
"มิซาเนะศิษย์เรา เราหมดแล้วซึ้งความรู้ที่จะสอนคงต้องลาจากกันเพียงเท่านี้
"ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ซุยเมย์
"เธอเดินไปตามทางนี้เรื่อยๆ แล้วจะถึงทางออกเองส่วนชุดนั้นฉันยกให้" แล้วชี้ทางให้
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณสำหลับที่ผ่านมา
"ฉันนี้ไม่ชินซักทีกับการจากลาแบบนี้ ทั้งทีเจอมานั้บครั้งไม่ถ้วน" อาจารย์หันหลังให้แล้วพูดออกมาว่าลาก่อน
ฉันทำได้เพียงแค่หันหลังเดินจากมาและภาวนาให้ได้พบกันอีกครั้ง
ติดตามตอนต่อไป
ฉันกับพี่ฮาเอล มานั่งในห้องรับแขก ฉันอธิบายสาเหตุที่เดินทางมาให้ท่านปู่ฟังและบอกคำขอของคุณแม่ให้ฟังอีก
"ปู่เข้าใจละ ปู่จะฝึกให้ตามที่ขอ" เหอ
"ขอบพระคุณมากค่ะ
"แต่ปู่ไม่ใช่คนที่ฝึกหลานน่ะ
"แล้วไครจะมาฝึกให้ล่ะค่ะ
"เจอก็จะรู้เอง ตามมาจะเริ่มกันเลยบอกว่ามีเวลาไม่มากนิ
ฉันกับพี่ฮาเอล เราเดินตามท่านปู่ไปเรื่อยๆ เดินเข้าในป่าผ่านทานน้ำ ผ่านหน้าผาไปเรื่อยๆประมานครึ่งชั่วโมง เรามาถึงหน้าถ้ำแห่งนึง
"ที่นี้และที่หลานจะต้องเข้าไปฝึก ถ้ำสี่ฤดู
"เออในนี้จะมีคนอยู่จริงๆหลอค่ะท่านปู่
"มีสิ เออปู่จะบอกอะไรก่อนสภาพอากาศในถ้ำมันผันอย่างมากนะ เอาล่ะถ้าพร้อมก็เข้าไปได้เลย
"ขอบคุณมากค่ะปู่ พี่ฮาเอลฝากสัมภาระหน่อยค่ะ
"ได้สิมาเดวพี่ดูให้" พี่ฮาเอลรับสัมภาระใว้
ฉันเตรียมตัวเท่าที่ทำได้ แต่ตอนจะร่ายเวทย์ใส่ตัวเองปู่ห้ามใว้ ท่านบอกหากร่ายเข้าไปจะไม่เจอคนที่จะฝึกสอน ฉันเลยต้องเข้าถ้ำทั้งแบบนั้น ก่อนเข้าไปก็หันไปบอกพี่ฮาเอล "หนูไปก่อนนะแล้วเจอกันค่ะพี่สาว" ฉันก้าวเดินมาในถ้ำที่ค่อยๆมืดลงมืดลง จนผึ้งตาไม่ได้ ต้องใช้มือคำทางไปเรื่อยๆ
มุม ฮาเอล : ตัวฉันที่ยืนมอง องค์หญิงที่เดินเข้าถ้ำแล้วค่อยๆลับตาไป เราทำได้แค่นี้สินะ
"สาวน้อยเธอเป็นไครกันแน่ ฉันจำได้ว่าลูกชายกับสะไภ้ฉันมีแค่ลูกสาวคนเดียวนิ" ท่านปู่ขององค์หญิงถามมา
"ที่จริงฉันเป็นผู้พิทักษ์ของแม่มิซาเนะ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเลยกลายเป็นพี่สาวน่ะค่ะ
"เธอก็เป็นผู้ใช้เวทมนต์ตะวันตกสินะ ช่วยอะไรหน่อยสิ
"อะไรหรือค่ะท่านปู่
"ช่วยกางค่ายเวทย์ กันทุกอย่างที่ไม่ใช่หลานมิซาเนะออกด้วย
"รับทราบค่ะ
จบมุม ฮาเอล
แย่จริงตาก็มองไม่ให้และตอนนี้สัมผัสที่มือเริ่มแย่ลงแล้วด้วย มันเริ่มหนาวแล้วหน้าวจริงๆ หนาวจนมือชาไปหมด ไม่แย่แน่แบบนี้ แต่ผ่านไปไม่นานอากาศก็ร้อนขึ้นฉับพลันเล่นเอาหน้ามืดเลยแต่ยังดีที่ไม่ถึงกับเป็นลมล้มพับ เดินไปอีกหน่อยมีน้ำหยุดบนหัวเหมือนฝน ฝน? ในถ้ำไม่น่ามีฝนตกนี้ และแล้วอากาศรอบตัวก็ปั่นป่วนไปหมดไม่ไหวแล้ว
แม่หนูแม่หนู ฝื้นได้แล้ว
อะแสบตาจังเอ๊ะท้องฟ้าหลอ แต่เราอยู่ในถ้ำไม่ใช่หลอ แต่นี้มันสว่างนี้ไม่ใช่ในถ้ำแล้วนี้ที่ไหนฉันลุกขึ้นดูเป็นศาลาไม้ ฉันลุกเดินดูรอบๆ ก็เจอผู้หญิงคนนึงอยู่ใกล้ เอ๊ะผู้หญิงทำไมชีวิตฉันเจอแต่ผู้หญิงไม่เจอผู้ชายบ้างนะ เหออย่าให้คาสึเมะรู้ความคิดนี้เชียวเดียวโดนงอล ผู้หญิงคนแต่งตัวในชุดมิกโกะ
"ขอบโทษนะค่ะ ทราบรึป่าวค่ะว่าที่นี้ที่ไหน" ฉันผู้หญิงคนนั้นที่หันหลังให้อยู่
"ที่ ที่เธออยากมาไงแม่หนู" ผู้หญิงคนนั้นหันมาตอบ
"หรือว่าคุณคือคนที่ปู่บอกว่าจะสอนวิชาฉัน
"ใช่จะ เธอคงเป็นลูกหลานฉันสินะ ไปกินข้าวกันก่อนแล้วฉันจะสอนให้" เธอพูดแล้วยิ้ม
ฉันเดินตามเธอไป ไปที่ศาลเจ้าแห่งนึง มันเหมือนมันเหมือนศาลเจ้าที่ปู่อยู่เลย แต่แค่ดูสะอาดและใหม่กว่ามาก ฉันเข้ามาในบ้านผู้หญิงคนนั้นบอกให้ฉันนั่งลอที่ห้องรับแขก
"อะนี้จะ ข้าวปั้นกับชาจะ" เธอยกมาวางให้
"ขอโทษนะค่ะคุณชื่ออะไร
"นั้นสินะ ฉันชื่อซุยเมย์
"ค่ะ หนูชื่อมิซาเนะ จากนี้ฝากตัวด้วยค่ะ
หลังจากกินข้าวเสร็จ อาจารย์ซุยเมย์ก็ได้ให้ฉันไปเปลี่ยนชุดเป็นชุด มิกโกะมันหวิวๆยังไงไม่รู้ไม่มีกางเกงในสำรองมาด้วยแย่จริง ลำบากจริงเวลานั่งก็ต้องค่อยละวัง คงเย็บขึ้นมาเองสินะเหอชีวิต หลังจากนั้นอาจารย์ซุยเมย์ก็เริ่มสอนหลักการของวิชา มันคือวิชาองเมียวจิที่ถนัดการผนึกและกักขัง อีกคือการอัญเชิญวิญญาณที่ทำสัญญาด้วย แต่การใช้วิชาส่วนมากต้องมีสื่อกลางคือยันนั้นเอง ก่อนอื่นต้องเรียนรู้อีกศรที่ใช้เขียนยันและรูปแบบยัน และท่านก็สอนการใช้วิชาผนึกดาวห้าแชกและการกลางเขตป้องกันและเขตอาคมที่ลดทอนประสิทธิภาพเวทมนต์อีกฝ่าย
"อาจารย์ค่ะ วิชาพวกนี้มันมีรูปแบบที่ตายตัวรึป่าวค่ะ
"มันไม่ตายตัว หากวันไดที่มันตายตัวนั้นคือวันที่เราหยุดพัฒนา
"มันสามารเปลี่ยนแปลงได้สินะ
หลังจากสอนพื้นฐานวิชาการผนึกและการป้องกันและเขตแดนเสร็จ ก็สอนการอัญเชิญชิกิงามิให้ ตอนแรกให้ชั้นฝึกควบคุมชิกิงามิกระดาษรูปคนให้เดินได้จนคล้อง และเริ่มฝึกให้อัญเชิญวิญญาณมาในรูปแบบชิกิงามิ และทำความเข้าใจในดาวห้าแชก พอเรียนรู้จากอาจารย์ซุยเมย์มากขึ้นทุกวันๆ ก็เริ่มเข้าใจว่าเวทมนต์ที่ฉันเรียนรู้มา หากได้ทำความเข้าใจกับวิชาองค์เมียวจิมันจะทำให้เราสามารถใช้พวกเวทมนต์ต่างได้ง่ายขึ้นคล่องขึ้น แล้วที่สำคัญคือเราสามารถใช้ยันในการร่ายเวทย์ล้วงหน้าได้อีก
"อาจารย์ค่ะ นี้ผ่านมานานเท่าไหร่ล่ะค่ะ
"อย่าถามจะดีกว่า ถึงเวลาแล้วฉันจะบอกเอง
"ถึงเวลา ??
คำว่าถึงเวลาของอาจารย์ซุยเมย์มันคืออะไรน่ะ ฉันฝึกทุกวันจนเวลาผ่านไปนานเข้าเส้นผมเริ่มยาวขึ้นเรื่อย ผ่านไปผ่านไป จนมาถึงวันนี้
"มิซาเนะศิษย์เรา เราหมดแล้วซึ้งความรู้ที่จะสอนคงต้องลาจากกันเพียงเท่านี้
"ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ซุยเมย์
"เธอเดินไปตามทางนี้เรื่อยๆ แล้วจะถึงทางออกเองส่วนชุดนั้นฉันยกให้" แล้วชี้ทางให้
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณสำหลับที่ผ่านมา
"ฉันนี้ไม่ชินซักทีกับการจากลาแบบนี้ ทั้งทีเจอมานั้บครั้งไม่ถ้วน" อาจารย์หันหลังให้แล้วพูดออกมาว่าลาก่อน
ฉันทำได้เพียงแค่หันหลังเดินจากมาและภาวนาให้ได้พบกันอีกครั้ง
ติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ