ชมพูนาคี

9.7

วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.17 น.

  10 ตอน
  3 วิจารณ์
  14.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2562 14.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) พิษนาคา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                         "ท่านพ่อ"  ชมพูนาคีตะโกนสุดเสียงและตื่นจากฝันร้ายพร้อมเหงื่อโทรมกายเนื้อตัวสั่นระริก

  

                ครุฑาเทพสะดุ้งตื่นจากภวังค์แห่งฝันหวานเมื่อมีเสียงดังรบกวน  พอตั้งสติได้แล้วครุฑาเทพก็ถามคนในอ้อมกอดด้วยความร้อนใจว่า

 

                "ชมพู! เจ้าเป็นอะไร  ร้องทำไม"

 

                "ข้า..ข้าฝันร้าย.."  ชมพูนาคีรีบเหวี่ยงตัวให้หลุดจากอ้อมกอดหลวมๆ ที่พันธนาการนางไว้พร้อมกับระร่ำระลักบอกคนที่ยื่นจมูกคมมาถามจนเกือบชนแก้มของนาง  

 

                "เจ้าฝันว่ายังไงหือ..เล่าให้ข้าฟังได้ไม๊"  ครุฑาเทพถามชมพูนาคีด้วยความสงสัย

 

                แต่สำหรับชมพูนาคีแล้ว  คนที่มีใบหน้าหล่อเหลาแถมทำหน้าทะเล้นอยู่ตรงหน้านี้เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่สมควรที่จะรู้เรื่องราวใดๆ ของนาง  แต่นางก็เลี่ยงตอบไปแบบถนอมน้ำใจครุฑาเทพเพียงสั้นๆ และหลบสายตาที่จ้องมาเขม็งว่า

 

                "ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังแน่เมื่อข้าพร้อมที่จะเล่า"

 

                ครุฑาเทพก็เข้าใจทันทีว่านางคงไม่ไว้ตนจึงไม่ได้ซักไซร้อะไรให้มากความ  เลยเปิดประเด็นสนทนาเรื่องใหม่กับชมพูนาคีว่า 

 

                "แล้วเจ้าจะให้ข้าไปส่งที่ไหน"  ครุฑาเทพคิดว่านางคงอยากไปจากตนให้เร็วที่สุด  เลยไม่ได้คิดฝืนใจนาง  แต่ก็อดใจหายไม่ได้ที่ต้องจากคนที่ตนนอนกอดมาทั้งคืน  ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่แสนสั้นที่ได้อยู่ร่วมกันแต่สำหรับครุฑาเทพแล้วมันคือช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดที่ได้สัมผัสเนื้อกายอันอ่อนนุ่มและกลิ่นกายอันหอมละมุนชวนฝัน  แถมยังเป็นเจ้าของดวงตากลมโตคล้ายกระต่ายป่าอีก  ใช่สิ!  สำหรับครุฑาเทพแล้ว  นางช่างเหมือนกระต่ายป่าซะจริง  ผู้หญิงอะไร  ขี้ตกใจง่าย  ขี้หวาดระแวง  ครุฑาเทพนึกขำในใจจนเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ

 

                "เจ้าหัวเราะอะไรไม่ทราบ"  ชมพูนาคีถามคนตรงหน้าด้วยกริยากวนนิดๆ และจ้องหน้าอีกฝ่ายเพื่อจับพิรุธ

 

                "ข้านึกขำกระต่ายป่าหน่ะ  ไม่มีอะไรหรอก"  ครุฑาเทพตอบกลบเกลื่อนความรู้สึก  แล้วแสร้งทำหน้าเคร่งขรึมขบกราม

 

                "งั้นเจ้าช่วยพาข้าไปตามทางนี้"  ชมพูนาคีชี้บอกทิศทางที่นางจากมา  ก่อนพลัดตกจากภูเขา

 

                "ได้สิ"  ครุฑาเทพตอบตกลงอย่างว่าง่าย  ก่อนเดินนำชมพูนาคีออกมาจากถ้ำ  

 

                "ระหว่างเดินทางเจ้าต้องกินอะไรบ้างนะ  เดี๋ยวเจ้าจะไม่มีแรงเดิน  ข้างหน้านั่นมีป่าผลไม้ทิพย์  ข้าจะไปเก็บให้เจ้ากิน"  ครุฑาเทพบอกชมพูนาคีด้วยความห่วงใย  เมื่อพาชมพูนาคีเดินมาได้สักครึ่งโยชน์  เพราะสังเกตเห็นชมพูนาคีเริ่มเหนื่อยหอบและเริ่มเดินช้าลง

 

                "เจ้าจงไปนั่งรอข้าที่โขดหินนั้นสักประเดี๋ยว  ไม่นานเกินไปนัก  ข้าจะมาพร้อมกับผลไม้ทิพย์"  ครุฑาเทพชี้นิ้วบอกชมพูนาคีให้ไปนั่งรอที่โขดหินใต้ร่มไม้ข้างๆ ลำธารที่มีน้ำใสจนมองเห็นก้อนกรวดใต้ผิวน้ำนั้น  

 

                ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากกล่องเสียงของอีกฝ่าย  มีแต่การพยักหน้ารับรู้เท่านั้น

 

                "นี่เราก็เดินมาไกลจากนางแล้ว  เราใช้ปีกบินขึ้นไปเก็บผลไม้ทิพย์น่าจะสะดวกกว่า"

 

                ครุฑาเทพรำพึงกับตัวเองเบาๆ

 

                ในขณะที่กำลังเก็บผลไม้เพลินๆ อยู่นั้น  พลันก็มีลูกธนูพุ่งมาทางครุฑาเทพหมายจะปลิดชีพ  เสียงลูกธนูพุ่งปะทะกับอากาศดังเฟี๊ยว  แต่ครุฑาเทพบินหลบทัน

 

                ครุฑาเทพรีบหันไปหาแหล่งที่มาของลูกธนูทันที  ภาพที่เห็นคือ  ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์รุ่นราวคราวเดียวกับครุฑาเทพกำลังเหนี่ยวคันธนูเพื่อจะยิงลูกธนูดอกต่อไปซ้ำเป้าหมายเดิมด้วยความมุ่งมั่นที่จะฆ่าอีกฝ่ายให้ได้

 

                แต่ครุฑาเทพร้องห้ามเสียงดังว่า

 

                "เดี๋ยวก่อน! หยุดก่อน!  เราไม่เคยรู้จักกัน  ไฉนเจ้าจึงจ้องทำร้ายข้าถึงชีวิตเพียงนี้"

 

                คำพูดนั้นยิ่งทำให้โทสะของสุคินนาคาแรงกล้าหนักขึ้นจนเลือดฉีดขึ้นหน้าจนแดงก่ำ

                "เจ้ารึไม่รู้จักกับข้า  เจ้าพาพวกของเจ้าดักซุ่มโจมตีข้าและเหล่าพี่น้องของข้าจนตายเกือบหมดสิ้น  เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าแบบนี้อีกรึ"  

 

                สุคินนาคาพูดจบพอๆกับกำลังจะปล่อยธนูดอกต่อไปสังหารเป้าหมายด้วยความโกรธแค้น

 

                "หยุดก่อน! ฟังข้าก่อน!"  ครุฑาเทพอ้อนวอนอีกฝ่ายที่เตรียมเล็งธนูมายังตนซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากครุฑาเทพมากนักเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจ  

 

                "ข้าคิดว่าท่านคงเข้าใจผิด  ข้าพึ่งเห็นท่านครั้งแรก  แล้วท่านก็ยิงธนูใส่ข้าโดยไม่ได้ถามข้าเลยสักคำ"

 

                "เหตุใดข้าต้องถามอะไรเจ้าให้มากความ  วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้ว  ตายซะเถอะ!  ไอ้ครุฑชั่ว!"  สุคินนาคาเล็งธนูมาที่ครุฑาเทพอีกครั้ง  ทำให้ครุฑาเทพไม่มีโอกาสกล่าวอะไรอีก  และกำลังตัดสินใจที่จะบินหนีไป  แต่ใจหนึ่งก็นึกห่วงชมพูนาคี  ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไงดี  ในใจมันสับสนไปหมด

 

                ทันใดนั้นเจ้าของเสียงที่ครุฑาเทพห่วงใยก็เรียกอีกฝ่ายว่า "ท่านพี่!"  ครุฑาเทพเข้าใจว่านางคงรู้จักกับชายผู้หมายเอาชีวิตตนในเวลานี้  เลยคิดตัดสินใจที่จะบินหนีไปตั้งหลักก่อน  แต่สุคินนาคาไม่ปล่อยให้ครุฑาเทพหนีไปได้โดยง่าย  จึงใช้อาวุธขั้นสุดท้ายในการสังหารครุฑาเทพโดยการกลับคืนร่างเดิมแล้วพ่นพิษใส่ครุฑาเทพฉับพลัน  ครุฑาเทพได้รับพิษนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว  พิษของสุคินนาคาได้แพร่กระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว  ทำให้ครุฑาเทพรู้สึกปวดแสบปวดร้อนเหมือนถูกไฟเผาทั่วร่าง  ก่อนที่จะฝืนแข็งใจบินหนีหายกลับไปยังวิมานสิมพลีของตน แล้วสลบไปในเวลาไม่นานอยู่ใกล้กับพระบาทของบิดา

 

           

 

                

 

 

 

 

 

 

 

 

                

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา