ชมพูนาคี

9.7

วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.17 น.

  10 ตอน
  3 วิจารณ์
  14.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2562 14.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ป่าหิมพานต์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                ดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมละมุนมาตามสายลม  กระทบโสตประสาทการรับกลิ่นของเหล่านาคาทุกตน  กลิ่นหอมที่มหัศจรรย์นั้น  ช่วยปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าทั่วกายมลายสิ้นไป  นาคทุกตนต่างสูดดมความหอมของกลิ่นดอกไม้เข้าเต็มปอดด้วยใบหน้าสดชื่นเหมือนพึ่งตื่นนอนใหม่ ๆ ทั้งที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืนเพราะเดินทางไกล
 
           "กลิ่นหอมของดอกอะไรกันนะ  กลิ่นหอมอ่อน ๆ  คล้ายข้าวเปลือกนึ่งผสมกับกลิ่นหอมของดอกราตรี  ช่างหอมเย็นละมุนละไมอะไรปานนี้"  ชมพูนาคีพูดพลางยิ้มไปอย่างมีความสุข
 
           "กลิ่นหอมของดอกไม้ทิพย์หน่ะลูก  ซึ่งจะเบ่งบานและส่งกลิ่นหอมอยู่ตลอดเวลา  ไม่มีวันเหี่ยวเฉา"  นางแก้วกานดานาคีบอกลูกสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
 
           "ไม่ต้องรดน้ำ  ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเหมือนดอกไม้ในเมืองมนุษย์ใช่ไม๊เจ้าคะท่านแม่"  ชมพูนาคีซักถามมารดาต่อด้วยความสงสัย
 
            "ใช่แล้วจ้าลูกรัก  ดอกไม้ทิพย์จะเบ่งบานและส่งกลิ่นหอมเป็นนิรันดร์"
 
            "โห...ช่างน่าอัศจรรย์ใจอะไรถึงเพียงนี้เจ้าคะท่านแม่  ตั้งแต่ลูกเกิดมาก็ยังไม่เคยพบเห็นสิ่งมหัศจรรย์ใจอะไรแบบนี้มาก่อนเลยเจ้าค่ะ"  ชมพูนาคีรำพึงรำพันต่อมารดา
 
            "เจ้าไม่แปลกใจบ้างเลยรึชมพูนาคี...ว่าทำไมเจ้าจึงพบเห็นสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้...ก็เพราะที่นี่...ไม่ใช่ป่าอาถรรพ์ที่เราเคยเดินทางข้ามมาอย่างไรเล่าลูกรัก"
            ท้าวนาคินถามลูกสาวพลางนึกขำจนปิดไม่มิด
 
            "ที่นี่คือป่าหิมพานต์ใช่ไม๊ขอรับท่านพ่อ  ลูกทราบจากการค้นคว้าในตำราขอรับ"
            สุคินนาคาแสดงความคิดเห็นต่อบิดา
 
            "เจ้าช่างเป็นผู้เฉลียวฉลาดยิ่งนักลูกรัก...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถูกต้องแล้ว  ที่นี่คือป่าหิมพานต์  ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่พ่อกับแม่ตั้งใจพาพวกเจ้ามา"
            ท้าวนาคินหัวเราะชอบใจที่มีลูกฉลาดถึงเพียงนี้
 
            "แต่เดี๋ยวก่อนนะ!  ที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป  พวกเราต้องคอยหลบซ่อนตัวจากศัตรูที่จ้องจะมาทำร้ายพวกเรา"  ท้าวนาคินมีสีหน้าวิตกอย่างเห็นได้ชัด
 
            "พญาครุฑ..."  สุคินนาคากล่าวสั้นๆ  ด้วยใบหน้าเคร่มขรึม
 
            "พญาครุฑ  คือศัตรูของเรา  ถ้าบังเอิญพญาครุฑมาพบพญานาคอย่างพวกเรา...ความตายจะมาเยือนพวกเราจนหมดสิ้น...ดังนั้น...พ่อขอสั่งให้นาคทุกตนจำแลงแปลงกายเป็นมนุษย์เสีย  แล้วจงอย่าเผลอตัวกลับคืนร่างเดิมขณะที่พวกเจ้ายังอยู่ในป่าหิมพานต์"  ท้าวนาคินบอกลูกทุกตนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
 
             เมื่อสิ้นเสียงบิดา  เหล่านาคาน้อยก็จำแลงแปลงกายเป็นมนุษย์ทันที
 
             ชมพูนาคีมีภูษาอาภรณ์อันวิจิตรงดงามด้วยอัญมณีที่เรียงร้อยในเนื้อผ้าดุจตัดเย็บด้วยฝีมืออันประณีต  เรือนกายนางมีกลิ่นหอมคล้ายดอกกล้วยไม้ราตรี  นางมีผมดำขลับเงางามยาวสลวยถึงกลางแผ่นหลัง  ซึ่งตัดกับผิวกายของนางที่เป็นสีขาวอมชมพูนุ่มเนียน  ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล  ชวนให้สัมผัสผิวอันอ่อนนุ่มของนาง  เวลานางย่างเดิน  นางช่างสง่างามดุจนางหงส์ด้วยรูปร่างสูงโปร่งสะดุจตา  ใบหน้านางงามผุดผ่องเหมือนต้องแสงจันทร์  คิ้วโก่งดั่งคันศร  รับกับดวงตากลมโตที่ชอบช้อนตามองด้วยแววตาเป็นประกายดั่งต้องแสงเทียน  นางมีจมูกโด่งได้รูป  รับกับริมฝีปากอวบอิ่มชวนหลงใหล  อีกทั้งแก้มนางก็แดงระเรื่อเหมือนผลมะเดื่อสุก  ยามนางแย้มยิ้มเห็นไรฟันขาวสะอาดตา พาให้ชวนมองจนต้องเคลิบเคลิ้มตกอยู่ในภวังค์  ลำแขนของนางกลมกลึงดั่งลำเทียน  ที่ต้นแขนเกี่ยวรัดด้วยกำไรนาคี ซึ่งถ้ากำไรนี้หายไป..  นางจะกลับคืนสู่ร่างเดิม...ข้อนี้...นางทราบดี..
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา