ชมพูนาคี
9.7
เขียนโดย หิ่งห้อยใต้เงาจันทร์
วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.17 น.
10 ตอน
3 วิจารณ์
14.49K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2562 14.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ความรักของพ่อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อท้าวเวนไตยเห็นครุฑาเทพนอนสลบแทบเท้าของตนเช่นนั้นก็ให้นึกตกใจยิ่งนักว่าเหตุใดบุตรชายของตนจึงอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่พอท้าวเวยไตยแตะเนื้อตัวบุตรชายดูก็รู้ว่าร้อนดั่งไฟแผดเผา ทำให้ท้าวเวยไตยหวนระลึกนึกถึงอดีตที่ตนเคยประสบมาเมื่อคราวที่ตนต้องพิษนาคาประเภทสัตถมุขนั้น อาการก็เป็นเหมือนดั่งบุตรชายของตนในเพลานี้ ซึ่งพิษชนิดนี้มีฤทธิ์รวดเร็วรุนแรงเหมือนดั่งต้องแสงอสุนีบาต ทำให้ผู้ที่ถูกพิษนี้ดั่งถูกฟ้าผ่า จะปวดแสบปวดร้อน มึนชา และหมดสติไปในที่สุด การถอนพิษนี้ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ เพราะมีเพียงแต่องค์นาคพันธ์ปริวัตรนาคราชเพียงตนเดียวเท่านั้นที่สามารถรักษาและถอนอาถรรพณ์แห่งพิษนี้ได้ แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าการถอนพิษ คือ การเผชิญหน้ากับองค์นาคพันธ์ปริวัตร อริเก่าที่แสนจะเกลียดชังท้าวเวนไตยยิ่งนัก เหตุเพราะในอดีตนั้นท้าวเวนไตยได้ทำให้องค์นาคพันธ์ปริวัตรเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งนัก เนื่องจากเกิดความขัดแย้งกันเรื่องหญิงอันเป็นที่รัก ซึ่งทั้งท้าวเวนไตยและองค์นาคพันธ์ปริวัตรต่างหมายปองหญิงงามซึ่งเป็นธิดาเจ้าแห่งบาดาลฝั่งด้านบูรพาของสระอโนดาต จนเกิดศึกชิงนาง ท้าวเวนไตยเพลื่องพล้ำถูกพิษขององค์นาคพันธ์ปริวัตรจนสลบแน่นิ่งไป แต่ด้วยความรักที่ธิดาบาดาลมีให้ท้าวเวนไตยนั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด นางยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อบูชาความรักของนาง นางได้อ้อนวอนให้องค์นาคพันธ์ปริวัตรถอนพิษนาคาให้ท้าวเวนไตย โดยนางร่ำไห้และกราบแทบพระบาทขององค์นาคพันธ์ปริวัตร ซึ่งยิ่งทำให้องค์นาคพันธ์ปริวัตรยิ่งปวดใจยิ่งนักที่นางไม่ได้รักพระองค์เลย มิหนำซ้ำนางยังยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ท้าวเวนไตยปลอดภัย ด้วยความที่องค์นาคพันธ์ปริวัตรเป็นครึ่งพญานาคครึ่งอสูรจึงทำให้มีนิสัยโหดร้ายดุดัน องค์นาคพันธ์ปริวัตรให้พระนางสละชีวิตของนางเพื่อแลกกับชีวิตของท้าวเวนไตย ทำให้ท้าวเวนไตยรู้สึกผิดต่อนางมาจนถึงทุกวันนี้ และจำฝังใจว่าจิตใจของพญานาคนี้ช่างมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก มิสมควรเลยที่จะมาแลกกับความมากรักของพระองค์และเหล่าชาวครุฑที่นิยมมีนางกินรีสำรองอยู่ในใจมาทุกชั่วรุ่น พระองค์เห็นสมควรว่าตนและเหล่าชาวครุฑควรมีรักเฉพาะนางกินรีเท่านั้น เพื่อจะได้ไม่ต้องให้ความรักที่บริสุทธิ์ของเหล่านางพญานาคต้องมาถูกทำลายเพราะฝีมือชาวครุฑอย่างพระองค์ซ้ำอีก
แต่ด้วยความรักบุตร ท้าวเวนไตยจึงต้องบากหน้าไปขอร้องให้องค์นาคพันธ์ปริวัตรช่วยถอนพิษนาคาให้บุตรชายตน
ท้าวเวนไตยจึงตัดสินใจบินไปพบองค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยความรู้สึกที่บีบคั้นจิตใจ เพราะพระองค์ต้องฝืนใจตนเองเป็นอย่างมากที่จะไปพบกับผู้ที่ดูถูกพระองค์ไว้ว่า "หน้าตัวเมีย" เพราะคำนี้ทำให้ศักดิ์ศรีของพระองค์ถูกลดค่าลงจนแทบจะติดฝุ่นที่เท้าขององค์นาคพันธ์ปริวัตรไว้โดยสิ้น
"องค์นาคพันธ์ปริวัตร ท่านโปรดช่วยบุตรข้าด้วย บุตรข้าถูกพิษนาคา"
ท้าวเวนไตยขอร้ององค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยใบหน้าอันอมทุกข์เศร้าหมอง
"เจ้ายังมีหน้ามาพบข้าอีกเหรอ...หน้าตัวเมียอย่างเจ้าสมควรตายแทนนางอันเป็นที่รักของข้า"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าวด้วยวาจาอันแข็งกร้าวและดุดันด้วยเสียงอันดังกึกก้องดั่งราชสีห์คำราม
"ณ เพลานี้ เจ้าจะกล่าววาจาอันใดที่เป็นการเหยียดหยามข้าเพียงใดข้าไม่ว่า ขอเพียงท่านโปรดช่วยบุตรข้าด้วยเถิด"
ท้าวเวนไตยคุกเข่าขอร้ององค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยความสิ้นหวังและหมดกำลังใจ แต่ก็ฝืนอ้อนวอนต่อไปเผื่อว่าองค์นาคพันธ์ปริวัตรจะมีเมตตาต่อบุตรของพระองค์บ้าง
"เจ้าคงรักบุตรของเจ้ามากสินะ จึงกล้าบากหน้ามาขอร้องข้าเช่นนี้"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรยิ้มเยาะและกล่าววาจาถากถางจิตใจท้าวเวนไตยให้สาแก่ใจตนที่สูญเสียนางอันเป็นที่รักไปเพราะท้าวเวนไตยเป็นต้นเหตุ
"เจ้าอยากรู้ไม๊ว่า...การที่เราเจ็บที่สุด...คือการที่เราต้องทนดูคนที่เรารักตายไปต่อหน้า...โดยที่คนนั้นไม่ได้รักเราเลย"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรบอกสิ่งที่ตนเก็บไว้ในใจมานานให้ท้าวเวนไตยรับรู้ความเจ็บปวดของตนในอดีตจนถึงทุกวันนี้ที่พระองค์มิเคยลืมเลือน
"แล้วท่านจะให้เราทำเช่นใด เพื่อเป็นการชดใช้ให้ท่านจนท่านพอใจ และช่วยบุตรข้า"
ท้าวเวนไตยอ้อนวอนองค์นาคพันธ์ปริวัตรต่อแม้จะสิ้นหวัง
"ข้าจะให้เจ้าแลกชีวิตเจ้ากับบุตรของเจ้า เจ้าทำได้หรือไม่"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรพูดออกมาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเอาจริง
"ถ้าเช่นนั้น ท่านให้ข้าลาบุตรข้าก่อนที่ข้าจะตายได้หรือไม่"
ท้าวเวนไตยกล่าวต่อรองกับองค์นาคพันธ์ปริวัตร
"ได้สิ! เจ้าอย่าผิดคำพูดก็แล้วกัน เจ้าหน้าตัวเมีย"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรยอมตกลงตามเงื่อนไขของท้าวเวนไตย
เมื่อครุฑาเทพฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่ครุฑาเทพนึกถึงคือ ชมพูนาคี แต่สถานที่แห่งนี้คือที่ใดกัน ครุฑาเทพไม่เคยเห็นมาก่อน จึงมองสำรวจไปรอบๆ
"เจ้าคงจะแปลกใจสินะเจ้าครุฑหนุ่มว่าที่นี่คือที่ใดกัน ที่นี่คือที่แห่งเรา เจ้าแห่งพิษนาคา"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าวทักทายครุฑาเทพด้วยใบหน้าอันเหี้ยมเกรียม
"ท่านคงเป็น...องค์นาคพันธ์ปริวัตรสินะ ท่านพ่อเคยเล่าให้ข้าฟังบ่อยๆ"
ครุฑาเทพถามคนตรงหน้าด้วยมั่นใจว่าคิดถูก
"อ้อ...นี่เจ้าหน้าตัวเมียมันยังไม่ลืมข้างั้นสิ แล้วมันบอกเล่าความเลวของมันให้เจ้าฟังด้วยรึไม่หล่ะ"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าววาจาดูถูกเหยียดหยามท้าวเวนไตยให้ครุฑาเทพรับทราบ
"ข้าไม่ทราบเรื่องในอดีตระหว่างท่านกับท่านพ่อของข้า แต่ที่ข้ารู้ ท่านพ่อคือคนที่รักข้ามาก และข้าก็รักพระองค์มากเช่นกัน"
ครุฑาเทพกล่าวตอบองค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธาในบิดาตน
"เจ้าพูดถูก เพราะในเวลานี้บิดาเจ้าพร้อมยอมตายแทนเจ้าได้"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าวทิ้งท้ายให้ครุฑาเทพสงสัยเล่นๆ
"ท่านหมายความว่าอย่างไร ทำไมบิดาของข้าจึงยอมตายแทนข้าได้"
ครุฑาเทพซักไซ้องค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยเพราะร้อนใจเรื่องบิดาตนจับใจ
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าคงลืมไปแล้วสินะว่าเจ้าฟื้นขึ้นมาจากพิษนาคาได้อย่างไร"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรหัวเราะเสียงดังและถามครุฑาเทพด้วยใบหน้าดุดัน
"ท่านคงหมายความว่า...ชีวิตข้า...แลกด้วยชีวิตบิดาของข้า...ใช่ไม๊"
ครุฑาเทพเอ่ยถามองค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยเสียงอันสั่นเครือ และไม่อยากได้ยินคำตอบที่จะได้รับ
"เจ้าพูดถูกแล้ว...แต่นับว่าเจ้ายังโชคดีนะที่เจ้ายังมีโอกาสเห็นหน้าบิดาเจ้าก่อนจากกันตลอดชีวิต ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรตอบคำถามครุฑาเทพด้วยความชอบใจ
"ท่านพ่อ!"
ครุฑาเทพอุทานออกมาด้วยหัวใจที่ปวดร้าวเหมือนกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
"ตอนนี้พ่อเจ้าถูกคุุมขังอยู่กรงแห่งพิษที่ข้าคุมขังไว้ ข้าจะพ่นพิษทำลายร่างบิดาของเจ้าให้มอดไหม้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าวยิ้มเยาะด้วยความสะใจที่ความแค้นของตนกำลังจะได้รับการชำระในเพลาอันใกล้นี้
"ไปสิ! รีบไปฟังบิดาเจ้าสั่งเสียซะก่อนที่บิดาของเจ้าจะถูกข้าทำลายไป"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรผลักหลังครุฑาเทพให้ไปหาท้าวเวนไตย
"ท่านพ่อ...ท่านไม่น่าทำแบบนี้..."
ครุฑาเทพพูดได้เพียงแค่นี้ เพราะเหมือนมีก้อนอะไรติดคอ ทำให้ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้อีก มีเพียงหยดน้ำตาที่คลอเบ้าจนสุดจะอดกลั้นไว้ได้ไหว
"ครุฑาเทพ...เจ้าอย่าได้เสียใจไปเลย...ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป...พ่อก็เช่นกัน ไม่อาจฝืนกฎธรรมชาตินี้ได้"
ท้าวเวนไตยปลอบใจบุตรด้วยใบหน้าอันเศร้าสร้อย
"แต่...ท่านพ่อลืมไปแล้วหรือว่าเหล่าชาวครุฑเราได้รับพรให้มีชีวิตเป็นอมตะ"
ครุฑาเทพทวนความจำให้บิดาฟัง
"ข้อนั้นพ่อทราบดี...แต่พ่อได้ถอนพรอันนั้นเสียแล้วลูกรัก...พ่อต้องรักษาคำสัตย์ที่ได้ให้ไว้กับองค์นาคพันธ์ปริวัตร"
ท้าวเวนไตยกล่าวเรียบๆ อย่างคนปลงตก
"พ่อไม่หวังสิ่งใด...ความหวังของพ่อคือให้เจ้าปกครองชาวครุฑด้วยคุณธรรมที่เราถือปฏิบัติมาแทนพ่อ ขอให้เจ้าอยู่ให้ได้...โดยไม่มีพ่อ"
ท้าวเวนไตยสั่งสอนบุตรอันเป็นที่รักก่อนจากไปชั่วนิรันดร์
"ท่านพ่อ...อย่าห่วงไปเลย...ลูกจะปกครองชาวครุฑแทนท่านพ่อให้อยู่ในความสงบสุขเหมือนเมื่อคราวที่ท่านยังอยู่กับลูก..."
ครุฑาเทพกราบพระบาทบิดาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนที่ร่างของท้าวเวนไตยจะค่อยๆ สลายไปเพราะพิษขององค์นาคพันธ์ปริวัตร
แต่ด้วยความรักบุตร ท้าวเวนไตยจึงต้องบากหน้าไปขอร้องให้องค์นาคพันธ์ปริวัตรช่วยถอนพิษนาคาให้บุตรชายตน
ท้าวเวนไตยจึงตัดสินใจบินไปพบองค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยความรู้สึกที่บีบคั้นจิตใจ เพราะพระองค์ต้องฝืนใจตนเองเป็นอย่างมากที่จะไปพบกับผู้ที่ดูถูกพระองค์ไว้ว่า "หน้าตัวเมีย" เพราะคำนี้ทำให้ศักดิ์ศรีของพระองค์ถูกลดค่าลงจนแทบจะติดฝุ่นที่เท้าขององค์นาคพันธ์ปริวัตรไว้โดยสิ้น
"องค์นาคพันธ์ปริวัตร ท่านโปรดช่วยบุตรข้าด้วย บุตรข้าถูกพิษนาคา"
ท้าวเวนไตยขอร้ององค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยใบหน้าอันอมทุกข์เศร้าหมอง
"เจ้ายังมีหน้ามาพบข้าอีกเหรอ...หน้าตัวเมียอย่างเจ้าสมควรตายแทนนางอันเป็นที่รักของข้า"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าวด้วยวาจาอันแข็งกร้าวและดุดันด้วยเสียงอันดังกึกก้องดั่งราชสีห์คำราม
"ณ เพลานี้ เจ้าจะกล่าววาจาอันใดที่เป็นการเหยียดหยามข้าเพียงใดข้าไม่ว่า ขอเพียงท่านโปรดช่วยบุตรข้าด้วยเถิด"
ท้าวเวนไตยคุกเข่าขอร้ององค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยความสิ้นหวังและหมดกำลังใจ แต่ก็ฝืนอ้อนวอนต่อไปเผื่อว่าองค์นาคพันธ์ปริวัตรจะมีเมตตาต่อบุตรของพระองค์บ้าง
"เจ้าคงรักบุตรของเจ้ามากสินะ จึงกล้าบากหน้ามาขอร้องข้าเช่นนี้"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรยิ้มเยาะและกล่าววาจาถากถางจิตใจท้าวเวนไตยให้สาแก่ใจตนที่สูญเสียนางอันเป็นที่รักไปเพราะท้าวเวนไตยเป็นต้นเหตุ
"เจ้าอยากรู้ไม๊ว่า...การที่เราเจ็บที่สุด...คือการที่เราต้องทนดูคนที่เรารักตายไปต่อหน้า...โดยที่คนนั้นไม่ได้รักเราเลย"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรบอกสิ่งที่ตนเก็บไว้ในใจมานานให้ท้าวเวนไตยรับรู้ความเจ็บปวดของตนในอดีตจนถึงทุกวันนี้ที่พระองค์มิเคยลืมเลือน
"แล้วท่านจะให้เราทำเช่นใด เพื่อเป็นการชดใช้ให้ท่านจนท่านพอใจ และช่วยบุตรข้า"
ท้าวเวนไตยอ้อนวอนองค์นาคพันธ์ปริวัตรต่อแม้จะสิ้นหวัง
"ข้าจะให้เจ้าแลกชีวิตเจ้ากับบุตรของเจ้า เจ้าทำได้หรือไม่"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรพูดออกมาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเอาจริง
"ถ้าเช่นนั้น ท่านให้ข้าลาบุตรข้าก่อนที่ข้าจะตายได้หรือไม่"
ท้าวเวนไตยกล่าวต่อรองกับองค์นาคพันธ์ปริวัตร
"ได้สิ! เจ้าอย่าผิดคำพูดก็แล้วกัน เจ้าหน้าตัวเมีย"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรยอมตกลงตามเงื่อนไขของท้าวเวนไตย
เมื่อครุฑาเทพฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่ครุฑาเทพนึกถึงคือ ชมพูนาคี แต่สถานที่แห่งนี้คือที่ใดกัน ครุฑาเทพไม่เคยเห็นมาก่อน จึงมองสำรวจไปรอบๆ
"เจ้าคงจะแปลกใจสินะเจ้าครุฑหนุ่มว่าที่นี่คือที่ใดกัน ที่นี่คือที่แห่งเรา เจ้าแห่งพิษนาคา"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าวทักทายครุฑาเทพด้วยใบหน้าอันเหี้ยมเกรียม
"ท่านคงเป็น...องค์นาคพันธ์ปริวัตรสินะ ท่านพ่อเคยเล่าให้ข้าฟังบ่อยๆ"
ครุฑาเทพถามคนตรงหน้าด้วยมั่นใจว่าคิดถูก
"อ้อ...นี่เจ้าหน้าตัวเมียมันยังไม่ลืมข้างั้นสิ แล้วมันบอกเล่าความเลวของมันให้เจ้าฟังด้วยรึไม่หล่ะ"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าววาจาดูถูกเหยียดหยามท้าวเวนไตยให้ครุฑาเทพรับทราบ
"ข้าไม่ทราบเรื่องในอดีตระหว่างท่านกับท่านพ่อของข้า แต่ที่ข้ารู้ ท่านพ่อคือคนที่รักข้ามาก และข้าก็รักพระองค์มากเช่นกัน"
ครุฑาเทพกล่าวตอบองค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธาในบิดาตน
"เจ้าพูดถูก เพราะในเวลานี้บิดาเจ้าพร้อมยอมตายแทนเจ้าได้"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าวทิ้งท้ายให้ครุฑาเทพสงสัยเล่นๆ
"ท่านหมายความว่าอย่างไร ทำไมบิดาของข้าจึงยอมตายแทนข้าได้"
ครุฑาเทพซักไซ้องค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยเพราะร้อนใจเรื่องบิดาตนจับใจ
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าคงลืมไปแล้วสินะว่าเจ้าฟื้นขึ้นมาจากพิษนาคาได้อย่างไร"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรหัวเราะเสียงดังและถามครุฑาเทพด้วยใบหน้าดุดัน
"ท่านคงหมายความว่า...ชีวิตข้า...แลกด้วยชีวิตบิดาของข้า...ใช่ไม๊"
ครุฑาเทพเอ่ยถามองค์นาคพันธ์ปริวัตรด้วยเสียงอันสั่นเครือ และไม่อยากได้ยินคำตอบที่จะได้รับ
"เจ้าพูดถูกแล้ว...แต่นับว่าเจ้ายังโชคดีนะที่เจ้ายังมีโอกาสเห็นหน้าบิดาเจ้าก่อนจากกันตลอดชีวิต ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรตอบคำถามครุฑาเทพด้วยความชอบใจ
"ท่านพ่อ!"
ครุฑาเทพอุทานออกมาด้วยหัวใจที่ปวดร้าวเหมือนกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
"ตอนนี้พ่อเจ้าถูกคุุมขังอยู่กรงแห่งพิษที่ข้าคุมขังไว้ ข้าจะพ่นพิษทำลายร่างบิดาของเจ้าให้มอดไหม้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรกล่าวยิ้มเยาะด้วยความสะใจที่ความแค้นของตนกำลังจะได้รับการชำระในเพลาอันใกล้นี้
"ไปสิ! รีบไปฟังบิดาเจ้าสั่งเสียซะก่อนที่บิดาของเจ้าจะถูกข้าทำลายไป"
องค์นาคพันธ์ปริวัตรผลักหลังครุฑาเทพให้ไปหาท้าวเวนไตย
"ท่านพ่อ...ท่านไม่น่าทำแบบนี้..."
ครุฑาเทพพูดได้เพียงแค่นี้ เพราะเหมือนมีก้อนอะไรติดคอ ทำให้ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้อีก มีเพียงหยดน้ำตาที่คลอเบ้าจนสุดจะอดกลั้นไว้ได้ไหว
"ครุฑาเทพ...เจ้าอย่าได้เสียใจไปเลย...ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป...พ่อก็เช่นกัน ไม่อาจฝืนกฎธรรมชาตินี้ได้"
ท้าวเวนไตยปลอบใจบุตรด้วยใบหน้าอันเศร้าสร้อย
"แต่...ท่านพ่อลืมไปแล้วหรือว่าเหล่าชาวครุฑเราได้รับพรให้มีชีวิตเป็นอมตะ"
ครุฑาเทพทวนความจำให้บิดาฟัง
"ข้อนั้นพ่อทราบดี...แต่พ่อได้ถอนพรอันนั้นเสียแล้วลูกรัก...พ่อต้องรักษาคำสัตย์ที่ได้ให้ไว้กับองค์นาคพันธ์ปริวัตร"
ท้าวเวนไตยกล่าวเรียบๆ อย่างคนปลงตก
"พ่อไม่หวังสิ่งใด...ความหวังของพ่อคือให้เจ้าปกครองชาวครุฑด้วยคุณธรรมที่เราถือปฏิบัติมาแทนพ่อ ขอให้เจ้าอยู่ให้ได้...โดยไม่มีพ่อ"
ท้าวเวนไตยสั่งสอนบุตรอันเป็นที่รักก่อนจากไปชั่วนิรันดร์
"ท่านพ่อ...อย่าห่วงไปเลย...ลูกจะปกครองชาวครุฑแทนท่านพ่อให้อยู่ในความสงบสุขเหมือนเมื่อคราวที่ท่านยังอยู่กับลูก..."
ครุฑาเทพกราบพระบาทบิดาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนที่ร่างของท้าวเวนไตยจะค่อยๆ สลายไปเพราะพิษขององค์นาคพันธ์ปริวัตร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ