Interpreter ล่ามแปลรัก
เขียนโดย bluez
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.44 น.
แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560 11.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ไอ้บ้าโรคจิต
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Interpreter ล่ามแปลรัก
บทที่1 ไอ้บ้าโรคจิต
"Attention Please,This a final call of SkyJet Airways International Flight AA111 to Tokyo,It's now boarding at gate number 39,Please board a gate number 39,Immediately,Thank you"
สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อซอล อายุ 26 ปี ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินค่ะ หลังจากที่ฉันจบปริญญาตรีด้ารนี้มาเฉพาะ ฉันก็สามารถได้เข้าทำงานในสายการบินที่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ฉันภูมิใจมากที่ได้มายืนในจุดนี้จริงๆ ที่จริงครอบครัวของฉันก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็พอมีพอกิน ฉันที่ทำงานในด้านนี้ด้วยเงินจึงไม่ได้เป็นปัญหาของฉันกับแม่เท่าไหร่ ค่ะ ฉันอยู่กับแม่แค่สองคน ส่วนพ่อก็เลิกกับแม่ตั้งนานแล้วล่ะ จากตอนนั้นฉันก็ยังไม่เคยเจอพ่ออีกเลย เฮ้อ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะทุกวันนี้ฉันก็อยู่สบายๆ ได้ไปเที่ยวต่างประเทศได้ทำงานที่ฉันรักแค่นี้ฉันก็โอเคกับชีวิตล่ะ
และตอนนี้ฉันก็พร้อมที่จะทำงานแล้วครั้งนี้ไฟท์ที่ฉันจะบินก็ไปที่ญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้อยู่นานหรอก เดี๋ยวประมาณเย็นๆก็กลับแล้ว ไม่อยากจะคุยฉันไปฝั่งเอเชียจนเบื่อแล้ว อยากไปฝั่งยุโรปบ้าง แต่แค่นี้ก็มีคนอิจฉาฉันจะแย่แล้วอิอิ
-----------------------------------------------------Thailand
"Attention Please,Passengers on arrival of SkyJet Airways International Flight AA111 From Tokyo, Please select your baggage at belt number 2 ,in terminal 2,Thank you."
"วันนี้ไปกินอะไรดีคะพี่ซอล" ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินออกจากสนามบิน ก็มีคนวิ่งมากอดฉันจากข้างหลังพร้อมกับคำถามที่ชวนอ้วนได้ตลอดเวลา "ยัยปริม" ปริมเป็นรุ่นน้องของฉันที่วิท'ลัย และพอจบก็ได้ทำงานในสายการบินเดียวกันแต่คนละหน้าที่
"ชวนกินตลอด อะไรเนี่ยแล้ววันนี้ไม่เข้าเวรแล้วหรอ"
"ไม่ละค่ะ เมื่อวานก็เพิ่งสลับกันกับอีกคน เหนื่อยจะตาย"
"บ่นๆ"
"ขอบ่นบ้างเหอะพี่ กลับบ้านไปปริมก็ไม่ได้ระบายกับใครเลย กลับไปก็ต้องรีบนอน ตื่นมาก็ต้องรีบมาทำงานอีก เฮ้อ นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ"
"จ้ะๆ พี่เข้าใจ ใหม่ๆก็แบบนี้แหละ อ้าว แล้วนี่ไม่รีบกลับไปนอนอ้อ"ฉันพูดแกล้งแย่งปริมไป
"พี่ซอลอ่าาาา" ยัยปริมเห็นฉันล้อเลียนก็เลยกอดฉันแน่นกว่าเดิม
"โอ้ยยย อิอิ"
"สองสาวจะไปไหนกันหรอครับ?!" ระหว่างที่พวกเราเล่นกัน ก็มีเสียงแทรกเข้ามา ฉันกับยัยปริมหันกลับไปยังต้นเสียง "วิน" วินเป็นเพื่อนที่เรียนวิท'ลัยเดียวกันแต่คนละเอก เอาจริงก็ไม่ได้สนิทนะ ก็พอคุยได้มากกว่า เพราะเริ่มมารู้จักก็มาทำงานที่นี่แหละ วินก็ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับเหมือนฉัน แต่แค่คนละสายการบิน
"พี่วิน!" แหมมม ยัยปริมไม่ค่อยเลยนะน้องฉัน ปริมพอเห็นว่าเป็นวินก็กระโดดโบกไม้โบกมือให้วินเดินมาทางเรา
"หวัดดีซอล!"วินกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาพวกเรา พอมาถึงก็โบกไม้โบกมือทักทายฉัน
"อือ หวัดดี" ฉันก็ตอบรับไปตามมารยาท คือจริงแล้วฉันไม่ได้เกลียดหรือไม่ชอบวินนะ ทุกคนอย่าเพิ่งเข้าใจผิด แต่มันเป็นเพราะถ้าฉันยังไม่สนิทกับใครฉันก็จะไม่ค่อยพูดด้วยแหละ แต่ดูเหมือนยัยปริมก็ออกจะสนิทกับวินอยู่นะ
"เป็นไงเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นหรอ เห็นไปตอนเช้า กลับมาเย็นแบบนี้คงเหนื่อยแย่เลย" วินรู้ได้ไงว่ะว่าฉันบินไปญี่ปุ่นมา
"อ้อ ไม่หรอกชินแล้ว แล้วนี่รู้ได้ไงอ่ะมาเราไปญี่ปุ่นมา" ด้วยความสงสัยฉันก็เลยถามกลับไป
"เอ่อ... อ้อ เพื่อนน่ะ! เพื่อนเราที่อยู่ไฟท์เดียวกับเธอบอก"
เพื่อน? เพื่อนคนไหนอ่ะ ฉันสงสัยนะแต่ก็ไม่ได้อยากจะถามอะไรมากไปกว่านี้แล้ว
"เออ!พี่วินเดี๋ยวเราจะไปกินข้าวกัน พี่วินจะไปด้วยกันมั้ย?" น่านไง...ยัยปริม นี่คือสิ่งที่ฉันกลัว ยัยปริมชวนวินไปด้วย จะบอกว่าฉันเป็นคนหยิ่งมันก็ออกจะเกินไปหน่อย แต่ฉันรู้สึกอึดอัดจริงๆที่จะให้นั่งกินข้าวกับคนที่ไม่สนิท แถมยังทำตัวน่าสงสัยแบบนี้
"นี่จะไปกินข้าวกันหรอ? ดีเลยพี่กำลังจะชวนอยู่พอดี งั้นขอไปด้วยคนนะคร้บ"แล้วไอ้ประโยคที่ขอเนี่ยทำมั้ยต้องหันหน้ามาทางฉันด้วยล่ะ อึดอัดๆ ทำไงดีว่ะเนี่ย สงสัยต้องชิ่งแล้วล่ะ
"เอ่อ ปริม วันนี้พี่ไปไม่ได้อ่ะ ไว้วันอื่นนะ"
"พี่ซอลวันอื่นอะไร วันนี้แหละดี ไหนบอกจะเลี้ยงข้าวปริมไง"ยัยปริมมันขุดคุ้ยสัญญาเก่าแล้วค่ะ
"สัญญาไง แต่วันนี้ไม่ได้"
"ทำไมล่ะครับ หรือว่าซอลไม่อยากไปกับผม"เออ รู้ตัวก็ดี
"มะ ไม่ใช่!"ฉันรีบโกหกคำโตๆเลยแหละถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนตรงๆ แต่ตรงไปมันก็ไม่ใช่เรื่อง จะผิดใจกันเปล่าๆ
"งั้นก็ไปวันนี้แหละพี่ซอล"ยัยปริมทำไมมันเซ้าซี้อย่างงี้ว่ะ ทำไงดี คิดสิ!
"คือ แม่พี่ทำกับข้าวรอแล้วที่บ้านน่ะ"นี่แหละ! เอาแม่มาอ้างยัยปริมรู้ว่าฉันอยู่กับแม่แค่สองคน ยังไงมันก็ไม่กล้าทำร้ายจิตใจแม่ฉันหรอก
-ครืน ครืน ครืน-
เสียงโทรศัพท์ฉันน่ะ โอ้ แล้วแม่ฉันก็โทรมาพอดี ขอบคุณแม่มากน้าจ้าที่ช่วยลูกไว้ได้พอดี อิอิ
"ฮัลโหลแม่..."ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร ยัยปริมก็แย่งโทรศัพท์แล้วเปิดสปีคโฟนเพื่อจะฟังด้วย ยัยนี่หนิ!เกินไปแล้วนะ
"ฮัลโหลค่าแม่ นี่ปริมเองนะคะ"ฉันได้แต่ทำหน้าเซ็ง ถึงจะโกหกหรือไม่โกหกแม่ฉันก็เตรียมกับข้าวไว้ให้ตลอดแหละ ยังไงก็ไม่ต้องกลัวอยู่ดี
"ปริมหรอลูก ซอลล่ะ?"
"พี่ซอลอยู่ข้างๆนี่แหละค่ะ แม่มีอะไรก็พูดได้เลยนะคะ พี่ซอลฟังอยู่"
"งั้นฝากบอกซอลนะ ว่าวันนี้กินข้าวนอกบ้านมาเลย เพราะแม่ไม่ได้ทำอะไรไว้ให้กิน พอดีแม่จะไปงานศพที่วัด ประมาณสามทุ่มเดี๋ยวแม่ก็กลับแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง" อ้าววว ชิบหายล่ะ!! งานงอกแล้วเรา
"อ้ออ ไม่ทำอะไรให้กินใช่มั้ยคะ..."พูดจบก็หันหน้ามาทางฉันเหมือนเยาะเย้ย "...ได้ค่ะ ไว้ปริมจะบอกให้นะคะ"
"จ้ะๆ"
"สวัสดีค่ะแม่"พอแม่ฉันวางไป ยัยปริมก็ส่งโทรศัพท์คืนฉันด้วยท่าทางว่ามันชนะ เหอะ!อีเด็กบ้า แค่เรื่องไปกินข้าวจำเป็นต้องขนาดนี้มั้ย
"โอเคแล้วนะคะพี่ซอล ไปเถอะ"พูดจบยัยนี่ก็ลากฉันไปที่รถฉันทันที และยังไม่วายหันไปหาวินพร้อมบอกว่าให้ขับรถตามมาอีก เฮ้อ ตอนแรกก็ว่าจะแฮปปี้แต่ทำไมตอนนี้มันเป็นแบบนี้ว่ะ ซอลเครียดดด
-----------------------------------------------------ร้านอาหาร
"อยากกินอะไรสั่งเลยคะพี่วิน พี่ซอลเลี้ยง"เออ เอาที่สบายใจเลย ถ้าหมดวันนี้ไปฉันก็คงจะไม่ค่อยยุ่งกับสองคนนี้แล้วล่ะ
"เฮ้ย!ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"
"ไม่เป็นไรหรอก กินเลย เดี๋ยวเลี้ยงเอง"ฉันที่เงียบอยู่นานก็บอกอย่าปลงๆ ที่เงีบยๆนี่ไม่ได้เป็นไรนะนั่งปลงอยู่ เฮ้อ
"เห็นมั้ยล่ะพี่วิน พี่ซอลเขารวย"รวยบ้านแกสิ แค่จะทำให้เหตุการณ์นี้มันจบๆไปสักที แล้วนี่อะไรยัยปริมเลือกร้านได้แบบเฮงซวยมาก คนก็เยอะที่นั้งก็ติดๆกันจะหันไปทางไหนก็ไม่ได้ แต่มันบอกว่าที่นี่อร่อย ไม่รู้จะเป็นอย่างที่มันว่าหรือป่าวต้องลอง ถ้าไม่ถูกปากนะแม่จะด่าให้เช็ดเลย
-----------------------------------------------------20 นาทีผ่านไป
"กรี้ดดดดด!!!!!" อยู่ดีๆยัยปริมก็ร้องกรี้ดขึ้นมาอย่างดังอ่ะ คนทั้งร้านก็หันมามองโต๊ะเราเป็นจุดเดียวกัน ฉันยังตกใจเลย
"เป็นไรอ่ะปริม?!"ฉันรีบถาม
"..."ยัยปริมไม่ตอบแต่หันซ้ายหันขวา มองไปรอบๆอย่างกลัวๆ
"เป็นอะไรครับน้องปริม มีอะไรหรอ?"ปริมก็ยังหันซ้ายหันขวาไม่เลิก
"เปล่าค่ะ"ในที่สุดที่ฉันหยุดหายใจเพราะรอคำตอบ ฉันก็ได้คำตอบเพียงเปล่าค่ะ เฮ้ออ ฉันกลับมาสูดหายใจลึกๆอีกครั้งและหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆบ้าง เพราะไม่มีทางที่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่งออกจะร้องเสียงดังขนาดนั้น แต่คนในร้านก็หันกลับไปสนใจโต๊ะใครโต๊ะมันแล้วตั้งแต่ยัยปริมบอกว่าไม่มีอะไร
"ปริม...มีอะไรอ่ะ?"ฉันยังไม่หายสงสัยจึงกระซิบถามเบาๆ
"..."ปริมก็ยังคงไม่ตอบอะไร นอกจากส่ายหน้าอย่างเดียว ฉันที่ถามอะไรไปมันก็ส่ายหัวอย่างเดียวก็เลยหมดความอดทนที่จะถามล่ะ งั้นมากินข้าวต่อ...
"กึก!"ฉันที่กำลังจะกินข้าวต่อก็ต้องหยุดชะงักทันที เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะตอนนี้กำลังมีมือใครบางคนจับก้นฉันอยู่น่ะสิ หรือว่าที่ปริมมันร้องเมื่อกี้... ใช่แน่ๆ แต่ฉันไม่เหมือนยัยปริมหรอกนะ
"หมับ!"
ฉันรีบคว้ามือปริศนาเอาไว้และบีบจนมันร้องเจ็บขึ้นมา ฉันปล่อยและรีบหันกลับไปดูหนังหน้ามัน
"นาย! นายใช่มั้ย!! ไอ้บ้าโรคจิตตตต!!!!! ปัก!"
"โอ้ยยยย!!!!!ยัยบ้า!!!!"ทันทีที่ฉันเห็นหน้ามัน ไม่พูดพรัมทำเพลง ฉันต่อยมันที่เบ้าตาทันที หึ!รู้ไว้ซะ คนอย่างซอลไม่เสียอะไรให้ใครฟรีหรอก สมน้ำหน้า!! ไอ้บ้าโรคจิต!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ