BEST FRIEND(?) #เบสเฟรนด์ชิโระ
เขียนโดย Khunpor
วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 04.35 น.
แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 06.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) BEST FRIEND(?) 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่4
เช้าวันเสาร์ที่อากาศแจ่มใสเป็นวันที่สองของการเปิดเทอมครั้งแรกในโรงเรียนใหม่ ทั้งๆ ที่ได้ใช้ชีวิตแบบอิสระเป็นครั้งแรกมีเพื่อนสนิทแล้วด้วย แต่ทำไม...ผมต้องมาติดแหง็กกับไอ้บ้านี่วะ!!!!!!!
แกร๊กๆ ฟิ้ว ~
"แม่งเอ้ย!!"
ผมสบทอย่างหัวเสียพร้อมปาไขควงอันที่สามเฉียดหน้าอีกคนไปอย่างหวุดหวิด ตั้งแต่เมื่อวานที่โดนใส่กุญแจมือจนตอนนี้ผมยังไม่นอนกันทั้งคู่ ไม่ตีกันก็โวยวาย สภาพแบบนี้ใครจะไปนอนหลับลง!
"มึงจะทำเรื่องไร้สาระอีกนานม่ะ แหงะไปมันก็ไม่ออกหรอก ปาอยู่ได้ไขควงเนี่ย ปาแล้วก็เดินไปเก็บมาแหงะใหม่ ปัญญาอ่อน" ผมมองไอ้เวรเบสตาขวาง ไม่ช่วยแล้วยังปากมากอีก
"แล้วจะให้ทำไง จะติดแหง็กกันอยู่อย่างนี้หรอ วันหยุดทั้งทีกูก็อยากออกไปข้างนอกนะ" ผมพูดเสียงขุ่นพร้อมยกแขนที่โดนล็อคเขย่าไปมาอย่างนึกโมโห ทำไมเอาไม่ออกวะ TT
"อันดับแรกคือควรนอน นี่จะแปดโมงละ กูยังไม่นอนตั้งแต่เมื่อคืนมัวแต่บ้าทะเลาะกับมึงเนี่ย"
"มึงนอนหลับลงหรอ แขนติดกันอย่างนี้แล้วจะให้นอนกันยังไง" พูดอะไรไม่คิดบอกไว้เลยว่าผมไม่ยอมนอนเตียงเดียวกันกับมันเด็ดขาด!
"ถามโง่ๆ มึงก็นอนพื้นกูก็นอนเตียงไง หรือมึงจะลากเตียงตัวเองมาติดเตียงกูก็แล้วแต่มึง" ทำไมทางเลือกแต่ละทางมีแต่อันที่ทำให้หงุดหงิดทั้งนั้นวะ
"แล้วทำไมมึงไม่นอนพื้นแล้วกูนอนเตียงละ ทำไมกูต้องเป็นคนนอนพื้นด้วย!"
"โห...หน้าตาเหมือนผู้หญิงนิสัยยังเหมือนผู้หญิงอีกหรอวะ นอนพื้นแค่นี้ก็ไม่ได้ ไอ้ตุ๊ดเอ้ย!" ตายซะเถอะมึง!
ผัวะ!
มือไปไวกว่าความคิดผมปล่อยหมัดจากข้างที่ไม่ได้โดนล็อคทำให้คนโดนต่อยเซจะล้ม แต่ผมคงลืมนึกไปว่าแขนพวกเราติดกันอยู่พอมันเซผมก็เซ ทำให้ทรงตัวไม่อยู่ทั้งคู่
ตึง!
"โอ้ย/อึก" ผมร้องขึ้นเมื่อล้มทับอีกคนอย่างจัง แต่คนโดนทับคงเจ็บกว่าหลายเท่า สมน้ำหน้า!
"ไอ้เชี่ยเตี้ยเล่นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย คิดว่าตัวเองหมัดเบาตัวเบาหรือไงวะ" เบสบ่นขึ้นทั้งๆ ที่ผมนอนทับมันอยู่ บ่นมากใช่มั้ยงั้นก็นอนอยู่อย่างนี้ละ!
"เตี้ย ไอ้เตี้ยลุกดิ!" เสียงโวยวายของคนโดนทับทำให้ผมลอบยิ้มอย่างสะใจ แขนก็ติดกันแถมยังมาโดนผมนอนทับทำอะไรลำบากอยู่แล้ว
"มึงจะโวยวายทำไม อยากนอนไม่ใช่หรอวะ ก็นอนไปสิ นอนพื้นไม่ได้หรือไง ทำตัวเป็นผู้หญิงไปได้"
ผมพูดขึ้นล้อเลียนเบสทั้งๆ ที่หน้ายังแนบอยู่บนอก ตัวมันใหญ่กว่าผมทำให้การนอนทับมันเป็นอะไรที่สบายกว่านอนพื้นเยอะแถมอกมันก็กว้างดีด้วย หุหุ
"หึ มึงจะเล่นงี้ใช่มั้ย"
เสียงเค้นหัวเราะในลำคอของเบสทำผมเสียวสันหลังวาบ รู้สึกไม่ปลอดภัยเลยแหะ แต่มันจะทำอะไรผมได้โดนทับแถมแขนติดกันคงทำร้ายผมไม่ได้หรอก...มั้งนะ
"อ่ะ" ผมร้องตกใจเมื่อจู่ๆ เบสก็ขยับช่วงล่างเฉียดตรงนั่นของผม จะทำบ้าอะไร!
"มะ...มึงอยู่นิ่งๆ ดิ" ผมพูดบอกเสียงติดขัดเมื่อไอ้เวรเบสขยับดุกดิ๊กไม่หยุด
"ก็กูนอนพื้นมันไม่สบายตัวแถมมึงมานอนทับอีกมันก็ต้องขยับกันบ้างสิวะ" แล้วจะขยับอะไรนักหนาขยับทีก็เฉียดทีแถมมือที่ไม่ได้โดนล็อคของมันก็ลูบไปตามแขนและแผ่นหลังของผมอยู่นั่น มันรู้สึกแปลกๆ นะเว้ย!!!!
"งะ...งั้นมึงก็ช่วยหยุดเอามือลูบไปมาได้มั้ย" ผมพูดบอกมันด้วยเสียงสั่นนิดๆ ตอนนี้ผมรู้สึกแปลกๆ มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
"ทำไมวะ กูหวังดีอยากให้มึงนอนหลับสบายๆ เลยกะจะลูบกล่อมนะเนี่ย" มึงจะมาเป็นคนดีอะไรตอนนี้! แล้วบ้านไหนเขาลูบแขนลูบหลังลูบก้นกล่อมกันวะ!!!
"ไม่ต้อง มึงไม่ลูบกูก็หลับได้!" ผมพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับเงยหน้าเพื่อจะด่า แต่พอเงยหน้าก็ทำให้ผมรู้ว่าหน้าผมกับมันห่างกันไม่ถึงคืบ!!
"..."
เกิดความเงียบขึ้นมาฉับพลัน ผมกับเบสจ้องตากันนิ่งๆ โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไร ยิ่งความเงียบปกคลุมนานเท่าไหร่เสียงหัวใจก็เต้นดังขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเสียงหัวใจที่ดังก้องนี้เป็นของผมหรือของอีกคนกันแน่
"เอ่อ...กูลุกดีกว่าเนาะ" เมื่อผมตั้งสติได้ก็หลบสายตาพร้อมพูดขึ้นทำลายความเงียบ อยู่อย่างนี้นานๆ แล้วหัวใจไม่ค่อยดีแหะ สงสัยจะตกใจมากไปหน่อย
หมับ!
"ทะ...ทำอะไรวะ" ผมพูดขึ้นอย่างตกใจเมื่อเบสคว้าเอวผมลงมานอนทับมันเหมือนเดิม
"กูขี้เกียจลุกแล้วนอนอย่างนี้ละ กูไม่แกล้งมึงละ" อารมณ์ไหนของแม่งวะ ตอนแรกยังบ่นหนักอยู่เลย
"ตะ...แต่มึงบ่นว่าหนัก" แล้วทำไมผมต้องเสียงสั่นใจเต้นด้วยวะ กลัวอะไรมันหนักหนาเนี่ย
"แต่ตอนนี้กูไม่หนักแล้ว เลิกบ่นแล้วนอนๆ ไปเถอะน่า กูง่วง" มันทำผมงงกว่าเดิมนะเนี่ย อยู่ๆ ก็มาบังคับให้นอนทับซะงั้น สติยังดีอยู่ป่าววะ
"แล้วอย่ามาบ่นทีหลังแล้วกัน" ผมพูดใส่คนที่อยู่ใต้ร่างก่อนจะเอาหน้าแนบไปกับอกเพื่อจะนอน
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ผมตาเบิกโพรงเมื่อได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นยังกับกลองเพลนของเบส เสียงหัวใจของมันเต้นเหมือนผมเลย หรือว่ามันก็กลัวผมเหมือนกัน (ซื่อบื่อเอ้ย!)
"บะ...เบส" ผมเรียกเบสเสียงแผ่วแถมหน้าก็รู้สึกร้อนๆ แปลกๆ
"อะไร" เบสตอบกลับเสียงเรียบ ผมไม่กล้าเงยหน้าสบตาเพราะกลัวใจจะเต้นมากกว่าเดิม
"คือ...กูนอนไม่ได้ คือหัวใจมึงกับหัวใจกูเต้นดังชิบหาย มันน่ารำคาญอ่ะ" ผมบอกเบสด้วยความรู้สึกเขินๆ(?) น่าอายชะมัดที่ต้องให้มันรู้ว่าผมกลัวมัน
"แล้วทำไมหัวใจมึงถึงเต้นดังละ"
เบสยังคงถามด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน ถ้าผมไม่ได้นอนฟังเสียงหัวใจมันด้วยผมคงคิดว่ามันไม่รู้สึกอะไรแน่ๆ แต่นี่อะไรเสียงเรียบๆ นิ่งๆ แต่หัวใจมันเต้นแรงกว่าเดิมอีก มึงก็กลัวกูเหมือนกันละว้า ทำเป็นเก็ก
"สงสัยกูเหนื่อยมั้ง" เรื่องอะไรจะยอมรับว่าผมกลัวมัน ถ้ามันรู้ว่าผมกลัว มันต้องเยาะเย้ยผมแน่
"เหนื่อยห่าอะไร คนโดนต่อยก็กูคนที่โดนนอนทับก็กู คนที่เหนื่อยควรจะเป็นกูสิ หัวใจกูเต้นดังไม่แปลก แต่มึงที่ไม่ได้ทำอะไรแต่เต้นดังสิแปลก" เออ...จริงของมัน เอาไงดีวะ แถไงดี
"ไม่รู้เว้ย ก็มันเต้นไปแล้ว จะให้มันหยุดเต้นกูก็ตายสิ พอๆ อยากจะเต้นดังเท่าไหร่ก็แล้วแต่มึงเถอะ กูจะนอนทับจนมึงขาดอากาศหายใจตายเดี๋ยวหัวใจมึงก็หยุดเต้นไปเองละ"
"แถไม่ออกก็โมโหกลบเกลื่อน เด็กชิบหาย" เสือกรู้ทันอีก
ผมไม่สนใจเสียงแขวะของเบสแล้วเอาหน้ากระแทกลงที่อกของมันแรงๆ อยากให้นอนมากใช่มั้ย ได้! กูนอนก็ได้วะ! ผมนอนฟังเสียงหัวใจของผมกับเบสที่เต้นดังไปเรื่อยๆ จนเผลอหลับไปจริงๆ
"เบส ชิโระ ตื่นได้แล้ว"
เสียงรบกวนพร้อมกับการเขย่าเบาๆ ของใครสักคนทำให้ผมรำคาญไม่น้อย ผมหันหน้าหนีจากเสียงรบกวนแล้วซุกไปที่หมอน(?) มากกว่าเดิม
"โห...ภาพนี้หาดูยากแหะ เป็นหนึ่งเอากล้องมากูจะถ่ายเก็บไว้" เสียงของคนๆ เดิมดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับรางสังหรณ์ใจไม่ดีทำให้ผมรีบลืมตาขึ้นทันที
"เฮ้ย!"
ผมร้องเสียงหลงเมื่อเห็นว่าหมอนที่ผมซุกอยู่คืออกของไอ้บ้าเบส ผมลุกพรวดด้วยความตกใจทำให้แขนผมกระชากแขนเบสขึ้นมาด้วย
"เสียงดังอะไรวะ กูพึ่งนอนไปเองนะเว้ย" เสียงงัวเงียของคนโดนกระชากดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าหล่อที่มุ้ยเหมือนเด็กโดนปลุก
น่ารักแหะ
น่ารักหรอ? มันน่ะนะน่ารัก น่ารักก็บ้าแล้ว ผมคิดอะไรวะ ใครน่ารัก ประสาท ประสาทแน่ๆ ผมต้องเมาขี้ตาชัวร์
"ชิโระเป็นอะไร อยู่ๆ ก็ส่ายหน้ารัวๆ เฉยเลย" พี่นายหันมาถามผมพร้อมยิ้มแปลกๆ ทำเอาผมเสียวสันหลังวาบ คนๆ นี้มองคนได้ทะลุปรุโปร่งจนหน้ากลัว
"ปะ...เปล่าครับ ผมเบลอเพราะพึ่งตื่นเลยสะบัดหัวเรียกสติเฉยๆ" ผมตอบพี่นายพรางทำหน้าปกติให้มากที่สุด
"ว่าแต่มึงเข้ามาทำไมวะ ละเมิทสิทธิส่วนบุคคลนะ" เบสพูดขึ้นเสียงขุ่น มันคงอารมณ์เสียไม่น้อยที่โดนปลุกแบบนี้
"ก็กูบอกไว้แล้วว่าจะถอดกุญแจออกให้ตอนอาบน้ำแต่พวกมึงเล่นไม่ไปหาตั้งแต่เมื่อคืน นี่ก็เที่ยงละกูนึกว่าฆ่ากันตายคาห้อง ใครจะไปรู้ว่ากำลังจู๋จี๊กันอยู่"
"จู๋จี๊บ้าอะไรครับ/จู๋จี๊พ่อมึงสิ" ผมกับเบสตะโกนสวนขึ้นมาพร้อมกันทำเอาพี่นายหัวเราะขำ พี่เขาดูสนุกมากเลย - -"
"แล้วสรุปจะอาบมั้ยน้ำอ่ะ" พี่นายถามขึ้นอีกครั้งพร้อมเอานิ้วแกว่งกุญแจอย่างสบายใจ ฮึ่ม! เอาชาวบ้านมาทำแบบนี้มันสนุกขนาดนั้นเลยหรอวะ TT
"อาบครับอาบ รีบถอดเลยครับ" ผมตอบพี่นายพรางยื่นแขนที่โดนล็อคให้อย่างรีบๆ เอาวะอย่างน้อยๆ ได้ห่างกันมันแปปนึงก็ยังดี
แกร๊ก
"เดี๋ยวอีกชั่วโมงพี่จะมาใส่ให้ใหม่ รีบอาบน้ำละ เดี๋ยวแม่บ้านจะปิดครัวซะก่อน" พี่นายสั่งเสร็จก็เดินผิวปากออกจากห้องไปพร้อมพี่เป็นหนึ่ง ผมมองแผ่นหลังเพียวที่ลับตาไปอย่างเคืองๆ พี่เขาเล่นแรงชิบ TT
"มึงไปอาบก่อนละกันกูไปหาของแปป" ผมพยักหน้าให้เบสโดยไม่สบตาก่อนจะลุกไปหาเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวถือเข้าไปในห้องน้ำทันที
เมื่ออาบน้ำเสร็จผมเดินเช็ดผมออกจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นรูมเมทตัวเองอยู่ในห้องนอน ผมเดินออกไปตรงระเบียงและห้องนั่งเล่นก็ไม่เห็น หายไปไหนของมันวะ
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูเข้าห้องทำให้ผมที่นั่งอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นสะดุ้งตกใจนิดๆ ผมมองไปที่ประตูก็เห็นเบสเดินถือกล่องพยาบาลเข้ามานั่งลงข้างๆ ผม
"เอาข้อมือมา" เบสสั่งเสียงเรียบ ผมมองเบสด้วยสายตางงๆ พร้อมส่งข้อมือซ้ายให้มัน
"โอ้ย! มึงตบหัวกูทำไมเนี่ย" ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ เบสก็ตบหัวผมไม่แรงมากนัก อะไรของมันวะ
"แล้วมึงจะส่งข้อมือที่ไม่ได้เป็นห่าอะไรมาให้กูเพื่อ กูหมายถึงข้อมือที่โดนใส่กุญแจไอ้ปัญญาอ่อน" พูดดีๆ ไม่เป็นหรือไงวะพูดคำด่าคำผู้ชายเหี้ยอะไรปากจัดชิบหาย (แกก็เหมือนกันนั่นละ)
"แล้วมึงจะเอาไปทำอะไร" ผมถามขึ้นอย่างสงสัยแต่ก็ยื่นข้อมือให้เบสอยู่ดี
"เอามาตัดทิ้งมั้ง" เบสตอบกวนๆ พร้อมกับเปิดกล่องพยาบาลและเอาอุปกรณ์ทำแผลออกมา ผมมองการกระทำเบสด้วยความงงกว่าเดิม
ทำแผล? มันทำแผลให้ผมทำไม?
"โอ้ย! เบาๆ สิวะ มือหรือตีนเนี่ย" ผมร้องเสียงหลงเมื่อเบสเอาสำลีที่ชุ่มแอลกอฮอล์กดลงแผลตรงๆ นี่มึงทำแผลเป็นจริงๆ หรือป่าวเนี่ย - -"
"กูหมั่นไส้" ครับ ไอ้สัส
ผมขี้เกียจเถียงเลยปล่อยให้มันทำแผลไป เบสทำแผลต่อเงียบๆ จนเสร็จมันเอาผ้าก็อดพันรอบข้อมือผมหนานิดๆ นี่กูข้อมือขาดหรือไงวะ เอามาพันเพื่อออออออ
"มึงจะพันอะไรหนาขนาดนี้วะ กูไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย"
"เดี๋ยวต้องใส่กุญแจมืออีกพันกันไวมันจะได้ไม่กระแทกข้อมือมึง" เบสตอบผมขณะที่กำลังเก็บอุปกรณ์ผมมองเบสอย่างไม่เชื่อสายตา วันนี้มันทำผมอึ้งไปหลายรอบมากเลยนะเนี่ย
"มึงไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวกูเก็บเอง" ผมบอกเบสที่กำลังเก็บของ เบสหันมามองหน้าผมนิดๆ ก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องนอนไป
เบสเข้าไปได้สักพักผมก็นั่งมองข้อมือที่พันผ้าก็อดอย่างเหม่อลอยไอ้เบสมันผีเข้าอะไรขึ้นมา ทำไมอยู่ๆ มาทำแผลให้ แล้วทำไมตอนผมต่อยมัน มันไม่ต่อยผมกลับ แถมมันก็ไม่โวยวายตอนผมเรียกชื่อมันแล้วด้วย แปลก แปลกมาก
ผมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยด้วยความสับสน จนไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีเบสก็อาบน้ำเสร็จแล้ว
"ไหนบอกจะเก็บ ทำไมของยังวางไว้เหมือนเดิม" เบสพูดขึ้นเมื่อกลับมานั่งลงข้างผม ผมมองหน้าเบสด้วยความลังเลนิดๆ ก่อนจะจับหน้ามันให้หันมาหา
"อยู่นิ่งๆ แปปนะ"
ผมบอกเบสเสียงแผ่วแล้วหันไปมองอุปกรณ์ทำแผลที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ ผมหยิบสำลีชุบแอลกอฮอล์นิดๆ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้หายตื่นเต้นแล้วหันไปหาเบสที่กำลังมองผมนิ่งๆ
"..."
ไม่มีเสียงใดๆ เกิดขึ้นมีแต่ผมที่กำลังทำแผลบนหน้าของเบสด้วยมือสั่นๆ ผมพยายามโฟกัสสายตาไปที่แผลตรงแก้มและมุมปากของเบสเท่านั้น ผมแค่ไม่อยากติดหนี้บุญคุณ มันทำแผลให้ผม ผมก็แค่ทำให้มันบ้างไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษซะหน่อย!
"ยะ...อย่าพึ่งขยับนะ กูจะใส่เบตาดีนและติดพลาสเตอร์ตรงแก้มให้" แล้วเสียงจะสั่นเพื่ออออ กลายเป็นว่าคนที่ล้นลานมีแค่ผมคนเดียว ไอ้นี่ก็นิ่งตามที่บอกจริงๆ มึงไม่ตื่นเต้นจนกูตื่นเต้นเองแล้วเนี่ย TT
"อืม" เบสตอบกลับเสียงเรียบ ผมพยายามทำตัวให้ปกติที่สุดจนทำแผลให้เบสเสร็จ
"ขอบคุณ" เบสพูดขึ้นเมื่อผมทำแผลเสร็จและกำลังเก็บอุปกรณ์อยู่
"ขอบคุณเหมือนกัน" ผมตอบเบสกลับทั้งๆ ที่ไม่มองหน้า รู้สึกกระดากปากแหะ -"-
แกร๊ก
"โย่ว! พระเจ้าของพวกนายมาแล้ว ได้เวลาใส่กุญแจแห่งรักแล้วน๊า"
เสียงของคนที่เข้ามาใหม่ไม่ได้ทำให้พวกผมสนใจสักนิด ผมยังก้มเก็บอุปกรณ์เงียบๆ ส่วนเบสก็ไม่พูดอะไรทำให้พี่นายแปลกใจไม่น้อย
"ไอ้บรรยายกาศสีชมพูอมม่วงที่อยู่รอบๆ ตัวพวกนายนี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นหรอ" พี่นายถามขึ้นพร้อมกับเดินมานั่งข้างผมอีกข้าง
"ไม่มีอะไรนิ"
"ไม่มีอะไรครับ" ผมกับเบสตอบพี่นายโดยไม่มองหน้า ผมเก็บอุปกรณ์เสร็จก็ถือกล่องพยาบาลเข้าไปเก็บในห้องส่วนเบสก็หยิบรีโมทเปิดทีวี
"เฮ้อ"
เมื่อเข้ามาในห้องผมก็ถอนหายใจอย่างแรง ผมเดินไปเก็บกล่องพยาบาลไว้บนชั้นในตู้เสื้อผ้า แล้วยืนสงบใจตัวเองสักพักก่อนจะเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น
"เตี้ยกล่องพยาบาลกูยืมมาจากห้องพยาบาลในโรงเรียนนะ ครูบอกค่อยเอาไปคืนวันจันทร์" เบสพูดขึ้นเมื่อเห็นผมกลับมานั่งที่เดิม
"อ่า"
ผมตอบกลับเบสทั้งๆ ที่สายตามองโทรทัศท์ เอาจริงๆ ผมยังไม่รู้เลยว่าในทีวีตอนนี้ฉายอะไร ความคิดผมมันตีกันมั่วไปหมด ผมงงกับการกระทำเบสสุดๆ อ่ะ
"พวกนายทำฉันงง เบสมึงยืมกล่องพยาบาลมาทำแผลให้ชิโระอ่อ"
"เออ"
"ชิโระ นายทำแผลตรงหน้าให้เบสหรอ"
"ครับ"
"หืม...ฮ่าๆ สุดยอดไปเลย นี่เป็นเพื่อนกันแล้วหรอ คืนเดียวรู้เรื่อง"
ผมกับเบสไม่ตอบอะไร ผมเงียบเพราะอยากรู้ว่าเบสจะค้านอะไรกับคำว่าเพื่อนมั้ย แต่เมื่อมันไม่ค้านผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องโวยวาย สรุป ผมกับมันเป็นเพื่อนกันแล้วหรอ? จริงอ่ะ?
"มึงจะรบกวนห้องพวกกูอีกนานม่ะ จะใส่กุญแจก็รีบใส่ แล้วจะไปไหนก็ไป" เบสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำเอาพี่นายหัวเราะหนักกว่าเดิม มันมีอะไรน่าขำวะ - -?
"ใช้คำว่า 'ห้องพวกกู' ซะด้วย ฮ่าๆ พัฒนาสุดๆ ไอ้บ้าหน้าตายที่ไม่สนใครนอกจากน้องสาวกำลังพูดคำว่า 'พวก' ออกมา ฮ่าๆๆ" ผมหันไปมองเบสที่กำลังดูทีวีด้วยความตกใจไม่น้อย จะว่าไงดีอ่ะ เรื่องมันทำผมสับสนมากทีเดียว ตีกันอยู่ดีๆ ไหงเป็นงี้ไปได้
"น่ารำคาญวะนาย จะทำอะไรก็รีบทำแล้วไปได้แล้ว"
"ฮ่าๆ โอเคกูไปก็ได้ ไม่ใส่แล้วละ เอาะ! เบสกูรู้นะว่าทำไมมึงถึงเป็นแบบนี้ จะเอามาเป็นตัวแทน 'เขา' ใช่มั้ยละ ที่กูเอาชิโระมาอยู่กับมึง มึงก็รู้ว่าเพราะอะไร ตัดใจสักทีเหอะวะ"
"เลิกพูดไร้สาระแล้วไปสักทีเหอะ"
"กูเตือนเพราะหวังดีชิโระกับคนๆ นั้นมันคนละคนกันอย่ามองซ้อนทับไม่งั้นคนที่เสียใจที่สุดก็คือมึง"
พี่นายพูดจบก็เดินออกจากห้องไป ผมมองเบสที่กำลังดูทีวีด้วยความสับสน ไม่ใช่แค่เบสที่สับสนผมก็ไม่ต่างกัน เรื่องที่พี่นายพูดมันเรื่องอะไร แล้วผมไปเป็นตัวแทนใคร ผมงงไปหมดแล้ว
"มึงหิวข้าวยัง" ผมสะดุ้งนิดๆ เมื่อเบสหันมาถาม
"อืม นิดหน่อย" ผมตอบเบสพรางมองนาฬิกา จะบ่ายสองแล้วแหะ ยังไม่กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานเลย
"งั้นคงต้องสั่งหรือไม่ก็ออกไปกินข้างนอกปานนี้ครัวที่หอปิดแล้วละ ถ้าจะรอกินที่หอก็ต้องกินอีกทีตอนห้าโมงเย็น" ตั้งห้าโมงรอไม่ไหวหรอก ตายก่อนพอดี TT
"ออกไปกินข้างนอกดีกว่ากูไม่อยากอยู่ห้องด้วย" ได้เป็นอิสระทั้งทีจะมาอุดอู้อยู่ในห้องทำไม
"แล้วจะกินอะไร"
"อืม...อยากกินอาหารญี่ปุ่นอ่ะ"
"ฟูจิม่ะ"
"โอเค ~" ผมตอบเบสด้วยท่าทางดีใจ เบสมองผมแล้วยิ้มนิดๆ จนผมชะงัก
"ยะ...ยิ้มอะไร" ผมถามเบสพรางทำหน้าขรึม
"ทำไม ยิ้มไม่ได้ไง" เบสถามผมกลับด้วยรอยยิ้ม ทำเอาผมทำตัวไม่ถูก อะไรของมันอยู่ๆ จะดีก็ดีใจหายเลยวุ้ย
"ปะ...ป่าว อยากจะยิ้มก็ยิ้มไปดิ ยิ้มให้พอ อย่าหยุดด้วยนะมึง" ผมโวยวายกลบเกลื่อนแล้วลุกหนีเพื่อออกจากห้อง ไปกินคนเดียวดีมั้ยเนี่ย
"เด็กน้อยเอ้ย" เบสบ่นพึมพัมไล่หลังไม่ดังมากแต่ผมก็ได้ยินก่อนที่เบสจะเดินตามหลังผมมาทันที
"มึงจะใส่แมทปิดปากทำไมวะ" เบสถามขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดในขณะที่พวกผมกำลังเดินหาร้านฟูจิในห้างใกล้ๆหอ
"ก็กูไม่ชอบเวลาคนมองหน้าอ่ะ" ผมตอบเบสด้วยน้ำเสียงไม่ต่างกัน ตั้งแต่ออกจากหอเบสเซ้าซี้ให้ผมถอดแมทตลอดทางจนผมจะต่อยมันอยู่แล้ว
"เค้าจะมองก็มองไปสิ มึงจะไปแคร์ทำไม ยิ่งมึงใส่แบบนี้เค้ายิ่งมอง"
โห...พูดง่ายนิตัวเองไม่แคร์อะไรเนาะ ตั้งแต่เดินมาจากหอถึงห้างทั้งหญิงแท้หญิงเทียมมองเบสแทบจะแดกหัว (ตอนนี้ก็ยังมีคนมอง) มันก็ไม่สนใจใครเลยจริงๆนั่นละ แต่ผมไม่ใช่มันไง ใครจะไปหน้าด้านเหมือนมันละ และที่สำคัญส่วนใหญ่ที่มองมันเพราะอยากได้ แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มองผมไม่รังเกลียดก็อิจฉา มันต่างกันนะเว้ย TT
"ชั่งกูเหอะน่า มึงไม่เข้าใจกูหรอก" คนตัวสูงหน้าผู้ชายแบบมึงจะมาเข้าใจผู้ชายสูง 162 หน้าตาแบบกูได้ไง TT
"ถ้างั้นครั้งหน้ามึงลองแต่งหญิงดูม่ะ จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดกับหน้าตาก่ำกึ่งแบบนี้"
"แต่งหญิงพ่อมึงสิ กวนตีนละ" ผมด่าเบสพร้อมมองมันด้วยสายตาขุ่นๆ ต่อยสักทีดีมั้ยเนี่ย
"หยุดมองเหมือนจะแดกหัวกูได้แล้ว ถึงแล้วเนี่ย แดกข้าวครับแดกข้าว" กวนตีนแบบอิฟินีตี้มาก
"ฟูจิยินดีต้อนรับค่ะ มากี่ท่านค่ะ"
"สองครับ"
"ชาย1 หญิง1 สองท่านนะคะ"
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"ไอ้เชี่ยเบส!!" ผมเรียกชื่อเบสที่หัวเราะอย่างโมโห ขนาดใส่แมทยังโดนหาว่าเป็นผู้หญิงอีก แม่งเอ้ย! TT
"อ่ะ! ผู้ชายหรอคะ ขอโทษค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ"
พนักงานเมื่อเห็นผมดูโมโหก็รีบขอโทษ ผมพนักหน้าให้เธอนิดๆแล้วยิ้มกลับเพื่อไม่ให้เธอกังวล ก่อนจะเดินนำไอ้บ้าเบสที่ยังไม่หยุดหัวเราะไปโต๊ะว่างติดกระจก
"มึงหัวเราะเกินไปละ" ผมว่าเบสเสียงขุ่นเมื่อมันนั่งลงตรงข้ามผม
"ก็ขนาดเขาไม่เห็นหน้ามึงยังรู้เลยว่ามึงเป็นผู้หญิง"
"ผู้หญิงพ่อง แม่ง! มึงชอบกวนตีนอ่ะ กูไม่กินละ" ผมพูดอย่างโมโหพร้อมดันเมนูให้เบส
"โหย...กูแค่แซวเล่นเหอะ ทำตัวเป็นผู้หญิงไปได้ อ่ะๆ มื้อนี้กูเลี้ยงเลยเอ้า!" ผมเหล่มองเบสนิดๆก็เห็นมันมองผมนิ่งๆแล้วดันเมนูคืนมาให้ ก็ได้ เห็นแก่ความเป็นเพื่อน(?) กินก็ได้
"กูหิวเฉยๆหรอกนะ ไม่ใช่เพราะว่ามึงเลี้ยง กูยอมกินก็ได้"
"เหอะ คร้าบๆ" ผมยิ้มอย่างพอใจก่อนจะถอดแมทแล้วหยิบเมนูขึ้นมาดูอีกครั้ง ประหยัดไปอีกมื้อละเว้ยยยย
"เมฆ เมฆใช่มั้ย" เสียงใสของคนที่เข้ามาทักทำให้ผมกับเบสเงยหน้าขึ้นมองอย่างงงๆ
"เธอเป็นใคร" เบสถามขึ้นด้วยท่าทางนิ่งๆทำให้หญิงสาวชะงักไปนิดก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมายิ้มหวานอีกครั้ง
"ครีมไงคะ ที่เราเคยเจอกันตอนวันเกิดเฮลไง" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแล้วนั่งลงข้างเบสทันที
"อ่อ...มีอะไรหรอ" เบสไม่สนใจหญิงสาวที่กำลังนั่งคลอเคลียตนสักนิด แล้วหันไปดูเมนูต่อ
"ครีมมากินข้าวคนเดียวเห็นเมฆนั่งอยู่เลยอยากมาขอกินด้วย เมฆจะว่าอะไรมั้ยคะ" เอ่อ...เขามองเห็นผมป่าววะ ผมก็นั่งอยู่นะ
"แต่ผมไม่ได้มาคนเดียว" เบสตอบทั้งๆที่ตายังดูเมนูอยู่ทำให้หญิงสาวหันมามองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก อ้าวเฮ้ย! ผมทำอะไรผิด -"-
"แล้วแม่นี่เป็นใครหรอคะ ปกติเมฆไม่เดทกับผู้หญิงจืดๆไม่ใช่หรอ" อือหือปรี๊ดเลย มองผมเป็นผู้หญิงได้ไงวะ ตาบอดหรือไงงงงง
"ขอโทษนะครับที่ผมจืด แต่ผมเป็นผู้ชายครับ" ผมตอบเธอด้วยน้ำเสียงขุ่น ทำเอาหญิงสาวตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าผมเป็นผู้ชาย
การที่เธอมองผมเป็นผู้หญิงมันน่าตกใจกว่าอีกนะเว้ย!
"อุ้ย! ขอโทษค่ะ ครีมไม่รู้ นายคงเป็นเพื่อนของเมฆสินะคะ ขอโทษที่เสียมารยาทนะ ครีมแค่ระแวงกลัวเมฆไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นมากไปหน่อย" ทำไมผมรู้สึกหมั่นไส้กับการกระทำของนางวะ - -
"ไม่เป็นไรครับ" ผมตอบเธอแล้วหันไปเรียกพนักงานเพื่อสั่งอาหาร
"แล้วสรุปครีมนั่งด้วยได้มั้ยคะ"
"เตี้ยว่าไง"
"ได้ครับ" ผมตอบพวกเขาโดยที่สายตายังจ้องเมนูและชี้ให้พนักงานจด ใครอยากจะนั่งอยากจะทำอะไรก็แล้วแต่เหอะ ขอแค่อย่ารบกวนผมก็พอ
"ขอบคุณนะ งั้นครีมขอสั่งบ้าง"
ครีมหันไปสั่งกับพนักงานที่รับออเดอร์ผมเสร็จพอดี ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเพื่อฆ่าเวลา เสียดายยังไม่ได้แลกเบอร์ไลน์กับบิวเลย
"ขอโทษนะคะ เพื่อนของเมฆชื่ออะไรหรอคะ" ผมที่กำลังนั่งเช็คอะไรไปเรื่อยเปื่อยก็เงยหน้าขึ้นเมื่อถูกถาม
"ชื่อชิโระครับ" ผมตอบเธอแล้วก้มเล่นโทรศัพท์ต่อ
"เป็นเพื่อนกับเมฆนานแล้วหรอคะ วันเกิดเฮลไม่เห็นชิโระมาเลย"
แล้วจะตอบยังไงละเนี่ย อืม...เป็นเพื่อนกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง แต่ถ้าตอบอย่างนั้นเขาจะว่าผมบ้ามั้ยอ่า พึ่งเป็นเพื่อนก็มากินข้าวด้วยกันละ ว่าแต่พวกผมเป็นเพื่อนกันยังวะ - -"
"ครีมถามอะไรแปลกไปหรือป่าวคะ" เมื่อเห็นผมเงียบหญิงสาวก็ถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงกังวล
"ป่าวครับ ผมแค่กำลังงงๆสับสนๆอยู่ไม่มีอะไร" ผมตอบครีมแล้วปรายตามองเบสก็เห็นมันมองผมนิ่งๆอยู่ แหม...จะไม่พูดอะไรเลยหรือไง ผู้หญิงตัวเองแท้ๆ
"อ่อ...แล้วชิโระมีแฟนหรือไงคะ" เป็นคำถามที่ไม่ควรถามมาก หน้าอย่างผมมีแฟนได้ด้วยหรอวะครับ TT
"ยังครับ"
"ฮ่าๆ นั่นน่ะสิคะ ชิโระน่ารักมากเป็นครีม ครีมก็ไม่กล้าคบเดินด้วยคนคงมองเป็นเพื่อนสาวมากกว่า แถมไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากคบกับผู้ชายที่น่ารักกว่าตัวเองหรอก..."
ตึง!
"ครีมเธอพูดมากน่ารำคาญ" เสียงกระแทกของขวดน้ำพร้อมกับคำพูดราบเรียบของเบสทำเอาผมกับครีมถึงกับสะดุ้งโหยง
"คะ...ครีมขอโทษค่ะ ชิโระครีมขอโทษนะคะถ้าพูดไม่ดีออกไป"
"อ่า...ไม่เป็นไรครับ" ผมบอกครีมพร้อมยิ้มเจื่อนๆให้
"เมฆอย่าโกรธครีมเลยนะคะ ครีมแค่หึงที่เห็นเมฆมากับคนน่ารักขนาดนี้ จนลืมไปว่าชิโระเป็นผู้ชาย" ครีมพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับเอาหน้าซบบ่าของเบสเพื่อง้อ ว่าแต่ลืมว่าผมเป็นผู้ชายมันหมายความว่าไงวะ - -"
"ครีม ผมกับครีมเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวคืนเดียว มันน่าจะจบแค่นั้น ถ้าจะมาเยอะกับผมครีมก็กลับไปซะ" เชี่ยยยยยย...โหดร้าย มึงพูดขนาดนี้มึงตบหน้าเขาเถอะ นี่ถ้าผมเป็นครีมผมถีบปากมันไปแล้วนะเนี่ย
"คะ...ครีมขอโทษค่ะ ครีมขอโทษจริงๆครีมจะไม่ทำอีกแล้ว เมฆอย่าไล่ครีมนะคะ" โห...ไม่โกรธด้วยแหะ ไอ้นั่นของเบสมันเหลี่ยมทองหรือไงวะ -0-
"ขออณุญาตเสริฟอาหารค่ะ"
เสียงพนักงานเข้ามาเสริฟอาหารดังขัดขึ้นทำให้เบสต้องปรับสีหน้าและท่าทางพร้อมกับแกะมือของครีมออกจากแขนอย่างไม่แยแส
จ๊ะ...ไอ้หล่อเลือกได้
ผมคิดด่าเบสในใจอย่างหมั่นไส้ก่อนจะมองหาอาหารที่ผมเป็นคนสั่ง
"แขนสั้นยังตาถั่วอีกนะมึง" เบสพูดว่าผมแล้วเลื่อนซาซิมิมาไว้ตรงหน้าให้ มันรู้ได้ไงว่าผมหาซาซิมิอยู่
"อ่าแต๊งกิ๊ว" ผมตอบเบสทั้งๆที่ตามองซาซิมิ แล้วพวกเราทั้งสามก็ลงมือทานอาหารโดยมีครีมคอยเอาอกเอาใจเบสตลอด
"ขอบคุณเมฆมากนะคะที่เลี้ยงครีมไปด้วย ครั้งหน้าขอครีมเลี้ยงคืนบ้างนะคะ" ครีมพูดขึ้นเมื่อพวกเราเดินออกจากร้านอาหารได้สักพักแล้ว
"ไม่เป็นไร" เบสตอบกลับเสียงเรียบ
หมับ
"อ่ะ"
"เดินดูทางด้วยสิไอ้เตี้ย เกือบชนแล้วเห็นมั้ย!" เบสพูดว่าเสียงดุเมื่อคว้าเอวผมก่อนที่ผมจะเดินชนเสาเพราะมั่วแต่ก้มเล่นโทรศัพท์
"แหะๆ โทษทีวะ ขอบคุณนะ" ผมพูดพร้อมหัวเราะแห้งๆให้เบสแต่คนตรงหน้ากลับทำหน้าโหดกลับมาซะงั้น โหย...แค่นี้ก็ต้องโมโห
"งั้นครีมขอตัวก่อนนะคะ แล้วจะโทรหา!" ครีมพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแล้วปรายตามองผมนิดๆก่อนจะเดินแยกจากไป นั่นไง มีศัตรูผู้หญิงเพิ่มอีกแล้ว TT
"ครั้งหน้ากูจะไม่มากินข้าวกับมึงอีกละ" เมื่อครีมลับสายตา ผมก็พูดขึ้นอย่างเซ็งๆ
"ทำไมวะ ข้าวกูก็เลี้ยแถมช่วยมึงที่เกือบจะหน้าบี้เพราะชนเสาแล้วไหงพูดหมาๆงี้อ่ะ"
"ก็มึงมันตัวเรียกผู้หญิงแต่กูเป็นพวกผู้หญิงรังเกียจมาอยู่ด้วยกันเป็นอะไรที่บันเทิงเกินไป กูอยู่นิ่งๆผู้หญิงก็เกลียดเยอะอยู่แล้วยิ่งมาอยู่กับมึงกูว่าแม่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอีก" แค่คิดก็หดหู่ ชาตินี้ผมคงหาแฟนไม่ได้
"กูก็เป็นพวกที่ผู้ชายไม่ค่อยชอบขี้หน้าหรอก ยิ่งมาอยู่กับมึงยิ่งโดนเกลียดเป็นสองเท่าเหมือนกันนั่นละ" ผมมองเบสด้วยสายตางงๆหมายความว่าไงวะ ทำไมมาอยู่กับผมแล้วโดนเกลียดมากขึ้นละ
"เฮ้อ...เตี้ย เคยมีใครด่ามึงว่าซื่อบื่อหรือความรู้สึกช้าม่ะ"
"ไม่อ่ะ"
"กูว่ามึงคงใช้เวลาอีกนานกว่าจะโตเข้าใจและรู้ตัวอะไรได้ เอาเถอะ! กูไม่รีบ" เบสพูดจบก็เดินทิ้งผมให้งงกว่าเดิม อะไร ใครไม่โต? มันว่าผมเป็นเด็กหรอ? แล้วมันไม่รีบเรื่องอะไร?
ผมยืนงงสักพักก็วิ่งตามเบสไป คนตัวสูงหันมามองผมนิดๆก่อนจะยกแขนขึ้นมากอดคอผมแล้วเดินลงบันไดเลื่อนโดยไม่พูดอะไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ