BEST FRIEND(?) #เบสเฟรนด์ชิโระ

6.2

เขียนโดย Khunpor

วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 04.35 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 06.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) BEST FRIEND(?) 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

บทที่ 1

 

 

     "เทอมแรกเป็นยังไงบ้างจ๊ะ ชิโระ"

เสียงอ่อนโยนของแม่(?) ถามขึ้นตอนผมกำลังจะตักอาหารเข้าปาก

     "ทำไมแม่พึ่งมาถามผมเอาปานนี้ละครับ นี่จะจบเทอมแรกอยู่แล้วนะ" ผมเงยหน้าตอบท่านยิ้มๆ

     "ก็แม่มัวแต่ยุ่งเรื่องงาน ขนาดวันปฐมนิเทศ แม่ก็ไม่ได้ไป รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้" แม่พูดด้วยน้ำเสียงหม่นๆ

     "อย่าคิดมากเลยครับ ขนาด 'พ่อ' ยังไม่สนใจอะไรเลย"

     "ชิโระ อย่าโกรธพ่อเลยนะลูก พ่อเข้างานยุ่งน่ะ"

     "ผมจะไปโกรธกับคนที่แทบไม่กลับบ้านหรือคุยกันได้ยังไงละครับ"

     "ชิโระ..."

     "พี่ชิโระ ปาล์มเสร็จแล้ว ไปเรียนกันนนน!!"

     เสียงตะโกนของน้องสาว(?) ทำให้ผมที่คุยกับแม่อยู่ต้องชะงัก ก่อนจะหันตามเสียงแล้วเห็นร่างเล็กวิ่งลงบันไดด้วยท่าทางเร่งรีบ

     "ปาล์มอย่าวิ่ง พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าเป็นผู้หญิงให้รู้จักสำรวมอยู่ตั้ง ม.3 แล้วนะ" ผมหันไปดุน้องสาวตัวเองแบบไม่จริงจังนัก

     "ก็หนูกลัวพี่ไปก่อนนิ"

     "พี่บอกจะรอไม่ใช่หรือไง กินข้าวก่อนแล้วค่อยไป"

     "ค่ะ..." ปาล์มตอบรับเสียงแผ่วแล้วเดินมานั่งข้างผมด้วยท่าทางเรียบร้อย

ต้องให้บ่นก่อนที่จะทำตัวดีๆ - -

     "แม่ละดีใจจริงๆ ที่ปาล์มมีพี่ชายแบบชิโระ ยัยตัวดีไม่เคยฟังใครเลยยกเว้นชิโระนะเนี่ย" แม่พูดพรางมองปาล์มยิ้มๆ

     "แม่อ่า..."

     "ปาล์มอย่าทำเสียงแบบนั้นใส่แม่" ผมดุน้องสาวที่ทำหน้าตาและเสียงกระเง้ากระงอใส่แม่ที่แซวตัวเอง

     "ขอโทษค่ะ..." ปาล์มขอโทษเสียงแผ่วอีกครั้ง แล้วก้มหน้ากินข้าวของตัวเองเงียบๆ ต่อ

     "คิคิ ชิโระปราบอยู่หมัดเลย โชคดีจริงๆ ที่ได้เด็กดีแบบชิโระมาเป็นลูก แม่โชคดีจริงๆ"

     ผมยิ้มให้กับคำพูดของแม่โดยไม่ตอบอะไรก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นด้วยความรู้สึกขยะแขยง เด็กดีงั้นหรอ? เป็นจนรู้สึกรังเกลียดตัวเองแล้วละครับ

     

     "เฮ้ย!! มึงดูไอ้ตุ๊ดมาเรียนแล้วเว้ย"

     "ไอ้ตุ๊ดอยากให้พวกกูช่วยสอยตูดป่ะวะ"

     "มีหน้าแบบนั้นไม่รู้สึกอายบ้างหรือไง"

     "ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"

     เสียงโหวกเหวกและคำพูดส้นตีนดังขึ้นทันทีเมื่อผมเดินเข้าห้อง ผมปรายตามองพวกปากหมาพยายามสะกดกั้นอารมณ์แล้วเดินผ่านเข้าห้องไปเงียบๆ ตั้งแต่เปิดเทอมมา ผมไม่มีเพื่อนสนิทเลยอาจจะเพราะด้วยหน้าตาทำให้ผู้ชายปกติไม่คบ จะไปคบพวกเพศที่ 3 ไอ้เราก็ไม่ได้เป็นแบบเขา เลยกลายเป็นว่าผมต้องอยู่คนเดียวพร้อมกับโดนคนอื่นดูถูกไม่เว้นแต่ละวัน

     'ใจเย็นไว้ชิโระ เราต้องเป็นเด็กดีไม่สร้างปัญหาให้พ่อ'

     ตึง!!

     "พวกกูพูดด้วยหูหนวกหรือไง!!"

     เสียงล้มตึงของโต๊ะผมทำให้ผมที่นั่งอยู่เงยหน้ามองพวกมันช้าๆ ไอ้สามตัวนั่นเลิกคิ้วกวนตีนแล้วจ้องผมกลับ

     อยากกระทืบแม่งจริงๆ !!!!

     "พวกนายต้องการอะไร" ผมถามพวกมันเสียงเรียบ

     "อย่ามาทำเสียงและหน้าตาแบบนั้นใส่พวกกูนะไอ้ตุ๊ด!!" คำก็ตุ๊ด สองคำก็ตุ๊ด บ้านมึงมีปมเพราะพ่อเอาตุ๊ดทำเมียไงวะถึงหาเรื่องกูจัง!!!!!

     "แล้วต้องการอะไร"

     ผมผ่อนสีหน้าและน้ำเสียงลงพร้อมถามพวกมันดีๆ อีกครั้ง คำพูดแบบนั้นก็ได้แต่คิดในใจ ไม่ใช่ว่าผมกลัวพวกมัน แต่ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้ที่บ้าน เป็นเด็กดีมาตลอดก็ต้องอดทนต่อไป

     "เหอะ!! นึกว่าจะแน่" เย็นไว้ชิโระ เย็นไว้ โดนมาทั้งเทอมแล้วอดทนมาตลอด ต้องใจเย็นไว้

     "นี่พวกนาย อย่าหาเรื่องชิโระได้มั้ย ฉันไม่เห็นชิโระจะทำอะไรไม่ดีเลย มีแต่พวกนายไปวุ่นวายกับเขา"

ห้องที่เงียบเพราะไม่มีใครกล้ายุ่ง จู่ๆ ก็มีเสียงใสๆ ของหัวหน้าพูดขึ้นพรางกอดอกอย่างมาดมั่น ฮืออออออ แต่งงานกับผมมั้ยครับ ผมต้องการคุณปกป้องไปตลอดชีวิต

     "เป็นผู้หญิงอย่ามาสะเออะสิวะ นี่มันเรื่องของลูกผู้ชายถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นตุ๊ดก็ตาม" กูว่ามึงมีปมจริงๆ นั่นละ

     "ฉันเป็นหัวหน้าห้อง อะไรไม่ถูกไม่ควรฉันก็ต้องตักเตือน พวกเราอยู่ตั้ง ม.4 แล้วนะจะมาหาเรื่องทะเลาะกันเป็นเด็กๆ ทำไม"

     "อย่าเสือก!!" หนึ่งในสามคนตะโกนใส่จนหัวหน้าห้องสะดุ้งนิดๆ เฮ้ยๆ นั่นผู้หญิงนะเว้ย

     "ฉันจะฟ้องครูว่าพวกนายรังแกคนอื่น"

     หัวหน้าพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องแต่หนึ่งในสามคนไวกว่าก้าวไม่กี่ก้าวถึงตัวร่างเล็กก่อนจะจับแขนแล้วเหวี่ยงลงพื้นทันที

     "โอ้ย!! ฮึก!!" หัวหน้าห้องร้องออกมาพร้อมกับสะอื้นเล็กๆ ด้วยความตกใจ

     "เฮ้ย!!! พวกมึงเป็นบ้าหรอ นั่นผู้หญิงนะเว้ย!!!"

     ผมตะโกนขึ้นอย่างหมดความอดทน ทั้งห้องหันมามองผมอย่างไม่เชื่อสายตาว่าผมจะพูดคำหยาบ หมดกันลุคเด็กดีกู

     "ฮ่าๆๆๆ มึงขึ้นมึงขึ้นกูกับใคร ไอ้ตุ๊ด"

     ไอ้หัวหน้าแก๊งลิง (ไม่รู้ชื่อแม่งเรียกงี้ละ) หันมาถามผมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในเมื่อลุคมันหลุดแล้วก็ขอเอาให้สุดเลยละกัน

     ผมถอดแว่นออกพร้อมกับเสยผมที่ปรกหน้าขึ้นอย่างหงุดหงิด ทั้งห้องเริ่มหันมาดูละครฉากใหม่ด้วยความตื่นเต้นโดยไม่มีใครคิดจะลุกไปเรียกอาจาร์หรือเข้ามาห้ามสักนิด เหอะ!! มีแต่คนดีๆ ทั้งนั้น

     "ยืนมีเรื่องกันอยู่แค่นี้มึงคิดว่ากูจะคุยกับพ่อมึงอยู่หรือไง"

     "โอ้วววววววววววววว"

เมื่อสิ้นเสียงคำพูดผมเสียงโห่ด้วยความสนุกก็ดังขึ้นนั่นยิ่งทำให้คนตรงหน้าเดือดมากกว่าเดิมอีกเท่าตัวแน่ๆ

     "ปากดีนักนะมึง!!!"

     ผัวะ!!!

     "กรี๊ดดดดดดด"

     เสียงกรี๊ดตกใจของเด็กผู้หญิงในห้องดังขึ้นพร้อมกับหน้าของผมที่สะบัดตามแรงหมัดของคนที่ตัวใหญ่กว่า กลิ่นคาวเลือดคลุ่งในปาก ความเจ็บแล่นเข้ามาทันที แต่มันก็ไม่เท่าไหร่สักนิด

     ถุย!

ผมถ่มเลือดที่อยู่ในปากออกอย่างไม่แยแส

     "นี่เรียกหมัดหรอ น้องกูตบยุงยังเจ็บกว่าอีก" ผมพูดยั่วโมโหคนตรงหน้าพร้อมกระตุกยิ้มร้าย

     "มึง...!!!"

     "ตากูบ้างนะ"

     ผัวะ!!!

     "อู้วววววววววววววว"

เสียงโห่ร้องดังขึ้นครั้งพร้อมกับสีหน้าช็อคของพวกลูกสมุนที่เห็นเจ้านายตัวเองลงไปนอนกับพื้น

     "มะ...มึง มึงทำกูฟันหัก กูจะฟ้องป๊า!!!!" อ้าว...ไหงกลายเป็นงี้วะ

     "ประสาทหรือไง มึงต่อยกูก่อน กูเอาคืนแล้วไหงวิ่งไปฟ้องพ่อวะ"

ผมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและมองคนที่นั่งกองอยู่กับพื้นอย่างนึกโมโห ถ้าเรื่องถึงผู้ปกครองทางฝั่งของพ่อแม่ผมก็ต้องมาด้วยแน่ๆ แบบนั้นไม่โอเคสักนิด!!

     "หุบปาก มึงทำกูเจ็บ กูจะเอาเรื่องมึงให้ถึงที่สุด!!!" ไอ้หัวหน้าลิงพูดจบก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องโดยมีลูกสมุนวิ่งตาม

     ผมทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความเครียด ถ้ามันไปฟ้องพ่อจริงๆ ผมจะทำไงดี ผมไม่อยากให้พ่อผมรับรู้เรื่องนี้ ผมสัญญากับแม่แล้วว่าจะเป็นเด็กดี รู้งี้น่าจะยอมปล่อยให้มันหาเรื่องจบๆ ไปจะได้ไม่ต้องมีปัญหาตามหลัง

     "ชะ...ชิโระ...ขอบใจนะ"

เสียงของใครสักคนดังขึ้นทำให้ผมที่นั่งเครียดอยู่เงยหน้าขึ้นช้าๆ ก่อนจะเห็นหัวหน้าห้องส่งยิ้มแห้งๆ มาให้

     "ไม่เป็นไร ที่เธอต้องมาเจ็บตัวก็เพราะฉัน ขอบใจเหมือนกัน" ผมตอบเธอเสียงแผ่วแล้วหยิบแว่นมาใส่อีกครั้ง

     "นายไม่ต้องกังวลเรื่องที่หมอนั้นพูดหรอกนะ ถ้าเขาจะไปฟ้องพ่อจริงๆ ฉันจะเป็นพยานให้ว่าเธอโดนทำร้ายก่อน"

     "อืม ขอบใจมาก" ผมพูดขอบใจหัวหน้าห้องด้วยรอยยิ้ม อย่างน้อยๆ ก็มีพยานช่วยหนึ่งคนละวะ

     "แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่ามึงจะเป็นพวกหัวรุนแรง" จู่ๆ ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาพร้มอกับเจ้าของเสียงที่หันมาหาผมที่นั่งหลังเขาอยู่

     "ผมแค่ป้องกันตัว" ผมตอบเสียงเรียบแล้วยกโต๊ะตัวเองขึ้น

     "ไม่ต้องพูดสุภาพกับกูก็ได้ กูชื่อเฟริส มึงชื่อชิโระใช่มั้ย"

     "เออ" เขาบอกให้ผมไม่ต้องพูดสุภาพเองนะ

     "ฮ่าๆ กูชอบมึงวะ ทั้งนิสัย ทั้งหน้าตา เป็นเมียกูม่ะ"

     "เมียพ่อมึงสิ"

     "ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ" ขำส้นตีนอะไรนักหนา

     "งั้นฉันขอกลับไปนั่งโต๊ะก่อนนะ" หัวหน้าพูดขึ้น ผมพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินกลับไปที่ของตัวเอง

     "สนใจหัวหน้าอ่อวะ" เฟริสถามพรางทำสีหน้าแปลกๆ

     "ป่าว" ผมตอบทั้งๆ ที่สายตามองหนังสืออยู่ อยากจะอ่านทบทวนก่อนเริ่มเรียน

     "แล้วมึงชอบแบบไหนวะ" เฟริสยังถามไม่เลิก

     "ไม่มีสเป็ค" ผมตอบอย่างรำคาญนิดๆ เริ่มจะไม่มีสมาธิอ่านหนังสือละ

     "แล้วถ้าสูงกว่ามึง หน้าตาดี บ้านรวย แถมแอบชอบมึงมานานแล้วด้วย มึงสนม่ะ"

     "เออ" ผมไม่รู้ว่าแม่งพูดอะไรหรอก แต่ก็ตอบปัดๆ ให้มันจบๆ ไป

     "งั้นกูขอเบอร์กับไลน์มึงหน่อยดิ"

     "..."

     "ชิโระ"

     "..."

     "ไอ้ชิโระ!!!"

     "อะไร!" เรียกอยู่ได้ ไม่ต้องอ่านมันละหนังสือเนี่ย!!

     "กูขอเบอร์กับไลน์หน่อย" ไอ้เฟริสพูดยิ้มๆ แล้วยื่นมือถือมาให้ผมแบบไม่รู้สึกผิดสักนิด

     น่ากระทืบสักทีจริงๆ

     "เฮ้อ...ถ้าให้แล้วอย่ามากวนกูนะ"

     "อื้ม!!"

     เฟริสพยักหน้าหงึกหงัก ผมมองมันอย่างหน่ายๆ ก่อนจะรับโทรศัพท์มาจากมันแล้วให้เบอร์กับไลน์ไป

     "แต๊งกิ้ว" เฟริสพูดด้วยรอยยิ้มดีใจ แล้วหันกลับไปทันที

     "เอาละนักเรียน นั่งที่ได้แล้วจะเริ่มเรียนแล้ว..."

     พอเฟริสหันไปอาจารย์ก็เข้าคลาสพอดี สรุปผมก็ไม่ได้ทบทวนบทเรียน ผมมองหนังสือที่เปิดอยู่ด้วยความหงุดหงิด ทำไมวันนี้มันมีแต่เรื่องจังวะ!!

 

     แสงไฟหน้าบ้านที่เปิดสว่างทำให้ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงตอนนี้จะเย็นมากแล้วแต่ถ้าปาล์มอยู่บ้านคนเดียวไม่มีทางเปิดไฟหน้าบ้านแน่ๆ พอผมเดินมาถึงรั้วบ้านความสงสัยก็คลายทันที

     พ่อกลับบ้าน....

     ผมเดินเข้าบ้านตัวเองด้วยความเงียบ เวลานี้พ่อน่าจะอยู่ในห้องทำงานชั้นล่างนี่ละ ผมต้องรีบขึ้นห้องตัวเอง ไม่อยากจะเสวนากับคนๆ นั้นมากนักหรอก

     แอ๊ด!

     "ไม่คิดจะมาทักฉันเลยหรือไง"

     ขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดชะงักทันที ผมหันไปมองตามเสียงก็เห็นพ่อยืนหน้านิ่งมองผมมาจากประตูห้องทำงาน

     "พ่อ สวัสดีครับ" ผมหันไปสวัสดีท่านด้วยท่าทางนิ่งๆ

     "เข้ามานี้ ฉันมีอะไรจะคุยกับแก" พ่อพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องพร้อมเปิดประตูทิ้งไว้

     "เฮ้อ..." ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานท่านแล้วปิดประตู

     "วันนี้มีคนติดต่อมาหาฉันว่าแกไปต่อยลูกเขาฟันล่วง"

     พอเข้ามาในห้องพ่อก็พูดเข้าประเด็นทันที ผมมองคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อที่ก้มเซ็นเอกสารโดยไม่มองหน้าผม ขนาดเรียกมาคุยยังไม่อยากจะมองหน้าเราเลย หึหึ

     "ผมแค่ป้องกันตัว"

     "ป้องกันยังไงถึงกับทำให้ลูกเขาฟันล่วง" พ่อพูดเสียงเข้มขึ้นอีกนิดแต่ก็ยังก้มหน้าเซ็นเอกสารอยู่

     "พวกเขามาหาเรื่องผมและต่อยผมก่อน ผมก็แค่เอาคืน"

     "แต่ไม่ต้องถึงกับทำให้ฟันล่วงขนาดนั้นก็ได้นิ ฉันส่งให้แกไปเรียนศิลปะป้องกันตัวเพื่อดูแลตัวเองนะ ไม่ใช่เอาไปเป็นนักเลง!!!"

     ผมกำหมัดแน่นกัดฟันกรอดตอนนี้ทั้งรู้สึกเสียใจ น้อยใจ โมโห ทั้งๆ ที่ผมไม่ผิดทำไมผมถึงต้องโดนว่า? แล้วการที่ผมถูกทำร้ายร่างกายแล้วเอาคืนมันก็คือการป้องกันตัวไม่ใช่หรือไง

     "ขอโทษครับ" ผมพูดขอโทษพร้อมพยายามคุ้มเสียงไม่ให้สั่น

     "เฮ้อ...ชิโระ ฉันละเหนื่อยกับแกจริงๆ..." เหนื่อยอะไร?

     "...ทำไมแกถึงชอบสร้างปัญหาให้ฉันนัก?" ผมสร้างตอนไหน? ครั้งนี้ครั้งแรกด้วยซ้ำ

     "ฉันก็ให้แกทุกอย่างไม่ให้น้อยหน้าใคร ที่แกเป็นแบบนี้เพราะแม่แกสินะ..."

     ผมชะงักกึกเมื่อจู่ๆ เขาก็พูดถึงแม่ของผม ผมเงยหน้ามองเขาก็เห็นเขามองผมอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อเขาเห็นผมเงยหน้าก็หันหน้าหนี

     "ฉันคิดผิดจริงๆ ที่ปล่อยให้แม่แกดูแลแกตอนฉันไม่อยู่ แกถึงกลายเป็นเด็กแบบนี้"

     'ชิโระ ลูกต้องรักคุณพ่อให้มากๆ นะจ๊ะ'

     "เพราะผู้หญิงคนนั้นชีวิตฉันถึงได้ยุ่งเหยิง"

     'แม่รักพ่อกับลูกมากนะ ทั้งสองคนเป็นของขวัญของแม่เลยรู้มั้ย'

     "แล้วยังมาสอนแกให้กลายเป็นแบบนี้อีก"

     'ชิโระแสดงถึงความบริสุธิ์ ลูกต้องเป็นเด็กดีและบริสุทธิ์ เชื่อฟังคุณพ่อมากๆ นะจ๊ะ'

     "ฉันละเกลียดผู้หญิงคนนั้นจริงๆ"

     สิ้นเสียงที่พูดด่าทอแม่จบ น้ำใสๆ ที่ผมกลั้นไว้ก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผมก้มหน้ากลั้นเสียงสะอื้นและพยายามไม่ให้ตัวเองสั่น

     เขาพูดออกมาได้ยังไง เขาพูดว่าร้ายแม่ออกมาได้ยังไง เขาเคยเห็นแม่เป็นคนรักบ้างมั้ย แล้วผมละ เขาเห็นผมเป็นลูกหรือป่าว ตอนนี้ผมสับสนไปหมดแล้ว

     "จบเทอมนี้แกย้ายโรงเรียนซะ ฉันไม่อยากให้ใครมานินทาว่าลูกเป็นอัธพาล"

     "คะ...ครับ"

     "หมดธุระแล้ว ออกไปฉันจะทำงาน"

     ผมเดินก้มหน้าออกจากห้องทำงานของ 'คนๆ นั้น' เงียบๆ แล้วเดินเหมือนคนไร้วิญญาณขึ้นห้องไป

     "ฮึกๆๆๆ ฮือออออออ"

     พอเข้ามาในห้องผมก็ล้มตัวลงบนที่นอนแล้วร้องไห้ใส่หมอนอย่างคนจะขาดใจ ตอนนี้ผมอยากกอดแม่ ทำไมแม่ไม่เอาผมไปอยู่ด้วย ที่นี้มันไม่ใช่ที่ของผม ผมต้องการอยู่กับแม่ ผมอยากถามแม่อีกมากมาย ทำไมการเป็นเด็กดีถึงยากขนาดนี้ แล้วผมต้องเป็นเด็กดีไปถึงเมื่อไหร่ แม่ครับ ผมไม่ไหวแล้ว ช่วยมารับผมด้วยนะครับแม่

     ผมคิดถึงแม่เหลือเกิน....

 

 

 

•———————————————————————————————————•

 

ยังยืนยันคำเดิมนะคะว่าเรื่องนี้ใสๆ ไม่ดราม่า ฮ่าๆ

เป็นการลงนิยายที่อึนๆมากค่ะ นี่กะลงบทนำก่อนค่อยลงตอนที่หนึ่งสายๆ

แต่เว็บบังคับลงตอนที่หนึ่งด้วยซะงั้น -.-

ชั่งมัน ถ้างั้นก็ลงไปเลย เดี๋ยวสายๆลงตอนที่สองแทนแล้วกัน

งั้นก็ขอฝากตัวฝากใจฝากลูกชายเป็นทางการอีกรอบนะคะ

1 เม้นต์ = ร้อยล้านกำลังใจ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา